แพรวพิชชาลุกขึ้นจากที่นอนแสนสุข เมื่อคืนเธอนอนหลับสบายมากไม่มีสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางคัน พี่ชายเธอออกไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เพราะหลับลึกจริงๆ ลุกขึ้นจากที่นอนได้ก็ยืนบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยล้าออกจากร่างกาย แล้วสาวเท้าเดินไปที่หน้าต่างบานหรูเปิดผ้าม่านรับแสงแดดอ่อนๆ ของยามเช้า สายตากลมโตมองดูดอกไม้แสนสวยอย่างชื่นมื่น ต้องขอบคุณพี่ชายสุดที่รักที่ให้คนมาจัดแปลงดอกไม้ตรงกับหน้าต่างห้องนอนของเธอ
“สดชื่นจัง” แขนเรียวเสลากางออก แหงนหน้าขึ้นสูง มุมปากยกยิ้มกว้าง บ่งบอกว่าเจ้าตัวมีความสุขมากแค่ไหนในเช้าวันนี้
ชีวิตของเธอในตอนนี้มีความสุขมาก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับจากราฟาเอลมันมากมายเหลือเกิน เขาไม่ใช่แค่ผู้มีพระคุณที่รับอุปการะเธอเอาไว้ แต่เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอ ใครที่ไม่เคยได้สัมผัสกับตัวตนที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้จะคิดว่าเขาโอหัง สำหรับเธอขอเถียงหัวชนฝาหากมีใครว่าให้ได้ยิน
มือใหญ่ยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม สายตาคมก็ไม่ได้ละออกจากหนังสือพิมพ์ธุรกิจ ฉบับภาษาอังกฤษที่อ่านอยู่แม้แต่น้อย ไม่ทันสังเกตว่ามีใครเข้ามา แพรวพิชชาเดินอ้อมไปทางด้านหลังของราฟาเอลด้วยท่าทางซุกซน แขนเรียวคว้ากอดที่ลำคอแกร่ง หอมแก้มสากซ้ายขวาฟอดใหญ่ แล้วก็ยิ้มอย่างชอบใจที่สามารถทำให้คนโดนขโมยหอมเลิกสนใจหนังสือพิมพ์
“เด็กซนแกล้งพี่อีกแล้ว” ราฟาเอลเปรยเบาๆ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ราล์ฟ ไม่ได้แกล้งแค่อยากเล่นด้วย ชีวิตคนเราต้องมีสีสันกันบ้างค่ะ” แพรวพิชชายิ้มตาหยี ยังไม่ยอมคลายวงแขนออกจากคอแกร่งของพี่ชาย ใบหน้าเล็กซบที่ไหล่หนา มองนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่จ้องเธออย่างไม่วางตา
“พี่ไม่เถียงเราหรอกจ้ะ ว่าแต่เมื่อคืนนี้หลับสบายดีไหมน้องแพรว มื้อเย็นเลยไม่ได้กินเลย” ราฟาเอลยังไม่ละสายตาออกจากใบหน้าจิ้มลิ้มที่เกยคางไว้บนบ่าของเขา
“สบายมากเลยค่ะ นอนแบบไม่รู้สึกหิวสักนิด แถมตื่นมายังได้เห็นดอกไม้สวยๆ ที่แข่งกันออกดอกเต็มไปหมดด้วย ขอบคุณนะคะสุดหล่อของแพรว” เสียงใสๆ พูดอยู่ข้างหูราฟาเอลโดยที่เขาไม่รู้สึกรำคาญเลยสักนิด
“พี่ดีใจที่น้องแพรวชอบ”
“แพรวชอบทุกอย่างที่พี่ราล์ฟให้ค่ะ”
“พี่น้องคู่นี้ทำไมยังไม่ทานข้าวกันอีกคะ” ป้านุ่มเดินถือเหยือกน้ำคั้นสดเข้ามาในห้องอาหาร มองดูสองพี่น้องที่อ้อนกันอยู่อย่างน่ารักน่าเอ็นดู พอคุณหนูแพรวกลับมาอยู่บ้านคุณราล์ฟของนางก็มีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย
