แชร์

เจ้าสาวมังกร
เจ้าสาวมังกร
ผู้แต่ง: ซินเหมย / ณศิกมล

1

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-02 18:11:52

แนะนำตัวละคร

สุวิมล (ซูวี่)    หุ้นส่วนสถาบันสอนทำอาหารและเครื่องดื่มขนาดเล็กๆ ถ้าเรื่องอาหารต้องยกนิ้วให้เธอ

เฟ่ยต้าเสิน    รัชทายาทของลั่วอาน ชอบแสดงออกอย่างหยิ่งทระนง เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ แต่ส่วนลึกของจิตใจนั้นเป็นคนมีความเมตตา ซ่อนความฉลาดปราดเปรื่องเอาไว้เต็มเปี่ยม น้อยคนนักที่จะเข้ามาอยู่ในจิตใจของเขาได้

เถียนเถียน    นิสัยอ่อนโยนแต่แฝงความทะเยอะทะยาน เป็นนางกำนัลชั้นสูงในตำหนักขององค์รัชทายาท

ลี่ชุน    ลูกจ้างก้นครัวของร้านอาหารไหมทอง แม้จะยากจนแต่ก็เป็นคนจิตใจดี เมื่อรู้ว่าซูวี่ตกยากก็ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

เสี่ยวหมาน    พ่อครัวที่มีนิสัยหยิ่งผยองของร้านอาหารไหมทอง ไม่ค่อยชอบซูวี่ตั้งแต่แรกพบ จึงมักหาเรื่องแกล้งอยู่บ่อยๆ

อวี่กง    ขันทีและเพื่อนสนิทของรัชทายาท ติดตามรับใช้ใกล้ชิด แค่มองตาก็รู้ใจ

ตู้จี้เฟิง    องครักษ์และเพื่อนสนิทของรัชทายาท เคร่งขรึม ทระนงองอาจ นางกำนัลน้อยใหญ่ต่างก็ลุ่มหลง

ชุยหัง    หลงจู๊ที่เป็นมากกว่าหลงจู๊ของร้านอาหารไหมทอง

ร้านอาหารไหมทอง

   สามเดือนแล้วที่สุวิมลต้องติดอยู่ในยุคจีนโบราณ ที่ย้อนยุคกลับมาประมาณสี่ร้อยปีโดยที่ไม่รู้ว่าเข้ามาอยู่ได้อย่างไร และไม่รู้ว่าพี่น้องอีกสี่คนจะเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่ก็หวังว่าพวกนั้นจะไม่โชคร้ายเหมือนเธอ 

หรือ..หรือถ้าโชคร้ายเหมือนกัน เธอก็หวังว่าจะมีโอกาสได้มาเจอหน้ากันในวันหนึ่ง

   “ซูวี่!.. ซูวี่!”

   “ได้ยินแล้ว ทำไมต้องตะโกนเสียงลั่นทุ่งขนาดนั้นด้วย” เธอโมโหคนเรียกที่ไม่รู้จักให้เกียรติกันบ้าง และไม่สนใจว่าเขาจะพอใจหรือไม่ที่ตะโกนเสียงดังสวนกลับไป เธอวางมือจากงานล้างจานที่ยังล้างไม่เสร็จแล้วเดินเข้าไปในครัว “มีอะไร” 

   “ข้าปวดแขน เจ้าไปทำอาหารตามรายการนี้หน่อย” พ่อครัวที่มีนิสัยหยิ่งทระนงพอ ๆ กับความขี้เกียจยื่นกระดาษที่เขียนรายการอาหารให้หญิงสาว

   “ทำไมข้าต้องทำด้วย มันไม่ใช่หน้าที่ของข้า อาเกอกับอาเล้งเป็นผู้ช่วยของเจ้า ทำไมไม่ใช้พวกเขาล่ะ”

   “ซูวี่ช่วยพวกเราหน่อยเถอะนะ ตอนนี้เราทำไม่ทันจริง ๆ ดูสิ” อาเกอหยิบรายการอาหารที่เขาต้องทำให้หญิงสาวดู

