หลังจากที่แผนการใหญ่เรื่องระเบิดชำระล้างได้ก่อร่างขึ้นในความคิดของไอโกะ ความหิวโหยที่ถาโถมเข้ามาก็ทำให้ทั้งคู่ต้องพักจากการระดมสมองอันหนักหน่วง เมื่อท้องอิ่มด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำอัดลม ความหวังก็กลับมาส่องประกายในดวงตาอีกครั้ง
“รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยนะโช” ไอโกะพึมพำขณะลูบท้อง “ไม่คิดว่าบะหมี่สำเร็จรูปจะช่วยได้ขนาดนี้” โชพยักหน้าพลางยิ้มแห้ง ๆ “ใช่…มันช่วยได้มาก แต่ฉันว่าเราคงต้องรีบไปหาวัตถุดิบที่อาคารวิทยาศาสตร์นะไอโกะ ยิ่งเร็วยิ่งดี” “แน่นอน แต่ก่อนหน้านั้น…” ไอโกะก้มมองนาฬิกาข้อมือของเธอ แสงสีเขียวยังคงกะพริบอยู่ “สัญญาณของผ้ายันต์ผืนที่หกมันแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยนะโช ฉันว่ามันอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้แหละ…ในโรงอาหารนี่แหละ” โชเบิกตากว้างเล็กน้อย “ในโรงอาหารเหรอ? แต่เราเดินดูมาเกือบจะทั่วแล้วนะ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย” “บางทีมันอาจจะซ่อนอยู่ในที่ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้” ไอโกะบอก น้ำเสียงของเธอเริ่มจริงจังขึ้น “มาลองสำรวจให้ละเอียดอีกครั้งกันเถอะ” ทั้งคู่เริ่มออกสำรวจโรงอาหารที่กว้างใหญ่และมืดมิดอีกครั้ง แสงไฟฉายจากอุปกรณ์ของพวกเขาส่องกระทบกับโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ครัวที่พังเสียหายกระจัดกระจายไปทั่ว กลิ่นอับชื้นและกลิ่นเหม็นไหม้คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ทุกย่างก้าวของพวกเขาสร้างเสียงก้องกังวานในความเงียบงันที่น่าขนลุก “ตรงนี้ไม่มีอะไรเลย…” โชพึมพำเมื่อเขาเดินสำรวจไปตามซอกมุมของห้องครัวขนาดใหญ่ ไอโกะเดินเข้าไปใกล้กับเคาน์เตอร์แจกอาหารที่ดูทรุดโทรม เธอลองใช้มือคลำไปตามผนังที่เต็มไปด้วยรอยร้าวและคราบสกปรก “สัญญาณมันแรงที่สุดตรงนี้เลยโช” ไอโกะบอก “แต่ฉันไม่เห็นมีอะไรเลยนะ” ทันใดนั้นเอง ความเย็นยะเยือก ก็พลันแผ่ซ่านออกมาจากผนังที่ไอโกะกำลังสัมผัสอยู่ ความเย็นนั้นรุนแรงจนทำให้เธอต้องสะดุ้งถอยหลัง “อะไรน่ะไอโกะ!” โชถามด้วยความตกใจ “ผนังตรงนี้…มันเย็นมากเลยโช เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน” ไอโกะตอบ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย โชไม่รอช้า เขาใช้มีดอาคมเคาะไปที่ผนังบริเวณนั้นเบา ๆ เสียงเคาะที่ควรจะทึบ กลับก้องกังวานราวกับมีโพรงอยู่ข้างใน “มีโพรงอยู่ข้างในจริง ๆ ด้วยไอโกะ!” โชอุทาน ไอโกะตัดสินใจใช้พลังเวทมนตร์ของเธอ เธอร่ายคาถาเปิดผนึกอย่างแผ่วเบา แสงสีเขียวอ่อน ๆ ก็พลันเปล่งประกายออกมาจากมือของเธอ ส่องกระทบกับผนังที่ทรุดโทรม และแล้ว ผนังส่วนนั้นก็พลันยุบตัวลงไป! เผยให้เห็นทางลับที่มืดมิดและแคบ ๆ ทอดตัวลึกลงไปใต้ดิน กลิ่นอับชื้นที่รุนแรงกว่าเดิมโชยออกมาจากทางลับนั้น พร้อมกับความรู้สึกกดดันที่น่าขนลุก “ทางลับงั้นเหรอเนี่ย!” โชเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “สัญญาณผ้ายันต์มันแรงที่สุดตรงนี้เลยโช” ไอโกะบอก “ผ้ายันต์ผืนที่หกต้องอยู่ข้างล่างแน่ ๆ” แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นกับสิ่งที่รอคอยอยู่เบื้องล่าง แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อไป พวกเขาปีนป่ายลงไปในทางลับที่มืดมิดและแคบ ๆ อย่างระมัดระวัง