บทที่ 7
โดย : meowmao ไม่รู้ว่าใบชาทำเวรทำกรรมอะไรถึงต้องมาลงเอ่ยอยู่ที่อยู่ที่แคมป์ต้อนรับนิสิตเข้าใหม่ที่ถูกจัดขึ้นโดยรุ่นพี่หลากหลายคณะเป็นคนจัดขึ้น “โถ่ ชา… แกจะงอแงงทำไมมม เนี่ยยไอ้เสือยังไม่บ่นซักกกคำเลยนะ” ขมิ้นพูดก่อนจะโอบกอดเพื่อนรักอย่างง้องอน “ใครว่า มันบ่นฉันนี่ นู่นหน้าบูดเป็นตูดไก่อยู่นั่น” พราวว่าก่อนจะนั่งลงตรงข้าม และเสือเองที่ทำหน้าหงิกก็นั่งลงข้าง ๆ พราวอย่างเซ็ง ๆ “เอาน่าพวกแกก ถือซะว่ามาเที่ยวพักผ่อนไง เนอะๆ ” ขมิ้นว่าก่อนจะทำท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู แต่สำหรับใบชา และเสือนั้นคงน่าเอือมระอามากกว่า “แกรู้ใช่มั้ย ใครจัดงานนี้” ใบชาพูดก่อนจะที่ขมิ้นจะหันมายิ้มแหย่ ๆ ให้ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ “โน่นเลยคนอยากมา” ขมิ้นพูดก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางพราว ทั้งใบชาและเสือต่างก็หันมามองพราวเป็นตาเดียว พราวเองก็ได้แต่ยิ้มเยาะ ๆ “เก๊าเองง แงง คือแบบเราอยากมาอะ พวกแกจะทิ้งฉันมาคนเดียวจริงหรอออ?” ราวว่าก่อนจะทตาปริบ ๆ อย่างต้องการให้คนมองเห็นอกเห็นใจ “ฉันรู้แต่แบบ ฉันไม่อยากเจอพี่คีย์…” เมื่อพูดถึงบุคคลที่เป็นประเด็นเมื่อหลายวันก่อนทั้งโต๊ะก็เริ่มกลับมาเงียบอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งเสือและพราวต่างก็รู้เรื่องราวนั้นกันหมดแล้ว ทั้งสองคนต่างก็เห็นใจใบชาด้วยกันทั้งคู่ “ฉันขอโทษน้าชา แต่ฉันแค่อยากมาจริง ๆอ่ะ คิดซะว่าเรามาหาเพื่อนต่างคณะเพิ่มไง เนอะ” พราวว่าอย่างเลิ่กลั่ก …. เสียงเพลงเปิดงานดังขึ้นคลอเบา ๆ ท่ามกลางบรรยากาศของลานหน้ารีสอร์ตริมทะเลที่ถูกจัดพื้นที่ไว้สำหรับกิจกรรมต้อนรับนิสิตใหม่ พวกปีหนึ่งต่างทยอยมานั่งล้อมวงตามที่รุ่นพี่จัดโซนไว้ พร้อมสายสะพายป้ายชื่อสีสดใสที่ห้อยระย้าอยู่บนอก ทุกคนดูตื่นเต้น ปนประหม่าเล็กน้อย ไม่นานนัก เสียงไมโครโฟนก็ดังขึ้น “โอเค๊! สวัสดีเด็กปีหนึ่งทุกคนนน~ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ ‘แคมป์สายลมทะเล’ อย่างเป็นทางการนะจ๊ะ!!” เสียงใส ๆ ของรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเรียกเสียงเฮฮาจากทุกคนได้ทันที “พี่ชื่อพี่ ‘พิมพ์มาดา’ หรือเรียกว่า ‘พี่พิมพ์’ ก็ได้นะค้า จากคณะนิเทศฯ ปี 2 เป็นพิธีกรหลักของแคมป์นี้ค่าา~ ส่วนอีกคน…อ่า เดี๋ยวให้เจ้าตัวแนะนำตัวเองเลยแล้วกันเนอะ!” คนแรกเดินออกมาในเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีอ่อน ใบหน้าคมสะอาดตา ผิวขาวจัดจนสะดุดตาแม้จะยืนท่ามกลางแสงแดดชายทะเล “คีย์…จากคณะบริหารปี 2 เป็นหนึ่งในพี่เลี้ยงนี่แหละ” พูดจบก็ยื่นไมค์คืนให้พิมพ์มาดาแบบไม่สนใจเสียงโห่แซวที่ดังขึ้นจากกลุ่มพี่เลี้ยงด้านหลัง สายตาของคีย์ไล่มองไปรอบ ๆ ลาน ก่อนจะหยุดอยู่ที่ร่างของเด็กสาวผิวขาวจัด ร่างบางนั่งอยู่แถวหน้าสุดท่ามกลางกลุ่มเพื่อนหญิงด้วยกัน ใบชา…เขารู้ว่าเธอไม่อยากมา แต่เธอก็ยังมา และนั่นทำให้เขารู้สึกอะไรบางอย่างที่ไม่ควรจะรู้สึก “ต่อไปเป็นพี่เลี้ยงสุดหล่อของเราอีกสี่ คน ขอเสียงกรี๊ดดัง ๆ ด้วยค่ะ!” เสียงกลองดังบรรเลงสร้างจังหวะตื่นเต้น ก่อนที่ชายหนุ่มอีกสี่คนจะก้าวออกมาอย่างพร้อมเพรียง “พี่ชื่อ ‘สิงห์’ บริหาร ปี 2 ครับ…” สิงห์ พูดเท่านั้นก่อนจะยื่นไมค์ส่งต่อให้เพื่อนถัดไป “ส่วพี่ชื่อ ‘ฟลินท์’ ครับ บริหาร ปี 2 สนใจหุ้นหรืออนาคตก็ปรึกษาได้นะครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่กลับดูมีเสน่ห์จนสาว ๆ หลายคนยิ้มหวาน “พี่ ‘ไทน์’ นะครับ บริหาร ปี 2 เจ้าของรอยยิ้มล้านวัตต์ที่พร้อมแจกให้ทุกคนเสมอ” เขากะพริบตาข้างหนึ่งก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “และผม… ‘คราม’ คณะบริหาร ปี 2 ครับ ใจดีแต่หน้าโหด ไม่ต้องกลัว พี่ดูแลดีแน่นอน” เสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดดังขึ้นสนั่น โดยเฉพาะกลุ่มสาว ๆ ปีหนึ่งที่เริ่มมองเหล่าพี่เลี้ยงด้วยแววตาระยิบระยับ “ต่อไปก็ไปรู้จักพี่สาวสุดสวยของเรากันต่อเลยยค่ะ~” หญิงสาวสามคนเดินออกมาพร้อมกัน คนแรกผมยาวดัดลอนเบา ๆ ใบหน้าหวาน ตาโต “สวัสดีค่า ‘พี่เฟย์’ นะคะ จิตวิทยา ปี 2 ค่ะ ใครไม่โอเคกับกิจกรรมอะไร มาคุยกับพี่ได้นะ ไม่กัด~” คนต่อมาหั่นผมสั้นประบ่า หน้าคม ดูเท่ “‘พี่จิน’ คณะรัฐศาสตร์ ปี 2 นะคะ ดูแลความเรียบร้อยของแคมป์นี้ทุกตารางนิ้ว ใครแอบหนี พี่เจอก่อนแน่!” และคนสุดท้าย ผมหางม้า ใส่แว่น สไตล์น่ารักแต่ดูฉลาด “‘พี่เกล’ น้า จากบัญชี ปี 2 ค่า ถามเรื่องตารางกิจกรรมหรือตารางเงิน ใช่เลย มาหาพี่!” เสียงหัวเราะและเสียงปรบมือยังไม่ทันซา เสียงพี่พิมพ์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ทุกคนเห็นแล้วเนอะ ว่าพี่เลี้ยงน่ารักกันแค่ไหน~ ยังไงก็ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมตลอดสามวันนี้ด้วยนะค้า~ อย่าหลบ อย่าเลี่ยง แล้วจะรู้ว่า…ค่ายนี้โคตรคุ้ม!” ขณะที่ทุกคนยิ้ม หัวเราะ พูดคุยกันอย่างตื่นเต้น คีย์กลับยังคงนิ่งอยู่ที่มุมหนึ่ง เขายังแอบมองใบชาเป็นระยะ…เธอยังคงทำหน้าตึง ๆ ไม่สนุกเท่าเพื่อน ๆ ข้างตัว แล้วเขาก็หันหน้าหนี ราวกับไม่อยากยอมรับความรู้สึกบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นทีละน้อย…อีกครั้ง “เอาล่ะค่ะ น้อง ๆ คนไหนยังไม่ได้รับป้ายชื่อบ้างเอ่ย?” เสียงใส ๆ ของพิมพ์มาดาดังขึ้นผ่านไมค์ พร้อมรอยยิ้มสดใสประจำตัวเธอ มีมือไม่ต่ำกว่าสิบยกขึ้นพร้อมกัน