มหาวิทยาลัย S
เจ้าเอยกับเอวาหันมามองหน้ากันด้วยความแปลกใจระคนสงสัยเมื่ออยู่ๆเพื่อนรักของเธอที่กำลังนั่งใจลอยก็ยื่นมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากเบาๆ ก่อนที่ใบหน้าจะแดงก่ำราวกับลูกตำลึงสุกเหมือนกับว่าเพลงพิณกำลังคิดเรื่องที่ทะลึ่งตึงตังอยู่ในหัวอย่างไรอย่างนั้นเลย
ปัง!!
“ว้าย”
เสียงตบโต๊ะทำเอาคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ถึงกับได้สติเพลงพิณสะดุ้งน้อยๆก่อนที่เธอจะมองหน้าเพื่อนสนิททั้งสองคนที่ยื่นหน้าเข้ามาหาเธอราวกับกำลังจับผิดกับพฤติกรรมแปลกๆของเธอ เพราะตั้งแต่ที่กลับมาจากไปเที่ยวในคืนนั้นเพลงพิณก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน
ปกติแล้วเพื่อนของเธอคนนี้ถึงแม้จะมีเรื่องภายในใจมากมายแค่ไหนแต่เพลงพิณก็ไม่เคยนั่งเหม่อหรือใจลอยเลยสักครั้ง แต่สองสามวันที่ผ่านมาเพื่อนของพวกเธอเอาแต่นั่งเหม่อแล้วก็ยกมือขึ้นลูบที่ปากบ่อยครั้ง จนพวกเธอพากันตั้งข้อสันนิษฐานว่าวันนั้นที่เพื่อนเธอหายไปนานต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆเลยเพียงแต่เพลงพิณไม่ยอมปริปากบอกพวกเธอจะด้วยเหตุผลอันใดก็ไม่อาจจะล่วงรู้ได้
“มึงจะนั่งใจลอยไปถึงไหนคะเพื่อน นี่นั่งใจลอยมานานแล้วนะเดี๋ยวก็หน้าแดงเดี๋ยวก็ลูบปากสรุปมึงเป็นอะไรของมึงกันแน่เพลง”
เอวาที่ทนไม่ไหวตัดสินใจเอ่ยถามเพลงพิณตรงๆแต่คำถามของเพื่อนทำให้เหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นแวบเข้ามาในหัวของเธอจนเพลงพิณถึงกับเม้มปากด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ใจหนึ่งก็รู้สึกเสียใจที่เสียจูบแรกให้กับผู้ชายแปลกหน้าที่หน้าตาหล่อมากที่ไหนก็ไม่รู้
แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจที่จูบแรกของเธอคือเขาจูบที่แสนอ่อนโยนและเร่าร้อนจนเธอถึงกับเผลอยกมือขึ้นคล้องคอเขาเชียวน้า อ๊าย เพลงพิณเธอทำเรื่องที่น่าขายหน้าแบบนั้นลงไปได้ยังไง สองมือพลันยกขึ้นปิดหน้าด้วยความเขินเมื่อคิดไปถึงตอนที่เธอตอบสนองจูบของเขาหรืออาจจะเป็นเพราะวันนั้นเธอเมามากก็ได้ก็เลยทำให้เธอเผลอทำตัวน่าอายแบบนั้น
“เพลงมึงเป็นไรมากปะเนี่ย กูแค่ถามยังไม่ได้ทำอะไรเลยมึงจะหน้าแดงแล้วแดงอีกแบบนี้ไม่ได้นะแปลกๆแบบนี้แปลว่าวันนั้นต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆจะบอกดีๆหรือต้องให้ใช้กำลัง”
เจ้าเอยถามเพื่อนบ้างก่อนที่เธอจะขยับเข้าไปนั่งข้างๆเพลงพิณส่วนอีกด้านหนึ่งก็เป็นเอวาที่ขยับเข้ามานั่งใกล้ๆเพลงพิณเช่นกัน กลายเป็นว่าตอนนี้สองสาวเพื่อนสนิทพร้อมแล้วที่จะหยุมหัวเพลงพิณเพื่อเค้นความจริงที่พวกเธออยากรู้แต่เพื่อนกลับปิดเป็นความลับออกมา
“ไม่ยอมบอกใช่ไหมได้เลยเดี๋ยวรู้กัน”
จบประโยคของเอวาทั้งสองสาวก็เตรียมจี้เอวเพื่อนเพื่อให้เพลงพิณคายความลับออกมาแต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองสาวจะได้ลงมือเพลงพิณก็ยกมือขึ้นเบรกพวกเธอทั้งสองคนเอาไว้ก่อน ทำให้มือที่เตรียมจะประทุษร้ายเพื่อนถึงกับหยุดชะงักค้างกลางอากาศ
“ยอมแล้ว ยอมแล้ว เล่าก็ได้”
มือที่ค้างอยู่กลางอากาศของสองสาวเปลี่ยนเป็นมาแตะมือกันด้วยความถูกใจก่อนที่สองสาวจะยื่นหน้ามาจนชิดแก้มเนียนของเพลงพิณที่ยังคงแดงไม่หยุดอย่างต้องการใส่ใจเรื่องที่เพื่อนจะเล่าอย่างใกล้ชิด
“เรื่องมันมีอยู่ว่า...”
