ร้านอาหารหรูที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม วันนี้เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองครอบครัวนัดเจอกัน แต่เสียดายที่พรพระพายติดงานถ่ายแบบเลยมาด้วยไม่ได้ ทุกคนกำลังนั่งรอไทเกอร์อย่างใจจดใจจ่อ
“เดี๋ยวเอวาโทรตามพี่ไทเกอร์เองค่ะ” เอวารินทร์ลุกไปจากโต๊ะอาหาร รู้ว่าพี่ชายตั้งใจมาช้า
ที่ชั้นบนสุดของกาสิโนสุดหรู กลางห้องทำงานที่เต็มไปด้วยจอมอนิเตอร์กล้องวงจรปิดและเอกสารกองพะเนิน ไทเกอร์กำลังนั่งตรวจสัญญาการเงินด้วยสายตาเย็นเฉียบ สองมือถือแฟ้มและปากกาดูตัวเลขอย่างแม่นยำ
“ว่ายังไง...” เขายังพูดไม่ทันจบ
“พี่ไทเกอร์เมื่อไหร่จะมาคะ ผู้ใหญ่รอนานแล้ว”
“รอไม่ไหวก็ให้เขากลับไปยังไงก็ต้องแต่งอยู่ดี” จะอะไรกันนักกันหนาแค่เรื่องแต่งงาน
“วันนี้น้องพายสวยมากเลยนะคะถ้าไม่มาเห็นจะไม่มีบุญตาแน่” เอวารินทร์วางสายทันที หมั่นไส้พี่ชายตัวเองทีกับผู้หญิงร้ายๆ กลับเดินเข้าหา
“นายหญิงบอกว่าถ้าไม่ไปตอนนี้จะให้นายใหญ่จัดการเจ้าพยัคฆ์ขั้นเด็ดขาด” พายุเข้ามารายงาน
ไทเกอร์เงยหน้าขึ้นช้าๆ ดวงตาคมดุสบตากับคนพูดนิ่งสนิทเขาไม่ได้พูดอะไร แต่เพียงเสี้ยววินาทีถัดมา เขาก็วางแฟ้มในมือลงบนโต๊ะ ปิดปากกาด้วยท่าทางสงบ จากนั้นก็ลุกขึ้นเต็มความสูงจับเสื้อสูทพาดบ่า แล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่ต้องสั่งอะไรเพิ่ม
“มาแล้วเหรอไอ้ตัวแสบ” ไลอ้อนเอ่ยทักลูกชายปล่อยให้ผู้ใหญ่รอตั้งนาน
เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นไม้ดังเป็นจังหวะเรียบนิ่งก่อนที่ร่างสูงในสูทสีเทาเข้มจะก้าวเข้ามาในห้อง ท่ามกลางสายตาของทั้งสองครอบครัวที่หันไปมองพร้อมกัน
ไทเกอร์เดินเข้ามาโดยไม่พูดอะไร ใบหน้าเรียบเฉยสายตาไม่หลบไม่หลีก หยุดอยู่ข้างหลังพ่อของเขาแล้วโค้งศีรษะเล็กน้อยเป็นการทักทายผู้ใหญ่
“ป้าขอโทษด้วยนะหนูพายติดงานเลยไม่ได้มาด้วยจ้ะ” พลอยพระจันทร์เป็นฝ่ายขอโทษแทนลูกสาว
ไทเกอร์หันไปมองน้องสาวที่กล้าโกหกเขา ใบหน้าเขานิ่งขรึมจ้องมองน้องสาวเพื่อเอาคำตอบให้ได้ จนเอวารินทร์ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยขอโทษ
“เอวาขอโทษค่ะที่โกหกพี่ไทเกอร์ ถ้าไม่พูดแบบนั้นพี่คงไม่มา” เธอกระซิบเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน
“ผมไม่มาแล้วจะจัดงานไม่ได้เหรอครับ วันแต่งถ้าไม่มาค่อยตาม” เขาพูดเสียงเรียบจนอัญญาต้องห้ามปรามลูกชาย กลัวว่าอีกฝ่ายจะหนักใจไม่กล้ายกลูกสาวให้
ทางผู้ใหญ่ทั้งสองคนปรึกษากันเรื่องงานแต่งที่จะเกิดขึ้นพยายามบอกว่าจะขอจัดงานตรงครั้งนี้เงียบๆ เพราะกลัวว่าพรพระพายจะได้รับอันตรายเพราะยังไงไทเกอร์ก็เป็นมาเฟียที่มีคนคอยหมายหัว
