หนึ่งชั่วโมงต่อมา...
“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?” นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมา แต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดี และที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้ “หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ” ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน “เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้” ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันที และพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ XVII ไม่ใช่เจ๊เฟรย์ที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้ แต่สิ่งที่มันเป็นปัญหาก็คือ... ฉันไม่รู้วิธี Log in เข้าระบบของ Dark Shadow เนี่ยสิ เพราะตอนที่อยู่ในห้องควบคุม ฉันสแกนนิ้วมือทั้ง 5 นิ้วบนแท่น แล้วระบบทั้งหมดมันก็ Log in อัตโนมัติทันที “มีไรรึเปล่า” ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบตาเจ๊เฟรย์ที่ถามมาสีหน้านิ่งๆ ทำไงดีล่ะทีนี้ ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งที่อาจเป็นไปได้เพราะออนไลน์อยู่พร้อมฉันกับ XVII ก็มีแค่เจ๊เฟรย์คนเดียวนี่ เจ๊อาจจะ Switch Account ใช้กลับกันไปมาก็ได้ แต่ถ้าเจ๊เฟรย์เป็นบุคคลที่น่าสงสัย ก็อาจจะยินดีที่เห็นฉันกระตือรือร้นกับเรื่องบ้าๆนี่ “เจ๊มากับหนูหน่อยมั้ยคะ” ก็ถ้าเป็นคนใกล้ตัวขนาดนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะปล่อยให้คนร้ายหลุดมือไปได้ พูดจบฉันก็ลุกขึ้นเดินนำ แล้วเจ๊กับเฮียคินก็ลุกตามเข้ามาที่ห้องควบคุมทันที “คือหนูเห็นแว๊บๆ เหมือนมีแจ้งเตือนให้ Log in เข้าสู่ระบบอะไรไม่รู้ค่ะก็เลยสงสัย” “อ๋อ มันเป็นระบบภายในของ Dark Shadow” พูดจบเจ๊เฟรย์ก็วางมือบนแท่นที่ฉันเคยวางทันที และ... ‘ยินดีต้อนรับค่ะรักษาการ...’ ภาพดำสนิทบนจอติดขึ้นมาฉับพลัน เมนูต่างๆขึ้นมาเหมือนเดิมเหมือนกับตอนที่ฉันเคยใช้มัน ฉันเลยแกล้งซุ่มซ่ามมือลั่น ทำเป็นเดินสะดุดขาตัวเองเฮียคินเลยคว้าไว้ แต่มือฉันก็ทันคว้าเม้าส์ก็คลิกเข้าไปเช็ค User ในกลุ่มผู้นำ ซึ่งในมุมมองของ User เจ๊เฟรย์ ไม่มี User ของ XVII อยู่ในนั้น ฉันกวาดสายตาดูอย่างดีแล้ว ทั้ง User ที่ออนไลน์และออฟไลน์ไม่มี XVII เลย เป็นไปได้ยังไงกัน?! “เป็นไรมั้ย?” “มะ...