ไม่กี่นาทีต่อมา...
เอ๊...อยู่ไหนน้า เมื่อเช้าก็น่าจะเอามาแล้ว หรือว่าไปลืมไว้บนรถเฮียคินอีก เอ๊ะหรือว่าไม่ได้เอามา โอ๊ยงง แล้วงานต้องส่งวันนี้ =[]=! ฉันรื้อกระเป๋าผ้าของตัวเองประมาณ 38 รอบได้ ทั้งที่เห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าลืมเอาแฟ้มเอกสารซึ่งในนั้นมีงานที่ต้องส่งวันนี้มาด้วย คงต้องให้โรสกับเฮียคินช่วยแล้วล่ะ คิดได้แบบนั้นฉันเลยทักไปหาโรสก่อน ซึ่งโรสก็ตอบกลับเร็วมากเพราะเวลานี้น่าจะตื่นเตรียมตัวมาเรียนแล้วเหมือนกันอ่ะ LISA : โรสสสส ช่วยด้วยยย ROSE : เป็นไร ว่า LISA : ลิซไม่แน่ใจว่าลืมแฟ้มไว้ที่ห้องมั้ยอ่ะ LISA : ฝากโรสเข้าไปดูในห้องให้ที LISA : เป็นแฟ้มสีม่วงลาย Polka dot นะ LISA : เอกสารข้างในมีคลิปหนีบกระดาษรูปพระอาทิตย์ ROSE : อืม แค่นี้ทักซะตกใจ -.- LISA : ง่าาา ถ้าเจอเอามาให้ที่ตึกหน่อยน้า ROSE : ไม่อยากไป LISA : งื้ออออ LISA : รบกวนหน่อยน้าาา~ LISA : ลิซยุ่งมากเลย =_= เอ๋??? พอบอกว่าไม่อยากมาโรสก็ไม่อ่านอีกเลย แถมเงียบไปเฉยๆ นี่เป็นเพราะเฮียโยที่อาบน้ำล้างอึมาเรียนคนเดียวเลย >[]<! โอ๊ะ แต่ต้องถามเฮียคินอีกคน เผื่อเอามาจากคอนโดแล้วแต่ลืมไว้บนรถ พอนึกได้ฉันก็กดโทรหาเฮีย และไม่ปล่อยให้รอสายนานเขาก็กดรับ [ตื๊ดดด.... เลิกเรียนแล้วหรอ?] โอ๊ยตายแต่ละคน สนใจความเดือดร้อนของหนูกันบ้างงงงง.... “เฮียขา เหมือนหนูจะลืมแฟ้มไว้บนรถ” [ไม่มีนะ] “ต้องมีสิ ก็เมื่อเช้า…” [ไอ้ไคยะเอารถไปล้างเมื่อกี้ ก็ไม่เห็นมันว่าไงนี่] “งั้นเฮียช่วยหาดูที่ห้องให้หน่อยได้มั้ย งานหนูต้องส่งวันนี้” [แฟ้มสี?] “ม่วงค่ะ ลาย Polka dot ในนั้นมี...” เอ่อ... จะบอกยังไงดีล่ะ ก็แบบว่า... [มี?] “เอ่อคือ...มันเป็นเอกสาร...ที่มีคลิปหนีบกระดาษรูปพระอาทิตย์ -////-” ถึงจะคุยกันผ่านมือถือ แต่ใครจะไปรู้ว่าฉันแอบซ่อนมันไว้ เจ้าคลิปหนีบกระดาษที่เวลามองทีไรก็คิดถึงเฮียคิน แล้วพอเขาได้ฟังก็ขำออกมาอย่างตอนนี้ [หึ... ดีๆ A ทุกตัวแน่เทอมนี้] “งื้อออ ยังจะมาพูดเล่นอีก -3-” ฉันพูดออกไปแบบอายๆ ก็แหม... นานๆทีจะมีโมเม้นท์สวีทกุ๊กกิ๊ก [เค เดี๋ยวเฮียดูให้] “ถ้าเจอเอามาให้หนูด้วยได้มั้ย” แล้วเฮียก็เงียบไปพักนึง ก่อนจะตอบมาแบบฟังก็รู้ว่าเขากำลังยิ้ม [....ก็ต้องงั้น ถ้าไม่ไปกลัวมีคนคิดถึงจนร้องไห้] “คุณพระอาทิตย์!” [ใช่ หมายถึงคิดถึงคลิปหนีบกระดาษรูปพระอาทิตย์ไง :)] ตริ๊ด! พูดจบเฮียก็วางไปเลย แต่แหม... อุตส่าห์จะเก็บไว้ปลื้มปริ้มคนเดียวก็ต้องบอกทั้งโรสทั้งคุณพระอาทิตย์ มันน่าเขินจริงจริ๊งหนึ่งชั่วโมงต่อมา....