“ก็รอน้ำส้มคั้นสดๆ ของป้านุ่มอยู่ไงคะแพรวเลยยังทานไม่ได้ ต้องจิบให้คล่องคอก่อน” แพรวพิชชาปล่อยแขนออกจากราฟาเอล แล้วเดินมากอดร่างท้วมของมีบ้านเก่าแก่อย่างอ้อนๆ
“ไม่ต้องมาอ้อนป้าตอนนี้เลยค่ะ นั่งลงแล้วก็ทานข้าวเช้าได้แล้วค่ะคุณหนู เดี๋ยวก็ถูกคุณราล์ฟท่านดุเอาหรอกค่ะ” ป้านุ่มตีแขนเนียนเบาๆ ดันคนช่างอ้อนให้นั่งลงบนเก้าอี้
“รับทราบแล้วค่ะป้านุ่มคนสวย พี่ราล์ฟไม่กล้าดุแพรวมากหรอกค่ะ” แพรวพิชชายิ้มหวานให้ป้านุ่มและพี่ชาย
“ทานข้าวให้หมดนะคะคุณหนู มื้อเย็นเมื่อวานก็ไม่ยอมลงมาทาน ต้องชดเชยมื้อเช้าให้เยอะๆ” ป้านุ่มย้ำก่อนจะเดินออกไปเพื่อให้เจ้านายได้ทานอาหารตามลำพัง
“ค่า” แพรวพิชชารับคำเสียงใส มือบางตักข้าวต้มปูหอมกรุ่นขึ้นมาเป่าเบาๆ พอเย็นลงจึงเอาเข้าปาก แล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีสายตาของราฟาเอลจับจ้องอยู่ตลอดเวลา จนคนถูกมองรู้สึกได้ “ทำไมพี่ราล์ฟไม่ทานล่ะคะ มองแพรวทานแบบนี้มันจะอิ่มได้ยังไง” คิ้วเรียวพันกันยุ่งอย่างไม่ชอบใจ ที่เห็นพี่ชายไม่ทานอะไรเลยนอกจากกาแฟ
“พี่ไม่ค่อยทานอาหารเช้าน้องแพรวก็รู้” ราฟาเอลพูดเสียงเรียบ จะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มอีก แต่ถูกมือบางยึดเอาไว้สียก่อน
“ต่อไปนี้พี่ราล์ฟต้องทานข้าวเช้าทุกวันค่ะ ลดกาแฟลงตั้งแต่วันนี้เลยด้วย ข้าวเช้ามันสำคัญมากนะคะ ต่อไปนี้แพรวจะบังคับให้พี่ราล์ฟทานข้าวทุกวัน” แพรวพิชชาพูดเสียงเข้มเลียนแบบคำพูดพี่ชาย ตักข้าวต้มในชามตัวเองมาจ่อที่ปากหยักบางของราฟาเอล
“อ้าปากค่ะพี่ราล์ฟ” แพรวพิชชาสั่งพี่ชายที่ยังไม่ยอมเปิดปากออก ราฟาเอลส่ายศีรษะสุดท้ายก็ยอมเปิดปากออกแต่โดยดี
“พี่ทานแล้วน้องแพรวก็ทานต่อเถอะ อย่ามัวแต่ป้อนพี่ ตัวยิ่งเล็กๆอยู่” ราฟาเอลกลืนข้าวลงคอ มองคนข้างๆ ที่ยังไม่ยอมตักข้าวเข้าปาก ด้วยสายตาเป็นคำถาม
“ทานแค่คำเดียวไม่ได้ค่ะต้องทานให้หมดชาม มาค่ะเดี๋ยวแพรวจะเป็นคนป้อนพี่ราล์ฟเอง” แพรวพิชชายกชามข้าวของราฟาเอลมาไว้ข้างๆ ชามของเธอ ตักข้าวต้มป้อนพี่ชายสลับกับตัวเอง โดยที่คนหน้านิ่งไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไรทั้งสิ้น และไม่นานข้าวต้มแสนอร่อยก็เกลี้ยงชาม
“พี่ไม่เคยทานข้าวเช้าได้มากขนาดนี้มานานมากแล้ว” ราฟาเอลพูดหลังจากดื่มน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก
“ต่อไปนี้ต้องทานทุกวันนะคะ เพราะแพรวจะไม่ยอมให้พี่ราล์ฟดื่มกาแฟแทนข้าวอีกเด็ดขาด มันไม่ดีต่อสุขภาพ” แพรวพิชชาพูดเสียงจริงจัง
“พี่คงต้องยอมเราอีกแล้วใช่ไหม” ราฟาเอลโยกศีรษะเล็กเบาๆ อย่างเอ็นดู มุมปากยกยิ้มอย่างมีความสุข
“ใช่ค่ะพี่ราล์ฟต้องยอมแพรว เพราะแพรวรักและหวังดีกับพี่ราล์ฟจริงๆ” แพรวพิชชาขยิบตา
ตกดึกหลังจากส่งลูกๆ เข้านอนแล้วก็เป็นเวลาของพ่อแม่ สองร่างเปลือยเปล่ากำลังแลกจูบ ลูบไล้ร่างกายของกันและกันอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น “หลายวันแล้วที่ไม่ได้กินน้องแพรว คืนนี้พี่ขอทั้งคืนเลยได้ไหมคะ” “หลายวันที่ไหนกันคะ แค่วันเดียวเท่านั้นเอง” เรียวขางามแยกออกจากกันเพื่อให้สามีได้ซุกหน้าลงมาหาได้ถนัด “ทั้งคืนไม่ดีมั้งคะ แพรวกลัวลูกตื่นแล้วไม่เจอเรา” “ลูกไม่ตื่นหรอกค่ะ เล่นกันจนเพลียขนาดนั้น” “พี่ราล์ฟก็รู้ว่าลูก…อื้อ อย่าเป่าลมหายใจใส่แพรวแบบนี้สิคะ แพรวเสียว หยุดแกล้งสักที” แพรวพิชชาหนีบขาจึงเท่ากับหนีบใบหน้าสามีไปด้วย คนถูกหนีบชอบใจ ขยี้ปาก จมูกรังแกร่างบางจนสะโพกลอยเด่น “ลูกสองแล้วอะไรก็เอาเมียพี่ไม่ลง ยังน่ากิน และทำใจผัวสั่นทุกครั้ง” “ทำเลยได้ไหมคะ แพรวกลัวลูกตื่นจัง” “ไม่ตื่นหรอกค่ะ” “พ่อจ๋า แม่จ๋าอยู่ไหน ฮือๆ” “พี่ราล์ฟ เสียงเอลลี่นี่คะ!” แพรวพิชชาหน้าตื่น ดันไหล่สามี “เอลลี่ของพ่อ ทำไมหนูทำกับพ่อแบบนี้คะลูก” โอดครวญกลางวงล้อมระหว่างขาเมีย “รีบลุกสิคะพี่ราล์ฟ อย่ามัวแต่ซบแพรว เดี๋ยวแอรอนก็ร้องอีกคนหรอกค่ะ” ฟาดไหล่สามีพลางมองหาชุดนอนที่อยู่ไกลออกไปจากโซฟา ตอนบอกให้รีบล
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ลูกสาวคนโตซึ่งเป็นโซ่ทองคล้องใจของราฟาเอล และแพรวพิชชามีอายุได้สามขวบแล้ว ความสวยที่ฉายแววมาตั้งแต่เล็กๆ นับวันยิ่งโดดเด่นจึงทำให้คุณพ่อหวงลูกสาวมากกว่าเดิม ส่วนลูกชายคนที่สองก็โตตามพี่สาวมาติดๆ รูปหล่อ น่ารักไม่แพ้พี่สาว ลูกหัวปีท้ายปีทำเอาคนเป็นพ่อแม่หัวหมุนไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับความสุขนั้นย่อมมีมากกว่า เป็นความวุ่นวายที่มีแต่รอยยิ้ม “แม่จ๋าเอลลี่อยากกินเยลลี่ค่ะ” สาวน้อยทำตาปริบๆ ออดอ้อนคุณแม่ท่าทางน่ารักน่าชัง “แต่เอลลี่เพิ่งจะทานขนมไปนะคะคนดี หนูหิวอีกแล้วเหรอคะ” แพรวพิชชาก้มมองลูกสาวที่กำลังยืนซบแก้มกอดขาเธอก่อนจะอุ้มขึ้นมาหอมแก้มยุ้ยๆ ด้วยความรักสุดหัวใจ เอลลี่น้อยของเธอชอบทานขนมเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะตามใจทุกครั้งที่เจ้าตัวร้องขอ ที่บอกว่าหิวน่ะบางครั้งก็ไม่ได้หิวจริงๆ แต่อยากทานมากกว่า “หิวค่ะ เอลลี่หิว” แพรวพิชชาอมยิ้ม เขี่ยจมูกน้อยๆ ด้วยจมูกของเธอ “หิวแบบไหนคะ ข้าวหรือขนม” “ขนมค่ะ” ตอบชัดถ้อยชัดคำแล้วใช้จมูกเล็กๆ หอมแก้มเอาใจคุณแม่ “เรานี่น้า” “แม่ค้าบ อุ้มแอรอนด้วย” “ครับลูก” แพรวพิชชาย่อตัวลงอุ้มลูกชาย มือน้อยๆ เกี่ยวคอคุณ
