LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาส
Chapter 5 แสงอรุณยามเช้าสาดส่องเข้าทางหน้าต่าง ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงนอนด้วยความอ่อนล้า เดินเข้าห้องน้ำไปพลางบีบคอสะบัดเบา ๆ เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาทีประตูห้องน้ำเปิดออก เขาเดินมายังตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดใส่ไปทำงานในวันนี้ ตู้เสื้อผ้าเรียงรายด้วยชุดทำงานเป็นแถวทางด้านขวามือของเขา ส่วนทางด้านซ้ายมือเป็นชุดสำหรับไปเวท ภูวดลเอื้อมมือไปหยิบชุดทำงานสีดำสนิท ก่อนจะเปิดตู้ด้านล่างเพื่อเลือกหยิบเนคไท ภูวดลอยู่หน้ากระจกใส่ชุดสูทผูกไทอย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกจากห้อง ถึงแม้จะเป็นเวลาเช้าที่เขาจะต้องไปทำงาน แต่เมื่อคืนเขานั้นแทบจะนอนไม่หลับ เพราะเมื่อวานหลังจากที่เขากลับมาถึงบ้าน มารดาของเขาว่ากล่าวเขาอยู่นาน ที่ไปมีความสัมพันธ์กับพิมพ์ดาราหรือลูซี่ อีกทั้งยังเป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนของผู้เป็นบิดา ทำให้ต้องขายหน้าคนในร้านอาหาร ชายหนุ่มก้าวลงบันได ออกมาพร้อมกับกระเป๋าเอกสารที่ถืออยู่ในมือซ้าย เมื่อเขาเดินลงมาสุด เขายื่นกระเป๋าลงให้ลุงแช่มคนขับรถประจำบ้านเพื่อนำไปเก็บไว้ในรถของเขา “ตาดล จะไปทำงานเหรอ ไม่ทานข้าวเช้าก่อนล่ะ” เสียงของผู้เป็นแม่เรียกเขา ภูวดลหันไปหาแล้วยิ้มให้กับสุชารัตน์ “ไม่ครับ” เขาตอบก่อนจะเดินไปใส่รองเท้าที่อยู่หน้าประตู “อ้อ ! จริงสิแม่ลืมบอกไป วันนี้หนูลิสาจะเข้าไปทำงานที่โรงแรมของลูกด้วย ยังไงลูกก็ดูแลน้องเขาด้วยละกัน” เมื่อได้ยินชายหนุ่มหันหน้ามามองอย่างทันที คิ้วคมเข้มขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ “หมายความว่ายังไงครับ จะให้...ลิสามาทำงานที่โรงแรมเหรอครับ” “ใช่ แม่เป็นคนชวนมาเองแหละ ลูกสองคนจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ถ้าอยู่กันคนละที่ จะมีเวลาดูใจกันได้ไง” สุชารัตน์พูดออกมาด้วย สีหน้าและแววตาที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข แต่หากคนเป็นลูกชายกลับเริ่มนิ่งหน้าเครียดขึ้นมาทันที แต่เขาก็ได้เพียงแต่ยิ้มตอบผู้เป็นแม่กลับมา “ครับ ผมจะดูแลให้เป็นอย่างดี งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ” ภูวดลพูดจบยกมือกล่าวสวัสดี ก่อนจะเดินขึ้นรถแล้วขับออกไป ใช่! เขาจะต้อนรับเธอเป็นอย่างดี รถยนต์คันหรูแล่นอยู่บนถนนสี่เลนก่อนจะเลี้ยวเข้าโรงแรมอธิพัฒน์เดชากรแล้วหยุดจอดลงช้า ๆ ประตูรถถูกเปิดออก