   “ของข้าก็ไม่น้อยไปกว่าอาเกอหรอก” เล้งใช้ปากชี้รายการอาหารของตัวเองที่หนีบเอาไว้ตรงหน้า “ช่วยพวกเราหน่อยนะซูวี่” เขารู้ว่าภายใต้ท่าทีที่ดูเหมือนร้ายของนางนั้นเต็มไปด้วยมิตรไมตรี นางจะร้ายกับคนที่ร้ายใส่อย่างเสี่ยวหมานเท่านั้น

   “ช่วยพวกเราหน่อยนะ ถ้าอาหารออกช้าแล้วลูกค้าไม่พอใจพวกเราซวยซ้ำซวยซ้อนแน่” อาเกอกระซิบกับหญิงสาว

   “ข้าทำแทนก็ได้นะ” หญิงสาวนางหนึ่งพูดขึ้นพร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

   “เจ้าไม่ต้องยุ่ง ข้าไม่ได้ใช้เจ้า” เสี่ยวหมานรีบปฏิเสธแล้วโยนกระบวยให้หญิงสาวอีกนางหนึ่ง ที่ไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่วันแรกที่นางมาทำงานที่นี่ แต่ก็ต้องรับนางเอาไว้เพราะดันแอบชอบหญิงสาวที่พานางมาฝากฝัง “รีบออกไปจากตรงนี้เลยลี่ชุน เดี๋ยวโดนน้ำมัน น้ำร้อนกระเด็นใส่แล้วจะหาว่าข้าไม่เตือน ยังไม่ไปอีก!” เขาตะคอกใส่เมื่อนางเอาแต่ยืนอาลัยอาวรณ์เพื่อนรักของนาง

   “ออกไปเตรียมของมาให้ข้าเถอะลี่ชุน” ซูวี่เห็นลี่ชุนผู้มีพระคุณโดนดุก็จำใจต้องทำตามคำสั่งของหัวหน้าพ่อครัวอย่างเลี่ยงไม่ได้

   “เจ้าทำได้แน่นะ” ลี่ชุนกระซิบถามอย่างห่วงใย

   “อือ” เธอไม่กลัวสักนิดที่ถูกแกล้งให้ทำอาหาร เพราะในยุคอนาคตจากนี้อีกสี่ร้อยปีที่เธอเคยอยู่ เธอเป็นถึงเจ้าของโรงเรียนสอนทำอาหารและเครื่องดื่ม และยังสอนทำอาหารผ่านโลกออนไลน์อีกด้วย

แม้อาหารในยุคนี้จะแปลกและเครื่องปรุงก็ไม่ได้มีให้เลือกมากมายเหมือนยุคของเธอ แต่พรสวรรค์ในการทำอาหารที่มีอยู่ แค่ชิม ๆ แตะ ๆ ก็สามารถปรุงออกมาได้รสชาติที่ดีได้ไม่ยาก

ที่สำคัญไปกว่านั้น ลี่ชุนเป็นคนที่ช่วยเธอเอาไว้.. 

หลังจากที่รู้สึกตัวที่ริมลำธารสายเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ก็พยายามเดินหลบหลีกสายตาผู้คนที่มองเธอเหมือนตัวประหลาดมาที่หลังร้านอาหารแห่งนี้ มายืนชะเง้อคอมองตามกลิ่นอาหารที่หอมกรุ่นด้วยความหิวโหยจนนางเห็นเข้า 

นางไม่ถามสักคำว่าเธอมาจากไหน ทำไมถึงแต่งตัวแปลกประหลาดกว่าคนอื่น แต่กลับช่วยเหลือด้วยการแอบเอาอาหารมาให้กินแก้หิว และพากลับบ้านที่อยู่ในตรอกแคบ ๆ ข้างร้านอาหารแห่งนี้ 

ดังนั้นเธอจะไม่ทำให้หญิงสาวต้องมาตกที่นั่งลำบากเพราะเธอเด็ดขาด

“มันไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อยที่เขาแกล้งข้าแบบนี้ ไปเตรียมของมาให้ข้าเถอะ”

“อือ”

“จะเป็นห่วงเป็นใยอะไรนางนัก ก็แค่ผัดผัก ไม่ได้ยากเสียหน่อย” เสี่ยวหมานบ่นอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นความห่วงใยของลี่ชุนที่มีต่อซูวี่

   บนถนนสายการค้าของเมืองหลวง

   “ท่านชาย”

   “จะบอกให้ข้ารีบกลับบ้านใช่ไหม”