ทั้งคิระและโรเซ่ที่ต่างก็มีแฟ้มเอกสารในมือเดินเข้ามาในตึก IST โรเซ่มีแฟ้ม Polkadot สีม่วงที่ข้างในไม่มีเอกสารที่ว่า แต่คิดว่าหยิบมาให้เจ้าตัวหาเองน่าจะดีกว่า ส่วนคิระมีซองเอกสารสีน้ำตาลที่มีคลิปหนีบกระดาษรูปพระอาทิตย์ตามที่ลิซ่าตามหา แต่คงเพราะลิซ่ากำลังยุ่งอยู่กับชั่วโมงเรียน ทำให้คิระโทรไปเท่าไหร่ก็ไม่รับ และทั้งโรเซ่กับคิระก็บังเอิญเจอกัน แบบที่แค่มองสิ่งของในมือก็รู้ได้ทันทีว่า.... “ลืมไว้ โทรไปไม่รับ” คิระยื่นซองเอกสารไปให้โรเซ่เพราะคิดว่าเธอเหมาะจะเดินโลดแล่นในตึก IST นี้มากกว่า เขาไม่ได้กลัว แต่ก็ไม่ได้คิดจะมาเหยียบที่ที่เตโชอยู่ เพราะกลัวว่าถ้ามันรู้เรื่องลิซ่าจะเป็นอันตรายกับน้องได้ง่ายกว่า แต่ด้วยท่าทางผิดปกติของโรเซ่ที่อยู่ๆก็ดูเหมือนกระอักกระอ่วนและพะอืดพะอมอยู่ตรงหน้า ทำให้เขาที่กำความลับว่าเธอท้อง อดใจไม่ไหวที่จะถามออกไปถึงท่าทางแปลกๆของเธอที่แสดงออกมา “เป็นไร?” “(- - ) ( - -)” คำตอบที่ได้จากโรเซ่คือเธอแค่ส่ายหน้า แล้วก็ไม่พูดอะไรเลย แต่จะไม่เป็นไรได้ไงวะ “หน้าซีดจริงจัง ไหวมะ...” พรึ่บบบ! แล้วไม่ทันที่โรเซ่จะตอบอะไร ร่างเธอก็ทรุดฮวบลงไปคาตา คิระเห็นแบบนั้นก็ช้อนตัวเธอไว้ท่ามกลางสายตาของใครต่อใครที่เดินผ่านไปผ่านมารวมถึง.... “โรส!” ร่างเล็กของใครคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์รีบตรงเข้ามา แม้ว่าแขนแกร่งจะประคองร่างโรเซ่ไว้และมองเธอด้วยท่าทางกังวลใจ แต่พอคิระเงยหน้าไปมองคนที่รีบเดินเข้ามาเขาก็นิ่งไป ก่อนจะเปลี่ยนแววตาเป็นหงุดหงิดและไม่พอใจ เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าคิระตอนนี้ ตามประวัติที่ไคยะแจ้งไว้ เธอคือผู้หญิงของพายุคนที่จะทำร้ายลิซ่า “…นิลลา” เสียงเข้มที่ดูธรรมดาแต่ก็ทำให้นิลลาชะงักไปอย่างไม่เข้าใจตัวเองเท่าไหร่ คิระจ้องลึกเข้าไปในตาเธอเหมือนจะเอาเรื่องในสิ่งที่เธอทำให้ได้ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกจะเบนความสนใจไปที่โรเซ่ เพราะเขาจำเป็นต้องเซฟเธอในตอนนี้ก่อนใครๆ “อากาศที่นี่มันไม่ถ่ายเท พาไปห้อง Nightshade เถอะ นายช่วยอุ้มโรสตามมาทีได้มั้ย” นิลลาพูดมาอย่างเป็นเดือดเป็นร้อน มันทำให้พอสังเกตได้ว่าเธอคงจะรู้ว่าโรเซ่เป็นอะไร แต่จะให้อุ้มโรเซ่ไปที่ห้อง