ขาเรียวยาวที่ถูกคลุมด้วยกระโปรงสีน้ำเงินสไตล์วินเทจก้าวออกมาพร้อมกับหันไปปิดประตูรถ สายตาคู่หวานมองไปยังหน้าโรงแรม ชาลิสาก้าวเท้ายาวเข้าไปในโรงแรม กระโปรงสีน้ำเงินและรองเท้าสีดำพร้อมกับใบหน้าเรียวสวย ทำให้พนักงานหรือแม้แต่แขกที่อยู่หันมามอง บรรยากาศภายในโรงแรมดีกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก สายตาของเธอหันไปทางด้านขวาซึ่งเป็นล็อบบี้ของโรงแรม สังเกตเห็นคนมากมายที่นั่งพูดคุยหรือรับประทานอาหาร เธอชำเลืองเพื่อหาเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าห้องท่านประธานอยู่ชั้นไหนคะ” เสียงหวานเอ่ยถามพนักงานที่เคาน์เตอร์พลางยกมือขึ้นทาบที่เคาน์เตอร์เพื่อรอฟังคำตอบ “ได้นัดเอาไว้ไหมคะ” พนักงานสาวถาม “ไม่ค่ะ” “งั้นคงบอกไม่ได้หรอกค่ะ เพราะท่านประธานสั่งไว้ค่ะ” พนักงานสาวพูดแล้วยิ้มออกมาอย่างสะใจ ในใจของพนักงานสาวคงคิดว่าเธอจะมาอ่อยเจ้านายถึงได้พูดกับเธอแบบนี้ “งั้นเหรอคะ สงสัยฉันคงต้องโทรไปถามคุณสหรัฐซะหน่อยดีกว่าคะ” ชาลิสาพูดอย่างเรียบๆ แล้วยิ้มหวานให้พนักงานสาว พลางค้นหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายของเธอ แต่ใบหน้าของคนที่ได้ยินชื่อก็เริ่มซีดออกมา เมื่อรู้ว่าต้องเป็นแขกคนสำคัญ ถึงกล้าเอ่ยนามของประธานใหญ่ได้ “เอ่อ...ท่านประธานอยู่ชั้นที่ 26 ค่ะ ขึ้นลิฟต์ไปแล้วเดินไปทางด้านขวามือค่ะ” พนักงานสาวรีบพูดทันที ชาลิสายิ้มให้แล้วเดินไปที่ลิฟต์ก่อนจะก้าวเข้าไปในลิฟต์ ชายหนุ่มนั่งอ่านเอกสารอยู่ในมือ แต่ว่ารอยยิ้มของเขากลับไม่ได้มาจากเอกสารที่อยู่ในมือแม้แต่น้อย เขาเตรียมต้อนรับว่าที่เจ้าสาวของเขาเอาไว้แล้ว ฮึ ! อยากจะดูสิว่าจะทนได้สักกี่วัน ภูวดลเงยหน้าขึ้นไปมองประตูที่เปิดออก ใบหน้าที่เขายังคงจำได้ ครั้นพบเธอที่ร้านอาหารในงานนัดดูตัว เธอเดินก้าวเข้ามาหาเขาก่อนจะนั่งลงบนโซฟาอย่างนิ่งเงียบด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่ง “คุณมาทำอะไร ?” ภูวดลถามแล้ววางเอกสารลงบนโต๊ะ พลางมองเธอก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้ามาหา หญิงสาวที่นั่งนิ่งเงียบอยู่ที่โซฟา “ก็มานั่งรอไงคะ เผื่อจะมีงานอะไรให้ช่วย คุณแม่ของคุณบอกว่าให้ฉันมาช่วยคุณทำงาน” เธอหันหน้ามาทางเขา พร้อมยิ้มหวาน “ว่าแต่มีอะไรให้ช่วยไหมคะ คุณท่านประธาน” ชาลิสาพูดแล้วยิ้มหวานให้เขา แต่ภูวดลกลับยิ้มแบบไม่เป็นมิตรกลับมาให้ “มีสิ” เขาพูดแล้วเดินไปกดโทรศัพท์ที่โต๊ะ “ชนาภา คุณเอาของที่ผมให้เตรียมเมื่อเช้า เข้ามาให้ผมหน่อย” ประตูเปิดออกพร้อมกับเลขาส่วนตัวของภูวดลก้าวเข้ามา ชนาภาถือชุดอยู่ในมือหนึ่งชุด เธอลุกขึ้นหรี่ตามองและหันไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “เอาให้เธอไป” ภูวดลพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆ ชนาภาเมื่อได้ยินก็อึ้งเล็กน้อย “เอ่อ...