"จะดีหรือลูกที่ชายแดนนั้นลำบากมากนะถิงเอ๋อร์ลูกจะไปอยู่ได้เยี่ยงไร" มารดาของนางถามด้วยความสงสารบุตรสาว เกิดเรื่องที่งานเลี้ยงขึ้นนี้ลูกสาวของนางถึงขั้นไม่อยากอยู่ที่เมืองหลวงแล้วหรืออย่างไร
"ท่านแม่ข้าอยู่ได้เจ้าค่ะขอเพียงแค่ที่ไหนมีพวกท่านข้าอยู่ได้ทุกที่และลูกจะทำการค้าด้วยเจ้าค่ะจะหาตำลึงช่ายท่านพ่อกับพี่ใหญ่อีกทางหนึ่งให้ท่านแม่นั่งอยู่จวนสวยๆรอท่านพ่อกลับมาที่บ้านก็พอ" นางตอบออกไปเพราะว่านางจะทำการค้าจริงๆไม่ได้โกหก "ถิงเอ๋อร์ไม่ต้องลำบากหรอกลูกพ่อกับพี่ใหญ่เลี้ยงลูกให้สุขสบายได้ ส่วนเรื่องแม่ทัพเผิงเย่หาวนั้นพ่อจะให้พ่อบ้านออกเทียบเชิญเขามาหารือดูว่าท่านแม่ทัพจะยอมถอนหมั้นกับลูกหรือไม่ เรื่องนี้ต้องคุยกันทั้งสองฝ่ายให้เข้าใจต่อไปพ่อกับแม่จะไม่บังคับลูกสาวตัวน้อยของพ่ออีกว่าแต่ลูกจะทนได้หรือว่าถ้าข่าวถอนหมั้นของลูกกับท่านแม่ทัพหลุดออกไปถิงเอ๋อร์ของพ่อจะไม่อายคนที่เมืองหลวงแห่งนี้คนที่นี้เขาถือเรื่องหน้าตาเป็นหลักหรือ" บิดาถามบุตรสาวย้ำอีกครั้งให้มั่นใจเพราะถ้าเกิดคุยกันแล้วจะกลับมาทำตัวเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไปเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาบุตรสาวเป็นคนวิ่งตามคู่หมั้นหนุ่มมาตลอดนับตั้งแต่ปักปิ่น แต่วันนี้บุตรสาวกับบอกว่าไม่ต้องการจะมีคู่หมั้นอย่างแม่ทัพเผิงเย่ห่าวอีกต่อไปจึงทำให้ทุกคนยังไม่ปักใจเชื่อนางสักเท่าไร "ท่านพ่ออย่าได้เป็นห่วงลูกในเมื่อคนเราไม่ได้รักกันแต่งงานกันไปมันก็ไม่มีความสุขหรอกเจ้าค่ะ และข้าไม่ต้องการที่จะเป็นเมียหลวงที่สามีนั้นมีเมียสองเมียสามมาให้ปวดหัวสู้ข้าอยู่คนเดียวเสียยังจะดีกว่า ข้าจะหาสามีแต่งเข้าบ้านสักคนก็ได้เอาที่เขารักข้าจริงๆเจ้าค่ะ ข้าพอแล้วกับการที่วิ่งตามหาคนที่เขาไม่เคยสนใจใยดีในตัวของข้าเลย อีกทั้งไม่เคยปกป้องข้ามีแต่คอยซ้ำเติมว่าข้านั้นทำตัวร้ายกาจทั้งที่ข้าเองวิ่งตามเพียงเขาคนเดียวและร้ายเพราะพวกนางทั้งหลายที่วิ่งตามเขาที่เป็นคู่หมั้นของข้า จนกลายเป็นหญิงที่ร้ายกาจในเมืองหลวงนี้ยังไงละเจ้าคะท่านพ่อ ในเมื่อเขาหาได้มีใจให้บุตรสาวที่น่ารักของท่านพ่ออย่างข้านั้น ข้าหาใหม่ไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะยิ่งตอนนี้ท่านพ่อกับพี่ชายนั้นได้พักตั้งหลายเดือนข้าว่าพวกเราเดินทางลงใต้กันดีไหมเจ้าค่ะท่านพ่อ ข้าอยากไปค้าขายกับพวกชาวตาฟ้าที่ล่องเรือมาขึ้นฝั่งที่ทางใต้นั้นมีแต่สิ่งแปลกใหม่ๆกันทั้งนั้นเลยเจ้าค่ะข้าอยากจะไปดูสักครั้งในชีวิตนี้เจ้าค่ะ" นางบอกในสิ่งที่ตัวเองต้องการที่สุดในตอนนี้ให้บิดามารดาพี่ชายของนางได้รับรู้ สามพ่อแม่ลูกมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าเรื่องที่บุตรสาวคนเล็กบอกมาทั้งหมดในวันนี้ "เอาละเป็นอันว่าถิงเอ๋อร์ยืนยันว่าจะให้พ่อคุยกับแม่ทัพเผิงเย่ห่าวเรื่องการถอนหมั้นก่อนใช่ไหมลูก รออีกไม่กี่วันเดี๋ยวพ่อจะให้พ่อบ้านส่งเทียบเชิญไปที่จวนของแม่ทัพเผิงเย่ห่าวก่อน แต่ที่ชายแดนใต้มีการหาลือเรื่องของการเพราะปลูกไม่ค่อยจะขึ้นสักเท่าไรทำให้ชาวบ้านทางใต้นั้นลำบากกันไม่น้อยเพราะน้ำทะเลที่เค็มมากฝ่าบาทเองก็ไม่นิ่งนอนใจ ส่งขุนนางลงไปก็หลายครั้งแต่ไม่เคยได้ผลเลยพ่อกับพี่ใหญ่ของลูกยังคิดว่าจะได้ลงไปชายแดนใต้หรือเปล่ายังไม่รู้ มีคนถวายฎีการายชื่อของพ่อกับพี่ใหญ่ของลูกขึ้นกราบทูลฝ่าบาทไปเหมือนกันเพราะเห็นพ่อกับพี่ใหญ่ของลูกมาที่เมืองหลวงนี้เกือบเดือนแล้ว เพียงแค่พ่อติดลาพักจากการจบศึกสงครามอยู่ระหว่างพักจึงทำให้ฝ่าบาทยังไม่ออกราชโองการเรื่องชายแดนทางใต้" บิดาของว่านลี่ถิงบอกกับคนในครอบครัวของตัวเองด้วยความหนักใจผิดกับอีกคนที่พอได้ยินกับยิ้มเต็มหน้าดี๊ด๊าอย่างชอบใจ "ท่านพ่ออย่าได้กลัวขอให้ทุกคนจงเชื่อข้าว่าจะสามารถช่วยท่านพ่อกับพี่ใหญ่ได้อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ ท่านพ่อท่านแม่เจ้าคะในระหว่างที่ลูกอยู่ในน้ำเกือบเข้าประตูปรโลกลูกได้หลุดเข้าในอีกโลกใบหนึ่งข้าได้เห็นการเจริญรุ่งเรืองมา น่าตื่นเต้นมากเลยเจ้าค่ะท่านพ่อท่านแม่พี่ใหญ่ได้ยินเหมือนท่านย่าบอกว่าถิงเอ๋อร์จงจดจำเอาไว้ให้หมดเพื่อวันหนึ่งเจ้าจะได้นำกลับไปช่วยผู้คนและครอบครัวเจ้าค่ะท่านแม่ท่านพ่อ" นางทำน้ำเสียงสั่นคลอพอพูดถึงเรื่องที่ตัวเองพบเจอมาให้ครอบครัวได้ฟัง "โถ่ลูกแม่ " มารดาของนางกอดบุตรสาวด้วยความเสียใจสองพ่อลูกเองต่างก็ทั้งตกใจที่ได้ฟังในสิ่งที่บุตรสาวเล่ามาในเช้าวันนี้ จึงทำให้สองแม่ทัพพ่อลูกตัดสินใจถ้ามีราชโองการลงมาจะต้องเดินทางลงใต้จะพาสองแม่ลูกลงไปด้วยพวกเขาเกือบจะเสียลูกสาวไปเพราะความอิจฉาชองคุณหนูในเมืองหลวงนี้เสียแล้ว ในเมื่อนางบอกว่าทำใจเรื่องคู่หมั้นได้แล้วทั้งสามคนก็ไม่คิดจะทัดทานบุตรสาวตัวน้อยอีกต่อไป