“อ๊ายยยย เพลงเรื่องฟินขนาดนี้ทำไมมึงไม่ยอมเล่าให้พวกกูฟังเลย นี่ขนาดกูไม่ได้โดนจูบเองยัง ฟินขนาดนี้เลยอะมึง”
เอาวายกมือขึ้นจับที่ใบหน้าด้วยความเขินเมื่อเพลงพิณเล่าเรื่องของเธอกับผู้ชายแปลกหน้าให้พวกเธอฟังถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เห็นหน้าตาของผู้ชายคนนั้นว่าหล่อแค่ไหน แต่เธอมั่นใจว่าเรดาร์ของเพลงพิณทำงานได้ดีแน่นอนเพราะน้อยมากที่เพลงพิณจะชมใครว่าหล่อ ขนาดพี่คิมหันต์ที่เพิ่งเลิกรากันไปหน้าตาก็เข้าขั้นหล่อแต่เพลงพิณใช้คำว่าหล่อมากแปลว่าผู้ชายคนนั้นต้องหน้าตาดีมากอย่างแน่นอน
“ใครจะกล้าเล่าให้ฟังว่ะ ขนาดแฟนตัวเองแท้ๆกูยังไม่เคยให้ใครกอดจูบเลยแล้วนี่เขาเป็นใครก็ไม่รู้แต่กูดันยอมให้เขาจูบเฉยเลย กูใจง่ายไปไหมอะพวกมึง”
เสียงอ่อยๆบอกเพื่อนอย่างรู้สึกผิดต่อปณิธานอันแน่วแน่ของตัวเองที่เคยตั้งใจว่าจะไม่มีจูบแรกหรือความสัมพันธ์ทางกายกับแฟนคนไหนทั้งนั้นจนกว่าเธอจะแต่งงาน แต่กับเขาคนนี้เพียงแค่ครั้งแรกที่ได้สบตาเธอก็ราวกับต้องมนต์สะกด
ใบหน้าหล่อเหลาดูดีและมีเสน่ห์อย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะ ยิ่งยามที่เขายกยิ้มน้อยๆนั่นอีกมันดูดีเสียจนเธอแทบละลายความรู้สึกแบบนี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นกับเธอเป็นครั้งแรกทั้งๆที่เธอผ่านการมีแฟนมาแล้วหลายคน
“ว้าย เพื่อนเพลงพูดแบบนี้กูชักจะอยากเห็นหน้าบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อคนนั้นซะแล้วสิ เสน่ห์อะไรในตัวของเขากันน้าที่ทำให้แม่ชีอย่างเพื่อนเพลงถึงกับเผลอใจยอมให้เขาจูบได้ง่ายๆแบบนี้”
คำพูดของเจ้าเอยยิ่งทำให้ใบหน้าสวยเฉี่ยวแดงก่ำด้วยความอายเกิดมาจนอายุ21ปีไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอจะรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน แต่เขากลับเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่เธอยอมฉีกกฎเหล็กของตัวเองหรือเพราะว่าเธอเมามากกันแน่นะ
“แล้วจะรออะไรกันล่ะคืนนี้เลยเป็นไง กูก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าหล่อมากของเพลงมันจะหล่อขนาดไหนเชียว”
คำพูดของเอวาทำเอาเจ้าเอยรีบยกมือขึ้นอย่างเห็นดีเห็นงามด้วยเพราะเธอเองก็อยากจะเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นเหมือนกันว่าจะหล่อสักแค่ไหน เพลงพิณเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองคนต่างเห็นดีเห็นงามไปด้วยกันก็เตรียมอ้าปากจะท้วงติงแต่เอวากลับชี้หน้าเพลงพิณอย่างรู้ทัน
“หุบปากไปเลยจ้ะเพื่อนรัก เอยกับกูเห็นด้วยตรงกันเป็นสองต่อหนึ่งชนะหนึ่งเสียงเห็นๆ”