เจ้านายคะ...แต่นี้มัน...” ชนาภามองหน้าของเจ้านายแล้วเหลือบไปมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเจ้านายอีกครั้ง “นั่นแหละ ส่งให้เธอ” เขาพูดพลางยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ชนาภาได้แต่ทำหน้างุนงง เดินเข้าไปหาชาลิสาก่อนจะยื่นชุดที่อยู่ในมือให้ ชาลิสามองชุดที่อยู่ในมือของชนาภาด้วยความตกใจ เธอหันหน้าไปทางชายหนุ่มที่ยืนอมยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “นี่มันชุดแม่บ้านนี่คะ ! คุณเอามาให้ฉันทำไม” หญิงสาวตวาดเสียงดังลั่นห้อง พลางมองเขาด้วยสายตาที่โกรธจัด สีหน้าของเธอเมื่อยิ่งโกรธยิ่งแดงขึ้นเรื่อย ๆ แต่เขากลับยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ส่วนชนาภาเห็นว่าเริ่มมีท่าทีที่ไม่ดี เธอจึงเดินเข้าไปวางชุดที่โซฟาแล้วรีบเดินออกจากห้องไป ในห้องทำงานตอนนี้เหลือเพียงแต่ภูวดลและชาลิสา เธอจ้องคนตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ พร้อมเดินเข้ามาหาภูวดลที่ยังคงยืนนิ่งและยิ้มออกมาเช่นเดิม “คุณตั้งใจแกล้งฉันใช่ไหม คุณภูวดล !” เธอถามออกไปด้วยน้ำขุ่นเคืองปนโมโห ชายหนุ่มส่ายหน้าหัวเราะออกมา “เปล่า ผมก็แค่คิดว่าพนักงานใหม่ควรเริ่มงานที่ง่าย ๆ ก่อน” เขาพูดแล้วยิ้มเยาะเย้ยเธอ พร้อมทำหน้ากวนอารมณ์ให้เธอ “งานง่าย !” คนฟังเมื่อได้ยินก็พยักหน้าเป็นคำตอบ “ฉันจบปริญญาจากเมืองนอกมานะ ! จะให้มาทำงานแม่บ้านได้ยังไง ฉันไม่ทำ !” เธอพูดแล้วเชิดหน้าใส่เขา มีที่ไหนเรียนจบปริญญาจากเมืองนอกกลับมาที่ไทยแล้วทำงานแม่บ้าน “ผมว่าเป็นงานที่น่าภูมิใจนะ” เขาลอบยิ้มออกมา แต่คนฟังกลับมองเขาด้วยสายตาที่โกรธมากกว่าเดิม “ภูมิใจ ?” “ใช่ เพราะผมอุตส่าห์ให้คุณเป็นถึงหัวหน้าแม่บ้านเลยนะ” เขาพูดแล้วยิ้มให้เธอ แต่คนฟังถึงกับอึ้งพูดไม่ออก หัวหน้าแม่บ้าน ! เขาจงใจแกล้งเธอชัดๆ “คุณภูวดล !” เธอจ้องมองเขาด้วยความโกรธ “ครับ” เขาตอบแล้วยิ้มกลับมาให้เธอ ชาลิสาได้แต่กำหมัดแน่นพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ามายิ้มหวานให้เขา “ก็ได้ค่ะ ในเมื่อคุณว่าที่สามีอุตส่าห์ เชิญมาเป็นแม่บ้านทั้งที สงสัยจะปฏิเสธไม่ได้ซะแล้วสิคะ” เธอพูดแล้วมองใบหน้าคมเข้มที่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ “โรงแรมผมคงจะดังน่าดูนะครับ ที่แม่บ้านมีวุฒิจบจากเมืองนอกมาสมัครงาน” เขาพูดพลางยิ้มออกมา