ฉันวางเงินมัดจำบางส่วนแล้วได้ใบจองโน๊ตบุ๊ตเครื่องนั้นมา ก่อนจะเดินออกจากร้านอุปกรณ์ IT และลงไปที่ Supermarket ที่อยู่ชั้นล่างสุดของห้างทันที เพราะนึกขึ้นได้ว่าของใช้ และขนมกับเครื่องดื่มที่มีติดตู้เย็นที่คอนโดตอนนี้มันเริ่มจะหมดแล้วน่ะสิ
อืม.. กราโนล่า สลัด ช็อกโกแลต แครกเกอร์ได้แล้ว งั้นก็ขาดโยเกิร์ตกับน้ำผลไม้สินะ พอคิดได้แบบนั้นฉันก็ตรงไปที่โซนเครื่องดื่มตรงตู้เย็นทันที แต่ระหว่างทางดันผ่านตู้ไอติมอ่ะ งั้นเอาไอติมไปแช่ไว้ด้วยดีกว่า เลิกเรียนกลับมาเหนื่อยๆ ได้สดชื่น แต่เอ๊ะ..
พอฉันเข็นรถเข็นมาถึงตู้เครื่องดื่มเพื่อจะมาหยิบน้ำผลไม้ ก็เจอกับใครบางคนที่มองข้างหลังแล้วดูคล้ายมากเลย.. ผู้ชายคนนี้คล้ายกับรุ่นพี่รันเวย์มากจริงๆ ต่างออกไปก็แค่สีสเวตเตอร์ตัวใหญ่ที่เขาใส่อยู่เป็นสีเบจ
แต่ก็นะ..ถ้าไม่ใช่สีดำฉันก็จะกด skip ข้ามไปเลยแล้วกัน เพราะถ้าเป็นรุ่นพี่ตัวจริงเสียงจริง ยังไงก็ต้องใส่สีดำมาแน่นอน รายนั้นน่ะปกติชอบสีดำมาก Accessory อะไรทั้งหมดของเขาส่วนใหญ่ก็จะดำล้วน ไม่ค่อยมีสีอื่นๆ ให้เห็นเท่าไหร่หรอก ถ้าเห็นใส่สีอื่นฉันว่าคงเจอรุ่นพี่รันเวย์งานก็อปจีนแดงแล้วล่ะ ฮ่ะๆ
แล้วฉันก็เดินเข้าไปที่ตู้เครื่องดื่มตรงหน้า และเอื้อมมือหยิบน้ำผลไม้ยี่ห้อโปรดที่บังเอิญถูกวางไว้ชั้นบนสุดซึ่งมันสูงมาก เมื่อเทียบกับตัวฉันก็คือต้องเงยหน้าขึ้นไปมองอ่ะ เฮ่อออ แบบนี้ก็ต้องเขย่งน่ะเซ่ แล้วแขนก็สั้นจะเอื้อมถึงได้ไงเล่า ใครเป็นคนจัดตู้ไหนเรียกมาคุยหน่อยดิ๊ -.-
“ว๊ายยย”
โครมมมมม!
เพราะเขย่งอยู่บนคัทชูที่ส้นค่อนข้างสูง ฉันเลยเสียหลัก รองเท้าคัทชูพลิกลงด้านข้างจนเซล้มลงมา ดีที่คว้ารถเข็นที่อยู่ข้างๆ ไว้ทันไม่งั้นหน้าคะมำพอดี
ส่วนขวดน้ำผลไม้ในตู้น่ะหรอไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันพร้อมใจกันหล่นลงมานอนเกลื่อนกลาดอยู่ที่พื้น ไอ้ขวดที่เป็นพลาสติกอ่ะก็อึดดีตกมาไม่เป็นไร แต่ขวดที่เป็นแก้วคงไม่ต้องบอกเน่อะว่าตกแตกกระจายเสียงดังสนั่นเชียว
เพล้งงงงง!
