ความสิ้นหวังเข้าปกคลุมไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของบอสตัวจริงยังคงก้องกังวานในหู ราวกับจะย้ำเตือนถึงความพยายามที่สูญเปล่าของพวกเขา การที่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายดับแสงลง ยิ่งทำให้ความหวังที่เคยมีมอดไหม้ไปกับความมืดมิด
“ไม่จริงน่า…ทั้งหมดที่เราสู้มา…มันเป็นแค่ภาพลวงตาอย่างนั้นเหรอ?” ไอโกะพึมพำ ใบหน้าของเธอซีดเผือด โชทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ดวงตาของเขาว่างเปล่า “เรา…เราพลาดไปแล้วเหรอไอโกะ? เราสู้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตนจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?” แต่แล้ว ทั้งคู่ก็สบตากัน แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ค่อย ๆ จุดประกายความมุ่งมั่นขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ยังได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา” ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!” พวกเขารวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่ พยุงกันลุกขึ้นยืนช้า ๆ และรีบออกจากหอประชุมใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังงานด้านลบที่น่าสะพรึงกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะยังคงส่องนำทางพวกเขาไปในความมืดมิด “เราต้องหาที่ซ่อนตัวก่อนโช” ไอโกะบอก “เราบาดเจ็บหนักเกินไปที่จะสู้กับมันในตอนนี้” โชพยักหน้า “ไปที่โรงอาหารกันเถอะไอโกะ…ที่นั่นน่าจะพอมีที่กำบัง” พวกเขาเดินโซซัดโซเซไปตามทางเดินที่มืดมิดและเต็มไปด้วยซากปรักหักพังอีกครั้ง ก้าวแล้วก้าวเล่า เสียงหอบหายใจของพวกเขาดังก้องไปทั่วความเงียบงัน ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยช้ำจากแรงกระแทกจากการต่อสู้กับภาพลวงตาของบอสเมื่อครู่ เลือดสีแดงสดไหลซึมออกมาจากบาดแผลหลายแห่ง ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงโรงอาหารเก่า ๆ ที่มืดมิดและเต็มไปด้วยกลิ่นอับชื้น โต๊ะและเก้าอี้ไม้ที่เคยเป็นที่นั่งของนักเรียนบัดนี้กระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ บางตัวก็พังเสียหาย พวกเขาเลือกมุมหนึ่งของโรงอาหารที่พอจะมีที่กำบัง และทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง “โอ้ย…เจ็บไปทั้งตัวเลย” โชพึมพำ เขามองไปยังบาดแผลบนแขนและไหล่ของเขา เลือดสีแดงสดที่ยังคงไหลซึมอยู่ทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบ ไอโกะหยิบผ้าสะอาดที่พอจะหาได้ออกมาจากกระเป๋าคาถาของเธอ เธอฉีกมันออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ และเริ่มทำแผลให้กับโชอย่างเบามือ “อดทนหน่อยนะโช…เดี๋ยวก็ดีขึ้น” ไอโกะบอก น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าของเธอซีดเผือด แต่แววตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หลังจากทำแผลให้โชเสร็จ ไอโกะก็เริ่มทำแผลให้กับตัวเอง บาดแผลบนร่างกายของเธอเองก็ไม่ต่างจากโชมากนัก แต่เธอก็อดทนกับความเจ็บปวด และจัดการกับบาดแผลของตัวเองอย่างรวดเร็ว เมื่อทำแผลเสร็จ ทั้งคู่ก็เริ่ม ร่ายอาคมฟื้นฟูพลัง ของตนเองไปพร้อม ๆ กัน พวกเขาหลับตาลง รวบรวมสมาธิทั้งหมดที่เหลืออยู่ แสงสีเขียวอ่อน ๆ ก็พลันเปล่งประกายออกมาจากฝ่ามือของไอโกะ และแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างของพวกเขาอย่างช้า ๆ เวลาผ่านไปช้า ๆ ในความมืดมิดของโรงอาหาร เสียงลมหายใจของพวกเขาเริ่มสม่ำเสมอมากขึ้น แสงสีเขียวจากอาคมฟื้นฟูพลังส่องสว่างเรืองรองในความมืด ราวกับเป็นสัญญาณแห่งความหวัง ร่างกายของพวกเขาเริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ความเจ็บปวดลดน้อยลง พละกำลังกลับคืนมาทีละน้อย “ฉันนึกออกแล้วว่าเราจะจัดการกับพวกมันยังไง!” ไอโกะเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดวงตาของเธอเปิดออก แววตาของเธอเป็นประกายด้วยความคิดที่แปลกใหม่ โชที่กำลังร่ายอาคมอยู่ถึงกับชะงัก เขามองไอโกะด้วยความสงสัย “ยังไง? เราจะเอาชนะบอสตัวนั้นได้ยังไงไอโกะ?” ไอโกะไม่รอช้า เธอเอื้อมมือไปหยิบ งานวิจัยของอาคารวิทยาศาสตร์ ที่เธอเก็บมาได้ตั้งแต่แรกเริ่มเข้าสู่โรงเรียน เธอชูสมุดเล่มเก่า ๆ ที่เต็มไปด้วยแผนผังและสูตรเคมีขึ้นมาในอากาศ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ด้วยระเบิดนี่ไง!” ไอโกะเอ่ย น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจ โชเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง “เธอจะสร้างระเบิด?!” “ใช่! ฉันจะสร้างระเบิด! และร่ายอาคมแห่งการทำลายล้างกำจัดโรงเรียนนี้ทิ้งซะ!” ไอโกะบอกอย่างเด็ดเดี่ยว โชตกใจ “อะไรนะ! ถ้าทำแบบนั้นพวกเราจะกลับไปกันได้อยู่เหรอ! มันอันตรายเกินไปแล้วไอโกะ!” ไอโกะถอนหายใจ “ฟังฉันนะโช…ฉันรู้ว่ามันฟังดูบ้า แต่ฉันคิดว่านี่เป็นวิธีเดียวที่เราจะเอาชนะบอสตัวนั้นได้” “มันเป็นแค่ภาพลวงตาที่มันสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องโรงเรียนแห่งนี้จากพวกเรา” ไอโกะอธิบาย “บอสตัวจริงคือแก่นพลังงานด้านลบที่อยู่ใจกลางของโรงเรียนแห่งนี้ และแหล่งพลังงานของมันคือ…โรงเรียนแห่งนี้เอง” โชขมวดคิ้ว “หมายความว่าไงไอโกะ?” “หมายความว่า ตราบใดที่โรงเรียนแห่งนี้ยังคงอยู่ พลังงานด้านลบของบอสก็จะยังคงอยู่ และมันก็จะสร้างภาพลวงตาขึ้นมาโจมตีพวกเราได้ไม่มีวันสิ้นสุด” ไอโกะอธิบาย “วิธีเดียวที่จะหยุดมันได้คือ…ทำลายแหล่งพลังงานของมันซะ!” “แต่…แต่ถ้าเราทำลายโรงเรียนทั้งหมด…” โชพึมพำ “แล้วเพื่อน ๆ ของเราล่ะ? พวกเขาจะปลอดภัยไหม?” “ฉันคิดแผนไว้แล้วโช” ไอโกะตอบ น้ำเสียงของเธอหนักแน่นขึ้น “เราจะต้องสร้างระเบิดที่รุนแรงพอที่จะทำลายโรงเรียนนี้ได้ทั้งหมด แต่มันจะต้องเป็นระเบิดที่ ‘ชำระล้าง’ ด้วย” “ชำระล้าง?” โชถาม “ใช่! ฉันจะผสานพลังจากผ้ายันต์ทั้งหกผืนที่เรามี เข้ากับสูตรเคมีของระเบิดที่อยู่ในสมุดวิจัยนี้” ไอโกะอธิบายด้วยความตื่นเต้น “ผ้ายันต์มีพลังงานบริสุทธิ์ที่สามารถขับไล่พลังงานด้านลบได้ เมื่อมันถูกรวมเข้ากับระเบิด มันจะกลายเป็นระเบิดที่ไม่ได้แค่ทำลายล้าง แต่ยัง ‘ชำระล้าง’ พลังงานด้านลบทั้งหมดที่อยู่ในโรงเรียนนี้ด้วย” “นั่นหมายความว่า…เมื่อโรงเรียนถูกทำลายด้วยระเบิดชำระล้างนี้ พลังงานด้านลบของบอสก็จะสลายไป และเพื่อน ๆ ของเราที่ติดอยู่ในมิติอื่น ๆ ก็จะกลับมาได้อย่างปลอดภัย!” ไอโกะกล่าว น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความหวัง โชเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “เป็นไปได้ยังไงไอโกะ…เธอคิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย!” “ฉันใช้เวลาช่วงที่เราพักฟื้นร่างกาย คิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ที่เราเข้ามาที่นี่” ไอโกะตอบ “ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทุกปัญหาที่เราเจอ มันบอกฉันว่าโรงเรียนนี้คือแก่นของทุกสิ่งทุกอย่าง” “แล้ว…เราจะสร้างระเบิดได้ยังไงในเมื่อเราไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย” โชถาม “อาคารวิทยาศาสตร์! นั่นแหละคือที่ที่เราจะสร้างระเบิดได้!” ไอโกะบอก “ฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันเข้าไปเก็บสมุดวิจัย ฉันเห็นอุปกรณ์เคมีบางอย่างที่อาจจะพอใช้ได้” “แต่มันอันตรายมากเลยนะไอโกะ” โชยังคงกังวล “ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมาล่ะ?” “ฉันรู้โช…แต่นี่คือโอกาสเดียวของเรา” ไอโกะกล่าว “เราต้องเสี่ยง…เพื่อเพื่อน ๆ ของเราทุกคน” โชมองหน้าไอโกะ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว เขาเห็นความหวังในดวงตาของเธอ และเขาก็เชื่อในตัวไอโกะเสมอมา “โอเคไอโกะ…ฉันเชื่อเธอ” โชกล่าว “เราจะสร้างระเบิดชำระล้างนั่นไปด้วยกัน!” ทั้งคู่สบตากัน แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเป้าหมายที่ชัดเจน แม้จะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่รอคอยพวกเขาอยู่เบื้องหน้า แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเสี่ยงทุกอย่างลมหายใจแห่งเงามืดที่พัดกรูเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้ไอโกะและโชแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะที่ดับสนิท ยิ่งตอกย้ำถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ พวกเขาทั้งคู่รู้ดีว่ามันคือสัญญาณเตือนจากการมาถึงของบอสตัวจริง“ไม่นะ…ลมนี้…มันคือพลังของบอสตัวจริง!” ไอโกะพึมพำ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือด้วยความหวาดหวั่นแต่แล้ว โชก็เอื้อมมือไปจับมือของไอโกะแน่น ดวงตาของเขาฉายแววครุ่นคิดอย่างหนัก“มันยังไม่มาตอนนี้หรอกไอโกะ” โชเอ่ยขึ้นมา เสียงของเขาหนักแน่นและมั่นใจอย่างน่าประหลาด “เชื่อฉันสิ”ไอโกะหันมามองโชด้วยความสงสัย “แน่ใจเหรอโช? พลังงานมันรุนแรงขนาดนี้เลยนะ”“แน่ใจ” โชตอบ “เท่าที่ฉันสันนิษฐาน…บอสพวกนั้นจะต้องรวบรวมพลังงานให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะปรากฏตัวออกมาอย่างสมบูรณ์”ไอโกะขมวดคิ้ว “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?”“จำได้ไหมที่มันบอกว่า ‘อาณาเขตนี้คือส่วนหนึ่งของตัวข้า!’” โชอธิบาย “นั่นหมายความว่ามันกำลังดูดกลืนพลังงานจากโรงเรียนทั้งหมด และมันจะไม่ยอมออกมาจนกว่ามันจะแข็งแกร่งที่สุด”“แล้วลมพวกนี้ล่ะ?” ไอโกะถาม“ลมพวกนี้ก็เป็นแค่พลังงานรั่วไหลของมันที่กำลังรวบรวมตัวอยู่” โชตอบ “มันเป