ชาลิสาได้แต่ยิ้มตอบแล้วเก็บกลั้นอารมณ์ไว้ “ว่าแต่จะเริ่มงานเลยนะคะเจ้านาย” เธอกัดฟันพูด พร้อมเดินเข้ามาหยิบชุดที่วางอยู่บนโซฟาก่อนจะเดินออกจากห้องไป ภูวดลมองชาลิสาเดินออกไปด้วยความสะใจ ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะทำงานเช่นเดิม โดยไม่รู้ว่าเจ้าของร่างงามนั้นอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดังๆ หญิงสาวเดินออกมาจากห้องทำงานของชายหนุ่มด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่โมโหเขาอย่างสุดขีด เธอหันไปมองประตูห้องทำงานของเขาอีกครั้งก่อนจะยิ้มออกมาที่มุมปากเรียว ทันทีก้าวพ้นจากห้องทำงานของภูวดล เธอเดินตรงไปยังลิฟต์พร้อมกับโยนชุดแม่บ้านทิ้งถังขยะที่อยู่หน้าลิฟต์ด้วยความโมโห เขาทำกับเธอไปได้ยังไง ! อย่าหวังว่าทำกับเธอแบบนี้แล้วเธอจะยอมแพ้ง่ายๆ ในเมื่อเข้าทางเขาแล้วเธอมีแต่จะเสียเปรียบก็เข้าทางผู้ใหญ่ซะดีกว่าบทสรุป (จบ) แสงนวลของดวงจันทร์ส่องไปทั่วท้องฟ้ายามราตรี หลังจากที่เขียนบันทึกเสร็จชาลิสาเดินออกมาอยู่ที่หน้าระเบียง เธอแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า พร้อมสูดหายใจเข้าลึก ๆ คิดอะไรไปเรื่อย โดยที่ไม่รู้ว่าสมุดบันทึกที่อยู่บนโต๊ะของเธอนั้นได้อยู่ในสายตาของใครบางคนที่จ้องจะอ่านมานานมากแล้ว ทันทีที่เขาเดินออกห้องน้ำ สายตาเขามองไปที่โต๊ะแต่ไม่เห็นภรรยา กลับเห็นสมุดที่ชาลิสาชอบหยิบขึ้นมาเขียนหลายครั้ง ภูวดลหยิบสมุดขึ้นมาพร้อมยิ้มด้วยชัยชนะ เขาเปิดอ่านเนื้อความข้างในตั้งแต่หน้าแรก ....วันนี้ฉันได้พบกับรุ่นพี่คนหนึ่ง เขาหล่อมากๆ เลยล่ะ แต่จะทำยังไงให้เขารู้นะว่าฉันแอบชอบ...... สายตาของภูวดลไล่เปิดอ่าน อ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดอยู่ที่หน้ากระดาษแผ่นหนึ่ง ...รุ่นพี่คนนั้น เค้าใจร้ายทำกับฉันได้ อุตส่าห์ทำคุกกี้ให้แล้วแท้ๆ แต่ทำไมไม่รับของจากฉัน แถมยังเอาไปให้คนอื่นอีก...เจ็บมากเลย... มือหนาพลิกกระดาษหน้าต่อไป เรื่องราวยิ่งคุ้นๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเธอเคยเล่าให้เขาฟัง ...เขาด่าฉัน...ฉันไม่สวย อ้วน...ทำไมต้องทำร้ายจิตใจฉันด้วยนะ...เจ็บจัง... ข้อความนั้นก็ไม่ได้ทำให้ภูวดลสนใจไปกว่าหน้านี้ วันที่ที