Nightshade? นั่นก็แปลว่านิลลาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร และนอกจากจะไม่รู้จัก เธอยังจะชักศึกเข้าไปทั้งที่เป็น Nightshade’s Lady ซะด้วย “เฮ้ยนาย เร็วเข้า!” รู้อีกทีนิลลาก็เดินนำไปทั้งที่เขาปฏิเสธอะไรไม่ได้ คิระเลยกระชับอ้อมแขนที่ประคองโรเซ่เดินตามเธอไป ครืดดด! ตึงงง! “พาย โรสเป็นลมอ่ะ!” คิระอุ้มโรเซ่เดินตามนิลลาเข้ามาในห้อง Nightshade ด้วยท่าทางสบายๆ แต่เขาเดาออกตั้งแต่ก่อนเธอจะเปิดประตูซะอีก ว่าคนข้างในจะเซอร์ไพรส์ที่ได้เจอกันแค่ไหน “คิระ O_O” พรึ่บบบ และยิ่งถือว่าเป็นเกียรติซ้ำสองที่ว่าที่ Leader’s Wife อย่างโมเน่ต์ออกอาการตกใจทันทีที่เจอหน้าเขา พายุตรงเข้ามาคว้าร่างโรเซ่จากเขาไปด้วยท่าทางตกใจไม่เบา เลโอ Nightshade ดึงตัวนิลลาให้ถอยห่างจากเขา ก่อนว่าที่ผู้นำว่าอย่างมัน... ไอ้ติณณ์! จะลุกขึ้นมาอย่างฉุนเฉียว ทั้งที่เขายังไม่ทันได้ออกแรงอะไรเลยซะเปล่า “หึ...” “Know your limit. Don't cross the line! (รู้ลิมิตตัวเองหน่อย อย่าล้ำเส้น!)” คิระกระตุกยิ้มมุมปากพร้อมกันกับที่พายุตะคอกออกมาอย่างเอาเรื่อง จากการพิจารณาในระยะเวลาสั้นๆ นิลลารู้ พายุก็ต้องรู้ ว่าโรเซ่กำลังอุ้มท้องหลานของพวกมัน แต่น่าแปลกที่ทั้งโมเน่ต์และเตโชไม่ได้มีอาการเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรขนาดนั้น ราวกับไม่รู้กันเลย...นั่นทำให้คิระยิ่งนึกขำ “If I cross a line and nothing happens, the line loses meaning. (ถ้าล้ำเส้นแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น เส้นนั่นก็ไม่มีความหมาย)” คิระจงใจตอบกลับพายุและส่งสายตายียวนไปหาเตโช ที่พอจ้องไป...คนตรงหน้าก็พุ่งเข้ามาซัดหน้าเขาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ผลัวะ! ใช่! มันหวง Nightshade ยิ่งกว่าอะไร มันหวงกว่าพี่น้อง หวงกว่าพวกพ้อง ที่มันกำลังจะขึ้นเป็นผู้นำซะอีกไง! “ติณณ์ ตอนนี้มันไม่เหมาะ!” ใบหน้าคิระสะบัดตามแรงจากกำปั้นของเตโชที่ซัดหน้าเขาโดยไม่คิดตอบโต้อะไร โมเน่ต์มากระชากเตโชออกไป คิระก็ยิ่งหลุดขำในความสะเพร่าที่เตโชไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหนึ่งใน Nightshade’s Lady อย่างโรเซ่ แท้จริงแล้วรอบตัวเธอหรือแม้แต่คอนโดชั้นเดียวกับเธอ ก็ถูกรายล้อมไว้ด้วยคนของเขา “หึ กูจะคิดซะว่าเป็นค่า Touch… Nightshade's Lady and baby ก็แล้วกัน” คิระลอยหน้าลอยตาใส่เตโชด้วยความสะใจ ได้ยินแบบนี้ทุกคนในห้องแม้แต่พายุและนิลลาที่น่าจะรู้อยู่แล้วยังออกอาการตกใจ ยิ่งกว่านั้น เตโชก็ยิ่งโมโหและพุ่งเข้ามาเหมือนจะฆ่าเขาให้ได้ “มึง!!!” ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ! “ติณณ์ พอแล้วติณณ์!” ผลัวะ! ผลัวะ! พรึ่บ แกร๊ก.. ครั้งนี้คิระไม่ยอมอย่างครั้งแรก จังหวะชุลมุนที่โมเน่ต์เข้ามาคว้าแขนเตโช คิระก็สวนกลับทันทีอย่างไม่รีรอและกระชากโมเน่ต์ที่ไม่ทันตั้งตัวเข้าไป ก่อนจะคว้าปืนที่พกมาหยิบขึ้นมาจ่อหัวเธอไว้ แม้เจตนาแรกที่มา...เขาแค่ต้องการจะส่งโรเซ่ให้อยู่ในความรับผิดชอบของคนที่ดูแลเธอได้ “It’s my turn!” คิระพูดออกมาเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยความสะใจ การคว้าปืนออกมาครั้งนี้ เขาแค่ต้องการเห็นเตโชคลั่ง ไม่ได้คาดหวังจะฆ่าโมเน่ต์ให้ตาย พอเห็นแบบนั้นเตโชยิ่งโกรธจัดจะพุ่งเข้าไปอีก โมเน่ต์ก็ยกมือขึ้นห้ามเขาไว้ “หึ.. ยิงสิคิระ” เสียงสั่นๆของโมเน่ต์ท้าทายคิระที่แค่ฟังเฉยๆ และไม่ได้รู้สึกว่าโดนท้าทายหรืออะไร อย่างที่บอก เขาไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของโมเน่ต์ แต่สนใจปฏิกิริยาของเตโชที่แทบจะคลั่งตายมากกว่าไง เพราะมันต้องรู้สึกบ้าง... ต้องรับรู้ว่ามันทรมานแค่ไหน… ถ้าได้เห็นคนที่รักตายไปต่อหน้า! “ไม่กล้ารึไง ผิดกฎแค่ไม่กี่ข้อเอง” โมเน่ต์พูดออกมาอย่างเจตนาท้าทายแต่คิระก็ยังไม่ได้สนใจ จนถึงคำพูดหนึ่งที่เธอตั้งใจเตือนสติเขาผ่านเสียงเย้ยหยันนั้น ทำให้คิระฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ “Just disrespect, cross the line and spiteful (แค่ไม่เคารพ, ล้ำเส้น และมีเจตนาร้าย)” กฎไม่กี่ข้อที่โมเน่ต์พยายามพูดมาทำให้คิระที่ได้ฟังนึกขำในใจ โมเน่ต์คงได้อ่าน Commandment แล้ว และคง Remark เน้นๆตรงความผิด 3 ครั้งที่เมมเบอร์สามารถทำได้ ซึ่งความผิด 3 ข้อที่เธอยกมาหมายจะเอาเรื่องเขา เธอก็ไม่ได้พูดผิดอะไร “หึ เธอนี่มัน...” แต่ถึงจะเป็นจริงตามนั้น คิระก็ยังนึกขำ พลางคิดว่าในฐานะว่าที่ Leader’s Wife สิ่งที่เธอประมาทที่สุด คือเธอซื่อตรงกับกฎที่พลิกผันและมีช่องโหว่ตลอดเวลาของ Dark Shadow มากเกินไป เพราะเขา...ไม่ได้แสดงท่าทีไม่เคารพเตโชตรงไหน ถึงยอมยืนนิ่งๆให้ว่าที่ผู้นำซัดหน้าได้ตามใจ และที่เขาตอบโต้เพราะตามหลักวินิจฉัยของสภากฎ หากไม่มีความผิดอะไรและเป็นผู้ถูกกระทำก่อน แม้จะเป็นท่านผู้นำ หรือแค่ว่าที่ผู้นำ เมมเบอร์ก็มีสิทธิ์ตอบโต้ได้ ไม่ถือเป็นการล้ำเส้นแต่อย่างใด... ที่สำคัญ...