ログイン"ฉันจัดการหมดแล้วนะ เรื่องที่เธอสั่ง"ทันทีเมื่อไอวาก้าวขาขึ้นรถกระทิงก็ไม่รอที่จะบอกว่าเขาได้จัดการตัดความสัมพันธ์กับผู้หญิงพวกนั้นหมดแล้วโดนทันที
"หายโกรธฉันได้แล้วนะ ฉันสัญญาว่าต่อไปฉันจะไม่ทำมันอีก"ชายหนุ่มคว้ามืออ่อนนุ่มของหญิงสาวขึ้นมากุมพลางจ้องมองใบหน้าสวยที่เขาหลงใหลอย่างรักใคร่ "ฉันรักเธอคนเดียวจริง ๆ นะไอวา" "อืม"หญิงสาวครางรับในลำคอ เธอรู้ดีว่ากระทิงรักเธอจริงอย่างปากว่า แต่คำสัญญาของเขานั้นมันจะเชื่อได้สักกี่เปอร์เซ็นต์กัน เพราะก่อนหน้านั้น เขาก็เคยสัญญาแบบนี้กับเธอ แต่ผลสุดท้าย เขาก็ทำมันไม่ได้ "หนูไอวา แม่คิดถึงหนูจังเลยลูก"เสียงหวานของคุณหญิงรัศมีดังขึ้นทันทีเมื่อร่างบอบบางของว่าที่ลูกสะใภ้ก้าวขาลงจากรถของลูกชาย ทั้งทั้งคู่จะโผเข้ากอดกัน "หนูก็คิดถึงคุณป้าเหมือนกันค่ะ" "แหนะ ป้าอะไรกัน แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกแม่" "ค่ะคุณแม่" "ดีมากค่ะคนสวยของแม่"แววตาอ่อนโยนของคุณหญิงรัศมี มีแต่ความอ่อนโยนและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่พร้อมจะมอบให้ไอวาเพียงแค่คนเดียว "ไม่คิดจะทักทายผมสักหน่อยเหรอครับ"ร่างสูงใหญ่เอ่ยทักทันทีเมื่อเขาเดินมาหยุดข้างกายแฟนสาว "อะไรกัน เมื่อไม่กี่วันก่อนแม่ก็ได้โทรคุยกับลูกแล้วนี่ จะมางอแงทำตัวเหมือนเด็กแบบนี้ไม่ได้นะกระทิง" "โถ่ คุณแม่ครับ" "หนูไอหิวหรือยังจ๊ะ วันนี้แม่ลงมือเข้าครัวเองเลยนะ ทำแต่ของที่หนูไอชอบ"กระทิงเชื่อแล้วว่า ทั้งบิดาและมารดาของเขาทั้งรักและเอ็นดูไอวาจริง ๆ ทันทีเมื่อท่านทั้งสองเจอหน้าของไอวา เขาก็ไม่ต่างอะไรจากหมาหัวเน่าทันทีอย่างเช่นตอนนี้ "เข้าไปข้างในกันดีกว่าจ้ะคุณพ่อคงคุยงานกับศรัณย์เสร็จแล้ว" "ค่ะคุณแม่"ไอวาเดินเคียงคู่คุณหญิงรัศมีเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่โดยมีสายตาเอ็นดูของกระทิงคอยมองตามแผ่นหลังทั้งคู่ ก่อนที่เขาจะเดินตามทั้งสองเข้ามา "มากันแล้วเหรอ"เสียงเข้มเอ่ยทักทันทีเมื่อทั้งสามเดินมาถึงโถงทางเดินซึ่งมีบันไดเชื่อมขึ้นไปยังชั้นสอง ดวงตาของทั้งสามมองไปยังร่างสูงใหญ่ดูมีอำนาจของ'ท่านเจ้าสัวรังสิมันต์'เดินลงบันไดมาโดยมีร่างสูงใหญ่ของศรัณย์ลูกน้องคนสนิทเดินตามลงมา "สวัสดีค่ะคุณลุง"ไอวายกมือไหว้ท่านผู้ใหญ่ที่เธอรักและเคารพนับถือเหมือนกับว่าท่านคือบิดาอีกคน "เด็กคนนี้ พ่อบอกกี่ทีแล้วว่าอย่าเรียกลุง"แม้จะเอ่ยตำหนิอย่างไม่จริงจัง