Share

3

Author: smith
last update Last Updated: 2025-10-06 13:09:20

บันไดไม้สี่ขั้นก่อนขึ้นถึงเฉลียงประดับด้วยกระถางดอกเจอเรเนียมสีแดงที่ปลายสุดทั้งซ้ายขวาทุกขั้น ตัดกับสีขาวพื้นหลังของบันไดและตัวเฉลียง โคมไฟต้นเสาตรงยอดบันไดทั้งสองฝั่งก่อนถึงประตูทางเข้าบ้านเปล่งแสงหรี่ระเรื่อ อบอุ่นทุกครั้งที่เธอเดินผ่านในเวลากลางคืน ซูชายตามองไปที่เฉลียงซึ่งมีชิงช้าสองที่นั่งตั้งอยู่เดี่ยวๆ ...โล่งไปนิด เธอคิดในใจ ซูวางแผนจะตกแต่งบริเวณนี้ด้วยเถาเฟิร์นเปอร์เซียอยู่แล้ว คงจะเปลี่ยนต้นเจอเรเนียมในกระถางที่บันไดไปด้วยเลย เธอเริ่มเบื่อไม้ดอกสีแดงตัดกับบันไดสีขาวนั่น และอีกไม่นานก็จะเบื่อเสียงอึกทึกในบ้านที่ขัดกับความสงบของบรรยากาศที่ควรจะเป็น ช่างเถอะ ทนอีกนิดเดียว เดี๋ยวคืนนี้ก็จะผ่านไป

ซูเปิดประตูเข้าบ้าน ดีใจที่แขกยินดีมางานเลี้ยงของเธอกัน แซมเองยังประหลาดใจเมื่อได้ยินว่าซูจะจัดปาร์ตี้ตั้งแต่แรก ฟังดูไม่ใช่เธอเลย ซูเป็นคนอ่อนหวาน รักความประณีต ใส่ใจในรายละเอียด ชอบความสงบเงียบ แต่จะทำอย่างไรได้ ในความเป็นผู้หญิงแบบสุดๆ ของซูนั้น มันปนด้วยความทะเยอทะยาน กระหายความสำเร็จ และการจะได้มาซึ่งความสำเร็จนั้น หลายๆ ครั้งมันก็ต้องฝืนใจ ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำแม้จะต้องฝืนทนสักเท่าไหร่

“ซู” ซูหันมามองตามเสียงเรียก ริคนั่นเอง

“ปาร์ตี้สนุกนะ ผมชอบเพลงที่คุณเปิดตอนแรกด้วยล่ะ” ริคพูดกับเธอ

“แล้วนี่คุณเดินไปไหนมาเหรอ” เขาถามต่อ กระตุกมุมปากอมยิ้มรอฟังคำตอบ

“ขอบคุณนะคะ ฉันก็ไม่มั่นใจนักหรอกทีแรก คนแบบฉันกับปาร์ตี้เนี่ยนะ แค่คิดก็จักกะจี้แล้ว” ซูตอบไปตามที่รู้สึกจริงๆ ริคเหลือบตามองด้านหลังซู ซูหันมองตามแนวสายตาของริคไป

“อ้อ เมื่อกี๊ฉันเดินไปดูรอบๆ น่ะค่ะ ไม่มีอะไรตรงนั้นหรอก คนแถวนี้เขาอยู่กันแบบสงบๆ กลัวเสียงเพลงจะไปรบกวนเขา คุณคงนึกไม่ถึงหรอกว่าอาทิตย์ก่อน ฉันต้องอบพายไปเคาะประตูบ้านสามสี่หลังใกล้ๆ แล้วแจ้งพวกเขาไว้ก่อนเลยว่าคืนนี้จะขอจัดงาน ครั้งเดียวเท่านั้น บางบ้านก็เข้าใจดี บอกฉันว่าทำได้เลยไม่ต้องเกรงใจ และขอบคุณที่อุตส่าห์มาแจ้ง บางบ้านก็แสดงสีหน้าออกมาหน่อยๆ ว่าไม่พอใจเท่าไหร่แต่ก็ยังยิ้มและรับพายไป เป็นฉันก็ไม่ชอบหรอก ดูบรรยากาศข้างนอกนี่สิ ฉันแทบไม่อยากกลับเข้าบ้านตัวเองเลย พอได้ออกมาเห็นดาวบนฟ้าแบบนี้” ซูตอบริคไปยืดยาวตามนิสัยเป็นมิตรและคุยเก่งของเธอ ริคยิ้มตลอดเวลาที่ตั้งใจฟังคำตอบของซู

