Home / แฟนตาซี / Undisclosure / อาวุธและความสับสน

Share

อาวุธและความสับสน

last update Last Updated: 2025-03-06 12:15:01

“ในเมื่อไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร ฉันว่ายังไงเราก็ควรเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุด ดูจากแผนที่แล้ว แค่หนึ่งวันก็น่าจะไปถึงทางออกได้...มั้ง แต่พวกเขาให้เวลาตั้งสิบวันแน่ะ แล้วยังอาวุธพวกนี้อีก คงมีอะไรรออยู่”

“หรือว่าเราต้องสู้กับพวกหุ่นยนต์” หนุ่มผมบลอนด์เดา

“หรือไม่ก็สัตว์ประหลาด” แม่หนูมินนี่สองเสริม พอทุกคนเงียบที่เธอโพล่งออกมาก็รีบบอก “ขอโทษ ๆ”

“ฉันไม่เข้าใจ การทดลองบ้าอะไรก็ไม่รู้ มันดูน่ากลัว เบ็กกี้อาจพูดถูกก็ได้นะ” เทสซ่ารำพัน “แถมพวกเขายังปล่อยให้พวกเราอยู่สบายมาตั้งนาน เพื่ออะไรก็ไม่รู้ อย่างน้อยถ้าให้เตรียมใจสักหน่อยยังจะดีเสียกว่า”

“แล้วแผนคืออะไร” เบนตัดบทคนอื่น

“คนนั้นบอกว่าให้คอยระวังตัว เหมือนให้พวกเราตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น พวกเราก็ต้องพยายามเกาะกลุ่มกันไว้ มุ่งหน้าไปที่จุดเซฟโซนให้ได้ ดีไหม” โนเอลเสนอ พลางทำเครื่องหมายลงบนแผนที่ “ยึดแค่เส้นทางและจุดหมายก็พอ ถ้าเกิดใครหลงออกจากกลุ่ม ก็พยายามกลับทางเดิม ยังไงก็ต้องไปทางเดียวกัน อาจจะตามทันได้ไม่ยาก ที่แน่ ๆ อย่ารีรอถ้าใครหายไป เราจะไม่รอ เน้นเดินผ่านจุดเซฟโซนตรงนี้ (เขาลากเส้น) ไปตรงนี้ก็จะถึงโซนสอง และถ้าหากเลือกทางที่สั้นที่สุด ทางออกหมายเลขสองคือจุดหมายของพวกเรา” เขาวงตรงทางออกหมายเลขสอง

ทุกคนยกเว้นเบนพยักหน้าอย่างว่าง่าย เชื่อฟังพี่ใหญ่

“พี่เป็นผู้นำก็แล้วกัน พี่มีประสบการณ์ในการฝึกทหาร ทุกคนก็คงเห็นด้วยใช่ไหม” เทสซ่าเสนอ ไม่มีใครค้าน พวกเขาจำเป็นต้องมีหัวหน้าคอยตัดสินใจ เพราะไม่รู้ว่าจะเผชิญกับอะไรบ้างในหนทางข้างหน้า หัวหน้าทีมจะเป็นคนนำทีมและควรเป็นคนที่มีวุฒิภาวะเหมาะสม ถ้ามองจากวัยและนิสัยคนในกลุ่ม โนเอลสมควรเป็นหัวหน้าทีมที่สุดแล้ว ส่วนตัวเบนไม่สนใจนัก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เขาโฟกัสแค่ตัวเองกับอเล็กซ์

เขาพอแล้วกับการนั่งขบคิดค้นหา ‘จุดประสงค์’ ของการทดลองหรือการที่ถูกจับมาอยู่แบบนั้น เอาตัวรอดและออกไปจากสถานที่บ้า ๆ แห่งนี้คือเป้าหมายเดียวที่เขาวางไว้

“มือเธอเย็นมาก” ออสโล่พูดขึ้นทันทีที่เขาจับมือเพื่อนสาว

อเล็กซิสถอนหายใจก่อนยกแขนกอดตัวเอง ดวงตามองไปยังแผนที่ แววตานั้นเหมือนไม่มั่นใจกับสิ่งใดเลย

“ฟาร์มในอีสต์แลนด์” เธอเงยหน้าบอกเพื่อนผมแดง

ฟาร์มเหรอ?

