“เวรเอ้ย... มาวุ่นวายอะไรวันนี้วะ?” ครรชิต หนุ่มหล่อฐานะดี มีอนาคตไกล กำลังรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากบริษัทเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์อย่างเร่งรีบ ครั้นไปเดินชนกับหญิงสาวคนหนึ่งโดยบังเอิญ จนเอกสารหล่นไปกองกับพื้น
กระดาษปลิวว่อนกระจุยกระจาย และผมยาวของเธอก็บดบังเรือนหน้าเอาไว้ทั้งหมด แววตาของครรชิตมองเธอด้วยความรำคาญ พื้นที่ตั้งมากมายไม่เดิน ถือของก็ยังสะเพร่า แถมมาชนเขาตอนเวลาเร่งรีบแบบนี้ได้อีก
“ขอโทษค่ะ .. ขอโทษจริงๆ ค่ะ” ทั้งๆ ที่ ผลิขวัญ ถูกเขาเดินชนซะมากกว่า อีกอย่างรองเท้าส้นสูงก็ทำให้เสียหลัก จนเผลอปล่อยมือจากเอกสารที่กอดเอาไว้ ยิ่งรีบต้องวิ่งไปส่งรายงานสรุปตลาดวันนี้เสียด้วย... ดันมากระจายปลิวแบบนี้ได้อีก
“ผมกำลังรีบ ขอตัวก่อนนะ” เขาไม่มาเสียเวลาช่วยเธอเก็บเอกสาร เหมือนในละครโทรทัศน์หรอก เขาจึงรีบละเดินจากไป
ปล่อยให้ผลิขวัญก้มเก็บเอกสารเพียงลำพัง เธอเองก็รีบเช่นกัน เพราะต้องรีบกลับไปบ้าน หลังจากได้รับโทรศัพท์ตามกลับทันที...
******
ครรชิตยังรู้สึกหัวเสียมาก เพราะวันนี้บอร์ดกระดานออกมาเป็นวันแดงเดือด มันไม่ได้อยู่ในสถานภาพกลับบ้านด้วยความแฮปปี้ว่า น้องสาวพ่อจะมาอยู่บ้านระยะหนึ่ง เพราะเหตุบ้านของน้าสาวถูกยึดไป
เขาไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด น้องสาวพ่อถึงมาขออาศัยที่บ้านระยะหนึ่ง ด้วยการมาพึ่งพิงวันนี้ และพ่อก็โทรบอกให้เขากลับมาเร่งด่วน เพื่อมาทำความรู้จักพร้อมให้ความช่วยเหลือน้าสาวคนนี้
“แก่จนหัวหงอกแล้วยังจะมาเป็นภาระอีก” ครรชิตบ่นตามประสาคนหนุ่มไฟแรง
เขาพอจะจำความได้ อยู่ว่าพ่อมีน้องสาวคนหนึ่ง แต่เขาไม่เคยเห็นหน้าเลย เพราะจำความได้ครั้งสุดท้าย น้าสาวแต่งงานไปกับผู้ชายคนหนึ่ง ย้ายออกจากบ้านย่าทันที...
หลังจากนั้นก็ทราบข่าวว่า ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ไม่มีอะไรมาให้พ่อ แม้ว่าพ่อเขาจะป่วยลงก็ไม่เคยส่งเงินมา ตอนนี้พอน้าสาวลำบาก นางก็จะมาพึ่งพิงบิดาเขา
ครรชิตไม่อยากญาติดีกับน้าสาวเลย ยิ่งไปกว่านั้นผัวนางก็จะมาขออาศัยชั่วคราวอีก เขาถึงรู้สึกแย่เมื่อญาติมาทำตัววุ่นวาย และเป็นภาระแบบนี้....
