LOGINวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปริ้นเซสหายดีและเริ่มสำรวจอาณาเขตเพนเฮ้าส์อย่างร่าเริง โดยมีธีร์คอยตามติดราวกับบอดี้การ์ดส่วนตัวของเจ้าหญิง ปัญหาใหญ่กำลังเกิดขึ้นในบริษัท...
ธีร์ไม่ยอมไปทำงานบ่อยมาก เขามักจะใช้ข้ออ้างว่าต้องดูแลสุขภาพของปริ้นเซสที่ยังเป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน หรือไม่ก็อ้างว่าต้องประชุมออนไลน์เพื่อจะได้อยู่ใกล้ ๆ เจ้าหญิงตัวเล็กให้มากที่สุด
ในเช้าวันหนึ่ง ขณะที่ปลายฟ้ากำลังนั่งทำงานอยู่บนโซฟาพร้อมกับมีฟินิกซ์นอนตักอยู่ จู่ๆ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น เมื่อเปิดออกเธอก็พบกับ เอก ผู้ช่วยอีกคนของธีร์ที่ใบหน้าแสดงออกถึงความเหนื่อยล้าอย่างชัดเจน
เอกเป็นผู้ชายรูปร่างผอมสูง มีแววตาที่ฉลาดเฉลียว และมักจะทำงานภายใต้ความกดดันได้อย่างดี แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเขาจะถึงขีดจำกัดแล้ว
“คุณปลายฟ้าครับ ผมขอร้องคุณเลยนะครับ” เอกกล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนอย่างสุภาพ เขาพยายามมองข้ามปริ้นเซสที่กำลังเล่นกับพู่เชือกที่ห้อยลงมาจากกระเป๋าเอกสารของเขา
“มีอะไรเหรอคะคุณเอก ดูคุณเหนื่อยๆ” ปลายฟ้าถามอย่างกังวล
“คือ คุณธีร์ครับ” เอกถอนหายใจยาว
“ไม่ยอมเข้าบริษัทเลยครับ สามวันแล้วนะครับที่ท่านนั่งทำวิดีโอสตอรี่ของเจ้าปริ้นเซสแทนที่จะมาประชุมบอร์ด ท่านเลื่อนนัดสำคัญไปทั้งหมด” ปลายฟ้ายิ้มแห้ง ๆ
“ฟ้าก็พยายามคะยั้นคะยอแล้วนะคะ แต่ธีร์เขา...”
“ผมรู้ครับ ว่าเจ้าหญิงน้อยน่ารักขนาดไหน” เอกรีบพูดแทรกอย่างรวดเร็ว
“แต่ถ้าปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไป ธุรกิจพังแน่ครับ! พวกผู้ถือหุ้นรายใหญ่เริ่มถามหาท่านแล้ว” เอกลดเสียงลงเพื่อขอร้องเธอโดยเฉพาะ
“คุณปลายฟ้าครับ ผมขอร้องนะครับ ช่วยพาธีร์กลับไปทำงานเหมือนเดิมทีเถอะครับ คุณคือคนเดียวที่เขาฟังจริงๆ ตอนนี้ ถ้าเป็นเรื่องของเจ้าปริ้นเซส ท่านจะเชื่อคุณ”
ปลายฟ้ามองหน้าเอกอย่างเห็นใจ เธอเข้าใจถึงความรับผิดชอบของธีร์ และความน่าเห็นใจของเอกที่เป็นผู้ช่วยที่ต้องแบกรับภาระทั้งหมดไว้คนเดียว
“ได้ค่ะคุณเอก” ปลายฟ้าตอบอย่างหนักแน่น
“ฟ้าจะคุยกับธีร์ให้เร็วที่สุดค่ะ”
ทันทีที่เอกกลับไปพร้อมกับคำร้องขอที่หนักอึ้ง ปลายฟ้าก็เริ่มปฏิบัติการตามหา ธีร์ เธอตามเสียงหัวเราะเบา ๆ และเสียงกระดิ่งของของเล่นแมว จนพบเขาที่ ซอกข้างเตียง ในห้องนอน
ธีร์อยู่ในท่านั่งที่ดูสบายเกินกว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง เขาใส่เพียงกางเกงวอร์ม และกำลัง เอาไม้ตกแมวเล่นกับเจ้าปริ้นเซสอยู่ อย่าง
“ธีร์คะ!” ปลายฟ้าเรียกเสียงหนักแน่น แต่ทันทีที่เธอเรียกชื่อ เจ้าปริ้นเซสก็วิ่งมาหาเธอทันที พุ่งขึ้นมานั่งบนตักของปลายฟ้าอย่างออดอ้อน นี่คือหนึ่งในสิ่งที่ช่วงนี้ทำให้ธีร์งอนเธอ เพราะเจ้าปริ้นเซส ติดเธอมาก ๆ และชอบเมินธีร์ ทำให้ความพยายามของทาสแมวคนใหม่ต้องประสบความล้มเหลวอยู่บ่อยครั้ง
“เห็นไหมล่ะ” ธีร์ทำหน้างอแงใส่ปลายฟ้า “ขนาดฟ้าเรียกแค่ชื่อ เจ้าตัวเล็กก็ทิ้งผมไปหาคุณแล้วเนี่ย”
ปลายฟ้าไม่ได้เล่นด้วย เธอถอนหายใจและเริ่มเข้าสู่เรื่องจริงจัง
