แชร์

เจ้ามีสิ่งนี้ได้อย่างไร!!!

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-27 19:30:10

ด้วยรู้ว่าหากเขาเค้นถามสาวใช้ต่อ เรื่องที่นางใช้ให้ซีเยว่ออกไปซื้อของให้หลิวชิงจะต้องถูกเปิดโปงอย่างแน่ เขายังเห็นแก่หน้านางที่เป็นฮูหยินเอกอยู่ ที่เขาลงมือในวันนี้ ก็เพื่อเตือนนางไม่ได้รังแกซีเยว่เช่นที่ผ่านมาอีกแล้ว

“เรื่องนี้ น้องจะจัดการให้ท่านพี่เองเจ้าค่ะ อย่าได้ทำให้ตนเองเหน็ดเหนื่อยเพิ่มเลย” อู๋ซื่อรู้ได้จากแววตาของเขา ว่าเขากำลังเตือนนางอยู่ ทั้งยังมอบทางลงให้นางอีกด้วย

“ดี ข้าจะรอฟังการจัดการของเจ้า”

เว่ยหมิงเขยิบเข้าไปใกล้อู๋ซื่อแล้วกระซิบบอกนางด้วยเสียงอันเบา “เงินรายเดือนของซีเยว่ เจ้าก็นำกลับคืนมาจากสาวใช้ของนางให้ครบ ทั้งเรื่องข้าวของตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่นางควรได้ก็จัดการให้นางเสีย”

อู๋ซื่อสะท้านออกมาด้วยความตกใจ แม้แต่เรื่องนี้เขาก็รู้ แล้วเรื่องที่ผ่านมาที่นางสั่งให้แม่นมสั่งสอนซีเยว่จนเสียนิสัย เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร

“จะ เจ้าค่ะ” นางก้มหน้าลง เพื่อไม่ให้เขาเห็นใบหน้าที่ซีดขาวของนาง

แววตาที่เกิดจากความไม่ยินยอมของอู๋ซื่อมองตามแผ่นหลังของสามีที่เดินจากไปอย่างโกรธแค้น นางได้แต่สาบานในใจว่านางจะต้องหาทางเอาคืนเรื่องในวันนี้ที่ทำให้นางเสียหน้าต่อหน้าสาวใช้อย่างแน่นอน

เว่ยหมิง เดินไปที่เรือนของซีเยว่ เพื่อดูว่านางอาการเป็นเช่นใดบ้าง เมื่อมาถึงก็เห็นว่าแม่นมชุยกำลังนั่งพักอยู่ที่หน้าห้องของซีเยว่

“คุณหนูของเจ้าเป็นเช่นใดบ้าง”

“นายท่าน เมื่อคืนยังมีไข้สูง แต่วันนี้ดีขึ้นไม่น้อยแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้กำลังพักอยู่ด้านใน ให้บ่าวแจ้งว่าท่านมาพบหรือไม่เจ้าคะ”

“ไม่ต้อง ข้าจะเข้าไปหานางเอง” เว่ยหมิงเดินเข้าไปด้านใน เขามองหาซีเยว่ที่ต้องนอนพักอยู่บนเตียงแต่ก็ไม่เห็นตัวนาง

“อาเยว่!!!” เขาร้องออกมาเสียงดัง พร้อมทั้งเดินไปสำรวจห้องด้านข้าง ก็ไม่เห็นเงาของนาง

“คะ คุณหนูเป็นอันใดเจ้าคะ” แม่นมชุยตามเข้ามาอย่างร้อนใจ แต่เมื่อไม่เห็นร่างของซีเยว่ภายในห้อง นางก็ต้องยกมือขึ้นปิดปาก เกือบจะส่งเสียงร้องออกมา

“นางไปที่ใด!!!” เขาร้องถามออกมาด้วยเสียงแข็งกร้าว พาลให้นึกถึงเรื่องที่นางมักจะหนีออกไปเที่ยวเล่นขึ้นมา

