Masuk“ปลายฟ้า” ธีร์เรียกเสียงหนักแน่น แต่ดวงตานั้นมองตรงไปยังมีน ปลายฟ้าหันมาอย่างตกใจเล็กน้อยที่เห็นธีร์เดินเข้ามาหาอย่างกระทันหัน
“คุณธีร์คะ” ปลายฟ้ากระพริบตา ก่อนจะแนะนำอย่างเร่งรีบ “คุณหมอ มีน ค่ะ คุณหมอที่รักษาปริ้นเซส”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณธีร์” มีนยิ้มอย่างสุภาพและผายมือออกไปอย่างไม่ประหม่า
ธีร์ไม่ได้ยิ้มตอบ เขายื่นมือออกไปจับมือมีนอย่างเย็นชาและรวดเร็ว ทั้งสองสบตากัน แววตาของมีนเป็นมิตรแต่ก็ฉายความมั่นใจ ในขณะที่ ธีร์รู้สึกไม่ถูกชะตา กับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น
มีนหันไปมองปลายฟ้าด้วยสายตาที่คล้ายกำลังถามว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคืออะไรกันแน่
ปลายฟ้าแนะนำอย่างตะกุกตะกักว่า
“คุณมีนคะ... นี่ คุณธีร์ เจ้านายของปลายฟ้าค่ะ” ธีร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ธีร์กำลังจะบอกให้ปลายฟ้ากลับ ด้วยข้ออ้างว่าเธอเหนื่อยล้า แต่ รินลดา ก็เดินเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน เธอปรากฏตัวอย่างสง่างามราวกับรู้ว่าต้องมาตอนนี้พอดี
รินลดายิ้มหวานให้กับมีน เธอเพ่งมองใบหน้าเขาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงความรู้รอบตัว
“อ๋อ! สวัสดีค่ะ! คุณหมอมีนใช่ไหมคะ... ลูกชายคุณอาปรีชา เจ้าของโรงแรมแห่งนี้ และก็เป็น สัตวแพทย์ ที่เปิดคลินิกใหญ่ตรงสุขุมวิทนั่นเองใช่ไหมคะ” รินลดาเน้นคำว่าสัตวแพทย์เล็กน้อย แต่น้ำเสียงยังคงเป็นมิตร รินลดาเกาะแขนธีร์ไว้แน่นอีกครั้ง แล้วหันไปยิ้มทักทายมีนอย่างเป็นมิตรแต่แฝงความเป็นเจ้าของ
รินลดาเกาะแขนธีร์แน่นขณะที่เธอพูดกับมีนอย่างเป็นมิตรแต่แฝงความเป็นเจ้าของ แต่ธีร์ไม่มีความอดทนเหลืออยู่แล้ว
“คุณหมอมีนครับ” ธีร์พูดเสียงเรียบเย็น “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือเรื่องแมวของเลขาผมนะครับ แต่ตอนนี้คงถึงเวลาที่เราต้องกลับแล้ว”
ก่อนที่รินลดาจะทันโต้ตอบหรือแสดงความเป็นห่วงเป็นใย ปลายฟ้าก็เห็นสีหน้าของธีร์ที่เปลี่ยนไปเป็นความไม่พอใจอย่างรุนแรง
ธีร์สะบัดมือออกจากการเกาะของรินลดา อย่างรวดเร็วจนรินลดาต้องถอยหลังไปครึ่งก้าว ใบหน้าสวยของเธอ หน้าเสีย ไปทันทีที่ถูกปฏิเสธต่อหน้าสาธารณชนและคุณหมอมีน