“ฟ้าไม่ได้มาเล่นกับแมวนะคะ ฟ้ามาบ่น” เธอพูดเสียงจริงจังขึ้น “ถ้าธีร์ยังทำแบบนี้พวกผู้บริหารจะทนไม่ไหวแล้วนะคะ คุณเอกเขามาขอร้องฟ้าถึงที่นี่เลยนะ” ช่วงนี้คุณตามงคลก็พยายามให้ธีร์ไปทำงานที่บริษัท บ่อยขึ้นด้วย ท่านวางมือแล้ว ธีร์เลยรับงานหนักขึ้น งานถ่ายแบบก็ลดลง
“เดี๋ยวคุณตาก็มาตามเองถึงที่นี้จะทำยังไงคะ”
ธีร์หยุดเล่นทันที เมื่อได้ยินชื่อตาและเรื่องงานที่สำคัญกว่าแมว เขาทำหน้างอแงอย่างเปิดเผย
ธีร์ไม่อยากจะไป แต่เพราะรู้ว่าปลายฟ้าพูดจริงจัง และคำพูดของตามงคลมีความหมายกับเขามาก เขาก็ยอมไป เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วโทรออกไปหาผู้ช่วยทันที
“เอก มารับผม เดี๋ยวนี้เลย” หลังจากวางสาย ธีร์ลุกขึ้นยืนตรงหน้ากระจก มองหุ่นตัวเองแวบหนึ่งแล้วตัดสินใจถอดกางเกงวอร์มออก ธีร์ถอดเสื้อโชว์หุ่นสวย แล้วเดินตัวเปล่า เข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว
ปลายฟ้าที่มองตามหลังเขาไป รู้สึกถึงความขัดแย้งในใจ เธอคิดว่าช่วงนี้เป็นเพราะอยู่ด้วยกันนานขึ้นรึเปล่า ธีร์เลยปล่อยตัวมากเกินไป เขาสบายใจที่จะอยู่ต่อหน้าเธอในสภาพนี้เสมอ หรือเขาไม่ได้เห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงนะ ความคิดนี้ทำให้หัวใจของเธอหนักอึ้ง
ปลายฟ้าขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะที่ นั่งจัดการตารางงาน ของธีร์บนแล็ปท็อป งานของเขาวุ่นวายอย่างไม่น่าเชื่อ และเธอกำลังพยายามแทรกเวลาว่างให้เขาได้พักผ่อนบ้าง
ปัง!
เสียงประตูห้องชุดดังขึ้นอย่างแรงตามมาด้วยเสียงทุ้มที่ดังและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“เจ้าหญิงน้อยของพ่อ! พ่อกลับมาแล้วครับ! เจ้าหญิงน้อยน่ารักที่สุด!” เสียงธีร์เล่นกับ ปริ้นเซส ลอยมาแต่ไกลปลายฟ้าได้แต่ ส่ายหน้าให้กับพฤติกรรมของทาสแมวที่เพิ่งกลับจากห้องประชุม เธอมองไปที่ ฟินิกซ์ ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงอย่างมีมาด แต่ดวงตานั้นฉายแววน้อยใจชัดเจน
ปลายฟ้าเดินเข้าไปลูบหัวปลอบใจเจ้าแมวเบงกอล
“ไม่เป็นไรนะฟินิกซ์” เธอปลอบเจ้าฟินิกซ์ไม่ให้น้อยใจธีร์
เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่น ธีร์กำลังอุ้มปริ้นเซสมาถูไถแก้มอย่างไม่สนใจโลก ส่วนเจ้าฟินิกซ์เดินหางฟาดพื้นเข้าห้องนอนไปแล้วอย่างเงียบ ๆ ปลายฟ้าสูดหายใจลึก แล้วเดินเข้าไปหาธีร์
“คุณธีร์คะ”
“ครับ?” ธีร์ตอบเสียงอู้อี้ขณะจูบหัวเจ้าหญิงน้อยของเขา ปลายฟ้าเดินไปบอกกับธีร์ว่า อีกสองวัน จะเป็นวันเกิดของคุณเทวา พ่อบังเกิดเกล้าของธีร์
“คุณธีร์ต้องไปร่วมงานนะคะ” ธีร์ฟังเงียบ ๆ แต่ไม่ตอบรับอะไร สีหน้าของเขาไม่ได้มีความสุขนักเมื่อได้ยินชื่อพ่อ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
เขาจำได้... ธีร์เข้าจำได้ งานเลี้ยงวันเกิดที่เหมือนการรวมตัวของชนชั้นสูงของกรุงเทพฯ เพราะเขาเพิ่งโดนพ่อโทรมาบ่นในตอนเย็น ตอนที่เขาอยู่ที่บริษัท เทวา พ่อของเขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเผด็จการว่า:
“แกต้องมา! อย่าทำให้ ฉัน ขายหน้า”
ธีร์กดจูบลงบนหัวปริ้นเซสอีกครั้งเพื่อระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เขาไม่ตอบรับ ปลายฟ้า เพราะเขารู้ดีว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นอยู่แล้ว