แต่เจ้าสัวรังสิมันต์ก็พร้อมที่จะอ้าแขนออกพร้อมจะโอบกอดร่างเล็กของเด็กสาวอย่างไอวา ซึ่งเด็กสาวก็รู้ดีว่าเธอควรเดินเข้าไปหาความอบอุ่นนั้น "เป็นยังไงบ้าง เรียนหนักไหม มีใครมารังแกลูกสาวของพ่อหรือเปล่า"เด็กสาวส่ายหน้าไปมา เธอพยายามแอบซ่อนแววตาเหนื่อยล้าภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มดูมีความสุข "ไม่เลยค่ะ ไม่มีเลย" "อย่าโกหกพ่อนะ ถ้าใครมาทำร้ายหนูบอกพ่อได้เลย พ่อพร้อมจะส่งคนไปจัดการ"ชายวัยกลางคนเหลือบสายตาหันไปมองใบหน้าหล่อเลวของลูกชาย ก่อนจะหันมาก้มมองใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กสาวในอ้อมกอดของเขา "หิวหรือยัง วันนี้พ่อได้ข่าวว่าแม่ทำของโปรดหนูไว้เยอะแยะ มีไข่พะโล้ของโปรดหนูด้วยนะ" "ตอนแรกยังไม่ค่อยหิวค่ะ แต่พอได้ยินว่ามีไข่พะโล้ หนูชักเริ่มจะหิวแล้วสิ" "หึ เด็กดีของพ่อ คุณหญิง" "เดี๋ยวน้องจะไปบอกแม่บ้านให้ตั้งโต๊ะเดี๋ยวนี้เลยค่ะ" "หนูขอไปช่วยพี่ ๆ เขาจัดโต๊ะได้ไหมคะ"ดวงตากลมโตดูไร้พิษภัยทำให้ใครต่อใครที่ได้จ้องมองต่างพากันใจอ่อนยวบ "พ่อตามใจหนูอยู่แล้ว ไอวา" "ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวหนูมานะคะ"เด็กสาวยิ้มร่าเดินเข้าไปกอดแขนคุณหญิงรัศมีก่อนจะพากันเดินตรงไปที่ห้องครัวเหลือทิ้งไว้แค่เพียงบรรยากาศที่ดูน่าอึดอัด "ไปจัดการตามที่ฉันสั่งให้เรียบร้อย อย่าให้มีอะไรผิดพลาด ทุกอย่างจะต้องเสร็จก่อนจะถึงวันที่หนูไอรับปริญญา" "ได้ครับท่าน" บรรยากาศภายในบ้านตอนนี้ดูน่าอึดอัดใจเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวทันทีเมื่อศรัณย์ลูกน้องข้างกายเดินออกไปทำตามหน้าที่ของตัวเองเหลือทิ้งไว้เพียงผู้เป็นพ่อยืนจ้องหน้าลูกชายตาเขม็ง "ผมขอโทษครับพ่อ"ผู้ที่มีความผิดติดตัวรีบเอ่ยขอโทษ เพราะความผิดที่เขาได้กระทำไม่เคยหลุดรอดพ้นสายตาของบิดาเขาได้ "ฉันเคยบอกแกหลายครั้งแล้วใช่ไหม ว่าการกระทำเหี้ย ๆ ของแกจะทำให้หนูไอหมดความอดทนกับคนอย่างแก"คนเป็นลูกได้แต่ยืนก้มหน้ายอมรับความผิด "คนอย่างแกถ้าไม่เห็นโลงศพคงไม่สำนึก แกอย่านึกว่าฉันไม่รู้นะว่าแกคิดจะให้แม่ช่วยพูดเรื่องแต่งงานระหว่างแกกับหนูไอ" "พ่อ" "ต่อให้ฉันจะรักและอยากได้หนูไอมาเป็นลูกสะใภ้มากเท่าไหร่ แต่ถ้าแกยังทำตัวเลว ๆ ยังใช้นิสัยเหี้ย ๆ แบบนี้อีกต่อไปล่ะก็ แกอย่าหวังว่าแกจะได้แต่งงานกับหนูไอ" "ไม่นะครับ ผมจะไม่ทำแบบนั้นอีก