คิระกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำก็ชนเข้ากับใครบางคนที่โผล่พรวดออกมา เขาหลบไม่ทันจึงชนเข้ากับแผงอกล่ำของคนตรงหน้าเต็มแรงจนอีกฝ่ายเซไปชนขอบประตูไม่พอยังคว้ามือคิระจนเขาเสียหลักหน้าทิ่มกับอกเสื้อชายหนุ่มอีกครั้ง อื้อหือ... หอมจัง..“จะอยู่ท่านี้อีกนานไหม”หืม...คิระลืมตัวจนอีกฝ่ายเอ่ยวาจานั่นล่ะ เขาจึงรู้สึกตัวรีบถอยออกห่างก้มหัวขอโทษพร้อมปฏิเสธละล่ำละลัก “ขอโทษฮะ ผมไม่ทันเห็น ขอโทษจริงๆ ฮะ”“เงยหน้า”“ฮะ” คิระเงยหน้าเพราะคำพูดที่ฟังดูคุ้นๆ จึงได้เห็นดวงหน้าคมที่มีเค้าความหล่อเหลาภายใต้แว่นกันแดดสีดำสนิทนั่น “คุณ!”“ทำไม รู้จักฉันเหรอ”คิระหน้าถอดสี รู้สึกคุ้นๆ แต่ก็ไม่แน่ใจ จึงส่ายหน้าพลันเปลี่ยนเป็นพยักหน้าอีกครั้งเมื่อนึกถึงเค้าหน้าลางๆ เมื่อคืนหรือว่าใช่!“ตกลงรู้จักหรือไม่รู้จัก”เขาถามไม่พอโน้มหน้าลงมาจนคิระถอยหลังกรูด ต้องใช่แน่ๆ ใช่เขาไหม ทำไมเหมือน ทำไมคุ้น!คิระจ้องริมฝีปากกระจับได้รูปด้วยความลืมตัวกระทั่งเสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามาเขาจึงตื่นจากภวังค์“ถอยหน่อย คนจะเข้าห้องน้ำ”คิระจึงถือโอกาสขอโทษที่ขวางทางแล้วเดินแกมวิ่งออกไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางไปห้องอาหารที่ชัย
ชายหนุ่มร่างอวบเจ้าของร้านถึงกับชะเง้อมองตามด้วยความสนใจ พอเห็นดวงหน้าสดใสของหนุ่มลูกครึ่งที่กำลังก้มดมความหอมของกุหลาบสายพันธุ์อิตาลีก็ถึงกับตบบ่าเพื่อนอย่างแรง“กูเข้าใจมึงแล้ว”“เข้าใจอะไร”“น้องน่ารักจริงว่ะ กูชักจะเคลิ้ม”“เลิกคิดเลยมึง”ชัยพลตัดบทจนเพื่อนรักที่รู้เช่นเห็นชาติกันมาตั้งแต่เรียนถึงกับหัวเราะที่ได้หยอกเพื่อนสำเร็จ“นี่มึงคิดจะทำตัวเป็นพี่ชายแสนดีไปอีกนานแค่ไหนวะ ทำไมไม่รวบหัวรวบหางซะล่ะ”“ก็อยากอยู่” ชัยพลพูดจบหัวเราะร่วน “แต่กูจะไม่ทำ...”“หืมมมม เป็นไปได้ไงวะ” วันชนะถามพลางเกาคางครุ่นคิดชัยพลถอนหายใจหนักหน่วง ดวงตาเปี่ยมรักมองไปยังคิระ เพราะเด็กคนนั้นเห็นเขาเป็นพี่ชาย และเพราะเขาอยากให้คิระค่อยๆ รักและมองเขาในแง่ดี จึงทำได้แค่เป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงอยู่อย่างนี้“มึงจำไว้เลยไอ้วัน ว่ากูรักคิวด้วยความจริงใจและจะไม่ทำให้คิวต้องผิดหวังในตัวกู”“เฮ้อ น้ำเน่าว่ะ”“ก็กูรักของกู” ชัยพลตอบขอไปที สายตายังมองไปยังสวนดอกไม้ด้วยความห่วงใย“แต่มึงอย่าช้านะ เพราะถ้าช้ากูว่าคู่แข่งมึงเยอะแน่นอน น่ารักออกขนาดนั้น หุ่นก็เป๊ะปังด้วย”“กูก็ว่างั้น”ชัยพลพูดเหมือนคนใจลอย สีหน้าแสดงความ