“โอ๊ยยยย -_-” ฉันบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด แล้วพยายามดันตัวเองให้ยืนตัวตรงอยู่บนคัทชู
“ซุ่มซ่ามตามเคย”
เสียงหนึ่งดังขึ้นตรงหน้าฉัน ก่อนที่ฉันจะเงยหน้าขึ้นไปและพบว่าผู้ชายสวมสเวตเตอร์สีเบจคนนั้นกำลังมองมาด้วยท่าทางเรียบเฉย Oh My Goshhhh...
“ระ..รุ่นพี่ O_O”
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
พอเงยหน้าไปเห็นชัดๆ ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร ฉันก็พูดออกไปอย่างตะกุกตะกัก ระ..รุ่นพี่ รุ่นพี่รันเวย์ รุ่นพี่อีกแล้ว -///- แล้วก็ใจเต้นตึกตักขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก =[]=
เอาไงต่อ? เอาไงดี? ดะ..เดี๋ยวสิ ทำไมเป็นเขาล่ะ? นี่มันสเวตเตอร์สีเบจไม่ใช่หรอ ถ้าเป็นเขาตัวจริงก็ต้องใส่สีดำสิ ..แล้วซุ่มซ่ามตามเคยนี่คืออะไร? นี่เขาจำฉันได้ด้วยหรอ?!
“จะอึ้งอีกนานมั้ย”
รุ่นพี่รันเวย์พูดขึ้นแล้วมองฉันสลับกับรถเข็นที่ฉันคว้าเอาไว้ พอฉันก้มมองของในรถเข็นก็เข้าใจในทันทีว่านี่มันรถเข็นของเขา ไม่ใช่ของฉันอย่างที่คิด
“ขะ..ขอโทษค่ะ” ฉันรีบปล่อยรถเข็นนั่นออกจากมือทันที ก่อนที่รุ่นพี่จะเข็นมันออกไปอย่างไม่สนใจ
สองครั้ง.. นี่ฉันเจอเขาสองครั้งแบบระยะประชิดแล้วนะ -///- เพิ่งเห็นว่าความซุ่มซ่ามมันมีประโยชน์ก็คราวนี้ แต่เดี๋ยวสิ..เจอเขาที่นี่ก็ดี ฉันยังไม่ได้บอกเขาเรื่องโน๊ตบุ๊คเลยนี่นา
“รุ่นพี่คะ...”
พอนึกได้ฉันก็รีบเดินตามหลังไปเรียกเขาทันที พร้อมกับควานหาใบจองที่เพิ่งได้มาในกระเป๋าไปด้วย ส่วนเขาพอได้ยินฉันเรียกก็หยุดเดินและหันกลับมาฉันมองนิ่งๆ
“เรื่องโน๊ตบุ๊ค สั่งประกอบคืนให้แล้วนะคะ แต่คงต้องรอ..”
พรึ่บบบ!
ฉันยังพูดไม่ทันจบ รุ่นพี่ก็คว้าใบจองนั่นไปดูเอง เขากวาดสายตาอ่านรายละเอียดในนั้นแบบเร็วมาก แล้วส่งมันคืนมาด้วยท่าทางเฉยๆ
“ตามนั้น”
“อ่ะ..อืม (- -) (_ _)” ฉันพยักหน้าออกไป แล้วเขาก็เข็นรถเข็นเดินไปต่อ ทิ้งฉันยืนอึ้งๆ อยู่กับใบจองนั่นสักพัก
ถามหน่อยดิ ปกติใบจองถ้าเอาไปยื่นแล้วเขาคืนให้ป้ะ? นี่มันเป็นแรร์ไอเทมอีกชิ้นที่รุ่นพี่รันเวย์จับมันเชียวนะ ถ้าขอทางร้านเก็บไว้จะได้รึเปล่าอ่ะ >_<?
ฉันมองตามรุ่นพี่รันเวย์ในลุคแปลกตาที่เดินห่างออกไปอยู่แบบนั้น ใส่สีเบจก็ดูดีไม่แพ้สีดำเหมือนกันแฮะ เฮ่อออ..ก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่วันนี้คงหลับฝันดีแหงๆ เลย
“ขอโทษนะคะคุณลูกค้า คงต้องคิดค่าเสียหายจากของที่คุณลูกค้าทำหล่นทั้งหมดนะคะ”
พรึ่บบบ!
