Mag-log in@ห้องเรียน
“ไปไหนมาเนี่ย ครูใกล้จะเช็กชื่อแล้วนะ!”
เสียงขมิ้นเอ่ยถามขึ้นทันที เมื่อเห็นเพื่อนสาววิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาในห้องเรียนด้วยท่าทางเร่งรีบ
“เอาของไปให้พลอยมาน่ะ” ใบชาตอบพลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเอง ก่อนจะหยิบหนังสือเรียนออกมาวางบนโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว นิ้วเรียวกรีดเปิดหน้าหนังสือไปยังบทเรียนของวันนี้ด้วยความเคยชิน
“อีกแล้วเหรอ?” ขมิ้นเอ่ยถามพร้อมกับทำสีหน้าเซ็งจัด เหมือนจะชินกับบทบาทคนกลางของเพื่อนสนิทเข้าไปทุกที
“แล้วพี่คีย์ล่ะ? เขาได้ติดต่อแกมาบ้างไหม?” คำถามของขมิ้นที่เอ่ยชื่อหนึ่งขึ้นมา ทำให้ใบชาชะงักไปทันที…
ชื่อที่เธอพยายามหลีกเลี่ยง ชื่อที่เธอแทบจะลืมไปแล้วว่าเคยมีอยู่ในความทรงจำของเธอด้วยซ้ำ หรือจริง ๆ แล้วก็แค่พยายามไม่นึกถึงชื่อนี้เฉย ๆ เท่านั้น…
“ก็ตั้งแต่ปีก่อน…ก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลยนะ” ใบชาตอบเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงมองหนังสือตรงหน้า ราวกับต้องการซ่อนบางอย่างไว้ใต้เงาตัวอักษรที่กำลังจดจ้องมันอยู่
ทันทีที่พูดจบ ภาพในอดีตก็ย้อนกลับเข้ามาในหัว
หลังจากวันนั้นวันที่ใบไม้กลับมาจากไปหาคีย์ เขาไม่ได้พูดถึงพี่คีย์อีกเลย และที่หนักไปกว่านั้นคือคำพูดเด็ดขาดที่บอกให้เธอเลิกพูดถึงชื่อของเขาอีก
แค่คิดถึงวันนั้น หัวใจก็หนักอึ้งขึ้นมา แววตาของใบชาหม่นลงอย่างห้ามไม่อยู่ แม้เธอจะพยายามเก็บอารมณ์ไว้มากแค่ไหน แต่กับขมิ้นที่เป็นเพื่อนสนิทที่รู้จักกันดียิ่งกว่าใคร ไม่มีทางหลุดพ้นสายตาไปได้แน่นอน
“แกอย่าโทษตัวเองเลยนะ ใบชา…” เสียงของขมิ้นแผ่วลงเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเงียบไปอีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นหม่นเศร้าจนเธอเองยังรู้สึกหน่วงในใจไปด้วยอีกคน
“พลอยเป็นคนเลือกเอง เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของแกเลยสักนิด แกช่วยพี่คีย์มาก็ตั้งเยอะแล้วนะ” คำพูดของขมิ้นไม่ได้กล่าวขึ้นมาลอย ๆ แต่เต็มไปด้วยความจริงใจจากคนที่เฝ้ามองเรื่องราวทั้งหมดอย่างใกล้ชิด
ปีกว่าแล้ว…ที่พลอยแก้วเริ่มคบกับใบไม้ ปีกว่าแล้ว…ที่ ‘คีย์’ หายไปจากชีวิตของใบชาและใบไม้อย่างไร้ร่องรอย ไม่มีการติดต่อมา ไม่มีการอัพเดตใด ๆ อีกเลย…
ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ทั้งสามคนแทบไม่เคยแยกจากกันเลย เป็นเหมือนเงาของกันและกัน เป็นเพื่อน เป็นครอบครัว…และเป็นมากกว่านั้นสำหรับใครบางคนในความสัมพันธ์นี้
ขมิ้นมองเพื่อนสนิทตรงหน้า แม้ใบชาจะไม่พูดอะไรอีก แต่ความเงียบของเธอกลับพูดแทนใจได้มากกว่าคำใด ๆ ทั้งสิ้น
“ขมิ้นก็รู้นี่ว่าเรา…ทำอะไรลงไป” เสียงของใบชาเบาลงแทบกลืนหายไปกับลมหายใจของเธอเอง