“ไม่น่าเชื่อว่าคุณชอบอะไรเงียบๆ นะ อยู่ที่ทำงานผมเห็นคุณคุยเก่งออก คือหมายถึงว่า ปกติคนชอบอะไรเงียบๆ ก็น่าจะเป็นคนไม่ค่อยพูด แบบว่า ไม่ได้หมายถึงว่าคุณพูดมากนะ โอ้ย ตายจริง” ริคลูบศีรษะตัวเองแก้เก้อ ซูหัวเราะออกมา

“ฉันเข้าใจความหมายค่ะ ไม่ต้องคิดมากหรอก พูดเก่งแบบฉันน่ะ ยิ่งเข้าใจดีเลยเวลาคนพูดไม่ค่อยเก่งพยายามอธิบายหรือชวนคุยอะไร ฉันว่าน่ารักดีค่ะ” ซูทำหน้าตาเหมือนสาวน้อยเจ้าเล่ห์จอมรู้ทัน เธอก็ไม่แน่ใจหรอกว่าริคคิดอะไร แต่คนวัยทำงานอย่างเขาและเธอ หากจะบอกว่าไม่เอะใจเลยเวลาอีกฝ่ายเข้ามาคุยด้วยพร้อมอาการขวยเขินทุกครั้งก็คงไม่ใช่แล้ว ตอนนี้ริคยิ่งไปไม่เป็น ทำไมซูต้องพูดอะไรแบบนี้ด้วยเล่า เขาอายมากนะรู้ไหม

“แล้วนี่คุณมาตั้งแต่กี่โมงคะ” ซูรีบเปลี่ยนเรื่องถามเมื่อเห็นหน้าแดงๆ ของริค ผู้ชายอะไร อายุป่านนี้แล้วยังขี้อายเหมือนเด็กวัยรุ่นไม่เคยคุยกับผู้หญิง  

“มานานแล้วล่ะ เห็นคุณคุยกับแซมอยู่ ดูสีหน้าแซมไม่ค่อยดีตอนนั้น เผื่อพวกคุณคุยปรึกษาเรื่องสำคัญอะไรประสาผู้หญิงกันอยู่ ผมเลยไม่อยากเข้าไปขัด” ซูฟังแล้วนึกขึ้นได้ จริงสิ ตอนนั้นแซมเป็นอะไรนะ เธอเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันตั้งแต่ก่อนแซมจะลุกพรวดไปห้องน้ำแล้ว

“ถึงว่าทำไมคุณบอกได้ยินเพลงอิเลคโทรสวิง ฉันเปิดไว้ตั้งแต่งานยังไม่เริ่ม คุณมาเร็วขนาดนั้นแล้วไปอยู่ไหนล่ะคะ ทำไมฉันไม่เห็นเลย ตอนนั้นแขกก็เริ่มมากันแล้วนี่นา ฉันก็ไม่เคยจัดปาร์ตี้ พวกนี้ก็มากันทำไมตั้งแต่เย็นก็ไม่รู้”

“ผมก็ไปทักทายคนอื่นก่อนไง พอเห็นแซมลุกออกไป เจนีนก็เข้ามานั่งแทนที่ ผมก็กลัวจะคุยเรื่องผู้หญิงๆ กันอยู่อีก เลยไม่ได้เข้ามาทักสักที อีกอย่าง ในงานผมก็ไม่ได้รู้จักแค่คุณนะ ก็คนที่ทำงานทั้งนั้น ถ้าไม่นับผู้ติดตามที่แต่ละคนหนีบมาด้วยผมก็รู้จักหมด” ริคตอบคำถามซู ในใจก็นึกสงสัยว่าทำไมซูถึงเก่งนักเรื่องทำให้คนอื่นผ่อนคลายลง เขาเขินแทบจะแย่ แต่ซูเหมือนมีพลังลึกลับที่คอยทำให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายได้ ถ้าไม่ติดว่าเขามีแต่ความรู้สึกดีๆ กับเธอ ริคอยากจะคิดจริงๆ ว่าซูต้องเป็นแม่มดแหงๆ ซูยิ้มกว้างจนดวงตาปรี่เยิ้ม