ใคร?! ใครมาดับไฟในหัวฉัน คนกำลังเคลิ้มๆ ให้ตายเซ่~
ฉันหันหลังกลับไปมองเจ้าของเสียงซึ่งเป็นพนักงาน Supermarket ที่กำลังชี้ไปยังตู้น้ำผลไม้ที่อยู่ในสภาพเลอะเทอะดูไม่ได้เลยสักนิด อย่างที่บอกว่ามันมีบางส่วนหล่นแตกกระจาย ก็เลยจะมีรอยเลอะจากน้ำหลากสีไหลเป็นทางอยู่เต็มพื้นประมาณนี้
“เอ่อค่ะ ขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันจะรับผิดชอบเองค่ะ =_=!”
เอิ่ม..ที่พูดเมื่อกี๊เปลี่ยนใจทันมั้ย สูญเสียกันไปเท่าไหร่แล้วเวลาเจอเขาระยะประชิดเนี่ย?!
วันต่อมา..
ซวยละนาฬิกาไม่ปลุก! O_O ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนแปดโมงครึ่ง ทั้งที่เช้านี้มีเรียนเก้าโมง ให้ตายสิ! มัวแต่เพ้อถึงรุ่นพี่รันเวย์จนหลับไปแล้วลืมตั้งนาฬิกาปลุกเนี่ยนะ โอ๊ยยย สติ! พอคิดได้ว่าสายแน่ฉันเลยคว้ามือถือส่งไลน์ไปหาไอ้นิลทันที
JEDA : มึง เข้าก่อนเลยนะ
JEDA : กูน่าจะสาย รถติดมากกก
ฉันพิมพ์ไปขำไป กูไม่ได้โกหกนะมึง กูแค่บอกเหตุผลไม่หมดเฉยๆ ว่าที่จริงกูตื่นสายอ่ะ แต่รถมันติดจริงๆ กูรู้ ถึงจะยังไม่ลุกจากที่นอนก็เหอะ -_- แล้วสักพักนิลมันก็ตอบกลับมา
NILLA : เค กำลังออกแล้ว
พอคุยกันรู้เรื่องแล้วฉันก็รีบลุกไปจัดการตัวเองทันที แต่ที่จริง..ในฝันก็เกือบจะได้จับมือกันอีกแล้วนะเมื่อคืนอ่ะ ฮ่ะๆ -///-
กว่าฉันจะอาบน้ำแต่งตัวและฝ่ารถติดมาถึง ม. ก็ปาไปชั่วโมงกว่า นี่ยังไม่นับรวมความวุ่นวายของนักศึกษาที่เดินหอบข้าวของมากินพื้นที่ถนนอีกนะ เห็นว่าวันนี้เป็นวันงานประเพณีมหาลัย ฉันเองถึงจะชอบอัพเดทข่าวสารอะไรพวกนี้แต่ครั้งนี้ต้องยอมรับว่าพลาดไปจริงๆ เพราะมัวแต่วุ่นๆ หลังกลับจากสิงคโปร์ แล้วกว่ารถจะกระดึ๊บๆ เข้ามาที่ลานจอดได้ก็เล่นเอาเหนื่อย ก็พอได้ยินมาบ้างนะว่ามีโหวตดาวเดือนอะไรด้วยอ่ะ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนบ้าถึงขั้นหอบดอกไม้มาเป็นรถเข็น รถสามล้ออะไรแบบนี้อ่ะ
หมับ!
“ไอ้เจด้า มึงสารภาพมาเดี๋ยวนี้เลยนะว่านิลลามันทำบุญด้วยอะไรห๊ะ?! ตอบกู ตอบกู~”
พอฉันก้าวขาลงจากรถกำลังจะเดินเข้าตึก พวกแก๊งค์บิวตี้เพื่อนร่วมห้องสมัย ม.ปลาย มันก็ตรงเข้ามาเขย่าแขนฉันทันที
“อะไรของพวกมึง ปล่อย! กูรีบ!”
พรึ่บบบ!
