#เวลาผ่านไป
โรงพยาบาลxxx "ที่จริงคุณคิมไม่ต้องแวะมารับปรางก็ได้นะคะ เพราะยังไงปรางก็ต้องแวะซื้อของก่อนอยู่แล้ว" เธอพูดกับคนข้างๆ เพราะมาโรงพยาบาลทีไร มันจะต้องมีเหตุการณ์ที่เขาแวะมาหาเธอที่นี่ทุกครั้งเลย "ทำไม ? กลัวฉันมาเจอเธออยู่กับผู้ชายหรือไง" "เปล่าค่ะ แค่เห็นว่ามันไม่มีเหตุจำเป็น" "แล้วแบบไหนล่ะมันถึงจำเป็น" "ก็...ไม่รู้สิคะ" "นั่งไปเงียบๆ ฉันมารับก็ดีเท่าไหร่แล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเงินค่ารถกลับเอง" "ก็ได้ค่ะ" มะปรางนั่งรถมากับเขาจนกระทั่งออกมาจากโรงพยาบาลไกลพอสมควรแล้ว "พี่คะ ช่วยแวะร้านอาหารBBให้ปรางหน่อยนะคะ" "เธอจะเข้าไปทำอะไร" เขารู้ว่ามันเป็นร้านอาหารที่เธอเคยทำงานประจำอยู่ "พอดีว่าต้องเข้าไปเอาเอกสารค่ะ ปรางลืมเอาไว้ที่นี่" "อ่อ.." "ถ้าคุณคิมจะกลับเลยก็ได้นะคะ แถวนี้หาแท็กซี่ง่ายอยู่ เดี๋ยวปรางนั่งแท็กซี่กลับค่ะ" "พูดเหมือนรวย มีเงินหรือไง" " ?? " เธอถึงกับงง แค่นั่งแท็กซี่กลับเนี่ยนะรวย นั่งแท็กซี่จากโรงพยาบาลกลับถึงเพ้นท์เฮ้าส์ของเขา ก็สองร้อยกว่าบาทเอง ไม่ได้แพงขนาดนั้นไหม "รีบไปเอาแล้วก็รีบกลับออกมา ฉันขี้เกียจรอนาน" "ค่ะ" เธอรีบตอบรับก่อนจะลงจากรถ เพราะคนขับรถจอดที่หน้าร้านอาหารพอดี #ด้านในร้านอาหาร "พี่แก้วคะ ปรางมาเอาเอกสารที่ลืมไว้ค่ะ" เธอบอกกับผู้จัดการร้าน เพราะได้คุยไลน์กันเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ว่าเธอจะกลับเข้ามาเอาเอกสารที่ลืมเอาไว้ "อ๋อ อยู่ในห้องทำงานด้านโน้นเลย พี่ไม่ได้เอาออกมา กลัวว่ามันจะเปียกน้ำ" "อ๋อ ขอบคุณค่ะ ปรางเข้าไปเอาได้เลยใช่ไหมคะ" "จ้ะ วางอยู่บนโต๊ะทำงานของพี่แหละ" "ค่ะๆ" มะปรางรีบเดินเข้าไปในห้องที่เป็นกระจกสีดำ ซึ่งมันไม่ใหญ่มาก เป็นห้องทำงานของผู้จัดการและเจ้าของที่นี่ "อยู่นี่ไงเจอแล้ว" เธอพึมพำกับตัวเองเมื่อเจอเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของผู้จัดการ แต่ยังไม่ทันที่จะได้กลับออกไป หมัับ ~ "นึกว่าใครมา มะปรางนี่เอง" "เอ่อ สวัสดีค่ะ" "ใจร้ายนะเราเนี่ย ลาออกไปไม่บอกกันสักคำ" "ขอโทษด้วยค่ะ แต่ปรางคิดว่าคุยกับผู้จัดการแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว" "เรื่องนั้นน่ะคุยกับผู้จัดการก็ถูกแล้ว แต่ควรจะมาบอกฉันสักหน่อยไหม ปรางก็รู้ว่าฉันคิดยังไง" "ขะ ขอตัวก่อนนะคะ ปรางต้องรีบไป มีธุระต่อ" "เดี๋ยวก่อนซี้ จะรีบไปไหนล่ะ อยู่คุยกันก่อนก็ได้ แป๊บเดียวเอง" ประตูถูกขวางเอาไว้โดยเจ้าของร้าน เขาเดินเข้ามาหาเธอด้วยท่าทางที่บ่งบอกว่ากำลังคุกคาม ในใจของมะปรางคิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องหลุดออกไปจากที่นี่ให้ได้ เธอรู้อยู่แล้ว ว่าเจ้าของร้านกำลังชอบเธอ บางครั้งก็เหมือนจะชอบลวนลามเธออยู่ด้วย แต่เธอไม่ได้ชอบ เพราะต่อให้เขาจะเพอร์เฟคมากกว่านี้ เธอก็ไม่ได้ชอบผู้ชายประเภทนี้ เขามีภรรยาแล้ว ! แต่สิ่งที่เขาทำคือการพยายามที่จะให้เธอไปเป็นเมียน้อย "ไหนๆ ก็ไม่ได้เป็นพนักงานที่นี่แล้ว สนใจอยู่กินกับเสี่ยไหม เสี่ยจะเลี้ยงดูเป็นอย่างดีเลย เรื่องเงินไม่ให้ขาด อยากได้อะไรขอแค่บอก แต่เสี่ยขอแค่อย่างเดียว...เรื่องบนเตียง" พูดพร้อมกับไล่สายตามองเรือนร่างของเธอ "ขอโทษนะคะ ปรางไม่ได้ชอบคุณ" "หื้ม ไม่ต้องรีบชอบก็ได้ เสี่ยแค่ยื่นข้อเสนอ ลองคิดดูดีๆ สิ ได้อยู่กับเสี่ยน่ะ จะมีกินมีใช้สบายไปทั้งชาติเลยนะ" "ไม่ค่ะ" ยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง "เสี่ยอุตส่าห์บอกดีๆ แล้วนะ อย่าให้เสี่ยต้องใช้กำลังเลย ถ้ายอมดีๆ เสี่ยจะทะนุถนอม ไม่ทำรุนแรงเลยสัญญา แต่ถ้ายังดื้อรั้น ก็คงต้องใช้ไม้แข็งกันบ้าง แบบว่า...ยัดเยียดให้ต้องยอมรับว่าเป็นผัว" "ทุเรศ ! พูดมาได้ยังไง ตัวเองก็มีเมียอยู่แล้ว ไม่สงสารลูกสงสารเมียบ้างหรือไง ถ้าเป็นคนดีไม่ได้ ก็เป็นพ่อเป็นผัวที่ดีหน่อยเถอะค่ะ" "ปากจัดแบบนี้ สงสัยต้องจัดหนักๆ ซะแล้วสิ" หมับ ! "กรี๊ด !!" มะปรางพยายามขัดขืน แต่ต่อให้เธอจะใช้แรงมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็สู้แรงผู้ชายที่ตัวโตกว่าไม่ได้อยู่ดี เขากอดเธอเอาไว้แน่น และพยายามที่จะใช้มือจับสัดส่วนในร่างกายของเธอ และพยายามที่จะสูดดมซอกคอ หรือหอมแก้มเธอ หรือทำมากกว่านั้น แต่เธอก็ยังขัดขืนอย่างหนัก ปึก !! "เฮ้ย !!" ประตูถูกเปิดอย่างแรง คล้ายกับถูกพังเข้ามาเลย "มึงเป็นใครวะ !? " "ฮึก !" ปั่ก ! ฝ่าเท้าอรหันต์ถีบตรงกลางอกของเสี่ยร่างท้วมอย่างแรงจนเขาหงายหลังลงไปกับพื้น ก่อนที่มะปรางจะถูกดึงแขนไปอยู่ข้างกายของเขา "จำใส่หัวกะโหลกมึงไว้ นี่คนของกู กูเป็นเจ้าของ กูมีสิทธิ์แต่ต้องเธอได้แค่คนเดียว ส่วนมึง..." "คะ คุณคิม กลับกันเถอะค่ะ คนมองหมดแล้ว" "ส่วนมึง ! ทักคราวหน้ากูยังเห็นมึงมารุ่มร่ามกับคนของกู มันจะไม่ใช่แค่ถีบแน่ ลูกตะกั่วจะฝังหัวมึง !" มะปรางถูกพาเดินออกไปจากห้องนั้น เธอกลัวจนขาสั่นไปหมดเลย แต่ก็รีบวิ่งตามเขาไป แต่ก็เขินอายอยู่ไม่น้อยเพราะตอนที่เขาถีบประตูเข้ามาคนพากันมองเต็มเลยทั้งพนักงานของร้านและลูกค้าที่อยู่ในร้าน "ฮึก !" "เธอจะร้องไห้ทำไม มันทำอะไรเธอหรือไง" "ยะ ยังค่ะ ปรางก็แค่กลัว" "ให้ฉันกลับไปตัดมือมันดีไหม?" "อยะ อย่าทำเลยค่ะ แค่นั้นเขาก็คงหลาบจำแล้ว" "ไปขึ้นรถจะได้กลับ" "ค่ะ" มะปรางขึ้นไปนั่งบนรถทั้งที่ตัวเองยังคงสั่นอยู่ กลัวช็อตแรกคือตอนที่เสี่ยมันกำลังลวนลามเธอ ช็อตที่สองคือตอนที่มาเฟียหนุ่มพังประตูเข้ามาและพูดด้วยความน่ากลัว ถึงจะรู้จักเขาได้ไหมเท่าไร แต่ตอนเขาโมโหมันดูน่ากลัวมาก ตรงสันกรามของเขามันมีเส้นเลือดขึ้นเต็มไปหมดเลย "คุณคิมรู้ได้ยังไงคะ ว่าปราง.." "ฉันไม่รู้ แค่เห็นเธอไปนานก็เลยจะไปตาม" "ขอโทษนะคะ ปรางเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเป็นแบบนี้" "ไม่ต้องพูด กลับไปค่อยคุยกัน ฉันเล่นงานเธอแน่" "ค-คะ ? เล่นงานอะไร ปรางไม่ได้ทำผิดนะคะ" "ฉันจะลงโทษเธอ" "....." มันพูดไม่ออก เพราะเธอยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่เขากลับบอกว่าจะลงโทษ แบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ ลงโทษแบบไหนกัน #สักพักต่อมา ปึก !! เงินแบงค์พันถูกวางลงตรงหน้าของคนขับรถ "ไปซื้อถุงยางมา ขนาด 58 ซื้อมาให้หมดนี่แหละ มีเท่าไหร่เอามาให้หมด แล้วรีบเอามาให้ฉัน" "ครับนาย" " !!! " "ส่วนเธอตามฉันมานี่ !" "คะ คุณคิม !?"ณ ห้องนั่งเล่นในเพ้นท์เฮ้าส์ในวันว่างๆ ที่แสนเงียบสงบ มะปรางกำลังนั่งอยู่ทีวีอยู่หลังจากที่เพิ่งเสร็จจากงานบ้านทั้งหลาย ส่วนอนาคินทร์ก็นั่งอยู่ข้างๆ เช่นกัน"เธออยากให้ย่ามาอยู่ด้วยกันที่นี่หรือเปล่า" อนาคินทร์เอ่ยถามขึ้นมา"ใจนึงก็อยากค่ะ แต่คิดว่าย่าคงไม่ชอบหรอก คนแก่ไม่ชอบอะไรแบบนี้" ก่อนหน้านั้นก็คิดอยู่เหมือนกัน ว่าอยากจะให้ย่าของเธอมาอยู่ด้วยกันซะที่นี่ จะได้คอยดูแลกันอย่างใกล้ชิดและเจอหน้ากันทุกวัน แต่พอเห็นว่าย่ามีความสุขเวลาอยู่ที่นั่นเธอก็เปลี่ยนใจ"มันก็จริง""ถ้าย่าอยู่ที่บ้านหลังนั้นแล้วชอบ ก็ให้ย่าอยู่ไปเถอะ ปรางแวะเวียนเข้าไปหาได้อยู่""อืม.."