ไม่ไกลกันนั้น...ภามม์ขยับแว่นกันแดดเพ่งมองทันทีที่รถญี่ปุ่นสี่ประตูแล่นผ่านหน้าไป เขาตั้งใจมาธุระแถวนี้จึงทันได้เห็นสินค้าราคาแพงของเขานั่งรถไปกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตา อีกทั้งเสื้อผ้าชุดเซ็กซี่อวดส่วนสัดเกินพิกัดนั่นอีก ยิ่งสร้างความปั่นป่วนมวนท้องให้เขาอย่างไม่เคยเป็นเมื่อวานยังแต่งตัวธรรมดาเสื้อยืดกางเกงยีนส์อยู่เลย แล้วดูวันนี้สิ จะใส่ไปล่อตะเข้ที่ไหนกัน!ภามม์หงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ยิ่งหลังจากวางสายจากตฤณเมื่อชั่วโมงก่อน เขาก็ต้องไปพบพ่อที่เรียกหามาอย่างเร่งด่วนให้มาพร้อมหน้าพร้อมตากับพี่ชายตัวแสบที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาไม่ได้ต้องการไปแต่ขัดไม่ได้ทีแรกภามม์ตั้งใจมาบ้านตฤณเพื่อสแกนสินค้าราคางามดูสักทีว่าจะสมคุณค่าเงินสามล้านที่ยอมเสียหรือไม่ และเขาก็พบว่าเด็กหนุ่มลูกครึ่งหน้าตาน่ารักในชุดรัดรูปโชว์ไหล่นวลเนียนตัดกับผิวผ่อง ช่างยวนยั่วใจ น่ารักน่าใคร่เสียจนอยากถอดชุดของเด็กนั่นให้เหลือแต่เรือนร่างงดงามที่เขาฟอนเฟ้นเต็มมือเมื่อคืน แต่แค่คิดก็ใจก็รุ่มร้อนเกินทนเพราะเห็นเด็กนั่นไปกับคนอื่น!โธ่เว้ย!เขาอยากจะตามไปให้เห็นกับตา แต่ก็ติดที่ต้องไปให้พ่อเห็นหน้าไม่งั้นจะเสียต
“อย่ามางี่เง่า! น่ารำคาญ!” ตฤณตวาดแสร้งทำไขสือ สองมือรั้งข้อมือพิมลเอาไว้ด้วยความหงุดหงิด แรงที่บีบจึงแรงกว่าปกติจนอีกฝ่ายถึงกับนิ่วหน้ากว่าจะรู้ตัวปล่อยมือก็ทำให้ผู้เป็นภรรยาถึงกับน้ำตาตก“ฉันน่ารำคาญงั้นเหรอ ใช่สิ... ฉันไม่ใช่เจ้าคิวนี่ ไม่งั้นทั้งพ่อทั้งลูกจะสนใจมันยิ่งกว่าฉันเหรอ”“เธอจะบ้าเหรอพิมล คิดอะไรอยู่!”“ก็คิดว่าจะกำจัดมันไปให้พ้นจากบ้านยังไงก่อนที่พี่กับเจ้าชัยจะติดกับมันเข้าสักวันยังไงล่ะ” เธอโพล่งออกมาสีหน้าแดงก่ำตฤณได้ฟังตะลึงกับอาการฟิวส์ขาดของพิมล เขาไม่เคยคิดกับคิระเป็นอื่นนอกจากเป็นหลานชายของภรรยา แต่พิมลผู้เป็นน้ากลับคิดกับหลานตัวเองในทางเสื่อมเสีย นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยนึกมาก่อน“เธอนี่ท่าจะบ้า” เขาได้แต่ตอบไปอย่างนั้นแล้วจะเดินหนีไม่อยากปะทะให้เรื่องลุกลามใหญ่โตพิมลไม่ปล่อยตรงเข้ามาดึงแขนจนเซ ดวงหน้าอวบอ้วนไร้แววความงามเมื่อครั้งอดีต บัดนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา “อย่าไปนะ!”“พอเถอะ เธอมันน่าเบื่อชอบพูดจาแย่ๆ ชักใบให้เรือเสีย... พี่เบื่อรู้ไหม”“พี่ใจร้าย!”พิมลทุบหมัดใส่หน้าอกสามีเต็มแรง ตฤณปัดป้องเผลอลงแรงมากไปจนพิมลเสียหลักหงายหลังก้นจ้ำเบ้า เธอมองเขาอย่างไม