ฉันสะบัดแขนพวกมันออก แล้วยัยพวกนั้นก็ไม่ได้มาเซ้าซี้อะไรอีก ก็คงรู้นั่นแหละว่าถ้าฉันไม่ชอบก็คือไม่ชอบ
“โห่มึงอ่ะ กูแค่อยากรู้บอกหน่อยนะ”
แล้วหนึ่งในพวกมันก็ทำท่าเจี๋ยมเจี้ยมใส่ฉันอย่างขอความเห็นใจ แล้วส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นออกมาไม่หยุด
“อะไร! จะถามไรก็ถามมา!”
ฉันตอบไปอย่างตัดรำคาญก่อนจะหันมองไปรอบๆ ประเมินสถานการณ์ว่าจะวิ่งขึ้นห้องไปทันมั้ย ผิดกับยัยพวกนี้ที่ร่าเริง ทำท่าดี๊ด๊าขึ้นมาทันที
“เนี่ยยย ถามจริง นิลมันทำได้ไงวะ เห็นเงียบๆ แดกเรียบเลย กูอิจจจ~”
แล้วมันก็ยังไม่เข้าเรื่องสักทีอ่ะ เอาแต่พูดอ้อมไปอ้อมมาอยู่ได้ อิจอะไร? แดกเรียบอะไร? ฉันเลยตวาดออกไปอย่างหัวเสีย
“พูดไรไม่เข้าใจ หลบไปดิ๊รำคาญ!”
พูดจบฉันก็ฝ่าวงล้อมของแก๊งค์บิวตี้เดินหนีขึ้นตึกมาทันที ดีนะวันนี้คนเข้าเลทเยอะคงมัวแต่ไปซื้อดอกไม้กันอยู่ล่ะมั้ง
“อ้าวจิดาริน แล้วนิลนาราไม่มาด้วยหรอจ๊ะ”
พอฉันเดินเข้าห้องมา อาจารย์ประจำวิชาก็ถามถึงไอ้นิลอีกคน เอ้า แล้วมันไม่ได้อยู่ในห้องหรอวะ -_-? คิดได้แบบนั้นฉันเลยชะเง้อคอมองเพื่อนในห้องไล่ไปทีละคนแต่ก็ไม่เห็นไอ้นิลอยู่ในห้องนี้จริงๆ ฉันเลยคว้ามือถือโทรไลน์ไปตามแต่มันก็ไม่รับ
JEDA : ไม่ได้รับสาย
JEDA : อยู่ไหน โทรไปไม่รับ?
JEDA : ทำไมวันนี้มีแต่คนถามหามึงวะ
JEDA : เกิดไรขึ้น กูงงไปหมดแล้วเนี่ย
“นิลนาราเขาไม่ว่างหรอกค่ะอาจารย์ กำลังวิ่งหนีชมรมวารสารอยู่ คิดแล้วก็อยากสิงร่างนาง~” อยู่ๆ เพื่อนในคลาสคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาจนฉันงง
“หนีทำไมอ่ะ”
ฉันถามออกไปเพราะเป็นห่วง กลัวไอ้นิลมันมีเรื่องอะไร ถึงจะรู้ว่าลึกๆ มันจะสู้คนได้ก็เถอะ แต่มันชอบทำตัวมึนๆ เหมือนเด็กตลอดเวลาอ่ะ
“นี่ไง ยังไม่เห็นอ่ะดิ นิลจะดังใหญ่ละนะ”
แล้วเพื่อนผู้หญิงคนนั้นก็ยื่นมือที่กำลัง Live ภาพไอ้นิลที่กำลังถูกรุ่นพี่พายุเดินจูงมือหนีการสัมภาษณ์อยู่ ฉันเลยหยิบมือถือตัวเองขึ้นมากดเข้า Know more แล้วย้อนอ่านเหตุการณ์คร่าวๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นแบบรีบร้อนทันที
Oh My Goshhhhhh =[]=
#ผู้หญิงของพายุ เนี่ยนะ..ไอ้นิลมันเล่นบ้าอะไรวะเนี่ย -_-?!