หนึ่งในนั้นคือ…ใบชา เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาสายหรอก แต่ตอนที่พี่เรียกรับป้ายชื่อตอนต้น เธอดันไม่ได้ยิน เลยพลาดไปรับอย่างช่วยไม่ได้ “โอโห เยอะกว่าที่คิดแฮะ” พิมพ์มาดาหัวเราะเบา ๆ ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์เล็ก ๆ “ในเมื่อตอนเรียกมารับป้าย พวกเรายังไม่มา งั้นตอนนี้ถ้าอยากได้…ต้องมีอะไรแลกกันนิดนึงเนอะ~” เสียงฮือฮาและหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นจากทั้งน้อง ๆ และเหล่าพี่เลี้ยง “คนที่ยังไม่มีป้าย ยืนขึ้นเลยค่ะ แล้วช่วยเดินไปรวมกลุ่มกันตรงมุมขวานั่นนะคะ” ใบชามองหน้ากลุ่มเพื่อนอย่างลังเลเหมือนขอความช่วยเหลือ แต่ทั้งขมิ้นและพราวต่างก็ยิ้มให้กำลังใจ แถมยังพยักหน้าให้เธอออกไปเร็ว ๆ อีกต่างหาก ไม่มีทางเลือก ใบชาจึงต้องยอมลุกขึ้นเดินตามคนอื่น ๆ ไปอย่างเงียบ ๆ ไม่นานนัก กลุ่มของคนไม่มีป้ายก็รวมตัวกันเรียบร้อย “เอาล่ะค่ะ พี่นับดูแล้ว…ถ้าจับคู่กันจะได้พอดีเป๊ะเลย!” พิมพ์มาดาว่าอย่างสดใส “งั้นเริ่มจับคู่เลยค่า~ ใครยืนใกล้ใคร จับมือเลยนะ!” ทุกคนเริ่มจับคู่กันตามลำดับอย่างง่ายดาย …ยกเว้นใบชา ที่ยังยืนอยู่คนเดียว “เอ๊ะ หรือพี่นับพลาดนะ?” พิมพ์มาดาทำท่าตกใจนิด ๆ ก่อนจะหันไปหากลุ่มพี่เลี้ยงที่ยืนอยู่ด้านหลัง “น้องคนสวยยังไม่มีคู่เลยค่ะ ใครอาสาได้บ้างงง?” เสือเหมือนจะก้าวออกไปด้วยความรู้สึกผิดแทนเพื่อน แต่ยังไม่ทันได้ขยับ… “เดี๋ยว ฉันไปเอง” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากกลุ่มพี่เลี้ยงอย่างเรียบนิ่ง แต่ทำให้ทุกคนเงียบกริบ …คีย์ เพื่อน ๆ ในกลุ่มของเขาต่างหันมามองด้วยสายตาอึ้ง ๆ ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มของใบชาที่เบิกตากว้างกันเป็นแถว แต่ที่ตกใจที่สุด เห็นจะเป็นใบชาเอง เธอยืนนิ่งเหมือนถูกหยุดเวลา ก่อนที่ร่างสูงของคนพูดจะเดินตรงมาหยุดอยู่ข้างหน้าเธอ “โอเค~! ครบคู่แล้วเนอะ งั้น…เรามาเริ่มบทลงโทษกันเลยดีมั้ยค้า~!” พิมพ์มาดาพูดอย่างกระตือรือร้น พร้อมเสียงโห่แซวจากน้อง ๆ ปีหนึ่งและพี่เลี้ยงบางส่วน ยกเว้น…สองคนที่ยืนเงียบสนิท กลิ่นหอมจาง ๆ จากตัวคีย์ลอยมาแตะจมูกของใบชา กลิ่นที่ไม่คุ้นเคย… ‘พี่เขาเปลี่ยนน้ำหอมสินะ’ ใบชานึกในใจแบบเหม่อ ๆ ‘ก็แน่ล่ะ…นิสัยยังเปลี่ยน น้ำหอมก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก’ เธอไม่ได้ฟังที่พิมพ์มาดาพูดต่อเลยแม้แต่นิดเดียว ได้แต่ยืนนิ่ง รู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวแน่นข้นแปลก ๆ “เอาล่ะค่ะ~ คนที่มีป้ายแล้วจับคู่ทำภารกิจไปได้เลยนะคะ ส่วนคนที่ถูกลงโทษ…ให้มารวมตัวตอนหกโมงเย็นค่ะ หน้าบ้านพัก พี่จะให้คำใบ้สิ่งของที่ต้องตามหาในคืนนี้ ถ้าใครทำไม่สำเร็จ…ป้ายชื่ออดได้เลยน้า~” เสียงพิมพ์มาดายังพูดต่ออย่างร่าเริง ก่อนจะปล่อยน้อง ๆ แยกย้ายกันไปพักผ่อน ใบชายังยืนงง ๆ กับคำว่า “ของที่ต้องตามหา” เพราะเธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เสียงทุ้มข้างตัวดังขึ้นอีกครั้ง “เจอกันหน้าบ้านพักเธอตอนหกโมง ห้ามสาย ฉันไม่ชอบรอ” คีย์พูดสั้น ๆ เท่านั้น ก่อนจะเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อนของเขาอย่างเฉยชา ทิ้งใบชาไว้ตรงนั้น พร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ End partบทที่ 7โดย : meowmaoไม่รู้ว่าใบชาทำเวรทำกรรมอะไรถึงต้องมาลงเอ่ยอยู่ที่อยู่ที่แคมป์ต้อนรับนิสิตเข้าใหม่ที่ถูกจัดขึ้นโดยรุ่นพี่หลากหลายคณะเป็นคนจัดขึ้น“โถ่ ชา… แกจะงอแงงทำไมมม เนี่ยยไอ้เสือยังไม่บ่นซักกกคำเลยนะ” ขมิ้นพูดก่อนจะโอบกอดเพื่อนรักอย่างง้องอน“ใครว่า มันบ่นฉันนี่ นู่นหน้าบูดเป็นตูดไก่อยู่นั่น” พราวว่าก่อนจะนั่งลงตรงข้าม และเสือเองที่ทำหน้าหงิกก็นั่งลงข้าง ๆ พราวอย่างเซ็ง ๆ“เอาน่าพวกแกก ถือซะว่ามาเที่ยวพักผ่อนไง เนอะๆ ” ขมิ้นว่าก่อนจะทำท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู แต่สำหรับใบชา และเสือนั้นคงน่าเอือมระอามากกว่า“แกรู้ใช่มั้ย ใครจัดงานนี้” ใบชาพูดก่อนจะที่ขมิ้นจะหันมายิ้มแหย่ ๆ ให้ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ“โน่นเลยคนอยากมา” ขมิ้นพูดก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางพราว ทั้งใบชาและเสือต่างก็หันมามองพราวเป็นตาเดียวพราวเองก็ได้แต่ยิ้มเยาะ ๆ“เก๊าเองง แงง คือแบบเราอยากมาอะ พวกแกจะทิ้งฉันมาคนเดียวจริงหรอออ?” ราวว่าก่อนจะทตาปริบ ๆ อย่างต้องการให้คนมองเห็นอกเห็นใจ“ฉันรู้แต่แบบ ฉันไม่อยากเจอพี่คีย์…” เมื่อพูดถึงบุคคลที่เป็นประเด็นเมื่อหลายวันก่อนทั้งโต๊ะก็เริ่มกลับมาเงียบอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งเสือ
บทที่ 6โดย : meowmaoด้าน คีย์เสียงฝีเท้าดังสม่ำเสมอบนพื้นทางเดินหินอ่อนของอาคารเรียน กลุ่มชายหนุ่มห้าคนในชุดนักศึกษาสีขาวสะอาดตากำลังเดินเข้ามา พวกเขาคือ “กลุ่มดาวเด่น” ประจำคณะบริหาร ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม ทั้งหน้าตา ฐานะ และเสน่ห์ที่สะกดทุกสายตารอบข้างให้หันมามองแต่ในกลุ่มนั้น คนที่เดินนำหน้าอย่างเยือกเย็นที่สุด…คือเขา คีย์ หรือ อัครเดช นันทวัฒน์ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ดวงตาคมกริบเย็นชาที่เคยอ่อนโยนเมื่อในอดีต ตอนนี้กลับกลายเป็นเหมือน “กระจกที่ไร้แววสะท้อน” ไม่หลงเหลือแม้เศษเสี้ยวของผู้ชายอบอุ่นที่เคยเป็นและในไม่กี่วินาทีต่อมาปึก!