คำพูดที่เป็นมติเอกฉันท์ทำเอาปากที่อ้าค้างอยู่ได้แต่ค่อยๆหุบลงอย่างจำยอมเธอได้แต่หวังว่าคืนนี้เขาคงลาป่วยหรือไม่ก็ติดธุระจนไม่สามารถมาทำงานได้ แต่จะว่าไปแล้วเพลงพิณเป็นลูกค้าประจำของผับนี้มานานถึงสามปีเธอกลับไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลยสักครั้ง หรือเขาจะเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานกันนะเธอได้แต่คิดไปต่างๆนาๆก่อนที่จะโดนเพื่อนสาวทั้งสองคนลากกลับคอนโดเพื่อเตรียมตัวออกท่องราตรีในค่ำคืนนี้
Smokin’Pub
ร่างสูงภายใต้เสื้อยืดสีเทากับกางเกงยีนส์ธรรมดากลับไม่ได้ทำให้ออร่าความหล่อของเขาลดลงเลยแม้แต่น้อย วันนี้ก็เหมือนเฉกเช่นทุกวันที่เกรย์มานั่งดื่มเงียบๆคนเดียวหลังจากที่เขาเพิ่งเคลียร์งานเสร็จ ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าไปรับตำแหน่งประธานโรงพยาบาล N อย่างเต็มตัวแต่ธุรกิจสีเทาของเขาที่อิตาลีก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปภายใต้การบริหารของเขา
“เฮีย เฮียเกรย์”
ร่างสูงที่วิ่งหน้าตั้งมาทางเขาทำให้เกรย์ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยเขากะจะนั่งดื่มชิวๆเจ้าอาร์มก็ดันวิ่งหน้าตั้งจนหอบขึ้นคอมาหาเขา สงสัยว่าคงจะอยากไปดูคอนเสิร์ตวงโปรดแน่นอนเลยเพราะวันนี้ที่ผับจ้างนักร้องชื่อดังมาเปิดมินิคอนเสิร์ตที่ร้านเลยทำให้วันนี้คนแน่นร้านกว่าปกติ
แต่นั่นมันก็คนละโซนกับโซนที่เขามานั่งดื่มเพราะส่วนใหญ่ที่ไปออกันอยู่หน้าเวทีมีแต่เด็กมหา’ลัยกันทั้งนั้น ส่วนโซนที่เขานั่งอยู่มีแต่วัยทำงานที่เน้นนั่งดื่มเงียบๆเพื่อต้องการดื่มด่ำกับรสชาติของเครื่องดื่มที่มีทั้งไวน์ชื่อดัง เหล้าราคาแพง และเบียร์สดรสชาติดี มากกว่าที่จะไปโยกตัวตามเสียงดนตรีเหมือนกับเด็กๆพวกนั้นที่นิยมชมชอบความสนุกสนานตามวัย
“จะไปดูคอนเสิร์ตล่ะสิ”
คำพูดที่รู้ทันของเกรย์ทำให้เด็กหนุ่มพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มอย่างยอมรับความจริง เพราะวงดนตรีที่มาวันนี้เป็นวงโปรดที่อาร์มชอบมากเพราะฉะนั้นวันนี้เด็กหนุ่มจะพลาดคอนเสิร์ตวันนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“เฮีย อาร์มอยากไปดู นานๆวงโปรดมาทีอาร์มจะได้มีกำลังใจทำงานหาเงินต่อ”
คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้เกรย์ส่ายหน้าไปมาช้าๆพร้อมกับหลุดยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกเอ็นดูคนตรงหน้า แววตาที่เปล่งประกายทอแสงยามพูดถึงวงดนตรีโปรดของตัวเองมันทำให้เกรย์เข้าใจความรู้สึกของอาร์มได้เป็นอย่างดีว่าชื่นชอบวงดนตรีวงนี้มากแค่ไหน
ขนาดตัวเขาเองที่เป็นนักวาดชื่อดังระดับโลกที่ไม่มีใครเคยเห็นหน้ามาก่อนคนที่ชื่นชอบในผลงานวาดรูปของเขายังอยากที่จะเจอกับเขาเลยสักครั้ง แต่เขากลับปฏิเสธที่จะพบเจอคนเหล่านั้นเพราะเขาไม่ชอบที่จะมีตัวตนในสังคมที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายกับผู้คนมากหน้าหลายตาที่พร้อมจะเข้าหาเขาด้วยความชื่นชมแต่กลับแฝงไปด้วยผลประโยชน์
