การออกมาทานอาหารกับอธิปัตย์วันนี้ทำให้อัญญารินทร์กับเขาสนิทกันมาก หญิงสาวเรียนรู้อะไรอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับตัวแฟนเช่าของเธอคือเขาเป็นคนที่มีความรู้รอบตัวเยอะมากๆ เป็นคนคุยสนุกสรรหาเรื่องมาเล่าให้เธอจนการอยู่ด้วยกันไม่ทำให้เธอรู้สึกเบื่อเลยสักนิด
“ขอบคุณมากนะครับอัญญาที่วันนี้พาผมไปทานอาหารอร่อยๆ เอาไว้พฤหัสหน้าเราไปทานร้านอื่นกันบ้างไหม แต่อัญญาต้องให้ผมเป็นคนจ่ายเงินนะ ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ให้ผู้หญิงเป็นคนจ่ายเงิน”
“ใครจะจ่ายก็เหมือนกันและอัญญารู้ว่าที่คุณทำแบบนี้ก็เพื่องานของอัญญาที่จะถึงอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า” หญิงสาวไม่อยากจะเอาเปรียบเพราะที่เขามาชวนเธอไปทานอาหารวันนี้มันก็อยู่นอกเหนืองานที่คุยกันไว้ ถึงแม้เขาจะบอกว่าเพราะรู้สึกเบื่อและหาเพื่อนทานอาหารก็ตาม
“ดูท่าทางคุณจะตื่นเต้นกับงานครั้งนี้นะครับ”
“ก็ตื่นเต้นสิคะนี่เป็นงานแต่งงานแรกของเพื่อนในกลุ่มเลยนะคะ พวกเราทุกคนตั้งใจจะมาร่วมงานนี้ มันเป็นเหมือนการเจอกันครั้งแรกหลังจากเรียนจบค่ะ”
“คุณก็เลยต้องหาใครสักคนคงไปเป็นแฟนในงานใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะมันอาจฟังดูเหมือนไร้สาระนะคะแต่ อัญญามีเหตุผลค่ะ”
“เหตุผลอะไรครับ”
“อันที่จริงถ้าไปเจอเพื่อนตามปกติ อัญญาก็ไม่เคยจ้างใครมาเป็นแฟนเช่าแบบนี้หรอกนะคะ แต่ครั้งนี้มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่เขาชอบเอาชนะอัญญาทุกอย่างตั้งแต่สมัยเรียน แล้วเราสองคนเลิกกับแฟนในเวลาไล่เลี่ยกันค่ะ แต่อัญญารู้มาว่าเขาเพิ่งคบกับผู้ชายคนใหม่ไม่นานอัญญาไม่อยากโดนเขาหัวเราะเยาะที่ยังไม่มีแฟนก็เลยคิดว่าจะจ้างใครสักคนคงไปในงานอย่างน้อยก็ตบตาเขาไปก่อนค่ะ หลังจากงานก็จะบอกว่าเลิกกับคุณแล้วแค่นั้นเอง”
“ผมว่าผู้หญิงนี่เป็นเพศที่ซับซ้อนเข้าใจยากมากๆ”
“ดูเหมือนคุณอธิปจะรู้เรื่องผู้หญิงค่อนข้างดีเหมือนกันนะคะ”
“ก็ผมเคยมีแฟนมาแล้วและก็หลายคนด้วยครับ”
“จริงด้วยสิอัญญาลืมไปเลยค่ะ”
“ลืมอะไรครับ”
“ก็ลืมถามไปเลยว่าคุณมีแฟนหรือยัง แล้วมารับงานนี้อัญญาจะทำให้คุณมีปัญหาหรือเปล่า” หญิงสาวมัวแต่ดีใจที่อธิปัตย์รับงานและเห็นว่าเขาตรงสเปกมากๆ จนลืมถามเรื่องสำคัญไปเลย
“ผมลองถามกลับนะครับอัญญา ถ้าคุณมีแฟนคุณจะให้แฟนออกมาทำงานแบบนี้ไหม”
“ตอบตามตรงนะคะไม่มีทางค่ะ เคยได้ยินไหมที่ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะอัญญาก็เหมือนกันค่ะแฟนข้าใครอย่าแตะ” หญิงสาวพูดแล้วหัวเราะเสียงสดใสทำให้อธิปัตย์เองก็หัวเราะตามเธอไปด้วย