******
ชายหนุ่มกลับมาบ้าน พบพ่อกำลังเขากลับมาอย่างใจจดใจจ่อ แววตาเครียดขมึงมองเขาราวกับจะจับผิด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว กลัวจะไปสงสารน้องสาวพ่อเสียมากกว่า
“วันนี้เราจะไปทานข้าวนอกบ้านกัน แกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ” ครรชิตมาถึงก็ถูกพ่อสั่งซะดื้อๆ เขามิได้เถียงหรือตอบ ทำได้เพียงแค่โยนกระเป๋าเอกสารส่วนตัวลงกับโซฟา แล้วเดินเข้าไปในบ้าน ทำตามคำสั่งคุณ คเชนท์ ไง
ชายหนุ่มห่อกายเบื้องล่างด้วยผ้าขนหนูสีขาวเพียงชิ้นเดียว สิ้นเสียงปิดประตูห้องอาบน้ำ เสียงสายน้ำออกจากฝักบัว รดความเย็นของสายน้ำลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย ปล่อยให้ความร้อนรนและความเครียดหายไป
ครรชิตจำไม่ได้ว่า น้าสาวหน้าตายังไง ไม่ได้เจอเสียนาน และภาพถ่ายก็ไม่เคยได้เห็น ห่างหายไปเกือบยี่สิบกว่าปี อยู่ดีๆ ก็นึกจะกลับก็กลับมาขออยู่บ้านพ่อ นับตั้งแต่ย่าเขาเสียไปได้กว่าสามปี ข่าวของน้าก็เริ่มมีมาเรื่อยๆ
ชายหนุ่มหลับตาอาบน้ำไปตามปกติ พลางพยายามทำจิตใจตัวเองให้ปกติสุข และไม่คิดอะไรมาก น้าแค่มาขออาศัยชั่วคราว ถ้าเขาได้ดีเดี๋ยวก็จากไปทิ้งเขากับพ่ออีก...
ระหว่างที่ครรชิตกำลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ชายหนุ่มได้ยินเสียงภายนอกห้องส่วนตัว มีเสียงของฝีเท้าหนักเดินบนพื้นภายในบ้าน สะเทือนมาถึงเท้าเขาภายในห้องได้ มีเสียงของคเชนท์และหญิงสาว ซึ่งกำลังวุ่นวายกับการย้ายเข้ามาในที่พัก
และมีอีกเสียงหนึ่งของผู้ชายที่เป็นเสียงใหม่ดังมาอีก ครรชิตแน่ใจว่า น้าสาวกับสามีของนาง คงเดินทางมาถึง และย้ายข้าวของเข้ามาอยู่ห้องของย่าที่เสียไป คงจะทำความสะอาด และเตรียมตัวมาอยู่ด้วยกัน
******
เพียงชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าลำลองเสร็จแล้ว ก็เป็นแค่ชุดเสื้อโปโลเชิ้ตกับกางเกงสุภาพสวมใส่พักผ่อนสบายๆ เขาเดินออกมาพบว่าข้าวของกองอยู่กลางห้องรับแขก และห้องของคุณย่าก็มีการทำความสะอาด จัดย้ายข้าวของแปลกใหม่เข้าไป
“ชิต! แกมาทักทายน้าของแกหน่อย น้องสาวพ่อไง” คเชนท์ตะโกนเรียกลูกชายให้มาพบ ทำให้สีหน้าของครรชิตไม่ค่อยสู้ดี เพราะพ่อค่อนข้างเป็นคนเอาแต่ใจ ขัดใจเขาไม่ได้ จึงเดินไปอย่างโดยมิได้ตอบใดๆ
เบื้องหน้าเขาปรากฏร่างของผู้สูงอายุ และหญิงสาวที่อายุไม่น่าห่างกับเขา ครรชิตไม่แน่ใจว่านี่ลูกสาวหรือน้ากันแน่ ทำไมเรือนหน้ายังดูดีและไม่ค่อยแก่มีอายุเลย
“นี่ ผลิขวัญ น้องสาวพ่อ และนั้นก็อาของแก คุณ ฐีรวัฒน์” ครรชิตเหลือบมองพลางยกมือไหว้อย่างสุภาพ ในขณะที่แววตาของผลิขวัญต้องเบิกกว้างราวกับตกใจ...