“มาครับฟ้า” ธีร์หันมาคว้าแขนปลายฟ้าไว้แน่น เขาใช้สถานะเจ้านายดึงปลายฟ้ากลับ “เลขาผมคงจะเหนื่อยมากแล้ว ขอตัวก่อนนะครับคุณหมอ”
มีนมองตามปลายฟ้าด้วยความกังวล แต่ทำได้เพียงยิ้มรับอย่างสุภาพ “ยินดีครับคุณธีร์ และถ้ามีอะไรฉุกเฉิน โทรหาผมได้เลยนะครับ”
ธีร์ไม่ได้ตอบกลับ เขาจูงปลายฟ้าออกไปจากงานเลี้ยงท่ามกลางสายตาของแขกเหรื่อมากมายที่มองตามมาด้วยความสนใจ รวมถึงสายตาที่โกรธจัดของคุณเทวาที่กำลังมองลงมาจากบนเวที
ภายในเวลาไม่นาน รถหรูของธีร์ก็แล่นออกจากลานจอดรถของโรงแรม มุ่งหน้ากลับสู่เพนเฮ้าส์
ปลายฟ้านั่งอยู่ในรถกับธีร์ เขานั่งเงียบมาก มือของเขาที่จับพวงมาลัยแน่นจนข้อนิ้วขาวโพลน บรรยากาศภายในรถตึงเครียดและกดดันยิ่งกว่างานเลี้ยงวันเกิดเมื่อสักครู่เสียอีก
ปลายฟ้าเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้ดูเย็นชาและไร้อารมณ์ จนเธอรู้สึกนึกกลัว ความเงียบของเขาน่ากลัวกว่าการตะคอกใส่เธอเสียอีก เธอไม่รู้ว่าเขากำลังหงุดหงิดเรื่องพ่อ เรื่องรินลดา หรือเรื่องที่เธอคุยอยู่กับคุณหมอมีนกันแน่
เธอเลือกที่จะเงียบไว้ ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถามอะไรออกมา เพราะกลัวว่าคำพูดเพียงคำเดียวอาจจะทำให้ความโกรธที่ถูกสะสมไว้ระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
ความเงียบในรถเมื่อคืนสิ้นสุดลงด้วยการกลับมาถึงเพนเฮ้าส์ที่ธีร์ตรงดิ่งไปหาเจ้าปริ้นเซสและฟินิกซ์ทันที ปล่อยให้ปลายฟ้าอยู่กับความสับสนและความกลัวที่ยังค้างคา
เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกอย่างก็ถึงจุดที่ย่ำแย่ที่สุด เสียงโทรทัศน์ที่ธีร์เปิดไว้คลอเบา ๆ กลายเป็นเสียงที่บาดลึกหัวใจของปลายฟ้า เมื่อข่าวภาคเช้าเริ่มรายงานถึงงานวันเกิดของคุณเทวา ภาพของธีร์ในชุดทักซิโด้ที่ยืนอยู่ข้างรินลดาถูกนำเสนอเป็นภาพหลัก
มีข่าวออกมาอย่างดุเดือด โดยพาดหัวข่าวใหญ่แทบทุกสำนัก ว่าธีร์มีคู่หมั้นแล้ว การประกาศของเทวาได้ผลตามที่เขาต้องการ รินลดากลายเป็นที่ยอมรับของสาธารณชนในทันที
แต่สิ่งที่ทำให้ปลายฟ้าแทบจะหยุดหายใจคือส่วนที่เกี่ยวข้องกับเธอ ภาพของเธอในชุดราตรีสีครีมถูกนำเสนอเป็นภาพเล็ก ๆ ข้าง ๆ ข่าวหลัก พร้อมกับคำถามที่เย้ยหยัน:
“สาวสวยปริศนาในงานเลี้ยงคือใคร? เป็นแค่เลขาสาวจริง ๆ หรือ?”
