หลายวันต่อมา...
“เฮ่อออออ....” “?” เฮียคินมองมาพอเห็นฉันถอนหายใจบนรถยาวๆ “ก็โรสกับเฮียโยน่ะสิคะ งอนกันอีกแล้ว งอนกันแบบวันเว้นวันคราวนี้ดูท่าจะยาว -3-” “ก็ให้เคลียร์กันเอง จะไปเครียดไรกับเค้า” “งื้อออ -3-” เฮียคินส่งมือข้างนึงมาบีบแก้มฉันที่ทำปากจู๋ระหว่างรถติดซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เขาต้องไปส่งฉันตอนเช้า แล้วก็ส่งมือหนานั่นมาลูบหัวฉันเบาๆ “เนี่ย แถมช่วงนี้โรสยังทำท่าทางแปลกๆด้วยนะ เหมือนคนไม่ค่อยสบายเลยอ่ะ” “หรอ เครียดที่เมนส์ไม่มาป่าว” “เอ้าเฮียคิน! อย่ามาแซวพี่เค้า ถ้าเมนส์ไม่มาก็แปลว่าท้องน่ะสิคะ” แล้วพอโดนฉันดุ เฮียก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ใส่ หนอยแน่! “หึ...วันนี้เที่ยงนัดยัยนั่นกินข้าว” อ่าฮะ ยัยนั่นที่ว่าก็คือรุ่นพี่เฟรย่าน่ะ แล้ววันนี้ฉันก็เลิกประมาณ 11 โมงพอดีเลยด้วยนะ “อื้อ เฮียบอกแล้วค่ะ แต่ถ้าไม่ว่างเฮียไม่ต้องมารับก็ได้นะ ไปเจอกันที่....” “ไม่เคยไม่ว่างหรอกว่ะ” เฮียคินตอบกลับมาแบบชิลๆแล้วขับรถต่อไป แต่ก็ยังแอบหันมายักคิ้วหลิ่วตาใส่กันจนฉันไม่วายต้องกระแทกเสียงออกไปด้วยความหมั่นไส้ -.- “ค่ะ! ถามจริงๆว่าหนังสือหนังหาเฮียได้เรียนบ้างมั้ย -3-” ก็มันจริงนี่นา เทียวรับเทียวส่งฉันอยู่ได้ทุกวันเลยนะเขาอ่ะ “เรียนดิ” “ไหนล่ะคะ หนูไม่เห็นว่าเฮียจะเคยไปเรียนหรือใส่ยูนิฟอร์มนักศึกษาสักครั้ง” “ก็จบละป่ะ” เอ๊ะๆ หมายความไงที่ว่าจบแล้ว? “โม้ ถ้าให้เดาตัวเองต้องอยู่ประมาณปีสองปีสามเหมือน....” โอ๊ะ! ไม่ได้ ถ้าบอกว่าเหมือนรุ่นพี่เตโชจะเสี่ยงเกินไป ความลับว่าฉันรู้แล้วว่าเขาอาจจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับรุ่นพี่เตโชแน่ๆต้องห้ามหลุดปากออกไป “เหมือน?” “ก็พวกเฮียๆหนูไง เฮียอยู่ปีสองใช่มั้ย ใช่ป่าวๆ” ฉันทำเฉไฉแล้วเฮียก็ทำหน้าเอือมๆแถมยังเบะปากใส่ “อย่าเอาไปเทียบกับแก๊งค์เด็กน้อยด้อยค่าได้มั้ย” “อ้อหรอ เฮียๆหนูต่อยแรงนะ จะบอกให้รู้ไว้ -3-” กล้ามากพ่อหนุ่มคิระ อยากให้เจอจังๆกับเฮียพายเฮียโยเฮียบีทของหนูดูสักครั้ง รับรองต้องกลัวจนร้องไห้ “หรอ? ต่อยแรงจริง? ยิงสามนัดก็สอยร่วงหมดละมั้ง” “เชอะ! เบื่อคำว่าหรอแบบกวนประสาทแล้วก็ท่าทางบ้าอำนาจสุดๆจัง -3-” ฉันทำหน้ามุ่ยใส่เขาแล้วเฮียก็ลอยหน้าลอยตาแต่แอบขำ “เบื่อก็ลงไปดิ ลงไปเลย” โหยยยย ไล่เลยหรออออ แต่โอ๊ะ นี่มันถึง ม. แล้วนี่เนาะ “เอ้อออ ก็ถึงแล้วนี่ ถ้าไล่ก็ไม่ต้องมาขอ Kiss กันหรอก -3-!” บอกเลยว่าฉันเล่นใหญ่มาก ฉันกอดอกใส่แล้วด้วย จริงจังขนาดนี้เฮียนั่นแหละต้องมาง้อ “ไม่ Kiss ก็ได้” อะจึ๋ยยย -*- เอ้า ทำไมเขาไม่ง้อ??? “ก็เล่นตัว” เหมือนเฮียคินได้ยินความคิดของฉันงั้นแหละ เขาพูดมาโดยที่ไม่หันมาสบตาฉันสักนิดเลยนะ “อะไร หนูไม่ได้เล่น มาเร็ว Kiss กันก่อน” “ไม่ ไม่อยาก Kiss ละ” แกล้งหนู! ไม่ต้องเลยนะหนูดูออก เฮียแอบอมยิ้ม! “เอ้า ก็ช่าง! ไม่ Kiss ก็ตามใจใครจะไปง้อ” แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ฉันก็โน้มตัวยื่นจมูกไปหอมเฮียตั้งหลายที ฟรืด ฟรืด ฟรืด ฟรืด ฟรืด ฟรืด “นี่แหนะๆๆ! ก็ช่างๆๆ หอมหลายทีไปเลยนะตาลุงบ้าพลัง!” แล้วบางคนก็ยิ้มกว้างอย่างได้ใจจังหวะที่ฉันเปิดประตูรถลงมา ก่อนที่เขาจะเปิดกระจกโบกมือบ๊ายบายและขับรถออกไป11.30 AM
@ ห้างสรรพสินค้าข้าง Treatise “งื้ออออ คุณพระอาทิตย์ดูสิคะ ของเล่นเต็มเลยอ่ะ นู่นก็ตู้เกม นั่นก็สไลเดอร์ คุณพระอาทิตย์หนูอยากเล่น คุณพระอาทิตตตตตย์ >[]<” “งอแงเป็นเด็กเลยนะ” เฮียคินใช้มือข้างนึงมาโยกหัวฉันแล้วเขาก็หลุดขำ ก็มันน่าเล่นจริงๆนี่นา ใครจะไปอดใจไหวอ่ะ ยิ่งสถานที่ที่นัดเจอกับรุ่นพี่เฟรย่าคือหน้า Game Zone ด้วยแล้ว ก่อนรุ่นพี่จะมาก็ขอชะแว๊บไปเล่นสักตาเถอะนะ “ก็หนูยังเด็กอยู่นี่คะ น้าาา คุณพระอาทิตย์ขา นะเฮียยย” “ถ้าตอบถูกว่าเรียกคุณพระอาทิตย์กี่ครั้งละจะให้เล่น” เฮียคินเลิกคิ้วข้างนึงส่งมา ส่วนมือเขาก็ยังวางอยู่บนหัวฉันที่ตัวเล็กกว่า แต่ให้นับว่ากี่ครั้งนี่มัน.... “ง่าาา ก็ตัวเองชื่อคุณพระอาทิตย์นี่คะ เรียกเยอะๆไม่ได้ไง๊ เรียกไปเท่าไหร่ใครจะไปจำอ่ะ -3-” “ไม่ได้บอกว่าเรียกไม่ได้ บอกว่าถ้าตอบถูก....” “งั้นเอางี้! ต่อไปหนูจะเรียกเฮียว่าพี่สุชาติแทนแล้วกัน จะนับให้ด้วยว่ากี่ครั้ง เริ่มแล้วนะ!” จังหวะที่เฮียโน้มตัวลงมาแล้วโยกหัวฉันอย่างเจรจา ฉันก็ปิ๊งไอเดียพิลึกกึกกือขึ้นมา “พี่สุชาติ?” “ค่ะ พี่สุชาติ พี่สุชาติก็คือคุณพี่ รปภ. ที่คอนโดหนูค่ะ อุ๊ยพอพูดถึงก็นึกขึ้นได้ หนูเคยบอกว่าเฮียคินกล้ามเล็กกว่าปู ดูยังไงก็เป็นได้แค่ รปภ.