“คุณนี่คิดเยอะจริงๆ เลย ไปหาแซมกันไหม สนิทๆ กันไว้ก่อน” พูดจบซูก็พยักหน้าชวนเขาตามมาแล้วหันหลังเดินไป ริคเดินตามเธอไปแล้วกลอกตาถอนหายใจ ทำไมซูพูดแบบนี้อีกแล้ว สนิทกันไว้ทำไม เพราะเดี๋ยวเราต้องเป็นแฟนกันใช่ไหมนี่ ริคเขินจนมือไม้เย็นไปหมดแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 6

    คืนนั้นผ่านพ้นไปจนถึงช่วงสายๆ ของวันต่อมา แคลร์งัวเงียลุกขึ้นจากโซฟา หยิบชุดนอนขึ้นมาสวม เธอเดินไปที่ห้องน้ำ เปิดประตูชะโงกหน้าเข้าไปมองดู แล้วจึงเดินขึ้นชั้นสองไปดูตามห้องต่างๆ ในบ้าน ออสซีกลับไปแล้วงั้นเหรอนี่ เธอกลับเข้าไปในห้องนอน หยิบแว่นตาที่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งขึ้นมาสวม ในห้องมืดสนิทแม้จะสายแล้ว เธอเดินไปอีก 4-5 ก้าวก่อนจะถึงหัวเตียง เธอหยิบมือถือขึ้นมาดู มืออีกข้างชักรอกม่านทึบแสงเปิดออก แดดส่องเข้ามาเต็มที่จนเธอต้องหลับตาหลบแสงจ้า แคลร์นอนแผ่หลาลงบนเตียง เมื่อคืนที่หลับไปบนโซฟาทำให้เธอปวดเมื่อยเนื้อตัวจากการนอนผิดท่า เธอยืดแขนขาจนสุดเหยียดแล้วจึงกดโทรศัพท์ดู มีสายไม่ได้รับห้าสายเป็นสายของแอนนาทั้งหมด เธอรีบโทรกลับทันที “ฮัลโหล แคลร์” แอนนารับสายโดยที่แคลร์ไม่ต้องรอนาน “แอนนา มีอะไรรึเปล่า” แอนนาเงียบไป “ไม่ใช่สิ คือฉันหมายถึงที่โทรมาตั้งห้าสายน่ะ มีเรื่องร้ายแรงอะไรรึเปล่า แล้วเมื่อคืนคุณกลับบ้านปลอดภัยดีใช่ไหม” แคลร์รีบเปลี่ยนคำถามให้เข้าท่าเข้าทางกว่าการถามว่า มีอะไรรึเปล่า พลางส่ายหน้าอย่างรู้สึกไม่ดีที่ถามแบบนั้นออกไป “เมื่อคืนฉ

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 5

    “ใช่ บางทีคนเราก็มีเรื่องมากมายที่เล่าให้ใครฟังไม่ได้ ถึงจะอยากเล่าอยากเอ่ยมากแค่ไหนก็ตาม” เธอจิบวิสกี้ตามปิดท้ายประโยค เวลานี้ออสซีรู้สึกเหมือนแคลร์กำลังแบกอะไรเอาไว้ในอก เขาต้องช่วยแบ่งมันมาไหมนะ อย่าเลยดีกว่า เพราะเขาพยายามมาแต่ไหนแต่ไรแล้วที่จะไม่ให้คนอื่นเข้ามาชิดใกล้เกินไป เงื่อนไขหนึ่งคือต้องไม่รู้ความลับของคนคนนั้นด้วย แคลร์ขยับเข้ามาใกล้เขา เธอซบลงบนไหล่ของออสซี “ไหล่คุณกว้างพอดีตัวฉันเลย ออสซี ดูสิ อบอุ่นสบายดีจัง” แคลร์พูดแล้วแหงนหน้ามาส่งยิ้มให้ คางของเธอยังเกยอยู่ที่ไหล่ของออสซี ออสซีตัวแข็งทื่อ “นั่งดีๆ น่าแคลร์ โซฟาตั้งกว้าง” เขาเบี่ยงตัวพยายายามออกห่าง แต่แคลร์กอดเขาเอาไว้ “ไม่เอาอ่ะ ตรงนี้ล่ะสบายดีแล้ว เรานอนกันตรงนี้เลยดีไหม” แคลร์ถาม “ก็ได้ เอาสิ บ้านคุณนี่นะ” ออสซีตอบ แคลร์ดันตัวออสซีลงนอนบนโซฟาโดยที่ตัวของเธอทับเขาอยู่ด้านบน “อุ้ยแคลร์ นอนดีๆ สิ ขยับไปหน่อย ผมไปนอนโซฟาตัวนู้นก็ได้” แคลร์จูบปากออสซี เขาตกใจมาก “แคลร์ แคลร์” เขาผละตัวเองออก แคลร์ยังไม่หยุด “คุณบอกเองนะว่าบ้านฉัน ฉันก็ถามแล้วว่าเรา