“เป็นอะไรไปรึ? ขวัญ?” คเชนท์กล่าวถามอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นท่าทางน้องสาวที่จากกันไปนาน แสดงอารามผิดปกติ
“อ้อ... ฉันเจอกับหลานแล้วค่ะ ที่ตลาดหลักทรัพย์วันนี้ เผลอเดินชนจนฉันหกล้ม หัวเข่าซ้ายเป็นแผลเลย” ผลิขวัญตอบน้ำเสียงราบเรียบ พลางถกกระโปรงปิดเข่า ถลกเปิดออกมาพบบาดแผลถลอกทำแผลไปเรียบร้อยแล้ว ปิดด้วยผ้าก๊อต
ทำไมเธอจะจำครรชิตไม่ได้ล่ะ เพราะเธอจำลักษณะท่าทางเขาได้ โดยเฉพาะเวลาเขาหงุดหงิดก็มักจะทำคิ้วเขม่งแบบนั้น น้ำเสียงก็หงุดหงิดตรงกับชายหนุ่มที่เดินมาชนเธอแรงๆ แล้วรีบเดินหนีจากไป
“นี่แกไปทำน้าเจ็บตอนไหน ไม่เห็นบอกพ่อเลย...” คเชนท์หันไปต่อว่าลูกชาย เนื่องด้วยทำให้น้องสาวของเขาบาดเจ็บเช่นนั้น
“ใครจะไปรู้ล่ะ ตอนนั้นน้าทำงานที่เดียวกับผม ก็รีบๆ กลับมาบ้านไง เพราะพ่อนั้นแหละโทรไปจิกผมระหว่างทำงานวุ่นๆ อยู่” ครรชิตรู้สึกสับสน ไม่ยักกะรู้มาก่อนว่าน้าสาวก็ทำงานในตลาดหลักทรัพย์ด้วย
“ไม่เป็นหรอก พี่คเชนท์ ขอบคุณมากสำหรับให้ที่พักชั่วคราว ถ้าฉันมีที่ไปจะไม่รบกวนพี่มากนัก”
ผลิขวัญหันมามองครรชิตอย่างยิ้มแย้มอ่อนโยน มองหน้าหลานชายอย่างใจดี แต่ฐีรวัฒน์อยากจะโกรธเอาความ ผลิขวัญยกมือห้าม พลางส่ายหัวว่าอย่าไปโกรธเด็กเลย
“ยังไงก็รบกวนสักระยะนะครับ พี่คเชนท์ ขอบคุณในความเมตตาของพี่ชายนะครับ” ชายหนุ่มผู้เป็นน้องเขยกล่าวกับคเชนท์ราวกับสำนึกบุญคุณ ทำให้เขาไม่กล้าจะต่อว่าครรชิตสำหรับเรื่องเดินชนผลิขวัญในวันนี้
“ยังไงก็รู้จักกันแล้ว เย็นนี้เราไปทานข้าวฉลองข้างนอกด้วยกันนะ” คเชนท์กล่าวสุภาพ พลางเปลี่ยนเรื่องคุยคลายสถานการณ์ตึงเครียดยามนี้
“ขอฉันไปจัดของกับพี่ฐีหน่อยนะ ขอตัวก่อนนะ ครรชิต” ผลิขวัญยิ้มอ่อนกล่าวสุภาพ พลางดึงสามีไปกับตน เพื่อกลับไปจัดห้องพักส่วนตัว อยู่ตรงข้ามกับห้องของครรชิต
******
“ทำไมน้าไปทำงานในตลาดหลักทรัพย์ได้ล่ะครับพ่อ” ครรชิตสงสัยว่าไปบังเอิญเจอน้าที่ทำงาน ก่อนมารู้จักกันที่บ้านได้ยังไง
“น้าแกทำงานตลาดหลักทรัพย์มานานแล้ว หลายปีก่อนมีเงินเยอะ ก็แบ่งเงินบางส่วนมาให้ย่าและพ่อ พร้อมพาตัวเองกับผัวไปอยู่บ้านใหม่ที่ต่างประเทศ ไม่กี่ปีถัดมารู้สึกว่าจะถังแตก ล้มละลายหมดตัว ก็เลยขอกลับมาอยู่บ้านพ่อนี่แหละ รู้สึกว่าอยากจะกลับมาตั้งตัวเร็วๆ ก็เลยกลับไปทำงานที่เดิม... พ่อไม่นึกว่าแกจะเจอน้าที่ทำงานไว้ก่อนแล้ว...”
