Share

ไม่ส่าจะเกิดอะไร

last update Last Updated: 2025-06-30 23:59:32

แสงแรกของอรุณรุ่งสาดส่องเข้ามาในศาลเจ้าโบราณที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของป่า อิจิ และ ฮารุ ยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าของพวกเขามีร่องรอยความเหนื่อยล้าจากการผจญภัยที่ยาวนาน แต่ดวงตาของทั้งคู่ยังคงฉายแววความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว หลังจากการเดินทางผ่าน เมืองแห่งความทรงจำ และการเผชิญหน้ากับ ‘ผู้พิทักษ์’ ที่ถูกควบคุมโดย ‘ผู้ตื่น’ พวกเขาได้รับรู้ถึงแผนการอันชั่วร้ายของ ‘ผู้ตื่น’ ที่ต้องการจะลบเลือนความทรงจำของมนุษย์เกี่ยวกับอดีตทั้งหมด เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ที่มันคือผู้ปกครองสูงสุด

“เราจะทำลาย ‘คำสาปแห่งการลืมเลือน’ ได้ยังไงอิจิ?” ฮารุถาม น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา เธอวางผ้ายันต์แห่งความจริงลงบนฝ่ามือ มันเป็นเพียงแผ่นผ้าเก่าๆ ธรรมดาๆ ไม่มีแสงเรืองรองใดๆ เหลืออยู่แล้ว

อิจิหยิบผ้ายันต์ขึ้นมาดูอย่างพินิจพิเคราะห์ “ไคบอกว่าพลังของเธอที่เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณแห่งความทรงจำที่แท้จริงคือกุญแจ… และการทำลายคำสาปนี้จะต้องแลกด้วยพลังแห่งชีวิตของเธอทั้งหมด”

“ฉันรู้… และฉันก็พร้อมที่จะเสียสละมัน” ฮารุกล่าว ดวงตาของเธอฉายแววแน่วแน่ “ฉันจะไม่ยอมให้ความจริงถูกบิดเบือนไปตลอดกาล”

“แต่เธอแน่ใจนะฮารุ? ถ้าเธอทำอย่างนั้น… เธอจะไม่เหลือพลังใดๆ อีกต่อไปเลยนะ” อิจิถามด้วยความเป็นห่วง เขายังคงกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่จะตามมา

“ฉันแน่ใจอิจิ” ฮารุตอบ เธอเอื้อมมือไปกุมมือของอิจิ “ฉันไม่ได้ต้องการพลังวิเศษอะไรอีกแล้ว ขอแค่โลกนี้สงบสุข… และผู้คนได้จดจำความจริง… นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน”

อิจิพยักหน้าช้าๆ เขารู้ว่าเขาไม่สามารถห้ามฮารุได้อีกต่อไปแล้ว นี่คือเส้นทางที่เธอเลือก และเขาก็จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ

“แล้วเราจะเริ่มจากตรงไหนดี?” อิจิถาม

ทันใดนั้นเอง! ผ้ายันต์ในมือของฮารุก็พลันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง และภาพบางอย่างก็ฉายเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง… ภาพของ ‘ผู้ตื่น’ ที่กำลังอยู่กลางเมืองหลวง… กำลังแผ่ขยายม่านหมอกสีดำทะมึนออกไปปกคลุมเมืองทั้งหมด… ม่านหมอกที่ดูดกลืนความทรงจำและความจริง

“มันอยู่ที่เมืองหลวง!” ฮารุร้องขึ้น “มันกำลังใช้ ‘คำสาปแห่งการลืมเลือน’ กับผู้คนทั้งหมดในเมือง!”

“เราต้องรีบไป!” อิจิพูดขึ้น พวกเขารีบวิ่งออกจากศาลเจ้า มุ่งหน้าสู่เมืองหลวงอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

การโจมตีของม่านหมอกแห่งการลืมเลือน

เมื่อมาถึงชานเมืองหลวง ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของพวกเขานั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าที่จินตนาการไว้มาก!

