แสงสีส้มเรื่อของยามค่ำตกกระทบกับผ้าม่านโปร่งบางในห้องนอน
ไลลานั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงอีกฟาก — เงียบ เฉยชา เหมือนวิญญาณที่ถูกทิ้งไว้ในห้องว่าง
เธอเพิ่งเดินกลับจากห้องของเขา หลังจากที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังประตูเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
ภาพที่เธอเห็น...ภาพที่เขาเปิดกล่องไม้แล้วลูบมันด้วยความอาวรณ์ — กล่องของลลิน — ยังติดตา
หัวใจของเธอแน่นอึดอัด เหมือนอากาศในห้องกำลังลดลงเรื่อย ๆ จนแทบหายใจไม่ออก
ไม่ใช่เพราะเขาใจร้าย
แต่เพราะเขาใจดี...กับใครอีกคน
และเธอก็รู้แน่แล้วว่าเธอไม่เคยเป็น 'ใครคนนั้น'
ไลลาหลับตา สูดลมหายใจลึก
ฝ่ามือบีบชายกระโปรงแน่น เสียงในหัวยังวนเวียนซ้ำเดิม
— กลิ่นน้ำหอมที่เขาเลือกให้
— เพลงที่เขาเปิด
— เสื้อผ้าที่เขาเตรียมไว้
ทั้งหมด...มันไม่เคยเป็นของเธอเลย
“พอแล้ว…” เธอพึมพำเสียงแผ่วกับตัวเอง
ดวงตาแดงเรื่อจากการร้องไห้ ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเด็ดเดี่ยวที่เธอไม่เคยมี
ถึงแม้นทียังรักษาไม่จบ
ถึงแม้เธอไม่มีอะไรเลย
ถึงแม้จะไม่มีแม้แต่เงินพอจะอยู่รอด
...แต่เธอก็ไม่มีแรงพอจะทนอยู่ตรงนี้อีกแล้ว
อยู่ในกรงที่เต็มไปด้วยเงาของผู้หญิงคนหนึ่ง
อยู่ในหัวใจของใครสักคน — ในขณะที่เขาหลับตาและมองเห็น 'อีกคน'
“ฉันไม่ใช่เงา...และไม่เคยอยู่ในใจคุณเลย”
ถ้อยคำที่ติดค้างในลำคอถูกกลืนกลับลงไปอย่างเจ็บปวด
มือของเธอเริ่มหยิบเสื้อผ้าทีละชิ้น กวาดใส่กระเป๋าผ้าเล็ก ๆ ที่เคยเอามาด้วยตอนย้ายเข้ามา
แต่เสียงเปิดประตูจากหน้าห้องก็ดังขึ้นก่อน
“ไลลา...”
เสียงของเขาเรียบ — นิ่ง — และอบอุ่นอย่างที่เธอเคยหลงรัก
เหมือนที่เขาเคยเป็นเมื่อหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนไปเมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากที่เริ่มมีข่าวซุบซิบพวกนั้น
...และตอนนี้ เขากลับมาเป็นแบบเดิมที่ทำให้เธอหลงรักอีกครั้ง
ไลลารีบวางทุกอย่างลงแล้วซ่อนทุกอย่าง จากนั้นหันไปหาหมออคิน ยิ้มหวาน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อคินยืนอยู่ตรงหน้าห้องในชุดนอนสีน้ำเงิน หอบลมหายใจบางเบาราวกับเพิ่งผ่านความเหนื่อยล้ามา
“อาบน้ำแล้วสดชื่นมั้ยค่ะ...” เธอถามเขา
เสียงเธอเบา — ไม่สั่น — ไม่หวังคำตอบ
เขาเพียงแค่พยักหน้า
ก่อนจะเอื้อมมือแตะผมเธอเบา ๆ แล้วดึงเข้าไปกอดไว้แน่นจากด้านหลัง