เมาเหล้าขาวจำได้ป่ะ ฮ่าๆๆๆ” “จ้ะ” อุ๊ยๆ มีคนกัดฟันแล้วยิ้มปลอมๆส่งมาให้ฉันอ่ะ น่าเอ็นดูจังนะ >_< “ทำหน้าแบบนี้ เฮียก็คิดว่าชื่อนี้เข้ากับตัวเองมากเลยใช่ม้า” “เข้ากับผีสิเด็กบ้า” “ฮ่าๆๆๆ ไปค่ะพี่สุชาติ เราไปคีบตุ๊กตารอรุ่นพี่....” “....เฟรย่า” อีกละ -*- นี่รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ตั้งแต่มาถึง ที่พอฉันเอ่ยปากเรียกรุ่นพี่เฟรย่า เขาก็ส่งเสียงแกมบังคับให้ฉันเรียกเธอว่าเฟรย่าเฉยๆเหมือนตัวเองตลอดเลยอ่ะ “เรื่องอะไรล่ะคะ ก็หนูบอกว่าไม่เรียกไง รุ่นพี่ก็คือรุ่นพี่” “เรียกเฟรย่า” นั่นไงขู่อีกละ! แต่ไม่เถียงด้วยแล้วดีกว่า Game Zoneee… Game Zone จ๋า หนูมาแล้วค่าาาา “โนววววค่ะ เร็วๆสิคะพี่สุชาติ ทำไมเดินช้าจังเลยมัวแต่พูดมากกกก”ไม่กี่นาทีต่อมา...
“เฮียเอาตัวนั้นนน เอาสีชมพู! นี่! บอกว่าสีชมพูเข้าใจยังงงง” ฉันเขย่งขึ้นไปแล้วแกล้งตะโกนกรอกหูเฮียคินที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาคีบตุ๊กตาในตู้อย่างเอาเป็นเอาตาย “รู้แล้วน่า อย่าเสียงดัง -.-“ “เห๊อะ! รู้แต่เอาสีฟ้าทุกครั้ง! ก็คือคนหูหนวกแล้วมั้งเนี่ย เกิดเป็นคนแก่นี่แย่จัง =_=^ อ้าว หวัดดีค่ะรุ่นพี่” แล้วระหว่างที่ฉันกำลังบ่นๆเขา สายตาก็หันไปป๊ะกันกับรุ่นพี่เฟรย่าที่ดูเหมือนจะยืนมองเราอยู่ห่างๆมาสักพักแล้วล่ะมั้ง “ก็บอกให้เรียกเฟรย่า” “อะไรกัน แต่รุ่นพี่เค้าอยู่ลัทธิคนแก่แบบเฮียนะ” ฉันตอบกลับเฮียคินที่นัดกันแท้ๆ แต่เขาไม่หันมาทักทายรุ่นพี่เลยด้วยซ้ำ “งั้นเจ๊เฟรย์ ต่อไปเรียกแบบนั้น” “ไม่เอาอ่ะ งั้นรุ่นพี่...เฟรย่าละกัน คนละครึ่งทางโอเคมั้ย” “ไม่ได้!” “โอ๊ยยย คนแก่ชอบวุ่นวาย!!!” แล้วพอเห็นพวกฉันตั้งท่าจะทะเลาะกัน รุ่นพี่ก็ขำๆแต่ออกตัวตัดบทเราดื้อๆซะงั้น “พอๆ อยากเรียกไรก็เรียก ป่ะ หิว” ไม่นานเราก็มาอยู่กันที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดังและสั่งอาหารมานั่งกินกัน รุ่นพี่เฟรย่านี่ดูเงียบๆชอบกล เธอดูไม่ค่อยซนเหมือนเฮียคินที่แอบเอาส้อมมาจิ้มนู่นจิ้มนี่ในจานฉันไป