แค่เห็น Hashtag ทำนองนั้น ฉันก็กดโทรไลน์ไปหามันซ้ำอีกที แต่มันก็ไม่รับอยู่ดี ฉันเลยทิ้งข้อความไว้ในไลน์อย่างนั้นซ้ำๆ
JEDA : เดี๋ยว ผู้หญิงของพายุคืออะไรรรร
JEDA : นิลลาตอบสิตอบ
JEDA : เฮ้ย อยู่ไหนของมึงวะ
JEDA : มึง ยังอยู่ดีป่ะเนี่ยยยย
JEDA : ไอ้นิลโว้ยยยย
พอเห็นมันไม่อ่านฉันเลยกดออกจากไลน์มาอ่านเรื่องดราม่าของมันต่อ เล่นใหญ่ถึง Nightshade ไปอีกนะไอ้นี่ -_- ถึงฉันจะมาสายก็ไม่ได้แปลว่ามันจะลุยเดี่ยวแบบไม่กลัวตายอย่างนี้ได้นะเว้ย
Line~ Line~ Line~
แล้วสักพักเสียงแจ้งเตือนไลน์ในมือถือก็ดังขึ้น ฉันเลยรีบกดเข้าไปดูทันทีแล้วเห็นว่าเป็นไอ้นิลที่ตอบกลับมา
NILLA : กูอยู่กับ NIightshade
NILLA : ตอนนี้ไม่ได้เป็นไร
NILLA : ไว้เดี๋ยวเล่าให้ฟังนะ
JEDA : เค อยู่ตรงนั้นอ่ะดีสุดละ ปลอดภัยดี
JEDA : ปล.ฝากขอลายเซ็นรุ่นพี่รันเวย์ด้วย เลิฟๆ
ดูจากข้อความที่มันตอบกลับมา พอเห็นว่าไอ้นิลน่าจะไม่เป็นไรฉันก็ใจชื้นขึ้นหน่อย แล้วใช้จังหวะนี้ให้เป็นประโยชน์ซะเลย ฮ่ะๆ เนี่ย >_< เจอก็บ่อย แถมยังจะได้ลายเซ็นรุ่นพี่จากไอ้นิลเพื่อนรักไปอีก ปลื้มปริ่มมมม ♥
แล้วฉันก็หันมองเพื่อนคนอื่นๆ ในคลาสที่นั่งเล่นมือถือกันแทบจะทุกคน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตามข่าวไอ้นิลกันให้วุ่นวาย แล้วก็ดูเหมือนอาจารย์ประจำวิชาแกจะไม่สอนด้วยนะแต่ไม่รู้จะยกคลาสมั้ย
“เอาล่ะจ้ะ ไหนๆ วันนี้จิตใจทุกคนก็ไปจดจ่อที่งานประเพณีกันหมดแล้ว งั้นอาจารย์จะยกคลาสให้แล้วกันนะ”
นั่นไงไม่ทันขาดคำ พออาจารย์พูดมาอย่างงั้นไอ้พวกผู้ชายหลังห้องมันก็ตะโกนขึ้นมาอย่างดีใจ
“เย้~”
เหอะๆ ก็ดีเหมือนกันเช้านี้ยังไม่ได้กินไรเลย ไปหาไรกินแล้วก็ไปเดินเล่นงานประเพณีสักหน่อยน่าจะดี
วันต่อมา..“รันเวย์คะ พวกเรามาจากชมรมวารสาร ข่าวลือที่ว่ารันเวย์หึงเจด้าจนสั่งให้พายุปิด Know more แบบกะทันหันและลบรูปที่กำลังเป็น Talk of the town สองรูปนั้น เป็นความจริงรึเปล่าคะ?”คำถามยาวเหยียดของสมาชิกชมรมวารสารที่มาดักรอพวกเราที่ลานจอดรถดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงซุบซิบนินทาหนาหูมาก ชนิดที่ว่าจับใจความไม่รู้เรื่องเลยสักคำเพราะคนรอบข้างต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา“ตามนั้น”เฮียเวย์ตอบไปสั้นๆ ด้วยท่าทางเรียบเฉย ไม่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้ดุ แล้วอ้อมมาโอบเอวฉันเดินฝ่าฝูงชนนับสิบตรงไปที่โรงอาหาร แต่ชมรมวารสารและบรรดาแฟนคลับที่อยากรู้อยากเห็นก็ยังเดินตามพวกเรามาติดๆ แล้วตะโกนสัมภาษณ์กันไม่หยุดหย่อน“ก่อนหน้านี้มีนักศึกษาที่เข้าใช้ Know more ไม่ได้โวยวายกันยกใหญ่ อยากฝากอะไรถึงพวกเขามั้ยคะ?”