เมืองหลวงที่เคยคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา บัดนี้ถูกปกคลุมด้วย ม่านหมอกสีดำทะมึน หนาทึบ มองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความมืดมิดและเงาลางๆ ของสิ่งปลูกสร้าง เสียงกรีดร้องและเสียงกรีดร้องที่น่าขนลุกดังมาจากภายในม่านหมอก ราวกับเสียงของวิญญาณที่กำลังถูกดูดกลืน

“นี่มัน… อะไรกัน?!” ฮารุอุทานด้วยความตกใจ ใบหน้าของเธอซีดเผือด

“นี่แหละคือ ‘คำสาปแห่งการลืมเลือน’!” อิจิกล่าว “มันกำลังดูดกลืนความทรงจำของทุกคนในเมือง!”

พวกเขาพยายามวิ่งเข้าไปในเมือง แต่ม่านหมอกนั้นกลับสร้างแรงผลักดันมหาศาลออกมา ทำให้พวกเขาไม่สามารถก้าวเข้าไปได้

“เราเข้าไปไม่ได้!” ฮารุพูดขึ้น เธอรู้สึกเหมือนมีพลังงานบางอย่างกำลังพยายามผลักเธอออกไป

“ฉันจะพยายามเปิดทางให้เธอฮารุ!” อิจิกล่าว เขาชักดาบขึ้น ดาบของเขาเปล่งประกายสีเงินจางๆ ออร่าแห่งพลังปราณแผ่ออกมาจากร่างของเขา

“ดาบสะบั้นมาร!” อิจิคำราม เขาฟันดาบเข้าใส่พลังที่มองไม่เห็นที่กั้นขวางพวกเขาอยู่

ฟิ้ว!

พลังปราณจากดาบของอิจิพุ่งทะลุเข้าไปในม่านหมอกสีดำทะมึน ทำให้ม่านหมอกนั้นเกิดช่องว่างขึ้นเล็กน้อย

“ตอนนี้แหละฮารุ!” อิจิตะโกนบอก

ฮารุไม่รอช้า เธอพุ่งตัวเข้าไปในช่องว่างนั้นทันที อิจิรีบตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเข้ามาในม่านหมอกสีดำทะมึน บรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อากาศเย็นยะเยือกจนแทบแข็ง กลิ่นคาวเลือดผสมกับกลิ่นอับชื้นคละคลุ้งไปทั่ว และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ… ผู้คน!

ผู้คนในเมืองหลวงที่เคยมีชีวิตชีวา บัดนี้ยืนนิ่งเป็นรูปปั้น ดวงตาของพวกเขาว่างเปล่า ไร้แวว และร่างกายของพวกเขาก็เริ่มโปร่งแสงจางๆ ราวกับกำลังจะสลายหายไป

“พวกเขากำลังสูญเสียความทรงจำ!” ฮารุพูดขึ้น น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ “เราต้องรีบแล้วอิจิ!”

“มันอยู่ที่ไหน?” อิจิถาม

ฮารุหลับตาลง เธอพยายามเชื่อมโยงกับผ้ายันต์แห่งความจริงที่อยู่ในมือของเธอ แสงสีเงินจางๆ เริ่มแผ่ออกมาจากผ้ายันต์ มันนำทางพวกเขาไปยังใจกลางเมืองหลวง… ที่ที่พลังมืดมิดที่สุดกำลังแผ่ออกมา

เมื่อเดินมาถึงลานกว้างใจกลางเมืองหลวง พวกเขาก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น!

‘ผู้ตื่น’ กำลังยืนตระหง่านอยู่กลางลานกว้าง ร่างของมันใหญ่โตมโหฬารจนแทบจะปกคลุมตึกสูงทั้งหมด ดวงตาที่เรืองแสงสีม่วงดำของมันเปล่งประกายความชั่วร้าย และมันกำลังแผ่ปีกสีดำทะมึนขนาดมหึมาออกไปปกคลุมเมืองทั้งหมด ม่านหมอกสีดำทะมึนที่ปกคลุมเมืองหลวงทั้งหมดนั้น แท้จริงแล้วคือพลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากตัวมัน!