“เฮ้ย! แกเป็นใครวะมานอนกอดฉันแบบนี้ได้ไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะเว้ย!” ตอเรสโวยวายเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเจอชายแปลกหน้ากำลังยุ่มย่ามกับตนเอง “เสียงดังหาป้าแกเหรอ เดี๋ยวหลานก็ตื่นเพราะความขี้โวยวายของแกหรอก” ไรอันลุกขึ้นนั่งทั้งที่ตายังไม่ลืม ท่าทางสะลึมสะลือ ผมยุ่งไม่เป็นทรง “ช่วยแหกตาขึ้นมาดูก่อนได้ไหมวะไรอัน จะเสียตัวให้ไอ้ห่านี่อยู่แล้วแม่งเอ๊ย!” ตอเรสหน้าบึ้งจัด พลางผลักชายแปลกหน้าที่ส่งยิ้มให้ไปทางไรอันแล้วตัวเองรีบกระโดดหนี “หลับสบายไหมครับสุดหล่อ” เจคอปถามชายหนุ่มที่ตนซบไหล่อยู่เสียงนุ่ม “เฮ้ย! ไอ้หมอนี่มันเป็นใครวะตอเรส ท่าทางมันเหมือนชอบเพศเดียวกันเลยว่ะ” ไรอันหน้าตาตื่น ผลักหน้าขาวๆ ถอยหลังกรูดทันทีที่มีสติ เขาเกือบจะเสียจูบให้มันไปแล้ว “ไม่เหมือนหรอกมันใช่เลยไอ้เพื่อนโง่เอ๊ย! ส่วนแก เป็นใครวะ เข้ามาในบ้านเพื่อนฉันได้ยังไงฮะ ไม่ต้องยิ้มให้ฉัน ขนลุกไปหมดแล้วกู” ตอเรสรัวภาษาอังกฤษ “นี่พวกแกเสร็จเพื่อนน้องแพรวไปแล้วเหรอวะตอเรส ไรอัน” “คุณตอเรสกับคุณไรอันไม่นะครับ” โรมตามเจ้านายเข้ามาทำตาโต “เมื่อคืนพวกผมก็เกือบโดนเหมือนกันครับ แต่ดีที่รอดมาได้” แบรทเสริมพลางค้อนเจ้านาย “พี่ไรอันก
“เอลลี่จ๋าวันนี้หนูต้องอยู่บ้านกับพ่อสองคนนะครับ คุณแม่เขาจะทิ้งเราพ่อลูกไว้ที่บ้านแล้วตัวเองก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หนูอย่างอแงกับพ่อมากนะครับ” ราฟาเอลพูดกับลูกน้อยตัวหอมฟุ้งระหว่างรอเมียบรรจงแต้มเครื่องสำอางบนใบหน้าขาวผ่อง ก่อนหน้านี้เขานอนเล่นกับลูกบนเตียงแต่อยู่ดีๆ หนูน้อยก็แผดเสียงร้องไห้จ้าแบบไร้สาเหตุ พออุ้มพามาหาแม่ก็อารมณ์ดี ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ถ้าแม่ไม่อยู่ให้เห็นหน้าจะร้องไห้อีกหรือเปล่า “แม่ไม่ได้ทิ้งหนูจ้ะ คุณพ่อพูดเกินความจริงไปมาก” แพรวพิชชาหันกลับมามองสองพ่อลูกที่นั่งเฝ้าเธอแต่งหน้า พลางค้อนสามีไปหนึ่งที ดูเอาเถอะท่านประธานที่น่ารักของเธอ เมื่อคืนก็นึกว่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว แต่พอถึงเวลาที่เธอจะไปดันงอแงแข่งกับลูก ขอตีสักทีจะได้ไหม หน้างอใส่เธอตั้งแต่ตื่นนอนจนตอนนี้ “แอ้ๆ” เห็นคุณแม่คนสวยหันมาคุยด้วยเอลลี่น้อยก็ตอบโต้อย่างอารมณ์ดี ดวงตากลมโตจ้องกลับ ส่งเสียงอ้อแอ้ แกว่งแขน แกว่งกำปั้น เจื้อยแจ้วต เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากพ่อและแม่ ยามคุณพ่อเอาไรเคราถูตรงฝ่าเท้าน้อยๆ ก็หัวเราะ เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกินในสายตาแพรวพิชชา ก่อนรอยยิ้มจะมาสะดุดตรงประโยคคุณพ่อของลูก “ล