ไมค์ในมือของผู้หญิงที่จีบปากจีบคอพ่นคำถามน่าเบื่อมากมายถูกเลื่อนมาจ่อตรงหน้าเฮียเวย์ ก่อนที่เขาจะหยุดเดินแล้วหันไปส่งสายตานิ่งเรียบไปให้และตอบออกไปเสียงเข้ม“ใครรู้ตัวว่าเซฟรูปพวกนั้นไว้..ลบซะ!”“นี่รันเวย์ไม่คิดจะขอโทษใครสักหน่อยหรอคะ แถมทำแบบนี้ไม่กลัวพายุติดร่างแหที่ยื่นมือเข้ามาช่ว...”“ถ้า Nightshade
“ก็ถ้าเขิน..จะนอนเฉยๆ ให้เอา แต่ถ้าหึง..เดี๋ยวขึ้นให้เอง”จิ๊!“โคตรหึง โคตรเขิน พอใจมั้ยวะ -////-”พอฉันพูดแบบนั้นออกไปเฮียเวย์ก็ตอบกลับมาด้วยสีหน้าแดงก่ำ แล้วทำเป็นใช้เสียงเข้มกลบเกลื่อน“หึ..ก็แค่นั้นอ้ำอึ้งอยู่ได้”พรวดดดด“อ๊าาาา // อ่าาา~”พูดจบฉันก็ทิ้งตัวลงบนท่อนเอ็นของเขาอย่างแรงทันทีและหลุดปากครางออกไปอย่างลืมตัว เช่นเดียวกับเฮียที่ครางออกมาด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มไม่ต่างกัน แล้วฉันก็เริ่มขยับสะโพกขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เพราะข้างในมันอึดอัดเหมือนทุกส่วนข้างในของเราสัมผัสกันอย่างแนบแน่นจนเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูกพั่บๆๆๆ พั่บๆๆๆ“อืมมม ทำไมวันนี้..ร้อนแรงได้ขนาดนี้วะ -////-”เฮียเวย์ส่งเสียงงึมงำปนเสียงครางออกมาอย่างเลื่อนลอย แล้วหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เสียงหัวใจของเขายังเต้นตึกตักอยู่แบบนี้ มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ“ไม่ชอบหรอ อ๊ะ..อ๊า หรือชอบแบบอีฟ้า! อ๊ะ อ๊ะ...”พั่บๆๆๆ พั่บๆๆๆฉันขย่มขึ้นลงอยู่บนตัวเฮียเหมือนที่เขาเคยสอน แล้วถามออกไปอย่างจิกกัด โดยมีเฮียนอนครางอย่างเคลิบเคลิ้มอยู่ใต้ร่าง“อ่าาา.. ไร้สาระ มีคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่ละ”น้ำเสียงกระเส่าดังขึ้นอย่าง
