Beranda / โรแมนติก / Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม / ตอนที่ 4 ช้ำแล้วช้ำเล่า 1/2

Share

ตอนที่ 4 ช้ำแล้วช้ำเล่า 1/2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-08 13:31:50

ชีวิตฉันวนลูปอยู่ที่เดิมซ้ำไปมา หลังจากที่ไอ้ปั้นกับไอ้ปัณณ์เพื่อนรักเพื่อนชั่วดีกันแล้ว เพื่อนเหี้ย ๆ อย่างฉันก็หมาเหมือนเคย

         “ไอ้ปัณณ์มึงดูนั่น...อย่างแจ่มเลย...ไฟหน้าสูงด้วย”

         ไอ้ไฟหน้าสูงนี่มันใช้เรียกผู้หญิงนมใหญ่ซึ่งฉันทำหน้าเอือม ๆ เพราะวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ได้พัก ก่อนจะต้องไปทำแลปที่มหาวิทยาลัยมันเลยชวนกันมานั่งดริ้งฟังเพลง  ชิลล์ ๆ และเมื่อสองเพื่อนรักดีกัน เรื่องน้องแก้มหอมที่โดนเททิ้งไม่ไยดี ฉันเห็นน้องโพสต์เศร้าอยู่สองวัน เพราะแค่ไอ้ปั้นคุยด้วยน้องก็กดติดตามฉันทันที ฉันก็ติดตามกลับไม่ใช่เป็นมารยาท แต่เสือกเรื่องของน้องกับไอ้ปั้นคนที่ฉันคิดเกินเพื่อนอยู่นี่ไง

         สุดท้ายไอ้ปั้นบล็อกน้องไม่ติดต่อกลับน้องก็เฮิร์ตหนัก กินเหล้าทุกวัน แต่ฉันรู้นั่นแหละ เด็กไอ้ปั้นก็ทรงนี้ทุกคน ตอนคุยน่ารักน่าทะนุถนอม แต่พอได้กันเสร็จก็เทเลย

         แม้จะรู้ว่าเป็นข้อตกลงของไอ้ปั้นที่จะไม่กินผู้หญิงซ้ำ เพราะมันบอกว่าไม่เลือกใคร ดังนั้นเมื่อได้กินแล้วมันจะบล็อกทันที เดือดร้อนฉันเนี่ยแหละที่ต้องเป็นสนามอารมณ์ของผู้หญิงของมัน

         นี่ไอ้สองตัวนั่นไปหลีหญิงอีกแล้ว แน่นอนว่าต้องเป็นนักศึกษาในมอเราแน่นอนที่มาบาร์นั่งชิลล์นี้คงเป็นที่ไหนไม่ได้หรอก ท่าทางคงจะไม่นักศึกษาคณะบริหาร หรือพยาบาลอ่ะ ทรงน่ารักแต่ร้ายลึกแบบนี้สเปกไอ้ปั้น แล้วก็ไอ้ปัณณ์ที่คั่วชั่วคราวแบบไม่ค้างคืนก็เดินไปชนแก้ว ฉันก็หันมาจิบเบา ๆ เพราะวันนี้สั่งคอกเทล ไม่อยากดื่มแรง ๆ เดี๋ยวจะไม่ไหวเอา แค่คืนนี้ก็ซัดเต็มที่รู้สึกร่างจะพัง

         แต่ผ่านไปสิบห้านาทีโดยที่ฉันไม่ได้มองไปทางไอ้สองตัวนั้นก็เห็นไอ้ปัณณ์เดินกลับมาด้วยสีหน้าเซ็ง ๆ

         “ทำไม?” ไอ้ปุณณ์ถาม

         “ไอ้ปั้นหิ้วหญิงกลับไปแล้ว”

         เชี่ย...ดีลแค่สิบห้านาทีมันหิ้วกลับไปกินแล้ว เสือของจริง ฉันก็ถอนหายใจก่อนที่ไอ้ปัณณ์จะมาตบไหล่ฉันเบา ๆ

