“พ่อกำลังเครียดเรื่องงานแต่งของพี่สาวเราไม่เห็นรึไง สองคนยังตกลงกันไม่ได้เลย งานก็จะเริ่มในอีกไม่กี่วันนี่เอง ไปได้แล้ว ขากลับเดี๋ยวพ่อเลี้ยงภูผาจะให้คนขับรถมาส่งนะ”
“จีเอารถไปเองก็ได้ค่ะแม่ ขากลับจะได้ไม่ต้องรบกวนคนของพ่อเลี้ยง” จีน่ายังคงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเต็มใจไปงานเลี้ยงสักเท่าไหร่
“ขับรถคนเดียวดึกๆ มันอันตราย ให้คนของพ่อเลี้ยงมาส่งน่ะดีแล้ว” คาร่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมกับส่งรอยยิ้มอ่อนให้กับลูกสาว เพื่อให้จีน่ายอมจำนนทำตามในสิ่งที่มารดาต้องการอย่างว่าง่าย “ก็ได้ค่ะ เห็นแก่พ่อกับแม่หรอกนะ ไม่อย่างนั้นจีไม่มีทางไปงานนี้อย่างแน่นอน” จีน่าเองก็พอจะทราบในความพยายามของขุนพล เพราะก่อนไปเรียนต่อเขาเคยตามจีบเธอมาก่อน แต่หญิงสาวก็ปฏิเสธออกไปอย่างไม่รักษาน้ำใจ เมื่อจีน่านั้นมีใครบางคนอยู่เต็มหัวใจ
ถึงแม้ว่าเขาคนนั้นของเธอจะไม่เคย แม้แต่จะชายตาแล แต่การเก็บความรู้สึกในส่วนลึกของก้นบึ้งหัวใจ เอาไว้แบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว ทีแรกหญิงสาวคิดว่าแค่แอบปลื้มเขา แต่นับพันความรู้สึกที่มียิ่งก่อเกิดเป็นสายใย ทำให้หญิงสาวผูกพันรักเขาข้างเดียวมากขึ้นในทุกๆ วัน ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าชายหนุ่มไม่มีทางที่จะหันมามองผู้หญิงอย่างเธอ
“สวยจังพี่จำแทบไม่ได้ เสียดายพรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้า ไม่อย่างนั้นจะแต่งสวยไปแข่งน้องสาวให้คนทั้งงานตกตะลึง ในความงามของลูกสาวทั้งสองของพ่อสรวิชกับแม่คาร่าสักหน่อย” เดียร์น่าเอ่ยชมน้องสาวออกมาจากใจจริง ซึ่งถ้อยคำที่เธอเรียบเรียงออกมาสักครู่ช่างน่าฟัง จนทำให้ผู้เป็นบิดาอย่างสรวิชฉีกยิ้มกว้างออกมาได้อย่างไม่ยาก
“พร้อมหรือยัง” เสียงทุ้มของบิดาเอ่ยถามขึ้น
“พร้อมแล้ว ไปกันเลยค่ะ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหวานอย่างนุ่มนวลน่าฟัง เมื่อเธอนั้นไม่อยากให้บิดามารดาเครียดมากไปกว่านี้ เมื่อสองพ่อลูกนั่งรถออกไปจากบ้าน คาร่าได้นั่งลงที่โซฟากว้างฝั่งตรงข้ามเดียร์น่า นางทอดถอนใจออกมาเสียงดัง ก่อนจะมองไปยังใบหน้าของลูกสาวคนโต
“ช่วงนี้สุขภาพของพ่อไม่ค่อยดี ลูกอย่าพูดเรื่องให้พ่อเครียดหรือไม่สบายใจเลยนะ”
“บางทีเดียร์ก็คิดว่า พ่อกับแม่ไม่ควรทำตามสิ่งที่ลุงหมอกับป้าฝนขอก็ได้ เดียร์ไม่อยากแต่งงานกับคุณดิน ซึ่งเขาเองก็คงไม่อยากแต่งงานกับเดียร์เช่นกัน” เมื่อหญิงสาวจะถูกตามใจมาตั้งแต่เล็กจนโต จึงทำให้เธอคิดหาทางปฏิเสธที่จะไม่แต่งงานกับปฐพี เหตุผลหลักก็คือเธอนั้นมีคนรักอยู่แล้ว
