ด้วยที่เพื่อนรักทั้งสองมีรูปร่างที่ใกล้เคียงกัน พฤษา หรือเมย์ เป็นหญิงไทยปนเชื้อจีน รูปร่างที่สูงโปร่ง ที่ความสูง 169 เซนติเมตร ผิวขาวออกแดง หน้าตาน่ารัก ตาโต ใครเห็นต่างก็ชอบ ผมดำเป็นลอนตรงปลาย ยิ่งทำให้เธอสวยเป็นพิเศษ และที่สำคัญเธอเป็นดาวคณะ และเรียนดีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วย
ส่วนลดาเป็นลูกเสี้ยว ญี่ปุ่น ไทย รัสเซีย สูงที่ 172 เซนติเมตร เพื่อนรักทั้งสองที่มีความสวยที่กินกันไม่ลง แต่ลดามีความออกโซนยุโรปหน่อยๆ จึงทำให้เธอคล้ายลูกครึ่ง และด้วยนิสัยของเธอก็เป็นคนที่โผงผาง พูดจากตรงไปตรงมา บุคลิกของคนที่มีหัวสมัยใหม่ เธอจึงเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงแก่นๆ และเธอก็เป็นคู่ดาวคณะของเมย์ด้วย เธอเรียนดีไม่แพ้เพื่อนรักของเธอเช่นกัน
เพื่อนรักทั้งสองต่างมีหนุ่มๆ หมายปองและตามแจกขนมจีบไม่เว้นแต่ละวัน แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ต้องการที่จะมีแฟน โดยเฉพาะ เมย์ ที่เธอจะตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ เพราะปัญหาที่บ้านก็มากพออยู่แล้ว เธอจึงไม่ต้องการที่จะเพิ่มปัญหาใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตของเธออีก นั้นจึงทำให้ เมย์ ไม่ยอมคบใคร
ลดารู้เรื่องของเพื่อนคนนี้ดี เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนรักกัน มีเรื่องอะไร เมย์มักจะเล่าให้เธอฟังเสมอ เช่นเดียวกับลดาที่มักจะเล่าเรื่องราวของเธอให้เพื่อนคนนี้ฟัง รวมถึงเรื่องของน้าเล็กของเพื่อนคนนี้ ลดาก็มักจะเล่าให้เธอฟังอยู่เสมอ เพียงแค่ทั้งสองคนยังไม่เคยไปบ้านของกันและกัน
บริเวณลานจอดรถของโรงแรม
ท้ายรถสปอร์ตยุโรปหรูสีขาวคันงาม ลดาเปิดท้ายรถยนต์ด้วยรีโมตไฟฟ้า พร้อมกับก้าวเข้าไปหยิบถุงที่มีชุดเดรสอยู่ด้านใน
“นี้ค่อยเหมาะกับเธอ เจ้าของงานวันเกิดสุดสวย ฉันซื้อมาให้เธอเพื่อเป็นของขวัญ เธอต้องใส่มันในคืนนี้” ลดายื่นถุงกระดาษใบใหญ่ที่มีชุดที่เธอซื้อมาให้กับเมย์
เมย์ รับถุงมา จากนั้นเธอเปิดดูด้านใน พร้อมใช้มือจับดูเนื้อผ้า เธอรู้ได้ทันทีว่านี้เป็นผ้าเนื้อดี ราคาไม่ต่ำกว่าครึ่งหมื่นอย่างแน่นอน แต่เธอจะรับของราคาแพงอย่างนี้ได้ยังไงกัน
“นี้มันแพงมากเลยนะ ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกดา”
“ไม่ต้องพูดมากเลยเธอน่ะ เธอเป็นเพื่อนรักฉัน แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ให้เธอบ่อยๆ สักหน่อย” ลดาทำหน้าทำตา เป็นเชิงบอกว่าหากเธอไม่รับเธอตายๆๆๆ
“ไป เข้าไปข้างในกัน เดี๋ยวฉันพาเธอไปเปลี่ยนชุดเอง ขืนแต่งชุดนี้เข้างาน เขาก็ว่าฉันพาใครมาหรอก เธอดูชุดที่ฉันใส่สิ เธอจะไม่ใส่เป็นเพื่อนฉันอย่างนั้นเหรอ” ลดาพูดไป มองตาเพื่อนสาวปริบๆ ไป
ก็ชุดที่เธอใส่มันเป็นชุดออกงานกลางคืนเลยก็ว่าได้ แต่ที่เพื่อนเธอใส่มาวันนี้ มันเหมือนชุดที่กำลังไปกินไอศกรีมในห้าง มันจะเข้ากันได้ยังไงก่อน!
