"เมื่อดีไซเนอร์สาวต้องมาศึกษางานที่ค่ายมวย แต่กลับถูกเจ้าของค่ายล็อกหัวใจไว้เต็มหมัด!"
"ฉันแค่มาออกแบบชุดกีฬา ไม่ได้จะมาต่อยกับใครนะ!"
"แต่ถ้าคุณอยากออกแบบให้ดี คุณต้องเข้าใจมันจริง ๆ ลองซ้อมดูหน่อยไหม?"น้ำฟ้า ดีไซเนอร์สาวสุดมั่น ที่รักแฟชั่นแต่ไม่รักเหงื่อ ต้องยอมทนร้อน ทนกล้าม (และทนใจตัวเอง) เพื่อศึกษาการออกแบบชุดมวยไทยในค่ายของ ธารา เจ้าของค่ายมวยสุดหล่อ ใจเย็น และอบอุ่น
เธอคิดว่าแค่แวะมาดูงาน แล้วก็กลับไปออกแบบสวย ๆ ในห้องแอร์
แต่ทำไมเขาถึงพยายามลากเธอไปเรียนรู้ "ของจริง" อยู่เรื่อยเลยนะ?เมื่อดีไซเนอร์ตัวเล็กต้องมาอยู่ท่ามกลางเวทีมวยสุดโหด
แล้วจะรอดพ้นจากแรงหมัด... และแรงใจกระแทกได้หรือไม่!?เสียงหมัดกระแทกเป้าซ้อมดังเป็นจังหวะ ผู้ชายตัวโตเหงื่อท่วมร่างกำลังออกแรงซ้อมกันอย่างหนัก ท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนอบอ้าว และกลิ่นเหงื่อที่อบอวล
"ที่นี่เหรอ... ค่ายมวยพยัคฆ์ทอง?"
หญิงสาวร่างบางตัวเล็ก ก้มมองรองเท้าส้นสูงของตัวเองแล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้ บ้าจริง... เธอไม่น่าคิดว่าการมาดูงานที่นี่มันจะ "สบายๆ" เหมือนเดินแฟชั่นโชว์เลย!
น้ำฟ้า ดีไซเนอร์ผู้หลงใหลในแฟชั่น ไม่ใช่คนที่ชอบกีฬา และแน่นอน—เธอไม่ใช่คนที่ชอบ "ออกกำลังกาย" ด้วย!
แต่เพราะโปรเจกต์ใหม่ของบริษัทที่ต้องออกแบบชุดกีฬา น้ำฟ้าจึงไม่มีทางเลือก ต้องมาลุยภารกิจในสถานที่ที่เธอไม่เคยคิดจะมาเหยียบมาก่อน
เธอเงยหน้าขึ้น มองเห็นชายหนุ่มในชุดมวยไทยสีดำ กำลังคุยกับนักมวยคนหนึ่ง แม้ใบหน้าจะดูสุขุมแต่แววตานั้นเต็มไปด้วยความจริงจัง
เขาหล่อ... มาก
และที่สำคัญ—เขาคือ "ธารา" เจ้าของค่ายมวยแห่งนี้
"ขอโทษนะคะ คุณธาราใช่ไหม?"
เขาหันมาสบตาเธอ รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก
"ครับ คุณคือ?"
"น้ำฟ้า ดีไซเนอร์จากบริษัท A-Sport Wear ฉันมาดูงานที่นี่ค่ะ"
"อ๋อ…" ธาราพยักหน้า "แล้วคุณแน่ใจนะครับว่าจะไหว?"
เธอขมวดคิ้ว "ทำไมจะไม่ไหว?"
"คุณดู... ไม่ใช่สายกีฬาเลย"
น้ำฟ้าหรี่ตา—นี่เขากำลังดูถูกเธอเหรอ!?
"ฉันอาจจะไม่ชอบออกกำลังกาย แต่เรื่องงาน ฉันเต็มที่แน่นอนค่ะ!"
ธาราหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็น "งั้น... ยินดีต้อนรับสู่ค่ายมวยครับ"
แต่เธอไม่รู้เลยว่า การมา "ศึกษาดูงาน" ครั้งนี้ จะทำให้เธอไม่ได้แค่เข้าใจมวยไทย แต่ยังได้เจอ "ศึกหัวใจ" ที่หนักกว่าหมัดของนักมวยซะอีก!
เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหลัง ทำให้น้ำฟ้าชะงัก หันไปมองธาราที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ สายตาของเขามีแววบางอย่างที่อ่านไม่ออก"พูดเรื่องอะไรคะ?" เธอถามกลับ รู้ดีว่าเขาน่าจะได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วธาราไม่ตอบ แต่กลับเดินเข้ามาใกล้จนเธอต้องเงยหน้าขึ้นมอง"เธอรู้ไหมว่าเด็กในค่ายเชียร์เธอกันขนาดไหน?" เขาพูดเสียงต่ำ จ้องเธอราวกับจะจับผิดน้ำฟ้ายักไหล่ "พวกเขาไม่ชอบโมนาของคุณไงคะ"ธาราหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาแตะปลายคางเธออย่างถือสิทธิ์ "แล้วเธอล่ะ?""อะไรคะ?""หงุดหงิดที่ผู้หญิงคนนั้นมายุ่งกับฉันเหรอ?"น้ำฟ้าชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบือนหน้าหนี "เปล่าค่ะ ฉันแค่รำคาญ"ธารายิ้มมุมปาก เขารู้จักผู้หญิงตรงหน้าดีกว่าที่เธอคิด"งั้นเหรอ?" เขาโน้มหน้าเข้าใกล้เธอมากขึ้น เสียงของเขาแผ่วต่ำจนน้ำฟ้ารู้สึกเหมือนมันสะกิดเข้าไปในหัวใจ"ไม่หึงเลย?"น้ำฟ้ากำมือแน่น พยายามคุมสีหน้าให้เป็นปกติ "คุณไม่ใช่ของฉัน ฉันไม่มีสิทธิ์หึงหรอกค่ะ"ธาราหัวเราะในลำคอ ก่อนจะกระซิบใกล้หูเธอ "งั้นคืนนี้ฉันจะทำให้เธอรู้เองว่าเธอมีสิทธิ์แค่ไหน"หัวใจของน้ำฟ้าเต้นกระหน่ำทันที แต่เธอก็ยังคงเชิดหน้าไม่ยอมแพ้"มั่นใจเกินไปแล้วค่ะ""ลองด
ธารายืนมองเธอที่กอดอกแน่น สายตาแข็งกร้าวราวกับปิดกั้นทุกความรู้สึกที่เขาพยายามค้นหา"สองวันนี้เป็นวันหยุดของฉัน ฉันแค่กลับมาจัดการธุระ งานฉันยังไม่เสร็จ อีกอย่าง..." น้ำฟ้าสูดหายใจเข้า ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "คุณยังไม่ตกลงเรื่องชุดที่ฉันเสนอ"ธารายังคงนิ่ง จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอที่ดูจะตั้งใจพูดให้ชัดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่มีผลอะไรกับงาน"เรื่องแค่นี้ ฉันไม่เอามาทำให้เสียงานหรอกนะ"คำพูดนั้นทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างประหลาดเธอคิดว่าเรื่องระหว่างพวกเขาเป็นแค่ "เรื่องเล็กๆ" งั้นเหรอ?ธาราหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ขึ้น น้ำฟ้าถอยหลังไปเพียงก้าวเดียว ก่อนจะหยุด ราวกับไม่อยากแสดงให้เห็นว่าเธอหวั่นไหว"งั้นเหรอ?" เขาถามเสียงต่ำ ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้เธอ"ใช่ค่ะ" น้ำฟ้ายืนยัน ดวงตาไหววูบไปวินาทีหนึ่ง แต่เธอยังคงเชิดหน้าขึ้นธาราเลื่อนมือไปแตะปลายคางเธอเบาๆ สัมผัสนั้นทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี"ถ้างั้น..." เขาหรี่ตาลง "ฉันควรถือว่าเธอไม่ได้หนีฉันใช่ไหม?"น้ำฟ้ากำมือแน่น ก่อนจะตวัดสายตามองเขา "ฉันไม่ได้หนี ฉันแค่กลับมาอยู่ในที่ของฉัน"ธารายิ้มมุ