“ผมยังไม่มีแฟนหรอกครับ เลิกกับผู้หญิงคนล่าสุดก็เกือบจะครึ่งปีแล้วแหละ อาชีพอย่างผมบางครั้งมันก็หาผู้หญิงที่เข้าใจยากนะครับ เวลาเราลงไปอยู่ในเรือไปทำงานบนเรือบางครั้งก็ไม่มีเวลาที่จะคุยโทรศัพท์ที่นั่นมันเหมือนโลกอีกใบหนึ่งเลย”
“เป็นเพราะห่างกันเหรอคะทำให้คุณต้องเลิกกับแฟนแต่ตอนนี้คุณก็กลับมาแล้วทำไมไม่ไปง้อเธอล่ะ”
“ไม่ใช่ปัญหานั้นปัญหาเดียวหรอกครับ คนรักกันมันมีปัญหาจุกจิกหลายอย่างถ้าไม่เข้าใจและไม่เคลียร์ตั้งแต่แรกพอปล่อยไปนานๆ ปัญหาสะสมถึงเวลาทะเลาะกันขึ้นมาทุกอย่างมันก็พัง”
“เขาถึงบอกไงคะว่าคนที่เป็นแฟนกันมีอะไรก็ควรจะเคลียร์กันให้จบภายในหนึ่งวัน อย่าทะเลาะกันข้ามวันค่ะ”
“อันนี้มันก็จริงครับ แล้วคุณล่ะที่บอกว่าเลิกกับแฟนเลิกนานหรือยัง”
“อัญญาเพิ่งเลิกกับแฟนได้ไม่ถึงสามเดือนเลยค่ะ” เธอตอบเสียงราบเรียบเหมือนไม่มีความรู้สึกเสียใจอยู่นั้นอีกแล้ว
“เหตุผลล่ะบอกได้ไหม มันเจ็บมากจนคุณไม่กล้าพูดออกมาหรือเปล่า”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะเหตุผลก็คือความเข้าใจค่ะ อัญญาเป็นคนติดแฟนค่ะ เขาเป็นวิศวกรและออกไปไซต์งานบ่อยๆ บางครั้งก็ไม่ได้เจอกันเลยเป็นสัปดาห์อัญญาก็เลยคิดว่าถ้ามีแฟนแล้วต้องอยู่ห่างกันไม่ได้คุยกันก็เลือกที่จะอยู่คนเดียวดีกว่าค่ะ สบายใจด้วยเหตุผลมันอาจจะดูงี่เง่านะคะแต่อัญญาก็เป็นของอัญญาแบบนี้ค่ะ ถ้าใครรับได้ก็คบต่อเขาหากเขารับไม่ได้อัญญาก็เลิก”
“ดูเหมือนคุณจะไม่แคร์เลย”
“แคร์สิคะ มีใครไม่แคร์กับความรักบ้างล่ะแต่แคร์ไป เสียใจไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกค่ะ อัญญาเป็นคนที่ลืมอดีตง่ายและเลือกมองไปข้างหน้ามากกว่า ชีวิตคนเรามันสั้นค่ะคุณอธิป อะไรที่มีความสุขไม่เดือดร้อนใครอัญญาก็เลือกที่จะทำ”
“คุณอายุแค่นี้เองนะอัญญาทำไมพูดเหมือนปลงกับการใช้ชีวิตแล้วล่ะ”
“อัญญาพูดตามความรู้สึกและสิ่งที่เจอมาค่ะ พ่อกับแม่ท่านเสียไปเร็วมากและเสียไปอย่างกะทันหัน มันเลยทำให้อัญญาคิดว่าชีวิตของคนเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นเพราะฉะนั้นก็เลือกที่จะทำทุกอย่างให้เต็มที่ค่ะ”
“แล้วไม่มีญาติคนอื่นเลยเหรอ” อธิปัตย์ถามด้วยความเห็นใจเพราะด้วยวัยเพียงแค่นี้ต้องมาอยู่คนเดียวรับผิดชอบทางร้านรับผิดชอบถึงตัวเองอีกแถมยังเป็นผู้หญิงก็คงจะดูเหนื่อยมากๆ
