“ได้มองใกล้ๆ แบบนี้แล้วหล่อมากเลย” เจด้าขยับหน้ากระซิบพูดใกล้ๆ พลางมองเจ้าของร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ไกลอย่างชื่นชมในความดูดีไร้ที่ติ
“อือ” เสียงหวานตอบเพียงสั้นๆ ไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ
“เขามีแฟนไหมนะ”
“เจบอกว่าเขาเจ้าชู้ด้าลืมหรือไง” เจียร์พูดซ้ำ
“หล่อขนาดนี้ไม่แปลกเลยที่จะเจ้าชู้ ถ้ารักเดียวใจเดียวฉันจะแปลกใจมากกว่า”
ร่างเล็กเพียงแค่หยักหน้าให้กับคำพูดของเพื่อนจากนั้นก็ก้มหน้ากินขนมอย่างเงียบๆ พยายามไม่ทำตัวโดดเด่นเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจจากเขา
เวลาผ่านไปพักใหญ่ เจียร์เริ่มโล่งใจที่ไม่ถูกรบกวน แต่แล้วเสียงแจ้งเตือนแชตก็ดังขึ้นบนหน้าจอมือถือ
ติ้ง~ ตาคู่สวยเหลือบมองบนหน้าจอ หัวใจดวงน้อยวูบไหวเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏ ก่อนจะเหลือบมองร่างสูงที่นั่งเอนตัวด้วยท่าสบายๆ บนเก้าอี้ แต่กลับจ้องสายตามาที่เธอไม่ลดละเหมือนกำลังบังคับกดดันให้ตอบข้อความ
ล่า: ต้องเจอกันอีกกี่ครั้งเธอถึงจะพร้อม?
เจียร์ชะงักเล็กน้อยเมื่อดวงตากลมกะพริบถี่ๆ หลังได้อ่านข้อความที่เขาส่งมา ภายใต้ความกดดันทำให้เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ กดนิ้วจิ้มแป้นพิมพ์ตอบกลับ
เจียร์: อย่าเพิ่งถามเรื่องนี้ได้ไหมคะ
ล่า: สั่ง?
สิ่งที่พิมพ์ไปไม่ใช่การออกคำสั่ง…แต่มันเป็นการขอร้องสำหรับเธอซะมากกว่า
ล่า: ไปกับฉัน
ในตาคู่สวยไล่อ่านคำสั่งพร้อมกับริมฝีปากที่เม้มแน่น ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับอีกครั้ง
เจียร์: ไม่ได้นะคะเดี๋ยวเพื่อนเจียร์จะสงสัย
ล่า: นั่นมันหน้าที่เธอต้องจัดการ หาข้ออ้างเก่งนักไม่ใช่หรือไง
เจียร์: ทำไมต้องให้เจียร์กลับพร้อมพี่ล่าด้วย
ล่า: ฉันสั่ง ไม่ได้ขอร้องเธอ
ล่า: เลือกเอาว่าอยากให้ฉันเดินไปหาตอนนี้หรือจะยอมนั่งรถไปด้วยกันดีๆ
หัวใจของเจียร์เต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ มือที่กำแน่นเริ่มสั่นเล็กน้อย สายตาไล่ไปมองรอบตัวเหมือนหาทางหนี ทั้งที่รู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่น
“คุยกับใครอยู่หน้าเครียดเชียว” เสียงของเพื่อนทำให้ร่างเล็กรีบกดปิดหน้าจอมือถือทันที ก่อนจะคิดหาข้ออ้างเพื่อมาตอบให้คลายความสงสัย
“แม่ คุยกับแม่น่ะ” มีแค่เรื่องแม่ที่ทำให้เจด้ารู้ว่าเธอคิดมากขนาดไหน จึงใช้เป็นข้ออ้าง
เจด้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เฮ้อ! แม่ขอเงินอีกแล้วหรอ”
“อือ” เธอพยักหน้าไหลตามน้ำ
“พี่สาวแกล่ะได้แฟนรวยนี่ ได้ส่งเงินให้แม่บ้างหรือเปล่า”
เจียร์ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่แน่ใจ ริมฝีปากเม้มแน่น คล้ายไม่อยากตอบคำถามนี้ ความจริงคือเธอไม่รู้เรื่องของพี่สาวเลยเพราะไม่เคยติดต่อกันสักครั้ง
“ไม่ได้คุยกันเลยแต่ก็คงส่งให้ตลอด” เธอเอ่ยเสียงเบา พยายามพูดให้เป็นกลางที่สุด “แต่แม่เป็นยังไงด้าก็รู้นี่ มีเท่าไรก็ไม่พอหรอก”