“ก็ได้ ก็ได้ แต่ต่อไปไม่ต้องซื้อของราคาแพงๆ อย่างนี้ให้ฉันอีกนะ ฉันไม่รู้ว่าจะใส่มันไปงานไหนได้อีก”
“จ้า แม่คนประหยัด”
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินกลับเข้าไปในโรงแรม และตรงไปยังห้องน้ำ
เมย์ รู้ว่าลดาเป็นลูกคุณหนูมีตังค์ ดูจากรถยนต์ที่เธอใช้ก็รู้ แต่ลดามักจะทำตัวเป็นคนปกติทั่วไป ไม่ได้อวดรวยอะไร แต่ด้วยของใช้ที่เธอมีก็พอจะดูออกว่าเธอนั้นต้องไม่ธรรมดา
เมย์ไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องทางบ้านของลดามากนัก เพราะลดาไม่ค่อยกลับบ้าน ถึงแม้พวกเธอทั้งคู่จะชอบคุยเรื่องส่วนตัวของกันและกันให้ฟังก็ตาม รวมถึงลดาชอบอยู่คอนโด ลดายังรับงานเขียนแบบ และออกแบบภายในอาคารเพื่อหาเงินค่าขนมใช้เองด้วย
เธอมักจะหางานเหล่านี้มาให้เมย์ทำด้วย เมย์จึงพอมีรายได้จากการรับเขียนแบบและออกแบบภายในอาคาร ที่ลดาเพื่อนรักป้อนให้
เมย์และลดา ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากันในวันปฐมนิเทศ ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ทั้งคู่ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันและรักกันมาก จนลดาอยากที่ยกน้าเล็กของเธอให้กับเมย์เพื่อนรัก ติดที่ทั้งคู่ก็ไม่อยากมีแฟน ต่างกันตรงที่ หน้าเล็กของเธอยังคงมีสาวๆ เข้ามาพัวพันอยู่ตลอดเวลา แต่กับเมย์ที่ไม่มีชายได้ให้เธอสนใจได้เลย
“เสร็จหรือยังแม่คุณคนสวย เพื่อนๆ ที่ห้องจัดเลี้ยงรอเรานานแล้วนะจ๊ะ” ลดาร้องเรียกเพื่อนสาวที่แต่งตัวภายในห้องน้ำ
“เสร็จแล้วๆ” เมย์ เปิดประตูออกมา
เธอยืนอยู่ตรงหน้าลดาเพื่อนรัก ด้วยชุดเดรสสีชมพูอ่อน เปิดไหล่กว้างชนิดที่เห็นเนินอกขาวๆ ของเธอ โชว์เนื้อหนังด้านหลังของเธอจนถึงเอวคอด โดยมีเส้นเชือกเส้นเล็กๆ เกี่ยวทับกันอยู่ด้านหลังและพาดที่หัวไหล่ของเธอเส้นละข้างเท่านั้น มันเป็นเส้นเชือกที่เป็นเพียงตัวช่วยพยุงไม่ให้เสื้อของเธอหลุดออกจากตัวเธอได้เป็นพอ
จนลดาเองที่เป็นผู้หญิงด้วยกันยังอดที่จะมองไม่ได้ ไปยังสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้
ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่บ้านเก่าของเมย์ เวลารับประทานอาหารเย็นของที่บ้าน มีปราบยุทธพ่อของเมย์ กันยนา แม่เลี้ยง เพ็ญนีติ์น้องสาว และนดลน้องชาย ทั้งสองถูกกันยนาผู้เป็นแม่เรียกตัวให้กลับบ้าน เพราะปีใหม่ทั้งคู่ไม่ยอมกลับบ้านเลย และผู้เป็นพ่อก็มีเรื่องที่จะต้องคุยกับลูกๆ หลังทานอาหารเย็นเสร็จ ปราบยุทธ ผู้เป็นพ่อเริ่มบ่นให้ลูกชายคนเล็ก ที่เรียนไม่จบ เพราะนี้เข้าปีที่ 5 แล้ว แถมค่าเทอมก็แสนที่จะแพง เพราะลูกชายเรียนเอกชนสาขานิเทศศาสตร์เช่นเดียวกับพี่สาว แต่พี่สาวเรียนจบตามหลักสูตร และได้งานในวงการบันเทิงแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวและลูกชายที่เกิดจากภรรยาใหม่ของเขาเข้าเรียนระดับปริญญาตรี เขาต้องบากหน้าเขียนอีเมลขอเงินจากลูกสาวคนโตเพื่อเป็นค่าเทอมให้กับพวกเขา หลังจากที่เขาไม่ได้ติดต่อลูกสาวคนนี้ตั้งแต่ที่เธอบอกว่าเธอกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และไม่ยอมบอกว่าใครเป็นพ่อของเด็ก ทำให้ปราบยุทธโกรธ และไม่ยอมให้เมย์นำนามสกุลของเขาไปใช้กับหลานๆ เพราะเชื่อคำพูดของกันยนาว่าเมย์ทำให้ครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง การส่งอีเมลไปขอเงินเมย์เพื่อจ่ายค่าเทอมน้องๆ ทำให้ปรายุทธค่อนข้างเสียหน้าแต่ก
กลับมาที่โต๊ะรับประทานอาหาร เมย์ที่ดูบรรยากาศของครอบครัวคิระ เธอรู้สึกอิจฉาที่เขามีคุณพ่อคุณแม่ที่ใจดี ลดาที่มีคุณตาคุณยายที่น่ารัก เธอมองมาที่ลูกๆ ของเธอที่เธอไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะมีคุณปู่คุณย่า และตัวเธอเองที่ตอนนี้ มีคนเรียกเธอว่าลูก และให้เธอเรียกพวกเขาว่า แม่! พ่อ! มันเป็นบรรยากาศของครอบครัวที่เธอไม่เคยได้พบเจอเลยตั้งแต่ที่แม่เธอเสียชีวิตไป!!! “ลูกเมย์ ... มานั่งกับแม่และพ่อทางนี้ ไม่ต้องไปสนใจเจ้าเล็กมัน ปล่อยมันนั่งคนเดียวทางโน้นไปเลย คนอย่างเจ้าเล็กต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง” คุณญาณินจัดที่นั่งให้ลูกสะใภ้ป้ายแดงของเธอทันที เมย์ที่มัวแต่คิดนั้นโน้นนี้ และเธอไม่อยากจะเชื่อว่านี้จะเป็นเรื่องจริง “ลูกเมย์ ... ลูก! เป็นอะไรหรือเปล่าลูก” คุณญาณินที่เห็นเมย์เหม่อ ไม่ตอบอะไรเธอ ขณะที่เมย์เดินมาตามคำสั่งของเธอ “ค่ะ ... คุณยาย” เมย์ที่หลงลืมเรียกคุณยายเหมือนเดิมตามที่เคยเรียก คุณญาณินตีไปที่มือเล็กๆ ของหญิงสาวที่ยังไม่ยอมเรียกเธอว่าแม่เบาๆ พร้อมยิ้มหวานให้เธอ “ลูกเมย์ ... จะเรียกคุณยายไม่ได้แล้วนะ ต้องเรียกแม่ถึงจะถูก” “อือ ...ค