และรอบๆ ตัวมัน… มีร่างของ ‘ผู้พิทักษ์’ นับสิบตนกำลังยืนเรียงรายอยู่ พวกมันคือชายหนุ่มที่สวมชุดเกราะสีดำสนิท ดวงตาว่างเปล่า ไร้แวว และมีรอยสักรูปปีศาจปรากฏอยู่บนหน้าอกของพวกเขา พวกเขากำลังดูดกลืนพลังงานชีวิตและความทรงจำของผู้คนรอบข้าง เพื่อป้อนให้กับ ‘ผู้ตื่น’!

“เจ้ามนุษย์! เจ้ากล้าดียังไงมาขัดขวางแผนการของข้า!” ‘ผู้ตื่น’ คำราม เสียงของมันดังก้องไปทั่วเมืองหลวง ทำให้ม่านหมอกสีดำทะมึนสั่นสะท้าน

“เราจะไม่ยอมให้แกทำลายความทรงจำของโลกใบนี้!” ฮารุกล่าว น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว

“ฮ่าๆๆๆ! เจ้ามนุษย์โง่เขลา! พลังของเจ้าได้หายไปหมดแล้ว! เจ้าจะเอาอะไรมาหยุดข้าได้?!” ‘ผู้ตื่น’ หัวเราะเยาะเย้ย เสียงหัวเราะของมันชวนขนลุก

“ต่อให้ฉันไม่มีพลัง… ฉันก็จะหยุดแกให้ได้!” ฮารุกล่าว เธอหันไปมองอิจิ “อิจิ! ถ่วงเวลาพวกมันให้ฉัน!”

“ได้เลยฮารุ! ระวังตัวให้ดีนะ!” อิจิคำราม เขาพุ่งเข้าใส่ ‘ผู้พิทักษ์’ ที่อยู่ใกล้ที่สุด ดาบของเขาเปล่งประกายสีเงินเจิดจ้า

อิจิใช้เทคนิคการใช้ดาบที่เหนือชั้นเข้าต่อสู้กับ ‘ผู้พิทักษ์’ นับสิบตน เขาว่องไวและคล่องตัว หลบหลีกการโจมตีของพวกมันอย่างรวดเร็ว และฟันดาบเข้าใส่จุดอ่อนของพวกมันอย่างแม่นยำ แต่ ‘ผู้พิทักษ์’ ก็แข็งแกร่งและมีจำนวนมากเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้เพียงลำพัง

ในขณะที่อิจิกำลังต่อสู้อย่างดุเดือด ฮารุก็หลับตาลง เธอวางผ้ายันต์แห่งความจริงลงบนหน้าอก และเริ่มรวบรวมสมาธิทั้งหมดที่มี เธอรู้ว่านี่คือการเสียสละครั้งสุดท้าย… และเธอต้องทำให้มันสำเร็จ

“พลังแห่งชีวิต… ความทรงจำที่แท้จริง… จิตวิญญาณแห่งบรรพกาล… จงตอบรับเสียงเรียกของข้า… จงผนึกรวมเป็นหนึ่งกับข้า… เพื่อขับไล่ม่านหมอกแห่งการลืมเลือน!” ฮารุร่ายคาถา เสียงของเธอแผ่วเบา แต่ก็เปี่ยมด้วยพลังอำนาจที่มองไม่เห็น

ทันใดนั้น! ผ้ายันต์แห่งความจริงในมือของฮารุก็พลันเปล่งประกายแสงสีขาวบริสุทธิ์เจิดจ้า แสงนั้นพวยพุ่งขึ้นจากร่างของฮารุ พุ่งตรงไปยังม่านหมอกสีดำทะมึนที่ปกคลุมเมืองหลวง แสงนั้นไม่ได้ทำลายล้าง แต่กลับแทรกซึมเข้าไปในม่านหมอก และเริ่มขับไล่ความมืดมิดออกจากเมืองหลวงอย่างช้าๆ

“เป็นไปไม่ได้! เจ้ามนุษย์! เจ้ายังมีพลังเช่นนี้ได้อย่างไร?!” ‘ผู้ตื่น’ คำรามด้วยความเจ็บปวด มันพยายามจะใช้พลังมืดพุ่งเข้าใส่ฮารุ แต่แสงสีขาวบริสุทธิ์จากฮารุก็สร้างม่านพลังป้องกันไว้

“ข้าจะไม่มีวันยอมให้เจ้าทำลายแผนการของข้า!” ‘ผู้ตื่น’ คำราม มันพุ่งปีกสีดำทะมึนเข้าฟาดฟันใส่ฮารุอย่างบ้าคลั่ง

แต่ก่อนที่ปีกของมันจะสัมผัสตัวฮารุ! อิจิก็พุ่งเข้ามาขวางทางไว้ เขาใช้ดาบของเขาฟันเข้าที่ปีกของ ‘ผู้ตื่น’ อย่างสุดกำลัง

เคร้ง!