ข่าวออกมาจนปลายฟ้าเครียดอย่างหนัก เธอเห็นคอมเมนต์ในโลกออนไลน์ที่เต็มไปด้วยการวิพากษ์วิจารณ์สถานะของเธอ บางคอมเมนต์กล่าวหาว่าเธอพยายามเกาะแกะธีร์ บางคอมเมนต์ก็เห็นใจ
ปลายฟ้านั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟา มือสั่นจนแทบจะจับโทรศัพท์ไว้ไม่ได้ เธอหวังว่าธีร์จะเข้ามาพูดคุย หรือออกแถลงการณ์ใด ๆ เพื่อแก้ข่าวแต่ ธีร์ก็ไม่ทำอะไร
เขายังคงอยู่ในชุดเสื้อยืดสบาย ๆ นั่งอยู่บนพื้นพยายามเอาของเล่นใหม่ที่ซื้อมาล่อเจ้าปริ้นเซสให้ยอมมานอนบนตักอย่างฟินิกซ์ เจ้าปริ้นเซสที่ตอนนี้ร่าเริงและซุกซนเต็มที่ก็วิ่งหนีเขาไปรอบห้อง
“คุณธีร์! ดูนี่สิ!” ปลายฟ้าพูดเสียงเบาพร้อมกับชี้ไปที่หน้าจอโทรทัศน์
ธีร์เหลือบมองแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปสนใจแมวต่อ
“อืม... ก็เป็นไปตามที่พ่อต้องการนั่นแหละครับ” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจ “อย่าไปสนใจเลยฟ้า ข่าวพวกนี้เดี๋ยวก็เงียบไปเอง”
ธีร์ไม่แก้ไขอะไร เขาไม่อยากยอมรับว่ารินลดาคือคู่หมั้น ต่อหน้าสาธารณชน เพราะเขาไม่เคยเห็นด้วยกับการหมั้นนี้ และต้องการที่จะยกเลิกมันในอนาคต แต่ในขณะเดียวกัน เพราะบิดากับรินลดากลับออกมาพูดให้คนยิ่งเข้าใจผิด สถานการณ์จึงเลวร้ายลง
แต่เขากังวลความรู้สึกของปลายฟ้า อย่างเงียบ ๆ เพราะมันคนไม่น้อยที่คอมเมนต์ว่าเธอเป็นมือที่สาม หรือพนักงานที่พยายามตีสนิทเจ้านาย เขาไม่อยากให้เธอต้องมาเจ็บปวดกับเรื่องที่ไม่เป็นความจริงนี้
ธีร์ไม่ได้แก้อะไร ด้วยการออกแถลงการณ์ใด ๆ เพราะนั่นจะยิ่งเป็นการโต้แย้งคำพูดของบิดา แต่เขาใช้ช่องทางที่ถนัดที่สุดในโลกธุรกิจ
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ส่งข้อความหาผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารอย่างลับ ๆ เขาพยายามจ่ายเงินซื้อข่าว และติดต่อบรรณาธิการสื่อต่าง ๆ ปิดข่าวของปลายฟ้า ให้ได้มากที่สุด เพราะกลัวปลายฟ้าจะเสียใจ และเสียชื่อเสียงไปมากกว่านี้
เขาทำทั้งหมดนี้อย่างเงียบ ๆ โดยไม่ให้ปลายฟ้ารับรู้เลยแม้แต่น้อย ธีร์ยังคงนั่งอยู่บนพื้นเล่นกับปริ้นเซสและฟินิกซ์อย่างใจเย็น ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยหลังจากที่ปลายฟ้าเปิดโทรทัศน์ให้ธีร์ดูข่าวไม่นาน เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เป็นสายตรงจากคุณตามงคล
“ครับตา” ธีร์รับสายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าปกติ แต่เต็มไปด้วยความตึงเครียด
เสียงของคุณตามงคลดังเล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์อย่างชัดเจน แม้ธีร์จะพยายามกดเสียงให้เบาแล้วก็ตาม
“ไอ้ธีร์! แกทำบ้าอะไรลงไป! คู่หมั้นคืออะไร ไอเทวามันยังไม่หยุดอีกหรอ” เสียงของชายชราเกรี้ยวกราด “แล้วไหนจะเรื่องข่าว! หลานสะใภ้อย่างปลายฟ้าเสียใจจะทำยังไง!”