ความรู้สึกสิ้นหวังจากการเผชิญหน้ากับบอสตัวจริงที่แข็งแกร่งเกินจินตนาการยังคงเกาะกุมจิตใจของไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง ผ้ายันต์ทั้งหกผืนที่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อและเลือดเนื้อกลับดับแสงลงอย่างสิ้นเชิง ราวกับไร้ประโยชน์สิ้นดี แต่คำให้กำลังใจจากโชก็ช่วยจุดประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้งในใจของไอโกะ“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขาทั้งคู่พยุงกันลุกขึ้นยืนช้าๆ แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้าและเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับ แต่แรงฮึดสุดท้ายก็ทำให้พวกเขาก้าวต่อไป สู่เป้าหมายเดียวที่เหลืออยู่: อาคารวิทยาศาสตร์“ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะโช” ไอโกะบอก เสียงของเธอแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…เราต้องรีบแล้ว”พวกเขาเดินออกจากจุดที่ต่อสู้กับเงาปีศาจช้างที่สลายไป สู่ทางเดินที่มืดมิดและเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง บรรยากาศของโรงเรียนร้างยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน เสียงฝีเท้าของพวกเขาก้องกังวานไปทั่วบริเวณ ราว
หลังจากที่ได้ผ้ายันต์ผืนที่ 6 มาอย่างยากลำบาก และได้วางแผนการทำลายโรงเรียนด้วยระเบิดชำระล้างแล้ว ไอโกะและโชก็ตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปยังอาคารวิทยาศาสตร์ทันที แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้า แต่ความมุ่งมั่นที่จะยุติฝันร้ายทั้งหมดนี้ก็เป็นแรงผลักดันให้พวกเขาเดินหน้าต่อไป“เอาล่ะโช…ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะ” ไอโกะบอก เสียงของเธอหนักแน่นขึ้นเล็กน้อยโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…ยิ่งเร็วยิ่งดี”ทั้งคู่เดินออกจากโรงอาหารที่มืดมิด สู่ทางเดินที่ไร้สิ้นสุดของโรงเรียนร้าง แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซากปรักหักพังและเถาวัลย์ที่ปกคลุมไปทั่วอาคาร บรรยากาศยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน“อาคารวิทยาศาสตร์อยู่ทางนั้นนะโช” ไอโกะชี้ไปทางซ้ายมือของพวกเขา ซึ่งเป็นอาคารที่ดูใหญ่โตและมีโครงสร้างแปลกตาเล็กน้อยพวกเขาเดินไปตามทางเดินที่มืดมิด ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของตัวเองที่ก้องกังวานในความเงียบงัน ความรู้สึกไม่สบายใจเริ่มเกาะกุมจิตใจของพวกเขาอีกครั้งทันใดนั้นเอง เสียงร้องอันน่าสะพรึงกลัว ก็พลันดังขึ้นมาจากด้านหน้าของพวกเขา! เสียงนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ ราวกับเสียงแตรที่ใหญ่โตและน่ากลั
หลังจากที่แผนการใหญ่เรื่องระเบิดชำระล้างได้ก่อร่างขึ้นในความคิดของไอโกะ ความหิวโหยที่ถาโถมเข้ามาก็ทำให้ทั้งคู่ต้องพักจากการระดมสมองอันหนักหน่วง เมื่อท้องอิ่มด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำอัดลม ความหวังก็กลับมาส่องประกายในดวงตาอีกครั้ง“รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยนะโช” ไอโกะพึมพำขณะลูบท้อง “ไม่คิดว่าบะหมี่สำเร็จรูปจะช่วยได้ขนาดนี้”โชพยักหน้าพลางยิ้มแห้ง ๆ “ใช่…มันช่วยได้มาก แต่ฉันว่าเราคงต้องรีบไปหาวัตถุดิบที่อาคารวิทยาศาสตร์นะไอโกะ ยิ่งเร็วยิ่งดี”“แน่นอน แต่ก่อนหน้านั้น…” ไอโกะก้มมองนาฬิกาข้อมือของเธอ แสงสีเขียวยังคงกะพริบอยู่ “สัญญาณของผ้ายันต์ผืนที่หกมันแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยนะโช ฉันว่ามันอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้แหละ…ในโรงอาหารนี่แหละ”โชเบิกตากว้างเล็กน้อย “ในโรงอาหารเหรอ? แต่เราเดินดูมาเกือบจะทั่วแล้วนะ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย”“บางทีมันอาจจะซ่อนอยู่ในที่ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้” ไอโกะบอก น้ำเสียงของเธอเริ่มจริงจังขึ้น “มาลองสำรวจให้ละเอียดอีกครั้งกันเถอะ”ทั้งคู่เริ่มออกสำรวจโรงอาหารที่กว้างใหญ่และมืดมิดอีกครั้ง แสงไฟฉายจากอุปกรณ์ของพวกเขาส่องกระทบกับโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ครัวที่พังเสียหายกระจัดกระจายไปท