ไทเกอร์ก้าวเข้ามาในพื้นที่ VVIP พร้อมหญิงสาวในชุดแดงที่แนบชิดข้างตัว เธอหัวเราะคิกคักซบแขนเขา ยื่นแก้วเครื่องดื่มให้ แต่เขากลับไม่แตะต้องมันเลย
ดวงตาคมกริบกวาดไปรอบห้องอย่างเบื่อหน่าย ท่าทีหงุดหงิดของเขาเห็นได้ชัดแม้จะยังไม่ได้พูดอะไร
“ที่รักคะฟังอยู่หรือเปล่า?” สาวข้างกายเรียกเขาเบาๆ แต่น้ำเสียงของเธอไม่สามารถฉุดความสนใจจากสิ่งที่เขาเพิ่งเห็นได้
สายตาไทเกอร์หยุดนิ่งลงทันทีที่มองลงไปยังโซนด้านล่าง ตรงโต๊ะมุมหนึ่งของชั้นล่างของคลับเขาเห็น พรพระพายนั่งอยู่ในชุดเดรสเรียบหรูสีมุก ผมสลวยถูกรวบครึ่งหัวอย่างเป็นระเบียบ รายล้อมไปด้วยทีมงานที่ดูเหมือนจะนัดมาคุยเรื่องงาน แต่ที่ทำให้เขากัดฟันกรอดไม่รู้ตัวคือชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างเธอ
ผู้ชายคนนั้นเอียงตัวเข้าหาเธอพูดอะไรบางอย่าง แล้วพรพระพายก็หัวเราะออกมา เสียงใสดังลอดผ่านเสียงเพลง สะท้อนขึ้นมาถึงชั้นบน
“ไหนบอกว่าติดงานแล้วโผล่มาที่นี่ได้ยังไง” หรือว่าเธอจะนัดชู้ออกมาดื่ม ยามหน้าเขาเกินไปแล้ว
มือที่ถือแก้วน้ำแข็งแน่นจนเส้นเลือดขึ้นนัยน์ตาที่เคยเย็นกลับเริ่มวาวโรจน์ ราวกับพายุคลั่งเริ่มก่อตัวในอก
“ใครวะ…” เขาพึมพำต่ำ
“ใครนะคะ?” สาวข้างตัวถาม แต่ไทเกอร์ไม่ตอบ
เขาเพียงดันตัวเองลุกขึ้นจากโซฟา ก้าวเดินออกไปทิ้งหญิงสาวที่นั่งเหวอไว้ข้างหลัง ก่อนจะเดินลงบันไดชั้นล่างอย่างรวดเร็ว ทุกก้าวที่ไทเกอร์เดินลงไปอารมณ์ของเขาเหมือนกำลังเดือดขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊ะ ปล่อยนะคุณ!” พรพระพายจ้องมองเขาเธอออกมาเข้าห้องน้ำ และเดินชนกับไทเกอร์ยังไม่ทันได้มองเขาด้วยซ้ำ ชายหนุ่มอุ้มเธอและเดินออกมาจากไนต์ครับ
“ปล่อยพายลง”
“เธอตั้งใจไม่ไปทานข้าวกับครอบครัวเพื่อจะมาเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นเหรอ ถ้าพ่อกับแม่ของฉันรู้เข้าคงหมดความเอ็นดู”
“พายเลิกงานแล้วมากับทีมงานพูดจาให้ทันดีๆ เหมือนหน้าตาหน่อย” เธอหงุดหงิดที่เขาเอาแต่ต่อว่า โดยไม่ถามสักคำว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้แหละ”
“คุณจะพาพายไปไหน” เธอถอยหลังไปชิดประตูรถอีกฝั่ง กลัวว่าเขาจะทำอะไร
“พวกมึงลงไปให้หมด!” ไทเกอร์สั่งลูกน้องเสียงเข้ม เขาถอดเข็มขัดออก พร้อมกับฟาดเบาๆ ที่ต้นขาของพรพระพาย
“กรี้ดดด ทำอะไรพายเจ็บนะ”
“หึ ฉันจะเช็คของไงว่าเธอผ่านศึกหนักมาเยอะแค่ไหน” เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้ พรพระพายฟาดไปทั่วตัวของเขา จนไทเกอร์ต้องใช้เข็มขัดมือของเธอตรึงไว้เหนือศีรษะ
“เลวพายไปทำอะไรให้คุณเกลียดนักหนา” เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“ฉันก็แค่อยากเล่นสนุกกับร่างกายของเธอ”
ริมฝีปากร้อนแรงของเขาก็ทาบลงมาอย่างรุนแรงและเอาแต่ใจ เมื่อเธอดิ้นเขายิ่งอยากเอาชนะมือหนาบีบปลายคางเธอแน่น
