Beranda / รักโบราณ / เล่ห์แค้นจินฉาน / เข้าถิ่นตามธรรมเนียม 2

Share

เข้าถิ่นตามธรรมเนียม 2

Penulis: lianlian
last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-11 20:13:21

จินฉานใช้เวลาไม่นานนักในการแต่งตัวที่ตำหนักปีก จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังตำหนักเฟิ่งหวงพร้อมกับชุนเยี่ยน นางกำนัลที่ติดตามมาตั้งแต่แผ่นดินเกิด โดยมีขันทีประจำตำหนักใหญ่เป็นผู้อธิบายลำดับขั้นนางในของราชสำนักต้าเจวียน

“พระสนมเพิ่งมาที่ต้าเจวียนไม่นาน อาจไม่ทราบลำดับขั้นและธรรมเนียมของราชสำนักเรา เกรงว่าจะไปทำให้เหล่าพระสนมระดับสูงขุ่นเคืองพระทัยได้ จึงได้ให้กระหม่อมมาเรียนให้ทรงทราบล่วงหน้า หวังว่าท่านจะเข้าใจ”

เด็กสาวอมยิ้ม พยักหน้าช้าๆ เป็นเชิงตอบรับ ทำเอาขันทีอาวุโสลอบยิ้มพึงพอใจ จากนั้นจึงเริ่มอธิบายระหว่างที่เดินอยู่เส้นทางที่ทอดยาว

“ในราชสำนักต้าเจวียนนั้นนอกเหนือจากฮองไทเฮาที่มีฐานะเป็นพระราชมารดาของฮ่องเต้แล้ว ยังมีฮองเฮาเป็นประมุขฝ่ายใน จากนั้นจึงเป็น กุ้ยเฟย เฟย ผิน เหม่ยเหริน ไฉ่เหริน เป่าหลิน และฟูเหรินเป็นตำแหน่งต่ำสุดของพระสนม นายหญิงนั้นถึงแม้ยังมิได้ถวายการปรนนิบัติฮ่องเต้ แต่เนื่องเป็นราชนิกูลจากต่างแดน ฮ่องเต้จึงให้เกียรติเป็นพิเศษให้ท่านดำรงฐานะเหม่ยเหรินซึ่งเป็นตำแหน่งแรกๆ ของสนมที่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการไปก่อน แต่ถ้ากาลในภายภาคหน้าท่านเป็นที่โปรดปราน หรือมีวาสนาให้กำเนิดโอรสธิดาแก่ฝ่าบาท ตำแหน่งของท่านจะยิ่งเลื่อนขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน” เขาหยุดเว้นวรรคนิดหนึ่งแล้วจึงเอ่ยต่อ “โดยเฉพาะหลิวกุ้ยเฟย พระมารดาขององค์ชายสาม และ จินเฟย พระมารดาขององค์ชายห้าและองค์ชายเจ็ด ท่านต้องระมัดระวังกิริยาให้จงหนัก ทั้งสองเป็นพระสนมที่ฝ่าบาทโปรดปรานมาตั้งแต่กาลก่อน อีกทั้งยังมีโอรสเป็นที่พึ่งพิง นับว่ามีอิทธิพลเป็นรองเพียงฮองเฮา ขอทรงอย่าทำให้พระนางรู้สึกขัดเคืองพระทัย” กงกงผู้นั้นก็แจกแจงรายละเอียดปลีกย่อยของบรรดาสนมต่างๆ โดยเน้นถึงอุปนิสัยของฮองเฮาและเหล่าพระภรรยาเจ้าชั้นสูงที่ได้รับความโปรดปรานเป็นพิเศษ เห็นได้ชัดว่าได้รับคำสั่งมาจากฮ่องเต้ให้สนมหน้าใหม่ผู้นี้ระมัดระวังตนเองให้จงดี ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่าฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับสนมจากแดนไกลเพียงใด

จินฉานรับฟังเงียบๆ จนจบจึงเอ่ย “ขอบคุณกงกงที่ชี้แนะ ข้าเองมาจากบ้านป่าเมืองเถื่อน ถ้ามิได้กงกง เกรงว่าอาจปล่อยไก่เมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์อย่างแน่นอน” พลางปรายตาให้นางกำนัลที่ติดตามมาล้วงหยิบตลับเงินใบเล็กออกมา เมื่อเปิดออกดูก็เป็นก้อนทับทิมดิบขนาดเท่าไข่นกพิราบสองเม็ด “ป๋ายอี้เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ทว่าขึ้นชื่อเรื่องหนังสัตว์และมณีรัตนชาติเป็นอย่างยิ่ง ทับทิมดิบสองเม็ดนี้ถ้าทำไปเจียระไนดีๆ สามารถนำไปประดับหมวก ปลายด้ามแส้ปัด หรือจะประดับพู่ห้อยเอวก็นับว่าประเสริฐ ของกำนัลเล็กน้อยนี้ หวังว่ากงกงจะรับเอาไว้”