พ่อให้ผมได้แต่งงานกับไอวาเถอะนะครับ"กระทิงก้าวขาเข้ามาประชิดร่างสูงใหญ่ของบิดาพลางส่งสายตาร้องขออ้อนวอน "ผมรักไอวาจริง ๆ นะครับพ่อ ชีวิตนี้ผมขาดไอวาไม่ได้ พ่อให้ผมได้แต่งงานกับไอวาเถอะนะครับ" "ทางเดียวที่แกจะได้แต่งงานกับหนูไอวา คือแกต้องเลิกทำตัวเหี้ย ๆ ให้ได้เสียก่อน"คนเป็นพ่อจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของลูกชายอย่างไม่ละสายตาราวกับว่าต้องการสะกดให้ลูกชายเลิกทำผิด "ถ้าแกเลิกทำตัวเหี้ย ๆ ไม่ได้ก็ไม่ต้องแต่ง ถ้าแกยังหยุดนิสัยเลว ๆ ไม่ได้ ฉันนี่แหละจะเป็นคนพาหนูไอหนีออกไปจากชีวิตของแกเอง" "ผมไม่ยอม" "ก็ลองดู"กระทิงรู้ว่าคำพูดของบิดาทุกคำไม่ใช่คำขู่ คนอย่างเจ้าสัวรังสิมันต์พูดคำไหนคำนั้น ทุกคนย่อมรู้ดีแม้แต่ลูกชายอย่างเขา "ฉันรักและเอ็นดูหนูไอวาเหมือนลูกสาวคนหนึ่งแกก็รู้ ยิ่งแม่ของแกแทบจะเซ็นยกสมบัติทั้งหมดให้เป็นชื่อของหนูไอวาแล้วตอนนี้" "..." "คนเหี้ย ๆ ไม่มีใครอยากได้เป็นคู่ชีวิตหรอกนะ ถ้าแกยังไม่หยุดทำตัวเลว ๆ ก็อย่าหวังว่าฉันจะจัดงานแต่งงานให้แกกับหนูไอวา"ร่างสูงใหญ่ของบิดาเดินผ่านร่างลูกชายหลังจากทิ้งคำพูดประโยคนั้นเอาไว้ให้ลูกชายได้เก็บและนำเอาไปคิด "เรียนจบแล้วหนูไอคิดเอาไว้หรือยังจ๊ะว่าจะทำอะไรต่อ"เสียงหวานของคุณหญิงรัศมีเอ่ยถามในระหว่างที่ทุกคนกำลังทานอาหารมื้อเย็น "หนูก็พอจะคิดเอาไว้บ้างแล้วค่ะว่าจะสมัครหางานทำ" "ตายจริง ทำไมหนูต้องออกไปทำงานให้เหนื่อยด้วยล่ะจ้ะ ลูกจะยอมปล่อยให้น้องออกไปทำงานข้างนอกจริง ๆ เหรอกระทิง" "เปล่าครับ เมียคนเดียวผมเลี้ยงได้สบาย ไม่ต้องออกไปทำงานให้เหนื่อย นอนเล่นอยู่บ้านรอใช้เงินจากที่ฉันหามาได้ก็พอ"ชายหนุ่มหันไปพูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงปกติแต่ทุกประโยคที่เขาพูดมันไม่ต่างอะไรจากการบังคับให้เธออยู่แต่ในห้อง เพราะกระทิงไม่เคยเห็นด้วยกับการที่เธอจะต้องออกไปทำงานงก ๆ อยู่ข้างนอกมาตั้งแต่ไหนแต่ไร "ฉันคงทำตามที่นานว่าไม่ได้หรอกนะ ฉันไม่อยากเป็นภาระนาย ให้ฉัน..." "ภาระอะไรกันไอวา ฉันเคยบอกเหรอว่าเธอเป็นภาระ" "นั่นสิหนูไอ ทุกคนในบ้านหลังนี้ไม่เคยคิดว่าหนูคือภาระเลยนะลูก"คุณหญิงรัศมีรีบเอ่ยออกมาเมื่อเห็นไอวานั่งก้มหน้าหลังจากกระทิงพูดเสียงเข้มใส่ ซึ่งสถานการณ์ทั้งหมดนั้นมีสายตาของคุณรังสิมันต์คอยลอบมองดูอยู่อย่างเงียบ ๆ "เอาอย่างนี้ดีไหม เรียนจบแล้วแม่จะจัดงานแต่งงานระหว่างหนูกับกระทิงให้ หนูจะได้ไม่ต้องคิดมาก