   “ท่านก็รู้นี่”

   “ข้ายังไม่อยากกลับ ก็บอกแล้วไงว่าหิว ๆ ๆ”

   “ก็รีบกลับไปสะ..กินที่บ้านสิ” ชายหนุ่มรูปงาม ร่างผอมเพรียว เตี้ยกว่าอีกฝ่ายเกือบ ๆ ฉือกระซิบตอบ

   “ถ้าไม่อยากถูกข้าเล่นงานกลางตลาดก็ปิดปากให้สนิท” ชายหนุ่มรูปงาม ร่างสูงโปร่งแต่ไม่เพรียวบางเหมือนคนข้าง ๆ กระซิบขู่หน้าตึง

   “อย่างนั้นกินเสร็จแล้วรีบกลับนะท่านชาย”

   “คราวหน้าข้าจะไม่พาเจ้ามาด้วยแล้ว”

   “โธ่ท่านชาย”

   “หุบปากเจ้าซะ!” ตะคอกใส่คนใกล้ตัวเสียงดังจนคนที่เดินผ่านไปมาหันมอง 

   อวี่กงได้แต่ทอดถอนใจ ไม่กล้าปริปากพูดอะไรอีกแม้คำเดียว ขันทีอย่างเขาถึงจะเป็นเพื่อนสนิทขององค์รัชทายาทผู้นี้ แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือต้องยอมตลอด แม้สิ่งที่พระองค์ทำจะเป็นความผิดก็ตาม คิดแล้วก็น่าน้อยใจนักที่ไม่เคยเมินใส่พระองค์ได้สักที

   “อวี่กง”

   “พ่ะ.. ขอรับ” รีบกลับคำเมื่อเจอสายตาอาฆาต

   “ร้านไหมทองหรือร้านหมูทองดีล่ะ” เขาชี้ไปที่ร้านด้านขวามือแล้วค่อยชี้ไปที่ร้านด้านซ้ายมือ

   “แล้วแต่ท่าน”

   “ข้าตามใจเจ้า อยากกินร้านไหนเลือกมาได้เลย”

   นี่ไงแบบนี้ไง ตบหัวแล้วลูบหลังแบบนี้ตลอด แล้วใครจะไปโกรธได้ลงคอ

   “ร้านไหมทอง” คราวที่แล้วพระองค์เปรย ๆ กับเขาว่าอยากกินผัดผักบุ้งที่ร้านไหมทองเพราะรสชาติอร่อยถูกปากมาก จึงเลือกที่นี่เพื่อพระองค์

   “ใจเราตรงกันอีกแล้ว” รัชทายาทขยิบตาให้ขันทีคนสนิทแล้วเลี้ยวขวา เดินเข้าไปในร้านอาหารไหมทอง

   “นายท่าน ยินดีต้อนรับขอรับ” หลงจู๊ประจำร้านโค้งศีรษะทักทายลูกค้าอย่างยิ้มแย้ม “วันนี้นั่งชั้นบนหรือชั้นล่างดี”

   “เจ้าจำข้าได้ด้วยเหรอ ข้าเพิ่งมาที่ร้านเจ้าแค่สองครั้งเองนะ” 

   “จำได้สิขอรับ ครั้งแรกท่านเลือกนั่งที่ชั้นล่างทางด้านนั้น ครั้งที่สองท่านต้องการความเป็นส่วนตัวจึงเลือกนั่งที่ชั้นบน” ทำไมเขาจะจำไม่ได้เล่า ในเมื่อพวกเขารูปงามเปล่งประกายแบบคนชั้นสูงมาก ๆ เพียงแค่เดินเข้ามาในร้านก็พาให้คนอื่นดูมัวหมองในทันที โดยเฉพาะบุรุษที่รูปร่างสูงโปร่งกว่า

   “น่าประทับใจนัก วันนี้คนยังเต็มร้านเหมือนเดิมนะ ข้าไม่ค่อยชอบความวุ่นวาย ขอนั่งชั้นบนก็แล้วกัน” 

   “ได้ขอรับ อาเว่ย พาท่านชายทั้งสองขึ้นไปที่ชั้นบน” หลงจู๊ตอบรับและสั่งการอย่างรวดเร็ว