ไม่ค่ะ เอ่อ แล้วถ้าเจ๊เฟรย์มี เฮียก็มีด้วยใช่มั้ยคะ” พรึ่บ! พูดจบฉันก็คว้ามือเฮียที่โอบร่างฉันอยู่นี่แหละไปวางทาบบนแท่น แล้วคำพูดทักทายและหน้าจอก็ถูกรีสตาร์ทขึ้นใหม่เป็น User interface แบบเดียวกัน ‘ยินดีต้อนรับค่ะ Sub Leader’ อ่าฮะ ระบบอัพเดทตลอดเวลาเลยสินะ เพราะเฮียคินเพิ่งได้รับการแต่งตั้งไปก่อนหน้านี้แค่หนึ่งชั่วโมงเอง และที่น่าแปลกใจก็คือ...ในมุมมองของ User เฮียคิน ก็ไม่ปรากฏการมีตัวตนของ XVII เช่นกัน ทั้งที่เฮียคินก็อยู่ในกลุ่ม User เดียวกันกับฉัน คือกลุ่มผู้นำ “Ravissada? ทำไมมี User เราอยู่ในนั้น” พอเป็นฝ่ายโดนเฮียคินยิงคำถามบ้าง ฉันก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน แต่กลุ่มผู้นำงั้นหรอ? งั้นคนที่รู้และเข้าถึง User ทั้งหมดได้ก็ต้องเป็น... “พาหนูไปเจอรุ่นพี่เตโชหน่อยได้มั้ยคะ?” ได้ฟังแบบนั้นเฮียคินและเจ๊ก็หันมองหน้ากัน ก่อนเฮียจะตอบกลับมาสั้นๆ “มันไม่ว่าง” “ทำไมล่ะ ก็...” “พาโมเน่ต์ไปกินข้าว” “กลับมาแล้วนี่” รู้อีกที เจ๊เฟรย์ก็กำลังเช็ควงจรปิดและทันเห็นรุ่นพี่เตโชเดินกลับเข้ามาพร้อมผู้หญิงของเขาทันที ก่อนที่เจ๊เฟรย์จะกดโทรหารุ่นพี่ผ่านห้องควบคุมที่เป็น User เฮียคินตอนนี้ แล้วรุ่นพี่เตโชที่กำลังเดินอยู่ก็กดรับสาย ซึ่งเราทุกคนเห็นภาพนั้นจากวงจรปิดตอนนี้ [.....] ถึงจะกดรับแต่รุ่นพี่เตโชก็เงียบ เจ๊เฟรย์ก็เงียบรอให้เฮียคินเป็นคนพูดเอง เขาก็ไม่ยอมพูดสักที “เฮียคิน...” “ลิซอยากคุยด้วย” พอฉันเขย่าแขนแล้วแอบกระซิบ เฮียคินก็พูดไปทันที แล้วรุ่นพี่เตโชก็ตอบกลับมา [ที่?] “ศูนย์ควบคุมใหญ่แล้วกัน” คราวนี้เจ๊เฟรย์เป็นคนตอบ แล้วก็เป็นคนตัดสายก่อนจะเดินนำฉันกับเฮียออกไปทันที ไม่นานเราก็มาอยู่กันที่ศูนย์ควบคุมใหญ่ ซึ่งมันอลังการยิ่งกว่าห้องควบคุมของเจ๊เฟรย์ซะอีก แต่โชคร้ายที่ฉันไม่มีเวลาตื่นเต้นตอนนี้ “ว่า?” รุ่นพี่เตโชพอเห็นหน้าฉัน เขาก็เลิกคิ้วนิดหน่อยถามมา แล้วก็นะ... เพี๊ยะ! “กล้าดียังไงมาแตะต้องเฮียคิระของเค้าอ่ะ >[]<!” ฉันตีแขนรุ่นพี่เต็มแรงแล้ววิ่งหนีมาหลบหลังเฮียคินทันที หนอยแน่! หนูว่าจะไม่นอกเรื่องแล้วด้วย แต่เห็นหน้าแล้วมันหมันเขี้ยวจริงๆ แล้วทั้งเจ๊เฟรย์และเฮียคินก็หลุดขำออกมา “ก็คือเรียกมาตี? -.-” รุ่นพี่เตโชมองฉันนิ่งๆ แต่ก็ไม่ได้ดุดูอะไรเลย เขาออกจะงงๆด้วยซ้ำ แล้วยังทำท่าเหมือนคนกลั้นขำ “ไม่ใช่ซะหน่อย รุ่นพี่นะรุ่นพี่! หนูบอกไว้ตรงนี้ว่าต่อไปรุ่นพี่จะไม่ใช่เทพบุตรดาวพุธของหนูอีก!” “...เฮียติณณ์” “เฮ้ยอะไรนะ?! / ว่าไงนะ?!” พอฉันพูดจบเฮียคินก็พูดขึ้นมา แล้วแค่นั้นเลย เจ๊เฟรย์กับพี่สาวที่ชื่อโมเน่ต์ก็ทำท่าเงี่ยหูฟังเหมือนตื่นเต้นมากอ่ะ อย่าว่างั้นงี้ รุ่นพี่เตโชนี่เบนความสนใจจากฉันไปหาเฮียคินทันที “หมายถึงลิซต้องเรียก -.