น้ำฟ้ายืนนิ่งอยู่หน้าประตู มือที่ถือแฟ้มเริ่มกำแน่นขึ้น เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไร—หรือจริงๆ แล้วเธอรู้… แต่เธอแค่ไม่อยากยอมรับมันธาราไม่ได้ดึงมือกลับ ไม่ได้ผละออกจากโมนาทันที นั่นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจของเธอกระตุกแรงที่สุดเธอสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะก้าวเข้าไปวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะเบาๆ"นี่ค่ะ ตัวอย่างงาน ฉันเอามาให้คุณตรวจสอบ" น้ำเสียงของเธอราบเรียบจนน่าตกใจธาราหันขวับมาทันทีเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าเธออยู่ที่นี่ ดวงตาของเขามีแววผิดแปลกไปเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร น้ำฟ้าก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน"ถ้ายังไงฉันขอตัวก่อนนะคะ"เธอไม่แม้แต่จะรอให้เขาตอบกลับ เดินออกไปโดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย…เพราะเธอกลัวว่าถ้ามอง เธออาจจะไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้อีกต่อไปน้ำฟ้าขับรถ กลับไปคอนโดเธอช่วงดึกคืนนั้น โดยเอารถที่เขาให้เธอไว้ใช้ไป แค่ไปสงบสติตัวเอง ระยะทางเกือบเจ็ดสิบกิโล (บนถนน – เวลาห้าทุ่มกว่า)เสียงเครื่องยนต์ดังแผ่วเบา ขับเคลื่อนไปตามถนนที่ทอดยาวไร้รถสวน น้ำฟ้านั่งหลังพวงมาลัย สายตาจดจ่ออยู่กับเส้นทางข้างหน้า แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยภาพเหตุกา
ปลายนิ้วร้อนลากไล้ผ่านแนวกรอบหน้าลงมายังลำคอ น้ำฟ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสแผ่วเบานั้นไล่ต่ำลงไปถึงแผ่นหลังเปลือยที่โชว์ผ่านลูกไม้บางบอดี้สูทสีดำที่เธอใส่ เป็นเหมือนคำท้าทายสำหรับเขาน้ำฟ้าเม้มปาก พยายามเก็บเสียงหายใจที่เริ่มติดขัด“คุณ... เดี๋ยว...”แต่ยังไม่ทันพูดจบ เขาก็โน้มหน้าเข้ามาใกล้ ริมฝีปากร้อนแตะลงที่ซอกคอ ไล้ไปตามผิวเนียนที่เขาอดใจไม่แตะต้องมาทั้งคืนน้ำฟ้าหลับตาแน่น ฝ่ามืออุ่นสอดเข้าที่ช่วงเอว ลูบไล้ผ่านเนื้อผ้า ราวกับต้องการให้แน่ใจว่าสิ่งที่อยู่ใต้ชุดนั้นจะเป็นของเขาเพียงคนเดียวเธอรู้ดีว่าเขากำลังพยายามอดทน แต่สัมผัสที่ร้อนจัดและลมหายใจที่แผ่วกระทบผิวบอกชัดว่า... ความอดทนนั้นคงเหลือไม่มากแล้วค่ำคืนนี้... คงไม่มีใครได้นอนง่าย ๆ แสงแดดยามบ่ายส่องลงมาเต็มที่ อากาศร้อนอบอ้าวจนทำให้พื้นปูนหน้าค่ายมวยแผ่ไอร้อน แต่สิ่งที่ร้อนยิ่งกว่านั้นคือสายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังประตูบ้านพักของธาราเมื่อคืนนี้ไม่มีใครเห็นน้ำฟ้ากลับเข้าห้องของตัวเอง และจนถึงตอนนี้... บ่ายแล้ว คนทั้งค่ายก็ยังไม่เห็นเธอออกมาจนกระทั่งเสียงประตูเปิดออกทุกสายตาหันขวับไปทางเดียวกันน้ำฟ้าเดินนำออกมาก