การช่วยเหลือคนท้องที่หมดสติด้วยการมาส่งให้ถึงมือคนที่จะดูแลเธอได้ หากว่ากันตามจริงแบบไม่เข้าข้าง เขาก็ไม่ได้มาด้วยเจตนาร้ายต่อว่าที่ผู้นำ เพราะงั้นระหว่างคนที่ท่องกฎจากตำราและคิดว่าจำแม่นแล้วอย่างเธอ กับคนที่คลุกคลีกับสภากฎตั้งแต่พ่อแม่ตัวเองตายอย่างเขา ทำไมถึงได้มั่นใจ...ว่าจะหยุดเขาได้ด้วยกฎเบสิคง่ายๆ พอนึกขำจนพอใจ คิระก็ลดปืนลงอย่างไม่คิดอะไร โมเน่ต์เลยอาศัยจังหวะนี้แย่งปืนในมือเขาไปถือไว้แล้วจ่อปากกระบอกปืนกลับไปหาเขาซะเอง พรึ่บบบ แกร๊ก! “Remember, I'm your leader’s wife! ทีหลังถ้าไม่ใจ..ก็อย่ามาระรานใครแบบนี้!” น้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ ทำให้คิระที่ก็ต้องยอมรับว่าเธอไม่กลัวตายมากกว่าที่คิดไว้จ้องมองไปนิ่งๆอย่างไม่รู้สึกอะไร ยัยนี่...จับปืนแย่กว่าลิซซะอีก ขนาดน้องกลัวจนยิงขึ้นฟ้าเล่นเอานกทั้งฝูงลงมาตาย “ระราน?” คิระเลิกคิ้วแล้วทวนคำพูดโมเน่ต์ออกไป ก่อนจะหันไปมองร่างไม่ได้สติของโรเซ่ที่พายุอุ้มอยู่ แล้วเขาก็ยกมือสองข้างขึ้นช้าๆ เหมือนจำยอมให้เธอตายใจ “หึ.. ไม่รู้อะไรไม่พูดดีมั้...” พรึ่บ! พรึ่บ! พลั่กกก! คิระยังพูดไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ เหตุการณ์ตรงหน้าทุกคนก็เกิดขึ้นเร็วมากจนมองแทบไม่ทัน เพราะคิระกำลังจะคว้าปืนจากมือโมเน่ต์ แต่เขาไม่ได้คิดจะทำร้ายเธอ แค่ตั้งใจจะทำให้ตกใจก็เท่านั้น แต่ในจังหวะเดียวกัน เตโชที่คิดไปไกลก็พุ่งเข้ามาปัดมือเขาแล้วคว้าปืนนั่นไป ก่อนจะเอาตัวเองมาขวางผู้หญิงของมันไว้ และจ่อปากกระบอกปืนมาที่เขา พร้อมกับคำพูดมั่นใจไม่ต่างกันเท่าไหร่ “ไสหัวไป! มึงรู้กูไม่ให้โอกาสใครซ้ำซ้อน” หึ...โอกาส? ครอบครัวมึงก็ให้โอกาสกูต้องอยู่คนเดียวมาเป็นสิบปีแล้วไง! “กูก็ไม่ได้อยากได้!” หวืดดด พรึ่บ พรึ่บ! พอเตโชตะคอกมา คิระก็ตะคอกสวนกลับไปแล้วแสยะยิ้มอย่างไม่แยแสอะไร ก่อนที่เตโชจะออกแรงเหวี่ยงด้ามปืนหวังจะใช้มันตบหน้าเขา แต่คิระก็เบี่ยงตัวหลบทัน แล้วกระชากคอเสื้อเตโชเข้าไปซึ่งเตโชก็สะบัดออกทันทีเหมือนกัน แล้วปากกระบอกปืนในมือเตโชก็ถูกขึ้นไปจ่อหัวคิระอีกครั้ง “ปากดีให้ถึงวันรับตำแหน่ง” ความโกรธจัดของเตโชทำให้เขาพูดออกมาจนคนที่ได้ฟังถึงกับกำมือแน่นพอคิดว่าตัวเองโดนแย่งตำแหน่งว่าที่ผู้นำไปอย่างหน้าด้านๆแบบนั้น คิระเลยสวนกลับไปอย่างเริ่มจริงจัง ทั้งที่เขามาที่นี่ แค่เพราะเป็นห่วงโรเซ่ ไม่ได้เกี่ยวกับตำแหน่งที่ต้องเคลียร์กันนอกรอบด้วยซ้ำ “แน่ใจว่าจะได้รับ?” “หึ.. ก็พอกับที่แน่ใจ..