“ของล้ำค่าขนาดนี้ ข้าน้อยมิกล้ารับ” อีกฝ่ายด้วยท่าทีนอบน้อมเกรงอกเกรงใจอย่างยิ่ง ขณะที่ดวงตาหรี่เล็กนั้นมองทับทิมเม็ดนั้นด้วยดวงตาวาวระยับ จินฉานเพียงยกยิ้มเล็กน้อยแล้วหยิบตลับวางลงบนมือของกงกงผู้นั้นอย่างนุ่มนวล “คำแนะนำของกงกงที่มอบให้แก่ข้าในวันนี้มีค่าดังทองพันชั่ง ให้ข้าได้วางตัวในวังอย่างถูกต้องเหมาะสม สามารถเข้าถิ่นตามธรรมเนียมอย่างที่ฝ่าบาทเคยตรัสเอาไว้ จินฉานมาจากบ้านเมืองที่จวนเจียนล่มสลาย มิมีสิ่งใดตอบแทนสูงค่าไปมากกว่านี้ ขอกงกงโปรดรับไว้ด้วยเถิด”

หลีกงกงเมื่อได้ยินคำคะยั้นคะยอระคนถ่อมตนของระสนมตรงหน้าก็ให้เบิกตาอย่างตระหนก มิใช่ของตอบแทนสูงค่ามารดามันเถอะ! ทับทิมเพียงขนาดเท่านั้นก็สามารถซื้อเรือนสี่ประสานในเมืองหลวงได้หนึ่งหลังแล้ว ขันทีประจำตำหนักนี้เฉลียวฉลาดสักปานไหน ใช่ว่ามิเคยมีสนมลอบให้สินบนเขาเช่นนี้ ทว่ามีมากมายนับไม่ถ้วน แก้วแหวนเงินทอง สมุนไพรหายาก กระทั่งโฉนดที่ดินผืนงาม แน่นอนว่าการช่วยเหลือของเขานั้นเป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง แต่อยู่ที่ความสามารถและความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างนายเหนือหัวเองต่างหากที่เป็นปัจจัยหลัก มิเช่นนั้นต่อให้เอาเงินทองมากองอยู่ตรงหน้าเขา ขอร้องอ้อนวอนเพียงใดก็ไร้ประโยชน์ ทว่าตั้งแต่เมื่อครู่เขาลอบสังเกตการสนทนาระหว่างฮ่องเต้และสนมหน้าใหม่ผู้นี้มาโดยตลอด ดูจากท่าทีสนิทสนมเปิดเผยของทั้งสอง อีกทั้งท่าทีของหญิงสาวตรงหน้าที่รู้จักเข้าหาผู้คนแล้ว นับว่ามีไหวพริบไม่น้อย มีคำกล่าวว่านกดีมักเลือกกิ่งไม้เกาะ กิ่งไม้กิ่งนี้แม้สดใหม่บอบบางแต่ก็ทนทานพอที่ลูกนกลูกกาตัวนี้จะไปเกาะอาศัยได้ ถ้าอาศัยเขาที่เป็นขันทีของฝ่าบาทด้วยส่งเสริมอยู่ลับๆ มีหรือว่ากิ่งไม้กิ่งนี้จะไม่ยิ่งเติบใหญ่อย่างแข็งแรงและมั่นคงไปมากกว่านี้

คิดได้ดังนั้นหลีกงกงยื่นสองมือออกไปรับตลับเงินใบเล็กนั้นไว้ พร้อมเอ่ยขอบพระทัยอย่างพินอบพิเทา