หลังจากการฟื้นฟูร่างกายและวางแผนการสร้างระเบิดชำระล้างอย่างละเอียด ไอโกะและโชต่างก็รู้สึกดีขึ้นมาก บาดแผลของพวกเขาได้รับการเยียวยา พลังปราณที่เคยร่อยหรอเริ่มกลับคืนมา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความหวังที่จุดประกายขึ้นมาอีกครั้งในใจของพวกเขา“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้วโช” ไอโกะบอก เธอหมุนข้อมือเล็กน้อยเพื่อทดสอบพละกำลังโชพยักหน้า “ฉันก็เหมือนกันไอโกะ…แต่ฉันยังรู้สึกหิวอยู่เลย” เขาลูบท้องตัวเองเบา ๆไอโกะหัวเราะเบา ๆ “นั่นสินะ…ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน”พวกเขาตัดสินใจที่จะสำรวจโรงอาหารให้ทั่วอีกครั้ง หวังว่าจะเจออะไรบางอย่างที่พอจะบรรเทาความหิวโหยได้ แสงไฟฉายจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซอกมุมของโรงอาหารที่มืดมิดและเต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง โต๊ะและเก้าอี้ไม้ที่ล้มระเนระนาดดูน่าหดหู่ยิ่งนัก“ดูสิฉันเจออะไร!” โชร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เขาชี้ไปที่มุมหนึ่งของโรงอาหารที่มืดมิด ซึ่งมีตู้เก็บของเก่า ๆ ตั้งอยู่ไอโกะรีบเดินเข้าไปดูด้วยความอยากรู้ เมื่อโชเปิดตู้เก็บของออก แสงไฟฉายของพวกเขาก็ส่องกระทบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ด้านใน“บะหมี่สำเร็จรูป!” ไอโกะอุทานด้วยความดีใจ ดวงตาของเธอ
ความสิ้นหวังเข้าปกคลุมไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของบอสตัวจริงยังคงก้องกังวานในหู ราวกับจะย้ำเตือนถึงความพยายามที่สูญเปล่าของพวกเขา การที่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายดับแสงลง ยิ่งทำให้ความหวังที่เคยมีมอดไหม้ไปกับความมืดมิด“ไม่จริงน่า…ทั้งหมดที่เราสู้มา…มันเป็นแค่ภาพลวงตาอย่างนั้นเหรอ?” ไอโกะพึมพำ ใบหน้าของเธอซีดเผือดโชทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ดวงตาของเขาว่างเปล่า “เรา…เราพลาดไปแล้วเหรอไอโกะ? เราสู้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตนจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”แต่แล้ว ทั้งคู่ก็สบตากัน แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ค่อย ๆ จุดประกายความมุ่งมั่นขึ้นมาอีกครั้ง“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ยังได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขารวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่ พยุงกันลุกขึ้นยืนช้า ๆ และรีบออกจากหอประชุมใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังงานด้านลบที่น่าสะพรึงกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะยังคงส่องนำทางพวกเขาไปในความมืดมิด“เราต้องหาที่ซ่อนตัวก่อนโช” ไอโกะบอก “เราบาดเจ็บหนักเกินไปที่จะส