พรพระพายพยายามจะผลักเขาออก แต่กลับพบว่าหัวใจของเธอกำลังเต้นแรงผิดปกติ ร่างกายเหมือนจะไม่ยอมทำตามคำสั่ง สมองพร่าเบลอเพราะสัมผัสที่ทั้งดื้อรั้นและร้อนแรงของเขา
มือของไทเกอร์ยกขึ้นประคองใบหน้าเธอไว้ สัมผัสของเขาแข็งแรงแต่แฝงความอ่อนโยนลึกๆ อย่างที่ไม่เคยแสดงออกมาให้ใครเห็น
เมื่อเขาถอนริมฝีปากออก ดวงตาของเธอยังเบลอด้วยแรงอารมณ์ เธอหอบหายใจถี่ใบหน้าแดงระเรื่อ ขณะที่เขาเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วติดกระซิบ
“ฮึก ฮือ ปล่อยพาย” เธอร้องเสียงสั่นน้ำตาร้อนๆ ไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว ร่างกายของเธอสั่นไปทั้งตัว สีหน้าตื่นตกใจอย่างสุดขีด ไม่ใช่ความโกรธแต่เป็นความกลัวที่ฉายชัดในดวงตา
ไทเกอร์ยืนนิ่งเหมือนถูกตบหน้าด้วยความจริงบางอย่างที่ไม่เคยเตรียมใจจะเจอ
“พาย” เสียงของเขาแผ่วลงอย่างไม่รู้ตัว
“ฮึก พายจะกลับบ้าน”
พรพระพายส่ายหน้าน้ำตายังคงไหลไม่หยุด เธอพยายามหันหน้าหนี พยายามสูดหายใจลึกเพื่อควบคุมอารมณ์ แต่มันก็ไม่ง่ายเลยเมื่อหัวใจของเธอยังเต้นแรงจากความตื่นตระหนก
ปัง
เสียงปิดประตูดังลั่นไทเกอร์ถอดเสื้อสูทพาดโซฟาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินตรงไปที่ผนังคอนกรีตเปลือยของห้องนั่งเล่น หลังจากที่แยกย้ายกับพรพระพาย
เขากำหมัดแน่นแล้วฟาดกำปั้นเข้ากับกำแพงสุดแรงเสียงกระแทกดังลั่นรอยเลือดไหลซึมจากข้อนิ้วทันที แต่เขาไม่สะทกสะท้าน ไม่แม้แต่จะหยุดหายใจ
“เชี้ย! ทำไมต้องสนใจผู้หญิงคนนั้นด้วย” เขากัดฟันคำรามต่ำ
เขาเคยมีผู้หญิงมากมายวนเวียนในชีวิต เคยปฏิบัติกับผู้หญิงทุกคนเหมือนเป็นแค่ของชั่วคราว แต่กับพรพระพายเขากลับควบคุมอะไรไม่ได้เลย
เพียงแค่เห็นน้ำตาของเธอ หัวใจที่เคยด้านชาเหมือนมีบางอย่างจิกลึกเข้าไปข้างใน
“แค่ผู้หญิงคนหนึ่งก็แค่คนหนึ่ง”
ไทเกอร์ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างคนหมดแรง เอนหัวพิงพนักพลางมองฝ้าเพดานเหมือนจะหาคำตอบ ก่อนจะต่อสายหาลูกน้องที่อยู่ด้านล่าง
“หาผู้หญิงมาให้กูคนหนึ่งจะเอาตอนนี้!” เขาวางสายไปทันที ไม่เกินสามสิบนาทีเสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับสาวร่างสูงหุ่นเพรียว
“ทำให้ฉันสิ”
“รับรองคุณต้องพอใจแน่ค่ะ” หญิงสาวจะกอดคอเขาและโน้มริมฝีปากประกบปากเขา ก่อนจะแลกลิ้นกันอย่างถึงพริกถึงขิง
ไทเกอร์หลับตาพิงพนักโชฟาปล่อยให้หญิงสาวทำตามความต้องการ แต่ในหัวกลับคิดถึงแต่ใบหน้าของพรพระพายที่เขาไม่เคยลืมได้เลย ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
“พาย อ่าส์” เขาเผลอครางชื่อเธอออกมา จนสาวสวยที่อยู่บนตัวของเขาเริ่มไม่พอใจ แต่เพื่อเงินเธอเลยไม่สนใจ
พอเสร็จเขาลุกออกจากเตียงและให้แม่บ้านมาทำความสะอาด และพาหญิงสาวออกไปเขาไม่ชอบให้ใครมาพักในพื้นที่ส่วนตัว แทนที่เขาจะหายเครียดกับเครียดนักกว่าเดิม
เสียงร้องไห้ลั่นบ้านดังแข่งกันราวกับวงดนตรีประสานเสียงยามบ่าย เสียงเด็กน้อยร้องลั่นพร้อมกันจนทำให้คนเป็นพ่อที่ได้ยินถึงกับตกใจ“แง๊งงงงงงงงงงง!!”“อ๊าาาาาาาา!!”ไทเกอร์รีบวิ่งพรวดเข้ามาในห้องนอนลูก เห็นภาพลูกชายฝาแฝดวัยหนึ่งขวบร้องพร้อมกันจนหน้าแดงก่ำ เขารีบอุ้มคนพี่ขึ้นมาก่อน น้องไทก้าตัวโยนเกาะคอพ่อไว้แน่นร้องเสียงดังไม่ยอมเงียบแม้แต่วินาทีเดียว“โอ๋ๆๆๆ ไทก้าใจเย็นลูก ใจเย็นนะครับ” ไทเกอร์พยายามกล่อม แต่เสียงร้องกลับยิ่งดังขึ้นเหมือนตั้งใจแข่งกับพ่อขณะเดียวกัน น้องจากัวร์ที่นอนอยู่ในเปลก็ไม่ยอมแพ้ ร้องจ้าตามพี่ชายน้ำตาคลอจนแก้มเปียกชุ่มไปหมดเขาถึงกับปวดขมับยกมืออีกข้างกุมหัวตัวเอง นี่มันนรกดนตรีเสียงเด็กเวอร์ชันฝาแฝดชัดๆ ไม่น่าอยากได้ลูกหลายคนเลย เหมือนสวรรค์จะได้ยินในสิ่งที่เขาพูดส่งลูกชายมาพร้อมกันถึงสองคน“โธ่เมียจ๋าช่วยพี่ที!!” เสียงทุ้มตะโกนลั่นบ้านเหมือนขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน เขาพยายามโยกตัวปลอบ แต่ยิ่งอุ้มไทก้าเสียงก็ยิ่งแหลมสูงขึ้น ส่วนจากัวร์ก็กระแทกเปลเหมือนประท้วงว่า ไม่ยอมให้พ่ออุ้มแต่พี่คนเดียว สุดท้ายไทเกอร์ถอนหายใจยาว ๆ ก่อนบ่นเสียงอ่อย “ให้ตายเถอะจะไปทำหมันเ
บนโซฟาหนังสีเข้มกลางห้องรับแขก ชายหนุ่มร่างสูงที่เคยชินกับการเป็นมาเฟีย กลับต้องนอนพาดแขนอย่างหมดแรงเพราะกำลังถูกเจ้านายตัวน้อยเล่นงานอยู่“อื้อออ ทิกเกอร์...” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาแผ่วๆ พร้อมกับขมวดคิ้ว เมื่อร่างเล็กวัย 10 เดือนของน้องทิกเกอร์ กำลังปีนป่ายจากท้องพ่อขึ้นไปบนอกอย่างเอาเป็นเอาตายสองมือเล็กเกาะเสื้อพ่ออย่างมั่นคง ก่อนจะหัวเราะคิกคัก แล้วลงไปนั่งเต็มแรงบนหน้าไทเกอร์พอดี“โอ๊ยยย ลูกกก! นั่นหน้าป๊านะไม่ใช่เบาะเด้งดึ๋งสักหน่อย” แต่เจ้าเด็กน้อยกลับหัวเราะลั่น น้ำลายยืดเล็กๆ หยดลงบนแก้มพ่อเหมือนของฝากพิเศษไทเกอร์นอนตัวเกร็งไม่กล้าขยับแรง กลัวลูกจะหงายหลังตกไป เจ็บแค่ไหนก็ต้องทน ทั้งที่ในใจได้แต่พร่ำบ่นเรียกชื่อภรรยาซ้ำๆ“พายเมื่อไหร่จะกลับมา ซื้อของนี่นานจังเลยใจพี่จะขาดแล้วเนี่ย” เขายอมรับคนที่เลี้ยงลูกเองยี่สิบสี่ชั่วโมง เป็นคนที่เกร็งมากทิกเกอร์ยังคงหัวเราะคิกๆ พลางกระดึ๊บตัวขึ้นไปนั่งคร่อมหน้าพ่ออีกครั้ง คราวนี้ถึงกับดีดขาเล็กๆ เหมือนจะกระโดดต่อย้ำๆ“โธ่เว้ยป๊าเป็นมาเฟียที่ใครๆ ก็เกรงขาม ทำไมวันนี้ถึงต้องมาถูกลูกชายจับกดอยู่บนหน้าแบบนี้นะ” เขาพึมพำในใจอย่างปลงตกสุดท้าย