หลังจากคืนนั้น ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติ น้ำฟ้ายังคงทำหน้าที่ของเธอ ศึกษาการออกแบบชุดกีฬาตามที่ได้รับมอบหมายจากภูวิน ส่วนธาราก็ยังคงเป็นเจ้าของค่ายมวยที่จริงจังกับงานของตัวเองไม่มีใครพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ไม่มีคำว่ารัก ไม่มีคำสัญญา ทุกอย่างเป็นไปอย่างเงียบงันที่ทั้งสองต่างก็ยินยอมรับมันโดยไม่ต้องเอ่ยปากแต่กระนั้น… ก็ไม่เคยมีครั้งเดียวทุกครั้งที่สายตาสบกัน ทุกครั้งที่มือสัมผัสกันโดยบังเอิญ มีบางอย่างซ่อนอยู่ภายใต้ความเงียบงันนั้น บางครั้งระหว่างที่น้ำฟ้ายืนร่างแบบเงียบๆ ธาราก็จะเดินเข้ามาใกล้ มองเธอด้วยสายตาที่เธอรู้ดีว่าหมายถึงอะไรบางคืน หลังจากที่ทั้งสองต่างแยกย้ายกันไปทำงานมาทั้งวัน น้ำฟ้าก็จะพบว่าตัวเองถูกตรึงอยู่กับผนังห้อง ซุกอยู่ในอ้อมแขนของธารา ลมหายใจร้อนกระซิบอยู่ข้างใบหู ริมฝีปากคุ้นเคยแนบลงมาโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความและเมื่อความต้องการถูกเติมเต็ม เขาก็จะถอยออกไปอย่างเงียบๆไม่มีการถามหาความหมาย ไม่มีข้อผูกมัด มีเพียงแรงดึงดูดที่รุนแรงเกินกว่าที่ทั้งคู่จะต้านทานได้กลางวันพวกเขาคือคนรู้จักที่ร่วมงานกัน กลางคืนพวกเขาคือสิ่งที่ไม่มีชื่อเรียก...น้ำฟ้ารู้ด
ธารากำหมัดแน่นแนบข้างตัว พยายามสะกดอารมณ์ที่เริ่มปั่นป่วนเพราะท่าทีของเธอ หญิงสาวไม่ได้รู้ตัวเลยว่าการยืนอยู่ตรงหน้าเขาในชุดนี้ ทำให้เขารู้สึกอยากฉีกทึ้งการควบคุมตัวเองแค่ไหน"กลับขึ้นไปเปลี่ยนชุดซะ" เขาสั่งเสียงแข็ง พยายามทำให้ตัวเองดูดุเข้าไว้แต่แทนที่น้ำฟ้าจะเชื่อฟัง เธอกลับหัวเราะเบาๆ พลางเอนตัวพิงตู้เย็น "ฉันใส่ชุดนอนของฉันในที่ของฉัน ฉันไม่เห็นว่ามันจะผิดตรงไหน"ธาราขบกรามแน่น จ้องเธออย่างไม่พอใจ "มันผิดตรงที่เธอทำให้ฉันอดใจไม่ไหว"คำพูดนั้นทำให้น้ำฟ้าชะงัก หัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดตรงขนาดนี้ ดวงตาคู่นั้นของเขามีบางอย่างที่ทำให้เธอต้องเม้มปากแน่น สับสนไปชั่วขณะบรรยากาศรอบตัวเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่เริ่มไม่เป็นจังหวะ...มีเพียงเสียงลมหายใจและเสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอยู่เบาๆ ธารายืนจ้องน้ำฟ้า ดวงตาคมเข้มของเขามืดลงด้วยอารมณ์บางอย่างที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ห้ามไม่อยู่ร่างของเธออยู่ตรงหน้า ชุดนอนบางเบานั้นแทบจะไม่ได้ช่วยปิดบังอะไรเลย ยิ่งแสงไฟสลัวสะท้อนผิวเนียนละเอียดของเธอ เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังทดสอบความอดทนของตัวเอง"กลับขึ้นไปเปลี่