เหมือนเรามากันสองคนยังไงไม่รู้ทั้งที่รุ่นพี่ก็นั่งอยู่ “เอ๋? รุ่นพี่กินน้อยจังค่ะ ว่าแต่มันคืออะไรหรอคะ ไอ้เจ้าพาสต้าหน้าตาคล้ายๆผีเสื้อ ไม่ก็โบว์อะไรนั่น -3-” “ฟาร์ฟาเล่ ลองมะ?” ครืดดด เพราะเห็นว่าเป็นเมนูที่น่าสนใจ ฉันเลยชวนคุยแล้วรุ่นพี่ก็เลื่อนจานตัวเองมาให้ แต่ฉันก็ยังลังเลแล้วหันไปหาเฮียคิน เขาเลยตักมันในจานรุ่นพี่ไปกินก่อน เพื่อคอนเฟิร์มว่ารุ่นพี่ไม่ได้ถือตัวอะไร แล้วพอตักมาลองชิมบ้างมันก็รสชาติดีเหมือนหน้าตาเป๊ะๆ “หึ๊ยยย อร่อยอ่ะ >_<” “ใช่มะ” “งั้นๆอ่ะ” “โอ๊ยลุง! อย่ามาขัดน่า คนเค้าจะคุยกัน -3-” “ฮ่ะๆ” ฉันเหลือบตาไปมองค้อนใส่เฮียที่ทำเป็นไม่สนใจรุ่นพี่ตั้งแต่ที่เธอมาถึงแล้วนะ รุ่นพี่เองก็ขำๆ นี่น่ะหรอยัยแม่มด รุ่นพี่ก็ดูใจดีออก นี่เฮียอคติหรือว่ามีปมอะไรกับรุ่นพี่กันแน่นะ “ไม่ต้องมาขำ” “ยังอีกคุณพระอาทิตย์! อย่ามาดุรุ่นพี่ของลิซนะ -3-” ฉันแกล้งส่งเสียงขู่แบบที่เฮียชอบทำออกไปบ้าง แล้วเฮียก็มองรุ่นพี่เซ็งๆก่อนจะหันมาหาฉัน ป๊อก! “โอ๊ย!” “นี่ก็เกรี้ยวกราดจัง” โอ้โหหห ทีนี้ก็ยาวเลย กล้าเขกหัวหนูต่อหน้าคนอื่นเลยหรอ เดี๋ยวจะโดนดีเลยนะพี่สุชาติ เดี๋ยวลุงจะเจอดีเข้าจังๆ ว๊ากกก แล้วหลังจากกินข้าว (ที่จริงหมายถึงหลังจากที่ฉันนั่งเถียงกับเฮียคินแล้วรุ่นพี่ก็เอาแต่นั่งขำ) พวกเราสองสาวก็ไปเดินช้อปปิ้งกัน แต่คุยกันน้อยมากเลยนะสองคนนั้นอ่ะ ไม่เห็นจะเป็นไปตามที่พี่ไคยะเคยบอกว่ารุ่นพี่กับเฮียคินถ้าอยู่ด้วยกันจะพูดมากถึงมากที่สุดอ่ะ เฮียคินช่วยถือของให้รุ่นพี่ก็จริง แต่ก็คอยพูดจากวนประสาทเธอออกมาอยู่นั่นเวลาเธอเลือกของ ไม่เห็นจะคุยกันดีๆสักครั้ง อย่างเวลาเลือกเสื้อผ้าก็.... ‘เอาสิ ใส่ไปจะได้เหมือนตัวประหลาด’ หรือตอนเลือกเครื่องสำอาง.... ‘ถมเข้าไปก็ไม่สวยขึ้นมั้ง’ โอ๊ะ หรือแม้แต่ตอนรุ่นพี่แวะซื้อคุกกี้กับขนมปัง ‘จะซื้อนี่เลิกกินเลือดสดๆได้ยัง’ อะไรของเฮียเขาล่ะนั่น สรุปเห็นรุ่นพี่เป็นนางมารร้ายหรือไงกัน -*- “พี่สุชาติคะ ฝากหน่อยสิ หนูจะไปห้องน้ำ” เพราะของเราสองคนเยอะมากเลยแบ่งกันถือ ฉันเลยฝากมันไว้กับเฮีย ก่อนจะเดินลิ่วๆออกมาเลยทั้งสองคนจะได้ไม่ต้องรอนาน แต่โห...