ธีร์หน้าเครียดทันที เขาเหลือบมองปลายฟ้าที่กำลังนั่งอยู่ใกล้ ๆ และพยายามทำตัวให้ดูปกติ
“ผมจะแก้เองครับตา” ธีร์ตอบเสียงหนักแน่น “ผมกำลังให้คนจัดการเรื่องข่าวแล้ว”
“แก้! แกจะแก้ยังไง! ถ้าแกยังไม่แก้ ตาจะออกโรงเอง!” คุณตามงคลวางสายไปด้วยความไม่พอใจ
ธีร์เงยหน้าขึ้นมองปลายฟ้าด้วยความรู้สึกผิด เขาเก็บโทรศัพท์ลงแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ เธอ แต่ก็ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยคำพูดปลอบใจใด ๆ
เสียงโทรศัพท์ของปลายฟ้าก็ดังขึ้นปลายฟ้าได้รับสายจากเบอร์แปลก เธอรับสายก็พบว่าเป็นเทวา
“ฉันเอง เทวา” เสียงนั้นสั่งอย่างเฉียบขาด “จะให้คนขับรถไปรับเธอที่คอนโดภายในยี่สิบนาที”
“เธอต้องไปคนเดียว! ห้ามให้ธีร์รู้ เรื่องที่ฉันเรียกแกไปพบโดยเด็ดขาด”
ปลายฟ้าวางสายด้วยมือที่สั่นเทิ้ม สายตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เธอหันไปมองธีร์ที่ตอนนี้กำลังวุ่นวายกับการต่อสายหาเลขา
“แม่… โทรมาค่ะ” ปลายฟ้าโกหกเสียงแผ่วเบา “ฟ้าขอไปหาแม่แปปเดียวนะคะคุณธีร์”
ธีร์หันมาทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ไม่เป็นไรค่ะธีร์” ปลายฟ้าพยายามทำให้เสียงดูหนักแน่น “ฟ้าไปแปปเดียวค่ะ ธีร์น่าจะเคลียร์เรื่องงานกับคุณเอกให้เสร็จก่อนนะคะ” เธอตัดบทอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินเข้าห้องแต่งตัว
ภายในห้านาที ปลายฟ้าก็กลับออกมาในชุดที่สุภาพเรียบร้อย เธอรู้ว่ารถของเทวารออยู่หน้าตึกแล้ว
“คุณธีร์คะ! ฟ้าไปก่อนนะคะ” ปลายฟ้าเรียกเขาที่ยังคงอยู่ในชุดลำลองและวุ่นวายอยู่กับโทรศัพท์
“เดี๋ยวสิ! ผมไปส่ง!” ธีร์ลุกขึ้น
“ไม่ต้องค่ะ!” ปลายฟ้ารีบปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่สุดเท่าที่เคยทำมา “เดี๋ยวฟ้าเรียกแท็กซี่ไปเองค่ะ แค่แป๊บเดียวคงเสร็จแล้ว”
ก่อนที่ธีร์จะได้ทันโต้แย้งหรือเดินตามมา ปลายฟ้าก็รีบเดินออกจากเพนเฮ้าส์ไปอย่างรวดเร็ว ปลายฟ้าไปโดยไม่บอกธีร์ ว่าคุณเทวาได้สั่งให้เธอไปพบเพียงลำพัง และไม่ได้บอกว่าการไปครั้งนี้คือการก้าวเข้าไปเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของผู้ทรงอิทธิพลเพียงคนเดียว
เธอตัดสินใจที่จะแบกรับความเสี่ยงทั้งหมดไว้เอง เพื่อให้ธีร์ยังคงมีเวลาจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนของเขา การเดินทางสู่บ้านของคุณเทวาจึงเป็นการเดินทางที่เงียบเหงาและเต็มไปด้วยความวิตกกังวลอย่างที่สุด
ภายในยี่สิบนาที รถที่ถูกส่งมาก็จอดเทียบหน้าคฤหาสน์หรูของตระกูลพิพัฒน์พงศ์ ปลายฟ้าไปถึงบ้านของเทวา ที่เธอเคยมาแล้วครั้งหนึ่งกับธีร์ ครั้งนี้เธอมาเหมือนเหยื่อที่ถูกเรียกตัวมาไต่สวน เธอเดินเข้าไปตามคำแนะนำของคนรับใช้ และพบว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้ไม่ได้มีแค่คุณเทวา
คุณเทวานั่งอยู่กับรินลดา ในห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ทั้งสองคนนั่งไขว้ห้างอย่างสง่างาม โดยมีรอยยิ้มที่เหนือกว่าประดับอยู่บนใบหน้าของรินลดา
“มาแล้วเหรอ” คุณเทวาเอ่ยเสียงเรียบเย็น “นั่งสิ”