เสียงโลหะเสียดสีกันดังกึกก้อง แต่อิจิก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับ ‘ผู้ตื่น’ ได้เลย แรงปะทะมหาศาลทำให้เขากระเด็นไปไกล เลือดไหลออกจากบาดแผลใหม่ที่ปรากฏขึ้นบนร่างของเขา

“อิจิ!” ฮารุร้องลั่นด้วยความตกใจ เธอเห็นอิจิถูกโจมตีอย่างหนัก

“ฮารุ! อย่าหยุด! ทำมันให้สำเร็จ!” อิจิตะโกนบอก เขาพยายามยันตัวเองขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล

ฮารุมองอิจิด้วยความรักและเป็นห่วง เธอรู้ว่าเธอต้องทำอะไร เธอหลับตาลงอีกครั้ง และรวบรวมพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ แสงสีขาวบริสุทธิ์จากร่างของเธอสว่างจ้ายิ่งกว่าเดิม มันพุ่งทะลุเข้าไปในม่านหมอกสีดำทะมึน และเริ่มดูดกลืนพลังงานมืดมิดของ ‘คำสาปแห่งการลืมเลือน’ เข้ามาในตัวเอง

ผู้คนที่เคยยืนนิ่งเป็นรูปปั้น เริ่มสั่นสะท้าน ร่างกายของพวกเขาเริ่มกลับมามีสีสันอีกครั้ง และดวงตาของพวกเขาก็เริ่มกลับมามีแววตา… แววตาของความทรงจำที่กำลังหวนคืนมา

“อ๊ากกกกกกกก! ไม่นะ! ความทรงจำ! พวกมันกำลังกลับมา!” ‘ผู้ตื่น’ กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันพยายามจะใช้พลังมืดโจมตีฮารุอีกครั้ง แต่แสงสีขาวบริสุทธิ์จากฮารุก็แข็งแกร่งเกินกว่าที่มันจะทำอะไรได้

“คำสาปแห่งการลืมเลือน! จงพินาศไป!” ฮารุร่ายคาถา เสียงของเธอเปี่ยมด้วยพลังอำนาจและอธิษฐานจิตที่แรงกล้า แสงสีขาวบริสุทธิ์จากร่างของเธอพุ่งทะลุผ่านม่านหมอกสีดำทะมึนทั้งหมด ดูดกลืนพลังงานมืดมิดและ ‘คำสาปแห่งการลืมเลือน’ เข้ามาในตัวเองจนหมดสิ้น

ม่านหมอกสีดำทะมึนที่ปกคลุมเมืองหลวงทั้งหมดหายไปในชั่วพริบตา เผยให้เห็นเมืองหลวงที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผู้คนเริ่มขยับตัว พวกเขามองหน้ากันด้วยความสับสน แต่ในดวงตาของพวกเขาก็มีความทรงจำที่กำลังหวนคืนมาอย่างชัดเจน

“เป็นไปไม่ได้! นี่มัน…!” ‘ผู้ตื่น’ คำรามด้วยความโกรธแค้นและสิ้นหวัง ร่างของมันเริ่มสั่นสะท้านอย่างรุนแรง พลังมืดมิดที่มันเคยแผ่ออกมาพลันหายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงร่างของปีศาจที่อ่อนแอและสั่นคลอน

ฮารุทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว แสงสีขาวบริสุทธิ์จากผ้ายันต์บนฝ่ามือของเธอจางหายไปจนหมดสิ้น เหลือไว้เพียงแผ่นผ้าเก่าๆ ธรรมดาๆ ไม่มีรอยสักผ้ายันต์ใดๆ เหลืออยู่บนฝ่ามือของเธอแล้ว