คนเยอะจังแฮะ เท่าที่ดูทางแยกฝั่งซ้ายคนจะน้อยกว่า งั้นไปทางนี้ละกัน หมับ! “อ๊ะ!” แล้วจังหวะที่ฉันกำลังจะเลี้ยวเข้าห้องน้ำตรงทางแยกฝั่งซ้าย อยู่ๆก็โดนชายชุดดำที่เดินมาจากไหนไม่รู้คว้าแขนและกระชากให้เดินตามเขาไป “ดะ...เดี๋ยวสิคะ” “หยุด! อย่าพูดมาก! แล้วห้ามแหกปาก!” เสียงเข้มดังขึ้นจากด้านหลังโดยใครอีกคน ตอนที่ฉันตั้งท่าจะเดินหนีในขณะที่ฉันยังมึนงงว่าผู้ชายที่ลากฉันไปเป็นใคร แล้วสิ่งที่ทำให้ฉันถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก คือวัตถุทรงกระบอกที่ถูกส่งมาจ่อด้านหลังพร้อมกับมือหยาบๆที่บังคับทิศทางฉันให้หมุนตัวออกจากห้องน้ำเดินมาทางบันไดหนีไฟ เล่นเอาฉันก้าวขาแทบไม่ออก ขาสั่นๆกำลังจะอ่อนยวบ โดยที่ไม่มีใครหน้าห้องน้ำสังเกตเห็นความผิดปกติเลยด้วยซ้ำ พลั่ก! “โอ๊ย!” แกร๊กกกก! พรึ่บ! แล้วเสี้ยวนาทีที่ฉันก้าวพ้นประตูหนีไฟ อยู่ๆรุ่นพี่เฟรย่าก็ผลักประตูและวิ่งตามออกมา พร้อมกันกับที่ฉันเงยหน้าขึ้นไปเจอกับชายชุดนับสิบที่กำลังจ่อปืนในมือเป็น 10 กระบอกไปที่เธอจนใจฉันหล่นไปอยู่ที่พื้น ตัวก็ยิ่งสั่นหนักเข้าไปใหญ่ “ระ...รุ่...รุ่นพี่...คะ...อึก O_O” นี่มัน...นี่มันเรื่องอะไร?! “ไปขึ้นรถ! ไม่งั้นอีนี่ตาย!” เสียงตะคอกจากคนที่ลากฉันจากหน้าห้องน้ำถูกส่งออกไปให้รุ่นพี่เฟรย่าดังสนั่น พร้อมกันกับที่ปากกระบอกปืนอันหนึ่งถูกเลื่อนมาจ่อหัวฉันที่เลิ่กลั่กจนไร้สติ ระบบประมวลผลอะไรตอนนี้ก็ไม่ทำงานทั้งนั้น แต่กลับกัน...ยิ่งฉันสั่นมากเท่าไหร่ รุ่นพี่ยิ่งนิ่งมาก สายตาของเธอดูไม่ได้เกรงกลัวปืนนับสิบกระบอกที่จ่อไปแม้แต่น้อย ยิ่งบอกชัดว่าเฮียคิน รุ่นพี่เตโช หรืออาจจะรวมรุ่นพี่เฟรย่า พวกเขา..... “ตามนั้น ปล่อยเธอซะ!” เสียงตะคอกห้วนๆจากรุ่นพี่ถูกส่งกลับมา ทำให้ชายชุดดำสองคนเข้าไปล็อคแขนเธอ และปืนที่จ่อหัวฉันก็ถูกลดลงทันทีตามที่รุ่นพี่สั่ง แล้วชายชุดดำคนนั้นก็กระตุกยิ้มมุมปากมองมาที่ฉัน ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าด้ามจับประตูหนีไฟดันตัวฉันให้กลับเข้าไป แต่ไม่ทันที่ฉันจะก้าวขา ก็โดนมือหยาบน่าขยะแขยงนั่นกระชากเสื้อผ้าอย่างแรง ฉันไม่ทันได้ตั้งตัวไอ้บ้านี่มันก็กดจูบลงมา