“ถ้า…วันนั้นเราเลือกที่จะช่วยพี่คีย์ มากกว่าพี่ไม้… บางที พลอยอาจจะเลือกพี่คีย์ก็ได้” คำพูดนั้นเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่สายตาของใบชากลับไม่ละจากหนังสือเรียนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อยราวกับพยายามหลบสายตาเพื่อนสนิท และซ่อนบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในหัวใจมานาน
ขมิ้นมองหน้าเพื่อนสนิท ก่อนจะถอนหายใจอย่างแผ่วเบาเธอรู้จักใบชาดี ดีพอจะเข้าใจทุกถ้อยคำ แม้เพื่อนจะไม่พูดออกมาตรง ๆ ก็คบกันมาตั้งแต่อนุบาล ขมิ้นไม่จำเป็นต้องถามสักคำ
เพราะเธอรู้อยู่เต็มอกว่า… เพื่อนของเธอคิดอย่างไรกับ ‘คีย์’ คนที่เคยเป็นทั้งเพื่อนสนิทของพี่ชาย
“ชา ฟังฉันนะ…” ขมิ้นพูดพลางเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่เพื่อนสนิทอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงจริงจังและเต็มไปด้วยความห่วงใย
“แกไม่ผิดเลย อย่าโทษตัวเองแบบนี้ได้มั้ย” เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะพูดต่อในสิ่งที่เพื่อนควรได้ยิน
“แกแค่…รักพี่คีย์ ก็แค่นั้น มันไม่ผิดสักนิดที่แกเลือกจะช่วยพี่ไม้มากกว่า เพราะตอนนั้นแกเองก็เจ็บนี่ชา เจ็บที่ต้องเห็นคนที่ตัวเองรัก ไปชอบคนอื่น และต้องคอยช่วยทั้งพี่ไม้กับพี่คีย์ให้เขาได้ใกล้ชิดกับพลอย ทั้ง ๆ ที่หัวใจแกมันแหลกสลายมาตลอดหลายปีแล้ว” เสียงของขมิ้นแผ่วลงเล็กน้อย ทว่ากลับแน่นหนักด้วยความรู้สึก เธอมองใบหน้าที่เศร้าหม่นของใบชาอย่างปวดใจ
“ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ แกก็เป็นแบบนี้ตลอด…” ขมิ้นว่าต่อเบา ๆ “แกโทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เป็นความผิดของแกเลยสักนิดเดียว”
“ก็…ถ้าวันนั้นเราช่วยพี่คีย์…” ใบชาเอ่ยเสียงเบา น้ำเสียงสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะกัดริมฝีปากแน่น “บางที…พี่คีย์อาจจะยังอยู่ตรงนี้ก็ได้…” เธอเงยหน้าขึ้นมองเพดานราวกับต้องการจะกลั้นหยาดน้ำตาที่เริ่มคลอในดวงตา
“ไม่ใช่…หายไปแบบนี้ ย้ายโรงเรียนแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่แม้แต่จะบอกลากันสักคำ…และยังไม่คิดจะติดต่อกันมาอีก…”
น้ำเสียงของเธอแผ่วลงเรื่อย ๆ ก่อนจะเอ่ยปิดท้าย “ถ้าเรารู้จักยับยั้งชั่งใจกว่านี้… รู้จักคิดให้รอบคอบกว่านี้… เรื่องพวกนั้นคงไม่เกิดขึ้นหรอก”
“พี่คีย์น่ะ… ชอบพลอยก่อนพี่ไม้แท้ ๆ” เสียงของใบชาขาดห้วงเล็กน้อยเมื่อพูดถึงชื่อที่เธอพยายามลืม ร่างบางหลุบตามองต่ำ ก่อนจะพึมพำประโยคถัดมาอย่างแผ่วเบา “แต่สุดท้าย… คนที่ได้หัวใจพลอยไป กลับไม่ใช่พี่คีย์…”
ดวงตาคู่นั้นคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใส ความเจ็บที่เก็บงำไว้ไม่อาจปิดบังได้อีกต่อไปเมื่อเธอพูดมาถึงข้อนี้
“ถ้าวันนั้นเราไม่ยุ่งอะไรเลย… ปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมัน… บางทีทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้”
“พอแล้ว ฉันไม่คุยเรื่องนี้แล้วนะ มันคืออดีต… ปล่อยให้มันเป็นอดีตไปน่ะ ดีแล้ว” ขมิ้นพูดพลางบีบมือเพื่อนเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มปลอบใจ เมื่อเห็นว่าใบชาเริ่มจะคิดมากอีกแล้ว