เพราะถึงยังไงคนเป็นสามีก็ต้องมีหน้าที่ดูแลภรรยา"ดวงตากลมโตทั้งสองข้างของไอวาเบิกกว้าง "หนูไอวาจะได้ไม่ต้องออกไปทำงานที่ไหนให้มันเหนื่อยเปล่า ๆ ส่วนเรื่องงานบ้านก็ไม่ต้องห่วง บ้านเรามีแม่บ้านและคนสวนตั้งเยอะแยะ" "เอ่อ" "เอาอย่างที่แม่ว่าก็แล้วกันเนอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่จะไปหาฤกษ์แต่งงานกับพระท่านให้ หนูไอวาว่าดีไหม" "หนูยังไม่พร้อมค่ะ"คำตอบของไอวาทำให้รอยยิ้มของกระทิงและคุณหญิงรัศมีเจื่อนลง แตกต่างจากใบหน้าของเจ้าสัวรังสิมันต์ที่มีรอยยิ้มผุดตรงมุมปากขึ้นมา "หนูต้องขอบคุณในความเมตตาที่คุณแม่มีให้หนูนะคะ แต่ถ้าจะให้หนูแต่งงานแล้วมานั่ง ๆ นอน ๆ หนูคงทำไม่ได้"แม้จะรู้สึกผิดที่ขัดน้ำใจและความหวังดีที่ผู้ใหญ่มอบให้ แต่ตอนนี้มันยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังคาใจเธอ "หนูต้องกราบขอโทษจริง ๆ นะคะคุณแม่"ไอวายกมือไหว้ด้วยความรู้สึกผิด แม้คุณหญิงรัศมีจะไม่เข้าใจแต่ก็ยอมรับการตัดสินใจของไอวา "ไม่เป็นอะไรนะหนูไอวา ไม่พร้อมตอนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่แม่ขอยืนยันเอาไว้ตรงนี้นะคะว่า ลูกสะใภ้ของแม่ต้องเป็นหนูไอวาคนเดียวเท่านั้น คนอื่น"ดวงตาคมกริบตวัดหันไปมองหน้าลูกชาย ซึ่งเอาแต่นั่งจ้องหน้าแฟนสาวไม่ละสายตาไปไหน "แม่ไม่รับ"บรรยากาศภายในห้องหอของบ่าวสาวอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกุหลาบขาวอันบริสุทธิ์ซึ่งถูกจัดตกแต่งเอาไว้ตามมุมต่าง ๆ ภายในห้อง หากมองไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ตรงหน้าก็จะพบว่ามีกลีบกุหลาบสีแดงโรยเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่เอาไว้"พ่อกับแม่ขอให้ลูกทั้งสองคนครองรักกันด้วยความเข้าใจ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยซึ่งกันและกันนะลูก""ครับ ค่ะ"ไอวาและคริสต์ก้มลงกราบเท้าของผู้ทรงอำนาจอย่างคุณรังสิมันต์"ส่วนแม่นั้น ขอให้ลูกทั้งสองใช้ปัญญา สติ และความรักในการประคับประคองชีวิตคู่ให้มีความสุขตลอดไป และนับจากนี้ไปขอให้ดูแลกันให้ดี และเมื่อมีปัญหาอะไร ขอให้นึกถึงวันที่รักกันนะลูก""ครับ ค่ะ"คู่บ่าวสาวก้มลงกราบเท้าของผู้ใหญ่ที่เคารพรัก"เอาล่ะ พ่อกับแม่มาส่งหนูได้เพียงเท่านี้นะไอวา ที่เหลือต่อจากนี้ก็ฝากคุณคริสต์ช่วยดูแลลูกสาวของผมต่อด้วยนะครับ คุณรู้ใช่ไหมถึงแม้ว่าไอวาจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของผม แต่ผมก็รักเด็กผู้หญิงคนนี้เปรียบเสมือนลูกสาวแท้ ๆ ""ครับ ผมทราบ ผมจะไม่มีวันทำให้คุณพ่อต้องผิดหวังในตัวผม""นี่แหละสิ่งที่ผมต้องการได้ยินมากที่สุด""แม่กับพ่อขอตัวก่อนนะลูก ไอวา อย่าลืมนะ แม่กับพ่ออายุก็จะเข้าเลขหกแล้ว หวังว่าแม่กับพ