จากนั้นนางจึงบอกบิดามารดารวมถึงพี่ชายเรื่องมิติที่ติดตัวนางมาหลังจากที่ฟื้นตื่นขึ้นมามารดาถึงกับร้องโฮออกมาในสิ่งที่นางเห็น สิ่งของที่บุตรสาวนำออกมาให้ทุกคนได้ดูว่าสิ่งที่นางเล่ามาคือเรื่องจริงเพราะความรักที่ว่านลี่ถิงคนใหม่มองเห็นว่าครอบครัวนี้รักนางจากใจจริง นางจึงไม่คิดจะปิดบังพวกเขาเพียงแต่นางไม่บอกว่าบุตรสาวที่น่าสงสารของพวกท่านนั้นได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว แพรวาคิดว่าจะช่วยครอบครอบใหม่นี้ให้ร่ำรวยและช่วยคนที่ลำบากกว่าครอบครัวของนางนั้นคือชาวบ้านในชายแดนใต้นี้เพื่อจะทำบุญไปให้เจ้าของร่างเดิมให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี ที่นางมาสวมร่างนี้ได้เพราะร่างเดิมนั้นยินยอมหลอมรวมดวงจิตเข้าด้วยกันแล้วนั้นเอง หลังจากวันนั้นที่เล่าเรื่องให้ครอบครัวของตัวเองได้ฟังว่านลี่ถิงยังไม่ได้ออกไปนอกจวนอีกเลย ข่าวลือในเมืองหลวงเรื่องท่านแม่ทัพนั้นช่วยคุณหนูฟางเจี้ยนผิงแทนคู่หมั้นของตัวเองนั้นลือมาถึงจนตอนนี้คุณหนูว่านลี่ถิงนั้นถูกคู่หมั้นนอกใจเพราะทำตัวร้ายกาจที่ชอบทำร้ายคุณหนูฟางเจี้ยนผิง อันนี้นางได้ให้คนสนิทไปที่ตลาดเพื่อปล่อยข่าวลือให้ทุกคนรู้เรื่องของนางกับท่านแม่ทัพจะได้ถอนหมั้นให้นางในเร็ววัน ติดตรงที่ว่าท่านแม่ทัพเผิงเย่ห่างไปราชการยังอีกหัวเมืองยังไม่กลับมา ทำให้เขายังไม่ได้เข้ามาที่จวนหาบิดาของนางเรื่องการถอนหมั้น ว่านลี่ถิงต้องการถอนหมั้นเร็วๆจึงทำให้ข่าวลือนั้นดังยิ่งๆขึ้นไปอีกจะได้ช่วยนางอีกทางด้วย แต่ยังมีเรื่องที่นางตบหน้าสองคุณหนูดอกบัวขาวที่งานเลี้ยงน้ำชาของชนชั้นสูง ที่มีคุณหนูที่อยู่ในเหตุการณ์นำมาคุยกันได้เห็นมากับตาว่าคุณหนูฟางเจี้ยนผิงคิดจะแย่งคู่หมั้นของว่านลี่ถิงเช่นเดียวกันจึงมีสองข่าวที่ดังกระฉอนในเมืองหลวงในตอนนี้"อะไรทำให้เจ้าคิดว่าข้าจะหย่าเจ้าหรือถิงเอ๋อร์ เจ้าจงเข้าใจเสียใหม่นะ ฮูหยินของข้าคือเจ้าคนเดียวเท่านั้น"แม่ทัพตอบคำถามนางก่อนที่จะรวบตัวนางมากอดแนบตัวเพราะเขาเห็นนางจะกระโดดหนีไปอีกทาง ว่านลี่ถิงตกใจอ้าปากจะต่อว่าสามีหมาดๆของนางจึงเป็นว่านางอ้าปากให้ชายหนุ่มสอดลิ้นปิดปากพัวพันกันจนเกิดเสียงหยาบโลน"อื้อ" ว่านลี่ถิงทุบอกชายหนุ่มเพราะนางใจจะขาดเพราะจูบที่เอาแต่ใจจากเขา แม่ทัพหนุ่มผละออกให้นางหายใจก่อนจะก้มลงปิดปากของนางใหม่ สติของว่านลี่ถิงกระเจิดกระเจิงเพราะความช่ำชองของชายหนุ่มที่รู้จุดอ่อนของนาง เขาจุดติดอย่างง่ายดายแม่ทัพคิดในใจว่าวันนี้ต้องเข้าหอกับนางให้ได้ นางจะได้หายฟุ้งซานว่าเขาจะหย่าให้นาง เช่นนั้นแล้วเขาคิดว่าจะปั้นก้อนแป้งให้นางเลี้ยงเพราะเขาคิดว่าถึงเวลาสร้างครอบครัวแล้วนั้นเองว่านลี่ถิงทั้งเสียวทั้งร้อนวูบวาบไปหมดกับการเร้าโรมของคนเป็นสามีที่พึ่งแต่งในวันนี้หมาดๆรุกนางหนักจนนางแทบเหลว เพราะเขาลูบคลำบีบเค้นทั่วร่างของนาง นางก็ตอบสนองเขากลับไปแบบเงอะๆงะๆด้วยสัญชาตญาณของมนุษย์ที่สร้างมาให้ชายหญิงคู่สามีภรรยา ร่างซ่อนรูปได้เปลือยเปล่าต่อหน้าของสามีที่ซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นเรื่
หลังจากจัดการเรื่องอดีตบ้านปู่ย่าของพี่สาวซูเมิ่งหลันให้คนในตระกูลไม่กล้ากลับมายุ่งกับครอบครัวของพี่สาวเมิ่งหลันได้อีก ด้วยความช่วยเหลือของท่านพ่อกับพี่ชายของนางทำให้ผู้นำตระกูลเว่ยสั่งฮูหยินของตนเองกับลูกสะใภ้ไม่ให้ไปหาเรื่องสองแม่ลูกซูเมิ่งหลิงกับซูเมิ่งหลันได้ อีกทั้งลงนามต่อหน้าหัวศาลถ้าคนตระกูลเว่ยไปหาเรื่องสองแม่ลูกอีกจะต้องถูกปรับหนึ่งพันตำลึงทอง สร้างความโกรธแค้นให้กับเว่ยอี้หรานที่ไม่สามารถให้มารดากับท่านย่ายึดเอาร้านขายผ้าของสองแม่ลูกนั้นมาได้ แถมนางยังสนใจแม่ทัพว่านลี่ขุ่ยที่ออกหน้าให้กับสองแม่ลูกซูนั้นอีกแล้วยังโดนท่านปู่กับท่านพ่อสั่งห้ามอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะส่งไปแต่งงานที่หัวเมืองอื่นนางจึงหยุดเอาไว้ก่อนแต่จะต้องหาโอกาสเข้าหาแม่ทัพว่านลี่ขุ่ยให้ได้เพราะนางอยากแย่งทุกอย่างที่เป็นของซูเมิ่งหลันมาเป็นของตัวเองให้ได้จบเรื่องของพี่สาวซูไปนางก็ถึงวันแต่งให้ไอ้แม่ทัพขี้เก๊กนั้น นางถูกมารดาจับลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืดแต่หน้านางขอแต่งเองไม่อยากให้แต่งหน้ขาววอกของคนยุคนี้ซึ่งมารดาเองก็ยอมเพราะลูกสาวแต่งให้นางทุกวัน ถ้าอยู่ด้วยกันแถมนางจะนำเอาเครื่องสำอางค์ในมิติออกมาให้