“คืนนี้...นอนกับฉันนะ”
เขาไม่ถาม — แค่บอก
และเธอก็พยักหน้า — โดยไม่มีคำปฏิเสธ
คืนนั้นเขากอดเธอแน่นกว่าทุกคืน
แต่เธอไม่ได้รู้สึกอบอุ่นอีกแล้ว
เพราะยิ่งเขากอดแน่น เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอไม่ใช่คนที่อยู่ในใจของเขา
เช้าวันถัดมา
กลิ่นข้าวต้มร้อน ๆ ลอยมาตามลมจากห้องครัว
อคินจัดจานอาหารอย่างประณีตเหมือนทุกวัน มือใหญ่ ๆ ที่คุ้นเคยยังคงหั่นผัก ใส่ข้าว โปะหน้าอย่างตั้งใจ
“เธอกินข้าวก่อนนะ ฉันต้องไปต่างจังหวัดสองสามวัน”
เขาบอกอย่างเรียบง่าย
ไม่มีอะไรผิดปกติ
เขาวางซองบาง ๆ ไว้บนโต๊ะ
“ในนี้มีเงินสำหรับเยี่ยมนที กับของใช้จำเป็น”
ไลลายิ้มรับ — ยิ้มบาง ๆ ที่ฝืนขึ้นมาด้วยหัวใจที่แตกละเอียด
“ขอบคุณค่ะ”
เธอกินข้าวทั้งที่ไม่รู้รสชาติเลยแม้แต่น้อย
ก่อนเขาออกจากห้อง
อคินหอมหน้าผากเธอเบา ๆ แล้วพูดเพียงว่า
“ดูแลตัวเองด้วย...แล้วอย่าหนีไปไหน”
ไลลายิ้ม
“ค่ะ”
แต่ในใจ...เธอกล่าวคำลาไปนานแล้ว
หลังประตูปิดลง
รอยยิ้มของเธอหายไปทันที
เธอยืนนิ่ง — เหมือนถูกปล่อยจากโซ่
แล้วเดินเข้าไปในห้องนอน...ไม่ใช่เพื่อพักผ่อน
แต่เพื่อเก็บของ
นี่ไม่ใช่การหนี...แต่เป็นการกลับมาเลือกตัวเองอีกครั้ง
ครั้งแรกในชีวิต — ที่เธอไม่ได้อยู่เพื่อให้ใครพอใจ
แต่เพื่อให้หัวใจเธอ...ยังเหลือรอด
กระเป๋าผ้าเล็ก ๆ ถูกกางออก
เสื้อผ้าจำนวนไม่มากถูกใส่ลงไปเงียบ ๆ
ของใช้จำเป็นเพียงไม่กี่ชิ้น — ที่เธอรู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดเป็นของเธอจริง ๆ
เธอมองโทรศัพท์มือถือ เครื่องเก่า
บัตรประชาชน
สมุดโน้ตของนที
รูปถ่ายเพียงใบเดียว...ของเธอกับนทีตอนเด็ก
เท่านี้ — ก็พอสำหรับการหนี
เธอสวมรองเท้าผ้าใบคู่นั้น
เปิดประตูอย่างเบามือ
และก้าวออกจากคอนโดที่กลายเป็น “กรง” มาเนิ่นนาน
หัวใจเธอเต้นแรง
แต่มือไม่สั่นอีกแล้ว
คืนนี้...ไลลาเลือกแล้ว
และเธอจะไม่หันกลับไปอีก
เสียงรถเมล์เก่าคันหนึ่งจอดหน้าปากซอยชุมชนบางบัวทอง ไอร้อนจากเครื่องยนต์ผสมกับกลิ่นควันบุหรี่ของวินมอเตอร์ไซค์ที่จอดเรียงราย ไลลาลงจากรถพร้อมกระเป๋าผ้าใบเล็กใบเดียวในมือ
เธอกลับมาที่ห้องเช่าเดิม—สภาพห้องเก่าผนังแตกร้าวที่ครั้งหนึ่งเธอเคยนอนร้องไห้แทบทุกคืน มันอึดอัด แต่ก็เป็นอิสระ...ในแบบของมัน
เธอทิ้งตัวลงบนฟูกบาง ๆ ที่ปูไว้บนพื้น ลมหายใจสั่นไหวเหมือนคนวิ่งหนีทั้งคืน เสียงโทรศัพท์เครื่องเก่าถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง พร้อมข้อความเดียวที่เธอกดส่งหาหมอในโรงพยาบาลรัฐ