ว่ามึงจะไม่ได้มันไป!” ยิ่งเตโชตะคอกกลับมา คิระยิ่งโกรธจนมือสั่น เขากัดฟันแน่นก่อนจะแสยะยิ้ม แล้วปรายตามองโรเซ่อีกครั้ง เพราะยังไงความจริงที่ยัยนั่นอยู่ในความคุ้มครองของเขาทุกฝีก้าว ก็เป็นเรื่องที่เตโชควบคุมอะไรไม่ได้ “ยิงกูลง? นี่กูเซฟ Nightshade's Lady เชียว” “ไม่มี Dark Shadow คนไหนให้ผู้หญิงคุ้มกะลาหัว” “ไอ้ติณณ์!” คำพูดยียวนจากคิระ กับคำพูดดูถูกชัดเจนจากเตโชถูกพ่นใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ยิ่งเห็นว่าคนตรงหน้าวางตัวเหนือกว่ามากเท่าไหร่ คิระก็ยิ่งยอมรับไม่ได้ เพราะทั้งหมดที่มันมี ชีวิตที่ไม่เคยต้องมาทนทุกข์แบบเขา ไอ้ติณณ์มันได้ทุกอย่างไปง่ายๆ! คิดได้แบบนั้นคิระก็พุ่งเข้าหาไปหาเตโช เช่นเดียวกับเตโชที่หมดความอดทนเลยลั่นไกใส่เขาจนก้าวเดินนั้นถึงกับต้องชะงักไป ปังงงง! เพล้งงง! ความรู้สึกเจ็บจี๊ดที่แขนทำให้คิระเงยหน้าไปจ้องเตโชด้วยแววตาดุดันราวกับจะฆ่ามันให้ตายคามือในเสี้ยววินาทีด้วยซ้ำ คิระคิดว่าในฐานะเมมเบอร์กับว่าที่ผู้นำ หากนี่คือความผิดที่เขาก่อขึ้นมาก่อน มันยังถือเป็นการลงโทษที่ยอมรับได้ แต่หากเป็นการกระทำที่เตโชแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับสถานการณ์เป็นจริงไม่ได้เอง.... “มาทางไหนไสหัวกลับไปทางนั้น!!!” เสียงตวาดจากเตโชถูกส่งออกมาดังลั่น คิระพิจารณาท่าทางที่คงความนิ่งเงียบนั้นไม่ได้อีกแล้วของมัน บวกกับชัดเจนในการตัดสินใจของตัวเองที่ปล่อยให้เรื่องตำแหน่งว่าที่ผู้นำนี้มันคาราคาซัง “หึ...” เสียงหัวเราะในลำคออย่างท้าทายเตโชชัดเจนถูกส่งออกไปอีกครั้ง ก่อนที่คิระจะตัดสินใจเดินออกจากห้อง Nightshade แต่ไม่ใช่เพราะกลัว เขา...แค่มีบางอย่างที่ตัดสินใจแล้วว่าจะทำมัน! คิระเดินกลับมาที่รถท่ามกลางความตกใจของคนในตึกที่ล้วนได้ยินเสียงปืนที่ดังสนั่น ทันทีที่ทิ้งตัวนั่งบนเบาะรถ แม้คนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของตึกจะเป็นเฟรย่ากับเคนชินที่น่าจะเห็นเขาก็ตาม แต่คิระก็ไม่ลังเลที่จะกดโทรหาปลายสายอย่างมาโคร และบอกความต้องการทั้งหมดเดี๋ยวนั้น [ตื๊ดดดด....ไงมึง] “เอาทุกคนออกจากเกาะ! แล้วชิงตัว Nightshade's Lady!”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X