         “ยังไงมึง”

         “กลับดิ...กูง่วงแล้ว” นี่เพิ่งเที่ยงคืนซึ่งฉันบ่นง่วง แต่ปกตินอนเกือบเช้าทุกวัน แน่นอนเหตุผลควาย ๆ ของฉันเอง พยายามส่องกระจกทุกวัน ไอ้หุ่นแบบฉันหน้าแบบฉันนี่แม่งไม่ใช่สเปกไอ้ปั้นบ้างเลยหรือไงวะ

         “มึงง่วง...แต่ไอ้ปั้นไปแง๊นน ๆ กับสาวแล้ว”

         “เออ” ฉันว่าแล้วไอ้ปุณณ์ก็พาฉันสองคนกลับ เพราะวันนี้มันเป็นเวรขับรถไม่ดื่ม ซึ่งเป็นปกติเพราะสามคนนี้จะพลัดเวรกันขับรถถ้าดื่ม โดยจะมีหนึ่งคนคอยเก็บศพ

         ฉันค่อนข้างหงุดหงิดเมื่อเดินมาถึงรถไอ้ปุณณ์แล้วมองไปยังรถของไอ้ปั้นที่จอดถัดออกไปสองล็อกแล้วเห็นมันกำลังนัวเนียกันอยู่ในรถยังไม่ออกไปไหน

         “เชี่ย...โรงแรมก็แค่นี้มั้ง” ฉันบ่นแล้วก็นั่งหน้าหงิกข้างไอ้ปุณณ์

         “มึงบ่นทำไม มันก็ปกติ” ปุณณ์ว่า

         เออ...ปกติทุกคนยกเว้นกูเนี่ยแหละไม่ปกติ เฮ้อ...เบื่อตัวเองวะ

         ฉันกลับถึงคอนโดแยกจากไอ้สองคนนั้น เพราะมันอยู่ชั้นสูงกว่าเปิดเข้าห้องแล้วก็เดินไปล้างหน้าเช็ดเครื่องสำอางจากนั้นก็นอนดูทีวีบนเตียงแล้วก็หลับไป จนกระทั่งรู้สึกตัวเหมือนมีอะไรขยุกขยิกอยู่ข้าง ๆ จนสะดุ้ง

         “เฮ้ย!”

         “กูเอง”

         เสียงนุ่มของคนคุ้นเคยดังขึ้น

         ฉันถอนหายใจโล่งอก นึกว่าขโมยเข้าห้อง แต่ก็ลืมไปว่าที่นี่ระบบรักษาความปลอดภัยดีมาก แล้วก็มีแค่ไอ้สามตัวที่เข้าห้องฉันได้ แต่วันนี้ไอ้ปั้นมาแปลกเสือกมานอนกับฉันหลังไปแดกหญิงจนอิ่มท้อง ฉันยกเท้าขึ้นถีบด้วยความโมโห

         ปั่ก! ตุ้บ!

         ไอ้ปั้นกลิ้งตกเตียงนอนไปก้นกระแทกพื้น

        

         “ไอ้เหี้ยริน...ถีบกูเพื่อ” ไอ้ปั้นโวยวายแล้วฉันเห็นนาฬิกาดิจิตอลบนหัวนอนบอกเวลาตีสี่

         “แดกกับหญิงอิ่มแล้วมานอนบนเตียงกูสกปรก...ไปนอนที่อื่น” ฉันด่ามันแล้วก็หงุดหงิดเรื่องมันอยู่แล้วเลยหาเรื่องตอนตีสี่เนี่ยแหละ

         มันลุกขึ้นก่อนจะหน้ามึนเข้ามานอนเหมือนเดิมแล้วลากฉันลงไปนอน จากนั้นก็กอดเอาไว้

         ไอ้เชี่ย...ไอ้ปั้นทำเชี่ยอะไรวะ!