คเชนท์เล่าเรื่องสั้นๆ ไปตามตรง คงจะไม่แปลกหากว่าระยะหนึ่งตอนที่ครรชิตยังเด็ก ย่ากับพ่อมีเงินค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่เคยพูดจาดีเรื่องน้าเลย พลอยทำให้เขารู้สึกแย่ไปด้วย เรื่องจริงเป็นแบบนี้ พ่อเลยรู้สึกผิดกระมัง ถึงให้น้ากลับมาอยู่
“เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง ทำไมพ่อถึงโกรธน้าล่ะครับ?” ครรชิตถาม แต่คเชนท์ไม่ตอบ บ่ายเบี่ยงว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ปล่อยให้ครรชิตไปตระเตรียมรถ พร้อมพาพวกเขาทั้งหมดบ้านไปทานข้าวนอกบ้านด้วยกัน
“แกไม่จำเป็นต้องรู้หรอก” คเชนท์หน้าหงุดหงิดบึ้งตึง ทำให้ครรชิตสงสัยว่า บางทีพ่อเขาอาจจะปิดความลับไว้บางอย่าง แต่เขานึกไม่ออกว่าจะเป็นเรื่องอะไร...
“พ่อ ! ผมถามอะไรหน่อยสิ ทำไมน้ายังสาวยังสวยอยู่ล่ะ?” ครรชิตคิดว่าเรื่องนี้พ่อเขาน่าจะตอบได้
“อ้อ... ก็อย่างที่บอกไง มีช่วงหนึ่งที่น้าแกมีเงิน ก็ไปศัลยกรรม ดึงหน้า ผ่าจมูก ตัดกราม เสริมอก ลดความอ้วน ทำผิวพรรณขาว สวยล่ะสิ ... อย่าไปสนิทมากเลย ผัวนางขี้หึงนะ... อยู่ห่างๆ เถอะ”
คเชนท์เล่าเรื่องคร่าวๆ แนะนำว่าอย่าไปสนิทกับน้าเยอะ เพราะถ้าพวกเขาตั้งตัวได้ ก็จากไปแล้ว...
“อ่อ... ผมไม่สงสัยเลย...” ภายในความคิดของครรชิต ก็แอบชื่นชมความงามของน้าเล็กน้อย เพราะตั้งแต่แรกพบที่เห็น เขารู้สึกใจเต้นแรง และตะลึงในความสวย หากไม่ติดว่าพ่อเขากับผัวนางยืนอยู่ คงจะสุภาพเวลาคุยมากกว่านี้
******
(ขอบคุณภาพเครดิตสวยๆ ยืมมาอ้างอิงเฉยๆ จาก G****e)
ปอมกำลังจูบนัวเนียอยู่กับบัวใกล้ห้องของฝน เขากำลังบดเบียดร่างบัวด้วยกายหนุ่ม หญิงสาวแหงนหน้ามองสูง เพื่อจูบกับชายที่อยากได้ทำผัว สวมกอดแนบแน่นแทบอ่อนระทวยเรือนร่างบางแนบชิดกายหนุ่มผอมบางแบนราบ เบียดกันแทบจะอยากเปลื้องผ้า เพราะเกิดอารมณ์อยากมีอะไรกัน ปอมรู้สึกลืมฝนไปจากใจชั่วขณะ จนเปลื้องผ้าช่วงล่าง และอยากจะอุ้มร่างบางเอาไว้ใต้สองแขนความเป็นชายเริ่มกระตุกตื่นเต้น ผงกหัวพร้อมจะพิชิตความเป็นสาวอื่น ซึ่งไม่ใช่ญาติน้องสาวอีกต่อไป บางทีฝนอาจจะชอบพอลก็ได้ และคงไม่ต้องการเขาอีก ปอมรู้สึกน้อยใจและหัวเสีย จะเป็นไรไปหากเขาจะอยู่กับบัว โดยไม่มีฝนความเป็นชายเริ่มเสาะหาปากร่องสวาท