“อืม ไปเถอะเดี๋ยวทางนี้เฮียดูแลให้”
จบประโยคของเกรย์อาร์มก็โถมตัวเข้ากอดเกรย์ราวกับเด็กน้อยอายุห้าขวบที่เก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่เมื่อพ่ออนุญาตให้ไปเที่ยวเล่นอย่างอิสระ เกรย์ยกมือขึ้นลูบหัวอาร์มด้วยความเอ็นดูก่อนที่อาร์มจะผละออกและวิ่งหายลับไปท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินสวนกันไปมา
“รับบทบาร์เทนเดอร์อีกวันก็แล้วกัน หวังว่าวันนี้คงไม่ต้องรับบทเป็นแฟนปลอมๆให้ใครอีกหรอกนะ”
เกรย์พึมพำกับตัวเองอย่างติดตลกโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาได้พูดออกมานั้นกำลังจะเกิดขึ้นจริงในไม่ช้าขึ้นชื่อว่าบทละครเมื่อมีจุดเริ่มต้นก็ย่อมต้องมีบทต่อๆไปเสมอ
“วันนี้ทำไมคนเยอะจังว่ะ”
เมื่อเดินเข้ามาในผับเจ้าเอยก็พูดขึ้นด้วยความแปลกใจเพราะวันนี้ภายในผับหนาแน่นไปด้วยวัยรุ่นวัยว้าวุ่นที่พากันออกมาท่องราตรีหลังจากที่เหนื่อยล้าจากการเรียนมาทั้งวัน
“อ้าวเอย นี่มึงอย่าบอกนะว่าไม่ได้ดูประกาศหน้าเพจของผับ วันนี้วงเซนส์เขามาเล่นที่นี่เว้ยมึง”
“คุยกับพี่เป้ทั้งวันเอาเวลาที่ไหนดู”
เจ้าเอยบอกเพื่อนรักทั้งสองคนที่พร้อมใจกันเบะปากมองบนด้วยความหมั่นไส้เจ้าเอยที่ชอบคุยกับผู้ชายทีละหลายๆคนโดยที่ไม่รู้จักเบื่อเลยสักนิด ในขณะที่เอวากับเพลงพิณขนาดพวกเธอมีแฟนแค่คนเดียวก็ปวดหัวจะแย่
“เอย พี่เป้มันไม่ได้โสดนะเว้ยมึงวงในกูบอกว่ามันมีเมียแล้ว”
เพลงพิณเอ่ยเตือนเพื่อนสาวคนสนิทด้วยความหวังดีเพราะพี่เป้ของเจ้าเอยนี่ขึ้นชื่อมากเรื่องความเจ้าชู้ที่สำคัญเพื่อนต่างสาขาของเธอต่างบอกว่าพี่เป้มันมีแฟนแล้ว แต่สถานะที่มันโปรโมตตัวเองคือโสดไงล่ะเพื่อนของเธอที่ไม่ชอบผูกมัดก็ดันเล่นด้วยเธอกับเอวาพยายามห้ามแล้วก็ไม่ฟัง
“เออน่าพวกมึงก็ กูไม่ได้จริงจังกับพี่มันสักหน่อย ไปๆกินเหล้ากันคอแห้งจะแย่แล้ว”
เจ้าเอยพูดอย่างไม่ได้ใส่ใจมากนักก่อนที่เธอจะคล้องแขนเพื่อนสาวทั้งสองคนและเตรียมพากันเดินเข้าไปภายในโซนที่พวกเธอจองเอาไว้ซึ่งโซนนี้อยู่ชั้นสองของร้าน เป็นโซนเงียบๆที่พวกเธอชอบมานั่งดื่มพร้อมกับเมาท์มอยกันซึ่งส่วนใหญ่แล้วโซนนี้จะมีแต่พวกวัยทำงานกันทั้งนั้นนานๆทีพวกเธอถึงจะลงมาโยกเอวที่ด้านล่าง
หมับ
“อ๊ะ”
ยังไม่ทันที่จะก้าวเดินแขนเล็กของเพลงพิณก็ถูกกระชากอย่างแรงจนเธอถึงกับเซถลาไปปะทะเข้ากับแผ่นอกกว้างของผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนเก่า ท่ามกลางความตกใจของเอวาและเจ้าเอยที่อยู่ๆพี่คิมหันต์ก็มาฉุดกระชากเพื่อนเธอกลางผับโดยที่ไม่แคร์สายตาผู้คนที่เดินสวนไปสวนมาเลยสักนิด
“เจอกันอีกแล้วนะจ๊ะที่รัก ว่าไงเอ่ยทำไมวันนี้มากับเพื่อนแฟนที่แสนดีของเราไปไหนเสียล่ะหรือว่ากำลังชงเหล้าหาเงินมาเปย์เราอยู่”