         “มึงกอดกูทำไม” ฉันดิ้น...เพราะมันไม่ค่อยเป็นแบบนี้เท่าไหร่ วันนี้มันมาแปลก

         “กูก็กอดมึงเหมือนที่มึงละเมอกอดกูทุกคืน”

         “....”!

         ฉิบหาย...มันรู้เหรอไงวะ นี่ก็เนียนมาตลอดนะ ก็มันหลับทุกทีนี่หว่าตอนที่แอบกอดมัน หรือว่ามันรู้ตัวมาตลอด

         “มึงอย่ามามั่ว...กูไม่เคยกอดมึง”

         “หึ...กูมีหลักฐาน”

         ฉิบหาย...เสียงหัวเราะคำหนึ่งในลำคอนั่นคืออะไร เพราะตื่นมาฉันก็ตื่นปกติ มันก็ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วท่าทางของมันที่ยกยิ้มแบบกวนตีนแบบนี้หมายความว่าไง

         “มึงอย่ามา” ฉันว่าพลางผลักมันออก แต่ทว่ามันกระซิบข้างหูเสียงแผ่ว

         “ถ้ากูมีหลักฐานจริง...มึงจะให้อะไรกู”

         “หื๋ยยย...อย่ามากระซิบแบบนี้ กูเสี่ยว...เดี๋ยวผีผลัก” ฉันทำท่ารังเกียจมันก่อนจะหันไปอีกฝั่งพร้อมกับหลบหน้าที่เห่อร้อน ไปอีกทางไม่ให้มันเห็น

         ไอ้เวร...ไม่คิดอะไรก็ขยันทำให้กูหวั่นไหว ยิ่งนอนใกล้ใจยิ่งสั่นนะ...

         “ทำไม...มองหน้าหล่อ ๆ ของกูแล้วหวั่นไหวหรือไง”

         อยากตอบเออ...กูหวั่นไหวมานานแล้ว แต่แม่งก็ต้องกัดฟันเอาไว้แล้วเงียบแกล้งหลับ จนกระทั่งมันเลิกตอแยฉันแล้วหันไปนอนเหมือนเดิม แต่พอจะตั้งใจหลับมันกลับพูดมาหนึ่งคำ

         “กูไม่ได้นอนกับใคร...เหมือนมึงนะ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนพิเศษ

    สอบปลายภาคเทอมสอง... ฉันกับไอ้ปั้นแยกกันนอนสองอาทิตย์ก่อนสอบ เพราะว่าหากนอนกับมันที่ห้องทุกวันฉันไม่ได้อ่านหนังสือ และแน่นอนมันงี่เง่า “ริน...ปั้นติวให้...นะ...นะ...นะ สองอาทิตย์ตายพอดี นอนไม่หลับเลยนะ” ปั้นกอดที่เอวฉันเอาหน้าซุกมาที่ซอกคอขณะที่นั่งอยู่คอนโดที่ฉันเช่าไอ้สองแฝด และเพิ่งรู้ว่าไอ้ปั้นมันจ่ายค่าเช่าให้ฉันมาตลอด แม้จะเกรงใจมันแต่ตอนนี้เป็นแฟนกันแล้วก็ขอใช้สิทธิ์แฟนให้เต็มที่ก็แล้วกัน “ติวให้หรือติ้วให้เอาดี ๆ เคยได้ติวไหม” ตั้งแต่เป็นแฟนกันตั้งแต่ปีใหม่ก็ร่วมสองเดือนแล้ว แต่ว่ามันไม่มีวันไหนที่ไม่ทำกันสักวัน มีแต่ทำมากขึ้น ไม่รู้อดอยากมาจากไหน บางที่สะลึมสะลือไปเรียนเพื่อนในภาคเคมีก็แซวยับ ฉันก็หน้าแดงทุกที แล้วพวกมันก็พากันแซวเรื่องไอ้ปั้นไม่หยุด บางทีก็ฝากคิสมาร์กเอาไว้ตามหน้าอก แล้วเสื้อนักศึกษามันเปิดเห็นเนินอกนิด ๆ นอกจากเพื่อนในภาคเคมีก็ไอ้ปัณณ์ที่ทำหน้าเหม็นเบื่อฉัน เวลาเห็นสภาพหน้าเหมือนศพไปเรียน ก็จะอะไรเสียอีก ก่อนนอนก็สองรอบ ตื่นเช้าก่อนอาบน้ำก็อีกรอบ น้ำฉันออกแทบจะเป็นคนขาดน้ำ “นะ...นะ...คิดถึงเมีย”