   “ทางนี้ขอรับนายท่าน” อาเว่ยพาบุรุษรูปงามทั้งสองขึ้นไปยังชั้นบนและให้พวกเขาเลือกนั่งตามใจชอบ ซึ่งก็มีที่ว่างอยู่ไม่มากนัก

   “ท่านชายจะสั่งอาหารเลยไหมขอรับ หรือจะรับสุราก่อนดี”

   “วันนี้ข้าไม่อยากดื่มสุรา ขอสั่งอาหารเลยก็แล้วกัน เจ้าสั่ง” องค์รัชทายาทรูปงามผลักภาระให้ขันทีผู้ติดตาม

   “ผัดผักบุ้ง ถั่วคั่วเกลือ ต้มหวานปลาตะเพียน ข้าวต้มงาดำสองถ้วย” อวี่กงสั่งอาหารอย่างรวดเร็ว เลือกแต่สิ่งที่รัชทายาทเคยพูดว่าถูกปาก

   “ขอรับ” อาเว่ยจดรายการอาหารลงในกระดาษแล้วโค้งศีรษะปิดท้ายก่อนจะเดินลงไปยังชั้นล่าง

   หลังจากนั้นไม่นานก็กลับขึ้นมาพร้อมถาดบรรจุอาหาร บรรจงวางทุกอย่างลงบนโต๊ะอย่างสุภาพ

   “เชิญกินให้อร่อยนะขอรับ” แล้วโค้งศีรษะกล่าวลา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เจ้าสาวมังกร   61

    ห้องทำงานต้าเสินมองคนรักที่ยกถาดอาหารเข้ามากลางดึกด้วยสายตามึนตึง“เพิ่งกลับมาถึงไม่ทันไรก็รีบวิ่งเข้าครัวแล้ว เจ้านี่รักอาหารมากกว่าข้าอีกนะซูวี่”คนถูกต่อว่ายิ้มกว้าง วางถาดอาหารลงบนโต๊ะแล้วเดินไปหาคนรักที่นั่งเขียนอะไรอยู่ กอดคอและหอมแก้มเขาหนึ่งทีอย่างเอาใจ“ข้ารักท่านมากกว่าอาหารนะเจ้าคะ ถึงได้รีบเข้าครัวไปเตรียมอาหารรอบดึกให้ท่านด้วยตัวเอง เพราะหลายวันมานี้ข้าเห็นท่านกินได้น้อย ร่างกายก็ดูซูบลง” เห็นเขาอมยิ้มก็รีบหยอดคำอ้อนอ่อนหวานรอยยิ้มบางเบาค่อย ๆ คลี่กว้างขึ้นจนสุดฝีปาก ดึงร่างระหงที่สวมกอดอยู่ด้านหลังให้มานั่งบนตัก หอมแก้มหลายทีด้วยกัน“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าซูบเพราะกินได้น้อย”“ก็ข้าเห็น”“ข้าก็กินได้เป็นปกติของข้านั่นแหละ อยู่กับเจ้านี่แหละที่ข้ากินมากเกินไป”“แต่ท่านผอมลงจริง ๆ นะ ข้า..ข้ากอดอยู่ทุกคืนข้ารู้สึกได้” เธอตอบอย่างขัดเขินแต่ก็กล้าสู้สายตาด้วย“หึ..” ต้าเสินส่งสายตาหยอกเย้า “ที่ข้าผอมเพราะข้ากินเจ้

  • เจ้าสาวมังกร   60

    “หรือเจ้าจะให้ข้ากลับไปกับจี้เฟิงก่อนล่ะ แล้วเจ้าค่อยตามกลับไปพร้อมกับซูวี่ทีหลัง”เจอคำถามนี้เข้าไปอวี่กงถึงกับพูดไม่ออก นึกโมโหใส่คนตัวใหญ่ที่ยืนนิ่งเหมือนกลายเป็นรูปปั้นหินไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขา มันก็คงไม่อึดอัดแบบนี้ตู้จี้เฟิงสบตาสู้กับสายตาเอาเรื่องที่เจตนามองมาที่ตนเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องในคืนนั้น คิ้วเข้มข้างขวาค่อย ๆ เลิกสูงขึ้น“ถ้าเจ้าไม่อยากไป ข้าไปคนเดียวก็ได้”“พูดแบบนี้อยากจะเอาหน้าคนเดียวเหรอ!”“ก็เจ้าไม่อยากไปเอง”“ไม่ต้องมาพูดให้ดูดีเลยนะ!”“อวี่กง”“พ่ะย่ะ..ขอรับท่านชาย”“จี้เฟิงเขาทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจหรือเปล่า” เขาสังหรณ์ใจว่าระหว่างสองคนนี้ต้องมีปัญหาอะไรกันแน่ ๆ แม้ปกติจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอด แต่เขาก็ไม่เคยมีอาการแบบนี้ให้เห็น“ปะ ๆ เปล่านี่ท่านชาย ทำ ๆ ไมถึงถามอย่างนั้นล่ะขอรับ” บุรุษร่างเล็กกว่าใครเพื่อนไม่กล้าสู้สายตาหลักแหลมของผู้เป็นนาย“ถ้าจี้เฟิงแกล้งเจ้า