“ฮารุ!” อิจิรีบวิ่งเข้าไปหาเธอ เขาประคองเธอขึ้นมา ใบหน้าของเธอซีดขาวและเต็มไปด้วยเหงื่อ

“ฉัน… ฉันทำได้แล้วอิจิ…” ฮารุพูดเสียงแผ่ว “ฉันทำลาย ‘คำสาปแห่งการลืมเลือน’ ได้แล้ว…”

“ใช่… เธอทำได้แล้วฮารุ… เธอช่วยโลกนี้ไว้ได้อีกครั้ง” อิจิกล่าว เขากอดฮารุแน่น

“เจ้ามนุษย์! เจ้าทำอะไรลงไป!” ‘ผู้ตื่น’ คำรามด้วยความโกรธแค้นสุดขีด “ข้าจะไม่มีวันยอมแพ้! ข้าจะกลับมา! และข้าจะทำลายความทรงจำของพวกเจ้าให้สิ้นซาก!”

มันพยายามจะใช้พลังที่เหลืออยู่พุ่งเข้าใส่พวกเขา แต่ทันใดนั้นเอง! แสงสีเขียวมรกตที่บริสุทธิ์ก็พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน และแสงสีม่วงเข้มก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า แสงทั้งสองผสานรวมกัน กลายเป็นลำแสงขนาดใหญ่ที่พุ่งตรงเข้าใส่ร่างของ ‘ผู้ตื่น’

“นี่มัน… พลังแห่งการผนึก…!” ‘ผู้ตื่น’ กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างของมันถูกลำแสงนั้นดูดกลืนเข้าไปในตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะหายไปอย่างสมบูรณ์ เหลือไว้เพียงความเงียบสงบที่กลับคืนมา

“จิตวิญญาณแห่งต้นไม้โบราณ… และจิตวิญญาณแห่งผู้คุ้มกัน…” อิจิพึมพำ “พวกเขากำลังผนึกมันอย่างสมบูรณ์”

ฮารุมองไปยังท้องฟ้าที่เริ่มเป็นสีฟ้าสดใส ดวงอาทิตย์สาดส่องลงมาอบอุ่นร่างกายของพวกเขา สื่อถึงการเริ่มต้นใหม่ หลังจากที่ต้องเผชิญกับหายนะ อิจิและฮารุได้ทำหน้าที่ของพวกเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว พวกเขาได้ช่วยโลกนี้ไว้

“เราทำสำเร็จแล้วอิจิ…” ฮารุพึมพำ “เราทำลาย ‘คำสาปแห่งการลืมเลือน’ ได้แล้ว… และ ‘ผู้ตื่น’ ก็ถูกผนึกไว้ตลอดกาล”

“ใช่… และเธอก็เสียสละพลังทั้งหมดของเธอเพื่อทำมัน” อิจิกล่าว เขากุมมือของฮารุแน่น มือของเธอเย็นเฉียบ แต่ในดวงตาของเธอมีประกายแห่งความสุขและความสงบ

ผู้คนในเมืองหลวงเริ่มฟื้นตัวจากอาการสับสน พวกเขามองไปรอบๆ ด้วยความงุนงง แต่ในไม่ช้า ความทรงจำที่แท้จริงก็เริ่มหวนคืนมา พวกเขามองเห็นซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนที่ถูกทำลาย… พวกเขานึกถึงเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้น… และพวกเขาก็หันมามองอิจิและฮารุด้วยความรู้สึกขอบคุณ

“ผู้กล้า!” เสียงหนึ่งตะโกนขึ้น ผู้คนเริ่มส่งเสียงเชียร์และเดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้าๆ

อิจิและฮารุมองหน้ากัน พวกเขายิ้มให้กัน นี่คือผลตอบแทนจากการเสียสละของพวกเขา… ความทรงจำที่หวนคืนมาของมนุษย์ทุกคน

“เราจะกลับบ้านกันนะฮารุ” อิจิกล่าว “กลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุข… อย่างที่ควรจะเป็น”

ฮารุพยักหน้า เธอพิงศีรษะกับไหล่ของอิจิ “ใช่… กลับบ้านกันเถอะ”

พวกเขาเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน ผู้คนเหล่านั้นยังคงอยู่ในสภาพสับสน แต่ก็เริ่มมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าบ้างแล้ว ความจริงได้กลับคืนมา และโลกใบนี้ก็ได้เรียนรู้บทเรียนอันล้ำค่า… บทเรียนที่ว่าความทรงจำคือสิ่งสำคัญ และการเผชิญหน้ากับความจริง ไม่ว่าจะเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม คือกุญแจสำคัญที่จะนำพาไปสู่แสงสว่าง

อิจิและฮารุเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ มือของพวกเขากุมกันแน่น เส้นทางข้างหน้ายังคงไม่แน่นอน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาจะก้าวเดินต่อไปด้วยกันเสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   ปริศนา

    ปดปีผ่านไปนับจากเหตุการณ์บน เกาะแห่งม่านหมอก โลกยังคงสงบสุขภายใต้การดูแลของ อิจิ และ ฮารุ พวกเขายังคงทำหน้าที่ผู้พิทักษ์แห่งสมดุลอย่างเงียบๆ ฮารุในวัย 26 ปี กลายเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาชุมชนให้กับเมืองหลวง เธอใช้ความเข้าใจในธรรมชาติของผู้คนและความผูกพันกับผืนดินในการช่วยฟื้นฟูหมู่บ้านและส่งเสริมการศึกษา อิจิในวัย 30 ปี ยังคงเป็นองครักษ์เงาที่แข็งแกร่งและรอบคอบ แต่บทบาทของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากผู้ปกป้องส่วนตัวของฮารุ เขากลายเป็นผู้ดูแลความมั่นคงของเมือง คอยสืบสวนเหตุการณ์แปลกประหลาดที่อาจคุกคามความสงบสุขของประชาชน ผ้ายันต์แห่งความจริงที่เคยเป็นกุญแจสำคัญในการผจญภัยครั้งก่อนๆ บัดนี้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในหอคอยแห่งปัญญาของเมืองหลวง เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้และความจริงที่ไม่มีวันถูกลืมแม้โลกจะสงบสุข แต่ภายในใจของอิจิกลับมีความรู้สึกบางอย่างค้างคามาตลอด เขาไม่เคยลืมคำพูดของ ‘ผู้ตื่น’ ที่ว่า “ข้าจะกลับมา!” และความรู้สึกของเขาบอกว่าความสงบสุขนี้อาจเป็นเพียงม่านบังตา“อิจิ นายยังคงกังวลเรื่องนั้นอยู่หรือเปล่า?” ฮารุถามในขณะที่พวกเขากำลังเดินเล่นในสวนของวังหลวง แสงจันทร์สาดส่องลงมาต้องใบ

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   2ปี

    สองปีผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับความฝัน อิจิ และ ฮารุ กลับมาใช้ชีวิตที่เงียบสงบในเมืองหลวงของสยามประเทศ เมืองที่เคยถูกม่านหมอกแห่งการลืมเลือนปกคลุม บัดนี้กลับมาคึกคักและสดใสกว่าเดิม ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน แม้บาดแผลจากอดีตจะยังคงอยู่ แต่พวกเขาก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันและสร้างอนาคตที่ดีกว่า ฮารุในวัย 18 ปี เติบโตเป็นหญิงสาวที่งดงามและเปี่ยมด้วยจิตใจที่เมตตา เธอทุ่มเทเวลาให้กับการสอนหนังสือเด็กๆ ในหมู่บ้านที่เคยถูกทำลาย และช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา แม้พลังแห่งชีวิตจะหายไปจนหมดสิ้น แต่จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์และเข้มแข็งของเธอกลับเปล่งประกายยิ่งกว่าเดิม อิจิยังคงเป็นองครักษ์เงาของเธอ คอยปกป้องเธอจากห่างๆ และเฝ้ามองการเติบโตของเธอด้วยความภาคภูมิใจ เขารู้สึกถึงความสงบสุขที่แท้จริงที่เขาไม่เคยสัมผัสได้มาก่อน“อาจารย์ฮารุ! วันนี้จะเล่านิทานเรื่องอะไรให้ฟังคะ?!” เสียงใสๆ ของเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งดังขึ้น เด็กๆ หลายคนมารวมตัวกันรอบๆ ฮารุ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังฮารุยิ้มอ่อนโยน “วันนี้อาจารย์จะเล่าเรื่องของ ผู้กล