ออสโล่ส่ายหน้า “พวกเราจะไม่เป็นอะไร ก็แค่เกมผจญภัยเท่านั้นเอง”

เกมเอาตัวรอด

เขาผละจากสองคนนี้แล้วหันกลับไปหาคู่หูของตัวเองที่กำลังเช็กปืนอยู่ ดูจากสีหน้า อเล็กซ์กำลังฟังบทสนทนาของเด็กสองคนนั้นอยู่เหมือนกัน พอมองสภาพเพื่อนและตัวเองในเวลานี้ เขาบังเกิดความรู้สึกประหลาด อดีตคุณชายแห่งโวลคอฟและโรซิเยร์กลายเป็นตัวอย่างการทดลองทางวิทยาศาสตร์แสนพิลึกพิลั่นที่สุดไปเสียแล้ว

“อย่าประมาทอีกล่ะ”

เขาจ้องเพื่อนตัวเอง “ไม่มีทางหรอกน่า ไม่เห็นเหรอ ฉันพกระเบิดเชียวนะ”

“เปล่าหรอก นายนึกสนุกต่างหาก ฉันไม่คิดว่าเรื่องมันจะง่ายสำหรับพวกเราที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรอกนะ” ทายาทโวลคอฟวางปืนลง

เมื่อตัวเลขนาฬิกาเปลี่ยนเป็นเลขเจ็ด ห้องทั้งห้องหมุนทันที คนเกือบสามร้อยคนได้แต่อึ้ง เบนอยากรู้นักว่าขอบเขตความรู้ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของพวกรัฐบาลมีถึงขั้นไหนกันแน่ ประตูทางเข้าเปิดอีกครั้ง แต่มันไม่ได้นำพาพวกเขาไปทางเดิม หากแต่ไปยังเส้นทางใหม่

ไม่มีใครกล้าเข้าไป ไม่มีใครขยับตัว ไม่มีใครอยากเป็นตัวอย่างแรกที่เดินเข้าสนามทดลอง

เมื่อนั้น กำแพงโลหะสั่นสะเทือนราวกับมีแผ่นดินไหว ทว่าครั้งนี้มันไม่ใช่ฝีมือของอเล็กซ์ ตัวกำแพงประกอบด้วยแผ่นโลหะแผ่นเล็กประกบกัน และเมื่อแผ่นเหล็กเลื่อนลง จึงเผยให้เห็นลำกล้องปืนโผล่นับร้อยฝังอยู่ภายในกำแพง ไม่จำเป็นต้องรอคำอธิบาย ทั้งหมดก้าวขาออกทันทีก่อนที่ตัวปืนจะเลื่อนออกมาจากรูด้วยซ้ำ

โซนแรกให้บรรยากาศที่คล้ายกับตึกทดลองทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งคงไม่แปลกนักเพราะพวกเขายังอยู่ในการทดลอง พวกเขาเดินอยู่ในทางเดินยาวเหมือนทางเดินในหอพัก เมื่อมาถึงสามแยกที่หนึ่ง บางกลุ่มเริ่มแยกตัวออกไปตามทางที่กำหนดไว้ กลุ่มของเบนยังคงรวมกับกลุ่มอื่นเดินตรงต่อไป คณะเดินทางมีสมาชิกราวร้อยกว่าคนได้ เหนือศีรษะ หลอดไฟฟลูออร์เรสเซนต์ลักษณะเป็นท่อยาวส่งแสงกะพริบถี่ ๆ พร้อมกับเสียงกระแสไฟ มันสร้างบรรยากาศที่ทำให้เขานึกถึงตัวละครกำลังเดินเข้าไปในอุโมงค์ปีศาจ รายล้อมไปด้วยความเงียบที่แอบซ่อนอะไรบางอย่างไว้ และฉับพลันพวกเขาจะพบกับบางสิ่งที่แสนน่ากลัว

หยุดจินตนาการเถอะ

“อย่าเปิดประตูสุ่มสี่สุ่มห้า!”

เบนได้ยินเสียงโนเอลตวาดเวดที่เอื้อมมือจะแตะประตูที่อยู่ด้านข้าง (เขาเป็นคนที่โง่ที่สุดในกลุ่ม เบนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมไอ้หมอนี่ถึงได้รับคัดเลือกให้เข้าชิงทุนเหมือนอีกสองคน)

ประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเริ่มเบื่อ

“โชคดีที่เราเลือกเส้นทางถูก” เด็กคนหนึ่งพูดขึ้น เขาจึงได้เห็นสีหน้าเหยเกของพวกพี่น้องโธมัส

ราวกับอ่านใจเขาออก อเล็กซิสถามสามคนนั้น “ทำไมทำหน้าอย่างงั้น”

“ใครพูดแบบนี้มักมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นทุกทีน่ะสิ” สาวผิวเข้มอธิบาย

คนที่พูดเป็นเด็กหนุ่มที่มาพร้อมกับแก๊งตัวเอง อายุน่าจะราวสิบห้าสิบหกกันหมด ไม่น่าเกินจากนี้ เขาเดา

