.
.
.
Name Part
ตั้งแต่ที่ผมปรับความเข้าใจกับเจ้านายในครั้งนั้น ผมก็ย้ายให้เจ้านายมาอยู่ใกล้ตัว ก็นะ ห้องก็ใหญ่กว่า สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีครบ ซึ่งเจ้านายก็ยอมมาแต่โดยดี ผมว่าผมเริ่มติดคนตัวเล็กหน่อยๆ แล้วล่ะ อยากจะเจอหน้าทุกวัน แม้แต่ตอนเลิกเรียนก็ยังให้มาคัสไปรับมา แล้วกลับบ้านพร้อมกัน
ทั้งที่ก่อนหน้านั้นผมให้ลุงชมไปรับไปส่ง แต่แล้ววันหนึ่งเจ้านายก็ถามหากล่องเหล็กอะไรไม่รู้กับผม เมื่อได้คำตอบว่าไม่อยู่ที่ผมก็รีบพุ่งตัวกลับห้องทันที เจ้านายเดินกลับมาพร้อมกล่องเหล็กลวดลายไทยๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก แม้ผมจะมีความสงสัยอยู่เต็มอก แต่ก็ละเว้นไว้ให้เจ้านายได้มือพื้นที่ส่วนตัวบ้าง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนตัวเล็กเองที่เสนอให้ผมได้ดู โดยให้เหตุผลว่าไม่อยากมีเรื่องปิดบัง และยอมให้ผมได้รับรู้เรื่องส่วนตัวของตนเอง ผมได้อ่านทั้งจดหมายและพินัยกรรม พร้อมทั้งวางแผนคร่าวๆ ไว้ในใจ บอกกับเจ้านายว่าจะจัดการให้ แต่เจ้านายก็หน้ามึน ไม่เข้าใจสักนิดว่าผมกำลังจะสื่อถึงอะไร และผมก็ไม่คิดที่จะอธิบายเพิ่มเติมด้วยละนะ
ด้วยความที่วันเสาร์เจ้านายไปทำงาน
“พี่เนม!!!!!!” ผมตะโกนลั่นห้อง ตกใจกับภาพตรงหน้าที่เห็น ห้องนี้ทั้งห้องเป็นกระจกครับ กระจกล้วนๆ เราจะทำอะไร มุมไหนก็เห็นหมด เตียงเป็นรูปหัวใจตั้งอยู่กลางห้อง สามารถเดินได้รอบด้าน ดูก็รู้ว่าทำไม ถัดออกมาที่ปลายเตียงเป็นเก้าอี้นั่งรูปทรงแปลกๆ ส่วนห้องน้ำ เป็นกระจกใส ทำอะไรก็เห็นหมด ผมหันไปมองพี่เนมอย่างเอาเรื่องทันที นี่มันห้องม่านรูดสไตล์ญี่ปุ่นชัดๆ!!!“หมายความว่ายังไงครับ” ผมถามพร้อมกดเสียงต่ำ หมายจะเอาเรื่องคนต้นคิดในการจองห้องพักครั้งนี้“ฮะๆ พี่ไม่ได้ทำนะ ไอ้ต้องมันมีแต่แบบนี้” แม้พี่เนมจะเมามากเท่าไหร่ แต่ก็ยังสามารถพูดโต้ตอบกับผมได้อยู่ เมาแบบมีสติสินะ ผมมองบน เลิกสนใจพี่เนมไป ผมง่วงจะตายอยู่แล้ว ผมเดินเซๆ เข้าห้องน้ำไปหวังอาบน้ำให้สดชื่นขึ้น ผมถอดเสื้อผ้าออกจนหมด ไม่สนใจแม้มันจะเป็นกระจกใส ผมก้าวเท้าไปยืนใต้ฝักบัว พิงหัวไว้กับกำแพง เหมือนจะหลับซะให้ได้ ความรู้สึกอบอุ่นปรากฏขึ้นจากด้านหลัง เสียงกระซิบแผ่วเบาแต่เร้าอารมณ์“พี่อาบให้ไหมครับ” พี่เนมถามแล้วงับติ่งหูจนผมสะดุ้งเฮือก“อื้อออ ผมง่วง&rdqu
