ห้องพัก VIP ในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังเงียบสงบ มีเพียงเสียงเครื่องวัดชีพจรที่เต้นเป็นจังหวะกับเสียงลมหายใจแผ่วเบาของใครบางคนที่นอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาด
เมลินฟื้นขึ้นมาในวันที่สามหลังการผ่าตัด เสียงของลูกชายและอ้อมแขนที่โอบกอดแน่นในวันนั้นยังติดอยู่ในความรู้สึกของเธอ ภาพพร่ามัวของเพดานห้อง ความเจ็บแปลบที่ขมับซ้าย และสัมผัสอบอุ่นจากฝ่ามือหยาบกร้านที่กุมมือนุ่มของเธอไว้... ทุกอย่างยังชัดเจน
“คุณแม่! คุณแม่ตื่นแล้ว!” น๊อตตะโกนดีใจ ก่อนจะซุกตัวเข้าหาเธอจนแน่น
แต่สิ่งที่เธอจำได้แม่นยิ่งกว่านั้น... คือแววตาแดงก่ำของคีรินทร์ที่นั่งอยู่ข้างเตียง ใบหน้าแข็งกร้าวที่แทบไม่เคยแสดงอารมณ์กลับบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
เขาไม่พูดอะไร... แค่มองเธออยู่เงียบ ๆ แล้วก็กุมมือเธอแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปอีก
ตลอดสองอาทิตย์ของการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล คีรินทร์ย้ายเข้ามาอยู่กับเธอและน้องน๊อตในห้องพัก VIP ทันทีที่รู้ว่าเธอปลอดภัย เขาส่งบอดี้การ์ดมาคุมเข้มหน้าห้องตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และหากเขาจำเป็นต้องออกไปทำธุระ... เขาจะส่งคนเพิ่มอีกเท่าตัว พร้อมทั้งโทรกลับมาเช
เสียงเครื่องวัดชีพจรยังคงดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่ในห้องพักผู้ป่วยกลับเงียบสงบเกินกว่าจะสะท้อนความตื่นเต้นที่ปะทุอยู่ในอกของชายผู้ยืนแนบข้างเตียง“เม...”เสียงทุ้มต่ำเรียกชื่อเธอแผ่วเบา แฝงด้วยแรงสั่นสะเทือนที่แม้แต่เขาเองก็ไม่อาจควบคุมได้เปลือกตาบางของหญิงสาวขยับ ก่อนดวงตาคู่สวยจะค่อย ๆ ลืมขึ้น เธอกะพริบตาสองสามครั้งเพราะแสงไฟอ่อน ๆ ภายในห้อง“คี...รินทร์...” เสียงแผ่วแหบของเธอดังออกมาอย่างลำบาก แต่ก็เพียงพอจะทำให้คนฟังเหมือนถูกปลดพันธนาการจากฝันร้ายเขายื่นมือคว้ามือเธอมากุมไว้แน่นแนบอก “ฉันอยู่นี่ เม ฉันไม่ไปไหนอีกแล้ว…”ไม่นานนัก หมออคินก็เข้ามาตรวจเช็คร่างกายเมลินอย่างละเอียด ใบหน้าที่มักจะเรียบเฉยปรากฏรอยยิ้มจางที่สุดเท่าที่ใครจะเคยเห็นจากเขา“อาการดีขึ้นมากแล้ว แผลผ่าตัดสมานได้ดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่ควรพักฟื้นต่อให้เต็มที่”คีรินทร์พยักหน้าช้า ๆ ดวงตาคมแดงก่ำจากการอดนอนหลายวัน แต่ไม่ละไปจากใบหน้าหญิงสาวแม้แต่วินาทีเดียวเขาก้มลงจูบหลังมือเธออย่างแผ่วเบา