...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - ตื่นจากภวังค์ฝัน 5

    “ชีวิตเจ้าที่ต้องทนทุกข์อยู่ในตำหนักเย็นแห่งนี้ยังอีกยาวไกล อย่าเพิ่งรีบร้อนปลิดชีวิตตนเอง”หญิงสาวช้อนตาขึ้นมองบุรุษที่นางเคยรัก เคยมีช่วงเวลาที่ตกอยู่ในบ่วงเสน่หาร่วมกัน เคยคาดหวังรอคอยถึงชีวิตคู่ที่อบอุ่นพร้อมหน้า ทว่าคนตรงหน้านี้กลับไม่เหลือเค้าของผู้ที่อยู่ในห้วงความทรงจำอีกต่อไป กลับเป็นบุรุษที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เป็นผู้ชายที่พร้อมจะสลัดนางออกไปจากชีวิตเพื่อลาภยศของตนอย่างแท้จริง...หลีอ๋องปล่อยให้อดีตคนรักมองเขาจนพอใจ เขาพรูลมหายใจอย่างนึกสมเพช จากนั้นจึงหันหลังค่อยๆ เดินจากไป หญิงสาวจ้องมองแผ่นหลังสง่างามของอีกฝ่ายเขม็ง ขบฟันกรืดกรอดจนแทบแหลกละเอียด ก่อนตัดสินใจเอ่ยเรียก“ท่านอ๋อง!”เมื่อหลีอ๋องหันกลับมาครั้ง หญิงสาวก็เข้ามาประชิดตัวแล้วทำให้มิอาจปัดป้องหลบหนี รู้ตัวอีกทีสองแขนของนางก็สวมกอดเขาไว้แน่นอีกครั้ง พร้อมริมฝีปากอิ่มที่ประกบเข้าที่ริมฝีปากของชายหนุ่ม เพื่อมอบจูบอ่อนหวานเฉกเช่นที่พวกเขาเคยถ่ายเทแลกเปลี่ยนเวลาลอบพบกัน...สายลมด้านนอกตำหนักปิงตี้เหลียนหวีดหวิวพร้อมพัดพาความหนาวเย็นเสียดกระดูก ทว่าฮ่องเต้และจินฉานก็ยังไม่มีทีท่าขยับ ราวกับรอ

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - ตื่นจากภวังค์ฝัน 4

    ...เนื่องจากนั่งอยู่ที่เก้าอี้กุ้ยเฟยเป็นระยะเวลานาน ขาทั้งสองข้างจึงไม่สามารถขยับเดินเหินได้ดั่งใจ จำต้องใช้แขนข้างหนึ่งยันตัวเองให้ลุกขึ้น ก่อนก้าวโผเผเข้าไปหา มือซึ่งทั้งสิบนิ้วสวมแหวนเงินเปรอะเปื้อนเลือดและน้ำเหลืองจากการกอดกล่องใส่ซากทารกมาเนิ่นนานตรงเข้าสวมกอดอีกฝ่าย ใบหน้าซุกซบลงกับอกกว้าง น้ำตาหลั่งริน “ดี...ดียิ่ง เป็นเช่นนี้แสดงว่าท่านได้คืนตำแหน่งอ๋องแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเราฮ่องเต้ยอมรับแล้วใช่หรือไม่? ที่ท่านมาวันนี้เพื่อมารับพวกเราแม่ลูกไปอยู่กับท่านใช่หรือไม่?”หลีอ๋องหรืออดีตต้าซืออู่คงมองเจ้าของริมฝีปากที่กล่าวพร่ำเพ้อไม่หยุดปากด้วยรอยยิ้ม..รอยยิ้มที่แสดงถึงความสมเพชสังเวชอย่างถึงที่สุด เขาผละจากอ้อมกอดอย่างนึกรังเกียจ ทว่าเนื่องด้วยจำเป็นต้องส่งยิ้มอบอบอุ่น ทั้งที่ในใจนั้นสุดแสนจะผะอืดผะอม จนรอยยิ้มที่พยายามปั้นออกมาดูพิลึกพิลั่น แต่หลีอ๋องยังคงเอื้อนเอ่ย “ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก ที่ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องหนึ่งอยากจะบอกให้เจ้าได้รับรู้”เซวียนเฟยพลันร่างกายแข็งทื่อ ดวงตากลอกไปมาท่าทางหวาดหวั่น นางจับมือเขาไว้แน่นแล้วพยายามดึงเขาให้เดินไปพร้อมกับนางพลางเอ่ยเพียงพร่า “ไ