“มีค่ะแต่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพ พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดค่ะ อัญญายังมีครอบครัวตากับยายแต่ก็ไม่ได้สนิทเท่าไหร่นานๆ ถึงจะกลับไปเยี่ยมท่านครั้กหนึ่งค่ะ” หญิงสาวไม่ได้บอกว่ามารดาของเธอหนีตามบิดามาทำให้ตากับยายไม่ค่อยยอมรับเธอเท่าไหร่ ตั้งแต่มารดาเสียชีวิตเธอกลับไปเยี่ยมคุณตาคุณยายที่บ้านสองครั้งแต่ดูเหมือนท่านจะไม่ดีใจและกลับรู้สึกอึดอัดด้วยซ้ำที่เธอไปเยี่ยม
จากนั้นอัญญารินทร์ก็เลยเลือกที่จะส่ง ส่งของขวัญไปให้ช่วงปีใหม่และสงกรานต์แต่เธอไม่อยากไปที่นั่นอีกต่อไปแล้ว
ส่วนครอบครัวของบิดาเธอก็ไม่สนิทเพราะปู่กับย่าเสียชีวิตไปแล้วจะเหลือแต่พี่สาวของบิดาที่เธอเองก็ไม่ได้สนิทด้วยอาจจะนับได้ว่าตอนนี้อัญญารินทร์เหลือตัวคนเดียวไม่มีญาติที่ไหนเลยก็ว่าได้
“ผมถามเรื่องนี้ทำให้คุณไม่สบายใจหรือเปล่าครับ”
“เปล่าหรอกค่ะ อัญญาไม่ได้คิดอะไรมากแล้วคุณอธิปล่ะคะไม่มีครอบครัวที่ไหนเหรอ” หญิงสาวถามกลับบ้าง
“ผมมีครอบครัวครับ มีพ่อแม่ พี่ชายและน้องสาวแต่พวกเขาไม่รู้หรอกครับว่าผมกลับมาถึงที่เมืองไทย”
“อ้าว....ทำไมล่ะคะคุณไม่สนิทกับครอบครัวเหรอ”
“ผมยังไม่อยากเข้าที่บ้านครับ ว่าจะอยู่แบบนี้สักพักแล้วค่อยเข้าไปหาท่านดีกว่า”
“ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่ามีเหตุผลอะไรที่คุณถึงทำแบบนี้แต่ชื่อเถอะค่ะไม่มีใครรักเลยหวังดีกับเราเหมือนคนในครอบครัวอีกแล้ว”
“ขอบคุณครับอัญญาที่เตือนสติบางทีผมอาจจะติดต่อท่านไปเร็วๆ นี้ก็ได้”
“อัญญาไม่ได้บังคับหรือต่อว่าคุณนะคะ อัญญาก็แค่เตือน เอาล่ะค่ะถึงบ้านแล้ว ขอบคุณมากๆ ที่พาอัญญาออกไปข้างนอกวันหยุดเลยไม่น่าเบื่อ”
“ผมก็ขอบคุณสำหรับอาหารมื้ออร่อยและพฤหัสหน้าเจอกันนะครับ”
“ถ้าคุณอธิปไม่มีธุระไปไหนเราก็มาเจอกันได้ค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเปิดลงจากรถประตูเข้าไปในบริเวณบ้าน
วันนี้อธิปัตย์มีประชุมตลอดบ่ายพอเลิกงานเขาก็รีบขับรถมาที่ร้านอัญญาคาเฟ่ทันทีแต่พอมาถึงร้านก็ปิดแล้วชายหนุ่มเห็นรถยังจอดอยู่เขาโทรหาคนรักแต่อัญญารินทร์ก็ไม่ยอมรับสายเขารู้สึกร้อนใจจึงขับรถไปที่บ้านของเธอกดออดอยู่นานก็ไม่มีคนเปิดชายหนุ่มร้อนใจมากยิ่งขึ้น เขาโทรศัพท์ไปถามสิรดาเพื่อนสนิทของเธอแต่สิรดาก็บอกว่าวันนี้ยังไม่ได้คุยกับอัญญารินทร์เลยอธิปัตย์ไม่รู้จะไปตามที่ไหนพอดีนึกได้ว่ามีเบอร์โทรของกวางเด็กในร้านอยู่จึงรีบต่อสายหาเธอทันที“สวัสดีค่ะพี่อธิปมีอะไรหรือเปล่า”“พี่ไปหาอัญญาที่ร้านไม่เจอไปที่บ้านก็ไม่เจอแต่รถเธอยังจอดอยู่หน้าร้าน