ปลายฟ้าทรุดตัวลงนั่งบนขอบโซฟาอย่างไม่สบายใจรินลดาเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อน
“คุณปลายฟ้าคะ เราไม่พูดอ้อมค้อมกันดีกว่านะคะ”
ทั้งสองพูดให้เธอรู้สถานะ อย่างชัดเจน โดยรินลดาย้ำถึงความรักและความเข้าใจที่เธอมีต่อธีร์มาตั้งแต่เด็ก และคุณเทวาชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง "เลขา" กับ "คู่หมั้น"
“สถานะของเธอกับธีร์ มันควรจบลงแค่ในเพนเฮ้าส์” คุณเทวาตัดบทอย่างเฉียบขาด
“แต่คุณกลับไปสร้างความเข้าใจผิดในงานวันเกิดของฉัน มันทำให้ธีร์และตระกูลเราเสียชื่อเสียง”
รินลดาส่งเอกสารซองหนึ่งให้ปลายฟ้า
“ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือการทำตามข้อเสนอนี้ค่ะคุณปลายฟ้า” รินลดาพูดเสียงหวาน แต่แววตาเย็นชา “ลาออก จากงานซะ”
คุณเทวาเสริมอย่างหนักแน่น “อีกไม่นานเราจะจัดงานหมั้น อย่างเป็นทางการ ธีร์จะไม่มีเวลามาสนใจเธออีก ลาออกไปจากชีวิตของลูกชายฉันซะ”
ปลายฟ้าความไร้ทางสู้ เธอรู้สึกเหมือนถูกรุมทำร้ายด้วยคำพูดที่รุนแรงและสถานะทางสังคมที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน เธอลุกขึ้นยืน ก้มศีรษะเบา ๆ และเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่โต้ตอบใด ๆ
ขณะที่ปลายฟ้าเดินออกมาจากห้องรับแขกด้วยหัวใจที่หนักอึ้งและน้ำตาที่รื้นขึ้นมา เธอก็พบเข้ากับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่แต่งตัวสง่างามไม่แพ้รินลดา นั่นคือ อรัญญา แม่เลี้ยงของธีร์
อรัญญายิ้มบาง ๆ ให้เธออย่างอ่อนโยน ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นและแตกต่างจากคนอื่น ๆ ในบ้านนี้อย่างสิ้นเชิง
“คุณปลายฟ้าคะ” อรัญญาเรียกเธอเบา ๆ “อย่าเพิ่งกลับเลยค่ะ มาคุยกับคุณที่ศาลา หลังบ้านก่อนได้ไหมคะ”
ปลายฟ้ารู้สึกเหนื่อยใจมาก จนแทบไม่มีแรงจะขยับตัวไปไหนแล้ว แต่เมื่อเห็นความเมตตาในดวงตาของอรัญญา เธอก็เดินตามไป อย่างเงียบ ๆ อย่างน้อยที่สุด การได้ระบายความอัดอั้นกับใครสักคนก็ยังดีกว่าต้องแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว
ปลายฟ้าเดินตาม อรัญญา แม่เลี้ยงของธีร์ ไปที่ ศาลาริมน้ำ ศาลาเป็นเรือนไทย หลังเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ กลางน้ำ อย่างสงบ รอบ ๆ มีสวนดอกไม้ นานาชนิดกำลังชูช่ออย่างสวยงาม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ลอยมาตามลม
บรรยากาศที่เงียบสงบและงดงามแห่งนี้ ทำให้ ปลายฟ้ารู้สึกดีขึ้น อย่างมาก ความตึงเครียดและความหวาดกลัวที่ได้รับจากห้องรับแขกค่อย ๆ คลายตัวลง
อรัญญานั่งลงบนเก้าอี้หวายอย่างสง่างาม แล้วผายมือเชิญให้ปลายฟ้านั่งลง
“ไม่ต้องเกร็งนะคะคุณปลายฟ้า” อรัญญาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
อรัญญาจ้องมองปลายฟ้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเมตตาและร่องรอยของความเศร้า อรัญญาถามถึงธีร์กับปลายฟ้าว่าเขาเป็นยังไงบ้าง
“ฉันเป็นห่วงธีร์นะคะ” อรัญญาพูดอย่างจริงใจ “เขา... ไม่เคยคุยกับฉันอีกเลยตั้งแต่ที่ฉันมาเป็นเมียอีกคนของคุณเทวา ธีร์ไม่เคยยิ้มให้ฉันอีกเลย ตั้งแต่วันที่แม่ของเขาเสียไป”