...Nine Partวันนี้วันพฤหัสครับ ผมมีเรียนเต็มแน่นทั้งวัน ส่วนแผลที่ขาก็ใกล้จะหายแล้วครับ ไม่ต้องทำแผลอีกต่อไป ช่วงนี้อะไรๆ ก็ดีไปหมดในตอนนี้กลุ่มผมเปลี่ยนจาก 4 คน เป็น 5 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ คนที่เพิ่มมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นหญิงทอมบอย เพชรนั่นแหละครับ ซึ่งเพชรเองก็บอกว่าให้ถือว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เราก็คุยกันเป็นปกติแล้วล่ะ แต่ว่าเว้นเรื่องการสัมผัสตัว ยังไงเขาก็ผู้หญิงอ่าเน๊อะไม่รู้ว่าช่วงนี้ผมคิดไปเองไหม แต่ไอ้ซันกับไอ้เบสแปลกๆ ไปตั้งแต่วันที่ไปทำงานกลุ่มกันแล้ว แม้มันจะปากหมากัดกันเหมือนเดิม แต่บรรยากาศรอบๆ ตัวไม่เหมือนเดิม ซึ่งมันทั้งคู่ก็ไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมก็ไม่เซ้าซี้ให้มันตอบ ไว้เดี๋ยวมันอยากเล่ามันคงจะพูดกันเอง“พวกมึง วันศุกร์ไปดื่มกันไหมว่ะ” เสียงไอ้ซันพูดชักชวนพวกเราทั้ง 4 คน“ไปดิๆ ไม่ได้ดื่มนานละ” เสียงไอ้วุฒิที่ตอบรับกลับมา ไอ้เบสกับไอ้เพชรจึงพยักหน้าตอบรับไป“โอเค ร้าน Aftermoon Club นะ”“พวกมึง กูไม่ว่า
...Name Part“เป็นอะไรไปครับ” เสียงของเจ้านายเอ่ยทักผมอย่างสงสัย เมื่อเห็นท่าทางของผมที่แปลกไป“ปะ ปะ เปล่า” ผมตอบกลับไปเสียงสั่น จะให้ผมบอกเจ้านายได้ยังไง ว่าวิวตรงนี้มันดีสุดๆ แถมยังเร้าอารมณ์อย่างมากอีกด้วย เพราะเจ้านายไม่ได้สวมใส่อะไรที่ด้านล่าง ทำให้มองเห็นต้นขาเรียว ลึกเข้าไปด้านใน แม้จะไม่เห็นอะไรที่มันชัดเจนเพราะมีเสื้อปกปิดอยู่ แต่ก็ทำให้ผมจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนได้ไม่ยาก เจ้านายไม่ได้ตอบอะไรกลับมาและปล่อยให้ผมนั่งทำแผลจนเสร็จซึ่งผมเองก็ใช้ทั้งความพยายามและความอดทน กัดฟันแน่นอย่างข่มอารมณ์ไม่ให้จับเจ้านายทำอะไรที่โซฟาไปเสียก่อน จนเมื่อทำแผลเสร็จถึงโล่งใจไปได้บ้างแม้จะใช้เวลาในการทำแผลมากกว่าปกติมากไปสักหน่อยก็ตาม หลังจากทำแผลเสร็จผมก็จัดการป้อนยาให้คนตัวเล็ก ซึ่งการป้อนยาให้เจ้านายนี้ผมไม่เคยนึกเบื่อมันเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะพาเจ้านายไปนอนในห้อง ห่มผ้าแปะแผ่นเจลลดไข้ให้อีกที เมื่อแน่ใจว่าคนตัวเล็กหลับแล้วผมจึงออกมานั่งทำงานที่ข้างนอกแทน แต่...ให้ตายเถอะ!!! ผมไม่มีสมาธิจ