@ ST. ROYAL CONDOโครมมม~พอกลับถึงห้องฉันก็โยนกระเป๋ากับชีทลงบนโต๊ะอย่างแรงจนไฮชิวิ่งหนีเข้าบ้านแมวไปเลย ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าห้องนอนปิดประตูล็อคกลอนแน่นหนา แล้วทิ้งเฮียไว้ข้างนอกอย่างอารมณ์เสีย อีฟ้า อย่าให้กูเจอ แม่จะตบให้เลือดกบปากเลย โมโห!ก๊อก ก๊อก ก๊อก..“ไม่ให้เข้า!”ฉันตะโกนออกไปทันที แล้วไม่สนว่าเฮียจะพูดอะไรต่อ ก่อนจะเดินหนีเข้าไปอาบน้ำ แช่ตัวอยู่ในอ่างแบบนี้อย่างสงบสติอารมณ์ตัวเองทันทีบ้าชิบ! ถึงจะมีเรื่องกับใครมาตลอดตั้งแต่ ม.ปลาย ฉันก็ไม่เคยหัวร้อนง่ายขนาดนี้ แต่นี่ฉันคลั่งขึ้นมาแบบแทบจะทันทีเวลาเห็นใครเข้ามาใกล้เฮียเวย์แบบนี้ นี่ฉันยังสติดีรึเปล่า!ฉันคว้ามือถือที่พกเข้ามาด้วยเลื่อนดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็อย่างที่คิดแหละมีคนลงคลิปที่ฉันตบอีฟ้าอะไรนั่น พาดหัวคลิปเหมือนฉันเป็นอาชญากรข้ามชาติ ทำให้ใครต่อใครแห่ไปคอมเม้นท์กันแบบบันเทิงใจ แถมรูปเฮียเวย์เมื่อคืนที่มีมือดีแคปทันก็ยังว่อนอยู่ในนั้นจนเลื่อนไปทางไหนก็เจอ เออ! เอาเข้าไปจะเอาให้ฉันคลั่งตายเลยใช่มั้ย ต้องตามตบพวกมันทุกคนเลยมั้ย เฮ่อออ~บุ๋งงงงๆๆๆฉันดำลงไปสงบสติอารมณ์ใต้น้ำในอ่างแบบเซ็งๆ ก่อนจะปล่อยตัวเองไว้ในสภาพ
เช้าวันต่อมา..ฉันเดินฟึดฟัดลงจากรถทันทีเพราะรู้ว่าถ้าเหยียบแผ่นดิน ม. คงได้เป็น Talk of the town จากรูปเฮียเมื่อคืนแน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ตลอดระยะทางที่เฮียเดินมาส่งที่ตึกเสียงซุบซิบก็ก่อตัวขึ้นเป็นลูกคลื่นเลยล่ะ -.-“สาแก่ใจเฮียรึยัง?!”“หื้มมม?”พอโดนฉันดุเฮียก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขนาดเมื่อคืนเขาอัพรูปบ้านั่นลงไปแค่ 2 นาทีเองนะ ยังกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ Know more นี่เด้งรัวแค่ไหนไม่ต้องถามอ่ะเพราะมือถือค้างใช้งานไม่ได้จนต้อง Log out หนีตั้งแต่เมื่อคืน! แต่เท่าที่อ่านจากกระทู้ HOT NEWS เมื่อเช้า มีแต่คนคอมเม้นท์ในเชิงว่าฉันเอามือถือเฮียไปกดอัพแล้วแท็กตัวเองให้คนอื่นอิจฉาเล่นเพราะอย่างเฮียไม่น่าจะทำแบบนั้นได้.. ‘เขานิ่งจะตาย’....อ๋อหรอออออ?!นิ่งกับผีอ่ะดิ ใช่เว้ยกับคนอื่นเขาอาจจะนิ่ง แต่กับฉัน Nightshade และเพื่อนๆ ที่คณะเช่นแก๊งค์มุกเสี่ยวน่ะ เขาโคตรจะไม่นิ่งเลย! ถามจริงยัยพวกนั้นแยกแยะไม่ได้รึไงว่าคนเรามันมีหลายบุคลิกก็ได้น่ะ เชื่อเหอะ! ตั้งแต่มาเจอเฮียเวย์ หรือแม้แต่เฮียพายเอง ฉันว่าฉันเข้าใจโลกมากขึ้นเยอะเลย -_-“วันนี้ชมรมวารสารขอสัมภาษณ์เราเรื่อง I Saw.. นะ”“อืม