ปลายฟ้าเห็นใจอรัญญาอย่างมาก การเป็นแม่เลี้ยงในตระกูลที่เต็มไปด้วยอำนาจและความเย็นชาเช่นนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย
“คุณปลายฟ้า ฉันขอถามตรง ๆ นะคะ” อรัญญาถามว่าปลายฟ้าเป็นอะไรกับธีร์
ปลายฟ้าเงยหน้าขึ้นมองอรัญญา แล้วตอบด้วยความรู้สึกผิดหวังที่เพิ่งได้รับมาเต็ม ๆ “เป็นแค่ เลขาผู้จัดการ ของธีร์ค่ะ”
อรัญญายิ้ม บาง ๆ เธอไม่ได้ประหลาดใจกับคำตอบเลย เพราะเธอเห็นถึงสายตาของปลายฟ้าเวลามองธีร์ สายตาห่วงใยที่ส่งให้กับธีร์ บางทีเด็กสาวตรงหน้าเธออาจจะยังไม่รู้ความรู้สึกของตัวเอง
อรัญญาบอกว่า ไม่ว่าปลายฟ้าจะเป็นแค่ผู้จัดการหรือคนรักของธีร์ อรัญญาจะคอยช่วยเหลือปลายฟ้า เพราะเธอรู้ดีว่าการเข้ามาในโลกของเทวานั้นอันตรายเพียงใด
“ฉันต้องขอโทษแทนคุณเทวาด้วยนะคะ” อรัญญากล่าวอย่างรู้สึกผิด “ฉันรู้สึกผิดกับธีร์ และฉันเหนื่อยมาก ๆ เลย ค่ะ”
“อ้าว! มาแล้วเหรอปลายฟ้า!” นวลจันทร์ส่งเสียงทักอย่างดีใจ แต่สำหรับปลายฟ้าแล้วภาพตรงหน้าคือภาพฝันร้ายที่กลับมาเยือนโอมยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ เขาไม่ได้ดูสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย แต่กลับดูดีใจที่ได้เจอเธอปลายฟ้าเดินเข้าไปนั่งลงตรงข้ามพวกเขาด้วยสีหน้าเย็นชา“ทำไมไม่รับสายไม่ตอบข้อความพี่เขาเลย!” นวลจันทร์เริ่มต้นตำหนิเธออย่างรวดเร็ว โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไร“จนโอมเขาต้องไปหาแม่ที่บ้าน! ทำอะไรหัดโตได้แล้วนะปลายฟ้า!”คำพูดตำหนิของแม่ราวกับมีคนมาบีบคั้นสมองของปลายฟ้าให้แน่น เธอเริ่มรู้สึกหูอื้อ ภาพตรงหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย ความรู้สึกหวาดกลัวและคลื่นไส้ปั่นป่วนอยู่ในท้อง“พี่เขามาหาแกด้วยความหวังดี เขารักแกจะตาย” นวลจันทร์พูดต่อโดยไม่สนใจสีหน้าของลูกสาว“ปลายฟ้า พี่อุตส่าห์มาหาถึงที่นี่นะ” โอมเสริมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนจนน่าขยะแขยง“รู้ไหมว่าพี่คิดถึงปลายฟ้ามากแค่ไหน”ความกดดันจากแม่และโอมที่ประดังเข้ามาพร้อมกัน ทำให้ปลายฟ้าแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หัวของเธอเหมือนโดนบีบแน่น และความรู้สึกอยากอาเจียนก็แล่นขึ้นมาปลายฟ้าพยายามรวบรวมสติทั้งหมดไว้ และเปล่งเสียงออกมาเบาที่สุด เสียงที่สั่นเครือแต่
ปลายฟ้าหน้าซีดเผือด เธอเข้าใจในทันทีว่า ธีร์ ไม่ได้แค่ขอร้อง แต่กำลังใช้สถานการณ์นี้บีบบังคับเธอ เธอไม่สามารถเป็นต้นเหตุให้บริษัทต้องเสียหายได้ เธอพยักหน้าอย่างช้า ๆ ด้วยใบหน้าที่จำนนต่ออำนาจและความต้องการของเขาสุดท้ายธีร์ก็กดดันให้ปลายฟ้าถ่ายแบบจนได้ ธีร์คลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ แต่รอยยิ้มนั้นไม่ได้แสดงความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย เขามองไปที่ช่างภาพ“โอเคครับ ทีมงาน!” ธีร์ประกาศเสียงดัง “นางแบบคนใหม่ของเราคือคุณปลายฟ้า เตรียมเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าทำผมให้เธอเดี๋ยวนี้! เราจะเริ่มถ่ายทำภายในสิบห้านาที”ธีร์ปล่อยให้ปลายฟ้ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง ทิ้งให้ปลายฟ้ารับรู้ว่าเกมนี้เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะชนะเขาได้เลยหลังจากที่ปลายฟ้าได้รับการแปลงโฉมและกลับมาพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ ธีร์ ก็ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมถ่ายแบบคู่กับเธอในทันทีปลายฟ้าถูกพาตัวมาพักหลังจากถ่ายแบบเดี่ยวเสร็จ ก่อนจะเริ่มถ่ายคู่กับธีร์ เธอเห็นตัวเองในกระจก... ใบหน้าที่สวยสง่าและเปี่ยมด้วยพลังอำนาจ แต่ดวงตาของเธอยังคงมีความไม่พอใจและกังวลอย่างชัดเจนธีร์ดูปลายฟ้าที่กำลังแต่งหน้า เขานั่งอยู่บ
ปลายฟ้าและธีร์นั่งอยู่ในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่มีเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบ พวกเขากำลังจัดการประชุมคัดเลือกนางแบบสำหรับแบรนด์เครื่องสำอางและเสื้อผ้าไลน์ใหม่ของบริษัทชื่อว่า Zenithปลายฟ้าสวมชุดทำงานที่ดูเนี้ยบและเป็นทางการ เธอรักษาระยะห่างจากธีร์อย่างเคร่งครัด หลังจากเหตุการณ์ในคอนโด แม้ธีร์จะเข้าใจความรู้สึกของเธอแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นอีก และปลายฟ้าเองก็ยังคงอยู่ในโหมด 'มืออาชีพที่เย็นชา'เบื้องหน้าของธีร์คือโต๊ะที่เต็มไปด้วยแฟ้มประวัตินางแบบหลายสิบคน ธีร์เป็นผู้นำในการคัดเลือกทั้งหมดเพราะโจทย์คือต้องหานางแบบที่มีภาพลักษณ์แข็งแกร่งและดูดีพอที่เหมาะกับงานและคู่กับนายแบบอย่างเขาปลายฟ้าเป็นผู้เรียกชื่อนางแบบทีละคน เธอถือคลิปบอร์ดไว้แน่น พยายามไม่สบตากับธีร์“คนต่อไปค่ะ คุณลินนา มณีรัตน์” ปลายฟ้าประกาศเสียงเรียบประตูเปิดออก ลินนา ก้าวเข้ามาด้วยความมั่นใจ เธอเป็นนางแบบสาวสวยที่มีใบหน้าคมกริบ การแต่งกายและรอยยิ้มของเธอดูไร้ที่ติและมีความทะเยอทะยานสูง“สวัสดีค่ะคุณธีร์ สวัสดีค่ะทีมงาน” ลินนากล่าวด้วยน้ำเสียงที่พยายามดัดให้หวานกว่าปกติลินนาเริ่มแสดงท่าทางโพสตามที่ทีมงานต้องกา
ข้อความที่ถูกส่งมาโดยตรงระบุชัดเจน "ฉันคือเจ้าของของปริ๊นเซสค่ะ"ใจของปลายฟ้าหล่นวูบ ปลายฟ้ารู้สึกใจหายมากๆ ราวกับหัวใจถูกบีบอัดจนหายใจไม่ออก เธอเคยคิดว่าเรื่องนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น หรืออย่างน้อยก็คงไม่เกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เพราะธีร์เองก็ผูกพันกับเจ้าแมวน้อยตัวนี้ไปแล้วปลายฟ้าอ่านข้อความซ้ำหลายครั้ง เจ้าของตัวจริงให้รายละเอียดของแมวได้อย่างถูกต้องทุกประการ รวมถึงประวัติการรักษาและเครื่องหมายพิเศษที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน การโกหกหรือการเข้าใจผิดจึงเป็นไปไม่ได้เธอเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างช้า ๆ ธีร์ยังคงนั่งทำงานอยู่บนโซฟา โดยมีปริ๊นเซสนอนหลับอย่างสบายอยู่บนตักของเขา“คุณธีร์คะ” ปลายฟ้าเอ่ยเรียกเสียงสั่นธีร์เงยหน้าขึ้นมองเธออย่างแปลกใจเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของปลายฟ้า เธอชูโทรศัพท์ให้เขาดูข้อความนั้น ธีร์ก้มลงอ่าน ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปเป็นความตกใจและเศร้าสร้อยเช่นกัน“เขา... เขานัดเจอที่ไหนครับ” ธีร์ถามเสียงแผ่ว พลางลูบหัวปริ๊นเซสอย่างอ่อนโยน ราวกับเป็นการบอกลาล่วงหน้า“ที่สวนสาธารณะ ตรงข้ามกับคอนโดฯ ค่ะ เขาอยากเจอน้อง แล้วก็อยากจะคุยเรื่องรับน้องกลับ”ปลายฟ้ารู้ว่าถึงเวลาที่ต