-” “ไม่เรียก! มาทำคุณพระอาทิตย์ของหนู ระวังจะเจอดี -3-” ฉันง้างมือแล้วส่งสายตาชิ้งๆไปกดดันรุ่นพี่ แล้วเขาก็ทำเฉย ไม่ต้อง! ไม่ต้องมาทำเข้มขู่หนูเลย! “ก็เคยเรียกแล้วนี่” รุ่นพี่เตโชทำหน้ามึนๆตอบมา แหมๆ... “หนูแค่ลองเรียกดู เผื่อว่าจะใช่อย่างที่คิดค่ะ” “แล้วใช่มั้ย?” “ก็ใช่สิคะ แค่ไม่คิดว่าจะฮาร์ดคอร์กันขนาดนี้” “......” พอฉันพูดไปทุกคนก็เงียบ นี่จะปิดบังกันไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย พวกเขายอมรับว่าเป็นสมาชิกแก๊งค์มาเฟีย แต่เฮียคินกับเจ๊รวมถึงรุ่นพี่เตโชเนี่ย เหมือนกำลังปิดบังเรื่องฆ่าแกงคนอื่นเป็นผักปลา ฉันรู้นะ! “แล้ว...นี่ยังขาดไปคนนึงรึเปล่าคะ” ฉันพูดแล้วหันซ้ายหันขวามองหาใครอีกคนที่ขาดไป แล้วก็ไม่มีใครพูดอะไร “ก็รุ่นพี่เลโอไงคะ อยู่ที่ไหน” ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ก็เงียบ เฮียคินนี่อยู่ๆก็หน้าตึงขึ้นมาเลย เอ๊ะฉันพูดอะไรผิดหรอ ก็วันที่มีเรื่องกันฉันเห็นรุ่นพี่เลโอกับเจ๊เฟรย์เดินจับมือกันในปราสาท พวกเขาน่าจะกิ๊กกัน แถมรูปที่ XVII ฉายขึ้นจอมา ก็มีรูปรุ่นพี่เลโอในนั้น “หนูขอเจอรุ่นพี่เลโออีกคนได้มั้ยคะ คือหนู...” “เรียกมันมา” ไม่รอให้ฉันพูดอะไรมากมาย เฮียคินก็หันไปบอกเจ๊เฟรย์ ฉันเลยใช้จังหวะที่รอนี้ เลิกกลัวและเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหารุ่นพี่เตโชซะเอง “รุ่นพี่ หนูขอดู User ของรุ่นพี่ได้มั้ยคะ?” “มีอะไรจริงๆงั้นสินะ” เฮียคินพูดกับฉัน แต่ฉันก็ยังไม่ได้ตอบคำถามนั้น แล้วรุ่นพี่ก็วางมือบนแท่นแบบเดียวกันที่ฉันคุ้นตา ก่อนที่ภาพมืดสนิทของหน้าจอจะปรากฏขึ้นมา ‘ยินดีต้อนรับค่ะท่านผู้นำ’ และแน่นอน... นี่เป็นอีกครั้งที่แม้แต่ User ของท่านผู้นำยังหา XVII ไม่เจอ แล้วรุ่นพี่เลโอก็เดินเข้ามา แถมยังเอ่ยปากทักฉันด้วย “เฮ้ยตัวเล็ก ทำไมมาอยู่นี่อ่ะ” พอดีเลย... “รุ่นพี่เลโอกับพี่สาว หนูขอดู...” “ไม่มี/ไม่มี” อย่างกับรุ่นพี่เตโชกับเจ๊เฟรย์จะรู้ในสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดไป ทั้งสองคนเลยชิงตอบมา แต่นี่มันยังไงกัน...มีแค่ฉันคนเดียวที่มี User แล้วงั้นหรอ? “Dark Shadow นอกจากสภา มีผู้ปองร้ายรายอื่นบ้างมั้ยคะ?” ด้วยความสงสัยฉันเลยพูดไป แล้วคำถามของฉันก็ทำให้เฮียคินหันขวับมาทันที “ทำไมถึงถามแบบนี้?” “แค่ตอบมาก็พอค่ะ” นาทีนี้ยอมรับว่าฉันเริ่มจริงจัง เพราะถ้ามีเวลาสามวันจริง แปลว่าฉันเสียเวลาไปแล้วเกือบสองชั่วโมงตั้งแต่ที่เดินออกจากห้องควบคุม และถ้าเป็นไปตามที่ XVII บอกก่อนนั้น