เมื่อมาถึงห้องที่เหมือนกับห้องแล็บขนาดใหญ่ ทั้งหมดจึงเห็นโต๊ะคอมพิวเตอร์จำนวนมากถูกจัดวางไว้ไม่เป็นระเบียบ สายไฟสายต่ออุปกรณ์ยาวระโยงระยางกันมั่วไปหมด ด้านหน้าจะมีสามแยกอีกอัน เหมือนเดิมนั่นคือ พวกเขาต้องเลือกว่าจะไปทางขวา ทางซ้าย หรือตรงไป จำนวนคนเริ่มลดลงเมื่อแต่ละกลุ่มแยกตัวไปอีก

กลุ่มของเบนต้องเลือกแล้ว อย่างที่ตกลงกันไว้ พวกเขาเลือกเส้นทางที่สั้นเพื่อให้ไปถึงทางออกให้เร็วที่สุด นั่นหมายความว่า ทั้งหมดต้องเดินตรงไป แต่โนเอลกลับบอกให้ทุกคนรอก่อน

“ฉันว่าพวกเราควรเดินหน้าได้แล้วนะ” เบนเร่ง สายตามองกลุ่มอื่นที่ยังเกาะกับกลุ่มเขา เบนผู้ไม่ชอบตามหลังใครจึงไม่อยากรั้ง

ทันใดนั้นเสียงสะท้อนดังออกมาจากทางข้างหน้า มันเป็นเสียงกรีดร้องบ่งบอกความกลัวถึงขีดสุด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Undisclosure    ผู้โบยบิน

    ไมเคิลไม่ตอบสนองคำขอร้องของเร็กกี้หากแต่พยายามรวบรวมสมาธิภายในเวลาอันจำกัด เขาเคยช่วยอเล็กซิสจากระเบิดมาแล้ว ทำไมครั้งนี้เขาจะช่วยตัวเองและเร็กกี้จากความร้อนไม่ได้ เด็กหนุ่มพยายามนึกถึงตอนที่ตัวเองสู้กับไซบอร์กตัวแรก ยามนั้นเขาอยู่กับอเล็กซิส และเมื่ออยู่กับแฝดสาว ดูเหมือนพลังและความคิดอ่านจะเพิ่มทวีคูณภาพของร่างของพ่อหายวับไปกลับเปลวเพลิงผุดขึ้นมาในหัว เขาจะปล่อยให้ตัวเองและแฝดอีกคนตายแบบพ่องั้นหรือ ชะตากรรมของแฝดทั้งสองจะเหมือนลูก้าใช่หรือไม่ใช้ประสบการณ์ในตอนนั้น ไมเคิล คิด! เขาต้องออกไปให้ได้ และต้องช่วยให้เร็กกี้มีชีวิตอยู่ต่อ ทักษะของชายคนนี้จำเป็นต่อการอพยพ พ่อแม่ ปาสคาล ได้โปรดเถอะ ชี้ทางสว่างที เขาไม่รู้จักพระเจ้า ไม่เคยเชื่อว่าใครอยู่เบื้องบนหรือจะมีจริงหรือไม่ หรือตอนนี้เขาเป็นเพียงฝุ่นในจักรวาล แต่ในเมื่อฝุ่นตัวนี้มีชีวิตจิตใจและมีคนที่ต้องปกป้อง เขาอยากจะเชื่อว่าสิ่งลี้ลับบางอย่างจะประทานทางออกมาให้“ฆ่าฉัน!” เร็กกี้ตะโกนอีกครั้ง แก้มแดงขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกดูเหมือนเลือดฝาดหน่อย ๆ แต่เมื่อผ่านไปสักพักผิวกลับแดง

  • Undisclosure    โอกาสกี่เปอร์เซ็นต์?