มะปรางนั่งเงียบอีกครั้งเพราะสายตาและสมาธิทั้งหมดของเธอกำลังจดจ่ออยู่กับการ์ตูนตรงหน้า ใช่! เขากำลังนั่งดูการ์ตูนเด็กน้อยกับเธออยู่"อยากมีลูกหรือเปล่า?""คะ? อะไรนะคะ" ถามย้ำเพื่อความชัดเจน ว่าที่เธอได้ยินมันไม่ใช่เพราะเธอหูฝาด เพราะเธอมัวแต่สนใจกับทีวีตรงหน้า"เปล่า ไม่มีอะไร""คุณคิม..""ฉันก็แค่ถามเธอว่า เธออยากมีลูกหรือเปล่า""ถ้าหมายถึงตัวของปราง ไม่เลยค่ะ.." เธอมองหน้าเขาพร้อมกับส่ายหัว "สภาพชีวิตของปราง มันไม่ควรจะให้เด็กคน
เวลาต่อมาสายลมเย็นพัดเอื่อยผ่านระเบียงในห้องนอน อนาคินทร์ยืนพิงราวเหล็กเงียบๆ ในมือมีซองบุหรี่กับไฟแช็กคู่ใจ เขาหยิบมันขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เหมือนเป็นความเคยชินที่สั่งให้ร่างกายทำตามโดยไม่ต้องคิดแต่แล้วก็มีบางสิ่งบางอย่างทำให้เขาต้องชะงัก สายลมอ่อนๆ ที่พัดมากระทบใบหน้า มันทำให้ต้นไม้เล็กที่มะปรางปลูกเอาไว้หน้าระเบียงมันพลิ้วตามไปด้วย เขาชะงักพร้อมกับหยิบบุหรี่ที่กำลังคาบอยู่ในปากออกมา ในหัวก็พลันนึกถึงประโยคที่เธอเคยพูดเอาไว้"บุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ ต้นไม้เองก็ไม่ชอบ เดี๋ยวมันตายนะคะ เลิกได้ก็ดีค่ะ" หลายครั้งที่เธอมักจะพูดแบบนี้กับเขาเวลาที่เห็นเขาออกมาสูบบุหรี่อนาคินทร์มองเข้าไปด้านใน มองหญิงสาวที่นอนหลับนิ่งอยู่บนเตียง หลังจากที่เพิ่งเสร็จภารกิจรักแสนเร่าร้อนกันไป เธอก็ผล็อยหลับไปในทันที ส่วนตัวเขาก็ออกมายืนรับลมเย็นๆ ที่ด้านนอกเขาไม่ได้สูบมาสักพักแล้ว แต่ก็ไม่ได้เลิกจริงจัง นานๆ ครั้งจะสูบสักทีนึง ไม่ใช่คนที่สูบจัดอะไรขนาดนั้นร่างสูงมองทอดยาวออกไปยังตึกราสูงลิบที่อยู่เบื้องหน้า เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ เหมือนได้ลิ้มรสชาติความอิสระของชีวิต ความอิสระของความคิดและการวางตัว เหมือนรู้
บ่ายวันหนึ่ง หลังจากที่มะปรางกลับมาจากดูแลย่าแล้ว เธอกลับมาที่เพ้นท์เฮ้าส์พร้อมกับต้นไม้หลากหลายชนิดที่เพิ่งใช้เงินของอนาคินทร์ซื้อมา เพราะบอกกับเขาไว้ว่าจะปลูกต้นไม้ให้เขาไว้ตรงหน้าระเบียงด้านนอก"พี่คะรบกวนเอาไว้ข้างนอกนั้นเลยค่ะ" บอกกับพนักงานที่ช่วยยกของขึ้นมาให้ เพราะลำพังเธอคนเดียวคงขนขึ้นมาไม่หมดหรอก"ได้ครับ""เอาวางไว้เฉยๆ ก็พอค่ะ ไม่ต้องเรียง เดี๋ยวฉันจัดการเองอีกที""ครับ""ขอบคุณมากๆ นะคะ"หลังจากนั้นเธอก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะรีบมาจัดการต้นไม้ที่ตัวเองซื้อมา ไม่นานนักอนาคินทร์ก็กลับมา เขาเดินตรงมาที่ระเบียงเพราะมองเห็นมะปรางกำลังก้มหน้าก้มหน้าวุ่นกับอะไรด้านนอกอยู่ จนเธอไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเขากลับมาแล้ว"ปราง.." เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อของเธอ"คุณคิม..."เสียงใสของมะปรางดังขึ้นมาเมื่อหันกลับมาเห็นอนาคินทร์ที่ยืนหน้าเข้มมองเธออยู่จากด้านใน"มาช่วยกันสิคะ""ใช้?""ไม่ได้ใช้ค่ะ ให้ช่วยค่ะ ให้ช่วย""....." เขายืนมองเธอนิ่งๆ แต่ก็ยังไม่ได้เข้ามาช่วยอะไร "เธอไปซื้อมาตอนไหน?""ขากลับจากบ้านย่าค่ะ แวะซื้อมา แล้วก็ให้พี่ๆ ข้างล่างช่วยขนขึ้นมา""นี่เธอสนิทกับลูกน้องของฉันด้วยเ
เช้าอันเงียบสงบหลังฝันร้าย หลังจากที่เมื่อคืนลงมาหาของกินกันแล้วกลับขึ้นไปนอนก็ล่วงเวลาไปเกือบตีสามแล้วล่ะ พอเช้าก็พากันตื่นขึ้นมาตามเวลาปกติเฉกเช่นทุกวัน"วันนี้เธอไม่ไปหาย่าหรือไง" เพราะเห็นว่ามันเริ่มสายแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นเธอแต่งตัวเตรียมออกไปเลย แต่แรกก็ไม่ได้บอกไว้ก่อนว่าจะไม่ไป"ว่าจะไปค่ะ แล้วจะแวะไปซื้อต้นไม้ด้วย""ซื้อมาทำไม""ตกแต่งเพ้นท์เฮ้าส์ให้คุณไงคะ ดูสิ มีแต่อะไรก็ไม่รู้ ไม่มีสีเขียวเป็นสีสันเลย""ฉันไม่ชอบ" เขาพูดแบบห้วนๆ ก่อนจะจิบกาแฟแก้วโปรดที่ดื่มอยู่ทุกวันอันที่จริงก็แค่ไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งดูแลต้นไม้ที่อ่อนไหวต่อสภาพอากาศหรืออะไรต่อมิอะไรหรอกเขาก็แค่ไม่ชอบการต้องมานั่งดูแลอะไรๆ แบบนี้ เพราะมันไม่ใช่ตัวของเขาเลย"ปรางไปศึกษามาแล้วนะคะ คนที่มีอาการเครียดบ่อยๆ นอนละเมอ ฝันร้ายเนี่ย ต้องมีกิจกรรมยามว่างแบบนี้ แล้วการปลูกต้นไม้ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด""ยังไง?""ไม่มีเหตุผลค่ะ ปรางคิดเอาเองว่ามันต้องดีที่สุด""ฉันไม่ชอบต้นไม้""ไม่ชอบก็ทำได้ค่ะ อย่าเอาแต่ใจให้มันมาก บอกไว้ว่าไง? อะไรที่อยู่ในกรอบอ่ะไม่ต้องเดินตามมันมากก็ได้ค่ะ นอกกรอบบ้างก็ได้""ได้ทีแล้วเอาใหญ