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 45 [The End]เสียงเพลงในผับยังคงดังกระหึ่มเหมือนทุกครั้งที่เข้ามา พิมพ์ดาราก้าวเท้าเข้ามากวาดสายตาหามุมที่เงียบสงบนั่ง เพียงแค่ให้เธอได้อยู่ทำใจสักพัก ทั้งที่ต้องไปงานแต่งของน้องสาวตัวเอง แต่กลับทำใจรับไม่ได้ เธอจึงได้แค่ส่งตัวน้องสาวของเธอจากที่คอนโด ฯ แค่นั้น ถ้าหากเธอไปเธอจะห้ามใจไม่ให้เลิกรักเขาได้ ขออยู่ห่างเขา ใช้เวลาเป็นเครื่องแปรเปลี่ยนทุกอย่าง เธอจะทำใจและลืมเขาได้ความรู้สึกนี้ทำไมถึงไม่เคยเป็น เธอคงจะเหงา และมากด้วยสินะ วันนี้แพรวาจะไม่ได้อยู่ที่คอนโดของเธออีกแล้ว เธอคงต้องอยู่คนเดียวพิมพ์ดารามองแก้วไวน์ในมือด้วยสายตาที่เหม่อลอย หยดน้ำตาค่อยไหลรินบนใบหน้า หัวใจถูกบีบรัดด้วยความเจ็บปวด เธอควรจะดีใจ และยินดีกับน้องสาวของเธอนานมากแล้วที่เธอพยายามวิ่งตามเขา เพื่อที่จะให้เขาหันมาสนใจ ทำทุกอย่าง เอาใจเขา สุดท้ายก็ได้เพียงแค่นี้ ความสัมพันธ์ทางกาย แล้วร่างกายที่สกปรกของเธอยังจะมีใครต้องการอีก“ผู้หญิงเวลาร้องไห้ ไม่น่ามองนะครับ” เสียงนุ่มเอ่ยทักขึ้น พิมพ์ดาราเงยหน้าขึ้นไปมอง พลางใช้นิ้วเช็ดคราบน้ำต
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 44“คุณแคทคะ” ชาลิสาเรียกอีกครั้ง เธอเอื้อมมือไปกุมมือของแคทเธอรีนด้วยความห่วงใยและสงสารใบหน้าที่เอ่อคลอด้วยน้ำตาค่อยๆ หันหน้ามามองชาลิสา เธอเข้าใจแล้ว ทำไมภูวดลถึงรักผู้หญิงตรงหน้ามากกว่าเธอ ทำไมถึงแคร์ผู้หญิงตรงหน้ามากกว่าเธอ เพราะเธอมันเห็นแก่ตัว....“แคท ผมมาเยี่ยมคุณ” ภูวดลพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่นหยดน้ำตาบนใบหน้าแคทเธอรีนยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเมื่อครู่ นานมากแล้วที่ไม่ได้ยิน นานมากแล้วที่เธออยากให้เขาพูดกับเธอแบบนี้“วันนี้ท้องฟ้าสดใสนะคะ”“คุณแคท”แคทเธอรีนหันมองที่ชาลิสาและภูวดลทั้งน้ำตา“ขอโทษ...แคทขอโทษ...ทุกอย่างเพราะแคท...” เสียงสะอื้นร้องชาลิสามองแคทเธอรีนด้วยความสงสาร นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แคทเธอรีนพูดขอโทษ แต่เป็นทุกครั้งที่เธอและภูวดลมาเยี่ยม“อย่าทิ้งแคทนะคะ...อย่าทิ้งแคทไป...”“ลิสากับพี่ดลไม่ทิ้งคุณแคทไปไหนหรอกนะคะ” แคทเธอรีนเอื้อมมือไปจับที่นิ้วเรียวสวยของช
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 43“แคท” เสียงคุ้นเคย ทำให้แคทเธอรีนหยุดและหันไปมอง ใบหน้าคมเข้มที่เธอคิดถึงและโหยหาตลอด“มาจนได้ ในที่สุดดลก็มา” แคทเธอรีนลุกขึ้นเดินเข้าไปหาภูวดล“ปล่อยลิสาซะ” น้ำเสียงภูวดลยังเยือกเย็นทุกครั้งที่พูดกับหล่อน“โธ่ๆ ใจร้อนจังเลยนะคะ ยังไม่ได้ดูการแสดงของแคทเลย” ว่าแล้วแคทเธอรีนก็เดินไปหยิบขวดที่อยู่ตรงพื้นขึ้นมาพร้อมวางมีดลง ภูวดลมองอย่างพินิจ และน้ำที่อยู่ในขวดนั้นคงไม่ใช้น้ำเปล่าอย่างแน่นอน นอกเสียจากน้ำกรด !!“คุณจะทำอะไร แคท” ภูวดลมองชาลิสาด้วยความเป็นห่วง“ทำลายหัวใจของนายภูวดลยังไงล่ะคะ” แคทเธอรีนยิ้มหวาน ก่อนจะเดินเข้าไปกระซิบใกล้ๆ เขา“แคทมีโอกาสให้ดลเลือกนะคะ” มืออีกข้างที่ไม่ได้ถืออะไร ยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าเข้ม“คุณต้องการอะไร”มือของภูวดลปัดแคทเธอรีนออก พร้อมทั้งผลักจนเซ“ดลคะ อย่าเย็นชากับแคทสิคะ เพราะว่าถ้านังนั่นตายขึ้นมา ดลจะมาว่าแคทไม่ได้นะคะ” แคทเธอรีนปรายตามองชาลิสาที่นั
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 42ทันทีที่ชาลิสาเห็นแคทเธอรีเดินไปหยิบเชือกที่มุมห้องอีกด้าน สองมือพยุงกายขึ้นแล้วรีบวิ่งหนีอย่างสุดกำลัง แต่ทว่าแรงที่ชาลิสามีก็ไม่เทียบเท่ากับแรงแค้นที่แคทเธอรีนมีอยู่ในตอนนี้“จะไปไหน!!” ร่างกายของชาลิสาเซไปตามแรงดึงอีกครั้ง สองมือของชาลิสารั้งมือแคทเธอรีนที่กระชากเธอไว้เพื่อผ่อนความเจ็บ แต่ทว่าแรงที่ดึงกลับมากขึ้นเรื่อยๆ“เจ็บ...”“ร้องสิ !! ทรมานมากไหม” แคทเธอรีนจิกเส้นผมบางของชาลิสามาที่มุมเสากลางบ้าน พร้อมเหวี่ยงเธอลงกับพื้นอย่างแรง ก่อนจะนั่งคร่อมและใช้เชือกที่อยู่ในมือมัดชาลิสาผูกไว้กับเสาชาลิสาพยายามที่จะต่อต้านแรงของแคทเธอรีน แต่ยิ่งต่อต้านเชือกที่มัดอยู่ติดกับแขนของเธอยิ่งรัดและเสียดผิวบางจนเจ็บแสบ เธอไม่มีทางรอดแล้วใช่ไหม“คุณแคททำแบบนี้กับลิสาทำไมคะ” ชาลิสากลั้นน้ำเสียงถามแคทเธอรีนยิ้มหัวเราะกับคำถาม“ทำไมนะเหรอ เพราะแกไงล่ะ ดลถึงทำเหมือนกับฉันไม่มีตัวตน !!” แคทเธอรีนเขย่าตัวของชาลิสาอย่างแรง พลางหัวเราะร้องไห้จนแยกไม่ออก
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 41ชาลิสายกแฟ้มเอกสารที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินไปไว้ที่โต๊ะทำงานของภูวดล พลางกวาดสายตามองด้วยความเหนื่อยใจ เมื่อเห็นโต๊ะของเขาที่รกเต็มไปด้วยเอกสารที่ไม่ได้จัด เธอวางแฟ้มที่อยู่ในมือไว้ตรงขอบโต๊ะ ก่อนจะจัดเรียงเอกสารที่กระจัดกระจายให้เข้าที่เรียบร้อยปึง !!ประตูค่อยๆ เปิดออกพร้อมกับปิดลงด้วยเสียงที่ดัง ชาลิสาหันไปมองทางประตู ใบหน้าสวยขมวดคิ้วมองเจ้าของร่างอรชรที่ก้าวเข้ามาหาเธอเรื่อยๆ“สวัสดีค่ะ คุณชาลิสา”แคทเธอรีนก้าวเข้ามาใกล้เธอพร้อมยิ้มหวาน“พี่ดลไม่อยู่ค่ะ”เธอตอบก่อนจะหันไปเก็บเอกสารที่อยู่บนโต๊ะแคทเธอรีนมองแผ่นหลังของชาลิสาพร้อมเหยียดยิ้มที่น่าสะพรึงกลัวออกมา เธอไม่ได้ต้องการพบภูวดลอยู่แล้ว คนที่เธอต้องการพบคือผู้หญิงที่เป็นมารหัวใจของเธอ คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ !!“คุณลิสาคะ แคทไม่ได้มาหาดลหรอกค่ะ แต่แคทมาหาคุณลิสาค่ะ” ชาลิสาเลิกคิ้ว หันมามองแคทเธอรีนด้วยความไม่เข้าใจ จะมาหาเธอทำไมกัน“คือแคทมีเรื่องอยากจะให้คุณลิสาช่วยค่ะ” ไม่เพี