“ตอนนี้เรามาตั้งใจเรียนกันดีกว่า อีกไม่กี่อาทิตย์ก็ต้องเริ่มเตรียมสอบแล้วนะ แกจำได้ใช่มั้ยว่าเราสองคนต้องติดคณะเดียวกัน สาขาเดียวกัน มหาลัยเดียวกันให้ได้! เค๊?” น้ำเสียงหนักแน่นแต่แฝงความห่วงใยทำให้ใบชาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ
“อื้อ…” เสียงตอบรับเบา ๆ จากใบชาให้ขมิ้นแทนคำสัญญา เธอไม่พูดอะไรอีกต่อไป เพียงแค่หยิบปากกาขึ้นมาเปิดหน้าหนังสือให้ตรงกับบทเรียน ก่อนจะพยายามตั้งสมาธิกับสิ่งที่ครูสอนอยู่ด้านหน้า
แม้ในใจยังคงเจ็บแปลบอยู่บ้าง… แต่อย่างน้อย ก็ยังมีเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ เสมอ
สองอาทิตย์ต่อมา“กรี๊ดดด!!! เราสอบติดจริง ๆ ด้วย!!” เสียงร้องดังลั่นจนแทบทำแก้วหูแตก ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน นอกจากขมิ้นที่ตอนนี้แทบจะกระโดดออกนอกหน้าต่างห้องของใบชาเพราะความดีใจจนล้นปรี่ที่สอบติดกันทั้งคู่แบบที่ตั้งใจเอาไว้“เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้น!?” ใบไม้รีบวิ่งพรวดเข้ามาในห้องน้องสาวด้วยความตกใจ หลังได้ยินเสียงกรีดร้องเมื่อครู่ เพราะคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของตัวเอง จึงทำให้พุ่งตัวมาอย่างไม่ทันจะคิด“พี่ไม้! ขมิ้นกับชาสอบติดนิติมอพี่แล้วนะ!” ขมิ้นที่ตื่นเต้นจนแทบจะระงับความรู้สึกไว้ไม่อยู่ รีบบอกข่าวดีกับพี่ชายของเพื่อนทันที หากมีพ่อแม่ของใบชาอยู่ด้วยก็คงวิ่งไล่ประกาศไปรอบ ๆ เสียแล้ว“จริงปะเนี่ย?!” ใบไม้ถึงกับอุทานออกมาอย่างตื่นเต้นไม่แพ้กัน เมื่อได้ยินข่าวน่ายินดีแบบนั้น ตอนตัวเขาเองสอบติดที่นี่ก็น่ายินดีมากแล้ว ยิ่งน้องสาวสอบติดอีกคนพ่อกับแม่ของเขาคงได้ภูมิใจมากแน่ ๆ“จริงสิพี่ไม้! ขมิ้นเพิ่งเช็กจากเว็บมหา’ลัยมาเมื่อกี้เลย!” ขมิ้นยังคงกระโดดโลดเต้นอยู่กลางห้องด้วยท่าทีที่ไม่ต่างจากเดิม ไม่รู้ไปเอาแรงมากจากไหนนักหนาใบชานั่งยิ้มกว้างอยู่ที่ปลายเตียง แม้จะไม่ได้แสดงออกมากเท่าเพื่อน แต
“ดูจากชุดที่พี่คีย์ใส่… ฉันว่าเขาคงสอบติดที่มหาลัยที่เราเล็งกันไว้แน่ ๆ เลยนะชา” ขมิ้นพูดด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย เธอรู้สึกได้ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คงหนีไม่พ้นต้องเจอกันในเร็ววันแน่ ๆ ใบชาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้าอย่างช้า ๆ “ก็… ถ้าเจอกันจริง ๆ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน” เสียงของใบชาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากกว่าปกติ ขมิ้นถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ นี่เพื่อนสนิทของเธอเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันแบบนี้ได้ทั้ง ๆ ที่ปกติไม่เป็น หรือว่าเป็นเพราะความโกรธที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของพี่คีย์เมื่อครู่นี้กันแน่… ขมิ้นมองหน้าใบชาอย่างตั้งใจ ก่อนจะพูดเสียงเบาลง “ชา… ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ๆ แกต้องเข้มแข็งนะ อย่าปล่อยให้อดีตมาครอบงำแกจนลืมดูแลตัวเอง” ใบชายิ้มบาง ๆ แต่สายตายังคงหม่นเศร้า “ฉันจะพยายามนะขมิ้น… แต่บางครั้งมันก็ยากเกินไปจริง ๆ น่ะแหละ” ขมิ้นยื่นมือไปจับมือเพื่อนแน่นขึ้น “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะอยู่ข้างแกเอง ไม่ปล่อยให้แกต้องเผชิญเรื่องพวกนี้คนเดียวแน่นอน” เมื่อใบชาได้ยินคำพูดนั้นของเพื่อน น้ำตาก็เอ่อคลอเบ้าอย่างไม่รู้ตัว“ขอบคุณนะ… ขมิ้น” ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงนั้น
@ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง “โห… ที่นี่ใหญ่มาก! มีร้านดังแทบจะครบทุกแบรนด์เลยอะ ใหญ่กว่าห้างแถวโรงเรียนอีกแน่ะ!” ขมิ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ดวงตาเปล่งประกายขณะหันซ้ายหันขวาสำรวจทุกมุมของห้างใหม่ที่เพิ่งเคยจะมา ราวกับว่าได้ค้นพบสถานที่ใหม่“คอยดูนะ ฉันจะมาทุกวันเลย!” ใบชาเพียงเดินเคียงข้างเงียบ ๆ พลางฟังเพื่อนสาวพูดเจื้อยแจ้วโดยไม่ได้พูดตอบกลับอะไร… แววตาเธอทอดมองไปไกล ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ “นี่ชา แกไม่คิดจะตื่นเต้นกับฉันเลยเหรอ?” ขมิ้นหันมาทำหน้ามุ่ยใส่เพื่อนสนิททันทีเมื่อเห็นอีกคนเงียบกริบไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ใบชาเหลือบตามองเพื่อนอย่างนึกเหนื่อยใจ ‘อะไรอีกล่ะเนี่ย…’ ร่างบางได้แต่คิดในใจอย่างเอือมระอา กับนิสัยขี้น้อยใจของขมิ้นที่แค่เธอไม่กรี๊ดกร๊าดด้วยก็ทำท่าเหมือนโลกจะถล่ม “ก็ตื่นเต้นแหละ…มั้ง” ใบชาพูดพลางยักไหล่เบา ๆ ก่อนจะปรายตามองเพื่อนสนิทที่ทำหน้าบูดอยู่ข้าง ๆ แล้วส่งยิ้มจาง ๆ ไปให้แบบคนเอือมแต่ก็ยังรักอยู่ดี “จะให้กรี๊ดบ้านแตกเหมือนแก ฉันก็ทำไม่ได้นะเว้ยไอ้บ้า” ใบชาพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะต้องการจะจิกกัดใส่เพื่อนรักเบา ๆ“เชอะ! เอ้ะ!” ขมิ้นกำลังจะงอนเดินหนี
สองอาทิตย์ต่อมา“โห้ยยย! ข้อสอบโคตรจะยาก!” เสียงบ่นอุบของขมิ้นดังลั่นทันทีที่ก้าวพ้นประตูห้องสอบ สีหน้าบูดเบี้ยวอย่างไม่ปิดบังอารมณ์ ทำเอาใบชาที่นั่งฟังเพลงอยู่ล่างตึกต้องถอดหูฟังออกทันที“ขมิ้นน เป็นไรรึเปล่า มันยากมาก…ขนาดนั้นเลยเหรอ?” ใบชาถามพร้อมลุกขึ้นยืนมองเพื่อนสนิทที่เดินหน้าหงิกเข้ามาใกล้ “ไม่ใช่แค่ยากอะ มัน ยากมากกกกกกกก! ตัวเลือกก็หลอกตลอด กว่าจะเลือกได้แต่ละข้อหัวแทบแตกอะ!” ขมิ้นโอดครวญพลางฟุบหน้าลงกับไหล่ใบชาอย่างหมดแรงแค่อ่านหนังสือสอบมาตลอดทั้งอาทิตย์ก็ว่าแย่แล้วการมาสอบนี้แย่กว่ามากจริง“เอาน่าแกเก่งอยู่แล้วน่า อย่างน้อยก็พอทำได้ใช่ไหม?” ใบชาพูดปลอบใจพลางลูบหลังเพื่อนเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ต้องได้สิยะ!…แต่ไม่เต็มคะแนนแน่เลยอะดิ ฮือปวดหัวจะบ้า” ขมิ้นยังไม่วายอวดครวญกับเพื่อนสาว พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา“ไม่เป็นไรน่า ยังมีอนาคตให้เราสองคนได้สู้ต่อนะ!” ใบชาตบไหล่เพื่อนเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ ไม่ได้ให้กำลังใจแค่เพื่อนแต่รวมตัวเธอด้วยนี่แหละ“เอ้อ แล้วนี่สอบเสร็จแกมีไปไหนต่อปะ?” ขมิ้นที่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ก็รีบเอ่ยถามเพื่อนทันที สีหน้ากึ่งมีเลศนัย “ก็ว่าจะก