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - ตื่นจากภวังค์ฝัน 3

    เซวียนเฟยช้อนตาขึ้นมองด้วยความฉงน แล้วเอ่ย “ข้าจะให้ลูกกินนม เขาหิวแล้ว เสียงร้องไห้ดังไปทั่ว เจ้าไม่ได้ยินเลยหรือ?”หยวนจิ่นขนลุกชูชันพลางหันรีหันขวางมองไปรอบๆ จนแน่ใจแล้วว่าไม่ได้ยินเสียงตามที่เซวียนเฟยกล่าวอ้างแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะใช้คำพูดตามจริงทำร้ายจิตใจ ได้แต่จัดสาบเสื้อที่ชุ่มไปด้วยเลือดและน้ำเหลืองที่ไหลซึมออกมาจากรอบฝากล่องของอีกฝ่ายให้เข้าที่ พยายามส่งยิ้มฝืดเฝื่อนแล้วกล่าวเสียงอ่อน “อาห์ ที่แท้นายหญิงต้องการให้นมองค์ชายน้อย แต่ว่าเท่าที่หม่อมฉันเห็น ท่านไม่ได้ดื่มน้ำและรับประทานอาหารอย่างเต็มที่มาหลายวันแล้ว เกรงว่าน้ำนมจะมีไม่เพียงพอ ท่านควรจะรับประทานอะไรบ้าง” ว่าพลางผละออกจากเซวียนเฟยอย่างแนบเนียน “อย่างไรเสียให้หม่อมฉันไปดูที่ห้องเครื่องเสียหน่อย ว่ามีอะไรพอให้นายหญิงรับประทานได้บ้าง ท่านรออยู่ตรงนี้ อย่าเพิ่งไปไหนนะเพคะ”เซวียนเฟยพยักหน้าช้าๆ ท่าทีสงบเสงี่ยมว่าง่ายนั้นทำให้หยวนจิ่นเบาใจ จึงเดินไปยังห้องเครื่องเพื่อเตรียมอาหารให้ตามที่ได้ว่าไว้โดยปล่อยให้เจ้านายของตนอยู่เพียงลำพังนาฬิกาน้ำที่วางอยู่ที่มุมห้องบ่งบอกเวลาว่าผ่านไปสองเค่อแล้ว อาจเป็นเพราะอา

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - ตื่นจากภวังค์ฝัน 2

    จินฉานร้องอาห์พลางพยักหน้าอย่างเข้าใจ จากนั้นจึงเอ่ยถามต่อ “แล้วต้าซืออู่คงล่ะเพคะ เป็นเช่นไรบ้าง”ฮ่องเต้เลิกคิ้ว “เหตุใดถึงอยากรู้”จินฉานเพียงยิ้มน้อยๆ กล่าว “วันก่อนหม่อมฉันได้ไปงานเลี้ยงน้ำชาที่ตำหนักของฟู่เหม่ยเหริน ได้ยินเหล่าพี่สาวน้องสาวเล่าลือกันว่าต้าซือร่วมสวดอำนวยพรให้พี่เซวียนเฟยไม่สำเร็จ ซ้ำยังทำให้นางให้กำเนิดสิ่งอัปมงคล ฝ่าบาททรงกริ้วนัก สั่งปลดต้าซือจากเจ้าอารามแล้วนำไปไต่สวน ลงทัณฑ์ทรมานสารพัด จนป่านนี้แล้วเสียงของต้าซือยังร้องโหยหวนออกจากฝ่ายราชทัณฑ์ไม่หยุด” จินฉานว่าพลางลูบแขนตนเองไปมา ท่าทางขนพองสยองเกล้า “หม่อมฉันฟังแล้วกลัวยิ่งนัก แต่เชื่อมั่นว่าฝ่าบาทมิใช่คนพระทัยโหดเหี้ยมปานนั้น เห็นว่าวันนี้เป็นโอกาสดี หม่อมฉันเลยทำใจกล้า ทูลถามฝ่าบาทโดยตรง”ฮ่องเต้จ้องมาที่อีกฝ่ายนิ่ง จนจินฉานขยับตัวอย่างรู้สึกอึดอัด “หม่อมฉัน...หม่อมฉันสมควรตาย ไม่ควรถามอันใดไร้สาระเช่นนี้”แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าช้าๆ ท่าทียังเอื้อเอ็นดูมิคลาย “เรามิได้จะตำหนิเจ้า แต่เรากำลังคิดว่าฟู่เหม่ยเหรินนี่เป็นสตรีปากมาก วาดขาเติมตาให้มังกรเก่งมาแต่ไหนแต่ไร ว่างๆ เราจะให้นางคัดตำราสักสิบจบน่าจะช่วยได