“พ่อเคยบอกแล้วใช่ไหม เจ้าของไร่วายุมีบุญคุณกับครอบครัวของพ่อมาก การแต่งงานระหว่างลูกกับคุณดิน พ่อกับแม่เองก็ลำบากใจ แต่ในเมื่อทุกอย่างถูกกำหนดเอาไว้แล้ว จะให้พ่อกับแม่ปฏิเสธยังไง”
Rrrr!! เสียงสมาร์ตโฟนเครื่องแพงของเดียร์น่าดังขึ้น ทำให้แววตาของหญิงสาวดูตื่นเต้นดีใจไม่น้อย เมื่อสายที่โทรเข้ามานั้นคืออิริค แฟนหนุ่มของเธอ
“เดียร์ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะแม่” พูดจบหญิงสาวก็รีบเดินออกไปจากบ้านทันที เพื่อหามุมที่สะดวกคุยกับแฟนหนุ่ม ซึ่งบรรยากาศในสวนกำลังเป็นใจ เมื่อได้คุยกับคนที่หัวใจปรารถนา
เมื่อสรวิชขับรถมาส่งจีน่าถึงไร่ของพ่อเลี้ยงภูผา เขาไม่ได้เข้าไปในงานด้วย เพราะมีเรื่องต้องรีบกลับไปปรึกษาภรรยา เมื่อเดียร์น่ายังคงยืนกระต่ายขาเดียว ไม่คิดที่จะแต่งงานกับปฐพี ทั้งที่เธอนั้นไม่มีทางเลี่ยงได้
ภายในงานทุกคนต่างดื่มด่ำกับความสำราญ ซึ่งมีทั้งอาหารคาวหวานและบทเพลงที่แสนไพเราะคลอเคล้าให้สดับรับฟัง หญิงสาวสวยหุ่นเซ็กซี่เดินนวยนาดเข้ามาในงาน ท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ที่กำลังจับจ้องมาที่เธอ เพราะชุดมินิเดรสที่มารดาคัดสรรให้นั้นรัดรูปเข้ากับหุ่นของจีน่าพอดิบพอดี จนทำให้ชายหนุ่มในงานจ้องมองมาที่หญิงสาวร่างอรชรเป็นตาเดียว
“ใครสวยเซ็กซี่จัง เธอเป็นคนแถวนี้หรือเปล่า” ชายหนุ่มหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของขุนพลได้เอ่ยถามขึ้น พร้อมกับสายตาที่บ่งบอกถึงความต้องการอยากสานสัมพันธ์กับเธอ
ขณะที่ปฐพียืนอยู่ข้างๆ ขุนพล สายตาคมของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาว ซึ่งเธอกำลังเดินตรงมายังกลุ่มของพวกเขา ที่มีบรรดาเพื่อนชายหญิงทั้งนั่งและยืนดื่มกันอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งดูเหมือนว่าเธอนั้น ไม่แคร์สายตาของใครแม้แต่น้อย เมื่อหญิงสาวพกเอาความมั่นใจมาเต็มร้อย และความสวยที่ดูแปลกตากว่าทุกครั้ง กำลังส่งผลให้หัวใจของปฐพีเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเธออยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีเงิน เผยให้เห็นส่วนเว้าส่วน โค้ง
แต่เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ ทำให้ปฐพีถึงกับกำมือแน่น เพราะชุดที่เธอสามใส่นอกจากจะโชว์ทรวงอกอวบอิ่ม ถ้าเขาเดาไม่ผิดมองแวบแรกก็รู้ว่า ด้านหลังคงเปลือยโชว์ เผยให้เห็นเนื้อหนังมังสา เสียจนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหวงแหนอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะมีเสียงทุ้มต่ำเรียกชื่อของเธอขึ้นมา จึงทำให้หญิงสาวหยุดเดิน