แต่ตอนนี้นางยังป่วยไม่น้อย แล้วจะออกไปด้านนอกได้อย่างไรโดยที่ไม่มีคนรู้

“คุณหนูไม่ได้ออกไปที่ใดเลยเจ้าค่ะ บ่าวเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องตลอด เพิ่งจะออกไปหน้าห้องตามคำสั่งของคุณหนูเมื่อครู่นี้เองเจ้าค่ะ” แม่นมชุยคุกเข่าเอ่ยออกมาอย่างหวาดกลัว

“เจ้าไปเฝ้าที่หน้าห้องไว้ อย่าให้ผู้ใดเข้ามา” หากเป็นเช่นที่แม่นมชุยว่า นางไม่มีทางจะหายไปได้อย่างแน่นอน

ในจวนมีองครักษ์เดินตรวจตราอยู่ตลอด หากนางจะออกทางหน้าต่างยิ่งเป็นไปไม่ได้ เมื่อหน้าต่างยังถูกลงกลอนจากด้านในอยู่

เว่ยหมิงนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงของซีเยว่อย่างครุ่นคิด “คนทั้งคนจะหายไปได้อย่างไร” เขาจะนั่งรอจนกว่าซีเยว่นางจะกลับมา หากนางออกไปเที่ยวเล่นด้านนอกอย่างไรก็ต้องกลับมาที่เรือนอย่างแน่นอน

ซีเยว่ ที่วิ่งสำรวจมุมต่างๆ จนทั่วทั้งห้างสรรพสินค้าของนางแล้ว นางก็คิดจะกลับออกไปด้านนอก ด้วยไม่รู้ว่าผ่านมานานเพียงใดแล้ว และร่างกายที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ทำให้นางอยากจะกลับไปนอนพักแล้ว

หากแม่นมชุยเข้ามาดูนาง ภายในห้องแล้วไม่พบตัวนางอาจจะสงสัยนางเอาได้

“กรี๊ดดดดด” เมื่อนางออกมาด้านนอกก็ต้องกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ

ด้วยนางโผล่ขึ้นมาอยู่ตรงหน้าของบิดานางพอดี เว่ยหมิงเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เพียงแต่เขาร้องไม่ออกก็เท่านั้น เมื่ออยู่ๆ ซีเยว่นางก็โผล่ออกมาจากความว่างเปล่า ราวกับหายตัวไปมาได้เสียอย่างนั้น

“ท่านพ่อ!!!”

“เกิดเรื่องใดเจ้าคะ” แม่นมชุยร้องถามเสียงดัง นางถูกห้ามไม่ให้เข้ามา จึงไม่กล้าขัดคำสั่ง

“ไม่มี ไม่ต้องเข้ามา” เว่ยหมิงกว่าจะหาเสียงตนเองเจอ แล้วเอ่ยตอบไปก็กินเวลาอยู่นาน จนแม่นมชุยร้อนใจจะเปิดประตูห้องเข้ามาอยู่แล้ว

สองพ่อลูกต่างจ้องมองหน้ากันไปมา เว่ยหมิงอดไม่ได้ที่จะเป็นคนเอ่ยถามขึ้นมาก่อน

“อาเยว่ เจ้าทำได้อย่างไร” เขาสงสัยไม่น้อยที่นางสามารถหายตัวไปมาได้

“เอ่อ...ท่านพ่อ เอ่อ...หากข้าบอกสิ่งใดท่าน ท่านจะคิดว่าข้าเป็นปีศาจหรือไม่” นางกลัวว่าจะถูกจับไปเผาทั้งเป็น

“เจ้ามาว่าเถิด” เขายังตกใจไม่หาย แต่ก็อยากจะฟังคำแก้ตัวของนางเสียก่อน

“ที่นี่คงไม่สะดวกพูด ลูกจะพาท่านไปอีกที่เจ้าค่ะ” ซีเยว่คว้ามือของเว่ยหมิงมาจับไว้ ก่อนจะพาหายเข้าไปในมิติ