“สวัสดีค่ะ หนูอยากทำเรื่องย้ายน้องชายจากโรงพยาบาล Raven มาอยู่ที่นี่ได้ไหมคะ”
ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงใจดี
“เรื่องเตียงตอนนี้ยังแน่นอยู่ค่ะน้อง อาจต้องรอคิว แต่พี่จะลองดูให้”
เธอกล่าวขอบคุณทันที ทั้งที่ใจเหมือนจะพัง—เธอไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหนี…ทั้งจากเขา และจากตัวเอง
ในอีกฟากของเมือง
โรงพยาบาลเอกชนระดับประเทศ — Raven Hospital
เสียงโทรศัพท์ของหมอธีรัตน์ดังขึ้นเบา ๆ ระหว่างพักเบรก
“ธีรัตน์พูดครับ”
“ธีรัตน์ใช่ไหม นี่กูเอง...อคิน”
น้ำเสียงที่เงียบงันนั้น ทำให้ปลายสายขมวดคิ้ว
“เกิดอะไรขึ้นวะ?”
“มีหมอที่โรงบาลรัฐติดต่อกูมาถามเรื่องเคส...นที”
“เขาบอกว่าคนไข้กำลังจะถูกขอย้ายไป รู้ไหมว่าใครขอย้าย?”
ปลายสายเงียบไปสักครู่
“ไลลาใช่ไหม?”
อคินเงียบ
ก่อนเอ่ยเสียงต่ำราวกับคำขู่ตัวเอง
“…เธอคิดจะหนีไปเหรอ”
ภายในไม่ถึงสิบนาทีหลังวางสาย
อคินตัดสินใจออกจากสัมมนากลางคัน เขาไม่แคร์แม้ต้องเสียเครดิต หรือคำอธิบาย
เขาขับรถกลับคอนโดด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่รถยนต์จะรับไหว มือข้างหนึ่งกำพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดปูด
ประตูห้องเปิดออกช้า ๆ
ความเงียบภายในไม่เหมือนเดิม
ห้องยังคงสะอาด โต๊ะยังคงวางเรียงช้อนจานอย่างประณีต
แต่บางอย่าง…หายไป
เขามองหาเธอ
ไม่มีเสียง ไม่มีเงา
บนโต๊ะหน้าเตียง มีกระดาษแผ่นเดียว
“ฉันไม่ใช่เงาของใคร”
เพียงเท่านั้น
เขายืนนิ่งอยู่นาน ไม่พูด ไม่ขยับ ราวกับสมองกำลังประมวลผลคำพูดที่เขาไม่เคยคิดว่าเธอกล้าพูด
"เธอหนีไป...เพราะไม่อยากเป็นเงา"
คำว่า 'เงา' มันกระแทกหัวใจของเขาราวกับกระสุนเจาะเข้าตรงจุดเดียวกับที่เคยสูญเสียลลิน...
อคินเหมือนระเบิด
มือใหญ่ปัดโต๊ะกระจกแตกกระจาย ถ้วยชาม กระถางต้นไม้ ทุกอย่างถูกรวบปาแตกใส่กำแพงอย่างไร้ทิศทาง
เขาร้องคำราม…น้ำตาไหลแบบที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ
เสียงภาพหลอนของลลินกระซิบวนในหัวเหมือนปีศาจ
“คิน…อย่าทิ้งฉันนะ…”
“คิน…ฉันกลัว…”
“คิน…!”
เขาทรุดลงกับพื้นอย่างคนหมดแรง
เหมือนถูกซ้ำด้วยความตายอีกครั้ง
ครั้งที่สอง
ไลลา…เธอหนีไป
เธอกำลังทิ้งเขาไป — เหมือนกับที่ลลินเคยหายไปในวันที่ฝนตก
เสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ของลลินประดังเข้ามาในหัว
ร่างของเธอในวันนั้นซ้อนทับกับไลลาในวันนี้...
ครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีก
อคินลุกขึ้น กวาดกุญแจรถจากโต๊ะหน้าทีวี ขับออกไปเหมือนคนวิ่งหนีอดีต
เขาขับวนผ่านตรอกหลายแห่ง ขับไปยังชุมชนที่เคยรู้ว่าไลลาเคยอยู่
ถามคนแถวนั้นด้วยภาพถ่าย
“คุณเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ไหม?”
ส่วนใหญ่ส่ายหน้า บ้างก็พูดว่า
“หน้าคุ้น ๆ แต่ไม่เห็นนานแล้ว”
เขาขับรถวนไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มโปรยปรายอีกครั้ง
“ไลลา…เธออยู่ไหน…”
เสียงพึมพำนั้นคล้ายคำสารภาพในใจ
คำสารภาพของคนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเขาไม่ได้ต้องการ “ตัวแทน”
…เขาต้องการเธอ
เธอจริง ๆ
ในแบบที่เธอเป็น
และเขากำลังจะเสียเธอไป
…เหมือนกับที่เขาเคยเสียลลินมาแล้ว
เขากำลังกลัว...ความกลัวมาพร้อมกับความโกรธ
...หากเขาหาตัวเธอพบ เขาจะทำทุกอย่างให้เธอไม่สามารถหนีจากเขาไปได้อีกแน่นอน
แสงสีส้มเรื่อของยามค่ำตกกระทบกับผ้าม่านโปร่งบางในห้องนอนไลลานั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงอีกฟาก — เงียบ เฉยชา เหมือนวิญญาณที่ถูกทิ้งไว้ในห้องว่างเธอเพิ่งเดินกลับจากห้องของเขา หลังจากที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังประตูเมื่อไม่กี่นาทีก่อนภาพที่เธอเห็น...ภาพที่เขาเปิดกล่องไม้แล้วลูบมันด้วยความอาวรณ์ — กล่องของลลิน — ยังติดตาหัวใจของเธอแน่นอึดอัด เหมือนอากาศในห้องกำลังลดลงเรื่อย ๆ จนแทบหายใจไม่ออกไม่ใช่เพราะเขาใจร้ายแต่เพราะเขาใจดี...กับใครอีกคนและเธอก็รู้แน่แล้วว่าเธอไม่เคยเป็น 'ใครคนนั้น'ไลลาหลับตา สูดลมหายใจลึกฝ่ามือบีบชายกระโปรงแน่น เสียงในหัวยังวนเวียนซ้ำเดิม— กลิ่นน้ำหอมที่เขาเลือกให้— เพลงที่เขาเปิด— เสื้อผ้าที่เขาเตรียมไว้ทั้งหมด...มันไม่เคยเป็นของเธอเลย“พอแล้ว…” เธอพึมพำเสียงแผ่วกับตัวเองดวงตาแดงเรื่อจากการร้องไห้ ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเด็ดเดี่ยวที่เธอไม่เคยมีถึงแม้นทียังรักษาไม่จบถึงแม้เธอไม่มีอะไรเลย
เสียงลมหายใจของไลลาเบาหวิวอยู่ในห้องที่ไร้เสียงภายในห้องนอนของเขา — หรู เรียบ และมืดหม่นไปด้วยความทรงจำที่เธอไม่เคยมีส่วนร่วม“ไลลา ช่วยจัดกระเป๋าให้หน่อย พรุ่งนี้ฉันต้องออกเดินทางแต่เช้า”เขาบอกสั้น ๆ ก่อนออกไปโทรศัพท์นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาขอให้เธอช่วย — ไม่ใช่ออกคำสั่งเธอจึงนั่งลงที่พื้นหน้าตู้เสื้อผ้าเปิดบานประตูตู้ไม้เนื้อดีอย่างเบามือ ไล้ปลายนิ้วไปตามแผ่นพับของเสื้อเชิ้ตที่รีดเรียบจนแทบไม่มีรอยพับเขายังคงเป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว เหมือนเดิมเธอหยิบเสื้อสีพื้นสองสามตัวออกมา พับใส่กระเป๋าผ้ากระทั่งสายตาเธอสะดุดเข้ากับกล่องไม้สีน้ำตาลเข้ม ขนาดพอดีฝ่ามือ วางอยู่ลึกในมุมสุดของชั้นเธอชะงักมือค่อย ๆ เอื้อมไปหยิบมันออกมากล่องถูกปิดสนิท แต่ไม่มีแม่กุญแจเธอเปิดออกช้า ๆ —ด้านในมีเพียง “กุญแจดอกหนึ่ง”เป็นกุญแจทรงคลาสสิกแบบเก่า ฝังในโฟมสีดำอย่างประณีต ราวกับเป็นสิ่งของสำคัญ“มันคือกุญแจอะไร...” เธอพึมพำเบา ๆด้วยแร
“คุณเคยรักอะไรบ้าง...ที่ไม่ใช่ภาพจำ?”เขาหันมาสบตาแต่ไม่ทันได้พูดอะไรเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้งอคินรับสายโดยไม่พูดอะไรสักคำ… ไม่มีแม้แต่คำทักทายหรือเสียงตอบกลับ มีเพียงความเงียบ และสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างช้า ๆไลลานั่งนิ่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ เธอมองเขา—เงียบ…แต่ใจสั่นสีหน้าของเขาไม่ใช่ความโกรธ ไม่ใช่ความเศร้าแต่เป็นอะไรบางอย่างที่คล้าย “ความไม่แน่ใจ...บางอย่าง”“ฉันต้องออกไปธุระ” เขาพูดขึ้นทันทีที่วางสาย ดวงตาไม่สบเธอแม้แต่น้อย“อย่าออกจากห้อง จนกว่าฉันจะกลับมา”“ถ้าฉันต้องออกไป—”“ไม่ได้ ไลลา”เสียงของเขาตัดบททุกอย่างสั้น ๆ“ถ้าฉันรู้ว่าเธอออกไป…เธอก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใช่ไหม”เขาไม่รอฟังคำตอบเสียงประตูคอนโดปิดลงพร้อมเงาสูงที่หายไปในความมืดของลิฟต์โดยสารรถยนต์คันสีดำแล่นฝ่าแสงไฟเมืองกรุงเทพฯ ไปยังตรอกด้านหลังของทองหล่อ
เธอขยับปลายคางขึ้น...ปล่อยให้ริมฝีปากของเขากดซ้ำลงมาบนปากเธออีกครั้ง คราวนี้นุ่มลึกและเนิบนานกว่าครั้งไหน — จูบที่ไม่มีคำขอ ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีแม้แต่การบีบบังคับ...แต่มันเต็มไปด้วย “แรงดึงดูด” ที่กลืนกินหัวใจทั้งสองไปทีละนิดมืออุ่นของอคินลูบต้นแขนเธอ ไล้ลงสู่เอว แล้วสอดเข้าใต้เสื้อคลุมในจังหวะที่เธอกำลังเปิดอกให้เขาอย่างเต็มใจเสียงเสียดสีของผ้าบางเบาระหว่างผิวเนื้อ และเสียงลมหายใจที่หนักขึ้นทุกวินาที ทำให้บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ที่ไม่ต้องพูดเขาจูบลำคอของเธออย่างช้า ๆ ลากไล้ริมฝีปากจากมุมกรามลงสู่ไหปลาร้า ดูดเม้มปล่อยรอยจางไว้ราวกับต้องการจารึกว่า—คืนนี้ เธอเป็นของเขา...