เมื่อกลับมาถึงบ้านพรพระพายสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเดินเข้าไปแล้วโผกอดเขาแน่นเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยมือความรู้สึกนี้จะหายไป“หายไม่คิดเลยว่าเราจะมาถึงจุดนี้ได้” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย แขนแข็งแรงของเขาคลายความเกร็งลง กอดตอบเธอแน่นขึ้น ความเงียบแผ่วผ่านไปชั่วอึดใจ ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำจะดังขึ้นข้างหู“ต้องเป็นพี่มากกว่าที่ต้องพูดประโยคนั้น” เขาเอ่ยช้าๆ ราวกับกลั่นออกมาจากหัวใจ พรพระพายเงยหน้ามองเขา ดวงตาคู่สวยพราวด้วยน้ำตาแต่เต็มไปด้วยความสุข“พี่จะไม่สัญญา เพราะสัญญามันอาจไม่มีค่าอะไรเลย แต่พี่จะทำให้พายเห็นด้วยตาของพายเอง ว่าพี่รักพายมากแค่ไหน และพี่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้พายเสียใจอีก” ไทเกอร์ยกมือขึ้นลูบแก้มเธอเบาๆ ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากอย่างแผ่วอ่อน“พายรักพี่ไทเกอร์นะคะ”ไทเกอร์โน้มตัวลงช้าๆ ปลายนิ้วสากประคองใบหน้าหญิงสาวให้แหงนรับสัมผัส ก่อนริมฝีปากร้อนจะกดลงบนกลีบปากนุ่มของพรพระพายจูบครั้งนี้ไม่รีบร้อน แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่น เขาต้องการบอกทุกสิ่งผ่านสัมผัสเดียวว่ารักและหวงแค่ไหน เธอเผลอหลับตารับความอบอุ่นนั้นอย่างเต็มหัวใจ“เอ่อ...นายน้อยครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหว
พรพระพายนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงมาตลอดทั้งคืน ดวงตาแดงก่ำเพราะร้องไห้และไม่ได้นอน แต่เธอไม่แม้แต่จะกะพริบตานานๆ เพราะกลัวจะพลาดช่วงเวลาที่เขาฟื้นกระทั่งนิ้วมือหนาที่วางอยู่บนเตียงขยับเล็กน้อย เปลือกตาของไทเกอร์ค่อยๆ เปิดขึ้นดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งแม้จะอ่อนแรงจากบาดแผลก็ยังคงเหมือนเดิม“พาย” เสียงแหบพร่าดังขึ้นแผ่วเบาพรพระพายชะงักหันขวับไปมอง พอเห็นเขาลืมตา น้ำตาก็ไหลพรากทันทีร่างบางโผเข้าหา จับมือหนาขึ้นมากุมแน่น“พี่ไทเกอร์! ฮึก พี่ฟื้นแล้วพายกลัวเหลือเกิน กลัวว่าพี่จะไม่ตื่นขึ้นมาอีก” เสียงของเธอสะอื้นปนสั่น เธอก้มลงซบอกเขาอย่างไม่อายใครน้ำตาเปียกซึมเสื้อคนเจ็บแม้ร่างกายยังอ่อนแรง แต่ไทเกอร์ก็พยายามยกมืออีกข้างขึ้นลูบเส้นผมของเธอช้าๆ สายตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความห่วงใย“ไม่ร้องนะ พี่ไม่เป็นอะไรแล้วพี่อยู่ตรงนี้แล้วพายทำไมไม่กลับบ้านแล้วเจ้าตัวเล็กเป็นยังไงบ้าง”“ลูกปลอดภัยดีค่ะ”“ทุกอย่างเป็นเพราะพาย ถ้าไม่ใช่เพราะพายพี่คงไม่ต้องมาเจ็บหนักแบบนี้”ไทเกอร์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนบีบมือเธอเบาๆ ดวงตาคมแน่วแน่เต็มไปด้วยความจริงจัง“ฟังพี่นะ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพาย คนที่ผิดคือไอ้พว