คิระกลัวว่าแม่จะรับที่เขาพาผู้หญิงที่ท้องก่อนแต่งไม่ได้เช่น “แก ... แกควรจะพาพวกเขามาให้ฉันตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว!!!! แกมัวทำอะไรอยู่ตาเล็ก แกมันช่างเป็นผู้ชายที่ใช้ไม่ได้เอาซะเลยจริงๆ” คุณญาณินพูดในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด เธอเริ่มที่จะเข้าข้างลูกสะใภ้แล้วจริงๆ “หา!!! … แม่หมายความว่าว่าไงนะครับ” คิระงงในงงจากประโยคที่คุณนายแม่ประจำบ้านพูดออกมา พร้อมกับหางตาที่มองลูกชายเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ไม่ใช่แค่คิระที่งง แม้กระทั่งลดาก็งงไม่ต่างกัน เธออ้าปากค้าง เจ้าเด็กแฝดทั้ง 2 ก็ทำตาโต ที่เห็นคุณย่าญาณินยอมรับลูกสะใภ้รวดเร็วทันใจ “จะงงอะไร แกมันเจ้าจอมวายร้าย ทำร้ายหนูเมย์และเด็กๆ อย่างนี้ได้ยังไง ... โถๆๆๆ ... หนูเมย์ ... มาหาแม่มะ อย่าไปยุ่งกับผู้ชายอย่างเจ้าเล็กมันเลย” เธอเปลี่ยนจากที่แทนตัวเองว่ายาย มาเป็นแม่ในทันทีทันใด ตอนนี้คุณญาณินเล่นใหญ่ เดินออกมาลากลูกสะใภ้ให้ไปหาตนพร้อมกับตีไปที่ข้อมือของลูกชายที่กอดไหล่หญิงสาวไม่ยอมปล่อย “แม่!!!” “จะมาแม่อะไร!!! ... แกนั้นล่ะที่ผิด ทิ้งลูกทิ้งเมียไป ทำให้พวกเขาต้องลำบาก และทำให้ฉันและพ่อของแกเป็
คิระยิ้มให้ผู้เป็นแม่ และคำตอบที่เล่นเอาเมย์ไปไม่เป็น “คุณแม่ต้องการลูกสะใภ้และหลานไม่ใช่หรือไงครับ ...อุ๊ปปปป” คิระถูกอุดปากด้วยมือน้อยๆ ของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเขา แต่มีหรือเขาจะหยุด พูดมาซะขนาดนี้แล้ว เขาจับมือทั้งสองข้างของเมย์ด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา เขารวบมันมาไว้ได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็พูดต่อ “ผมก็พาลูกและเมียมาให้คุณแม่นี่ไงครับ” คิระที่พูดเหมือนที่เล่นที่จริง แต่เมย์ที่กำลังปัดป้องไหล่ของตัวเองอยู่ก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับ “ตาเล็กแกอย่าเอาหนูเมย์มาพูดพล่อยๆ อย่างนี้นะ คนนี้แม่หวง หนูเมย์เป็นคนดี และน่าสงสาร ถูกผู้ชายเลวๆ ทิ้งให้ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวก็น่าสงสารพออยู่แล้ว แกจะมาทำให้หนูเมย์เสียใจ และเล่นตลกกับหนูเมย์ไม่ได้ ถึงแกจะเป็นลูกฉันก็เถอะ ... มาลูก ... เมย์มาหายายทางนี้ ไม่ต้องไปสนใจเจ้าเล็กมัน” คุณญาณินที่ไม่ได้เข้าข้างลูกชายตัวเอง เธอยังคงคิดว่าลูกชายเล่นตลกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องแต่งงาน และหาลูกสะใภ้ ที่เธอชอบมาให้ก็เท่านั้น และเธอก็ชอบหนูเมย์อยู่แล้ว “ถูกผู้ชายเลวๆ ทิ้ง ฮึฮึฮึ!!!” คิระที่ได้ยินประโยคที่คุณแม่บังเกิดเกล้าพูด ย้ำข้างๆ หูของหญิง