ในแบบที่ไม่ใช่เพราะเงินหรือสัญญาไลลาหลับตาแน่นเมื่อปลายนิ้วของเขาไล้ผ่านช่วงขาด้านใน แล้วหยุดลงตรงกลางร่างกายเธอ“ได้ไหม...” เขากระซิบแผ่วที่ข้างหู น้ำเสียงต่ำพร่าเจือความสั่นเธอพยักหน้าคำตอบของเธอ...ไม่ใช่คำพูด แต่คือร่างกายที่เบียดเข้าใกล้เขาอย่างเชื่องช้าเธอดึงเขาลงมาอย่างอ่อนโยน แล้วกระซิบเสียงเบา&l
เสียงของนาฬิกาบนผนังยังเดินไปตามเวลาของมัน...แต่โลกของไลลากลับหยุดนิ่งหลายวันหลังจากคืนนั้น...คืนนั้นที่เขาพูดว่า “ผมต้องการเธอ ไม่ใช่ลลิน”มันคือคำพูดที่ควรปลอบใจเธอ...แต่กลับกลายเป็นเสียงที่หลอนในความเงียบเพราะในดวงตาของเขา...ยังเต็มไปด้วย “เงา” ที่ไม่ใช่เธอไลลาไม่ได้หนีอีกต่อไปไม่ได้ตะโกนโต้กลับแต่เธอก็ไม่ใช่ ‘ของเล่น’ ที่ยอมจำนนเหมือนเคยอีกแล้วเธอเริ่ม “เงียบ” ในแบบที่เขาฟังไม่ออกไม่ปฏิเสธคำสั่งแต่ไม่ทำตามทุกอย่างบางวัน เธอเลือกอ่านหนังสือของตัวเองแทนเล่มที่เขาวางไว้บางมื้อ เธอเปลี่ยนจากไข่ต้มเป็นข้าวผัดกุนเชียงที่เธอทำเองและเขา...ก็เงียบอคินยังคงจัดตารางให้เธอยังคงเปิดเพลงเดิมตอนเย็นยังคงเตรียมน้ำอาบในอุณหภูมิเดิมแต่บางอย่างเริ่ม ‘เปลี่ยน’“เธออยากกินอะไรเย็นนี้” เขาถามเบา ๆ ระหว่างยื่นโทรศัพท์ให้ดูเมนูไลลาชะงักมันไม่ใช่คำสั่งมันคือ “คำถาม”
คอนโดชั้นบนสุดยังคงปิดเงียบเหมือนถูกลืมไว้กลางเมือง แสงเช้าอ่อนสาดผ่านม่านสีเทา มัวซึมเหมือนความรู้สึกของใครบางคนที่ไม่เคยเปลี่ยนบนเตียงขนาดคิงไซส์ ร่างของไลลานอนหันหลังให้เขา ไหล่บางนั้นเกร็งแน่นแม้ในยามหลับ รอยแดงช้ำตามลำคอ ไหล่ และข้อมือยังไม่ทันจางไปจากคืนก่อนอคินนอนลืมตาอยู่ด้านหลัง สายตาจ้องเพดานด้วยความคิดที่พันกันยุ่งเหยิงมือของเขายังวางอยู่บนเอวเธอ — ไม่ใช่เพราะต้องการจะกอด แต่เพราะกลัวว่าเธอจะลุกหนีโดยที่เขาไม่รู้ตัวอีกเธอไม่ได้พูดกับเขาเลยนับจากเมื่อคืนไม่มีคำต่อว่า ไม่มีแม้แต่เสียงกดดันใด ๆแต่นั่นแหละ...ที่ทำให้เขารู้ว่าเธอ “พัง” ข้างในและเขาเองก็...ไม่ต่างกันหลังอาบน้ำเสร็จ เขาเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมเสื้อเชิ้ตตัวใหม่ที่พับไว้อย่างเนี้ยบ ใบหน้าเย็นชาเหมือนเดิม แต่ดวงตา...กลับอ่อนล้ากว่าทุกวันไลลายังนั่งกอดเข่าข้างเตียง สวมเสื้อคลุมที่เขาโยนให้เมื่อเช้า เธอไม่ได้พูด และเขาก็ไม่ถามเขาเดินเข้าครัว จัดอาหารเช้าอย่างเคย — ไข่ต้ม ขนมปังปิ้ง ข้าวต้มไก่สูตรเดิมที่เขาเคยทำให้ล