พอสองแม่ลูกออกมาจากในห้องรับรองแขกก็เจอกับอดีตแม่สามียืนด่านางเสียงดังยิ่งกว่าแม่ค้าตลาดสด เมื่อก่อนนางเคยดูถูกอาชีพของสองแม่ลูกอีกทั้งบังคับบุตรชายหย่ากับท่านแม่แต่ท่านพ่อไม่ยอม ถึงกับตัดท่านพ่อออกจากตระกูลเพราะอับอายที่มีลูกสะใภ้เป็นแม่ค้าไม่สามารถหนุนตำแหน่งให้บุตรชายได้ "อ้อข้าคิดว่าคนบ้าที่ไหนมาร้องส่งเสียงดังในร้านของข้าไม่ทราบว่าพวกท่านมีเรื่องอะไรกับพวกข้าหรือ ถึงมาก่อกวนในร้านขายผ้าของพวกข้าใครก็ได้ไปตามทหารมาคุมตัวคนบ้าออกไปจากในร้านของข้าสิหลงจู๊" ฮูหยินเมิ่งซูหลิงร้องสั่งหลงจู๊ในร้านออกไปเสียงดังพอประชันหน้ากันกับอดีตแม่สามี ที่ผ่านมานางยอมเพราะรักสามี แม้บุตรสาวนางยังเล็กโดนโขกสับในจวนมานานหลายปี จนตอนนี้นางกับบุตรสาวพากันบุกเบิกร้านขายผ้าตามมารดาของนางเองนับสิบปีตอนออกจากจวนมาพวกนางไม่ได้รับสมบัติจากบ้านของปู่ย่ามาด้วยเลยสักนิด มีเพียงตำลึงรายเดือนของท่านพ่อเพียงเท่านั้นที่ช่วยเหลือครอบครัวได้ พากันมาอาศัยที่จวนเก่าของท่านยายท่านตาจนถึงทุกวันนี้ ร้านค้านี้สมบัติของท่านยายที่ยกให้บุตรสาวหลังจากเสียชีวิตไปสองแม่ลูกชอบตัดเย็บเสื้อผ้าจึงพากันเย็บชุดขายมาจนถึงทุกวันนี้ก็เกื
ว่านลี่ถิงได้ขอบิดาของนางออกไปร้านผ้าของพี่สาวซูเมิ่งหลันในช่วงเช้ากับท่านแม่และพี่ชายว่าจะไปไม่นานนางขอให้ท่านพ่อไปด้วยนางสังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องเพราะนางต้องเตรียมตัวแต่งให้ท่านแม่ทัพนางถูกพี่สาวซิงซิงกับพี่เพ่ยเพ่ยจับขัดตัวจนนางคิดว่าตัวนางถลอกหมดแล้ว ทั้งขัดทั้งอบน้ำหอมจนนางหมดแรงวันนี้ท่านพ่อจึงอนุญาตให้ไปได้ท่านจะไปด้วยเหมือนกันเห็นบุตรสาวขอร้องขนาดนั้นแม่ทัพใหญ่จึงใจอ่อนให้นาง อีกไม่กี่วันนางจะแต่งให้แม่ทัพเผิงแล้วเดินทางลงไปยังชายแดนใต้ไปช่วยงานองค์รัชทายาทอีกไม่ถึงเดือนที่จะถึงนี้ วันนี้ทุกคนจึงเดินทางออกจากจวนตั้งแต่ยามเฉิน หลังจากทานมื้อเช้าร่วมกันนางกับมารดานั้นนั่นในรถม้าบิดากับพี่ชายขี่ม้าประกบ มีคนสนิททั้งของบิดามารดาที่เดินทางไปด้วยกันร่วมสิบคน ขาดไม่ได้ก็พี่สาวซิงซิงกับพี่เพ่ยเพ่ยที่นางส่งให้ออกเดินทางมาล่วงหน้าเพื่อช่วยพี่สาวซูเมิ่งหลันตั้งแต่เช้ามืด"ท่านแม่คิดว่าคนจะเยอไหมเจ้าคะข้านั้นได้ให้พี่สาวทำตามแผนงานที่ลูกวางเอาไว้ให้ ลูกได้จ้างคนไปแจกใบปลิววันนี้ฮูหยินหวังซูซินบอกว่าจะมาร่วมงานพร้อมกับบุตรสาวที่ลูกช่วยในวันนั้นด้วยนะเจ้าคะ นางไปสั่งตัดชุดที่ร้านพี่สาวเมิ่งห
ว่านลี่ถิงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่นางก็ไม่สามารถขัดราชโองการของฝ่าบาทได้ เกือบจะได้ถอนหมั้นอยู่แล้วเชียวแต่ดันมีมารมาขัดขวางเสียก่อน เอาวะเขาคงจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของนางมาจากชาติที่แล้วชดใช้ให้มันหมดเวรต่อกันในชาตินี้เลยก็แล้วกัน อีกอย่างถ้าเกิดนางได้เดินทางไปชายแดนใต้ร่วมขบวนขององค์รัชทายาท ถ้านางได้ช่วยเหลืองานของพระองค์แล้วค่อยทูลขอใบหย่าก็ไม่น่าจะอยากแต่ต้องทำสัญญากับไอ้แม่ทัพหื่นนั้นเสียก่อน ว่าห้ามเข้าหอกับนาง นางยินดีจะหย่าให้เขาแต่งเมียเข้าจวนแต่งห้ามล้ำเส้นนางก็พอไม่เช่นนั้นนางจะฟาดกลับให้จวนร้อนเป็นไฟเลยสิคอยดู ว่านลี่ถิงคิดในใจ"ถิงเอ๋อร์เหลืออีกเพียงสิบวันจะตัดชุดแต่งงานของลูกทันหรือเปล่านี้ มาพาแม่ไปร้านของเมิ่งซูหลันกันเถอะลูกจะได้เลือกชุดแต่งงานที่ตัดสำเร็จไว้ที่ร้านของแม่นางเมิ่งซูหลันคงจะมีนะแม่ว่า" มารดาของนางรีบชวนบุตรสาวไปหาชุดแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในอีกสิบวันที่จะถึง"เจ้าค่ะท่านแม่แต่ลูกว่ามีชุดไหนก็ใส่ชุดนั้นละเจ้าค่ะลูกไม่คิดมาก ท่านแม่อย่าได้เป็นกังวลใจไปเลยเจ้าค่ะ" ว่านลี่ถิงบอกกับมารดา"ฮูหยินเจ้าคะมีคนจากจวนขององค์รัชทายาทนำชุดแต่งงานมามอบให้คุณหนูว่านลี่
เสียงเคาะประตูที่หน้าหองทำให้สองร่างผละออกจากกันแม่ทัพคลายอ้อมกอดออย่างเสียดายเพราะพึ่งจะได้จูบนางไปสองรอบเอง เขากำลังจะลองอีกในครั้งที่สามแต่โดนขัดจังหวะเสียก่อน "คุณหนูเจ้าคะนายท่านบอกให้มาเชิญท่านแม่ทัพกับคุณหนูไปที่หน้าจวนเจ้าค่ะมีขันทีของฝ่าบาทนำราชโองการมาถึงคุณหนู ให้คุณหนูกับท่านแม่ทัพรีบไปเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ" เสียงพี่สาวซิงซิงร้องบอกด้วยความร้อนใจว่านลี่ถิงเองดิ้นออกจากแม่ทัพได้พอนางได้ยินเสียงของสาวใช้เรียกที่หน้าห้องไม่เช่นนั้นนางจะต้องโดนไอ้แม่ทัพบ้านี้เอาเปรียบต่ออย่างแน่นอน นางจึงรีบเดินออกจากในห้องรับแขกด้วยความเร็วจนแม่ทัพหนุ่มหัวเราะตามหลังอย่างชอบใจที่นางวิ่งหนีเขาแถมก่อนจากนางยังตะคอกให้เขา"ไหนบอกว่ารังเกียจข้านักหนาแล้วมาแตะต้องตัวข้าทำไมไม่ทราบไอ้บ้ากามเอ๊ย" ว่านลี่ถิงด่าให้คู่หมั้นอย่างไม่เกรงกลัวอย่าเผลอเชียวละนางจะทุบให้กระอักเลือดตายเลย ทั้งเดินทั้งบ่นรวมถึงจัดเสื้อผ้าหน้าผมไปด้วยในตัวแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากเรือนไปเลยแม่ทัพหนุ่มรีบเดินตามคู่หมั้นไปด้วยรอยยิ้มตามหลังนางไปติดๆ พอไปถึงนางเห็นท่านพ่อท่านแม่กับพี่ชายยืนรออยู่ที่หน้าเรือนคุยกับขันทีของฝ่าบาทรออ