Share

บทที่ 2

Author: Chorchorwa
last update Last Updated: 2025-11-03 13:50:32

“…”

“…”

นัยน์ตาสวยจ้องมองผู้ชายแปลกหน้าอีกคนที่เพิ่งพุ่งพรวดเข้ามาในร้านของเธอด้วยท่าทางเหนื่อยหอบอย่างคนเพิ่งวิ่งมา ชายหนุ่มตรงหน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่ไม่ต่างจากอีกคนที่หลบอยู่ในห้องลับ แต่ใบหน้าหล่อของเขาจะดูเหมือนลูกครึ่งชัดมากกว่า ไหนจะรอยถากที่คิ้วกับรอยสักตรงมือนั่นอีกที่เธอแอบสังเกตด้วยความรวดเร็ว นั่นยิ่งทำให้ผู้ชายคนนี้แลไม่น่าไว้วางใจ

แต่ที่แน่ ๆ ทั้งสองคนไม่ใช่คนแถวนี้แน่นอนเพราะเธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยตลอดระยะเวลาที่อยู่ระแวกนี้มาตั้งแต่เด็กยันโต…

ปล้นกันงั้นหรอ…หรือไล่ฆ่า?

“เห็นผู้ชายใส่สูทตัวพอ ๆ กับฉันผ่านมาบ้างไหม” เสียงทุ้มเข้มถามออกมาพลางตาก็มองไปรอบ ๆ ร้านอย่างกับกำลังหาอะไร

“…ไม่มีนะ พอดีกำลังจะปิดร้าน”

ข้าวหอมลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไปเพราะเธอเพิ่งสังเกตเห็นมีดเล่มเล็กที่ชายร่างสูงตรงหน้าถือมันไว้ในมือ ทำให้หนุ่มลูกครึ่งต้องมองตามสายตาของหญิงสาวแล้วหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าตรงอกออกมาปาดคราบเลือดที่ติดอยู่ออก แล้วเก็บของมีคมกลับเข้าไปในสูทตัวหนาของตัวเอง

“…”

ผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้วางใจตรงหน้าไม่ได้พูดหรือถามอะไรต่อ แต่เขากลับเดินสำรวจร้านของเธออย่างถือวิสาสะทุกซอกทุกมุม ทำให้ตอนนี้ภายในร้านมีเพียงเสียงรองเท้าหนังของเขาที่ดังกระทบกับพื้นเป็นระยะ มือหนาด้านที่มีรอยสักตรงนิ้วยื่นออกไปจับม่านที่คลุมเอาไว้ระหว่างชั้นวางหนังสือพร้อมกับกระชากแหวกมันออกทำให้เขาเห็นประตูอะไรสักอย่างที่ซ่อนอยู่ด้านหลังม่าน…

“นี่อะไร?” ใบหน้าหล่อร้ายหันขวับกลับมาถามหญิงสาวทันที

“ประตูขึ้นไปชั้นสอง…บ้านฉัน ไม่อนุญาตให้เปิด” เสียงหวานเอ่ยบอกตามจริงและแฝงความหนักแน่นเพราะรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้จะเริ่มเสียมารยาทเกินไปแล้ว

“เค”

ชายคนเดิมไม่ได้ตื๊ออะไรพอเห็นว่าเธอพูดออกไปแบบนั้นเขาก็ปล่อยม่านให้ตกลงมาบังประตูไว้ตามเดิม แต่เขาก็ยังคงเดินสำรวจเข้ามาใกล้ และใกล้กับชั้นหนังสือที่มีกล่องดนตรีวางอยู่มากขึ้น จนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ามัน ซึ่งไม่ห่างจากเคาน์เตอร์หรือโต๊ะทำงานของเธอเท่าไหร่นัก

กึก…

คิ้วถากขมวดเข้าหากันทันทีที่หูของเขาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น พร้อม ๆ กับสาวเจ้าของร้านที่ก็ได้ยินและรู้ว่ามันดังมาจากอีกฝั่งหนึ่งด้านในของชั้นวางหนังสือ ทำให้ใจดวงน้อยถึงกับกระตุกเบา ๆ

กึก กึก…

ข้าวหอมเคาะส้นรองเท้าลงกับพื้นทำให้เกิดเป็นเสียงเดียวกันจนชายร่างสูงหันกลับมามองที่ขาเรียวของเธอแทน และเข้าใจว่าต้นตอของเสียงเกิดจากหญิงสาวคนนี้ เขาหมุนตัวหันกลับมามองหน้าผู้หญิงใบหน้าสวยแบบจริงจังครั้งแรก ก่อนจะเปิดประตูเดินออกไปที่หน้าร้านแล้วชะโงกมองอะไรบางอย่างแล้วถึงได้หมุนตัวเดินกลับเข้ามาด้านในอีกหน