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 4

    “เอาเลย ไม่ต้องเกรงใจ” แคลร์ยกแก้วขึ้นจิบนำ “มาร์ตินี่เผือกเหรอ” ออสซีถาม แคลร์ยกแก้วขึ้นที่ริมฝีปากอีกครั้ง คราวนี้ดื่มเข้าไปเต็มอึก “ลองดูซิว่าใช่ไหม” แคลร์บอก ออสซียกแก้วขึ้นจิบ แล้วทำท่าเหมือนจะสำลัก “อะไรเนี่ย” เขาทำสีหน้าบูดเบี้ยว “ชาทิเบต แอนนากับแซมได้ชิมแล้วนะ เหลือแต่คุณที่ยังไม่ลอง” ออสซีคุ้นๆ ว่าได้ยินแคลร์พูดถึงอยู่เมื่อวันก่อนตอนแซมมาถ่ายงานที่นี่ “ขอโทษนะฮะ รสชาติไม่ได้เรื่อง” เขาบอกแคลร์ไปตรงๆ “มันดึกแล้ว ก็บอกแล้วไงว่าดื่มอะไรกันเบาๆ ดีกว่า ให้ฉันรินอย่างอื่นมาให้เดี๋ยวเกิดเมาแล้วได้กันเองทำไงล่ะ” แคลร์หยอกออสซี ตอนนี้เธอยิ้มออกแล้ว “บ้า” ออสซีเอียงอายสวนกลับไป “นั่นคุณเขินเหรอ” แคลร์ถามเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของออสซี “ก็คุณพูดบ้าอะไรเล่า” ออสซีหน้าแดง “พูดบ้าอะไร ฉันก็ล้อเล่น ทำเป็นไม่เคยไปได้” แคลร์มองออสซีอย่างประหลาดใจ แต่เธอก็ยังยิ้มให้เขา ออสซีหลบสายตาแซมอย่างชัดเจน เขาลองดื่มชาอีกครั้ง คราวนี้เขาลองดื่มให้เต็มอึก ค่อยๆ กลืนมันลงไป แล้วบอกกับแคลร์ “ไม่ไห

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 3

    “หาห้องนอนเอานะ ของกินเครื่องดื่มมีอยู่ที่โซนครัว บริการตัวเองตามสบาย” แคลร์พูดแบบไม่หันหน้ามามองออสซีเลย จังหวะนี้เขารู้สึกไม่ค่อยดี “ผมกลับไปนอนบ้านตัวเองได้นะ ถ้าคุณไม่สะดวก ไว้เจอกัน” ออสซีรอฟังคำตอบจากแคลร์ แคลร์หันมามองเขา “ขอโทษทีค่ะ ฉันเสียมารยาทไปหน่อย แต่บ้านนี้ต้อนรับคุณเสมออยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่รอให้คุณกลับด้วยกันหรอก นอนนี่แหละ ดึกแล้ว ขอโทษอีกที คราวหน้าฉันเลี้ยงนะ” แคลร์บอกกับออสซี ทั้งที่ทุกครั้งเธอจะเป็นเจ้ามือเกือบจะตลอด ออสซีคลายสีหน้าลง “ครับ” เขาตอบแคลร์สั้นๆ “พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะ ราตรีสวัสดิ์” แคลร์ยิ้มอ่อนๆ ให้เขาแล้วชูมือขึ้นมาบอกราตรีสวัสดิ์ตอบ แคลร์เดินขึ้นชั้นสองไป ออสซีทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วกลับต้องสะดุ้งโหยง “ตาบ้า!” แคลร์ชะโงกหน้ามาเอ็ดเขาจากหัวบันได ออสซีกระเด้งขึ้นมานั่ง หันหน้ามามองตามเสียง “ขึ้นมาชั้นสองสิยะ ห้องหับเยอะแยะ เลือกเอา!” แล้วแคลร์ก็ผลุบหายไปอีก ออสซีไม่ได้ตอบอะไร เขาเหนื่อยใจกับผู้หญิงกลุ่มนี้จริงๆ “ผมว่าจะนั่งพักสักเดี๋ยวนึงก่อนน่ะ ขอบคุณมากนะแคลร์” เขาตะโกนขึ้นไป แ