มันกำลังเปียกและเรียกร้องให้องคชาตเสียบกระแทกเสยเข้าร่างบัว หญิงสาวรู้สึกดีเมื่อปลายเท้าลอยทั้งสองข้าง เรือนหลังเธอแนบชิดกับกำแพงไม้ ระหว่างกำลังถูกก้อนเนื้ออวบยาวอัดเข้ากายเธอบัวถูกอุ้มแตงด้วยสองแขนที่แข็งแรงของปอม มันทำให้เธอรู้สึกดีกว่าตอนอยู่กับพอล ร่างเขาใหญ่และหนักอึ้ง ทำให้เธออึดอัดและหายใจไม่ออก แต่ตอนนี้ปอมกำลังอุ้มเธอ พร้อมกับสอดใส่ทำให้เธอรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกช่วงล่างของเธอกำลังขานรับกับขนาดของปอม และขมิ
เมื่อปอมกำลังเดินจูงมือกลับมากับฝน หลังจากเล่นน้ำตกเย็นๆ และเล่นน้ำขุ่นของปอมไปแล้ว บัวยืนรอปอมกับฝน เพราะจะขอเดินกลับมาด้วย“พอลล่ะ? มันไม่น่าทิ้งบัวอยู่ตรงนี้นะ” ปอมถามถึงเพื่อนที่พึ่งเป็นแฟนกับบัว และก็ได้กันเมื่อคืนนี้อย่างรุนแรง ทำเสียงดังตลอดคืน ทำไมตอนนี้ปล่อยให้บัวยืนรออยู่ที่นี่คนเดียว“พอลเดินเร็วมาก บัวเหนื่อยเลยตามไม่ไหว พอลบอกว่าให้รอปอมพาออกมา บัวก็เลยรอจ้า” บัวถือโอกาสขอกอดควงแขน และใกล้ชิดปอมระหว่างแววตาเธอเหลือบหันมามองฝนแอบอมยิ้ม เธอแค่อยากมั่นใจว่า ปอมกับฝนเป็นพี่น้องกัน“ถ้างั้นเราออกไปพร้อมๆ กันเถอะ เดี๋ยวจะได้กลับบ้านพร้อมกัน” ปอมไมได้สนใจบัว แต่ตั้งใจจะพาเพื่อนกลับไปด้วยกัน แต่สำหรับฝนเธอไม่ชอบใจที่บัวมาทำอะไรแบบนี้กับปอม ทั้งๆ ที่บัวก็เพิ่งจะได้กันกับพอลฝนรู้สึกแย่สุดๆ จนหน้าเครียดนิ่งเงียบ ไม่พูดอะไร เธอรู้สึกไม่ชอบที่บัวมาทำอะไรแบบี้กับปอมต่อหน้าเธอ แต่ไม่อาจแสดงอาการหึงปอมได้เลย เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอกับปอมได้เสียกับบ่อยจนแทบจะเป็นผัวเมียกันเสียเองพอลยืนรออยู่ที่รถ ให้ปอมกับฝนพาบัวออกมา เพราะเขาหิวน้ำก็เลยเดินไม่รอบัว ปล่อยให้ออกมากับปอม แบบเขาไม่ได้รู้
วันถัดมา พ่อแม่ของฝนยังคงจัดอาหารเลี้ยงครอบครัวเหมือนเดิม เป็นวันสบายๆ และทุกๆ คนก็หน้าตายิ้มแย้มเบิกบาน ราวกับรู้ว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นสายตาของพ่อแม่หันมองบัวกับพอล ซึ่งเมื่อคืนพวกเขานอนอยู่ด้วยกัน รอยยิ้มของผู้ใหญ่เบ่งบานออกมา แทบจะทำให้บัวค่อนข้างเขินอาย เพราะวันนี้เธอก็เดินขาถ่าง และปวดท้องระบมเสียด้วย เพราะมันคือครั้งแรกของเธอกับพอลเรือนหน้าของบัวแดงระเรื่อ แต่ไม่มีใครพูดอะไรให้บัวรู้สึกแย่ หรือโดนล้อเลียน เธอจึงมานั่งทานอาหารเช้า ซึ่งข้างๆ พอลก็นั่งอยู่ด้วย“เมื่อคืนหลับสนิทนะ” แม่ของฝนถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ พลางยิ้มแก้มปริออกมา เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบัว“อ่า ค่ะ ที่นี่นอนหลับสบายดีค่ะ” เธอตอบเสียงขัดเขิน ในขณะที่พอลยังคงทำตัวตามปกติ และเป็นผู้ชายที่คบกับบัว เขาไม่มีทีท่าว่าเหนื่อย ยกเว้นว่าจะหิวกว่าปกติ“ทานเยอะๆ นะ อาหารที่นี่ก็แค่พื้นบ้าน แต่ไม่น้อยกว่าใครที่ไหนนะ” แม่ของฝนกล่าวข้อดีของอาหารมื้อนี้ เพื่อให้บัวทานเยอะๆ พลางหันไปมองฝนซึ่งทำตัวเงียบระหว่างทานอาหาร“เพื่อนมีแฟนน่ารักดีนะ ฝน” แม่ของเธอชวนคุยอยู่คนเดียว เด็กสาวพยักหน้าไม่มองใคร นอกจากสนใจอาหารตรงหน้าอย่างเดีย
บรรยากาศความเป็นครอบครัวราบรื่นดี เพราะบ้านทางครอบครัวของฝน มีพื้นที่เยอะ และห้องพักหลายห้อง มันเคยเป็นบ้านหลังใหญ่สำหรับครอบครัวใหญ่ เมื่อทุกๆ คนแยกย้ายกันไป เลยปิดห้องพักว่างเปล่าเมื่อฝนกลับมาพร้อมๆ กับญาติของพ่อแม่ ปอมยกมือไหว้ โน้มตัวลงต่ำสุภาพ ตามด้วยบัวและพอล ซึ่งเป็นเพื่อนตามมาเที่ยวบ้านด้วย ทำให้พ่อแม่ของฝนยิ้มแย้มหัวเราะร่าเริง มีความสุขมาก หลังจากลูกสาวสอบเสร็จ ปิดเทอมกลับบ้านบัวได้ทำความรู้จักกับพอล และฝนแนะนำให้บัวลองคบกับพอลดู สายตาของเพื่อนหันมามองค้อนเล็กๆ ราวกับถูกจับคู่ตั้งแต่ก่อนมาที่นี่ แต่สายตาของพอลมองฝนทั่วทั้งเรือนร่าง เธอน่าสนใจกว่าบัวเสียอีกพอลไม่ค่อยชอบใจตอนที่ปอมจับคู่เขากับบัว ความจริงเขามีสิทธิ์ที่จะคบกับฝน หรือบัวก็ได้ ไม่ใช่บอกให้คบกับคนที่เขาจัดหามาให้ พอลคิดว่าน่าจะลองหาโอกาสดีๆ กับฝนดูบ้าง“คืนนี้ค้างที่บ้านตามสบายนะ พ่อกับแม่ขอตัวก่อน ฝากเก็บข้าวของให้ด้วยนะฝน” พ่อแม่ของเธอ เป็นคนเมตตามีน้ำใจงาม แต่ด้วยกาลเวลาที่ทำให้วัยและสังขารของพวกเขาร่วงโรยไปมากฝนอยากจะบอกพ่อแม่เรื่องปอม แต่ก็กลัวจะไม่เข้าใจและโกรธ จึงทำได้เพียงแค่เป็นลูกสาวที่ดี ชวนญาติแวะม