ทางลับนั้นทอดยาวลึกลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพวกเขามาถึงห้องโถงขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้ดิน ห้องโถงใต้ดินแห่งนี้มืดมิดสนิท ไม่มีแสงสว่างใด ๆ เล็ดลอดเข้ามาได้ อากาศภายในห้องเย็นยะเยือกและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่น่าสะอิดสะเอียน ไอโกะใช้ไฟฉายส่องไปทั่วบริเวณ ผนังของห้องโถงเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและรอยเลือดที่แห้งกรัง ดูน่าขนลุกยิ่งนัก และที่กลางห้องโถงนั้น มี แท่นบูชาเก่าแก่ ที่ทำจากหินสีดำสนิทตั้งตระหง่านอยู่ บนแท่นบูชามี ผ้ายันต์ผืนที่หก เปล่งแสงสีทองจาง ๆ อยู่เบื้องบน มันลอยอยู่เหนือแท่นบูชาเล็กน้อย ราวกับกำลังลอยอยู่กลางอากาศ “นั่นมัน…ผ้ายันต์ผืนที่หก!” ไอโกะอุทานด้วยความตื่นเต้น น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความหวัง โชพยักหน้า “มันอยู่ตรงนั้นแล้วไอโกะ…แต่ฉันรู้สึกว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิดนะ” เขารู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่แผ่ออกมาจากแท่นบูชาหินสีดำนั้น เป็นพลังงานที่แตกต่างจากเงาปีศาจทั่วไป มันเย็นยะเยือกและกดดันอย่างประหลาด ทันใดนั้นเอง เสียงกระซิบแผ่วเบาก็พลันดังขึ้นจากทุกทิศทางรอบตัวพวกเขา! เสียงกระซิบนั้นฟังดูเหมือนเสียงของคนจำนวนมากที่กำลังพูดพร้อมกัน แต่กลับไม่สามารถจับใจความได้ มันเป็นเสียงที่น่าขนลุกและทำให้รู้สึกหวาดผวา “เสียงอะไรน่ะไอโกะ?” โชถามอย่างระมัดระวัง “ฉันไม่รู้…แต่มันไม่น่าใช่เรื่องดีเลย” ไอโกะตอบ และแล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เงามืดจำนวนนับไม่ถ้วนก็พลันพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินรอบแท่นบูชาหินสีดำ! เงามืดเหล่านั้นก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่กลับไม่มีใบหน้าและไม่มีเสียงพูด พวกมันเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว ราวกับไม่มีตัวตนจริง ๆ พวกมันล้อมรอบแท่นบูชาและผ้ายันต์ไว้แน่น “พวกมันคือ…เงาปีศาจแห่งความเงียบ!” ไอโกะอุทานด้วยความตกใจ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ “ฉันเคยอ่านเจอในตำราของแม่…พวกมันเป็นปีศาจที่เกิดจากความสิ้นหวังและความโดดเดี่ยว…พวกมันจะดูดกลืนพลังงานของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในความเงียบ…” โชกำมีดอาคมแน่น “แล้วเราจะจัดการกับพวกมันยังไง? พวกมันดูเหมือนจะไม่มีตัวตนจริง ๆ เลยนะ” “เราต้องหาทางไปถึงผ้ายันต์ให้ได้โช!” ไอโกะบอก “ผ้ายันต์คือสิ่งเดียวที่จะขับไล่พวกมันได้!” การต่อสู้ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา เหล่าเงาปีศาจแห่งความเงียบไม่สามารถทำร้ายพวกเขาด้วยการสัมผัสโดยตรงได้ แต่กลับพยายามที่จะ ดูดกลืนพลังงานและจิตวิญญาณ ของพวกเขาไปอย่างช้า ๆ ความรู้สึกเย็นยะเยือกและความมืดมิดเข้าปกคลุมจิตใจของพวกเขา ทำให้พวกเขารู้สึกอ่อนล้าและสิ้นหวังอย่างรวดเร็ว “โช…ฉันรู้สึกไม่ดีเลย…” ไอโกะพึมพำ เธอรู้สึกเหมือนพลังงานในร่างกายของเธอกำลังถูกดูดออกไปอย่างช้า ๆ โชเองก็รู้สึกได้ถึงพลังที่ถูกดูดกลืนไป เขาพยายามจะฟันใส่เงาปีศาจ แต่คมมีดของเขากลับผ่านร่างของพวกมันไปอย่างไม่มีผลอะไรเลย “เราต้องหาทางเข้าใกล้แท่นบูชาให้ได้ไอโกะ!” โชตะโกนบอก “เราต้องเอาผ้ายันต์มา!” ไอโกะพยักหน้า