คำพูดที่แสดงถึงนิสัยใจคอที่ชอบดูถูกคนของคิมหันต์ทำให้เพลงพิณรู้สึกไม่พอใจจนเผลอแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน ในขณะที่คิมหันต์ก้มหน้าลงมาหาเพลงพิณจนใบหน้าของทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงแค่ลมหายใจกั้นทำให้เพลงพิณรีบเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจทันที
“ปล่อยเพลงเดี๋ยวนี้นะคะพี่คิม”
เอวาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดเธอพยายามจะเดินเข้ามาช่วยเพื่อนที่อยู่ในอ้อมแขนของคิมหันต์แต่กลับถูกคนของเขาเข้ามาขวางเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเอวากับเจ้าเอยก็พยายามที่จะเข้ามาช่วยเพลงพิณด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“เป็นแค่เพื่อนอย่าเสือก แฟนเก่าเขาจะคุยกัน”
คำพูดของคิมหันต์ทำเอาเอวากับเจ้าเอยถึงกับโมโหจนเลือดขึ้นหน้าเพราะที่ผ่านมาคิมหันต์ไม่เคยพูดจาหยาบคายใส่พวกเธอเลยสักครั้งนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เลิกรากับเพื่อนของเธอไป
“เป็นแค่แฟนเก่าก็ควรอยู่ส่วนแฟนเก่าสิ ไม่ใช่มาทำตัวเหมือนหมาคอยมาระรานเพลงแบบนี้ ปล่อยเพลงเดี๋ยวนี้นะถ้าไม่ปล่อยเอยโทรแจ้งตำรวจจริงๆด้วย”
เจ้าเอยตะโกนใส่คนตรงหน้าด้วยความโมโหในขณะที่เพลงพิณเบะหน้าด้วยความเจ็บ เมื่อคิมหันต์เผลอบีบมือของเธออย่างแรงด้วยความโกรธที่โดนเจ้าเอยด่าแสกหน้าแบบนั้น
“ปล่อยเพลงเดี๋ยวนี้นะพี่คิม เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วพี่คิมไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับเพลงนะ”
เพลงพิณกดเสียงต่ำบอกคิมหันต์ด้วยความรู้สึกที่ทั้งเจ็บใจและโมโห เพราะตอนนี้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างเริ่มหันมาให้ความสนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่กลับไม่มีใครมีน้ำใจเข้ามาช่วยเหลือพวกเธอสักคน
“ต้องเป็นผัวก่อนหรือยังไงถึงจะทำแบบนี้กับเพลงได้”
เพล้ง
“อ๊าก”
“กรี๊ดดดดด”
เสียงขวดเหล้าที่ฟาดลงมาบนหัวของคิมหันต์เต็มแรงจนเขาเผลอปล่อยมือของเพลงพิณให้เป็นอิสระพร้อมกับเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของสามสาว ก่อนที่ร่างบางจะถูกใครบางคนกระชากเข้ามาอยู่ภายใต้อ้อมกอดที่เธอคุ้นเคยกับกลิ่นน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นอย่างดีถึงแม้ว่าจะเคยได้กลิ่นเพียงครั้งเดียวก็ตาม
“อยากจะเป็นผัวของเพลงถามผัวตัวจริงของเขาหรือยังว่าเขายอมไหม”
5 ปีผ่านไปร่างของเด็กชายตัวเล็กที่กำลังเดินตรงมาที่ร้านไอศกรีมกะทิข้างโรงเรียนอนุบาลเอกชนชื่อดังทำให้ปริญญ์ที่กำลังยืนรอไอศกรีมอยู่ถึงกับหลุดยิ้มออกมาน้อยๆด้วยความเอ็นดู เพราะเด็กชายตัวน้อยไม่ได้มาเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่ข้างกายของเขายังมีเพื่อนๆที่เดินมาด้วยกันถึงห้าคนเสียงหัวเราะด้วยความสดใสของเด็กน้อยอนุบาลที่มีทั้งชายและหญิงทำให้มาเฟียหนุ่มที่แวะมาซื้อไอศกรีมร้านประจำที่เขาเคยกินมาตั้งแต่เด็กรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าเล็กที่โดดเด่นท่ามกลางกลุ่มเพื่อนทำให้ปริญญ์เผลอจ้องมองจนเด็กน้อยรู้สึกได้ดวงตากลมโตสดใสจึงเงยหน้าขึ้นสบสายตากับเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ด้วยความใสซื่อพร้อมกับเท้าที่หยุดลงที่ร้านไอศกรีม“ทุกคนอยากกินอะไรสั่งได้เลยนะวันนี้พอร์ชเลี้ยงเอง”คำพูดของเด็กชายตัวน้อยทำให้ปริญญ์ถึงกับหูผึ่งทันทีอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กตัวแค่นี้จะมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงไอศกรีมเพื่อนๆที่ต่างชี้ไปที่ไอศกรีมแบบถ้วยที่ราคาถ้วยล่ะยี่สิบบาท เด็กมีทั้งหมดหกคนก็เท่ากับว่าเด็กชายตัวน้อยที่น่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งจะต้องจ่ายเงินถึงหนึ่งร้อยบาทเพื่อเลี้ยงไอศกรีมเพื่อนๆ“วันนี้พ่อกับแม่ให้เงินมาเท่าไหร่ถึงจ
วันหยุดสุดสัปดาห์เพลงพิณตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นก่อนที่ร่างอวบอิ่มที่กำลังตั้งครรภ์ได้แปดเดือนเศษจะเดินลงมาจากชั้นล่างเพื่อมองหาสามีที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าและไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เพราะปกติแล้วเกรย์จะอยู่ในห้องรอจนกว่าเธอจะตื่นขึ้นมาและลงมาข้างล่างพร้อมกันเสมอแต่วันนี้ในห้องนอนใหญ่กลับไร้เงาของสามีสุดที่รักดวงตากลมโตของคุณแม่กวาดมองไปรอบๆคฤหาสน์หลังใหญ่ก่อนที่เธอจะเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องครัวสองเท้าที่กำลังจะเดินผ่านไปถึงกับหยุดชะงักอยู่กับที่ เมื่อแผ่นหลังที่คุ้นเคยของใครบางคนกำลังยืนอยู่หน้าเตาแก๊สพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆอย่างมีความสุขเพลงพิณไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปกอดแผ่นหลังกว้างเอาไว้ทันทีด้วยความรักหมับ“แอบลงมาอยู่ที่ห้องครัวนี่เองเพลงเดินหาจนทั่วแหนะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยความสดใสก่อนที่เกรย์จะค่อยๆหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับภรรยาที่ท้องโตใกล้คลอดพร้อมกับก้มลงจูบหน้าผากมนอย่างแสนรักมือก็ยกขึ้นมาจับจมูกของภรรยาบีบไปมาเบาๆด้วยความเอ็นดูที่เธอลงมาตามหาเขา“วันหยุดทั้งทีเฮียก็อยากเข้าครัวทำมื้อเช้าให้เพลงด้วยตัวเองก็เลยรีบตื่นแต่เช้า วันนี้มีแกงจืดตำลึง แกงเลียง ผัดผักรวม ไข่ตุ๋น
ตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลรอยยิ้มก็ไม่เคยจางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเพลงพิณเลยแม้แต่น้อยเธอยังคงยิ้มอย่างมีความสุขพร้อมกับลูบหน้าท้องที่แบนราบด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อร่างกายของเธอในตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเธอที่เป็นเจ้าของอีกต่อไปแล้วเด็กน้อยที่เธอกำลังคิดจินตนาการไปถึงหน้าตาว่าเขาจะหน้าเหมือนแม่แบบเธอหรือหน้าตาดีเหมือนพ่อคือเจ้าของคนใหม่ที่เธอจะต้องดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงเพื่อเขา คนที่เธอไม่เคยเห็นหน้าแต่กลับรู้สึกหลงรักอย่างหมดใจตั้งแต่ที่ได้ยินคุณหมอบอกว่าเธอกำลังตั้งครรภ์สายใยความรักระหว่างแม่กับลูกมันเป็นแบบนี้เองสินะ รักทั้งๆที่ยังไม่เคยเห็นหน้าเมื่อคิดมาถึงตรงนี้เพลงพิณก็ยกมือขึ้นมาลูบที่หน้าท้องอีกครั้งพร้อมกับหัวเราะออกมาด้วยความสดใส“พวกกูล่ะดีใจกับมึงมากจริงๆในที่สุดวันที่มึงรอคอยก็มาถึงสักที”เอวาที่นั่งมองรอยยิ้มของเพื่อนอยู่นานสองนานเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกมีความสุขไปกับเพลงพิณด้วยเพราะต่อจากนี้ไปครอบครัวของเพื่อนรักก็จะสมบูรณ์มากขึ้นเมื่อมีลูกน้อยเข้ามาเติมเต็ม“กูต้องขอบใจมึงทั้งสองคนมากๆเลยนะที่มาเยี่ยมและพากูส่งโรงพยาบาลจนทำให้ได้รับข่าวดีที่สุดในชีว
เช้าวันหนึ่ง“อุ๊ป”เพลงพิณลืมตาตื่นขึ้นจากความรู้สึกง่วงทันทีเมื่อความรู้สึกพะอืดพะอมอยากจะอาเจียนชวนให้เธอรีบผุดลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทั้งๆที่อยู่ในอาการสะลึมสะลือแต่เพลงพิณก็พาตัวเองเข้ามาโก่งคออาเจียนที่ชักโครกในห้องน้ำจนได้“อ้วก แหวะ”เป็นการอาเจียนที่ไม่มีสิ่งใดออกมานอกจากน้ำเหนียวขมฝืดที่ลำคอจนทำให้เพลงพิณรู้สึกพะอืดพะอมมากกว่าเดิม ใบหน้าเนียนสวยที่ไร้เครื่องสำอางในยามนี้แดงก่ำเพราะแรงอาเจียนที่ไม่มีสิ่งใดเล็ดรอดออกมาจากลำคอเลยแม้แต่น้อยนอกจากน้ำใสๆ ก่อนที่เธอจะฟุบใบหน้าลงบนฝาชักโครกด้วยความเหนื่อยอ่อนเมื่อนิทราที่แสนหวานถูกปลุกขึ้นมาด้วยความผิดปกติของร่างกายที่เธอไม่รู้เช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอในตอนนี้เพลงพิณค่อยๆพยุงร่างกายที่เต็มไปด้วยความอ่อนเพลียของตนเองให้ลุกขึ้นยืนก่อนที่เธอจะบ้วนปากเพื่อทำความสะอาดคราบอาเจียน จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยดีแล้วเธอก็พาตัวเองออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกเวียนหัวจนแทบจะเดินไปไม่ถึงเตียงนอนใหญ่ด้วยซ้ำ“เอวานัดกินข้าววันนี้ขอยกเลิกไปก่อนได้ไหมวะกูรู้สึกเวียนหัวยังไงไม่รู้”เมื่อเหลือบไปเห็นเข็มนาฬิกาบนผนังห้องหมุนวนไปจน