“นะ นี่!!!” เขาเบิกตาจ้องมองหอสูงหน้าตาประหลาดตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาของตนเอง

ด้านนอกมิได้ทำมาด้วยไม้เช่นร้านค้าหรือเรือนที่เคยพบเห็น แต่ทำขึ้นมาจากสิ่งใดเขาก็ไม่อาจจะบอกได้ ขนาดของมันสูงใหญ่ไม่น้อย ไหนจะจำนวนชั้นที่มีมากกว่าหอโคมแดงที่สูงถึงสามชั้นในเมืองหลวงเสียอีก

“ที่นี่ เรียกว่ามิติเจ้าค่ะ ที่ท่านพ่อเห็นคือร้านค้า เข้าไปดูด้านในดีหรือไม่เจ้าคะ” ซีเยว่ดึงมือบิดาของนางให้เดินเข้าไปด้านใน

ตัวเว่ยหมิงยามนี้ราวกับวิญญาณของเขาหลุดออกจากร่าง ไม่ว่าซีเยว่นางจะพาไปทิศทางใด เขาล้วนแต่ให้นางทำตามอำเภอใจ

“ประหลาดนัก” ข้าวของที่อยู่ด้านในทำให้เว่ยหมิงอุทานออกมา

เขาไม่เคยเห็นสิ่งต่างๆ มาก่อนแม้แต่ชิ้นเดียว เสื้อผ้าที่เห็นจะบอกว่าเหมือนที่ชาวเมืองทั่วไปสวมใส่ก็เห็นจะไม่ถูกหนัก เมื่อเนื้อผ้าที่เขาสัมผัสมันลื่น นุ่มน่าสวมใส่มากกว่า

ไหนจะรองเท้ารูปร่างแปลกตา แต่พอได้สวมใส่กลับสบายจนไม่อยากจะถอด (รองเท้าผ้าใบ) ซีเยว่ที่พาบิดาสำรวจตามชั้นต่างๆ จนทั่วแล้ว ก็เอ่ยขึ้น

“ท่านพ่อ ท่านอยากรู้สิ่งใดก็ถามลูกเถิดเจ้าค่ะ” นางรู้ว่าบิดามีข้อสงสัยอยู่เต็มท้อง แต่ต้องการจะสำรวจให้แล้วเสร็จเสียก่อน ที่จะเอ่ยถามนาง

เว่ยหมิง มองใบหน้าของบุตรสาวอยู่เนิ่นนานกว่าที่จะเอ่ยออกมาได้

“เจ้ามีสิ่งนี้ได้อย่างไร”

“หากลูกบอกท่านว่า ตอนที่ลูกป่วยวิญญาณของลูกไปพบเทพแห่งการเวียนว่ายกับเทพชะตามาท่านจะเชื่อหรือไม่เจ้าคะ” ซีเยว่มองหน้าบิดาของนางอย่างจริงจัง

“เจ้าว่าเช่นไรนะ!!!” เขาร้องออกมาอย่างไม่เชื่อ

แม้ว่าท่านหมอที่มาตรวจอาการของนางจะบอกให้เขาเผื่อใจไว้บ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่านางถึงกับวิญญาณหลุดออกจากร่างไปจริงๆ

“ท่านฟังไม่ผิดเจ้าค่ะ ลูกเหมือนได้ตายไปแล้ว สิ่งนี้ ท่านเทพชะตามอบให้ลูก ด้วยเห็นว่าลูกอาภัพเรื่องมารดา ทั้งยังมีชะตากรรมที่เลวร้ายไม่น้อย”

ใบหน้าของซีเยว่หมองลง นางไม่คิดจะโกหกบิดาเช่นนี้ แต่ให้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดก็เห็นทีจะเป็นไปไม่ได้

