ปวด...
นั่นเป็นความรู้สึกแรกหลังจากตื่นขึ้นมาจากนิทรา ปวดตัวไปหมดเลยยยยยยย ไอ้พี่เนม คนหื่น ถ้าผมโดนแบบนี้บ่อยๆ คงจะโทรมไม่น้อยเลย ผมยันตัวเองลุกขึ้นจากที่นอน ใบหน้าสวยงองุ้มทำปากยื่น หันมองคนข้างกายที่หลับตาพริ้มไม่รู้ตัวอยู่ตอนนี้
“ทำไมต้องโหมแรงขนาดนั้นด้วย อึด ถึก ทน แถมยังใหญ่ขนาดนี้อีก กะให้ร่างผมพังไปเลยใช่ไหม นี่แหนะ นี่แหนะ” ผมหันไปดึงยืดหน้าตาคนนอนหลับอย่างมันมือ พร้อมกับบ่นไปพลางๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา พยุงร่างกายลุกจากเตียง เตรียมไปอาบน้ำ
หมับ!
“ประทุษร้ายร่างกายพี่แล้วจะไม่รับผิดชอบหรอครับ” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลงจากเตียง แขนแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก็เข้ามารัดเอวของผมไว้ พร้อมกับดึงเข้าหาตัว จนผมเกยทับอยู่ด้านบนในท่านอนหงาย
“อะ อ่อ พี่เนม ตื่น ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ผมถามเสียงตื่น เขาจะได้ยินที่ผมบ่นไหมเนี้ย
“นายกำลังคิดอะไรอยู่ละครับ ถ้ากำลังคิดว่าพี่ได้ยินไหม ใช่ครับ พี่ได้ยิน” เสียงพร่ากระซิบที่ข้างหู ขายาวๆ ของพี่เนมเลื้อยมาล็อกขาล็อกเ
“พี่เนมครับ”“ครับ”“พี่วางแผนมาตั้งแต่ต้นแล้วใช่ไหม”“ก็พี่ไม่อยากให้นายต้องเหนื่อยนี่ครับ”ตอนนี้เรานั่งอยู่ในอเวนทาดอร์สีดำ กำลังพุ่งทะยานไปตามถนนอย่างรวดเร็ว หลังจากออกมาจากบริษัท โอแกรนวิวล์ พี่เนมก็พาผมแวะทานอาหารเที่ยง ก่อนจะขับมาส่งผมที่มหาลัย“เดี๋ยวพี่ให้มาคัสมารับนะ” ผมพยักหน้าให้ ก่อนจะหันไปอีกด้านเพื่อเปิดประตูลงจากรถ แต่กลับถูกแขนแกร่งดึงรั้งไว้จนต้องหันกลับไปมอง“อะไรหรอครับ” ริมฝีปากหนานุ่มยุ่นประทับลงแผ่วเบา เนิ่นนาน จนผมหลับตาตอบรัมสัมผัสนั้นด้วยความเต็มใจ“ตั้งใจเรียนนะครับ” พี่เนมผละออกไปก่อนจะย้ายกลับไปนั่งที่เดิม เท้าแขนกับพวงมาลัย หันมาทางผมสบตานิ่ง“ผม... ทำไงดี... ผมไม่อยากไปเรียนแล้ว ผมจับพี่กดตรงนี้ได้ไหมครับ” ผมเงยหน้าส่งเสียงออดอ้อนออกไป ใบหน้าเว้าวอน อยากโดดเรียนแล้วไปนอนกอดผัวจังฮู้ววววเปาะ!พี่เนมดีดหน้าผากผมเบาๆ ก่อนจะยกยิ้มอบอุ่นมาให้“เกเรหรอเร
วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์ครับ พี่เนมจัดการให้คนพาเพื่อนๆ แต่ละคนไปส่งถึงบ้าน แต่ละคนสภาพไม่ได้ดีสักคน ไม่สิ คนที่ดูได้อยู่คือพี่ซอกับพี่ไนท์ สดชื่นดี๊ด๊าแต่เช้า ทำหน้าที่แบกหามเพื่อนๆ ขึ้นรถ แล้วพากันขึ้นรถคันเดียวกันกลับ มันทะแม่งๆ นะ“พี่ซอกับพี่ไนท์ดูสนิทกันดีนะครับ” ผมพูดขึ้นเปรยๆ ก่อนที่พี่เนมจะหันมามองผมอย่างงงๆ“มันผัวเมียกัน