แปลว่าฉันกุมชีวิตทุกคนตรงหน้าเอาไว้! “โดยจุดยืนของเรา ปัญหาเรื่องอำนาจและผลประโยชน์มีมาทุกวันเป็นเรื่องปกติ” เฮียคินตอบมาเสียงเรียบและมองฉันด้วยสีหน้าสงสัยอย่างไม่ปิดบัง เช่นเดียวกับทุกคนที่จ้องหน้าฉันนิ่ง “มีอะไรบอกได้นะลิซ” เจ๊เฟรย์ถามฉันเสียงเครียด อาจเพราะทุกคนเพิ่งจะผ่านเรื่องเครียดขนาดฆ่าฟันกันมาเมื่อกี๊ แต่ฉันก็ยังไม่รู้จะตอบคำถามทุกคนว่ายังไงดี เอาเป็นว่า... “เคยมีผู้ประสงค์ร้ายรายไหนบ้าง ที่มีความสามารถในการแทรกแซงระบบของ Dark Shadow หนูอยากได้ข้อมูลของคนที่มีประวัติเรื่องพวกนี้” “ใครแฮ็คเข้ามา?” ครั้งนี้รุ่นพี่เตโชจ้องหน้าฉันอย่างรู้ดีที่สุด ว่าฉันมักจะขลุกตัวอยู่กับเฮียพาย และคลุกคลีกับเรื่องพวกนี้ ...นี่ปิดไม่มิดแล้วสินะ พรึ่บ! ‘ยินดีต้อนรับค่ะ คุณรวิษฎา ภัทรเดชา’ คิดได้แบบนั้นฉันเลยเลือกจะตอบคำถามทุกคน ด้วยการวางมือบนแท่นวางอย่างมั่นใจ และสิ่งที่โชว์บนจอก็ใช่อย่างที่คิด User ของฉันมองเห็น XVII แค่คนเดียวจริงๆ เมื่อเทียบกับ User ของรุ่นพี่เตโชอีกจอตอนนี้ “เห็นความแตกต่างมั้ยคะ?” ฉันหันไปจ้องหน้าทุกคนที่จับจ้องหน้าจอขนาดใหญ่รอบตัวเราตอนนี้ ก่อนจะเช็คภาพวงจรปิดในห้องควบคุมของเจ๊เฟรย์ กะว่าคงมีเหตุการณ์ที่ XVII ฉายภาพพวกนั้นกับเสียงกราดกระสุนเหลืออยู่บ้าง แต่มันก็ไม่มี “XVII ?” รุ่นพี่เลโอพูดขึ้นมา ฉันเลยพยักหน้ากลับไปทันที “ค่ะ จากที่เช็คดูแล้ว ไม่มีใครเห็น User นี้เลยนอกจากหนู ก่อนหน้านี้ 1 ชั่วโมง หนู Log in เข้าระบบของ Dark Shadow โดยไม่ตั้งใจในห้องควบคุมของเจ๊” “มี User ได้ยังไง?” เฮียคินถามคำถามที่คาใจ และแน่นอน ถึงตรงนี้ฉันก็ไม่คิดจะปิดบังอะไร “คิดว่าน่าจะได้มาจากคำสั่งของท่านปู่ค่ะ ท่านปู่เคยบันทึกสกิลปามีดของหนูโดยสั่งการด้วยเสียงผ่านระบบอัตโนมัติที่ Castle ส่วนกลาง แล้วบอกว่าเป็นการบันทึกลงฐานข้อมูลก่อนการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการอะไรสักอย่าง แต่ที่มันสำคัญคือ XVII ติดต่อเข้ามาตอนที่หนูออนไลน์อยู่ จะใช้คำว่าติดต่อก็คงไม่ถูก ทางนั้นแฮ็คเข้ามาควบคุมระบบทุกอย่างในห้อง หนูไม่มีภาพวงจรปิดให้ดูเพราะมันถูกลบไปก่อน คร่าวๆที่อีกฝ่ายยื่นข้อเสนอมา XVII บอกว่ามันเป็นการทดสอบความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง Sub Leader's Wife แต่มันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ถ้าทางนั้นไม่กำหนดระยะเวลาให้หนูแค่สามวัน และขู่ว่าจะฆ่าเฮียกับเจ๊ทั้งห้าคน ถ้าหนูหาเขาไม่เจอ” “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมเพิ่งบอก” ทันทีที่ฉันพูดจบก็โดนเฮียคินดุมาทันที