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนที่ 23 บทส่งท้าย 2/2

    “สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่” “ทำไมเรียกพวกเธอว่าพ่อแม่...แต่ฉันเป็นแม่ว่าที่สามีเรียกป้ามันน่าน้อยใจนะ” “.....” ฉันหันหน้าไปมองไอ้ปั้นที่ตอนนี้ยักคิ้วให้ฉันบอกว่าให้เรียกแม่สักที จะได้เลิกบ่น “ค่ะคุณแม่” ฉันเรียกแบบเกร็ง ๆ เพราะไม่ได้สนิทกับแม่ปั้นเหมือนแม่ไอ้ปัณณ์ แล้วไอ้ปั้นก็จับฉันนั่งข้างแม่อีกต่างหาก แล้วมันไปนั่งเสียไกล ดีที่ข้าง ๆ เป็นแม่ไอ้ปัณณ์ทำให้ฉันลดความเกร็งลงหน่อย “เสียดายนะคะ...นึกว่าจะได้มาเป็นหลานสะใภ้ฉัน อุตส่าห์ให้ไปเจอเจ้าเปรมแต่รายนั้นดันมีแฟนไปเสียก่อน น่ารักแล้วก็เก่งอย่างนี้รักตายเลยค่ะ” แม่ไอ้ปัณณ์อวยสุดมาก จนฉันเริ่มเขินแล้ว ส่วนแม่ไอ้ปั้นก็สู้กลับอีก “ของอย่างนี้ใครไวใครได้ค่ะ พอดีว่าปั้นไวไฟเหมือนแม่ก็เลยได้ของดีมาครอง” ไอ้ปั้นจ้างแม่มันเท่าไหร่เนี่ย ทำไมถึงได้อวยเก่งขนาดนี้ สาบานเถอะฉันไม่ได้เก่งอะไรนอกจากปากเก่งไป วัน ๆ แถมยังด่าพวกสาว ๆ ของไอ้ปั้นกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว “เอ่อ...ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ” ฉันพูดอย่างเกรงใจ แต่ไอ้ปัณณ์บิดปากคว่ำใส่ฉัน “เนี่ยแม่ให้ไปบ้านก็บ่ายเบี