จะแต่งปลายปีนี้แล้ว”“ห๊ะ!! พี่ซอกับพี่ไนท์เป็นแฟนกันหรอครับ” ผมถามออกไปด้วยความตื่นตะลึง ก็ใครจะไปรู้ล่ะ พวกพี่ๆ เขาไม่เคยหวานกันให้เห็นเลยนี่ พี่เนมส่ายหน้าให้ผม พลางทำหน้าสงสัยประมาณว่ามันชัดออกขนาดนี้ยังดูไม่ออกอีกก่อนจะเดินเข้าบ้านไป เตรียมตัวออกไปทำงาน ผมเองก็เดินตามร่างสูงไปติดๆ ก่อนที่เราจะนั่งประจำที่ แล้วพากันออกจากบ้านไปทำงานด้วยกันในช่วงเช้า แล้วไปเรียนในตอนบ่าย“ท่านครับ เลขาของคุณชาญชัยแจ้งว่าคุณชาญชัยถูกทำร้ายจนเข้าโรงพยาบาลครับ ท่านจะให้ผมจัดกระเช้าไปเยี่ยม หรือจะไปด้วยตัวเองครับ” เมื่อเราเริ่มทำงานกันไป จนถึงตอนส
ปวด...นั่นเป็นความรู้สึกแรกหลังจากตื่นขึ้นมาจากนิทรา ปวดตัวไปหมดเลยยยยยยย ไอ้พี่เนม คนหื่น ถ้าผมโดนแบบนี้บ่อยๆ คงจะโทรมไม่น้อยเลย ผมยันตัวเองลุกขึ้นจากที่นอน ใบหน้าสวยงองุ้มทำปากยื่น หันมองคนข้างกายที่หลับตาพริ้มไม่รู้ตัวอยู่ตอนนี้“ทำไมต้องโหมแรงขนาดนั้นด้วย อึด ถึก ทน แถมยังใหญ่ขนาดนี้อีก กะให้ร่างผมพังไปเลยใช่ไหม นี่แหนะ นี่แหนะ” ผมหันไปดึงยืดหน้าตาคนนอนหลับอย่างมันมือ พร้อมกับบ่นไปพลางๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา พยุงร่างกายลุกจากเตียง เตรียมไปอาบน้ำหมับ!“ประทุษร้ายร่างกายพี่แล้วจะไม่รับผิดชอบหรอครับ” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลงจากเตียง แขนแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก็เข้ามารัดเอวของผมไว้ พร้อมกับดึงเข้าหาตัว จนผมเกยทับอยู่ด้านบนในท่านอนหงาย“อะ อ่อ พี่เนม ตื่น ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ผมถามเสียงตื่น เขาจะได้ยินที่ผมบ่นไหมเนี้ย“นายกำลังคิดอะไรอยู่ละครับ ถ้ากำลังคิดว่าพี่ได้ยินไหม ใช่ครับ พี่ได้ยิน” เสียงพร่ากระซิบที่ข้างหู ขายาวๆ ของพี่เนมเลื้อยมาล็อกขาล็อกเ
เมื่อผมตื่นมาก็ไม่เจอพี่เนมที่นอนอยู่ข้างกาย ภารกิจสำรวจจึงเริ่มต้นขึ้นทันที ผมเดินเข้าห้องนั้น ออกห้องนี้ จนมาถึงห้องออกกำลังกาย เมื่อมองดีๆ จึงเห็นว่ามันมีประตูอีกบาน พอเปิดออกไปก็พบกับท้องฟ้ายามค่ำคืน ซึ่งมีสระน้ำอยู่ตรงกลาง พร้อมร่มและเก้าอี้ชายหาดตั้งอยู่ แล้วร่างสูงโปร่งของใครคนหนึ่งที่ยืนพิงกำแพง เหม่อมองออกไปไกล คีบบุหรี่ถือไว้ในมือสายลมพัดแรงจนผมสะบัดไหว เล่นปลิวไปตามลม ผมเดินเข้าไปหาพี่เนมช้าๆ จนได้พบว่าที่ข้างตัวของพี่เนมมีที่เขี่ยบุหรี่อยู่ และบุหรี่หลากหลายอันถูกขยี้อยู่ในนั้นเป็นจำนวนมาก ผมเดินเข้าไปสวมกอดพี่เนมจากด้านหลัง คนตัวโตเอื้อมมือมากุมมือของผมไว้ หันไปขยี้ดับบุหรี่ทิ้ง ก่อนจะหันกลับมามองผม“ตื่นแล้วหรอครับ” ฝ่ามืออุ่นลูบแผลบนหน้าผากผมเบาๆ ก้มลงกดจูบที่ข้างแก้มแล้วผละออก“ครับ” ผมพยักหน้าตอบรับ ซบหน้าลงกับฝ่ามือใหญ่“มาตั้งแต่ตอนไหนครับ”“ประมาณ 9 โมงกว่าๆ ครับ”“งั้นก็ไม่ได้เรียนเลยน่ะสิ” ผมยกยิ้มให้บางเบา“ผมเป็นห่วงพี่มากกว่า” จบคำของผม พ