บรรยากาศภายในงานแต่งงานช่วงเช้าของไอวาและคริสต์เป็นไปได้อย่างเรียบง่าย เจ้าสาวอยู่ในชุดไทยสีขาวเด่นสง่าราวกับนางในวรรณคดีไทย ส่วนฝ่ายชายเองก็สวมชุดไทยสีเดียวกันเรียกได้ว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างหาที่ติไม่ได้แม้พิธีแต่งงานช่วงเช้าจะถูกจัดขึ้นด้วยความเรียบง่าย มีเพียงเพื่อนและแขกคนสนิทไม่กี่คนที่ได้ถูกเชิญให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในการแลกแหวนแต่งงานในครั้งนี้ แต่มีอีกหนึ่งสิ่งที่คุณต้องพากันเบิกตาค้างด้วยความตกใจนั่นก็คือสินสอดที่ฝ่ายชายได้เตรียมมาให้กับเจ้าสาว'ข้าพเจ้า คริสต์ ชาร์ค ขอมอบทรัพย์สินทั้งหมดที่ข้าพเจ้ามีให้กับนางสาวไอวาแต่เพียงผู้เดียว'พินัยกรรมที่เป็นลายลักษณ์อักษรของชายหนุ่มเนื้อหาบทความตามข้างต้น เงินสดสิบล้านบาทไทยที่วางอยู่ตรงหน้า เครื่องเพชรมูลค่าหลายสิบล้านว่างเด่นสง่าส่องแสงประกายวิววับ อีกทั้งโฉนดที่ดินหลายสิบใบ บ้านและอสังหาริมทรัพย์ รถหรูรวมไปถึงทรัพย์สินส่วนอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งไม่สามารถตีเป็นมูลค่าที่แน่ชัดได้ซึ่งเขาได้ยกมอบเป็นสินสอดให้กับไอวาโดยไม่ขอรับคืนในครั้งนี้ทำเอาเจ้าสาวแทบจะเป็นลมล้มพับไปเธอไม่ได้เป็นฝ่ายเอ่ยขอแต่อย่างได้ สินสอดทุกอย่างเขาเป็นฝ่ายจั
เช้าวันรุ่งขึ้นไอวาได้เดินทางพาว่าที่สามีมายังบ้านผู้ใหญ่ที่เธอเคารพรักเหมือนผู้ให้กำเนิด ซึ่งตลอดเวลาที่เธอย้ายไปอยู่ต่างประเทศก็ยังคงติดต่อมาหาถามไถ่ถึงสารทุกข์สุกดิบ และการเดินทางมาหาครั้งนี้เธอก็ได้โทรแจ้งท่านให้ท่านได้ทราบตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น"หนูไอวา""คุณป้า"คุณหญิงรัศมีที่ยืนรออยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าอ้าแขนโอบกอดหลานสาวคนสวยด้วยความคิดถึง ซึ่งเป็นภาพที่ทุกคนต่างจดจำมันได้แม้ว่าครั้งหนึ่งนานเป็นปีที่ไอวาจะไม่ได้เดินทางมาที่นี่"คิดถึงจังเลยลูก""หนูก็คิดถึงคุณป้าเหมือนกันค่ะ"แววตาของเด็กสาวมองผู้ใหญ่ทั้งสองที่เธอยังรักและเคารพด้วยความคิดถึง"สวัสดีค่ะคุณลุง สบายดีนะคะ""ลุงสบายดี หนูเองก็สบายดีใช่ไหม""หนูสบายดีค่ะ"ไอวายิ้มหวานให้กับผู้ใหญ่ทั้งสอง ก่อนเธอจะแนะนำชายหนุ่มขางกายให้ได้รู้จักกับผู้ใหญ่ที่เธอรักและนับถือ"คุณคริสต์คะ ท่านคือคุณลุงรังสิมันต์กับคุณป้ารัศมี ท่านทั้งสองเป็นผู้ใหญ่ที่ฉันเคารพรักค่ะ"ต่างฝ่ายต่างมองหน้า ก่อนมาเฟียหนุ่มจะเอ่ยแนะนำตัว"สวัสดีครับ ผม คริสต์ ชาร์ค เป็นว่าที่สามีของไอวาครับ""อะ...