กวางรู้ไหมว่าพี่อัญญาไปไหนหรือเธอไม่สบายหรือเปล่า” อธิปัตย์ถามอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง“อ้าวพี่อัญญาไม่ได้บอกพี่หรอกเหรอคะ”“บอกอะไรเหรอกวาง”“ก็วันนี้แม่ของพี่อธิปัตย์มาที่ร้านมานั่งคุยกับอะไรกับพี่อัญญาก็ไม่รู้สีหน้าเครียดเชียว กวางได้ยินแค่แฟนจากนั้นพี่อัญญาก็บอกให้หนูสองคนปิดร้านกันเอง พี่อัญญาเธอก็ออกไปพร้อมกับแม่พี่เลยค่ะ”“แน่ใจนะกวางว่าได้ยินคำว่าแฟนเช่าจริงๆ”“แน่ใจค่ะกวางได้ยิน แต่ก็ไม่รู้รายละเอียด เท่าที่ดูเหมือนพี่อัญญาจะรู้สึกผิดอะไรสัก
หลังจากทานอาหารค่ำแล้วคุณทิพย์สุดาก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้กับคุณสมภพผู้เป็นสามีฟัง“คุณคิดว่าลูกชายเรากำลังตบตาเราอยู่หรือเปล่าคะคุณภพ”คุณทิพย์สุดาถอนหายใจอย่างหนักเธอรู้สึกเครียดกับสิ่งที่ตัวเองได้รับรู้มาในวันนี้“เท่าที่ผมสังเกตดูนะคุณทิพย์ เด็กสองคนนั่นเขาดูรักกันจริงๆ นะ” แม้ว่าจะเจอแค่เพียงครั้งเดียวเขาก็พอมองลูกชายตนเองออกเพราะอธิปัตย์ดูจริงจังกับความรักครั้งนี้มาก“ใช่ค่ะ ทิพย์ก็คิดว่าสองคนนั้นดูรักกันจริงๆ นะคะ และก็ไม่น่าจะใช่เรื่องตบตาหรือเป็นการจ้างใครมาหลอก แต่จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มันก็เริ่มจากหนูอัญญาเป็นคนจ้าอธิปก่อน ฉันก็เลยไม่แน่ใจว่าที่เธอทำอยู่ตอนนี้ยังอยู่ในเงื่อนไขสัญญาจ้างที่ทินภัทรไม่รู้หรือเปล่า”“ผมว่าเรื่องนี้คุณต้องคุยกับลูกตรงๆ นะลองถามเขาดูว่าเรื่อง มันเป็นยังไงกันแน่ หนูอัญญาเธอเป็นคนน่ารักมากนะและลูกชายของเราก็ดูเหมือนจะรักเธอมากเหมือนกัน ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่ลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองไทยหรอก ก่อนหน้านี้นายอธิปไม่เคยคิดจะเข้ามาช่วยงานที่บริษัทหรือใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยเลยถ้าไม่ใช่เพราะหนูอัญญาก็คงไม่ทำแบบนั้น”“ฉันก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ แต่มันก็ยัง
คุณทิพย์สุดาเห็นท่าทางของทินภัทรแปลกไปตอนที่พูดถึงอัญญารินทร์ เธอรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่างเพราะปกติแล้วทินภัทรจะไม่หลบสายตาเวลาพูดคุยกับเธอเหมือนกับวันนี้หลังจากคุยธุระกับมารดาของชายหนุ่มแล้วคุณทิพย์สุดาก็ออกมาจากบ้านหลังใหญ่ระหว่างทางก็โทรศัพท์ไปหาเลขาของลูกชาย“สวัสดีค่ะ”“สวัสดีจ้ะนี่ฉันเองนะ เจี๊ยบ”“สวัสดีค่ะคุณทิพย์สุดามีอะไรให้เจี๊ยบรับใช้คะ” เลขาของอธิปัตย์จำเสียงของคุณทิพย์สุดาได้เพราะท่านมักจะแวะไปที่บริษัทอยู่บ่อยครั้ง“ฉันมีเรื่องจะรบกวนหน่อยน่ะว่างอยู่หรือเปล่า”“ว่างค่ะ คุณทิพย์สุดาจะให้เจี๊ยบช่วยอะไรบอกมาได้เลยนะคะ”“เธอช่วยหาเบอร์โทรศัพท์เพื่อนของอธิปัตย์ให้ฉันหน่อยได้ไหม”“ได้ค่ะ”“เพื่อนคนไหนคะ”“เพื่อนที่ชื่อทินภัทร แล้วช่วยดูด้วยว่าบริษัทของเขาอยู่ที่ไหนพอดีฉันมีธุระจะออกไปเจอเขานิดหน่อยนะ แต่ลืมว่าบริษัทตั้งอยู่ตรงไหน”“ได้ค่ะรอสักครู่นะคะ”คุณทิพย์สุดาถือสายไม่นานเลขาของคนลูกชายก็กลับมาพร้อมกับเบอร์โทรศัพท์และที่ตั้งของบริษัทให้กับคุณทิพย์สุดา“ขอบใจมากน้า เรื่องนี้ไม่ต้องบอกอธิปัตย์ล่ะว่าฉันโทรมาถาม”“ได้ค่ะ คุณทิพย์สุดามีอะไรจะถามเจี๊ยบอีกหรือเปล่าคะ”
บ่ายวันจันทร์บรรยากาศแสนอบอ้าวลูกค้าในร้านอัญญาคาเฟ่มีอยู่แค่สองโต๊ะ เพราะส่วนใหญ่อากาศแบบนี้ลูกค้าจะเลือกใช้บริการเดลิเวอรี่มากกว่า อัญญารินทร์กับลูกน้องกำลังช่วยกันจัดเลี้ยงขนมทึ่งซึ่งเพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ เพื่อรอรับลูกค้าสำหรับช่วงเย็น ลูกค้าบางส่วนก็โทรมาจองขนมไว้“ขนมสามกล่องนั่นของใครคะพี่อัญญา” กวางถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเป็นคนจัดเรียงไว้เองตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยง“นั่นคุณอธิปโทรมาสั่งไว้น่ะเห็นว่าจะให้คนมาเอา”“แล้วเราต้องคิดเงินไหมคะ”“กวางคิดว่ายังไงดีล่ะ”“อย่างคุณอธิปัตย์ไม่ยอมรับขนมของพี่อัญญาไปฟรีๆ แน่ใช่ไหมล่ะ”“มันก็จริงอย่างที่กวางพูดนั่นแหละเขาโอนเงินมาให้แล้วมากกว่าค่าขนมที่ซื้ออีก เอาไว้พี่จะให้เป็นโบนัสสิ้นเดือนของกวางกับน้ำหวานก็แล้วกันนะ”“พี่อัญญาทั้งสวยทั้งใจดีแบบนี้กวางกับน้ำหวานรักตายเลยค่ะ พี่สัญญากับกวางได้ไหมว่าจะไม่ไล่กว้างกับน้ำหวานออก”“ลองบอกเหตุผลมาสักข้อสิว่าทำไมพี่ถึงจะต้องไล่เราสองคนออก”“ก็ถ้ากวางกับน้ำหวานขี้เกียจ”“แต่เท่าที่พี่ดูไม่มีใครขี้เกียจเลยนะทั้งสองคน เพราะฉะนั้นพี่ไม่มีทางไล่ออกจ้ะ”“แล้วถ้ากวางกับน้ำหวานขโมยเงินในร้านล่ะคะพี่อัญญา”“ถ้าเป็
อัญญารินทร์ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของอธิปัตย์ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาจากกายของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและมีความสุขอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมสันที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ แสงแดดอ่อนๆ ต้องใบหน้าของเขา ทำให้เธอเห็นรายละเอียดของดวงตา