จะให้บอกว่าเทพชะตาทำเรื่องผิดพลาด เข้าฝันนักเขียนนิยายจนเขียนเรื่องราวของนางยุ่งเหยิง บิดาจะได้หาว่านางเสียสติไม่ว่า

“อาเยว่” เว่ยหมิงเอ่ยเรียกบุตรสาวอย่างปวดใจ นางคงถูกรังแกมาไม่น้อย แม้แต่เทพชะตายังเห็นใจนาง

“ลูกยังได้รู้เรื่องราวจะเกิดขึ้นต่อจากนี้อีกด้วยเจ้าค่ะ ต่อไปลูกจะทำผิดที่เชื่อใจบ่าวชั่วจนถูกวางยาพิษ”

คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของซีเยว่ทำให้เว่ยหมิงภายในใจกระตุกขึ้น เช่นนั้นภาพฝันที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ ก็เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงในอีกไม่นานข้างหน้า

“เจ้าถึงได้ขอให้บิดาเปลี่ยนตัวสาวใช้กับแม่นมจินใช่หรือไม่”

“เจ้าค่ะ” นางพยักหน้ารับ พอได้เห็นใบหน้าที่หมองเศร้าของบิดา นางจึงได้เปลี่ยนเรื่องทันที

“ท่านพ่อ ของด้านในนี้ หากมีสิ่งใดที่ช่วยเหลือเรื่องงานของท่านใด ก็บอกกล่าวลูกสักคำ ลูกจะได้นำออกไปให้ท่าน” 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เพียงเพราะข้าเป็นบุตรอนุ ถึงได้รับบทร้ายหรือ   บทสรุป

    เมื่อเขาเปิดออกดูจึงได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไว้ทั้งหมดผู้เป็นบิดารู้เรื่องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลี้ยงมือสังหาร ยักยอกเงินคลังหลวงร่วมกับตระกูลมู่ แม้แต่เรื่องที่เขาส่งมือสังหารไปจัดการองค์ชายใหญ่หลายหนก็ถูกบันทึกไว้ทั้งหมด“หากยังไม่โง่เขลาจนเกินไปควรหยุดได้แล้ว” ฮ่องเต้มองที่องค์ชายสามอย่างเจ็บปวดเด็กน้อยที่วิ่งตามเขา ร้องเรียกเสด็จพ่อให้สนใจในสิ่งที่เขาทำเมื่อเยาว์วัย ไม่มีอีกแล้ว มีเพียงบุรุษหนุ่มที่ทำสิ่งใดก็ได้ เพื่อให้ได้บัลลังก์มาครอบครององค์ชายสามเมื่อเห็นแววตาของฮ่องเต้ที่มองมาทางเขาอย่างเจ็บปวด จึงสำนึกได้ว่าพระองค์รักเขาไม่น้อยไปกว่าบุตรคนอื่นเลย แต่มาคิดได้ตอนนี้ก็คงจะสายไปเสียแล้วหากไม่หลงเชื่อเสนาบดีมู่ ที่เป่าหูเขามาตั้งแต่เล็กว่าผู้เป็นบิดารักองค์ชายใหญ่มากกว่า และต่อไปบัลลังก์ก็ต้องเป็นขององค์ชายใหญ่ เขาคงไม่เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนเลือดเย็นเช่นนี้แน่“เสด็จพ่อ ลูกขอโทษ” เขาคุกเข่าลงอยู่ที่แทบเท้าของฮ่องเต้“ลูกขอโทษ ลูกไม่น่าหลงเชื่อคำคนตระกูลมู่ ลูกขอโทษ”เขาเอาแต่พร่ำเพ้อพูดเช่นนั้น และร้องไห้ออกมาราวกับจะขาดใจ“ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อคำพูดผู้ใด แต่หากเจ้าคิดสักนิดว่

  • เพียงเพราะข้าเป็นบุตรอนุ ถึงได้รับบทร้ายหรือ   พาตัวองค์ชายสามเข้าวัง

    กู้หยางใช้แผนการตลบหลัง ปล่อยให้คนขององค์ชายสามวางใจ เข้ามาภายในจวนของเขาได้อย่างไม่สงสัยซีเยว่เข้าไปอยู่ภายในมิติของนางพร้อมกับแม่นมชุยอย่างว่าง่าย สาวใช้คนอื่นนางให้กลับไปที่เรือนพัก หากได้ยินเสียงใดห้ามออกมาอย่างเด็ดขาด หากจะพาคนทั้งหมดหายเข้าไปในมิติก็ดูจะน่าสงสัยเกินไป ถ้าภายในจวนไม่มีสาวใช้อยู่เลยมู่เสวี่ยนั่งดื่มสุราอยู่ในหอโคมแดง เขารู้ดีว่าองค์ชายสามคงลงมือในคืนนี้“ออกไป วันนี้ข้าต้องการอยู่เพียงผู้เดียว” เขาไล่คณิกาอันดับหนึ่งที่เรียกหาทุกครั้งที่มา ออกไปอย่างไม่ไยดีภายในอกของเขารุ่มร้อนด้วยเรื่องที่จะเกิดกับซีเยว่ จนไม่อาจจะหาความสำราญเช่นปกติได้ จะเข้าไปช่วยนางก็ทำไม่ได้ มู่เสวี่ยได้แต่ดื่มสุราดับอารมณ์ที่ขุ่นมัวของตนเองเป็นอย่างที่คนของกู้หยางว่าไว้ เมื่อมือสังหารที่องค์ชายสามส่งมาลอบเข้ามาภายในจวนกู้ยามดึก ด้วยรู้มาว่าวันนี้กู้หยางจะอยู่หารือร่วมกับองค์ชายใหญ่ที่ตำหนักของพระองค์“...” มือสังหารเข้าไปเรือนนอนของซีเยว่อย่างง่ายดาย“หึ องครักษ์จวนกู้โง่เขลานัก คนลอบเข้ามามากเช่นนี้ ยังมิรู้เรื่องเลย” มือสังหารเอ่ยดูแคลนออกมาเสี่ยวซีและเสี่ยวสือรวมถึงคนอื่นได้แต่หนังตา

  • เพียงเพราะข้าเป็นบุตรอนุ ถึงได้รับบทร้ายหรือ   คราวหลังก็พูดให้เร็วกว่านี้

    องค์ชายใหญ่เดินเข้าไปหาพ่อบ้านเว่ยที่ตกตะลึงอยู่หน้าวังอย่างร้อนใจ“เกิดเรื่องใดขึ้น อาเยว่นางเป็นอันใด”“เอ่อ...ฮูหยินกู้นางตั้งครรภ์พ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านเว่ยเอ่ยตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“ห๊ะ!!! คราวหลังเจ้าก็พูดให้เร็วกว่านี้” องค์ชายใหญ่รีบร้อนตามกู้หยางไปที่จวนตระกูลเว่ยทันทีเสี่ยวซีที่รออยู่ด้านนอกวังหลวงก็รีบร้อนติดตามผู้เป็นนาย เพื่อบอกกล่าวเรื่องน่ายินดีให้เขาได้รู้ก่อนที่จะร้อนใจจากคำพูดของพ่อบ้านเว่ยแต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว กู้หยางใช้วิชาตัวเบาทะยานไปตามหลังคาบ้านเรือนโดยไม่สนใจสายตาของชาวเมืองที่มองมาด้วยความใคร่รู้ ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ที่วรยุทธ์สูงเช่นนี้ เห็นแต่เพียงแผ่นหลังที่หายไปของเขาเข้าไปภายในจวนตระกูลเว่ยเสี่ยวซีที่ตามมาทันกู้หยาง ก่อนจะเดินเข้าห้องโถง จึงได้บอกเรื่องสำคัญที่ได้รู้มา แต่ว่ายังมิทันได้บอกเรื่องตั้งครรภ์ของซีเยว่ กู้หยางก็พุ่งตัวเขาไปตามทิศที่สาวใช้นางบอกตำแหน่งของซีเยว่แล้ว“อาหยางเจ้ามาเสียที่ ข้า...” เว่ยหมิงที่เห็นกู้หยางกำลังพุ่งตัวเข้ามาภายในห้องโถง ก็ต้องชะงักนิ่งมีเพียงสายลมที่พัดผ่านตัวเขา พร้อมกับร่างที่หายไปแล้วของกู้หยาง“อาเยว่!!!” เขาร้