ไม่กี่นาทีต่อมา...@ ST. ROYAL CONDOพรึ่บบบ!“ตัวเจ~ อย่ารุนแรงกับเฮียนักดิ ฮ่ะๆ”เสียงเฮียเวย์ที่ถูกฉันฉุดกระชากลากแขนอยู่พูดจาออดอ้อนฉันมาตลอดทางจนเรากลับมาถึงคอนโดแล้วเดินเข้ามาในห้อง“เพราะเฮียนั่นแหละ!”ฉันบ่นออกไปอย่างหงุดหงิด ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยฮะ ทำไมต้องทำให้คนอื่นเขาหลงไปทั่วแบบนี้ ไม่ชอบ! โคตรจะไม่ชอบเลย!ตุ้บบบ! “เฮียอ่ะ!” ฉันโมโหแต่ทำไรไม่ได้ก็เลยทุบเขาไปทีหนึ่ง แล้วเฮียเวย์ก็ขำออกมาอย่างไม่สลดเลยสักนิด“โอ๋ๆ โกรธป่ะ Kiss อีกก็ได้นะ มาเร็ว~”เฮียทำท่าล้อเลียนฉันแล้วยื่นหน้าเข้ามาจะให้ฉันจูบเขาอีก ฉันเลยดุออกไปทั้งที่หน้าร้อนผ่าว -////-“จะตลกอีกนานมั้ยฮะ!” พอฉันเริ่มจริงจังขึ้นมา เฮียก็ทำหน้างอแล้วพูดอ้อนๆ เหมือนเดิมอีกที เออ ตาย.. กูตาย!“ก็ตอนนั้นเฮียเขินนี่นา -////-”“แล้วทำไมต้องเขินต่อหน้าคนเยอะแยะด้วยเล่า!”ฉันบ่นเขาออกไปอีก แล้วเฮียก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นอมยิ้มออกมาทันที อะไรของเขา เป็นไบโพล่าร์หรอ -_-?!“ก็เฮียไม่เคยเห็นเราเป็นงี้อ่ะ ฮ่ะๆ”เฮียเวย์ยิ้มหน่อยยิ้มใหญ่ไม่หยุด แล้วเอามือมาบีบแก้มฉันเบาๆ แต่พอยิ่งฟังฉันยิ่งหงุดหงิดขึ้นมาซะงั้น“ไม่เคยเห็นก็เห็นสั
หลายวันต่อมา..“งื้อออ อยากกินบิงซู แฮ่กๆ”ฉันบ่นออกไปทั้งที่ขายังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งในฟิตเนสที่คอนโด โดยมีเฮียเวย์ยืนกอดอกทำหน้านิ่งๆ อยู่ข้างๆ“ตั้งใจวิ่งไปห้ามคิดเรื่องกิน” เฮียพูดแล้วยื่นมือมาผลักหัวฉันเบาๆ ฉันเลยหันไปทำหน้ายักษ์ใส่เขาทันที“เฮียอยากออกกำลังกาย ทำไมต้องลากเจมาด้วยอ่ะ -_-?”ฉันบ่นอุบอิบออกไปเพราะตั้งแต่ก้าวขาเข้าฟิตเนสมาเฮียยังไม่ได้แตะเครื่องออกกำลังกายอะไรเลยสักแอะ มีแต่ยืนคุมเข้มฉันอยู่แบบนี้ น่าหงุดหงิดชะมัดเลย“ก็เราไม่ยอมแต่งงานกับเฮียเพราะบอกว่าอ้วน! ใส่ชุดแต่งงานไม่สวย”เฮียเบะปากใส่แล้วพูดออกมาแบบเซ็งๆ ก็ยอมรับนะว่าพูดจริงอ่ะ ใครก็อยากสวยที่สุดในวันแต่งงานทั้งนั้นป้ะ?!“เหอะ! แล้วใครเขาคิดเรื่องแต่งงานกันปุบปับแบบเฮียบ้างเล่า”ไอ้ที่คิดว่าอยากแต่งแล้วจะแต่งเลย ไม่สนใจอะไรต่อมิอะไร นอกจากเฮียพายที่ไอ้นิลเล่าให้ฟัง ฉันก็เจออีกคนละที่ประหลาดได้โล่แบบนั้น นี่ไง..ยืนอยู่นี่อีกคน เชื่อมะ..สองสามวันก่อนแม่เฮียกับม้าฉันพากันมาช่วยเลือกแหวนหมั้น แต่ดูไปดูมาเกือบจะได้เปลี่ยนเป็นแหวนแต่งงานกันซะงั้น คือรีบกันทุกคนยกเว้นฉันอ่ะ ไม่รู้จะรีบไปไหน -.-“หึ..โทษที เรื่องแต่งง