“แน่ใจนะคะว่าแค่อยากอาบน้ำให้เมีย” ดวงตาคู่งามมองสามี เธอรู้ทันเขาหรอก ถ้าไม่ติดว่าลูกกำลังกินนมอยู่ล่ะก็พี่จะจับน้องแพรวแก้ผ้าเดี๋ยวนี้เลย กระซิบชิดเรียวปากหวาน คว้าหมับเข้าที่เต้าอวบใหญ่ข้างที่เอลลี่ไม่ได้ดูดพลางบี้หัวนมแข็งคัดจนน้ำนมพุ่งออกมาจนเปรอะมือ ดวงตาเร่าร้อนมองสบตาเมียสาวแล้วเลียกิน “อร่อย” การกระทำดังกล่าวไม่ได้ทำให้คนเป็นเมียอายแต่อย่างใด “แย่งลูกกินทุกวันเลยนะคะคุณพ่อ”“แบ่งกันกินไงครับ ใช่ไหมลูก เราแบ่งกันได้ใช่ไหมคะ” ยิ้มพลางจูบแก้มลูกสาวด้วยความเอ็นดู “เอลลี่รักพ่อเลยไม่หวงพ่อ” “กินนมเมียเหมือนลูกต้องเชื่อฟังเมียด้วยนะคะ” แพรวพิชชายกมือขึ้นลูบแก้มสากของสามีเล่น “ทุกวันนี้พี่ก็เชื่อฟังเมียทุกเรื่องอยู่แล้ว” เสียงทุ้มกระซิบชิดเรียวปากบาง “เชื่อฟังอยู่คนเดียว” แกล้งงับแล้วดูดดึงกลีบปากล่าง จากนั้นค่อยๆ แทรกลิ้นเข้าไปกลืนกินความหวาน นานกว่าจะผละออกจากกัน “พรุ่งนี้แพรวขอพาเจคออกไปเที่ยวนะคะ” ไม่เชิงขออนุญาต เรียกว่าแจ้งให้ทราบ “แค่ในกรุงเทพนี่แหละค่ะ ไม่ได้จะไปไหนไกล เพราะรู้อยู่แล้วว่าสามีต้องไม่อนุญาต” แพรวพิชชาอมยิ้มประโยคสุดท้าย หลับตาพริ้มพิงอกกว้างของร่างสูงที่
ราฟาเอลอุ้มลูกสาวเดินพลางชวนคุยไปด้วย ตอนนี้อาจจะยังไม่เข้าใจแต่เขาเชื่อว่าลูกจะซึมซับได้ เขาสื่อสารกับเอลลี่ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เพราะต้องการให้แข็งแรงทั้งสองภาษา หลังจากทานอาหารเย็นด้วยกันทุกคนก็มารวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น มีโรมกับแบรทตามมาสมทบด้วย บทสนทนาส่วนใหญ่เวลานี้จึงผูกไว้ที่เจคอป และสองคู่หูดูโอ้ แบรท โรมที่จ้อไม่หยุดตั้งแต่มาถึง ด้านราฟาเอลกับแพรวพิชชาก็ให้ความสนใจลูกสาวมากกว่าจะร่วมวงคุย มีบ้างที่จะกล่าวเสริมสักสองประโยค “คุณแบรทกับคุณโรมดูสนิทกันมากเลยนะครับ ไม่ทราบว่าทั้งสองคนมีคนรู้ใจกันหรือยังครับ” เจคอปถามพลางจิ้มผลไม้ที่สาวใช้เพิ่งยกมาเสิร์ฟเข้าปาก โรมโบกมือ “ผมสองคนยังโสดสนิทครับคุณเจค ไม่มีเวลาไปจีบสาวที่ไหนหรอกครับ” “โสดแบบไม่ธรรมดาด้วยนะครับ โส๊ดโสด สาวๆ นี่ไม่แลพวกเราเลยล่ะครับ แล้วคุณเจคล่ะครับ แต่ผมว่าหน้าตาหล่อๆ เรียกสาวแบบนี้คงไม่โสดเหมือนพวกพวกผมหรอกใช่ไหมครับ” แบรทยิ้มขณะที่เจคขยิบตาท่าทางขี้เล่น “พี่ว่าไอ้สองตัวนี้ไม่ใครก็ใครที่จะโดนงาบ” ราฟาเอลกระซิบข้างหูเมียเสียงเบา “คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ พี่ราล์ฟน่ะพูดอะไรก็ไม่รู้” เท่าที่ได้ยินก็คุย