“ไม่บ้า! เดี๋ยวนี้สมรสเท่าเทียมก็ผ่านแล้ว อะไรๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น หรือพี่คิดว่าเจ้านายจะขอเจ้าคิวไปเลี้ยงเฉยๆ ให้เสียเงินฟรีเหรอ”“พูดเรื่อยเปื่อย” ตฤณโพล่งขึ้น“พี่ไม่รู้อะไร ผู้หญิงเซนต์แรงนะขอบอก” พิมลแย้งไม่พอ คลายมือที่บีบนวดไหล่สามีพร้อมกับทุบหลังเขาเบาๆ หยอก “พี่ไม่เคยได้ยินเรื่องที่เจ้านายหย่าเมียคนก่อนเหรอ”“เฮ่ย! เธอก็พูดอะไรที่เป็นไปได้หน่อย เรื่องส่วนตัวเจ้านายอย่าเอามาพูดซี้ซั้ว อีกอย่างเราไม่มีปัญญาต่อรองกับเจ้านายหรอก”“ทำไมล่ะ หรือว่าจริง...”“ช่างเหอะน่า เรื่องของนายเขา เราไม่เกี่ยว”ตฤณได้แต่ส่ายหน้าพลางปัดมือภรรยาที่กดย้ำหัวไหล่ของเขาอย่างลืมตัวออกและเอื้อมหยิบโทรศัพท์มือถือตรงหัวนอนมาดูหลังจากเสียงสัญญาณดังอยู่นาน แค่เห็นว่าเป็นเบอร์ใคร เขาก็หน้าซีดลง“ใครโทรมา” พิมลกระซิบ“เจ้านาย”“โหย ตายยาก แล้วเราทำไงดี!”ตฤณยกมือแตะปากเป็นสัญญาณให้เงียบ กดรับปลายสายเปิดลำโพงให้ภรรยาฟังด้วยกันก่อนเอ่ยเสียงนอบน้อม “ครับเจ้านาย”“ทำไมรับสายช้า”“เอ่อ คือผม...” ตฤณอึกอักไม่รู้จะตอบยังไงให้ถูกใจ พอดีกับที่ภามม์ส่งเสียงมาตามสายเสียก่อน“อย่าลืมที่เราตกลงกันไว้ล่ะ”“แต่เจ้านายครับ
และที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลึกๆ แล้วเธอก็กลัวความรู้สึกของสามี กลัวว่าสักวันตฤณจะเห็นความบานสะพรั่งของดอกไม้แรกแย้มมากกว่าดอกไม้บานที่ใกล้เหี่ยวเฉาโรยรา ถึงแม้จะเอ็นดูเด็กคิวมากแค่ไหนแต่หากมีหนทางผลักไสไปไกลตาก็ย่อมดีกว่าถึงคิระจะเป็นเด็กผู้ชาย แต่ความน่ารักแบบฉบับลูกครึ่งญี่ปุ่น ความปากนิดจมูกหน่อย หุ่นเพรียวสมส่วนด้วยแล้วต้องบอกว่าเธอหวั่นใจอยู่ลึกๆพิมลรู้กิตติศัพท์ของภามม์ดีว่าเป็นพวกอยากได้อะไรก็ต้องได้แต่หากติดใจแล้วจะเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี ที่จริงเขาอาจจะเป็นคนปากร้ายใจดีแต่หากถูกปั่นหัวหรือเอาเปรียบก็พร้อมจะทิ้งผู้หญิงคนนั้น ดูอย่างชาลินีที่กลายเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ไปหมาดๆ เมื่อคืนนี้แม้ภามม์จะเรียกใช้บริการชาลินีอยู่บ่อยๆ จนเธอเหลิงใครก็เอาไม่ลง แต่พอรู้ว่าชาลินีรับอามิสสินจ้างนอกสถานที่กับเสี่ยกระเป๋าหนักๆ แม้ไม่บ่อยนักแต่เขาก็เทหญิงสาวทิ้งราวกับน้ำเน่าเสียที่แทบไม่ต้องรอการระบายทันที“เฮ้อ! ทำไงดี รับก็จะโดนตราหน้าว่าขายหลานกิน ไม่รับก็ไม่ได้เผลอๆ ตกงานอีก”“พี่ก็ไม่ยอมเหมือนกัน เกิดโดนไล่ออกทั้งที่เศรษฐกิจอย่างนี้มีหวังกินแกลบทั้งบ้านแน่”“โอ๊ย! เครียด” พิมลครางในลำคอชัยพลที่