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 2

    แคลร์มองตามหลังแซมที่เดินออกจากร้านไปอย่างรู้สึกไม่ดี เธอหันมามองแอนนาซึ่งรอสบตากับแคลร์อยู่แล้ว แคลร์เม้มปาก ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงไม่เห็นด้วยกับการกระทำ “ให้ฉันลาออกเลยไหม” แอนนาถาม ทุกคนในโต๊ะตึงเครียดไปกันใหญ่แล้ว “เดี๋ยวก่อนแอนนา คุณเป็นอะไรของคุณ ถ้าฉันใช้งานคุณหนักไปก็ขอโทษด้วยนะวันนี้” แคลร์ขอโทษปัดๆ ไปเพื่อไม่ให้บรรยากาศในโต๊ะยิ่งแย่ ออสซีไม่รู้จะพูดอะไร เขาหยิบไหมไทยที่เหลือกระดกลงคอจนหมด แล้วลุกขึ้น “คืนนี้เรากลับกันก่อนแล้วกันนะ ผมไปจ่ายเงินก่อน พวกคุณนั่งคุยกันไป ผมจะไปจ่ายที่เคาน์เตอร์เลย” “เดี๋ยวฉันเคลียร์ให้นะ ออสซี” แคลร์ตะโกนไล่หลังมาแบบไม่ดังมาก “ไม่เป็นไร ผมเลี้ยงเอง มีของแซมที่ช่วยจ่ายมาแล้ววางอยู่บนโต๊ะ ผมเลี้ยงที่เหลือไหวน่า” ออสซียิ้มให้แคลร์แล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ แอนนายังคงนั่งเฉยในท่าไขว่ห้าง “ตกลงยังไง” แอนนาถามแคลร์ “แอนนา ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นอะไรนะวันนี้ แต่รบกวนช่วยให้เกียรติฉันในฐานะนายจ้างด้วย ฉันไม่เคยอยากไล่คุณออก คุณก็รู้นี่ว่าฉันไว้ใจและชอบการทำงานของคุณ แต่นี่อะไร คุณม

  • I'm all yours   สรรพเสียงของค่ำคืน 1

    ดวงไฟประดับห้อยระย้าเป็นแนวระหว่างต้นไม้ในร้าน ตัดกับท้องฟ้ายามกลางคืนที่มืดไร้แสงจันทร์ แซมเงยหน้าขึ้นมองฟ้าอย่างผ่อนคลาย บรรยากาศในร้านยังอบอุ่นไม่เปลี่ยนไป มันยิ่งทรงเสน่ห์มากขึ้นด้วยแสงนวลๆ ของไฟประดับที่โยงเป็นแนวระหว่างต้นไม้สูงแต่ละต้น และไฟดวงที่เล็กกว่าเหมือนหมู่ดาวบนเรือนยอดไม้ ไม่รู้เพราะอะไรแซมถึงชอบเวลากลางคืนนัก มันสงบทั้งที่โดยรอบก็ครึกครื้น มันรู้สึกผ่อนคลายแม้จะมีเสียงพูดคุยจอแจ แม้ว่าบางเสียงจะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ แซมชอบสีดำ ชอบความมืดของค่ำคืน ชอบความเงียบที่ถูกเสียงต่างๆ สอดแทรกรบกวนอยู่ตลอดจนกว่าจะดึกสงัดจริงๆ ยิ่งมีลมพัดมาเป็นระยะอย่างนี้ เหมือนธรรมชาติที่แฝงตัวอยู่ในเขตเมืองกำลังพยายามปลอบประโลมเธออย่างแผ่วเบาเมื่อสายลมนั้นพัดเข้ามากระทบร่าง แซมสูดหายใจเข้าออกอย่างผ่อนคลาย ลูกค้าหลายๆ โต๊ะในร้านเริ่มเป็นลูกค้าหน้าเดิมๆ ที่มากันตั้งแต่เย็น จนล่วงเลยเวลาของมื้อค่ำกลายมาเป็นชั่วโมงกินดื่มกับกลุ่มสังสรรค์แล้ว โต๊ะของแซมก็เช่นกัน พวกเขายังนั่งอยู่ที่โต๊ะเดิม ยังสั่งอาหารกันเรื่อยๆ สลับกับเครื่องดื่มเป็นระยะ “ทำไมเราไม่ไปไนต์คลับกันซะเลยนะ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status