“หนูจี ฉันจำหนูแทบไม่ได้ วันนี้สวยมากเลย มานี่เดี๋ยวจะแนะนำผู้ใหญ่ให้รู้จัก” พ่อเลี้ยงภูผาพูดกล่าวทักทายหญิงสาวออกมาเสียงดัง ทำให้เธอหันกลับไปมอง พร้อมกับยกมือขึ้นพนมไหว้ตามมารยาท จากนั้นเธอได้เดินตามชายสูงวัย ไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยผู้หลักผู้ใหญ่ ยิ่งทำให้หัวใจของปฐพีเต้นแรง ใบหน้าของเขาเริ่มแดงก่ำ ซึ่งมันไม่ได้เกิดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แต่อย่างใด เมื่อชายหนุ่มกำลังโกรธจีน่า เขาไม่รู้ว่าอะไรเข้าสิงหรือดลใจให้เธอแต่งตัวมาล่อเสือล่อตะเข้แบบนี้ เพราะแผ่นหลังของเธอมันเปลือยเปล่าเว้าลึกกว่าที่เขาเห็นในแวบแรกเสียอีก
“แม่ง! โคตรสวย หุ่นเซ็กซี่ดูแพงเธอแต่งตัวได้แซบมาก หน้าตาลูกครึ่งแบบนี้สเปกกูเลยวะ”ชายหนุ่มอีกคนพูดขึ้น แต่ทว่าชายสองคนที่กำลังถือแก้วบรั่นดีกระดกเข้าปากรวดเดียวพร้อมกัน ได้ชำเลืองหางตามองไปที่ชายหนุ่มหน้าตาดีอย่างไม่ชอบใจสักเท่าไหร่นัก
“ผู้หญิงคนนี้กูหมายตาเอาไว้ตั้งแต่เด็ก พวกมึงเตรียมตัวอกหักดังเปาะไว้เลย จึงไหมวะไอ้ดิน” ขุนพลคุยโวออกมาเสียงดัง เมื่อเขาได้ต่อรองกับบิดาเอาไว้ก่อนที่จะไปเรียนต่อ หากเขาเรียนจบได้เกรดนิยมกลับมา พ่อเลี้ยงภูผาต้องไปทาบทามแล้วนำผู้ใหญ่ไปสู่ขอจีน่าให้กับเขา
“อืม...” เสียงอื้ออึงดังมาจากลำคอของคนตัวเล็กอย่างไม่มีทีท่าขัดขืน แถมเธอยังใช้แขนคล้องไปที่ลำคอแกร่งของสามีเอาไว้แน่น เพื่อโน้มเข้าหาให้ได้องศารับกับช่วงจังหวะที่ดูดดื่ม จากจูบที่อ่อนโยนนุ่มนวลได้กลายเป็นร้อนแรงดังจะกลืนกินคนตัวเล็กเข้าไปทั้งตัว เมื่อเลือดในกายของความเป็นชายเริ่มสูบฉีก ซึ่งจีน่าเองก็ปรารถนาคนตัวโตไม่แพ้กัน เรียวลิ้นของเขาและเธอเกี่ยวกระหวัดกันไปมา อยู่ในโพรงปากของคนใต้ร่างอย่างไม่มีทีท่าว่าจะยอมกัน อาภรณ์ที่ห่อหุ้มกายของคนทั้งสอง ถูกชายหนุ่มเปลื้องออกไปกองรวมกันอยู่ที่พื้นอย่างไม่ไยดี ปฐพีไล้มืออีกข้างไปตามเรียวขาเสลาของภรรยา “อืม...อื้ม” เสียงครางดังออกมาแข่งกัน เมื่อต่างคนต่างก็อยากสานสัมพันธ์ ปลายลิ้นอุ่นของชายหนุ่มยังคงกวาดต้อนฉกชิมเอาความหอมหวานจากโพรงปากของภรรยาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อ “ฉันรักเธอจัง จุ๊บ! จร๊วบ!” เสียงแหบพร่าที่ดังบอกรักอยู่ข้างหู กำลังทำให้จีน่าม้วนตัวบิดไปมา เมื่อเธอรู้สึกเสียวซ่านจากสัมผัสที่ได้รับ เพราะเวลานี้ปฐพีกำลังใช้ลิ้นร้อนโ