ความรักของเพลงพิณและเกรย์เต็มไปด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีที่ทั้งคู่แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันมาน้อยนักที่ทั้งสองคนจะมีเรื่องให้ต้องทะเลาะหรือผิดใจกัน เพราะเพลงพิณกับเกรย์ต่างเอาใจใส่ซึ่งกันและกันและคอยคิดถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเสมอมีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมแบ่งปันคำสอนของคุณย่าแก้มใสทั้งคู่นั้นปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเพลงพิณรู้ว่าสามีของเธอนั้นงานยุ่งมากในแต่ละวันซึ่งเธอก็เข้าใจและไม่เคยรู้สึกน้อยใจหรือเรียกร้องให้เขามีเวลาให้เธอเลยแม้แต่น้อย เพราะวันไหนที่เกรย์ว่างเขาก็มักจะชวนเธอไปออกเดทเหมือนตอนที่คบกันใหม่ๆซึ่งเพียงแค่นั้นก็เป็นการเติมเต็มความรู้สึกให้เพลงพิณรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากพอแล้ว“เฮ้อ กูคิดว่าเฮียเกรย์จะบินกลับมาทันวันงานรับปริญญาของมึงซะอีกที่ไหนได้กลับติดงานยาวจนถึงอาทิตย์หน้าเลย”เจ้าเอยบ่นขึ้นด้วยความรู้สึกน้อยใจระคนสงสารเพลงพิณที่ในวันนี้ที่พวกเธอประสบความสำเร็จทางการศึกษาแต่ข้างกายของเพื่อนสาวกลับไร้เงาของสามีสุดที่รัก ส่วนเพลงพิณเมื่อได้ยินคำบ่นของเพื่อนเธอก็ทำเพียงยิ้มน้อยๆเท่านั้น เพราะเธอไม่ได้รู้สึกน้อยใจสามีเลยแม้แต่น้อยที่เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอใ
หลังจากที่แต่งงานกับเกรย์ได้หนึ่งเดือนเพลงพิณก็ทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่องซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมเธอจึงมีเวลาไปเรียนทำอาหารกับพ่อสามีอย่างกองทัพ ที่ยอมเสียสละเวลามาสอนลูกสะใภ้ทำอาหารซึ่งเมนูส่วนใหญ่ที่กองทัพสอนให้เพลงพิณทำล้วนเป็นเมนูของโปรดของเกรย์ทั้งนั้น“วันนี้เดี๋ยวทำมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้วก็แวะเอาไปให้พี่เกรย์ที่โรงพยาบาลเลยนะหนูเพลง”เจ้าขาที่มาเป็นลูกมือช่วยเพลงพิณเตรียมเครื่องปรุงสำหรับเมนูมื้อเที่ยงวันนี้ซึ่งได้แก่เมนู ปูผัดผงกะหรี่ ต้มโคล้งปลาเนื้ออ่อน ซุปไก่มันฝรั่ง ซี่โครงหมูตุ๋นน้ำผึ้ง กุ้งผัดพริกเกลือ เอ่ยบอกลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนทำให้เพลงพิณที่กำลังปรุงรสอาหารตามที่กองทัพบอกรีบหันมาขานรับคำเจ้าขาทันที“รับทราบค่ะคุณแม่”เพลงพิณตอบกลับแม่สามีด้วยรอยยิ้มก่อนที่เธอจะปรุงรสชาติอาหารด้วยความคล่องแคล่วจนกระทั่งเมนูต้มโคล้งปลาเนื้ออ่อนของเธอเสร็จเรียบร้อยส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วทั้งครัว ทำเอาอาจารย์กิตติมศักดิ์ที่ยืนอยู่ข้างๆลูกสะใภ้ถึงกับยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจที่เสน่ห์ปลายจวักของเพลงพิณนั้นพัฒนาขึ้นมาก“กะปริมาณเครื่องปรุงได้พอดีและปรุงรสชาติได้ก