เสียงเครื่องช่วยหายใจดังแผ่วเบาเป็นจังหวะเดียวที่ยังย้ำเตือนว่า...เธอยังอยู่ตรงนี้แต่ทุกลมหายใจที่เปราะบางราวใยไหมนั้น กำลังกัดกร่อนหัวใจของเขาให้ชอกช้ำยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“ออกตามล่าภาคินให้ทั่ว ไม่ต้องปรานี” เสียงเย็นเฉียบของคีรินทร์ดังผ่านโทรศัพท์ก่อนที่เขาจะตัดสายโดยไม่รอฟังคำตอบ ราวกับไม่มีอารมณ์จะเจรจาแม้แต่น้อยคีรินทร์ กัลย์พิทักษ์...ชายผู้ไม่เคยยอมให้ใครทำให้เขาไร้ทางควบคุม แต่วันนี้ เขากลับนั่งอย่างหมดเรี่ยวแรงอยู่หน้าห้อง ICU เป็นวันที่สาม — และเธอยังไม่ฟื้นลิซ่าที่นั่งรออยู่ไม่ห่าง ส่งข้าวต้มมาให้ทุกมื้อ…ไม่มีถ้วยไหนที่ถูกแตะเขาไม่หิว ไม่ง่วง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเช้าหรือค่ำเขาแค่อยากเห็นเธอลืมตา…แม้จะรู้ดีว่ามันอาจไม่มีวันนั้นอีกแล้ว“เธออย่าทิ้งฉัน...” เสียงพร่ากระซิบที่ไร้คนตอบ รับรู้ได้เพียงเสียงเครื่องช่วยหายใจที่ทำหน้าที่แทนร่างกายเธออยู่เงียบ ๆจนกระทั่งประตูห้อง ICU เปิดออก“คีร์” น้ำเสียงเรียบของ หมออคิน เพื่อนสนิทที่เคยสงบยิ่งกว่าทะเลเย็นยะเยือก
โกดังร้างย่านชานเมืองถูกห้อมล้อมด้วยความเงียบและกลิ่นสนิมเก่าแสงไฟจากหลอดนีออนกระพริบพร่าอยู่เหนือหัว ชายหนุ่มร่างสูงสง่าในสูทดำยืนพิงรถยนต์คันหรู ร่างนิ่งงัน ราวกับหลอมรวมเข้ากับความมืดรอบตัวคีรินทร์ กัลย์พิทักษ์เจ้าของบ่อนคาสิโนในลาสเวกัส และหัวหน้าตระกูลมาเฟียเอเชีย ผู้ไม่เคยยอมรอสิ่งใดแต่วันนี้ เขากลับยืนนิ่งอยู่นานนับชั่วโมงโดยไม่ปริปากพูดแม้แต่คำเดียวสายตาคมใต้คิ้วเข้มจ้องไปยังประตูโกดังเก่า... จุดนัดหมายที่ ภาคิน มันควรจะมาส่งตัว น้องน๊อตแต่นานแค่ไหนแล้ว?สองชั่วโมง?สามชั่วโมง?‘มึงจะเล่นอะไรกับกูอีก ภาคิน...’มือหนากำโทรศัพท์แน่นจนข้อขาว สัญญาณอันตรายเริ่มสั่นในอกเขา...“ติ๊ง!”เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นฉับพลันกลางความเงียบMELIN กำลังโทรเข้า...“ว่าไงเมลิน” เสียงเขาเย็น ราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยรังสีอันตรายเสียงจากปลายสายดังสะอื้นระลัก“คี...คีรินทร์...ฮึก... น้องน๊อตกลับมาที่บ้านแล้ว...”เขาชะงักทันที ใจเต้นแร
ลมในค่ำคืนนี้เย็นยะเยือกกว่าที่เคย ราวกับฟ้ากำลังเตือนว่า บางอย่างกำลังจะถูกพรากไป...“เบอร์นี้มันไม่ใช่เบอร์ธรรมดาแน่” เสียงทุ้มห้าวของคีรินทร์เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัด ห้องประชุมลับใต้บ่อนคาสิโนถูกล็อกตายจากภายใน ทีมงานเทคโนโลยีชั้นสูงจากเครือข่ายมาเฟียถูกเรียกรวมตัวในทันที หลังข้อความสั้นจากเบอร์นิรนามส่งมาถึงเขา...ขู่ว่า 'ลูกชายของคุณ...ยังหายใจได้อีกไม่นาน'นัยน์ตาคมกริบกดความโกรธไว้ลึก ราวกับระเบิดเวลาที่นับถอยหลัง คีรินทร์ไม่พูดอะไรเกินจำเป็น เขาแค่ยืนพิงโต๊ะ รอคำตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่แววตานั้น...เฉือนลึกยิ่งกว่ามีด“เราใช้ A.I. แฮกเบอร์นี้แล้วครับ พบว่าเป็นเบอร์ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนปลอม แต่...”“แต่อะไร?” น้ำเสียงต่ำเย็นเฉียบจนทุกคนหยุดหายใจผู้ช่วยด้านไซเบอร์เบือนหน้าไปยังจอ“มันมีพิกัดการใช้งานล่าสุดที่ตรงกับการเข้าระบบไอพีส่วนตัวของบุคคลหนึ่ง...”คีรินทร์ขมวดคิ้ว“ใคร”ชายหนุ่มสูดลมหายใจ ก่อนเสียงนั้นจะเปล่งออกมา“ภาคินครับ...เบ