ในที่สุดปฐพีก็พ่ายแพ้ให้กับความรัก ทั้งที่เขาพยายามผลักไสให้เธอออกไปไกล แต่ทว่าจีน่ากลับใช้ความพยายามที่จะเข้าใกล้ ยิ่งเธอถูกเขาประกาศกร้าว ระยะเวลาหนึ่งปี ที่หญิงสาวจะต้องเอาชนะหัวใจของปฐพี เธอก็ยิ่งทำทุกทาง เพื่อให้ชายหนุ่มยอมจำนน ซึ่งตอนนี้จีน่าก็ทำมันสำเร็จ เมื่อเธอได้เปลี่ยนคำพูดของปฐพี ที่เคยบอกเอาไว้ว่า สามร้อยหกสิบห้าวันฉันจะไม่รักเธอ กลับกลายเป็นสามร้อยหกสิบห้าวันไม่มีวันไหนที่จะไม่รัก เธอกลายเป็นดังจิตวิญญาณของชายหนุ่ม ที่ทำให้เขามีลมหายใจอยู่ได้ในทุกๆ วัน ห้าปีผ่านไป ลูกสาวของจีน่ากับปฐพีกำลังอยู่ในวัยน่ารักน่าฟัง ชื่อว่านภาที่แปลว่าท้องฟ้า เสียงพูดของเด็กหญิงเจี๊ยวจ๊าวใสซื่อทำให้ไร่ชาดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ส่งผลให้นายแพทย์จิรายุและภรรยาไม่เป็นอันอยู่กรุงเทพฯ ภายในหนึ่งเดือนเขาเทียวไปมาหลายครั้ง จนปฐพีต้องปรามให้คนทั้งคู่อยู่ที่ไร่ เนื่องจากเขาไม่อยากให้บิดามารดาเดินทางบ่อยๆ เพราะคนทั้งคู่อายุมากขึ้น แม้จะยังดูดีราวกับหนุ่มสาววัยสี่สิบต้นๆ ซึ่งคำชมของลูกชายมักจะทำให้ฝนสุดายิ้มหน้าหวาน เพราะปฐพีชอบหยอดคำหวายไม่แพ้นายแพทย์จิรายุบิดาของเขา
“พอแล้วค่ะจีหิว” หญิงสาวผละคนตัวโตออกห่างเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรที่เลยเถิดมากไปกว่าจูบ “อยากกินฉันเหรอ หืม” “คนบ้า พูดอะไรก็ไม่รู้” จีน่าพูดออกมาด้วยใบหน้าร้อนผ่าว “ไหนลูกพ่อหิวแล้วใช่ไหมครับ ไปกินข้าวกัน” เขากระซิบลงไปที่หน้าท้องของจีน่า จากนั้นปฐพีได้โอบภรรยาลงไปที่โต๊ะอาหาร กับบรรยากาศที่ไม่เหมือนอยู่ในโรงพยาบาล เมื่อปฐพีตั้งใจเซอ์ไพรส์เธอกลับพร้อมกับอยากให้ภรรยาประทับใจ กับของขวัญล้ำค่าที่เธอได้มอบให้กับเขา “เธอออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ฉันจะจัดการกับช้องนาง เธอควรได้รับโทษ ที่กล้าทำร้ายดวงใจของฉัน ส่วนไอ้ขุนพล มันได้หนีไปต่างประเทศแล้ว” พอพูดถึงคนทั้งสอง ใบหน้าของปฐพีดูเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างถนัดตา “จีขอได้ไหมคะ ให้ทุกอย่างจบแต่เพียงเท่านี้ จีเองก็ปล
ภายในห้องพิเศษ ปฐพีนั่งเฝ้าภรรยาของเขาทั้งคืน จนเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ พอจีน่างัวเงียตื่นขึ้นมา หญิงสาวค่อยๆ ปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะหลับลงอีกครั้งเพื่อปรับกับแสงที่แยงมา ซึ่งจีน่าพบว่าที่นี่ไม่ใช่กระท่อมแต่เป็นห้องที่เต็มไปด้วยสีขาว จากนั้นหญิงสาวจึงค่อยๆ กวาดสายตามองไปทั่วห้อง เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันที เมื่อปฐพีกำลังซบหน้าลงกับเตียง มือเรียวเอื้อมไปแตะลงที่ศีรษะของสามีเบาๆ “อืม... จีน่า! เธอเป็นยังไงบ้างเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เมื่อเห็นภรรยารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ปฐพีรีบดีดตัวลุกขึ้นพร้อมกับเอามือกุมใบหน้าของเธอเอาไว้ แล้วเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย ก่อนที่เขาสำรวจว่าเธอเจ็บตรงไหนบ้าง “ฉันขอโทษนะจีน่า ที่ทำให้เธอต้องไปเจอกับเรื่องบ้าๆ พวกนั้น ลืมมันไปเถอะนะ คิดว่ามันคือฝันร้ายจะได้ไหม ฉันอาจจะขอเธอมากไป แต่ต่อจากนี้ฉันจะทำให้เธอฝันดีทุกคืน พร้อมกับตื่นมาเจอกับฉันในทุกวัน จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอได้อีกแล้ว” ดวงตาคมจับจ้องไปที่ใบหน
“ฉันขอโทษนะจีน่า ต่อไปฉันจะไม่ให้เธอต้องห่างกายไปไหนไกล อดทนรอฉันอีกนิดนะ ใกล้ถึงแล้ว” พอพูดจบชายหนุ่มรีบหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปในไร่ ที่เขาตั้งใจอยากจะสร้างบ้านไว้ที่นี่ เพื่อมาพักผ่อนกับจีน่า ในเวลาที่เขาและเธอว่างจากงานในไร่ชา พอรถยนต์ออฟโรดคันคู่ในแล่นมาถึง ชายหนุ่มไม่รอช้าหยิบไฟฉายออกมา แล้วเดินตรงไปยังกระท่อมทันที ซึ่งเขากึ่งวิ่งกึ่งเดินอย่างกับกลัวว่าจะมีคนคว้าเส้นชัยไปก่อน “เฮ้ย! อะไรเนี่ย กระเป๋าของจีน่า” ชายหนุ่มรีบคว้ากระเป๋าของหญิงสาวมาสะพายเอาไว้ ก่อนจะรีบเดินออกไปให้เร็วที่สุด เพราะกระท่อมอยู่ห่างจากที่จอดรถพอสมควร ถ้าคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย อาจจะต้องหยุดนั่งพักเอาแรง แล้วค่อยเดินต่อด้วยซ้ำ เมื่อมาถึงกระท่อมหัวใจของชายหนุ่มแทบสลาย ที่เห็นร่างของภรรยาถูกพันธนาการเอาไว้กับเสา เขารีบเข้าไปแก้มัดให้กับเธอ ขณะที่จีน่าไม่ได้สติ เขาเรียกยังไงเธอก็ไม่ยอมตื่น
“ไม่จริงคุณขุนพลเดินทางไปกรุงเทพตั้งแต่บ่ายแก่ๆ ป่านนี้เขาคงบินออกนอกประเทศไปแล้ว” ช้องนางเดินผ่านมาได้ยินประโยคที่ปฐพีพูดขึ้นพอดี หล่อนเลยสวนกลับอย่างไม่คิด “ลูกไม่ได้ทำเรื่องแย่ๆ ใช่ไหมช้องนาง” แม่เลี้ยงเวียงพิงค์เอ่ยถามลูกสาวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่ทว่าดวงตาของนางกลับแฝงไปด้วยความกังวลใจ “ช้องนางเป็นลูกแม่นะคะ ทำไมแม่ต้องมองลูกสาวของตัวเองด้วยสายตาแบบนั้นด้วย” “เพราะแม่รักลูก เลยไม่อยากให้ลูกทำผิด” “หยุดพูดจาบ้าบอได้แล้ว กลับไปเถอะคุณปฐพีที่นี่ไม่มีผู้หญิงชื่อจีน่า” น้ำเสียงของพ่อเลี้ยงสิงห์คำฟังดูห่างเหินอย่างรุนแรง เมื่อเขารู้ถึงจุดประสงค์การมาที่นี่ของปฐพี “ถ้าเรื่องนี้ถึงตำรวจผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จีน่าอยู่ที่ไหน ตอบผมมาคุณช้องนาง