...Name Partตั้งแต่ที่ผมปรับความเข้าใจกับเจ้านายในครั้งนั้น ผมก็ย้ายให้เจ้านายมาอยู่ใกล้ตัว ก็นะ ห้องก็ใหญ่กว่า สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีครบ ซึ่งเจ้านายก็ยอมมาแต่โดยดี ผมว่าผมเริ่มติดคนตัวเล็กหน่อยๆ แล้วล่ะ อยากจะเจอหน้าทุกวัน แม้แต่ตอนเลิกเรียนก็ยังให้มาคัสไปรับมา แล้วกลับบ้านพร้อมกันทั้งที่ก่อนหน้านั้นผมให้ลุงชมไปรับไปส่ง แต่แล้ววันหนึ่งเจ้านายก็ถามหากล่องเหล็กอะไรไม่รู้กับผม เมื่อได้คำตอบว่าไม่อยู่ที่ผมก็รีบพุ่งตัวกลับห้องทันที เจ้านายเดินกลับมาพร้อมกล่องเหล็กลวดลายไทยๆ ขนาดไม่ใหญ่มาก แม้ผมจะมีความสงสัยอยู่เต็มอก แต่ก็ละเว้นไว้ให้เจ้านายได้มือพื้นที่ส่วนตัวบ้าง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนตัวเล็กเองที่เสนอให้ผมได้ดู โดยให้เหตุผลว่าไม่อยากมีเรื่องปิดบัง และยอมให้ผมได้รับรู้เรื่องส่วนตัวของตนเอง ผมได้อ่านทั้งจดหมายและพินัยกรรม พร้อมทั้งวางแผนคร่าวๆ ไว้ในใจ บอกกับเจ้านายว่าจะจัดการให้ แต่เจ้านายก็หน้ามึน ไม่เข้าใจสักนิดว่าผมกำลังจะสื่อถึงอะไร และผมก็ไม่คิดที่จะอธิบายเพิ่มเติมด้วยละนะด้วยความที่วันเสาร์เจ้านายไปทำงาน
“ไอ้นาย มึงเอากับพี่เขาจนถึงกับขาเป๋เลยหรอวะ”“บ้านมึงสิ กูเป็นแผลไอ้สัส” ผมตอบกลับไอ้ซันที่ทักได้ปากวอนตีนในช่วงบ่ายของวัน วันจันทร์ผมมีเรียนแค่ช่วงบ่าย ช่วงเช้าก็ต้องไปช่วยพี่เนมที่บริษัท จะเรียกว่าช่วยก็คงไม่ถูกนัก เหมือนจะไปเพิ่มภาระให้พี่มาคัสมากกว่า เพราะทุกๆ การสอนจะต้องมีพี่มาคัสประกบติด คอยสอดส่องและชี้แจงจุดที่เข้าใจได้อยากให้ผมฟังอย่างง่ายๆ พูดอีกทางก็คือแต่ก่อนที่ผมถูกพี่มาคัสเอามาทิ้งไว้ตามแผนกต่างๆ พี่เขาก็กลับไปทำงานแต่ตอนนี้กลับต้องมานั่งเฝ้าผมแทน จนผมรู้สึกเกรงใจ เพราะเหมือนมาเป็นภาระให้ ผลสรุปสุดท้ายจากการถกเถียงกันระหว่างผมและพี่เนมคือ ให้ผมมาเป็นผู้ช่วยพี่มาคัสอีกที และเรียนรู้งานจากพี่มาคัสคนเดียวเท่านั้น ส่วนโต๊ะทำงานของผมก็ติดกับพี่เนมนั่นละครับ พี่มาคัสที่สอนงานต้องคอยเทียวเข้าเทียวออกห้องพี่เนมแทน“อ้าว ทำอะไรมาถึงเป็นแผล” ไอ้เบส“อ่อ หกล้ม” ผมเสหันไปมองทางอื่น ใบหน้าเห่อร้อน จะให้ผมพูดได้ยังไง ว่าพี่เนมหื่นจัด จับผมลงน้ำเพราะอยากจะชวนทำอะไรๆ ด้วยจนได้แผล พวกเพื่อนๆ เมื่อได้คำตอบก็ไ