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   ไม่ส่าจะเกิดอะไร

    แสงแรกของอรุณรุ่งสาดส่องเข้ามาในศาลเจ้าโบราณที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของป่า อิจิ และ ฮารุ ยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าของพวกเขามีร่องรอยความเหนื่อยล้าจากการผจญภัยที่ยาวนาน แต่ดวงตาของทั้งคู่ยังคงฉายแววความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว หลังจากการเดินทางผ่าน เมืองแห่งความทรงจำ และการเผชิญหน้ากับ ‘ผู้พิทักษ์’ ที่ถูกควบคุมโดย ‘ผู้ตื่น’ พวกเขาได้รับรู้ถึงแผนการอันชั่วร้ายของ ‘ผู้ตื่น’ ที่ต้องการจะลบเลือนความทรงจำของมนุษย์เกี่ยวกับอดีตทั้งหมด เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ที่มันคือผู้ปกครองสูงสุด“เราจะทำลาย ‘คำสาปแห่งการลืมเลือน’ ได้ยังไงอิจิ?” ฮารุถาม น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา เธอวางผ้ายันต์แห่งความจริงลงบนฝ่ามือ มันเป็นเพียงแผ่นผ้าเก่าๆ ธรรมดาๆ ไม่มีแสงเรืองรองใดๆ เหลืออยู่แล้วอิจิหยิบผ้ายันต์ขึ้นมาดูอย่างพินิจพิเคราะห์ “ไคบอกว่าพลังของเธอที่เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณแห่งความทรงจำที่แท้จริงคือกุญแจ… และการทำลายคำสาปนี้จะต้องแลกด้วยพลังแห่งชีวิตของเธอทั้งหมด”“ฉันรู้… และฉันก็พร้อมที่จะเสียสละมัน” ฮารุกล่าว ดวงตาของเธอฉายแววแน่วแน่ “ฉันจะไม่ยอมให้ความจริงถูกบิดเบือนไปตลอดก

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   แน่ใจ

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือยอดเขาไฟอัคคีแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานยาม ดวงจันทร์สีเลือด โคจรขึ้นมาเต็มดวง แสงสีโลหิตอาบไล้ทิวทัศน์รอบข้างให้ดูน่าขนลุกยิ่งกว่าเดิม เสียงคำรามกึกก้องจากปากปล่องภูเขาไฟดังกึกก้องไม่หยุดหย่อน ราวกับเสียงหายใจอันหนักหน่วงของอสูรร้ายที่กำลังจะตื่นจากการหลับใหลที่ยาวนานนับพันปี กลิ่นกำมะถันและกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ยิ่งสร้างความกดดันอันหนักอึ้งให้แก่ อิจิ และ ฮารุ ที่กำลังปีนป่ายขึ้นสู่ยอดเขา“อีกนิดเดียวอิจิ! เราจะไปถึงแล้ว!” ฮารุตะโกนบอก เสียงของเธอสั่นเครือจากความเหนื่อยล้าและความหวาดกลัว แต่ดวงตาของเธอยังคงเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น ผ้ายันต์แห่งความจริงที่สถิตอยู่ในฝ่ามือของเธอเรืองแสงสีรุ้งอ่อนๆ ตอบรับกับพลังงานมหาศาลของดวงจันทร์สีเลือด“ฉันรู้ฮารุ… ฉันสัมผัสได้ถึงมัน” อิจิตอบ เขาปีนป่ายก้อนหินที่แหลมคมอย่างรวดเร็ว แม้ร่างกายจะยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ แต่จิตใจของเขามุ่งมั่นกว่าครั้งไหนๆ ดาบในมือของเขาเปล่งประกายสีเงินจางๆ พร้อมรับมือกับทุกสิ่งลมพายุโหมกระหน่ำรุนแรงขึ้นบนยอดเขา เสียงกรีดร้องโหยหวนคล้ายเสียงวิญญาณดังมาจากปากปล่องภูเขาไฟที่กำลังคุกรุ่น ลาวาสีแดงฉา