จมูกโด่ง และริมฝีปากหยักได้อย่างชัดเจน หัวใจรู้สึกว่ามันได้เติมเต็มด้วยความรักของเขา เธอใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามโครงหน้าของเขาเบาๆอธิปัตย์รู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาที่ใบหน้า จึงลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อเห็นใบหน้าหวานของอัญญารินทร์อยู่ใกล้ๆ เขาก็ส่งยิ้มอ่อนโยนให้“อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก”“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” อัญญารินทร์ตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส“ตื่นนานแล้วเหรอครับ” เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น“เพิ่งตื่นค่ะ”“วันนี้วันหยุดเรานอนอยู่แบบนี้นานๆ ได้ไหม”“ตกลงวันนี้จะไม่ไปทำงานจริงๆ เหรอคะ”“ไม่ล่ะ วันนี้อยากอยู่กับอัญญามากกว่า”“ตามใจเถอะค่ะ อัญญาห้ามคุณก็คงไม่ฟัง ตอนนี้หิวหรือยังล่ะคะ เดี๋ยวอัญญาไปทำอะไรให้กินนะ”“หิวครับ เมื่อคืนใช้พลังงานไปเยอะเลยเดี๋ยวเราช่วยกันทำนะ แต่อัญญาช่วยอะไรผมก่อนได้ไหมล่ะ”“ช่วยอะไรคะ”“ชุดผมอยู่ในรถน่ะ อัญญาช่วยไปเอากระเป๋าที่เบาะหลังกับชุ
“อัญญาจ๋า พร้อมแล้วใช่ไหม ผมขอเข้าไปนะ”“อธิปขา....เบาๆ นะคะ อัญญากลัวเจ็บ”เสียงหวานร้องขอเพราะจำได้ดีว่าครั้งแรกนั้นมันเจ็บมากแค่ไหน“ผมรู้ผมจะพยายามนะที่รัก”อธิปัตย์ไม่รู้ว่าตนเองจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่าเพราะรู้ว่าเวลาที่ท่อนเอ็นร้อนเข้าไปอยู่ในร่องสวาทของเธอแล้วเขาจะควบคุมตัวเองได้มากแค่ไหนชายหนุ่มจูบลงมาอย่างเร่าร้อน มือใหญ่จับท่อนเอ็นร้อนลากขึ้นลงกลางกลีบก่อนจะค่อยๆ กดส่วนปลายเข้าหาร่องรักทีละนิดอัญญารินทร์กัดฟันแน่นข่มความเจ็บเอาไว้เพราะรู้ว่ามันจะเจ็บเพียงครู่แต่หลังจากนั้นเธอก็จะพบแต่ความสุข“อื้ม....ของอัญญาแน่นเหลือเกิน อ่า....”อธิปัตย์รู้สึกถึงความคับแน่น เขาพยายามเคลื่อนตัวตนเข้าไปอย่างช้าๆ อย่างยากลำบาก ช่องทางรักของหญิงสาวนั้นมันคบแน่นและตอดรัดท่อนเอ็นจนแทบจะระเบิด เขาชอบที่ได้เข้าไปอยู่ในตัวเธอมันทั้งอุ่นร้อนและนุ่มแน่นแบบที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน“ดีขึ้นไหม ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” เขานิ่งอยู่ในนั้นนานแล้วและคงอยู่นิ่งต่อไปไม่ได้เมื่อความคับแน่นมาพร้อมกับแรงตอดรัด“อธิป....อัญญาไม่เป็นไรค่ะ”เธอรู้ว่าชายหนุ่มกำลังทรมานและเธอเองก็เสียวจนเกินจะทน อธิปัตย์เริ่มขยับสะโพกเ