อะไรนะ""ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณคริสต์"ผู้ทรงอิทธิพลของเมืองไทย
ประเทศไทย"ไอวา""ใยไหม"เพื่อนรักทั้งสองคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมากนึ่งปีเต็มพุ่งเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง ใยไหมซึ้งจนน้ำตาไหลโอบกอดร่างของไอวาเอาไว้แน่น"คิดถึง"เพียงคำเดียวมันช่างเต็มไปด้วยความหมายอันลึกซึ้งระหว่างเพื่อรักทั้งสองคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานทั้งสองคลายอ้อมกอดออกจากกัน ต่างฝ่ายต่างเช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าของกันและกันมันช่างเป็นภาพที่ดูน่าเอ็นดูในสายตาของผู้มอง"เป็นยังไงบ้าง คราวหน้าคราวหลังอย่าหนีหายไปแบบนี้อีกนะ"กว่าไอวาจะยอมติดต่อกลับมา เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบจะครบหนึ่งปีเต็ม "ขอโทษนะ ต่อไปฉันจะไม่ทำให้เธอกับทุกคนต้องเป็นห่วงอีกแล้ว"ไอวามองไปยังร่างสูงใหญ่ของเพื่อนสนิทอีกสองคนที่ยืนส่งยิ้มมาให้เธอ"ว่าไงชอปเปอร์ เด่นคุณ พวกนายสบายดีนะ""ฉันสองคนสบายดี ไปอยู่ที่นั่นนานเป็นปีเธอดูสวยมากขึ้นนะ""อะ..แฮ่ม"ทุกสายตาหันมองไปยังร่างสูงใหญ่ของมาเฟียหนุ่มที่ยืนเด่นสง่าอยู่ข้างไอวา ชอปเปอร์หน้าถอดสีขึ้นมาทันทีพอ ๆ กับเด่นคุณที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตารังสีอันตรายแผ่ออกจากร่างสูงใหญ่ทำให้ผู้โดยสารคนอื่น ๆ รวมไปถึงเพื่อนสนิทอีกสามคนเริ่มรู้สึกหวั่นใจ"ไม่ทำแบบนี้สิคะคุณคริสต์ ดูสิเพ
ไอวารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงบ่ายของเช้าวันถัดไป สิ่งแรกที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นก็คือใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาของมาเฟียหนุ่มซึ่งกำลังนอนฟุบอยู่บนเตียงคนไข้คอยกุมมือเธอไม่ไปไหน แต่ทันทีเมื่อเธอเริ่มขยับตัวชายหนุ่มก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา"ไอวา