  • เจ้าสาวมังกร   59

    “หวังว่าข้าจะไม่ได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของท่านอีก.. ส่วนเจ้า” ฮองเฮาหันไปทางหลานสาว มองนางด้วยสายตาจริงจัง “ข้าก็จะบอกเจ้าด้วยความหวังดีเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกัน เจ้าคิดว่าฝ่าบาทปล่อยให้องค์รัชทายาทไปอยู่นอกวังนานหลายเดือน จะไม่ส่งคนไปสืบดูเลยอย่างนั้นเหรอ”“ฝ่าบาททรงทราบเหรอเพคะ”“ใช่ ฝ่าบาททรงรู้เรื่องนี้ดี แต่พระองค์ก็ไม่ว่าอะไร ขอแค่นางเป็นคนที่องค์รัชทายาทรัก พระองค์ก็จะยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข ด้วยเหตุนี้ข้าจึงบอกให้เจ้าออกมาจากตำหนักนั้นซะ เพราะฝ่าบาทมีคำสั่งให้องค์รัชทายาทกลับมาพร้อมกับคนรักของพระองค์แล้ว เข้าใจที่ข้าพูดไหม”“เพคะฮองเฮา” เถียนเถียนยอมรับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ไม่ได้เสียใจ แต่อับอายจนไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร นางพยายามดิ้นรนหาทางที่จะได้เป็นองค์หญิงรัชทายาท แต่ทุกคนกลับไม่ช่วยเพราะรู้เรื่องของสตรีต่างแคว้นผู้นั้นดี แบบนี้นางก็คงไม่ต่างกับตัวตลกในคณะละครเร่คฤหาสน์ชิวเทียน“อวี่กง”เสียงเรียกคุ้นหูทำให้คนที่ถูกเรียกไม่ได้หันไปมอง แต่รีบสาว

  • เจ้าสาวมังกร   58

    “ออกมาจากที่นั่นเถอะเถียนเถียน คนอย่างองค์รัชทายาทไม่ใช่คนที่ข้าสามารถต่อกรได้ด้วยหรอกนะ เพราะแม้แต่ฝ่าบาทยังไม่กล้ายุ่งเรื่องส่วนตัวของพระองค์”“ถ้าเราเอาความมั่นคงของบัลลังก์มาอ้าง บางทีพระองค์”“อย่าพูดคำนั้นในตำหนักของข้านะใต้เท้ากวง” ฮองเฮารีบปรามก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ แม้นางจะเป็นพี่น้องกับเขา แต่ตอนนี้คนที่สำคัญกับนางที่สุดก็คือฮ่องเต้ และองค์รัชทายาทก็คือพระโอรสเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องปกป้อง“พระองค์เปลี่ยนไปมากนะพ่ะย่ะค่ะ ถ้าท่านพ่อรู้”“เลิกเอาท่านพ่อมาอ้างสักทีเถอะใต้เท้า” พระนางขึ้นเสียงใส่พี่ชายที่เคยเดียดฉันท์นาง “ข้าจะบอกอะไรให้นะ เผื่อบางทีท่านอาจจะลืมไปแล้ว ไม่ว่าท่านพ่อจะมีอำนาจมากเพียงใด เราก็คานอำนาจของตระกูลหรงไม่ได้หรอก เห็นเขานิ่ง ๆ อย่าคิดว่าเขาหมดเขี้ยวเล็บ เขาก็แค่รักความสงบเท่านั้น แต่ถ้าเราไปสะกิดโดนแผลเขาเมื่อไหร่ คนที่เดือดร้อนไม่ใช่พวกเขาแน่ ดังนั้นอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ รักษาชีวิตเอาไว้ดูหน้าหลานจะดีกว่า”&ldqu