ตั้งแต่วันนั้นมานี่ก็ผ่านมา 5 วัน จนมาถึงวันเสาร์ที่เรานัดทำงานกลุ่มกัน ผมเดินทางมาตามแผนที่ที่เพชรแชร์โลเคชั่นมาให้ โดยที่ลุงชมเป็นคนขับพาผมมาส่ง ส่วนพี่เนมนั้นก็บอกว่าไม่อยากรบกวนการทำงานจึงไม่ได้ตามมาด้วย เมื่อผมมาถึงก็พบว่าไอ้วุฒิและเพชรรออยู่ก่อนแล้ว ขาดก็แต่ไอ้ซันกับไอ้เบสเท่านั้นผมไปสวัสดีทักทายพ่อแม่ของเพชรก่อนที่จะถูกปล่อยตัวให้ไปรวมกับเพื่อนอีก 2 คนที่รออยู่ที่ห้องนั่งเล่น บ้านของเพชรไม่ใหญ่มากครับ เหมือนกับบ้านจัดสรรทั่วๆ ไป ที่มีห้องนั่งเล่นอยู่กลางบ้าน แต่โดยรอบของบ้านจัดแต่งอย่างร่มรื่น มีต้นไม้ประดับประดาอยู่รอบๆ บ้าน ทำให้รู้สึกสดชื่นตลอดเวลาแม้จะอยู่ในเมืองกรุงก็ตาม“ไอ้ซันกับไอ้เบสยังไม่มาอีกหรอวะ” ผมหันไปถามไอ้วุฒิซึ่งนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา ในขณะที่ผมก็หย่อนตัวนั่งลงตรงปลายเท้ามัน“เออ แล้วเสือกมานัดตอน 10 โมง ตัวเองดันมาสาย สัส กูไม่น่ารีบแหกตาตื่นมาแต่เช้าเลย” ไอ้วุฒิบ่นไปเรื่อยเปื่อยเนื่องจากคนต้นคิดกลับมาสายซะเอง“ระหว่างรอเรามาทำกันไปพลางๆ ไหม จะได้ไม่เสียเวลา”ผมเองเรียนคณะบริหาร สาขา
ในช่วงเย็นของวันพี่มาคัสก็มารับผมไปที่บริษัทด้วยกัน ในขณะที่อยู่บนรถผมเห็นว่าพี่มาคัสชำเลืองมองผมบ่อยครั้ง สาเหตุก็คงมาจากรอยรักที่มีอยู่เต็มคอของผมนี่ละ แม้พี่มาคัสจะไม่ได้พูดอะไรแต่ผมก็รับรู้ได้ว่าคงโดนพี่มาคัสล้อเลียนไปอีกนาน เพราะสายตาที่ส่งมาให้มันสื่อให้เห็นได้ชัดเจนจนในที่สุดเราก็มาถึงบริษัท ผมขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 59 ซึ่งเป็นชั้นของพี่เนมพร้อมกับพี่มาคัส พี่มาคัสต่อสายให้คนในห้องทราบเพียงชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้าให้ผมเข้าไป ผมเคาะประตูเบาๆ เป็นสัญญาณ ก่อนจะเปิดประตูออกกว้าง พบกับพี่เนมที่นั่งก้มหน้าอ่านเอกสารหน้าตาเคร่งเครียด เมื่อเห็นว่าผมมาจึงเงยหน้าขึ้นแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างที่ชอบทำ“มาหาพี่หน่อยครับ” เมื่อสิ้นเสียของพี่เนม ผมจึงเดินเข้าไปหาอย่างว่าง่าย“มีอะไรหรอคระ อุ๊บ!” ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคดี พี่เนมก็รั้งต้นคอของผมลงมาพร้อมกับประกบปากปิดเสียงที่กำลังเปล่งออกจากลำคอ เมื่อตั้งสติได้ผมจึงเผยอปากตอบรับจูบแสนหวานที่พี่เนมมอบให้ ลิ้นหนาดูดดุนกับริมฝีปากบาง ควานไปทั่วโพรงปากไล่ต้อนความหวานออกมาจนหมด จนเกิดเสียงดังไปทั่วห้องทำงานแห่งน