คุณฟื้นนานแล้วเหรอครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า"ชายหนุ่มเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงร้อนรนก่อนจะเอื้อมมือไปกดปุ่มเรียกพยาบาลในขณะที่มืออุ่นร้อนอีกข้างคอยกุมมือของเธอเอาไว้"เป็นยังไงบ้างครับ""ฉันทนได้ค่ะ ว่าแต่คุณคริสต์ล่ะคะ เป็นยังไงบ้างได้รับบาดเจ็บตรงไหนไหม"ริมฝีปากซีดเซียวเอ่ยถาม ไอวากวาดสายตามองไปตามร่างกายของชายหนุ่ม เธอรู้สึกโล่งอกผายลมออกมาจากริมฝีปากเมื่อไม่เห็นว่าร่างกายของเขาเกิดแผลตรงบริเวณส่วนไหน"มีอะไรหรือเปล่าคะ คุณคริสต์มองหน้าฉันแบบนั้นทำไม""ผมมีอะไรบางอย่างยากจะพูด หลังจากคุณหมอเข้ามาตรวจดูอาการของคุณนะครับไอวา"ชายหนุ่มบอกเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง ซึ่งเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่หมอและพยาบาลเปิดประตูเดินเข้ามามาเฟียหนุ่มปล่อยให้หมอวัยกลางคนตรวจดูอาการของไอวาอย่างถี่ถ้วนโดยมีเขาคอยยืนเฝ้าอยู่ไม่ห่างไปไหน"โชคดีนะครับที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ ถ้าหาก
บรรยากาศหน้าห้องฉุกเฉินเต็มไปด้วยความตึงเครียด ร่างสูงใหญ่ของมาเฟียหนุ่มเสื้อราคาแพงของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยคราบเลือดเอาแต่เดินเวียนไปมาอยู่ตรงหน้าประตูด้วยความร้อนใจ ต่างจากผู้ชายอีกคนที่เอาแต่นั่งนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบ ๆ ไม่พูดอะไรสมองของกระทิงในตอนนี้หนักอึ้งราวกับมีค้อนปอนหนัก ๆ ถ่วงเอาไว้ เขาเป็นคนล้วงเอาปืนจากลูกน้องของคริสต์ยิงโทนี่ ในขณะที่หญิงสาวอย่างไอวาใช้ร่างกายของตัวเองบังกระสุนจากปลายกระบอกปืนของโทนี่ไม่ให้โดนคนที่เธอรัก'ฉันไม่ได้รักนายแล้วกระทิง ฉันรักคุณคริสต์ไปแล้ว'เขาเชื่อคำพูดทุกอย่างของเธอแล้ว สิ่งที่เธอทำเพื่อปกป้องผู้ชายคนนั้นมันเป็นเครื่องมือช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดี ผู้หญิงที่ยอมเอาตัวเองไปเสี่ยงกับความตายเพื่อให้คนรักปลอดภัย ถ้าไม่รักกันจริงก็คงไม่มีใครยอมทุ่มเทได้ขนาดนี้ครืดเสียงบานประตูห้องฉุกเฉินที่เปิดออก ก่อนร่างสูงใหญ่ของคุณหมอวัยกลางคนจะเดินออกมา ทั้งคริสต์และกระทิงต่างวิ่งตรู่เข้าไปหาด้วยสีหน้าเป็นกังวล"เธอเป็นยังไงบ้างครับ""คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ โชคดีที่กระสุนยิงไม่โดนจุดสำคัญ ตอนนี้ผมได้ผ่าเอากระสุนออกเรียบร้อยแล้วครับกำลังจะพาไปห้อง







![สิงขร [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)