“คุณธีร์” ปลายฟ้าเรียกเขาเบา ๆ เมื่อเห็นความเงียบที่น่าอึดอัดนี้
“รู้แล้วครับ” ธีร์ตอบเสียงเรียบ “เดี๋ยวผมจะโทรบอกเอกให้จัดเตรียมชุดให้ฟ้า”
“คุณธีร์ ฟ้าขอไม่ไปด้วยได้ไหมคะ” ปลายฟ้าเอ่ยปากขอร้องอย่างลังเล “คุณธีร์ไปคนเดียวดีกว่านะคะ ฟ้าจะอยู่ดูแลฟินิกซ์กับปริ้นเซสที่บ้าน”
ธีร์ที่กำลังเลือกไทจากตู้เสื้อผ้าหรูหราหันมายิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นไม่ได้สื่อถึงความสุขจริง ๆ
“ไม่ได้ครับ” เขาตอบเสียงหนักแน่น “ไปเถอะครับ ได้เห็นอะไรสวยๆ งามๆ แบบฟ้า พ่อผมน่าจะอารมณ์ดีขึ้นบ้าง” เขาเดินเข้ามาใกล้เธอ
“แค่ไปงานของพ่อเขา ผมคงจะ หงุดหงิดมาก ถ้าไม่มีคุณอยู่ข้าง ๆ นะครับ” ปลายฟ้า ถอนหายใจ เธอรู้ว่าตัวเองไม่มีทางปฏิเสธได้อีกแล้ว ความหงุดหงิดที่แท้จริงของธีร์กำลังถูกปกปิดไว้ด้วยคำพูดน่ารักๆ แทน
ในที่สุด ปลายฟ้าก็ยอมจำนน วันนี้ ธีร์จัดเต็มเธอมาก เขาไม่เพียงแต่ จ้างช่างแต่งหน้า ระดับมืออาชีพมาถึงเพนเฮ้าส์ แต่ยัง ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ให้เธอทั้งชุด ร่างบางใส่ชุดเกาะอกสีครีม ที่เนื้อผ้าทิ้งตัวสวยงาม ชุดเกาะอกนั้นขับให้ อกสวยถูกดันส่งให้น่ามอง อย่างที่เธอไม่เคยกล้าแต่งมาก่อน ตัวชุดเข้ารูปทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอ ผมสีน้ำตาลแดงที่มักจะมัดเป็นมวย อย่างเรียบร้อย วันนี้ถูกปล่อยให้ สยายยาวไปถึงบั้นเอว ดูสวยงามและเป็นประกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ปลายฟ้ามองตัวเองในกระจก เธอสวยงามจนเกือบจำตัวเองไม่ได้ เธอได้แต่ถอนหายใจ ในใจพลางคิดว่าความงามนี้เป็นเพียงเครื่องมือลดความหงุดหงิดของธีร์เท่านั้น
เมื่อทุกอย่างพร้อม รถ ก็แล่นมา เทียบถึงโรงแรมหรูที่จัดงาน งานเลี้ยงวันเกิดที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับและผู้คนในชุดราตรีหรูหรา ปลายฟ้าไม่อยากไป เธอเกาะแขนธีร์แน่นด้วยความประหม่า
“ไปกันเถอะครับ” ธีร์กระซิบข้างหูเธอ รอยยิ้มกลับมาประดับใบหน้าอีกครั้ง แต่ดวงตาของเขายังคงนิ่ง “วันนี้ฟ้าสวยมากเลย จนผมหายใจสะดุดเลย” เขาพูดติดเล่น เพื่อปลอบใจตัวเองและเธอ
ปลายฟ้า ได้แต่ส่ายหน้าให้กับคนที่กำลัง พยายามร่าเริงอย่างหนักเธอรู้เพราะ ตั้งแต่เช้าธีร์เงียบมากเกินไป ไม่พูดถึงแมว ไม่บ่นเรื่องงานและนัยน์ตาของเขาวันนี้กลับนิ่งไม่มีประกาย
พวกเขาเดินเข้าไปในงานเลี้ยง โดยมีปลายฟ้าที่สวยงามดุจเจ้าหญิง แต่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความกังวล และธีร์ที่ดูดีไร้ที่ติแต่เขาแบกรับความหงุดหงิดกับพ่อไว้เต็มอก
ทันทีที่ธีร์จูงปลายฟ้าเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับและกลิ่นน้ำหอมราคาแพง นักข่าว ที่ยืนรออยู่ก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างรวดเร็ว เสียงชัตเตอร์ดังรัวราวกับพายุ
ปลายฟ้าพยายามจะผลักตัวเองออกจากตัวธีร์ เพราะเธอไม่ต้องการเป็นจุดสนใจ แต่ ธีร์จับแขนเธอไว้แน่น ราวกับต้องการประกาศว่าเธอคือของเขา เขาพาเธอเดินผ่านกลุ่มนักข่าว ไปอย่างไม่แยแส ตรงไปยังจุดศูนย์กลางของงาน