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - ตื่นจากภวังค์ฝัน 1

    ศพของทารกผู้นั้นลือกันว่าถูกนำไปฝังบริเวณลานทิ้งศพของเหล่านางกำนัลขันทีอย่างเงียบๆ ไร้นาม ไร้พิธีศพ ไร้การสถาปนายศหลังจากสิ้นพระชนม์ ไม่มีการกล่าวถึง ทั่วทั้งวังหลวงต่างปฏิบัติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคราวนั้นเป็นเพียงฝันร้ายตื่นหนึ่ง ไม่เคยมีตัวตนอันแสนอัปลักษณ์ที่เซวียนเฟยให้กำเนิดอุบัติขึ้นในตำหนักปิงตี้เหลียนมาก่อนช่วงนี้ฮ่องเต้มิอาจบรรทมที่ตำหนักใหญ่ได้ จึงได้แต่แวะเวียนไปยังตำหนักต่างๆ แต่สถานที่ที่ทำให้เขารู้สึกสงบใจลงได้อย่างที่สุดคงมีแต่งตำหนักผิงอันของอี๋ผิน ระยะหลังมานี้ถ้าไม่ต้องออกว่าราชการในตอนเช้า ก็มักจะขลุกอยู่แต่ในตำหนักผิงอัน โดยให้หลี่ฮุ่ยนำฎีกามาอ่านที่ตำหนัก ซึ่งจินฉานเองก็มิได้ทำสิ่งใดเป็นการรบกวนให้รำคาญใจ หลังจากชงชากาหนึ่งถวาย ก็มักจะหาหนังสือมาอ่าน ไม่ก็หางานฝีมือมาทำอยู่ไม่ห่างกัน ใช้เวลาร่วมกันยาวนานหลายชั่วยามอย่างสงบจากนั้นจึงร่วมรับประทานอาหารกลางวันและเย็น จากนั้นจึงให้จินฉานถวายการปรนนิบัติฮ่องเต้แล้วเข้าบรรทม เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องนานนับครึ่งเดือนจนกลายเป็นภาพชินตาวันหนึ่งท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มหนาวเย็นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบเฟิงจากต้นเฟิงที่ปลูกอย

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   เรื่องราวในวังที่มิได้เล่าขาน - เด็กน้อย 4

    “แต่ว่าพี่หญิงเซวียนเฟย...” จินเฟยเอ่ยแย้งเสียงเบา ทว่าฮ่องเต้ไม่มีท่าทีเคืองโกรธ กลับยินยอมอธิบายโดยดี “ห้องคลอดเป็นเรื่องของหมอตำแยและตัวผู้เป็นแม่ของเด็ก พวกเรารออยู่เช่นนี้ก็มิอาจเข้าไปช่วยเหลืออันใดได้ สู้ไปอยู่ที่อื่น อย่าได้เกะกะพวกเขาทำงานอีกเลย”ฮองเฮาและจินเฟยแม้จะรู้สึกไม่เห็นด้วย แต่ก็มิได้กล่าวอันใดมากความเนื่องด้วยมิใช่ธุระปะปังอันใดของตนไม่ เพียงแค่รับคำอย่างสำรวม แล้วเดินตามฮ่องเต้ไปยังตำหนักปีกอีกที่ ยิ่งเดินเสียงของเซวียนเฟยที่กำลังอยู่ในช่วงเป็นตายยิ่งห่างไกลลงไปทุกที สุดท้ายตำหนักปีกที่เคยเงียบสงบนั้นก็อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่ชื่นมื่นไร้กังวลจนเสียงชุลมุนวุ่นวายของตำหนักส่วนกลางนั้นถูกกลบไปเสียสิ้น...ทว่าบรรยากาศรื่นรมย์นั้นก็ถูกกลบด้วยเสียงกรีดร้องจากตำหนักกลาง จินฉานเพียงปรายตาไปมองยังประตู พลันเห็นหยวนจิ่น นางกำนัลคนสนิทของเซวียนเฟย วิ่งเข้ามาในตำหนักปีกอย่างลืมสำรวมกิริยา สุดท้ายเข่าสองข้างพลันอ่อนยวบทรุดลงเบื้องหน้าฮ่องเต้และฮองเฮาที่หยุดเดินหมากกลางคัน ก่อนฟุบหน้าลงกับพื้นกราบทูลเสียงสั่นเครือจนเหมือนกับจะร้องไห้ “กราบทูลฝ่าบาท กราบทูลฮองเฮา นายหญิง...นายหญิง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status