แสงอาทิตย์ยามเย็นคล้อยต่ำท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจาก ถนนที่พรพระพายขับรถกลับบ้านมีเพียงรถวิ่งสวนมาเป็นระยะๆ หญิงสาวเพิ่งแยกจากเพื่อนสนิทและตั้งใจจะรีบกลับไปพักผ่อน แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็รู้สึกถึงสายตาที่มองตามมาเธอสังเกตผ่านกระจกมองหลัง รถกระบะสีดำคันหนึ่งขับตามมาติดๆ ระยะห่างไม่มากนักหัวใจของพรพระพายเริ่มเต้นแรงขึ้น“หรือเราคิดไปเอง” เธอพยายามปลอบตัวเอง แต่เมื่อเลี้ยวเข้าซอยรถคันนั้นก็เลี้ยวตามเธอใจหายวาบ ความรู้สึกไม่ปลอดภัยท่วมท้นพรพระพายเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว พยายามหาทางหนี แต่แล้วจู่ๆ ก็มีรถอีกคันพุ่งตัดหน้าอย่างจงใจ เธอตกใจจนแทบหยุดหายใจรีบเหยียบเบรกสุดแรง ล้อเสียดสีกับพื้นถนนดังเอี๊ยดกลิ่นไหม้ลอยขึ้นมา รถหยุดลงได้อย่างหวุดหวิดมือเรียวสั่นเทากำพวงมาลัยแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด หัวใจเต้นโครมครามพรพระพายพยายามตั้งสติ ก่อนรีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกไปหาเพียงคนเดียวที่เธอไว้ใจ“คุณไทเกอร์ ฮึก ช่วยพายด้วย...” เสียงของเธอสั่นเครือแทบขาดใจ“อยู่ไหน ตอนนี้พายอยู่ตรงไหน บอกมาเดี๋ยวนี้!” ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนตามมาด้วยเสียงทุ้มจริงจังเธอรีบแจ้งตำแหน่งด้วยเสียงสะอื้น ไ
ค่ำคืนที่เงียบสงัดบรรยากาศเงียบสงัดจนได้ยินเสียงลมหายใจตัวเอง ไทเกอร์นั่งอยู่หน้าบ้านไม่ยอมไปไหน ดวงตาคมจับจ้องไปยังประตูเหมือนเฝ้ารอใครบางคนอย่างไม่ยอมแพ้พรพระพายยืนนิ่งอยู่หลังบานประตูไม้ เธอสูดหายใจเข้าลึก ความลังเลปนความเจ็บปวดกดทับอยู่เต็มอก สุดท้ายก็ตัดสินใจบิดกลอนออกมา เธอก้าวออกไปช้าๆ แววตานิ่งสงบแต่ภายในกลับสั่นคลอน “พาย...”“ที่พายขอหย่า มันแปลว่าพายไม่ต้องการความรับผิดชอบอะไรจากคุณอีกแล้ว ขอแค่คุณยอมปล่อยพายไปโดยดีแค่นั้นพอ” เธอเอ่ยเสียงเรียบแต่ภายในหัวใจนั้นเจ็บปวดแค่ไหนหัวใจของไทเกอร์สะท้านเขาก้าวเข้ามาหนึ่งก้าว ดวงตาสั่นไหวเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน เขาคุกเข่าลงต่อหน้าหญิงสาว“พายพี่ขอโอกาสอีกครั้งได้ไหม ที่ผ่านพี่มันละ...” เสียงทุ้มต่ำแฝงความสั่นเครือ พูดไม่ทันถูกหญิงสาวเอ่ยขึ้นเสียก่อน“พายไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว พายไม่เข้าใจทำไมต้องรักผู้ชายแบบคุณด้วย” คำตอบของเธอเหมือนคมมีดกรีดลึกลงในหัวใจไทเกอร์ พรพระพายหลับตาแน่นหยดน้ำใสเอ่อคลอ เธอส่ายหน้าเบาๆ“พายพี่...”“คุณอย่าทำเหมือนรักได้ไหมพายเจ็บ ฮือ” เธอร้องไห้โฮ เพราะการกระทำของเขาเขานิ่งร