ปลายฟ้าซบหน้าเข้ากับแผงอกที่เปลือยเปล่าของธีร์อย่างเต็มใจ เธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ เป็นจังหวะที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจของเธอได้เป็นอย่างดีในอ้อมกอดที่แน่นหนานี้ปลายฟ้าไม่ได้รู้สึกว่าเธอกำลังนอนอยู่กับเจ้านายที่เย็นชา แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการเพียงความรักและการปลอบโยนเท่านั้นความเงียบปกคลุมทั่วห้อง ปลายฟ้าหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย ขณะที่ธีร์ก็หลับตาลงอย่างเจ็บปวด โดยหวังว่าเมื่อตื่นขึ้นมา แสงสว่างจากวันใหม่จะช่วยพาเขากลับไปยังจุดที่เขาทิ้งรอยยิ้มที่หายไปไว้เบื้องหลังได้แสงแดดยามเช้าลอดผ่านม่านทึบเข้ามาได้เพียงน้อยนิด ทว่าเพียงพอที่จะทำให้ปลายฟ้าค่อย ๆ ลืมตาตื่นจากห้วงนิทราที่แสนเหนื่อยล้า ปลายฟ้าตื่นขึ้นมาก็สบตาเข้ากับดวงตาคมเข้ม ที่อยู่ห่างออกไปเพียงคืบดวงตาคู่นั้นกำลังจ้องมองเธออยู่ อย่างเงียบงันธีร์ตื่นได้สักพักแล้วเขาไม่ได้ขยับตัว เพียงแค่นอนมองใบหน้าของคนในอ้อมแขนมาเนิ่นนาน เขามองคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างละเอียดถี่ถ้วนขนตาของปลายฟ้ายาวหนา เป็นแพสวยงามจมูกเล็กๆ ที่ดูดื้อรั้น รับกับปากอวบอิ่มที่เขาเคยประทับ รสชาติหวานละมุนนั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำลึกๆ ขอ
“ฉันต้องขอโทษแทนคุณเทวาด้วยนะคะ” อรัญญากล่าวอย่างรู้สึกผิด “ฉันรู้สึกผิดกับธีร์ และฉันเหนื่อยมาก ๆ เลย ค่ะ”อรัญญาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างอ่อนล้า“ฉันเข้ามาเป็นเมียน้อยในตอนแรก และยอมทนอยู่เพื่อรอให้ แม่ของธีร์เสีย ไป ก่อนที่ฉันจะได้ขึ้นมาเป็นคุณนายที่ถูกต้อง”คำสารภาพของอรัญญาดังก้องอยู่ในความเงียบงันของศาลาริมน้ำ กลิ่นหอมของดอกไม้ดูเหมือนจะเจือด้วยความขมขื่น ปลายฟ้านิ่งงันไป น้ำเสียงของอรัญญาไม่แสดงความรู้สึกผิดบาป แต่เป็นความเหนื่อยล้าจนถึงที่สุด ราวกับว่าการพูดความจริงออกมาเป็นภาระหนักอึ้งที่เธอแบกมานานปลายฟ้าจ้องมองใบหน้าของอรัญญาที่เงยขึ้นมองท้องฟ้าอย่างอ่อนล้า ใบหน้าที่มีร่องรอยความงามสง่า แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ฉากหน้าของ 'คุณนาย'“คุณ คุณอรัญญา” ปลายฟ้าเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา เธอไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจหรือควรจะถามคำถามใดออกไปอรัญญาค่อย ๆ ก้มหน้าลงมองมือของตัวเองที่ประสานกันบนตัก เธอพยายามควบคุมน้ำเสียงให้มั่นคง “ใช่ค่ะ ฉันอยากจะโกหกคุณ แต่ฉันเลือกที่จะบอกความจริง เพราะฉันรู้ว่าคุณเป็นคนเดียวที่จะเข้าใจความรู้สึกของธีร์”“การเป็น 'คุณนาย' ไม่ได้สวยง