ที่นั่นคือที่ตั้งของ คุณเทวา เจ้าของงานผู้ทรงอิทธิพล ชายสูงวัย ที่มาพร้อมกับมาดของ ตำรวจยศใหญ่ ที่มีคน นับหน้าถือตามากมาย
“สวัสดีค่ะคุณเทวา” ปลายฟ้าก้มศีรษะ ยกมือไหว้ ชายชราด้วยความเคารพ ด้านข้างของคุณเทวาคือ ภรรยา หรือ แม่เลี้ยงของธีร์ ที่สง่างามใน ชุดราตรีสีน้ำเงินเข้ม ที่ส่งให้เธอดูสวยและสูงศักดิ์
แต่คนที่ทำให้ปลายฟ้าชะงัก คือบุคคลถัดมาคุณรินลดา ใบหน้าสวยของเธอ ยิ้มหวานให้กับธีร์ อย่างเป็นธรรมชาติ แต่รอยยิ้มนั้น ชะงักเล็กน้อย ทันทีที่เธอเหลือบเห็นปลายฟ้าที่ยืนอยู่ข้างกายธีร์ รินลดาสวม ชุดราตรีสีแดงกำมะหยี่ ที่เน้นทรวดทรงอย่างเย้ายวนและน่ามอง
รินลดาสลัดความประหลาดใจออกไปอย่างรวดเร็ว เธอเดินเข้ามาเกาะแขนธีร์อีกข้าง อย่างเป็นเจ้าของ โดยที่ไม่มองปลายฟ้าเลย
ปลายฟ้าขยับออกห่างจากธีร์เล็กน้อย ทันทีที่เข้ามาเจอครอบครัวของชายหนุ่มนี้ ความสัมพันธ์ของเธอกับธีร์มันไม่ควรถูกแสดงออกในที่สาธารณะเช่นนี้
คุณเทวา ยิ้มต้อนรับธีร์ เขายื่นมือออกไป ตบแขนธีร์ทักทายเล็กน้อย แต่ดวงตาที่มองปลายฟ้ากลับเต็มไปด้วยการพิจารณา
“พามาด้วยหรอ” เทวาเอ่ยเสียงเย็น ก่อนจะหันมามองปลายฟ้าตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
“ถึงว่าธีร์เลือกเธอมาเป็นเลขา” คำพูดนั้นทำให้ปลายฟ้าชาวาบไปทั้งตัว มันเป็นการมองข้ามสถานะของเธออย่างจงใจ และเป็นการลดคุณค่าเธอให้เป็นเพียงพนักงานคนหนึ่ง
เมื่อถูกลดสถานะอย่างจงใจ ปลายฟ้าก็ไม่อาจทนอยู่ในวงสนทนานั้นได้อีกต่อไป ปลายฟ้าเอ่ยขอตัวกับธีร์ อย่างสุภาพ แล้วรีบเดินไป ยืนหลบมุม ใกล้เสาต้นใหญ่ที่อยู่ห่างจากจุดรวมตัวของครอบครัวธีร์
เธอไม่ชอบสายตาของเทวาที่มองเหยียดเธอ สายตานั้นไม่ใช่แค่การดูถูก แต่คือการตอกย้ำถึงความจริงที่เธอพยายามหนีมาตลอด เธอรู้ว่าเธอกับพวกเขาอยู่กันคนละชนชั้น และความสัมพันธ์ของเธอกับธีร์นั้นไม่มีวันได้รับการยอมรับ
ในใจของปลายฟ้าเหมือนมีเข็มทิ่ม เจ็บปวดกับสถานะที่ไร้ตัวตนของตัวเอง แต่อีกความคิดหนึ่งคือบอกตัวเองว่า อย่าไปสนใจเลย เพราะท้ายที่สุดแล้ว ธีร์เป็นแค่เจ้านายของเธอ การที่เขาปฏิบัติกับเธอในเพนเฮ้าส์อย่างไร ก็เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ในโลกแห่งความจริง เธอคือหญิงสาวธรรมดาที่ไม่มีสิทธิ์ยืนเคียงข้างเขา
ในขณะนั้นเอง เทวาก็กำลังขึ้นไปบนเวที เสียงดนตรีเบาลง เขาพูดขอบคุณแขกในงาน ด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจและมาดผู้ดี จากนั้นผู้คนในงานก็พร้อมใจกัน ร้องเพลงสุขสันต์วันเกิด
หลังเสียงเพลงจบลง เทวาก็กำลังรับเค้กจากพนักงาน พร้อมกับถ่ายรูปหมู่ ธีร์ถูกดึงให้ไปยืนอยู่ข้าง ๆ พ่อ แต่ ใบหน้าหล่อของเขาปราศจากรอยยิ้ม มีเพียงความนิ่งเฉยที่ขัดแย้งกับบรรยากาศเฉลิมฉลองอย่างสิ้นเชิง
ผิดกับ รินลดา ที่ยืนอยู่ข้างธีร์อีกด้าน เธอยิ้มแย้ม สดใสและสง่างามสมกับเป็นเจ้าของงานร่วม
เทวายกไมโครโฟนขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากกล่าวขอบคุณเสร็จสิ้น เขาจงใจหันไปจับมือรินลดาไว้แน่น แล้วประกาศต่อหน้าแขกเหรื่อทุกคน:
“และนี่คือ รินลดา คู่หมั้นของธีร์ ลูกชายของผม! พวกเขาจะหมั้นกันอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้!”
เสียงปรบมือดังขึ้นกึกก้อง รินลดายิ้มหวานและโอบแขนธีร์แน่น ปลายฟ้ามองดูคนที่ดูไกลจากเธอ ทั้งธีร์ในชุดทักซิโด้ที่ยืนนิ่งข้างคู่หมั้นที่สมบูรณ์แบบของเขา ความรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกผลักให้ออกห่างจากโลกของธีร์นั้นชัดเจนและบาดลึกยิ่งกว่าคำพูดดูถูกใด ๆ
ปลายฟ้ายืนอยู่มุมห้องจัดงาน พยายามทำให้ตัวเองกลืนหายไปกับเงามืดของเสาใหญ่ เธอจ้องมองแสงไฟที่กระทบแก้วไวน์ของแขกคนอื่น ๆ และ พยายามไม่สนใจสายตาคนอื่นที่มองมา ซึ่งส่วนใหญ่มองด้วยความอยากรู้ว่าเธอเป็นใครกันแน่
ความรู้สึกอยากหนีจากบรรยากาศที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและคำประกาศสถานะที่ไม่ใช่ของเธอเริ่มท่วมท้น เธอรู้สึกอยากออกไปจากตรงนี้ อยากกลับไปที่เพนเฮ้าส์ที่มีเพียงเสียง purr ของปริ้นเซสและฟินิกซ์
แต่แล้ว แก้วแชมเปญที่มีฟองละเอียดผุดขึ้นก็ถูกยื่นมาตรงหน้าเธอ ปลายฟ้าเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ เธอกำลังจะปฏิเสธ เครื่องดื่มที่ไม่ได้ต้องการนี้
แต่แล้วเสียงทุ้มนุ่มก็พูดขึ้นมา ทำให้เธอต้องหยุดการปฏิเสธไว้กลางคัน
“เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณปลายฟ้า”
ปลายฟ้ามองตามแก้วแชมเปญขึ้นไป ก็พบว่านั้นคือ มีน สัตวแพทย์หนุ่ม ที่เพิ่งตรวจอาการเจ้าปริ้นเซสให้เธอไปใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูโดดเด่นไม่แพ้ใครในชุดสูทสีดำดูดี ปลายฟ้ายิ้มให้เขา มีนก็เป็นคนในแวดวงชนชั้นสูงเหมือนกัน แต่เขามีบุคลิกที่อ่อนโยนและติดดินกว่าคนอื่นๆ ในงานนี้อย่างเห็นได้ชัด
รอยยิ้มแรกที่จริงใจที่สุดตั้งแต่เธอเดินเข้ามาในงานนี้ การปรากฏตัวของมีนทำให้เธอรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด ราวกับมีคนจากโลกปกติของเธอก้าวเข้ามาในโลกสมมตินี้
ใจของ มีน เต้นระรัว เขารู้สึกประหม่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นปลายฟ้าในชุดราตรีที่สวยสะกดตา เขาพูดอย่างขัดเขิน และไม่สามารถซ่อนความชื่นชมไว้ได้เลย
“วันนี้คุณปลายฟ้าสวยมากเลยนะครับ สวยจนผมจำแทบไม่ได้เลย”
คำชมของมีนนั้นจริงใจและบริสุทธิ์ใจ ต่างจากคำพูดติดเล่นของธีร์เมื่อตอนต้นงาน นั่นทำให้รอยยิ้มของปลายฟ้ากว้างขึ้นเล็กน้อย
ธีร์ยืนอยู่ ข้างคุณเทวาผู้เป็นพ่อ เขาต้อง ยิ้ม รับคำแสดงความยินดีจากแขกคนสำคัญมากมายในงาน โดยมี รินลดาที่ควงแขนเขาเอาไว้ อีกข้างอย่างเป็นเจ้าของ
ใบหน้าของธีร์ยังคงเป็นหน้ากากแห่งความเป็นมืออาชีพ แต่ภายใน เขาหงุดหงิดไม่ไหว กับการแสดงบทบาทเป็นลูกชายที่น่าภาคภูมิใจและคู่หมั้นที่สมบูรณ์แบบนี้ เขาต้องการพื้นที่ ต้องการปลดปล่อยความอึดอัดที่สั่งสมมาตั้งแต่เช้า
เขาสาดสายตามองหาร่างบางในชุดราตรีเกาะอกสีครีม ที่เขาลงทุนจ้างช่างมาจัดการให้ เขาเห็นเธอเดินแยกตัวออกไปหลังจากคำพูดเหยียดหยามของพ่อ เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ปลายฟ้าไปอยู่ตรงไหน
ตาคมของธีร์กวาดมองไปทั่วห้องจัดเลี้ยงที่วุ่นวาย ก่อนที่สายตาของเขาจะหยุดนิ่ง เขาเห็นร่างบางที่เขาตามหา อยู่ตรงมุมห้องใกล้เสาต้นใหญ่