หนวดเคราน่ารังเกียจก็ถูกยัดเยียดมาไซร้ซอกคอฉันจนเตลิดและหวีดร้องร้องไปดังลั่น! แคว่กกกก! พรึ่บบบ! “กรี๊ดดดดดดดดดดดด” ตุ้บ! ตุ้บ! ฉันพยายามสะบัดคนตรงหน้าออก รุ่นพี่เองก็สะบัดแขนที่ล็อคตัวเองไว้ และกำลังจะตรงเข้ามา นั่นทำให้เป้าของปืนทุกกระบอกมันเวียนกลับจ่อมาที่ฉันอีกครั้ง ท่ามกลางสีหน้าสะใจของคนที่ยิ่งมองก็ทำให้ฉันยิ่งถอยหนีอย่างหวาดผวา “ฮึก...” “ไปซะ! ไปบอกมัน! ว่าคนที่สั่งให้ทำกับเธอแบบนี้...คือว่าที่ผู้นำ!” ผู้ชายน่ารังเกียจตะคอกเสียงดังและเปิดโอกาสให้ฉันหนี แต่ก็ยังส่งสายตาจาบจ้วงอย่างโจ่งแจ้งมาอีกครั้ง ได้ยินแบบนั้นฉันก็วิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิตโดยลืมรุ่นพี่ไปเลยเหมือนกัน จนชนกับเฮียคินที่คงได้ยินเสียงฉันเลยวิ่งฝ่าฝูงชนตรงเข้ามาหาฉัน! ตุ้บ! “ลิซ!” “ฮึก... ฮือออ เฮีย! เฮียคิน! รุ่นพี่เฟรย่า....”@ KIRA’S CONDO
ไม่กี่นาทีต่อมา.... ปังงงงงง! เฮือก O_O! ฉันสะดุ้งสุดตัวพอเจอเฮียคินโหมดเกรี้ยวกราดหลังได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดที่ฉันเผชิญมาเมื่อกี๊ ในห้องที่ฉันนั่งเลิ่กลั่กอยู่ตอนนี้ แม้จะมีแค่เฮียคิน เฮียแม็ค และพี่ไคยะ แต่ในมือทุกคนถือโทรศัพท์พร้อมสั่งการ สิ่งที่น่ากลัวไม่แพ้เฮียคินที่กำลังอาละวาด คือเฮียแม็คที่แม้จะดูเงียบขรึมแต่เขาก็นั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ แววตาเฮียแม็คตอนนี้น่ากลัวยิ่งกว่าทุกครั้งที่ฉันเคยเห็นซะอีก “เฝ้านายหญิงมึง! อย่าให้ใครเข้ามาที่นี่!” “กูไปเอง!” เฮียคินคว้าปืนกระบอกนึงในลิ้นชักหน้าทีวีที่ฉันไม่เคยสังเกตเห็นสักทีไปเหน็บไว้ที่ขอบกางเกงด้านหลังแล้วเอ่ยปากสั่งพี่ไคยะให้อยู่ดูแลฉัน แต่เฮียแม็คก็ขัดขึ้นมาและหันมองฉันที่นั่งกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเพราะกลัวว่าปืนที่พวกเขาหยิบเล่นกันตอนนี้มันจะลั่น “…กูจะเอาฟาร์ดากลับมาเอง” เฮียแม็คย้ำออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงดุดันและจริงจัง ก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในตาเฮียคินอย่างมีนัยยะบางอย่าง เขากังวล.... มันดูเป็นความกังวลที่ปิดบังไม่ได้เลย เฮียแม็คกังวลจนเห็นได้ชัด เหมือนกลัวเฮียคินจะเป็นคนไปช่วยเอง ไม่รู้ทำไม...ฉันถึงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกพวกนั้น นั่นทำให้เฮียคินถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง ก่อนที่แววตาประทุจร้ายของเขาจะเผยออกมาอย่างดุดันกว่าเดิม... “ห้ามมีรอยขีดข่วนใดๆบนตัวพี่กูทั้งนั้น!” “มึงรู้อยู่แล้วว่ากูไม่ยอม....” พรึ่บ! “แน่ใจ?! งั้นมึงก็ลากคอคนที่จับพี่กูมาที่นี่เลยเป็นไง!” แล้วอยู่ๆ สถานการณ์ที่ดูเหมือนทุกคนจะช่วยกันตามหา ก็เปลี่ยนไปเป็นเฮียคินพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อเฮียแม็คและโพล่งออกไปด้วยอารมณ์ ส่วนเฮียแม็คเขาได้แต่ยืนกำมือแน่น มันไม่ใช่ท่าทางของคนที่จะตอบโต้เฮียคิน แต่มันเป็นท่าทางของคนที่กำลังโมโหเพราะทำอะไรบางอย่างไม่ได้ ฉันคิดแบบนั้น “เรื่องนั้นกูไม่รับปาก...” “ฆ่ามันซะ! ....กูสั่ง” แม้จะตะคอกออกไปเสียงดัง แต่โทนเสียงนั้นของเฮียคินก็แผ่วลง ก่อนที่เขาจะยอมปล่อยเฮียแม็คเป็นอิสระ เฮียแม็คเองก็ไม่พูดอะไรต่อเลยสักคำ “…...” “มึงไม่ต้องไป! ไอ้ไคยะ! มึงไปเอาตัวมันมา ต่อให้ต้องจับตาย ก็ลากศพมันมา!” “รับทระ....” “ก็บอกว่าจะไปเอง!” พอเฮียคินหันไปพูดกับพี่ไคยะแบบนั้น เฮียแม็คก็โพล่งขึ้นมาเสียงแข็ง พวกเขาทั้งคู่เลยจ้องหน้ากันด้วยแววตาแน่วแน่จนบรรยากาศรอบตัวเริ่มทวีคูณความน่ากลัวขึ้นมาเพราะดูเหมือนจะไม่มีใครยอมกัน พรึ่บ! ก่อนที่อยู่ๆเฮียแม็คจะยอมก้มหัวให้เฮียคินจนทั้งฉันและพี่ไคยะก็มองท่าทางนั้นอึ้งๆอย่างไม่เข้าใจเหมือนกัน... “ไอ้คิน กูไปเอง....กูขอ...ไปเอง” พรึ่บ! สิ้นสุดคำพูดนั้น ฝ่ามือเฮียคินก็กระชากเฮียแม็คที่ก้มหัวอยู่ตรงหน้าเขาขึ้นมาแล้วหันหนีอย่างไม่ต้องการจะเห็นท่าทางแบบนี้ต่อหน้า เฮียคินมองมาที่ฉันที่เล็บมือเริ่มจิกลึกลงบนเบาะโซฟาเพราะนึกกลัวในแววตาและท่าทางแบบนั้น ก่อนที่เขาจะพยายามข่มใจที่ร้อนรนลงไปจนเห็นได้ชัด แล้วส่งปืนที่เหน็บไว้ด้านหลังไปให้เฮียแม็ค พร้อมกับกัดฟันแน่นพูดออกไปด้วยน้ำเสียงอาฆาตน่าดูเลยเหมือนกัน พรึ่บ! “ถ้าพี่กูต้องเจ็บอีกครั้ง...ไม่ว่ามันจะเป็นใคร มึงไม่ฆ่ามัน กูจะฆ่าเอง!”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X