    เขาคิดว่าตัวเองจะโดนกระแทกตาย แต่หลังกับกระแทกกับโครงอ่อนหนุ่ม...ไม่ถึงกับนุ่มมากนักแต่ไม่ได้ทำให้หลังเขาหัก อย่างน้อยมันก็ยืดหยุ่น ไมเคิลคลำมือลงบนสิ่งที่ว่า มันเหมือนกิ่งไม้สานต่อกันเป็นรัง เขาหันไปรอบ ๆ เจอเร็กกี้ติดแหงกอยู่ด้านบน ถ้าไม่ใช่เพราะมีไอ้นี่กันไว้ ลำตัวเขาคงกระแทกกับกำแพงหรือไม่ก็เพดาน ทว่าดูจากสภาพแล้วก็ยังมีบางส่วนบาดเจ็บแรงดูดยังคงอยู่ พวกเขาได้แต่นอนนิ่ง ๆ เหมือนหนูติดอยู่ในกับดักกาวเพียงแต่กาวเป็นรากไม้ เนื้อแก้ม ใบหู เส้นผมเหมือนถูกดึงอยู่ตลอดเวลา จนผ่านไปสักพัก ประตูทางเข้าปิดลง ร่างคนทั้งสองตกลงบนพื้น“นายเป็นไง” เขาถาม ขณะยืนขึ้น เร็กกี้ครวญออกมาคำนึงแล้วตอบมา“แขนหัก” สีหน้าชายหนุ่มเหยเก แขนข้างขวาห้อยกับลำตัว ใบหน้าและริมฝีปากซีด “ขอบใจฉันทีหลังได้”ไมเคิลมองไปข้างหน้า ประตูปิดสนิท เขาเห็นเงาเคลื่อนไหวอยู่ราง ๆ เมื่อแรงดูดหายไป ข้างนอกเริ่มสู้ใหม่ ไมเคิลวิ่งไปจับประตู มันปิดสนิท พยายามผลักและเขย่าเท่าไรก็ไม่เป็นผล“กับดักอะไรของมัน นี่ใช่ไหม กับดักที่มันว่า เขาถามชายหนุ่ม

  • Undisclosure    ศรัทธา

    ร่างของเขาหล่นกระแทกบนพื้น แขนสะเทือนไปถึงหัวไหล่ แม้จะอยู่ภายใต้ชุดเกราะแต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิง เรี่ยวแรงที่สะท้อนกลับมานั้นยิ่งกว่าหุ่นยนต์พิฆาตทั้งสองรุ่นเลยทีเดียว ขณะที่เขาพยายามจะลุกขึ้นมาใหม่ก็ได้ยินเสียงปะทะ คนที่เหลือคงซ้ำต่อ แต่เมื่อเขาเงยหน้าได้ก็เห็นว่าชายหนุ่มทั้งหมดนอนกระจายร้องโอยกันหมดมิน่ามันถึงเฝ้าประตูแค่ตัวเดียว เวลานี้ไมเคิลนึกกลับคำในใจ หรือว่ากับดักนั้นง่ายกว่า หรือว่านี่คือกับดัก และแล้วเขาก็นึกถึงคำพูดก่อนหน้าของเร็กกี้ ไซบอร์กจะถูกปล่อยออกมาตามรอบเวลา แล้วพวกข้างล่างเล่า มันพอดีกับที่เจ้าตัวนี้โผล่มาหรือไม่เสียงหัวเราะของเด็กสาวดังขึ้นอีกครั้ง มันเดินมองไปทีละร่างเหมือนกำลังเล่นสนุก ยังไม่คิดจะเอาชีวิตใครสักคนในตอนนี้ ดวงตาบนหน้านั้นเหลือบไปมา ลักษณะท่าทางมีชีวิตแต่ก็ไม่มีชีวิต ดูซุกซนแต่ก็เย็นชา เขาไม่แน่ใจว่าเธออายุเท่าไร แต่น่าจะเด็กกว่าไมเคิล ทางการทำอะไรกับเหล่าไซบอร์ก เขารู้ว่าคนพวกนี้เคยเป็นมนุษย์ปกติ แต่ดูตรงหน้าสิ...เธอยังเด็กแต่กลับสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปแล้วหรือ“เธอพูดได้ไหม” เขาเอ่ยถามออกไปมันหยุดชะงักแ

  • Undisclosure    หน่วยกล้าตาย

    ยิ่งได้กอด เขายิ่งรู้สึกว่าอเล็กซิสผอมลงมากจนน่ากลัว ยังดีที่ไออุ่นของเธอไม่เคยเปลี่ยนแปลง มันอบอุ่นเหมือนแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ ไม่ร้อนบ่มผิว เหมือนมีสายลมเย็นสบายพัดผ่านและทำให้เขาหวนนึกถึงแม่ตลอด การกอดครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อฟื้นฟูพลังงานในกาย แต่เพื่อเพิ่มกำลังใจให้ตัวเอง มันอาจเป็นการจากกันครั้งสุดท้ายหรือเริ่มต้นชีวิตใหม่อเล็กซิสไม่ห้ามให้เขาขึ้นไป เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าพวกเขาทำไม่สำเร็จ เธอก็จะตามไปหาเขาด้วย นาฬิกาชีวิตของทุกคนเหลือไม่ถึงสองชั่วโมงและมันก็ลดลงเรื่อย ๆ ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ ทุกคนก็ตาย เหตุและผลง่าย ๆ แต่พวกเขาจะยึดความหวังไว้จนกว่าจะวินาทีสุดท้าย“จำไว้นะ หากฉันขึ้นไปได้ นายก็ต้องอยู่” ดวงตาสีน้ำเงินดูดุดันขึ้นยามเธอจริงจัง“อื้อ” เขาพยักหน้า “เราจะไม่จากกันอีก”“ไม่” เธอส่ายหน้า มุมปากทั้งสองข้างยกขึ้นน้อย ๆ “รักษาตัวนะ...น้องชาย”เขายิ้ม เธอพยายามจะเป็นพี่จนเขายอม เด็กหนุ่มหันไปสบตากับชายหนุ่มผมสีดำ ดวงตาสีเข้มคล้ายเม็ดนิลสบกลับมาเหมือนต้องการจะให้ความมั่นใจผ่านเพียงสายตา ไมเค