ปลายฟ้าไม่ได้อยู่คนเดียว เธอ กำลังยิ้มหัวเราะ กับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ใส่ สูทดำ ดูดีมีภูมิฐาน ทั้งสองคนดูผ่อนคลายและมีความสุขกับบทสนทนา ดูสนิทสนมกัน จนเขาแปลกใจ
สีหน้าของธีร์แปรเปลี่ยนเป็นความมึนงงและไม่พอใจ เพราะที่เขารู้มาปลายฟ้าไม่มีเพื่อนผู้ชายที่ไหนเลย ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? มาจากไหน? และทำไมถึงกล้ามาอยู่ใกล้ปลายฟ้าของเขาขนาดนั้น?
“ธีร์คะ?” รินลดาเอ่ยเรียกเบา ๆ เมื่อเห็นว่าธีร์กำลังจ้องมองอะไรบางอย่างด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป
ธีร์สะบัดความสนใจกลับมาที่คู่หมั้นอย่างรวดเร็ว แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่มุมห้อง เขารู้สึกถึงแรงผลักดันแปลก ๆ ที่ต้องการจะเดินเข้าไปหาปลายฟ้า และดึงเธอออกมาจากวงโคจรของผู้ชายคนนั้นทันที
ความหงุดหงิดที่เขามีต่อพ่อและงานเลี้ยงทั้งหมด ถูกเปลี่ยนถ่ายไปเป็นความหึงหวงที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธีร์รอไม่ไหวแล้ว เขาทำเพียงยิ้มให้รินลดาและผู้ที่มาคุยธุรกิจด้วย ก่อนจะหาจังหวะผละตัวออกมาจากวงสนทนาอย่างรวดเร็ว แล้วเดินตรงไปยังมุมที่ปลายฟ้าและชายหนุ่มคนนั้นกำลังยืนคุยกันอยู่
“อ้าว! มาแล้วเหรอปลายฟ้า!” นวลจันทร์ส่งเสียงทักอย่างดีใจ แต่สำหรับปลายฟ้าแล้วภาพตรงหน้าคือภาพฝันร้ายที่กลับมาเยือนโอมยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ เขาไม่ได้ดูสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย แต่กลับดูดีใจที่ได้เจอเธอปลายฟ้าเดินเข้าไปนั่งลงตรงข้ามพวกเขาด้วยสีหน้าเย็นชา“ทำไมไม่รับสายไม่ตอบข้อความพี่เขาเลย!” นวลจันทร์เริ่มต้นตำหนิเธออย่างรวดเร็ว โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไร“จนโอมเขาต้องไปหาแม่ที่บ้าน! ทำอะไรหัดโตได้แล้วนะปลายฟ้า!”คำพูดตำหนิของแม่ราวกับมีคนมาบีบคั้นสมองของปลายฟ้าให้แน่น เธอเริ่มรู้สึกหูอื้อ ภาพตรงหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย ความรู้สึกหวาดกลัวและคลื่นไส้ปั่นป่วนอยู่ในท้อง“พี่เขามาหาแกด้วยความหวังดี เขารักแกจะตาย” นวลจันทร์พูดต่อโดยไม่สนใจสีหน้าของลูกสาว“ปลายฟ้า พี่อุตส่าห์มาหาถึงที่นี่นะ” โอมเสริมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนจนน่าขยะแขยง“รู้ไหมว่าพี่คิดถึงปลายฟ้ามากแค่ไหน”ความกดดันจากแม่และโอมที่ประดังเข้ามาพร้อมกัน ทำให้ปลายฟ้าแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หัวของเธอเหมือนโดนบีบแน่น และความรู้สึกอยากอาเจียนก็แล่นขึ้นมาปลายฟ้าพยายามรวบรวมสติทั้งหมดไว้ และเปล่งเสียงออกมาเบาที่สุด เสียงที่สั่นเครือแต่
ปลายฟ้าหน้าซีดเผือด เธอเข้าใจในทันทีว่า ธีร์ ไม่ได้แค่ขอร้อง แต่กำลังใช้สถานการณ์นี้บีบบังคับเธอ เธอไม่สามารถเป็นต้นเหตุให้บริษัทต้องเสียหายได้ เธอพยักหน้าอย่างช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่จำนนต่ออำนาจและความต้องการของเขาสุดท้ายธีร์ก็กดดันให้ปลายฟ้าถ่ายแบบจนได้ ธีร์คลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ แต่รอยยิ้มนั้นไม่ได้แสดงความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย เขามองไปที่ช่างภาพ“โอเคครับ ทีมงาน!” ธีร์ประกาศเสียงดัง “นางแบบคนใหม่ของเราคือคุณปลายฟ้า เตรียมเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าทำผมให้เธอเดี๋ยวนี้! เราจะเริ่มถ่ายทำภายในสิบห้านาที”ธีร์ปล่อยให้ปลายฟ้ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง ทิ้งให้ปลายฟ้ารับรู้ว่าเกมนี้เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะชนะเขาได้เลยหลังจากที่ปลายฟ้าได้รับการแปลงโฉมและกลับมาพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ ธีร์ ก็ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมถ่ายแบบคู่กับเธอในทันทีปลายฟ้าถูกพาตัวมาพักหลังจากถ่ายแบบเดี่ยวเสร็จ ก่อนจะเริ่มถ่ายคู่กับธีร์ เธอเห็นตัวเองในกระจก... ใบหน้าที่สวยสง่าและเปี่ยมด้วยพลังอำนาจ แต่ดวงตาของเธอยังคงมีความไม่พอใจและกังวลอย่างชัดเจนธีร์ดูปลายฟ้าที่กำลังแต่งหน้า เขานั่งอยู่บ
ปลายฟ้าและธีร์นั่งอยู่ในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่มีเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบ พวกเขากำลังจัดการประชุมคัดเลือกนางแบบสำหรับแบรนด์เครื่องสำอางและเสื้อผ้าไลน์ใหม่ของบริษัทชื่อว่า Zenithปลายฟ้าสวมชุดทำงานที่ดูเนี้ยบและเป็นทางการ เธอรักษาระยะห่างจากธีร์อย่างเคร่งครัด หลังจากเหตุการณ์ในคอนโด แม้ธีร์จะเข้าใจความรู้สึกของเธอแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นอีก และปลายฟ้าเองก็ยังคงอยู่ในโหมด 'มืออาชีพที่เย็นชา'เบื้องหน้าของธีร์คือโต๊ะที่เต็มไปด้วยแฟ้มประวัตินางแบบหลายสิบคน ธีร์เป็นผู้นำในการคัดเลือกทั้งหมดเพราะโจทย์คือต้องหานางแบบที่มีภาพลักษณ์แข็งแกร่งและดูดีพอที่เหมาะกับงานและคู่กับนายแบบอย่างเขาปลายฟ้าเป็นผู้เรียกชื่อนางแบบทีละคน เธอถือคลิปบอร์ดไว้แน่น พยายามไม่สบตากับธีร์“คนต่อไปค่ะ คุณลินนา มณีรัตน์” ปลายฟ้าประกาศเสียงเรียบประตูเปิดออก ลินนา ก้าวเข้ามาด้วยความมั่นใจ เธอเป็นนางแบบสาวสวยที่มีใบหน้าคมกริบ การแต่งกายและรอยยิ้มของเธอดูไร้ที่ติและมีความทะเยอทะยานสูง“สวัสดีค่ะคุณธีร์ สวัสดีค่ะทีมงาน” ลินนากล่าวด้วยน้ำเสียงที่พยายามดัดให้หวานกว่าปกติลินนาเริ่มแสดงท่าทางโพสตามที่ทีมงานต้องกา
ข้อความที่ถูกส่งมาโดยตรงระบุชัดเจน "ฉันคือเจ้าของของปริ๊นเซสค่ะ"ใจของปลายฟ้าหล่นวูบ ปลายฟ้ารู้สึกใจหายมากๆ ราวกับหัวใจถูกบีบอัดจนหายใจไม่ออก เธอเคยคิดว่าเรื่องนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น หรืออย่างน้อยก็คงไม่เกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เพราะธีร์เองก็ผูกพันกับเจ้าแมวน้อยตัวนี้ไปแล้วปลายฟ้าอ่านข้อความซ้ำหลายครั้ง เจ้าของตัวจริงให้รายละเอียดของแมวได้อย่างถูกต้องทุกประการ รวมถึงประวัติการรักษาและเครื่องหมายพิเศษที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน การโกหกหรือการเข้าใจผิดจึงเป็นไปไม่ได้เธอเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างช้า ๆ ธีร์ยังคงนั่งทำงานอยู่บนโซฟา โดยมีปริ๊นเซสนอนหลับอย่างสบายอยู่บนตักของเขา“คุณธีร์คะ” ปลายฟ้าเอ่ยเรียกเสียงสั่นธีร์เงยหน้าขึ้นมองเธออย่างแปลกใจเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของปลายฟ้า เธอชูโทรศัพท์ให้เขาดูข้อความนั้น ธีร์ก้มลงอ่าน ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปเป็นความตกใจและเศร้าสร้อยเช่นกัน“เขา... เขานัดเจอที่ไหนครับ” ธีร์ถามเสียงแผ่ว พลางลูบหัวปริ๊นเซสอย่างอ่อนโยน ราวกับเป็นการบอกลาล่วงหน้า“ที่สวนสาธารณะ ตรงข้ามกับคอนโดฯ ค่ะ เขาอยากเจอน้อง แล้วก็อยากจะคุยเรื่องรับน้องกลับ”ปลายฟ้ารู้ว่าถึงเวลาที่ต