เสียงหัวเราะของเด็กน้อยคือสิ่งเดียวที่ช่วยชะล้างบาดแผลในหัวใจของเขาและเธอ แม้ทุกย่างก้าวยังเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ความเจ็บปวด และความจริงที่ยังคลุมเครือ แต่ในห้วงเวลานี้ ทั้งสามคนกลับได้ลมหายใจใหม่จากความสุขที่เรียบง่าย...เพียงเพราะได้อยู่ด้วยกันคีรินทร์นั่งพิงพนักโซฟาอย่างเหน็ดเหนื่อยหลังการประชุมลับกับสารวัตรวายุ พวกเขาเพิ่งจัดการฝังเครื่องดักฟังสำเร็จในห้องพักของภาคิน ณ คอนโดหรูใจกลางเมือง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เฝ้าระวังอยู่ข้างต้นนอกจากนั้นยังสามารถเจาะเข้าระบบคลาวด์ของมายด์ได้สำเร็จ และสิ่งที่ค้นพบคือรายชื่อธุรกรรมบางอย่างที่เชื่อมโยงกับบัญชีในนามบริษัทลอย ซึ่งถูกใช้เป็นช่องทางโอนเงินเข้าบัญชีของใครบางคนในยุโรป...“แต่...แรงจูงใจยังไม่มี”เสียงทุ้มต่ำของคีรินทร์เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบในห้องทำงานส่วนตัว เขาเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม—หญิงสาวผู้กล้าเดินย้อนกลับเข้ามาในวังวนอันตรายที่เธอเคยหนีเพื่อปกป้องลูกของตัวเอง“บางอย่างมันไม่ใช่แค่เงิน...” เมลินพึมพำ เธอเลื่อนนิ้วชี้บนเอกสารที่เต็มไปด้วยเส้นทา
ห้องพัก VIP ในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังเงียบสงบ มีเพียงเสียงเครื่องวัดชีพจรที่เต้นเป็นจังหวะกับเสียงลมหายใจแผ่วเบาของใครบางคนที่นอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดเมลินฟื้นขึ้นมาในวันที่สามหลังการผ่าตัด เสียงของลูกชายและอ้อมแขนที่โอบกอดแน่นในวันนั้นยังติดอยู่ในความรู้สึกของเธอ ภาพพร่ามัวของเพดานห้อง ความเจ็บแปลบที่ขมับซ้าย และสัมผัสอบอุ่นจากฝ่ามือหยาบกร้านที่กุมมือนุ่มของเธอไว้... ทุกอย่างยังชัดเจน“คุณแม่! คุณแม่ตื่นแล้ว!” น๊อตตะโกนดีใจ ก่อนจะซุกตัวเข้าหาเธอจนแน่นแต่สิ่งที่เธอจำได้แม่นยิ่งกว่านั้น... คือแววตาแดงก่ำของคีรินทร์ที่นั่งอยู่ข้างเตียง ใบหน้าแข็งกร้าวที่แทบไม่เคยแสดงอารมณ์กลับบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดเขาไม่พูดอะไร... แค่มองเธออยู่เงียบ ๆ แล้วก็กุมมือเธอแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปอีกตลอดสองอาทิตย์ของการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล คีรินทร์ย้ายเข้ามาอยู่กับเธอและน้องน๊อตในห้องพัก VIP ทันทีที่รู้ว่าเธอปลอดภัย เขาส่งบอดี้การ์ดมาคุมเข้มหน้าห้องตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และหากเขาจำเป็นต้องออกไปทำธุระ... เขาจะส่งคนเพิ่มอีกเท่าตัว พร้อมทั้งโทรกลับมาเช