“โกดังข้างหลังร้าน…รู้จักเจ้าของไหม” เขาถามออกมาพร้อมกับจ้องหน้ารอคำตอบ

“ไม่ค่ะ ไม่เคยเห็นคนเข้าออกด้วย น่าจะเป็นโกดังร้างนะ อยู่มานานแล้ว”

เสียงหวานตอบออกไปตามที่คิดเพราะโกดังขนาดใหญ่ด้านหลังร้านหนังสือของเธอสร้างขึ้นทีหลัง หลังจากที่ครอบครัวของเธอเปิดร้านหนังสือตรงนี้มาได้เกือบสิบปี โกดังนั้นถึงได้มีการก่อสร้างขึ้น จนกระทั่งผ่านมาอีกสิบปีเธอก็ยังไม่เคยเห็นคนเข้าออกโกดังนั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว…

“งั้นหรอ…มันคงเพิ่่งกลับมาอยู่เหมือนกันสินะ”

“อะไรนะคะ?”

“ไม่ได้พูดกับเธอ”

ข้าวหอมเงียบไปเพราะเห็นถึงความไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่ของผู้ชายตรงหน้า เธอเลยเลือกปล่อยผ่านประโยคช่วงท้ายที่เขาพูดก่อนหน้าออกมาเบา ๆ จนเธอจับใจความไม่ได้

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เชิญคุณออกไปจากร้านฉันได้แล้วค่ะ เลยเวลาปิดร้านมามากแล้ว”

ปากเล็กพูดบอกกึ่งไล่หลังจากเหลือบสายตามองเวลาถึงได้เห็นว่านี่สองทุ่มกว่าแล้ว ไหนจะผู้ชายอีกคนที่ยังอยู่ด้านในห้องลับอีก ถ้าผู้ชายคนนี้ยังไม่ออกไปอีกคนก็ไปไม่ได้ มีหวังเธอไม่ต้องปิดร้านกันพอดี…

“…” เขาเพียงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วสาวเท้าเดินออกไปจากร้านโดยไม่ได้เอ่ยอะไร

นัยน์ตาสวยมองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มลูกครึ่งออกไปจนเขาเดินหายลับไปจากสายตา เธอถึงได้ล้วงเอากุญแจดอกเล็กดอกเดิมออกมาจากกระเป๋ากระโปรงแล้วเดินตรงไปหากล่องดนตรีสีสวยทันที ข้าวหอมไขกล่องให้เปิดอ้าออกแล้วปล่อยให้ชั้นวางเลื่อนช้า ๆ เพราะไม่เห็นว่าคนด้านในมีทีท่าที่จะเปิดออกมา

“…นี่คุณ”

ปากเล็กส่งเสียงเรียกชายหนุ่มที่นั่งหลับอยู่กับพื้นไม่ดังมากนัก และเขาก็ค่อย ๆ ปรือตาขึ้นพร้อมกับหันใบหน้ามามองเธอ

“ออกมาได้แล้ว ฉันจะปิดร้านแล้ว แล้วผู้ชายที่ดูน่ากลัวเมื่อกี๊ก็ไปแล้วด้วย”

“…”

ร่างแกร่งยันตัวเองลุกขึ้นยืนเต็มความสูงโดยไม่ได้พูดอะไร เขาเดินออกมาด้านนอกด้วยท่าทางนิ่ง ๆ ข้าวหอมเลยปิดชั้นวางหนังสือให้กลับเข้าที่เดิมแล้วหมุนตัวหันกลับมาเผชิญหน้ากับผู้ชายแปลกหน้าที่ดูไม่ได้น่ากลัวเท่าคนเมื่อสักครู่

“คุณหนีเขามาหรอ คนนั้นที่ทำร้ายคุณ”

เสียงหวานเอ่ยถามออกไปด้วยความมั่นใจระดับหนึ่ง เพราะเท่าที่สังเกตด้วยสายตาผู้ชายทั้งสองคนมีความคล้ายคลึงกันในแง่ของรอยฟกช้ำตามใบหน้า หรือรอยเลือดต่าง ๆ แล้วไหนจะมีดเล่มนั้นที่ผู้ชายหน้าหล่อร้ายถือเข้ามาในร้าน กับรอยแผลตรงต้นแขนของผู้ชายคนนี้อีก

“ไม่ได้หนี แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปะทะกันแบบสกปรก”

เขาพูดออกมาด้วยใบหน้านิ่งเรียบไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ ให้เธอได้คาดเดา ร่างสูงหันใบหน้าหล่อ ๆ ของตัวเองมองไปรอบ ๆ ร้านหนังสือก่อนจะก้าวขาเดินสำรวจทั่วทั้งร้านไม่ต่างไปจากผู้ชายคนก่อนหน้า