ปลายฟ้าซบหน้าเข้ากับแผงอกที่เปลือยเปล่าของธีร์อย่างเต็มใจ เธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ เป็นจังหวะที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจของเธอได้เป็นอย่างดีในอ้อมกอดที่แน่นหนานี้ปลายฟ้าไม่ได้รู้สึกว่าเธอกำลังนอนอยู่กับเจ้านายที่เย็นชา แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการเพียงความรักและการปลอบโยนเท่านั้นความเงียบปกคลุมทั่วห้อง ปลายฟ้าหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย ขณะที่ธีร์ก็หลับตาลงอย่างเจ็บปวด โดยหวังว่าเมื่อตื่นขึ้นมา แสงสว่างจากวันใหม่จะช่วยพาเขากลับไปยังจุดที่เขาทิ้งรอยยิ้มที่หายไปไว้เบื้องหลังได้แสงแดดยามเช้าลอดผ่านม่านทึบเข้ามาได้เพียงน้อยนิด ทว่าเพียงพอที่จะทำให้ปลายฟ้าค่อย ๆ ลืมตาตื่นจากห้วงนิทราที่แสนเหนื่อยล้า ปลายฟ้าตื่นขึ้นมาก็สบตาเข้ากับดวงตาคมเข้ม ที่อยู่ห่างออกไปเพียงคืบดวงตาคู่นั้นกำลังจ้องมองเธออยู่ อย่างเงียบงันธีร์ตื่นได้สักพักแล้วเขาไม่ได้ขยับตัว เพียงแค่นอนมองใบหน้าของคนในอ้อมแขนมาเนิ่นนาน เขามองคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างละเอียดถี่ถ้วนขนตาของปลายฟ้ายาวหนา เป็นแพสวยงามจมูกเล็กๆ ที่ดูดื้อรั้น รับกับปากอวบอิ่มที่เขาเคยประทับ รสชาติหวานละมุนนั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำลึกๆ ขอ
“ฉันต้องขอโทษแทนคุณเทวาด้วยนะคะ” อรัญญากล่าวอย่างรู้สึกผิด “ฉันรู้สึกผิดกับธีร์ และฉันเหนื่อยมาก ๆ เลย ค่ะ”อรัญญาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างอ่อนล้า“ฉันเข้ามาเป็นเมียน้อยในตอนแรก และยอมทนอยู่เพื่อรอให้ แม่ของธีร์เสีย ไป ก่อนที่ฉันจะได้ขึ้นมาเป็นคุณนายที่ถูกต้อง”คำสารภาพของอรัญญาดังก้องอยู่ในความเงียบงันของศาลาริมน้ำ กลิ่นหอมของดอกไม้ดูเหมือนจะเจือด้วยความขมขื่น ปลายฟ้านิ่งงันไป น้ำเสียงของอรัญญาไม่แสดงความรู้สึกผิดบาป แต่เป็นความเหนื่อยล้าจนถึงที่สุด ราวกับว่าการพูดความจริงออกมาเป็นภาระหนักอึ้งที่เธอแบกมานานปลายฟ้าจ้องมองใบหน้าของอรัญญาที่เงยขึ้นมองท้องฟ้าอย่างอ่อนล้า ใบหน้าที่มีร่องรอยความงามสง่า แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ฉากหน้าของ 'คุณนาย'“คุณ คุณอรัญญา” ปลายฟ้าเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา เธอไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจหรือควรจะถามคำถามใดออกไปอรัญญาค่อย ๆ ก้มหน้าลงมองมือของตัวเองที่ประสานกันบนตัก เธอพยายามควบคุมน้ำเสียงให้มั่นคง “ใช่ค่ะ ฉันอยากจะโกหกคุณ แต่ฉันเลือกที่จะบอกความจริง เพราะฉันรู้ว่าคุณเป็นคนเดียวที่จะเข้าใจความรู้สึกของธีร์”“การเป็น 'คุณนาย' ไม่ได้สวยง