เธอรู้ว่าโชพูดถูก พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากต้องฝ่าวงล้อมของเหล่าเงาปีศาจแห่งความเงียบไปให้ถึงแท่นบูชาให้ได้ แผนการที่เสี่ยงตายถูกกำหนดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอโกะจะใช้คาถาที่สามารถรบกวนการทำงานของเงาปีศาจแห่งความเงียบได้ชั่วคราว เพื่อสร้างช่องว่างให้โชสามารถทะลวงเข้าไปได้ “โช! นายต้องวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!” ไอโกะบอก “ฉันจะร่ายคาถา ‘คลื่นเสียงรบกวน’ มันจะสร้างคลื่นเสียงความถี่ต่ำที่รุนแรงมากพอที่จะรบกวนการรวมตัวของพวกมันได้ชั่วขณะ นั่นคือโอกาสของนาย!” โชพยักหน้า “เข้าใจแล้วไอโกะ…ระวังตัวด้วยนะ” ไอโกะหลับตาลง เธอรวบรวมพลังปราณทั้งหมดที่มี เธอเปิดขวดอาคมที่กักเก็บดวงวิญญาณของปีศาจไว้ และเริ่มร่ายคาถาคลื่นเสียงรบกวน เสียงสวดของเธอดังก้องกังวานในความมืดมิด แสงสีม่วงเข้มจากขวดอาคมของเธอก็พลันเปล่งประกายออกมาอย่างรุนแรง ทันใดนั้น คลื่นเสียงความถี่ต่ำที่มองไม่เห็นก็พลันแผ่ขยายออกไปจากร่างของไอโกะ คลื่นเสียงนั้นปะทะเข้ากับร่างของเหล่าเงาปีศาจแห่งความเงียบอย่างรุนแรง ทำให้พวกมันส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างประหลาด ร่างของพวกมันสั่นไหวและสลายไปเพียงชั่วขณะ ทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้นในวงล้อมของพวกมัน “ตอนนี้แหละโช!” ไอโกะตะโกนบอก เธอหอบหายใจอย่างแรง ใบหน้าของเธอซีดเผือดจากการใช้พลังงานมหาศาล โชไม่รอช้า เขารวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ พุ่งทะลวงเข้าสู่ช่องว่างที่ไอโกะสร้างขึ้นด้วยความเร็วอันบ้าคลั่ง เขาวิ่งสุดฝีเท้า พุ่งตรงไปยังแท่นบูชาที่ผ้ายันต์ลอยอยู่เบื้องบน แต่เงาปีศาจแห่งความเงียบก็ไม่ได้โง่ พวกมันฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และพุ่งเข้าใส่โชจากทุกทิศทาง เสียงกระซิบแผ่วเบาเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง พยายามจะดูดกลืนพลังงานของโช “อึก!” โชร้องด้วยความเจ็บปวด เขาพยายามจะใช้มีดอาคมฟันใส่พวกมัน แต่คมมีดของเขาก็ยังคงผ่านร่างของพวกมันไปอย่างไม่มีผลอะไรเลย ไอโกะที่อยู่ด้านหลังยังคงร่ายคาถาคลื่นเสียงรบกวนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าร่างกายของเธอจะรู้สึกเหมือนจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ แต่เธอก็ไม่ยอมหยุด เธอรู้ว่าหากโชไม่สามารถไปถึงผ้ายันต์ได้ พวกเขาก็จะจบสิ้น โชวิ่งสุดฝีเท้า เขาพุ่งตรงไปยังแท่นบูชาที่อยู่เบื้องหน้า ระยะทางเพียงไม่กี่ก้าวดูเหมือนจะเป็นระยะทางที่ยาวไกลแสนไกล เขาใช้แรงทั้งหมดที่เหลืออยู่กระโดดขึ้นไปบนแท่นบูชา และเอื้อมมือออกไปคว้าผ้ายันต์ผืนที่หกที่ลอยอยู่กลางอากาศ การต่อสู้ครั้งนี้เสี่ยงตายที่สุด เพราะพวกเขาไม่สามารถโจมตีปีศาจพวกนี้ได้โดยตรง และทุกวินาทีที่ผ่านไป พลังชีวิตของพวกเขาก็ถูกดูดกลืนไปเรื่อยๆ ความกดดันและความสิ้นหวังเริ่มคืบคลานเข้าสู่จิตใจของพวกเขา แต่ในที่สุด! โชก็คว้าผ้ายันต์ผืนที่หกมาไว้ในมือได้สำเร็จ! ทันทีที่ผ้ายันต์ถูกดึงออกจากแท่นบูชา แสงสีทองจ้าก็พลันเปล่งประกายออกมาจากผ้ายันต์ แสงนั้นแผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้าง คลื่นพลังงานบริสุทธิ์แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ สัมผัสกับร่างของเหล่าเงาปีศาจแห่งความเงียบ “กรี๊ดดดดดดดดดด!!!” เงาปีศาจแห่งความเงียบทุกตัวที่สัมผัสกับแสงสีทองต่างก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน ร่างของพวกมันเริ่มสั่นไหวและสลายไปอย่างรวดเร็ว แสงสีทองจากผ้ายันต์ยังคงแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ ราวกับจะขับไล่ความมืดมิดและพลังงานด้านลบทั้งหมดออกจากห้องโถงใต้ดินแห่งนี้ ไอโกะทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เธอหอบหายใจอย่างแรง ใบหน้าของเธอซีดเผือด ขวดอาคมในมือของเธอเปล่งแสงริบหรี่ลงอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกว่าพลังงานภายในถูกใช้ไปจนเกือบหมด โชรีบลงมาจากแท่นบูชา เขาเดินเข้ามาหาไอโกะด้วยความดีใจ เขาไม่รอช้า เก็บผ้ายันต์ผืนที่หกใส่กระเป๋าคาถาของไอโกะ ทันที และในจังหวะนั้นเอง ดวงจิตสีม่วงเข้มที่เกิดจากการสลายไปของเงาปีศาจแห่งความเงียบก็ถูกดูดเข้าไปในขวดกักเก็บวิญญาณโดยอัตโนมัติ ทำให้ขวดอาคมของเธอเปล่งประกายสีม่วงเข้มและสว่างจ้าขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า บ่งบอกถึงพลังงานมหาศาลที่ถูกกักเก็บไว้ภายใน “เรา…เราทำได้แล้วโช!” ไอโกะร้องด้วยความดีใจ น้ำเสียงของเธอแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความปิติยินดีที่หาที่สุดไม่ได้ โชพยักหน้า เขายิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน “ใช่…เราทำได้แล้วไอโกะ…เหลืออีกแค่ผืนเดียวเท่านั้น!” ทั้งคู่มองหน้ากัน แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและหวัง แม้จะเหนื่อยล้าจนแทบจะหมดแรง แต่ผ้ายันต์หกผืนที่อยู่ในกระเป๋าของไอโกะก็คือเครื่องยืนยันว่าพวกเขากำลังเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของฝันร้ายนี้แล้วลมหายใจแห่งเงามืดที่พัดกรูเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้ไอโกะและโชแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะที่ดับสนิท ยิ่งตอกย้ำถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ พวกเขาทั้งคู่รู้ดีว่ามันคือสัญญาณเตือนจากการมาถึงของบอสตัวจริง“ไม่นะ…ลมนี้…มันคือพลังของบอสตัวจริง!” ไอโกะพึมพำ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือด้วยความหวาดหวั่นแต่แล้ว โชก็เอื้อมมือไปจับมือของไอโกะแน่น ดวงตาของเขาฉายแววครุ่นคิดอย่างหนัก“มันยังไม่มาตอนนี้หรอกไอโกะ” โชเอ่ยขึ้นมา เสียงของเขาหนักแน่นและมั่นใจอย่างน่าประหลาด “เชื่อฉันสิ”ไอโกะหันมามองโชด้วยความสงสัย “แน่ใจเหรอโช? พลังงานมันรุนแรงขนาดนี้เลยนะ”“แน่ใจ” โชตอบ “เท่าที่ฉันสันนิษฐาน…บอสพวกนั้นจะต้องรวบรวมพลังงานให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะปรากฏตัวออกมาอย่างสมบูรณ์”ไอโกะขมวดคิ้ว “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?”“จำได้ไหมที่มันบอกว่า ‘อาณาเขตนี้คือส่วนหนึ่งของตัวข้า!’” โชอธิบาย “นั่นหมายความว่ามันกำลังดูดกลืนพลังงานจากโรงเรียนทั้งหมด และมันจะไม่ยอมออกมาจนกว่ามันจะแข็งแกร่งที่สุด”“แล้วลมพวกนี้ล่ะ?” ไอโกะถาม“ลมพวกนี้ก็เป็นแค่พลังงานรั่วไหลของมันที่กำลังรวบรวมตัวอยู่” โชตอบ “มันเป