  • เจ้าสาวมังกร   57

    ตู้จี้เฟิงฝากรอยรักไว้ตามเนื้อตัวนุ่มนิ่มหอมกรุ่นจนพอใจแล้วจึงผละออก มองหน้าแดงซ่านที่มีมือปิดปากเอาไว้.. วันนี้เขาจะทำแค่นี้ก่อน แต่ครั้งหน้าเขาไม่ยอมจบเพียงแค่นี้แน่“ใส่เสื้อผ้าซะ” เขาหันหลังให้เมื่อพูดจบ แต่เห็นอีกฝ่ายยังนอนนิ่งไม่ขยับจึงเหลียวไปมอง “อยากให้ข้าทำต่อใช่ไหม”“ไม่!” อวี่กงตวาดใส่ใบหน้าแดงก่ำ รีบลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้ามาสวมมือไม้สั่น ใช่ว่าเขากับเพื่อนจะไม่เคยแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันมาก่อน แม้กับองค์รัชทายาทก็เคยแก้ผ้าเล่นน้ำด้วยกันมาแล้วแต่ทำไมความรู้สึกครั้งนี้มันถึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำไมเขาต้องอับอายจนใจสะท้าน ไม่กล้าแม้แต่จะด่าทอหรือทำตัวให้เป็นปกติ“ข้าจะไปเตรียมม้า แต่งตัวเสร็จแล้วรีบตามลงไปล่ะ”“ฟ้ายังไม่สางเลย ทำไมถึงรีบนัก” อวี่กงถามเมื่อหันไปมองที่หน้าต่าง“อีกครึ่งชั่วยามฟ้าก็แจ้งแล้ว นอนต่อก็คงไม่หลับ เดินทางเลยดีกว่า” จี้เฟิงตอบคำถามของเพื่อนแล้วเปิดประตูเดินออกไปขืนยังอยู่ในห้องต่อ เขาคงทนไม่ไหวแน่ตำหนักฮองเฮา

  • เจ้าสาวมังกร   56

    ตู้จี้เฟิงมองเพื่อนรักที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด คีบอาหารใส่ปากอย่างต่อเนื่อง เหมือนกำลังเคี้ยวเสี่ยวเอ้อร์ตัวแสบอยู่ก็ไม่ปาน“หยุดนะ!”องครักษ์หนุ่มมองตามจอกเหล้าที่ถูกแย่งไปจากมือ แล้วค่อยมองหน้าตาบูดบึ้งของเพื่อน“หือ” เขาเลิกคิ้วถามหน้ามึน เพราะไม่รู้ว่าทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจอีก“กินข้าวบ้างเถอะ”“ก็กินเหล้าแล้วไง”“เจ้าบ้า! ดีแต่สอนข้าแต่ไม่เคยสอนตัวเอง”“เจ้าโมโหเพราะข้าไม่ยอมกินข้าวเหรอ”“เปล่า ข้าโมโหเพราะเจ้าจะดื่มเหล้าจอกสุดท้ายของข้าต่างหาก” พูดจบเขาก็ดื่มเหล้าในจอกจนหมดตู้จี้เฟิงนิ่งอึ้งไร้คำพูดเพราะพูดไม่ทัน เหล้าที่เขาดื่มนั้นรสชาติแรงมาก เหมาะสำหรับชาวยุทธ์ที่ร่างกายแข็งแรงมากกว่า คนที่ไม่เคยฝึกยุทธ์ดื่มไปแค่ครึ่งจอกก็อาจจะเมาแล้วได้แต่มองหน้าคนที่ส่งยิ้มเหมือนเยาะมาให้...อวี่กงสะบัดศีรษะไปมาแรง ๆ เมื่อภาพใบหน้าของสหายรักร่างใหญ่เริ่มดูเบลอ เขาค่อย ๆ ยกมือที่หนักอึ้งไปหาใบหน้าคมคายคล้ำแดดองครักษ์หนุ่มคว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status