  • เพียงเพราะข้าเป็นบุตรอนุ ถึงได้รับบทร้ายหรือ   หรือเจ้าไม่กล้า

    ตอนนี้ภายในจวนของเขาสงบยิ่งนัก ทั้งเรื่องสัญญาหมั้นหมายของบุตรสาวบุตรชายก็ดูจะราบรื่นไปเสียทุกสิ่ง ไหนจะเรื่องหน้าที่การงานของเขา มายามนี้ยังได้ข่าวดีที่ตนจะได้เป็นท่านตาแล้วอีกด้วย“ตกรางวัลให้คนทั้งจวน!!!” เขาร้องบอกพ่อบ้านเว่ย พร้อมทั้งให้เงินค่าตรวจท่านหมอไปเสียหนักอึ้ง ก่อนจะให้พ่อบ้านเว่ยไปส่งท่านหมอที่โรงหมอ และส่งคนไปรอแจ้งกู้หยางที่หน้าวังหลวงซีเยว่นางยังตกตะลึงไม่หาย ได้แต่นั่งนิ่งอึ้งอยู่บนเตียงตั่ง เสียงพูดแสดงความยินดีรอบข้างนางไม่ได้ยินเลยว่าทุกคนเอ่ยพูดเช่นไร“ข้าท้องรึเจ้าคะ ข้าจะมีลูกรึ” นางมองไปที่อู๋ซื่อ หลิวชิง เว่ยหมิงและแม่นมชุยอย่างไม่อยากเชื่ออยู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ว่ามาจากที่ใดมากมาย“อาเยว่!!!” หลิวชิงร้องออกมาด้วยความตกใจ นางเพิ่งจะเห็นน้องรองนางร้องไห้ก็วันนี้เอง“อาเยว่ อย่าร้อง ประเดี๋ยวเด็กในท้องเจ้าจะขี้แยเอา” อู๋ซื่อเอ่ยเย้านางออกมา“จริงเจ้าค่ะ” แม่นมชุยพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่นางก็ลอบปาดน้ำตาทิ้งอย่างเงียบๆด้วยท่าทีของซีเยว่ยามเมื่อรู้ว่านางตั้งครรภ์ช่างเหมือนกับถานเหยามารดาของนางไม่มีผิดเพี้ยนเช่นนี้แล้ว จะให้แม่นมชุยไม่ร้องไห้ออกมาได้