ความรู้สึกสิ้นหวังจากการเผชิญหน้ากับบอสตัวจริงที่แข็งแกร่งเกินจินตนาการยังคงเกาะกุมจิตใจของไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง ผ้ายันต์ทั้งหกผืนที่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อและเลือดเนื้อกลับดับแสงลงอย่างสิ้นเชิง ราวกับไร้ประโยชน์สิ้นดี แต่คำให้กำลังใจจากโชก็ช่วยจุดประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้งในใจของไอโกะ“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขาทั้งคู่พยุงกันลุกขึ้นยืนช้าๆ แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้าและเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับ แต่แรงฮึดสุดท้ายก็ทำให้พวกเขาก้าวต่อไป สู่เป้าหมายเดียวที่เหลืออยู่: อาคารวิทยาศาสตร์“ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะโช” ไอโกะบอก เสียงของเธอแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…เราต้องรีบแล้ว”พวกเขาเดินออกจากจุดที่ต่อสู้กับเงาปีศาจช้างที่สลายไป สู่ทางเดินที่มืดมิดและเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง บรรยากาศของโรงเรียนร้างยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน เสียงฝีเท้าของพวกเขาก้องกังวานไปทั่วบริเวณ ราว
หลังจากที่ได้ผ้ายันต์ผืนที่ 6 มาอย่างยากลำบาก และได้วางแผนการทำลายโรงเรียนด้วยระเบิดชำระล้างแล้ว ไอโกะและโชก็ตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปยังอาคารวิทยาศาสตร์ทันที แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้า แต่ความมุ่งมั่นที่จะยุติฝันร้ายทั้งหมดนี้ก็เป็นแรงผลักดันให้พวกเขาเดินหน้าต่อไป“เอาล่ะโช…ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะ” ไอโกะบอก เสียงของเธอหนักแน่นขึ้นเล็กน้อยโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…ยิ่งเร็วยิ่งดี”ทั้งคู่เดินออกจากโรงอาหารที่มืดมิด สู่ทางเดินที่ไร้สิ้นสุดของโรงเรียนร้าง แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซากปรักหักพังและเถาวัลย์ที่ปกคลุมไปทั่วอาคาร บรรยากาศยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน“อาคารวิทยาศาสตร์อยู่ทางนั้นนะโช” ไอโกะชี้ไปทางซ้ายมือของพวกเขา ซึ่งเป็นอาคารที่ดูใหญ่โตและมีโครงสร้างแปลกตาเล็กน้อยพวกเขาเดินไปตามทางเดินที่มืดมิด ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของตัวเองที่ก้องกังวานในความเงียบงัน ความรู้สึกไม่สบายใจเริ่มเกาะกุมจิตใจของพวกเขาอีกครั้งทันใดนั้นเอง เสียงร้องอันน่าสะพรึงกลัว ก็พลันดังขึ้นมาจากด้านหน้าของพวกเขา! เสียงนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ ราวกับเสียงแตรที่ใหญ่โตและน่ากลั
หลังจากที่แผนการใหญ่เรื่องระเบิดชำระล้างได้ก่อร่างขึ้นในความคิดของไอโกะ ความหิวโหยที่ถาโถมเข้ามาก็ทำให้ทั้งคู่ต้องพักจากการระดมสมองอันหนักหน่วง เมื่อท้องอิ่มด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำอัดลม ความหวังก็กลับมาส่องประกายในดวงตาอีกครั้ง“รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยนะโช” ไอโกะพึมพำขณะลูบท้อง “ไม่คิดว่าบะหมี่สำเร็จรูปจะช่วยได้ขนาดนี้”โชพยักหน้าพลางยิ้มแห้ง ๆ “ใช่…มันช่วยได้มาก แต่ฉันว่าเราคงต้องรีบไปหาวัตถุดิบที่อาคารวิทยาศาสตร์นะไอโกะ ยิ่งเร็วยิ่งดี”“แน่นอน แต่ก่อนหน้านั้น…” ไอโกะก้มมองนาฬิกาข้อมือของเธอ แสงสีเขียวยังคงกะพริบอยู่ “สัญญาณของผ้ายันต์ผืนที่หกมันแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยนะโช ฉันว่ามันอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้แหละ…ในโรงอาหารนี่แหละ”โชเบิกตากว้างเล็กน้อย “ในโรงอาหารเหรอ? แต่เราเดินดูมาเกือบจะทั่วแล้วนะ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย”“บางทีมันอาจจะซ่อนอยู่ในที่ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้” ไอโกะบอก น้ำเสียงของเธอเริ่มจริงจังขึ้น “มาลองสำรวจให้ละเอียดอีกครั้งกันเถอะ”ทั้งคู่เริ่มออกสำรวจโรงอาหารที่กว้างใหญ่และมืดมิดอีกครั้ง แสงไฟฉายจากอุปกรณ์ของพวกเขาส่องกระทบกับโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ครัวที่พังเสียหายกระจัดกระจายไปท
หลังจากการฟื้นฟูร่างกายและวางแผนการสร้างระเบิดชำระล้างอย่างละเอียด ไอโกะและโชต่างก็รู้สึกดีขึ้นมาก บาดแผลของพวกเขาได้รับการเยียวยา พลังปราณที่เคยร่อยหรอเริ่มกลับคืนมา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความหวังที่จุดประกายขึ้นมาอีกครั้งในใจของพวกเขา“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้วโช” ไอโกะบอก เธอหมุนข้อมือเล็กน้อยเพื่อทดสอบพละกำลังโชพยักหน้า “ฉันก็เหมือนกันไอโกะ…แต่ฉันยังรู้สึกหิวอยู่เลย” เขาลูบท้องตัวเองเบา ๆไอโกะหัวเราะเบา ๆ “นั่นสินะ…ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน”พวกเขาตัดสินใจที่จะสำรวจโรงอาหารให้ทั่วอีกครั้ง หวังว่าจะเจออะไรบางอย่างที่พอจะบรรเทาความหิวโหยได้ แสงไฟฉายจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซอกมุมของโรงอาหารที่มืดมิดและเต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง โต๊ะและเก้าอี้ไม้ที่ล้มระเนระนาดดูน่าหดหู่ยิ่งนัก“ดูสิฉันเจออะไร!” โชร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เขาชี้ไปที่มุมหนึ่งของโรงอาหารที่มืดมิด ซึ่งมีตู้เก็บของเก่า ๆ ตั้งอยู่ไอโกะรีบเดินเข้าไปดูด้วยความอยากรู้ เมื่อโชเปิดตู้เก็บของออก แสงไฟฉายของพวกเขาก็ส่องกระทบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ด้านใน“บะหมี่สำเร็จรูป!” ไอโกะอุทานด้วยความดีใจ ดวงตาของเธอ
ความสิ้นหวังเข้าปกคลุมไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของบอสตัวจริงยังคงก้องกังวานในหู ราวกับจะย้ำเตือนถึงความพยายามที่สูญเปล่าของพวกเขา การที่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายดับแสงลง ยิ่งทำให้ความหวังที่เคยมีมอดไหม้ไปกับความมืดมิด“ไม่จริงน่า…ทั้งหมดที่เราสู้มา…มันเป็นแค่ภาพลวงตาอย่างนั้นเหรอ?” ไอโกะพึมพำ ใบหน้าของเธอซีดเผือดโชทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ดวงตาของเขาว่างเปล่า “เรา…เราพลาดไปแล้วเหรอไอโกะ? เราสู้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตนจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”แต่แล้ว ทั้งคู่ก็สบตากัน แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ค่อย ๆ จุดประกายความมุ่งมั่นขึ้นมาอีกครั้ง“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ยังได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขารวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่ พยุงกันลุกขึ้นยืนช้า ๆ และรีบออกจากหอประชุมใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังงานด้านลบที่น่าสะพรึงกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะยังคงส่องนำทางพวกเขาไปในความมืดมิด“เราต้องหาที่ซ่อนตัวก่อนโช” ไอโกะบอก “เราบาดเจ็บหนักเกินไปที่จะส