“เนม กูรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่กูได้มาอยู่ในนี้นะ ไฟล์ที่เสียหายกูก็กู้ข้อมูลคืนให้แล้ว จัดเรียงตามลำดับเวลาไว้ให้ด้วย แต่... มึงจะอยากดูจริงๆ หรอ” ในเช้าวันถัดมาผมมาทำงานตามปกติครับ แต่ที่ไม่ปกติคือผมมาทำงานในเวลาที่เช้ามากๆ โดยมีไอ้ไนท์ที่ยืนตาโหลๆ อยู่ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของผมและมาคัสคู่กัน“ทำไม กูตามหาความจริงมาเกือบ 10 ปี และวันนี้กูต้องได้รู้” ผมบอกเสียงเข้ม รับเอาแฟลซ์ไดรฟ์จากมือของไอ้ไนท์มาถือไว้ ก่อนจะเสียเข้ากับคอมแล้วเริ่มเปิดโฟล์เดอร์“กูว่า กูออกไปรอข้างนอกดีกว่า” ไอ้ไนท์บอกแล้วหันกายออกไปจากห้อง มาคัสหันมามองผมอย่างกังวลใจนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกไปตามกันผมเริ่มเปิดเข้าไปในโฟล์เดอร์ ที่มีไฟล์อยู่ 5 ไฟล์ และไฟล์เสียง 1 ไฟล์ เท่านั้น โดยจัดเรียงกันตามวันที่ ผมไม่รอช้าที่จะเปิดเข้าไปทันที ภาพในวิดีโอปรากฏอยู่ตรงหน้านี่มันเรื่องบ้าอะไร!!!!...Nine Partวันนี้วันพฤหัสครับ พี่เนมพาผมมาทานอาหารกับลุงชาญที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เรานั่งกินกันไปทานกันไป ดูท่าลุงชาญคงจะทำ
“เซอร์ไพรส์!!!”เสียงที่ประสานกันอยู่หน้าห้องทำให้ผมชะงักช้อนที่กำลังจะเข้าปาก ก่อนจะหันไปมอง ยกยิ้มให้กับเพื่อนทั้ง 4 คนของผม“พวกมึงมาได้ไง”“พี่เนมโทรมาบอก” พวกเพื่อนๆ ผมชี้นิ้วไปหาพี่เนม ซึ่งพี่เนมก็เก๊กหน้าขรึมทันที รักษามาดผู้บริหารของบริษัทชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประเทศ เมื่อมองไปดูในมือของเพื่อนๆ แต่ละคน ถือของกันพะรุงพะรังเต็มสองมือ พวกมันจัดการแยกย้ายเอาของไปเก็บตามที่ต่างๆ ไอ้ซันถือขนม ไอ้เบสถือน้ำ ไอ้วุฒิถือผลไม้ ส่วนไอ้เพชรถือดอกไม้ช่อโต การแต่งตัวของไอ้เพชรเหมือนกับกำลังจะไปขอความรักจากสาวๆ เลยครับ เรียกได้ว่าหล่อกระชากใจจนผมเผลอจ้องนานไปหน่อย“จ้องอะไรมันนักหนา” พี่เนมพูดเสียงนิ่ง สายตาจดจ้องอยู่ที่ไอ้เพชรตลอดเวลา โดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้สึกตัวสักนิด“มันหล่อดีครับ” ผมตอบไปตามความจริงกับสิ่งที่คิดในใจ“ไม่ได้ พี่ไม่ให้มอง นายมองพี่ได้แค่คนเดียว” พี่เนมว่าก่อนจะย้ายที่นั่ง มานั่งตรงข้ามกับผม บดบังรัศมีการมองเห็นไอ้เพชรไปจนมิด แล้วมาสบตากับผมแทน จนผมขมวดคิ้ว