  • เพียงเพราะข้าเป็นบุตรอนุ ถึงได้รับบทร้ายหรือ   มีแต่เรื่องน่ายินดี

    ดูเหมือนว่าคำสั่งครั้งนี้หมายมาเอาชีวิตซีเยว่นางโดยตรงด้วย หากไม่มีนางเรื่องทำเกลือ เรื่องทำหน้าไม้ แม้แต่เรื่องยาที่ส่งให้กองทัพก็คงไม่เกิดขึ้น องค์ชายสามจึงคิดที่จะกำจัดนางไปด้วยเลยแต่เรื่องนี้มู่เสวี่ยไม่รู้มาก่อน หากเขารู้ความคิดขององค์ชายสามที่สั่งการคนของพระองค์ คงจะเอ่ยห้ามไว้แล้ว ด้วยหากกู้หยางตายลง อย่างไรก็สามารถเก็บซีเยว่ ดึงนางมาเป็นคนของตนได้เมื่อไม่มีองค์ชายใหญ่ให้ต้องคอยคุ้มกัน กู้หยางก็ได้ลงมืออย่างเต็มที่ วรยุทธ์ของเขาทั้งหมดที่เก็บซ่อนไว้จึงได้เผยออกมา อย่าว่าแต่องครักษ์ขององค์ชายสามเลยที่ตกตะลึงกับความรุนแรงและพลังที่แผ่ออกมาจากร่างกายเขาคนของสำนักจืออวี้ และองครักษ์ขององค์ชายใหญ่ต่างก็ล้วนแต่ตกตะลึง“พาคนที่บาดเจ็บล่วงหน้าไปโรงหมอที่เมืองหน้าก่อน ข้าจะตามไปภายหลัง” เขาสั่งการกับองครักษ์ขององค์ชายใหญ่ที่ต่างได้รับบาดเจ็บกันไม่น้อยคนที่อยู่กับกู้หยางมีเพียงเสี่ยวซีแล้วเสี่ยวสือที่จะทำหน้าที่บังคับรถม้าทั้งสองคันเท่านั้น“เจ้าว่า อาหยางจะจัดการมือสังหารเรียบร้อยแล้วหรือยัง” องค์ชายใหญ่เอ่ยถามซีเยว่ที่นั่งหน้าเครียดออกอย่างร้อนใจซีเยว่คำนวณเวลาก็เห็นว่าด้านนอกผ่าน

  • เพียงเพราะข้าเป็นบุตรอนุ ถึงได้รับบทร้ายหรือ   ไม่ปล่อยไปง่ายๆ

    เสนาบดีมู่เมื่อได้ยินคำว่าเมืองเจียงซานใบหน้าของเขาก็ซีดขาวลงทันที ด้วยข่าวที่ซื้อมาจากสำนักจืออวี้มิใช่เรื่องที่องค์ชายใหญ่เดินทางไปทำเกลือ แล้วทำออกมาได้สำเร็จอีกด้วย เช่นนี้แล้วองค์ชายสามจะเอาสิ่งใดไปสู้ได้“ใต้เท้าเว่ย บุตรีของเจ้าสร้างประโยชน์ไม่น้อยเลย” ฮ่องเต้ตรัสชมออกมา“หามิได้พ่ะย่ะค่ะ บุตรีกระหม่อมมีความรู้ตื้นเขิน หากมิได้องค์ชายใหญ่ ท่านเจ้าเมืองกู้และบุตรเขยของกระหม่อม ก็คงมิอาจทำเกลือออกมาได้” เว่ยหมิงคุกเข่าก้มหน้านิ่ง“เหอะ” ฮ่องเต้ได้แต่มองเว่ยหมิงด้วยความหมั่นไส้ เพียงประโยคถ่อมตัวประโยคเดียวของเขา ก็สร้างความชอบให้กับผู้ที่เขาเอ่ยออกมาได้ครบทุกคน“รอให้เดินทางกลับมาจากเจียงซานก่อน เจิ้นจะตกรางวัลให้อย่างงาม” ขุนนางไม่น้อยต่างมองมาทางเว่ยหมิงด้วยความอิจฉา ไม่รู้ว่าเขาทำบุญด้วยอันใดถึงได้มีบุตรสาวและบุตรเขยมากความสามารถเช่นนี้ภายในตำหนักขององค์ชายสาม เสียงขว้างปาข้าวของตกแตกดังลั่นไปทั่วทั้งตำหนัก“เดรัจฉาน!!! เหตุใดพวกมันถึงไม่ตายไปเสีย”เสนาบดีมู่และมู่เสวี่ย ที่นำความมาบอกกล่าว หวาดกลัวว่าจะถูกลูกหลงจนต้องหลบอยู่ที่มุมห้อง“โปรดระงับโทสะก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ องค์ชาย”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status