“สวัสดีค่ะคุณตาคุณยาย ยินดีที่ได้พบนะคะ” เมย์ทักทายผู้ใหญ่ในบ้านอย่างสุขภาพ “หนูเมย์ไม่ต้องเป็นทางการอย่างนี้ก็ได้ลูก ... มะ ลูกมานั่งกับยายทางนี้” คุณญาณินที่เตรียมที่นั่งข้างๆ ไว้ 1 ที่เพื่อให้เมย์มานั่งข้างเธอ เมย์ที่กำลังจะเดินไปหา ยังไม่ทันได้ก้าวขาที่ 2 ออกไป มือใหญ่ และยาวของชายที่อยู่ระหว่างเธอกับเจ้าวัน ก็โอบรวบมาที่ไหล่ของเธอพร้อมหันมาทางเธอ “คุณจะเรียกคุณตาคุณยายได้ยังไงคุณเมย์” คิระที่เริ่มจะแสดงในสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจ โดยเฉพาะเมย์ เขาตกลงกับเธอแล้วว่าจะไม่บอกใครในช่วงนี้ และเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน รอเธอพร้อมกว่านี้ เมย์ที่ถูกบังคับให้หยุดไม่ให้เดินต่อ เธอทำตาโตใส่ชายที่กำลังจะพูดในสิ่งที่เธอห้ามเขาเอาไว้ “คุณเล็ก!!! …. หยุดเลยนะ” คิระยิ้มน้อยๆ ให้เธอ “คุณนั้นล่ะหยุดเรียกคุณตาคุณยายเหมือนยัยดาได้แล้ว ต้องเรียกคุณแม่กับคุณพ่อสิถึงจะถูก” คิระมองไปที่หน้าของชายหญิงที่เป็นพ่อกับแม่เขา ที่ตอนนี้อึ้งจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เมย์พูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองหน้าผู้ชายที่ผิดคำพูดกับเธอ เธอมองสลับกับคนอื่นๆ ที่อยู่ที่โต๊ะอาหารในตอนนี้
“แก่อิจฉาได้แม้กระทั่งเด็กนะยัยดา หากแกย่อส่วนตัวเองเท่ากับหนูปี หนูวันได้ ฉันก็จะเอ็นดูแกอีกครั้ง” คุณญาณินพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ก็เธอต้องการเด็กๆ ไม่ใช่คนที่อายุมากเท่าหลานสาวที่ปาเข้าไป 31 ปีอย่างลดาแล้วนี่สิ คุณญาณินเลิกสนใจหลานสาวตัวโต หันมาให้ความสนใจหลานชายตัวน้อยแทน “นี้ปีใหม่ใช่ไหม?” “ครับ ... ผมปีใหม่” “นี่ก็วันใหม่ ... อือ... ทำใหม่ยายรู้สึกคุ้นหน้าเราจังเลยลูก?” คุณญาณินเห็นหน้าเจ้าวันรู้สึกคุ้นเคยอย่างไม่รู้ตัว แต่ก็นึกไม่ออก เธอหันไปถามสามีอันเป็นที่รัก “คุณว่าเจ้าวันหน้าเหมือนใครคะ ดูคุ้นตามาก” “อือ ...” คุณฮารุที่กำลังพินิจพิเคราะห์ก็พลันนึกออก “หน้าเหมือนเจ้าเล็กตอนเด็กๆ เลย” คุณญาณินที่กำลังใช้มือทั้งสองจับไปที่แก้มของเด็กชายเพื่อพิจารณาใบหน้านี้ “อะ!!!! ใช่จริงๆ ด้วย ...เหมือนกันจริงๆ เหมือนเจ้าเล็กย่อส่วนลงมาเป็นเด็ก 10 ขวบเลย” ลดา และเจ้าปีใหม่ต่างหันมามองหน้ากันและพากันอมยิ้ม “ดาก็ว่าอยู่ค่ะ ว่าเจ้าวันเหมือนใคร เหมือนน้าเล็ก จริงๆ ด้วยสิคะ หากบอกว่าเป็นลูกน้าเล็กดาก็เชื่อนะคะเนี่ย!!