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   รหัสลับ

    สายลมแห่งยามรุ่งอรุณพัดโชยมาปะทะร่าง อิจิ และ ฮารุ ที่ยืนอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ แสงแรกของดวงอาทิตย์สาดส่องลงมายังทิวทัศน์เบื้องหน้า เผยให้เห็นยอดเขาไฟที่สูงเสียดฟ้า มันตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าดิบชื้นที่พวกเขาเพิ่งฝ่าฟันออกมา หมอกจางๆ ลอยปกคลุมรอบฐานของภูเขาไฟราวกับผ้าห่มสีขาว กลิ่นกำมะถันจางๆ ลอยมาตามลมเป็นสัญญาณเตือนถึงพลังงานที่ไม่สงบนิ่งที่อยู่ภายใน“นั่นแหละ… ยอดเขาไฟ” ฮารุพึมพำ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล “มันดูน่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะอิจิ”อิจิพยักหน้า สีหน้าของเขาเคร่งเครียด “ใช่… พลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากที่นั่นมันมหาศาลมาก ‘ผู้ตื่น’ กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาในไม่ช้า”ผ้ายันต์แห่งความจริงที่ผนึกอยู่ในฝ่ามือของฮารุเรืองแสงจางๆ เป็นการยืนยันถึงความรู้สึกของอิจิ พวกเขามีเวลาเพียงสองราตรีเท่านั้นก่อนที่ ดวงจันทร์สีเลือด จะปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พันธนาการของ ‘ผู้ตื่น’ จะอ่อนแอที่สุด“เราต้องไปถึงที่นั่นให้เร็วที่สุด” อิจิกล่าว “และเราต้องหารหัสลับแห่งบรรพกาลให้เจอด้วย”“รหัสลับนั่น… มันอยู่ที่ไหนกันนะ?” ฮารุถาม “จิตวิญญาณแห่งต้นไม้บอกแค่ว่ามันอยู่ในผืนป่าแห่งนี้

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   การบาดเจ็บ

    คืนเดือนมืดปกคลุมผืนป่าดิบชื้นทางตอนเหนือของสยามประเทศ แสงจันทร์แทบไม่สามารถส่องผ่านม่านไม้หนาทึบลงมาได้ มีเพียงเสียงจิ้งหรีดเรไรร้องระงม และเสียงลมกระโชกแรงที่พัดกิ่งไม้ใบหญ้าให้เสียดสีกันเป็นระยะ ราวกับเสียงกระซิบกระซาบจากวิญญาณแห่งป่า อิจิและฮารุยังคงก้าวเดินอย่างเชื่องช้า ร่างกายของอิจิอ่อนล้าจากบาดแผลที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ ส่วนฮารุก็ดูซีดเซียวจากการใช้พลังแห่งชีวิตครั้งล่าสุด แต่ดวงตาของทั้งคู่ยังคงฉายแววความมุ่งมั่นที่จะค้นหาผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่ปรากฏในนิมิตของฮารุ“อากาศที่นี่มันแปลกๆ นะอิจิ” ฮารุพึมพำ น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา “มันเย็นยะเยือกกว่าที่ควรจะเป็น… เหมือนมีบางอย่างกำลังจับจ้องเราอยู่”“ใช่… ฉันก็รู้สึกได้” อิจิตอบ เขากระชับดาบในมือแน่นขึ้น “พลังงานที่นี่ไม่ใช่พลังงานของปีศาจ แต่มันเป็นพลังที่เก่าแก่กว่านั้น… ลึกซึ้งกว่านั้น”ตามนิมิตของฮารุ ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายถูกซ่อนอยู่ใต้ต้นไม้โบราณที่สูงเสียดฟ้าในป่าลึกแห่งนี้ ต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมไปทั่วบริเวณ และมีแสงสีม่วงเข้มเปล่งออกมาจากรากของมัน“เรามาถูกทางแล้วใช่ไหมอิจิ?” ฮารุถาม“ฉันหวังว่าอย่างนั้นฮารุ” อิจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status