ผมตื่นขึ้นมาในช่วงบ่ายของวัน ก็ไม่พบพี่เนมอยู่ในห้องแล้ว ผมจึงลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำ ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น ส่วนอาการไข้และอาการเจ็บช่วงล่างก็เบาลงแล้ว จนสามารถทำอะไรๆ ได้ตามปกติ มีแค่เสียดๆ บ้างนิดหน่อย ผมเดินออกจากห้องเพื่อไปนั่งเล่นที่หน้าทีวี เมื่อไปถึงก็พบพี่เนมที่นั่งดูอยู่ก่อนแล้ว เมื่อพี่เนมเห็นผมโผล่หน้าเข้าไปก็ส่งเสียทักทายและลุกขึ้นเดินมาหาทันที“ตื่นแล้วหรอครับนาย ยังเจ็บอยู่ไหม” พี่เนมเดินเข้ามาประคองผมให้นั่งลงที่โซฟาอย่างนุ่มนวล“ไม่เจ็บแล้วครับ แค่มีอาการเสียดๆ อยู่บ้างนิดหน่อยเอง” พอผมพูดจบพี่เนมก็ดึงผมเข้าไปในอ้อมกอดเบาๆ ซึ่งผมก็ยอมที่จะพิงไปกับอกแกร่งไม่ได้ขืนตัวออกแต่อย่างใด ผมกับพี่เนมดูรายการไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้พูดอะไร มีเพียงอ้อมกอดอุ่นๆ และมือที่กุมกันอยู่เท่านั้น“นาย ย้ายมานอนห้องพี่ดีไหมครับ” พี่เนมพูดโดยที่ไม่ได้หันมามองผม แต่กลับเป็นผมเองที่หันไปมองเขา“หมายความว่ายังไงครับ” พี่เนมหันหน้ามามองผมช้าๆ ก่อนจะตอบคำถามผม“หมายความว่า พี่ขอนอนกอดนายทุกๆ คืนได้ไหมครับ&rdqu
...Nine Partผมตื่นขึ้นมาก็เวลาช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันแล้ว ผมปวดเมื่อยตามตัวไปหมด นอนบิดตัวไปมาเบาๆ ในอ้อมกอดอุ่นๆ ของพี่เนม ผมเงยหน้ามองแล้วจุ๊บปากพี่เนมเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ แกะวงแขนออก ผมอยากเข้าห้องน้ำครับ แต่ไม่อยากรบกวนพี่เนม จึงฝืนที่จะลุกไปเอง เมื่อเท้าผมแตะพื้น ผมยันตัวขึ้นเพื่อก้าวเดิน แต่กลับล้มทันทีที่เดินก้าวแรกตุ้บ!เสียงล้มของผมคงทำให้พี่เนมตกใจสะดุ้งตื่น แขนแกร่งควานหาผมบนที่นอนเมื่อไม่พบจึงชะโงกลงมาดูผมที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนพื้น เงยหน้ามองการกระทำของพี่เนมอยู่“แหะๆ ขอโทษครับที่ทำให้ตื่น” พี่เนมลุกขึ้นจากเตียงแล้วอุ้มผมไว้ในอ้อมแขน ก้มถามเสียงแหบพร่าอย่างคนพึ่งตื่นนอน หากแต่เซ็กซี่ในความรู้สึกของผม“จะไปที่ไหนครับ คนดีของพี่”“ผมอยากเข้าห้องน้ำครับ” พี่เนมอุ้มผมไปวางบนชักโครกตามคำขอ และถอยออกมายืนรอด้านนอกห้องน้ำเพื่อให้ผมจัดการธุระให้เสร็จ เมื่อผมกดน้ำทิ้งสิ่งที่ปลดปล่อยออกไป พี่เนมก็ผลักประตูเข้ามาแล้วอุ้มผมไปนอนบน