“…คุณไม่ไปโรงพยาบาลหรอ แผลตรงต้นแขนน่ะ”

ข้าวหอมพยักเพยิดหน้าบอกเขาแต่เหตุผลจริง ๆ คือเธอกำลังต้องการไล่คนแปลกหน้าให้ออกไปจากร้านต่างหาก เพราะเห็นว่าผู้ชายคนนี้แลจะไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้น

“ยังไปตอนนี้ไม่ได้”

“…”

นัยน์ตาคมตอบออกมาเพียงเท่านั้นพลางจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าอย่างพินิจเป็นครั้งแรก

“ทำแผลให้หน่อย เหนียว” เสียงทุ้มเข้มพูดบอกแบบคนชินในการออกคำสั่ง

“ฉันจะปิดร้านแล้ว คุณไปโรงพยาบาลสิ ที่นี่ไม่ได้มีอุปกรณ์ทำแผลครบครันหรอก” ข้าวหอมพูดบอกพลางมองสบตากับใบหน้าหล่อลูกครึ่งที่ชัดไปทางเอเชีย

“ทำเท่าที่ได้ก็พอ”

ชายหนุ่มย้ำคำเดิมก่อนจะสอดส่ายใบหน้าหาที่นั่งใกล้ตัวเพื่อรอให้หญิงสาวไปจัดการตามที่เขาบอกอย่างไม่สนใจว่าเธอจะคิดยังไง ใบหน้าสวยมองผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่กำลังหย่อนตัวลงนั่งแบบไม่ฟังเธอสักนิด พลันในหัวก็ลังเลเล็กน้อยแล้วถึงได้ตัดสินใจเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลขนาดพกพาตรงหลังเคาน์เตอร์ออกมา

เท้าเรียวในรองเท้าหนังแบบตุ๊กตาเดินตรงเข้าไปหาผู้ชายที่มีใบหน้าไร้อารมณ์คนนั้น พร้อมกับย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อวางอุปกรณ์ทำแผลลงข้างตัว

“ขออนุญาต”

ปากเล็กเอ่ยบอกตามมารยาทและรอให้ผู้ชายตรงหน้าพูดตอบก่อน แต่ผ่านไปเกือบนาทีเขาก็ยังนิ่งเงียบเธอเลยไม่สนใจจะถามอะไรต่อและลงมือทำแผลบนใบหน้าให้เขาเพราะต้องการให้ผู้ชายคนนี้ออกไปจากร้านหนังสือของเธอไว ๆ

มือบางหยิบสำลีชุบน้ำเกลือแล้วเช็ดเบา ๆ ลงที่คิ้วหนาดกดำของเขา เธอจ้องมองแผลแตกอย่างละเอียดเพราะไม่ต้องการออกแรงมากเกินไปจนแผลใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ข้าวหอมลากมือออกมาจากคิ้วของชายหนุ่มพร้อมกับก้มตัวลงหยิบสำลีอีกแผ่นมาซับเลือดที่มุมปากหนาอย่างแผ่วเบาเช่นกัน ทำให้ใบหน้าหล่อต้องหลุบสายตาลงมองการกระทำของสาวเจ้าของร้านอย่างช่วยไม่ได้

นัยน์ตาคมมองใบหน้าสวยที่อยู่ห่างจากเขาไม่ถึงฝ่ามือพลันในใจก็แอบคิดว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงไม่ระวังตัวขนาดนี้ทั้งๆ ที่เขาเป็นผู้ชายแปลกหน้าสำหรับเธอ

“อย่าจ้องได้ไหม มันอึดอัด”

เสียงหวานเปล่งออกมาแม้เธอจะไม่ได้ละสายตาออกมาจากแผลที่มุมปากของเขา แต่ก็รับรู้โดยตลอดว่าผู้ชายตรงหน้าจ้องมองเธอมาสักพัก

“…”

เขาไม่ได้พูดอะไรแต่ดึงสายตากลับไปมองทางอื่นทันที เธอเลยทำแผลต่ออย่างไม่คิดอะไร…

“คุณไปทำอะไรให้เขาหรอ หรือคนนั้นเขาเป็นพวกค้ายา?”

สาวเจ้าของร้านถามออกไปด้วยความสงสัยเพราะเธอยังไม่ได้คำตอบใด ๆ จากปากคนตรงหน้าที่กำลังทำแผลให้อยู่

“ฉันเหมือนพวกขี้ยาหรอ”

ใบหน้าหล่อสไตล์ลูกครึ่งหันขวับกลับมามองสบตากับเธอหลังจากได้ยินสิ่งที่หญิงสาวถาม แต่เขาน่าจะตีความไปกันคนละความหมาย ทำให้ทั้งสองคนต่างต้องจ้องมองหน้ากันอย่างเลี่ยงไม่ได้ด้วยระยะที่ใกล้ชิดจนน่ากลัว

“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย”

“หึ ตาไม่ถึงเอาซะเลย”

น้ำเสียงทุ้มเข้มเค้นหัวเราะออกมาพลางดึงสายตามองออกไปทางอื่นอย่างเอือม ๆ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Oops! มีมาเฟียในบ้านหนู   บทที่ 57

    “ว้ายยยย”คนตัวเล็กกรีดร้องออกมาเพราะเมื่อกี๊มีมีดของใครก็ไม่รู้พุ่งเข้ามาที่เธอ แต่โชคดีที่เกรคว้าแขนผู้ชายคนนั้นไว้ได้ทันส่วนดีนก็ออกแรงกระชากจนกระโปรงยาวที่เธอสวมใส่สยายไปตามแรงปึก!แผ่นหลังบางชนเข้ากับตัวของราล์ฟเธอเห็นว่ามาเฟียทั้งสองคนเลือกที่จะไม่ใช้อาวุธในตอนแรกเพราะพวกเขาทำเพียงยกปืนกระบอก

  • Oops! มีมาเฟียในบ้านหนู   บทที่ 56

    “…เอาจริงดิ”ข้าวหอมหันหน้ามองไปข้างหน้าอีกครั้งแล้วก็มองไปทางขวาด้วยอาการเลิ่กลั่ก ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะหันไปเห็นกันเองในที่สุดทำไมฉันถึงไม่ออกจากร้านติณให้เร็วกว่านี้นะ…อย่างน้อย ๆ จะได้ไม่มาอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดที่อาจจะมีคนฆ่ากันตายได้อย่างตอนนี้หญิงสาวในชุดกระโปรงไม่กระดิกไหนเธอพยายามทำตัวล่

  • Oops! มีมาเฟียในบ้านหนู   บทที่ 55

    หิวข้าวจัง…สามชั่วโมงให้หลัง“ขอบคุณนะคะ”ปากเล็กส่งยิ้มให้กับลูกค้าประจำของร้านแล้วก้มตัวลงหยิบหนังสือที่เธอแพ็กใส่ถุงเอาไว้เดินออกไปส่งให้กับไรเดอร์ที่เพิ่งขับเข้ามาจอดที่หน้าร้าน เธอยื่นหนังสือของร้านตัวเองออกไปแล้วมองผู้ชายใส่หมวกนิรภัยตรงหน้าเก็บมันลงในกระเป๋าสี่เหลี่ยมด้านหลัง“ถึงแล้วจะแจ้งไ

  • Oops! มีมาเฟียในบ้านหนู   บทที่ 54

    “อืออ…หาววว หลับสบายจัง”ฟึบ!แขนที่เพิ่งชูขึ้นไปกลางอากาศรีบชักกลับเข้ามาหลังจากที่เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้อยู่ห้องของตัวเอง ข้าวหอมนิ่งไปพักหนึ่งแล้วถึงค่อย ๆ ยันตัวเองลุกขึ้นนั่งพลางจับผ้าห่มผืนหนาติดตัวมาด้วยเพื่อปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองเอาไว้อายชะมัด! นี่ฉันมาหาเขาถึงที่ไม่พอแล้วยัง

  • Oops! มีมาเฟียในบ้านหนู   บทที่ 53

    เอวบางเริ่มร่อนเข้าใส่ต้นขาแกร่งกระชั้นขึ้นลมหายใจของเธอส่งเสียงดังเพื่อบอกว่าแรงใคร่ภายในตัวมันกำลังโหมกระหน่ำมากมายขนาดไหน ร่างเปลือยเปล่าเปลี่ยนมาขย่มตัวขึ้นลงบนตัวของเขาจนน้ำสีสวยภายในอ่างแตกกระจายออกไปด้านนอก แต่ข้าวหอมก็ไม่คิดสนใจเธอวางมือลงบนบ่ากว้างแล้วส่งแรงทั้งหมดเท่าที่มีประเคนเข้าหาตัวตน

  • Oops! มีมาเฟียในบ้านหนู   บทที่ 52

    “หึ”ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเพราะเขาไม่เคยเห็นข้าวหอมเป็นแบบนี้มาก่อนขนาดเพิ่งปลดปล่อยไปไม่ถึงนาที แต่ตอนนี้เธอกลับเป็นฝ่ายเริ่มควงบั้นท้ายอีกแล้ว“อื้อ เอาออกทำไม”หน้าสวยหันมามองเขาด้วยแววตาตำหนิเพราะเธอกำลังใช้ตัวตนของเขาระบายความเร่าร้อนภายในตัวอยู่“ออกไปจากลิฟต์ก่อน”ที่ราล์ฟจำใจต้องถอนแก่นกายออ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status