กลางดึกคืนนั้น...เสียงลมหายใจหนักพ่นพรืดยาวๆ เหมือนคนที่กำลังหายใจไม่ออกหรือหายใจหอบเหนื่อยตัวของเขาสั่นกระตุกเหมือนคนกำลังร้องไห้ พร้อมกับเสียงครางในลำคอและพึมพำออกมาไม่เป็นคำศัพท์ภาษา ทำให้มะปรางรู้สึกตัวจากความง่วงกลางดึก แต่เธอก็คิดว่าเขาแค่นอนละเมอจนกระทั่ง เสียงสั่นพึมพำของเขามันเริ่มชัดเจนขึ้น"ยะ อย่าครับ อย่าทิ้งผมไป อยู่กับผมนะครับ"เสียงพึมพำนั้นไม่ได้ดังมาก แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ซึ่งมันทำให้เธอที่นอนอยู่ข้างๆ เริ่มคิดแล้วว่าเขาไม่ได้แค่ละเมอมะปรางผุดลุกขึ้นนั่งก่อนจะหันไปมองร่างที่นอนตัวสั่นอยู่ข้างกัน อนาคินทร์กำลังตัวสั่นแรงมือกำผ้าปูเตียงแน่นมีเหงื่อท่วมใบหน้า ตาที่ยังหลับพริ้มอยู่นั้นมีน้ำตาไหลพรากออกมาเป็นสาย "คุณคิมคะ คุณคิม เป็นอะไรหรือเปล่า?" เธอเอื้อมมือไปจับไหล่ของเขาแล้วเขย่าเขาเบาๆ "คุณคิมคะตื่นก่อนค่ะ คุณเป็นอะไร?"อนาคินทร์สะดุ้งเฮือกหายใจแรงเหมือนเพิ่งวิ่งหนีจากฝันร้าย ดวงตากระวนกระวายกวาดมองไปรอบๆ ห้องเหมือนยังไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน"เป็นอะไรคะ ฝันร้ายเหรอ?" มะปรางถามขึ้นอีกครั้ง มองอีกฝ่ายที่ยังคงอยู่ในท่าทางและสีหน้าที่ตื่นตระหนก"เธอ...?""ปร
ตอนเย็นในวันเดียวกันมะปรางเปิดประตูเข้ามาก่อนจะเริ่มลงมือทำอาหารในช่วงบ่ายเหมือนอย่างเคย ก่อนจะขึ้นไปบนห้องทำงานของเขา เพราะเห็นว่ารองเท้าของเขาจอดอยู่ที่หน้าห้องแล้ว ซึ่งมันก็แปลว่าเขากลับมาก่อนหน้าที่เธอจะมาถึงแล้วมือเล็กค่อยๆ เปิดแง้มประตูเข้าไปก่อนที่ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่เปิดเอาไว้ 23 องศาจะสาดเข้ามาใส่หน้าของเธอจนรู้สึกเย็นเฉียบ บรรยากาศในห้องเงียบสนิท อนาคินทร์ทิ้งตัวนอนอิงไปกับพนักพิงของเก้าอี้ เหมือนกำลังพักสายตายังไงยังงั้นมะปรางค่อยๆ เอามือไปจับแขนของเขาอย่างแผ่วเบา หวังจะปลุกให้เขาตื่น เพื่อที่จะได้มาทานอาหารตอนเย็นที่เธอเพิ่งทำเสร็จ"อือ..." เขาลืมตาขึ้นและมองเธอนิ่งๆ อนาคินทร์ไม่พูดอะไรเลย ดูเหมือนไม่ตกใจด้วยซ้ำที่เธอเข้ามาที่นี่"ปรางทำอาหารเสร็จแล้วค่ะ ลงไปกินข้าวกัน""อือ.." เขาพยักหน้ารับอย่างส่งๆ ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นมานั่งปรับอิริยาบถ"ไม่สบายหรือเปล่าคะ""ฉันสบายดี""ดูคุณอิดโรยนะ""เหนื่อยงานน่ะ" เขาตอบเพียงสั้นๆ"พักสักหน่อยไหมคะ เรื่องงานน่ะ ปรางเห็นคุณทำตลอดเวลาเลย" บางคืนเธอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเขานอนอยู่ข้างๆ พอเดินออกมาข้างนอกก็เห็นแต่ไฟในห้องทำงานขอ