เช้าวันถัดมา ปอมและฝนต่างคนต่างหอบเสื้อผ้า เดินทางกลับบ้านของตัวเอง ซึ่งอยู่คนละทิศทาง ปอมจึงทำได้แค่สวมกอดน้องสาว และฝนก็ทำได้แค่โบกมือลายิ้มหวานให้ กว่าจะได้กลับมาเจอกัน ก็คือ คืนวันอาทิตย์...ทำไมฝนจะจำวันแรกที่เจอปอมไม่ได้ เขามีท่าทางแบดบอย และดวงตาที่กวนประสาท แต่พอรู้ว่าเป็นพี่ชายและน้องสาว ทำให้เธอต้องทำตัวดีกับเขา จนเขารู้สึกดีกับเธอเพียงแค่สวมกอดตอนจะเข้าห้องน้ำ ร่างเธอมีเพียงผ้าขนหนูพันกาย และตัวเขาก็เปลือยอยู่เบื้องหน้า นั้นคือครั้งแรกของเธอกับเขาในห้องน้ำ ซึ่งตอนนั้นป้าศรียังไม่กลับมาถึงบ้านยามเย็นหลังเลิกเรียนมหาวิทยาลัยในวันนั้น ฝนเสียความบริสุทธิ์ให้แก่ปอม และเขาก็ได้พูดปลอบใจบอกรักเธอมาเสมอ ถึงจะเป็นพี่น้อง ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอกับเขาจะรักและมีอะไรด้วยกันไม่ได้ฝนถูกอุ้มแตงในห้องน้ำ และปอมเป็นนักกีฬาที่แข็งแรงมาก เขากระแทกเธออัดเข้ากับกำแพง แทงองคชาตเสียบลึกจนเลือดแตกหลั่งไหล ทะลักออกมาทั้งเจ็บทั้งเกร็ง ฝนร้องไห้เพราะความเจ็บปวด ถึงจะกรีดร้องแทบห้องน้ำแตกปอมก็ยังไม่ปล่อยให้เธอหลุดรอดจนกระทั่งเขาเสร็จสุดๆ จึงปล่อยเธอวางง แล้วชักว่าวอัดฉีดน้ำขุ่นเข้าหน้าท้องของฝนที่เ
ปลายริมฝีปากฝนแตะขอบหัวบาก ระหว่างมันโผล่หัวพ้นเยื่อหนังหุ้มองคชาต มันกำลังตื่นเต้นกระตุกเสียว ฝนจึงอ้าปากกว้างเพื่อครอบงำมันเอาไว้ในคราเดียว ขบเม้มดูดปิ่มปลายให้ปอมนอนเสียวตัวสั่นเกร็งกัดฟัน มือกำผ้าห่มแน่น“ซี๊ด...!!!” ชายหนุ่มพยายามสงบสติอารมณ์ และพยายามไม่ส่งเสียงครางเสียงระหว่างที่เขาจะต้องใช้ปากโลมเลียปากทางเข้าร่องสวาทฝน เขาเลื่อนมือมาสอดแหย่เส้นตรงเมื่อกลีบอวบทั้งสองบวมปิดปากสนิทน้ำเมือกเปียกฉ่ำกำลังหลั่งไหลออกมาเรื่อยๆ เมื่อเรือนร่างหญิงสาวเริ่มสั่นสะท้านหลังจากปอมเริ่มใช้นิ้วมือแหย่เข้าไปเขี่ยกับยอดเม็ด และดึงช่วงล่างของฝนให้กระชับกับปากเขาปลายลิ้นหนาของปอมยื่นเลียนนอกกลีบอวบ และโลมเลียอยู่ปากร่องสวาทตอบรับเสียเริ่มเกิดอารมณ์หลั่งไหลสายน้ำหล่อลื่นออกมา ได้รสชาติเสียปอมเพลิดเพลินดื่มด่ำกับการใช้ลิ้นให้ฝนหญิงสาวอ้าปากครวญเสียว หลังจากปอมกำลังลงลิ้นให้กับของสงวนของเธอ มีแต่เขาเท่านั้นที่ได้ครอบครอง แม้ครั้งแรกที่ผ่านมา เขาก็คือชายคนแรกที่ได้พิชิตความพิศวงเรือนกายหญิงสาวฝนโน้มหน้าลงต่ำ เพื่อกลืนองคชาตเขาเข้าไปครึ่งลำ มันช่างอวบอิ่มใหญ่บวม แน่นคับปาก จนต้องใช้ลิ้นโลมเลียตามลำ