แต่ช่างเถอะ เพราะดูจากสีหน้าทุกคนในสถานการณ์แบบนี้ แต่ละคนก็ดูจะมองว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว เพราะงั้น... “หนูเคยอ่านกฎของ Dark Shadow มาบ้าง ถ้าเป็นเรื่องภายในของ Dark Shadow เราจะไม่ให้คนนอกเข้ามายุ่ง ยิ่งกับระบบภายในที่อาจถูกแทรกแซงเพราะมีข้อมูลที่เปิดเผยไม่ได้มากมาย แต่...” ฉันหยุดประเมินสีหน้าของทุกคนนิดนึง และตัดสินใจพูดออกไปโดยจ้องหน้ารุ่นพี่เลโอและไปหยุดที่รุ่นพี่เตโชอย่างไม่ปิดบัง “รุ่นพี่ Nightshade น่าจะรู้... ถ้ามีเฮียพายอยู่ด้วยตอนนี้ หนูคิดว่าหนูไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึงสามวัน แต่อาจจะหา XVII ได้ในสามชั่วโมงด้วยซ้ำ เพราะงั้นหนูอยากจะขอ....” พรึ่บ! ฉันยังพูดไม่ทันจบ ไฟทุกดวง ระบบทุกอย่างในศูนย์ควบคุมใหญ่ถูกตัดไปฉับพลัน เฮียคินตรงเข้ามาหาฉันทันที เสียงการเคลื่อนไหวท่ามกลางความมืดก็บอกชัดว่าทั้งรุ่นพี่เตโชและรุ่นพี่เลโอก็ตรงเข้าประชิดตัวเจ๊เฟรย์และพี่สาวที่ชื่อโมเน่ต์เหมือนกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะสว่างวาบขึ้นมา และเหมือนเดิม แผงควบคุมถูกรีสตาร์ท ก่อนจะมีเสียงคลื่นรบกวนดังก้องไปทั่วทั้งศูนย์ควบคุมจนเฮียคินต้องรีบเอามือปิดหูฉัน ‘คิดจะโกงกันงั้นสินะ...รวิษฎา!’ เสียงปริศนาที่ผ่านเครื่องแปลงเสียงดังขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้ระบบของศูนย์ควบคุมถูกแฮ็คเข้ามาอย่างสมบูรณ์แล้ว นั่นทำให้ฉันหัวเสียขึ้นมาอีกครั้ง “XVII !” ‘อ่อนแอจังนะ กับเรื่องง่ายๆแค่นี้ถึงกับต้องขอใช้ตัวช่วยน่ะ’ ฉันเหลือบมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนฟังคำพูดนั้นด้วยท่าทางหงุดหงิดไม่ต่างกัน ไม่ใช่แน่นอน! ไม่ใช่เจ๊ ถ้าเป็นเจ๊คงไม่หัวเสียขึ้นมาแบบนั้น และอย่างที่บอก ไอ้เสียงแสบแก้วหูนี่ ก็ทำฉันหัวร้อนขึ้นมาเหมือนกัน! “อ่อนแอหรอคะ?! นี่คือคำพูดจากคนเข้มแข็งกว่างั้นหรอ คนที่อ่อนแอน่ะ น่าจะเป็นคนที่ไม่กล้าเจอกันซึ่งๆหน้ามากกว่า!” ฉันตะคอกออกไปดังลั่นเล่นเอาเฮียคินอึ้งไป คนอื่นๆก็ด้วย ทุกคนมองมาแบบไม่เชื่อสายตา แต่แล้วไงอ่ะ?! โปรแกรมเมอร์ที่ไหนจะอยากเป็นมิตรกับแฮ็คเกอร์บ้าง! ‘หึ...ขนาดโมโหยังได้แค่นี้เองหรอ บอบบางเกินกว่าจะอยู่ที่นี่จริงๆ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่เข้าพวกกับใครสักคนตรงนั้น หรืออาจต้องใช้คำว่า... เธอมันขี้ขลาดจัง’ จิ๊! พรึ่บ! คนที่ขยับตัวก่อนเพราะหัวร้อนไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเฮียที่ดูก็รู้ว่าเขาตั้งใจจะปิดระบบทั้งหมดในนี้ ฉันเลยคว้าแขนเฮียไว้แล้วตะคอกกลับไปอีกครั้ง “หึ...