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนที่ 23 บทส่งท้าย 1/2

    วันนี้ไอ้ปั้นไม่ได้มาที่มหาวิทยาลัย แต่มันบอกว่าจะมารับตอนเย็น มีธุระกับที่บ้าน ฉันไม่อยากซักแล้วก็ไม่อยากให้มันมารับด้วย เพราะมันจะพาฉันไปที่บ้านของมันเลย สุดท้ายนั่งหน้าเครียดอยู่ใต้ตึกคณะโดยที่ไอ้สองแฝดที่เลิกเรียนแล้วหงุดหงิดที่โดนตามมาแทนที่จะกลับบ้านไปนอน “มีอะไร” ไอ้ปัณณ์ถามขึ้นทำหน้าเหมือนกีบควาย ใส่ฉัน “มึงไปส่งกูร้านเฮียอ๋าหน่อย” “ทำไม...เฮียอ๋าไม่สบายเหรอ มึงทำหน้าแย่มาก” ไอ้ปัณณ์ถามส่วนไอ้ปุณณ์รอฟังเช่นกัน เพราะเฮียอ๋าเหมือนญาติผู้ใหญ่ของฉันคนหนึ่งเหมือนกัน “เปล่า...กูแค่ไม่อยากกลับกับไอ้ปั้น วันนี้แม่มันจะให้พากูไปบ้าน” “แล้วมีอะไร...ทำไมมึงต้องหนี” “มึงไม่เข้าใจอ่ะ...เอาเป็นว่ามึงพากูไปหลบร้านเฮียอ๋าก่อน เดี๋ยวกูจะอ้างเฮียเจ็บขาเลยต้องไปช่วย” “ริน...ทำไมมึงกลัวแม่มัน” ไอ้ปุณณ์ที่เห็นท่าทางฉันแล้วคงแบบเอือมระอา ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมกลัวแม่ไอ้ปั้น แต่แม่ไอ้แฝดกลับไม่กลัวไม่พอ ยังเข้าหาเก่งประหนึ่งลูกคนที่สาม “ก็กูกินลูกชายเขาแล้ว...เขาจะโอเคกูเหรอ” “เชี่ย...เพื่อนกูร้อนแรง มึงแตกคาปากป่ะ

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนที่ 22 สถานะแฟน 2/2

    “กูก็เหนื่อยแล้ว...มึงเลิกคุยไปทั่วได้ไหม” ฉันว่า เพราะจะเป็นแฟนกันนั่นหมายถึงว่าฉันจะไม่ยอมให้มันไปคุยกับคนอื่นไปทั่วหรอกนะ หากเป็นแบบนี้ไม่ต้องเป็นแฟนกันหรอก มันเสียเวลา และเสียใจเปล่า ๆ “กูหยุดแล้ว กูจะไม่คุยกับใครนอกจากมึง” “กูขี้หึงนะ” ฉันบอกเอาไว้ก่อน เพราะว่าถ้าตกลงคบกันนั่นหมายถึงมันต้องรับข้อเสียข้อนี้ของฉันให้ได้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะมีปัญหากันอีก “กูทั้งหึงและก็หวงด้วย อีกอย่างไม่อยากให้มึงไปนอนคอนโดไอ้ปัณณ์แล้วนะ มาอยู่ด้วยกันเถอะ” เพิ่งเป็นแฟนมันก็ชวนมาอยู่ด้วยกัน ไม่เร็วไปหรือไง “กูไม่ชินถ้าเปลี่ยนที่นอน นอนไม่หลับนะปั้น” “เดี๋ยวกูจะทำให้มึงเหนื่อยแล้วหลับเอง ไว้ใจกูได้” สีหน้าแววตา แบบนี้ก็คิดเรื่องเดียวนั่นแหละ ฉันไม่ได้รับปาก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอาจจะมาบ้างไม่มาบ้าง เพราะฉันชอบคอนโดไอ้สองแฝดนั้นมากกว่า “ไอ้สองคนนั้นมันเข้าห้องนั้นได้ ถ้าเกิดกำลังเอากันอยู่มันเข้ามาล่ะ” โอ้โห...เหตุผลมันเหี้ยมาก นึกว่าอะไรจะบ้าตาย “ปั้น...มึงรู้ใช่ป่ะเป็นแฟนกันไม่ใช่แค่เอากัน มันต้องทำอย่างอื่นด้วย”