  • Undisclosure    ยานลำเลียง

    มือและเท้าเย็นเยียบขึ้นมา แต่บลูพยายามปั้นสีหน้าให้เป็นปกติ ยิ่งเห็นทุกคนในห้องนี้ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดแต่ยังไม่ถึงขั้นตื่นตระหนกก็ยิ่งสะกดกลั้นไว้ข้างใน แม้ภายในใจไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกไหนก่อนระหว่างกลัวตายกับสูญเสีย“พวกนั้นว่าไง แล้วเจ้าคนที่คุมหุ่นยนต์ได้ล่ะ”เมลิสซ่าส่ายหน้า “เด็กคนนั้นใช้พลังไม่ได้ แต่พวกเขาดูจะจัดการกับของพวกนี้ได้บ้าง” เธอหลิ่วตาไปทางอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่รายล้อม “โคดี้พยายามจะปลดล็อกระเบิด ส่วนเรมีกำลังรวบรวมข้อมูลกับดักในตึกนี้ทั้งหมด แล้วก็เร็กกี้...” หญิงสาวถอนหายใจโล่งอก “เขาเคยทำงานในศูนย์วิศกรรมการบินและอวกาศของฟิวเจอร์ริสติกเลยพอจับจุดอะไรได้บ้าง ที่ฉันทำได้คือหาอะไรก็ได้ที่จะพอให้พวกมีมันสมองคิดออก เพราะคนอย่างฉัน แค่เปิดเครื่องยังงง”“ยาน?” ริงโก้ไม่แน่ใจนัก “เราจะหนีด้วยยานเหรอ”“อื้อ” เมลิสซ่าพยักหน้า “มันเป็นวิธีเดียวนี่”“แล้วคนอื่นล่ะ” เดสซิเรถามขึ้น “ยังมีคนกระจายอยู่ทุกเขต ซ่อนตัว หาท

  • Undisclosure    หาทางรอดครั้งที่??

    เทสซ่านิ่งงันไปพักหนึ่งก่อนสมองจะทำงานใหม่ เธอกลืนน้ำลายแล้วถามอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้น พวกนั้นจะระเบิดตึกนี้...หรือทอยซิตี้?”แม้เป็นคนพูดเอง แต่เมื่อมันออกจากปากไปแล้ว เลือดในกายกลับเย็นวาบลงจนขนลุกไปหมด อเล็กซิสหน้าซีดลง สีหน้าแสดงออกว่ากำลังใช้สมองวิเคราะห์หนัก“เราต้องบอกลู” เทสซ่าสรุป ถ้าจะนับคนที่มีมันสมองดีเลิศ นอกจากเรมี อเล็กซิส และโคดี้แล้ว เธอนึกถึงลู หญิงสาวค่อนข้างเจ้าแผนการและมีประสบการณ์มากกว่า น่าจะเข้าใจตัวเลขนี้ได้ดีกว่า“บางที...” เรมีรุดเข้าไปที่โต๊ะแสตนเนอร์ อเล็กซิสเบี่ยงตัวเดินออกมาให้เขาจัดการ หน้าจอปรากฏข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย เทสซ่าสบตากับรีเวอร์ แววตาของเขาเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่ถึงกับยอมแพ้3:24:34เทสซ่าจ้องมันราวกับว่าเธอจะมีพลังจิตสะกดให้หยุดได้...พลังจิต “โคดี้!” นึกได้แล้วก็หุนหันวิ่งออกไปแม้จะหลับสนิทไปไม่กี่ชั่วโมง แต่โคดี้ใช้พลังหนักหน่วงมากระหว่างอยู่นอร์ธ เลือดกำเดาออกถึงสองครั้ง และเมื่อครู่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้อยู่ในห้อง มีเพียง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status