ขี้ขลาด? ไม่เข้าพวกแค่เพราะไม่ชอบฆ่าคนเนี่ยนะ งี่เง่าเกินไปมั้ง!” คำพูดของฉันทำเอาเฮียคิน เจ๊เฟรย์ และรุ่นพี่เตโชหันขวับมาทันทีอย่างคาดไม่ถึงว่าฉันจะรับรู้เรื่องพวกนั้น และราวกับXVII ต้องการจะปั่นประสาทฉัน เลยฉายภาพในหอประชุมที่ตอนแรกปิดมันไว้ไม่ให้ฉันดูขึ้นมา แล้วเสียงกราดกระสุนก็ดังลั่นกว่าเดิมเพราะนี่คือศูนย์ควบคุมใหญ่ ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ภาพเฮียคินกับรุ่นพี่เตโชกราดกระสุนออกไปปรากฏตรงหน้าฉันที่กำมือแน่นด้วยความโกรธจนมือสั่น เฮียคินเห็นแบบนั้นเลยทำท่าจะตรงเข้ามาปิดตา แต่ฉันก็ปัดมือเขาออกทันทีเหมือนกัน! พรึ่บ! แล้วมันก็เป็นฉันนี่แหละ ที่ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าแผงควบคุมนิ่งๆ เอนตัวพิงพนักพิงมองมันอย่างไม่สะทกสะท้าน จนภาพเหตุการณ์และเสียงพวกนั้นเงียบไป เหลือไว้เพียงความเงียบเท่านั้น “.....” “อ้าว...จบแล้วหรอคะ? กำลังสนุกเชียว ที่จริงหนูเคยเห็นตั้งนานแล้วล่ะค่ะ ตอนเฮียคิระฆ่าคนน่ะ หนูเคยอยู่ในเหตุการณ์ด้วยนะ” ฉันข่มใจพูดยียวนออกไปเสียงเรียบ ความกลัวมากมายหายไปไหนหมดไม่รู้ เหลือแต่ความหงุดหงิดจากภาพบนหน้าจอที่บอกชัดว่าระบบตอนนี้ถูกแฮ็คเกอร์ควบคุมอยู่ แล้ว XVII กับคนที่เหลือน่ะ ก็เห็นเอาแต่เงียบ ไม่เห็นมีใครพูดอะไร นั่นทำให้ฉันหมุนเก้าอี้กลับมาจ้องหน้าทั้ง 5 คนนิ่งๆ ฉันไม่ได้โกรธอะไรพวกเขา แค่อยากลองเชิงอะไรสักหน่อย ว่า XVII จะว่ายังไง?“XVII You told me that find you!
before you kill them! right?!” (XVII คุณบอกให้ฉันหาคุณ! ก่อนที่คุณจะฆ่าพวกเขาใช่มั้ย?!)‘ใช่!’
เสียงหนักแน่นจากเครื่องแปลงเสียงที่ฟังไม่ออกว่าต้นเสียงเป็นผู้หญิงหรือชายตอบกลับมา ทำให้ฉันเป็นฝ่ายกระตุกยิ้มมุมปากออกไป “อื้ม ถ้างั้นก็ฆ่าเลยสิคะ ฆ่าเฮียคิระคนแรกได้เลย! หนูท้า!” ‘.......’ สิ้นสุดคำท้าทายจากฉัน XVII ก็เป็นฝ่ายถอยหนีไปเอง คืนระบบในศูนย์ควบคุมให้กลับสู่สภาพเดิม แบบคิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไป ฉันเลยลุกขึ้นตามรอยอย่างว่องไว ปรากฏพิกัดกว้างๆที่อีกฝ่ายเหลือร่องรอยเอาไว้ แต่ยังไม่ทันจะเจาะลึกว่าอยู่ห่างจากเราแค่ไหน ท่านปู่ คนของท่าน พี่เคนชิน และพี่ไคยะก็แห่กันเข้ามายกใหญ่ “ภาพเหตุการณ์ในศูนย์ควบคุมกระจายไปทั่ว Castle... มีเรื่องอะไรกัน?! XVII เป็นใคร?!”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X