เสียงปนเศร้าพร้อมรอยยิ้มจางๆ แต้มที่มุมปาก ราวกับเป็นเรื่องที่เธอชินชาไปแล้ว สายตาคู่สวยสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ อย่างเหนื่อยหน่าย
เจียร์รู้สึกว่าคิดผิดที่อ้างเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะมันทำให้เธอคิดมากเพิ่มขึ้น
ผ่านไปสักพักระหว่างความอึดอัดภายในใจ แชตจากคนที่เป็นต้นเหตุของความกดดันส่งมาอีกครั้ง
ล่า: เดินมาที่รถ
ใบหน้าหวานรีบเงยขึ้นมองดูรถเฟอร์รารี่จอดเด่นตระหง่านท่ามกลางลานจอดวีไอพีที่เป็นจุดสนใจของสายตาคนนับร้อย
เจียร์: ตรงนั้นคนเยอะ พี่ล่าขับอ้อมไปตรงที่ไม่มีคนได้ไหมคะ
ล่า: เรื่องมาก
ข้อความตอบกลับในเชิงไม่สบอารมณ์นั้น ทำให้คนที่ได้อ่านลอบกลืนน้ำลาย แต่ก็โล่งใจที่เห็นรถของล่าขับออกไป ตอนนี้ก็เหลือแค่เจียร์ที่ต้องหาข้ออ้างกับเพื่อน
“ด้าคือ…เจียร์ต้องกลับก่อนนะ” หลังชั่งใจอยู่นานเจียร์ตัดสินใจบอกกับเพื่อน
เจด้าหันมาถามอย่างแปลกใจ “อ้าวทำไมล่ะ”
“มีงานด่วนเข้าน่ะ” นั่นคือข้ออ้างที่คิดได้ในตอนนี้ เธอไม่ใช่คนชอบโกหก จึงไม่กล้ามองหน้าเพื่อนตรงๆ พยายามเบนสายตาหนีในขณะที่พูด
“แล้วจะกลับยังไง”
“เดี๋ยวเรียกรถกลับๆ ไม่ต้องห่วงนะ เจียร์ต้องรีบกลับไปเปลี่ยนชุด”
“อือๆ ถ่ายทะเบียนส่งให้ในแชตด้วยนะ ถึงห้องแล้วอย่าลืมบอก”
ร่างเล็กลุกขึ้นหยิบกระเป๋าราคาถูกที่มีขายตามตลาดขึ้นมาสะพาย ดวงตากลมเหลือบมองทางเจไดที่ยุ่งอยู่กับทีมช่างตรงจุดพิทเลน กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าพิท
เจียร์ถอนหายใจเบาๆ มือเล็กกำสายกระเป๋าแน่น ก่อนจะก้าวเดินไปยังรถคันหรูที่จอดรอตรงจุดลับตาคน
ร่างหนานั่งรอด้วยท่าทางสบายๆ บนเบาะคนขับ บรรยากาศเงียบกริบ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังสม่ำเสมอ อากาศรอบตัวหนักอึ้งพื้นที่แคบยิ่งทำให้ร่างเล็กเพิ่มความอึดอัดในใจ
ทันทีที่ประตูรถปิดสนิท คนหลังพวงมาลัยไม่รอช้า เหยียบคันเร่งจนรถพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว แรงฉุดทำให้แผ่นหลังของร่างเล็กกระแทกกับเบาะเบาๆ เพราะไม่ทันตั้งตัว
บรรยากาศภายในรถไร้เสียงพูดคุยระว่างของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน ดวงตาคู่สวยเหลือบมองออกไปนอกกระจก พยายามเบี่ยงเบนความอึดอัดในใจ แต่ไม่นานก็เริ่มสังเกตได้ว่า เส้นทางที่รถกำลังมุ่งหน้าไปไม่ใช่ทางกลับหอพัก
“นี่ไม่ใช่ทางกลับหอพักนี่คะ พี่ล่าจะพาเจียร์ไปไหน” มือเล็กกำเข็มขัดนิรภัยแน่น สายตาจ้องมองคนข้างๆ ด้วยความไม่เข้าใจ
ล่าเหลือบมองร่างเล็กครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปสนใจถนน แล้วตอบเสียงเย็น “ฉันบอกเมื่อไรว่าจะพาเธอไปห้องเก่าๆ นั่น”
“……..” เจียร์กัดริมฝีปากเบาๆ อย่างเถียงไม่ได้เพราะเขาไม่ได้พูดอะไรเลยจริงๆ แค่บอกให้เธอมาขึ้นรถ
คนหลังพวงมาลัยกำลังรอฟังว่าเธอจะพูดอะไรต่อ แต่เมื่อเธอนิ่งไปเขาเองก็เลือกที่จะเงียบและเมินเฉยเช่นกัน รถเคลื่อนไปข้างหน้า ทิ้งไว้เพียงความอึดอัดที่หนักอึ้งจนร่างเล็กแทบหายใจไม่ออก