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนที่ 22 สถานะแฟน 1/2

    “ไม่ไปห้องมึงนะ” ฉันพูดขึ้นขณะรถสปอร์ตของมันมุ่งหน้าไปคอนโด แต่เชื่อได้ว่าต่อให้ฉันห้ามยังไงมันก็ไปคอนโดมัน ที่จริงมันควรให้เวลาฉันทบทวนสักหน่อย ที่มันบอกว่าชอบมันก็ดีหรอก แต่ฉันรู้สึกแค่ว่ามันยังมีบางอย่างติดค้างในใจนิด ๆ ที่ฉันต้องขจัดออก “ห้องไหนกูก็จะนอนกับมึง กูอยากกอดมึงใจจะขาด” หึ...อยากกอดหรืออยากถอด ฉันเพิ่งรู้ก็ตอนที่โดนมันรวบหัวรวบหางกินไปตลอดตัวนี่เองว่า มันเป็นคนหื่น ก่อนหน้านั้นมันไม่ได้แสดงด้านนี้ออกมาให้เพื่อนอย่างพวกฉันเห็น มีแค่ไอ้ปุณณ์ดูชัดเจนที่สุดก็เท่านั้น แต่นั่นมันก็เป็นแค่ไอ้ปุณณ์ ส่วนไอ้ปั้นแบดบอยสเปกสาว ๆ เลย หล่อเลือกได้ ถ้าให้ก็กินหมด แต่ได้ไปอยู่ห้องมันแค่เพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมง สาบานว่าฉันเสียวท้องตลอดเวลา มันพร้อมมากสำหรับจับฉันกิน ซึ่งฉันเริ่มกลัวมันนิด ๆ แล้วสิ “คืนนี้ไปห้องกูนะ...ริน...นะ” “มึงอ้อน?” ฉันหันหน้ากลับไปมองมันอย่างแปลกใจ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มันอ้อน เพราะปกติเป็นฉันที่อ้อนมันเป็นส่วนใหญ่ “ก็อ้อนเมีย...ครับ” “....” ฉันใบหน้าเริ่มเห่อร้อนนิด ๆ คำว่าเมียมันข้ามแฟนไปอีกอ่

  • Over friend มากกว่าเพื่อนได้ไหม   ตอนที่ 21 กูชอบมัน 2/2

    “ถ้าเป็นแฟนพี่เขากูไม่รู้หรอก แต่ถ้าเป็นแฟนกูไม่ต้องทำอะไรกูทำให้ทุกอย่าง” ผมพูดจบแล้วทุกคนก็หันหน้ามองผมอึ้ง ๆ แต่ใครจะสนล่ะ ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้ว จะเอาเมียกลับไปกอดข้ามปี แล้วก็จะกอดไปอย่างนี้ทุกวันนั่นแหละ ไม่สนแล้วโว้ยไอ้ความรู้สึกรักหรือไม่รักอะไร รู้แต่ตอนนี้ขาดไม่ได้ “ปั้นนน...” ไอ้รินเรียกผมเสียงสั้นเล็ก ๆ เหมือนมันจะมองผมแบบไม่เชื่อสายตา “อะไรของมึงไอ้ปั้น” ปัณณ์ถาม “จะอะไรของกูอีกล่ะ...ก็ไอ้รินเนี่ยของกู พวกมึงเลิกเอามันใส่พานให้ใครได้แล้ว” ไอ้ปัณณ์ทำหน้าหมาสงสัย จนอยากจะถีบ ทีอย่างนี้โง่ขึ้นมาเลย “อะไรของมึง มันเป็นของมึงได้ยังไง” ผมเห็นหน้าไอ้รินซีดเผือด แต่ว่าผมไม่สนใจแล้วยื่นมือมาจับมันให้ลุกขึ้น “เป็นของกูได้ยังไงเหรอ...ต้องให้กูอธิบายไหม” ผมหันไปถามคนข้าง ๆ แต่มันส่ายหน้าไปมา ส่วนผมยิ้มร้ายไม่สนใจมันหรอก “ก็กูได้กับมันแล้ว ทีนี้เป็นของกูได้ยัง” “ไอ้ปั้น....” คนที่ผมจับข้อมืออยู่ตะโกนเสียงสั่น มองหน้าเพื่อนที่ตกอกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่ใครจะสน เมียกำลังจะโดนผู้ชายงาบไป ผม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status