@ห้องเรียน“ไปไหนมาเนี่ย ครูใกล้จะเช็กชื่อแล้วนะ!” เสียงขมิ้นเอ่ยถามขึ้นทันที เมื่อเห็นเพื่อนสาววิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาในห้องเรียนด้วยท่าทางเร่งรีบ “เอาของไปให้พลอยมาน่ะ” ใบชาตอบพลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเอง ก่อนจะหยิบหนังสือเรียนออกมาวางบนโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว นิ้วเรียวกรีดเปิดหน้าหนังสือไปยังบทเรียนของวันนี้ด้วยความเคยชิน “อีกแล้วเหรอ?” ขมิ้นเอ่ยถามพร้อมกับทำสีหน้าเซ็งจัด เหมือนจะชินกับบทบาทคนกลางของเพื่อนสนิทเข้าไปทุกที “แล้วพี่คีย์ล่ะ? เขาได้ติดต่อแกมาบ้างไหม?” คำถามของขมิ้นที่เอ่ยชื่อหนึ่งขึ้นมา ทำให้ใบชาชะงักไปทันที… ชื่อที่เธอพยายามหลีกเลี่ยง ชื่อที่เธอแทบจะลืมไปแล้วว่าเคยมีอยู่ในความทรงจำของเธอด้วยซ้ำ หรือจริง ๆ แล้วก็แค่พยายามไม่นึกถึงชื่อนี้เฉย ๆ เท่านั้น…“ก็ตั้งแต่ปีก่อน…ก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลยนะ” ใบชาตอบเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงมองหนังสือตรงหน้า ราวกับต้องการซ่อนบางอย่างไว้ใต้เงาตัวอักษรที่กำลังจดจ้องมันอยู่ทันทีที่พูดจบ ภาพในอดีตก็ย้อนกลับเข้ามาในหัว หลังจากวันนั้นวันที่ใบไม้กลับมาจากไปหาคีย์ เขาไม่ได้พูดถึงพี่คีย์อีกเลย และที่หนักไปกว่านั้นคือคำพูดเด็ดขาด
@หน้าโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง “ชา! ทางนี้!” “พี่ไม้! เรียกอะไรดังขนาดนี้เล่า!” คนถูกเรียกเอ็ดกลับด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ขณะกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาอย่างรีบร้อน มือยังยกขึ้นกดกระโปรงนักเรียนไม่ให้ปลิวเพราะลมแรง“อะไรเล่า ก็เห็นเดินช้าจะไปเรียนสายอยู่แล้วเนี่ย” ใบไม้ยักไหล่ตอบหน้าตายตามประสาคนชอบแกล้งน้องสาว“แล้วพลอยล่ะ? ไม่ออกมารับเองเหรอ?” ใบไม้มองซ้ายขวาหาคนที่เป็นเจ้าของของที่เขาเอามาให้ หวังว่าจะได้เจอหน้าเธอสักประเดี๋ยว“ยุ่งอยู่ ซ้อมดรัมหนักมากกก” ใบชาตอบลากเสียงยาวใส่พี่ชาย พลางพยักเพยิดหน้าไปทางอาคารเรียนด้านใน “ไหนของล่ะ?” ร่างบางแบมือเร่งเร้าคนเป็นพี่ “อะนี่…ของสำคัญเลยนะเว้ยไอ้ชา ห้ามหล่นเด็ดขาด” เขายื่นกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ให้ด้วยท่าทางจริงจัง ปากบอกน้องสาวย้ำให้ชัดว่าสำคัยมากแค่ไหนเพราะน้องสาวของเขาเป็นพวกไม่ชอบระวังเลยกลัวว่าจะทำของของเขาหล่นกลางทางเสียก่อน“ในนี้มีเครื่องสำอางของโปรดพลอยที่พี่สั่งให้มาใหม่ ถ้าตกแตกนะ แกจบเลย” “โอ้โหของพลอยล้วนเลยสินะ แต่ให้ชาหอบไปให้แทนเนี่ยนะ? ไหนล่ะค่าฝากอะ!” ใบชาทำหน้าทะเล้นทันที มือยังไม่รับกล่องเสียที แต่แบมืออีกข้างเพิ่มเพื่อหว