เขาสะดุดเล็กน้อยเมื่อใครบางคนชนเข้าที่ตัวเขาโดยไม่ได้ตั้งใจหญิงสาวร่างเล็กเซไป ล้มลงกับพื้นทันทีพร้อมเสียงหอบเบา ๆ ที่หลุดออกมาคีย์หยุดเดิน…แววตาเย็นเฉียบก้มลงมองเธออย่างนิ่งงัน ไม่ได้รีบช่วย ไม่ได้ถามไถ่…เพียงแค่มองเธอเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนในพริบตา’ใบชา‘ชื่อของเธอผุดขึ้นในหัวแบบอัตโนมัติ แม้เขาจะพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาหญิงสาวที่เขาเคยไว้ใจที่สุด คนที่เขาเคยฝากความรู้สึกทุกอย่างไว้ โดยไม่คิดจะปิดบังเธอดูตกใจ ตกใจ
บทที่ 5โดย : meowmaoหนึ่งอาทิตย์ต่อมาเวลาผ่านไปไวราวกับโกหก นี่ก็ครบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ใบชาเริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย หลังจากวันแรกจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่เคยเจอคีย์อีกเลย แม้บางครั้งจะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเขาผ่านหูมาบ้างก็ตาม“ชา” เสียงเรียบนิ่งตามสไตล์ของเสือ หนุ่มพูดน้อยผู้กลายมาเป็นเพื่อนใหม่ของใบชา ดังขึ้นข้างหลังขณะเธอกำลังนั่งรอเพื่อนอยู่ที่โต๊ะใต้อาคารเรียน“มาแล้วเหรอเสือ? คนอื่นยังไม่มาเลยนะ” ใบชาหันไปทัก พลางยิ้มบาง ๆ ให้เขา“อื้อ เห็นแล้ว” เสือตอบสั้น ๆ ตามแบบฉบับของเขา ทั้งคู่ต่างคุ้นชินกับการมาสายของขมิ้นและพราวจนไม่รู้สึกแปลกใจอะไรอีกแล้ว“พักนี้ขมิ้นเริ่มจะหนักข้อขึ้นทุกที” ใบชาว่าพลางถอนหายใจเล็กน้อย เธอเองก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ หลังจากที่ขมิ้นเริ่มติดใจการเที่ยวผับบาร์กับพราวมากขึ้น จนส่งผลให้มาสายแทบทุกวัน“อย่าคิดมากเลย ปล่อยให้เขาได้ใช้ชีวิตในแบบที่เขาชอบบ้าง” เสือพูดเรียบ ๆ พร้อมกับหยิบขนมจากในกระเป๋ายื่นให้เธอครึ่งหนึ่งตามเคยใบชารับขนมมาทันทีโดยไม่ต้องเอ่ยปากขอบคุณ เสือเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันที่สองที่รู้จักกัน—เขามักแบ่งขนมให้เธอเสมอ และเธอ
บทที่ 4 โดย : meowmao “ไม่อยากให้เปิดเทอมเลยอ่ะ ชา…” ขมิ้นพูดเสียงออดอ้อน ขณะเดินเข้ารั้วมหา’ลัยด้วยท่าทางห่อเหี่ยวผิดกับเมื่อวานลิบลับ เมื่อวานยังยิ้มร่า วิ่งวุ่นอยู่แทบทั้งวันอย่างกับมีพลังเหลือล้น แต่พอต้องเริ่มเรียนจริงจังกลับกลายเป็นบ่นไม่หยุดตลอดทางเสียอย่างนั้น… น่าหมั่นไส้ชะมัด “ไม่ต้องมาเลย ขมิ้นน…” ใบชาว่าพลางหัวเราะเบา ๆ “เมื่อวานรีบแทบตาย สุดท้ายก็หาเพื่อนไม่ได้สักคน” เธอส่ายหน้ายิ้ม ๆ เมื่อนึกย้อนถึงความวุ่นวายของเมื่อวาน ทั้งที่เดินวนไปทั่วซุ้ม เจอเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันนับไม่ถ้วน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครได้คุยกันนานพอจะเรียกว่า “รู้จัก” ได้เลย ทั้งเธอทั้งขมิ้นก็เลยยังคงวนเวียนอยู่ในโลกของกันและกันเหมือนเดิม คนละชมรมก็จริง แต่ก็ยังไม่มีใครใหม่มาแย่งตำแหน่ง “เพื่อนสนิท” ไปได้อยู่ดี “โธ่… ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าการเข้าหาคนอื่นมันจะยากขนาดนี้” ขมิ้นบ่นพลางทำหน้าบูด เซ็งจนเห็นได้ชัด แม้ภายนอกจะดูร่าเริง เข้าถึงง่าย พูดเก่ง และดูไม่มีอะไรต้องกลัว แต่ในความเป็นจริง… ขมิ้นกลับกลัวการเริ่มต้นบทสนทนาใหม่ ๆ อยู่เสมอ เธออาจจะเดินเข้าไปหาใครก่อน เป็นคนเริ่มทักทาย หรื
บทที่ 3 โดย : meowmao สองอาทิตย์ต่อมา “กรี๊ดดด!!! เราสอบติดจริง ๆ ด้วย!!” เสียงร้องดังลั่นจนแทบทำแก้วหูแตก ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน นอกจากขมิ้นที่ตอนนี้แทบจะกระโดดออกนอกหน้าต่างห้องของใบชาเพราะความดีใจจนล้นปรี่ “เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้น!?” ใบไม้รีบวิ่งพรวดเข้ามาในห้องน้องสาวด้วยความตกใจ หลังได้ยินเสียงกรีดร้องเมื่อครู่ “พี่ไม้!!! ขมิ้นกับชาสอบติดนิติมอพี่แล้วนะ!!” ขมิ้นที่ตื่นเต้นจนแทบระงับความรู้สึกไว้ไม่อยู่ รีบบอกข่าวดีกับพี่ชายของเพื่อนทันที “จริงเหรอ?!” ใบไม้ถึงกับอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น เมื่อได้ยินข่าวน่ายินดีนั้น “จริงสิพี่! ขมิ้นเพิ่งเช็กจากเว็บมหา’ลัยมาเมื่อกี้เลย!” ขมิ้นยังคงกระโดดโลดเต้นอยู่กลางห้อง ใบชานั่งยิ้มกว้างอยู่ที่ปลายเตียง แม้จะไม่ได้แสดงออกมากเท่าเพื่อน แต่แววตาของเธอก็เปล่งประกายไม่แพ้กัน “สุดยอดเลยว่ะ! เก่งมากทั้งคู่!” ใบไม้เดินเข้าไปตบไหล่ขมิ้นเบา ๆ แล้วหันมายิ้มให้ใบชา “ยินดีด้วยนะชา ภูมิใจในตัวพวกเธอจริง ๆ” “ขอบคุณค่ะพี่ไม้” ใบชาเอ่ยตอบเบา ๆ แต่เต็มไปด้วยความตื้นตัน “แล้วนี่จะฉลองกันยังไงดีล่ะ?” เขาหันไปถามด้วยสีหน้าระริกระรี้ “ข้าว
บทที่ 2 โดย : meowmao @ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง “โห… ที่นี่ใหญ่มาก! มีร้านดังแทบจะครบทุกแบรนด์เลยอะ ใหญ่กว่าห้างแถวโรงเรียนอีกแน่ะ!” ขมิ้นพูดตื่นเต้น ดวงตาเปล่งประกายขณะหันซ้ายหันขวาสำรวจทุกมุมของห้างใหม่ “คอยดูนะ ฉันจะมาทุกวันเลย!” ใบชาเพียงเดินเคียงข้างเงียบ ๆ พลางฟังเพื่อนสาวบ่นเจื้อยแจ้วโดยไม่ได้พูดตอบกลับอะไร… แววตาเธอทอดมองไปไกล ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ “นี่ชา แกไม่คิดจะตื่นเต้นกับฉันเลยเหรอ?” ขมิ้นหันมาทำหน้ามุ่ยใส่เพื่อนสนิททันทีเมื่อเห็นอีกคนเงียบกริบไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ใบชาเหลือบตามองเพื่อนอย่างเหนื่อยใจ ‘‘อะไรอีกล่ะเนี่ย…’ เธอได้แต่คิดในใจอย่างเอือมระอา กับนิสัยขี้น้อยใจของขมิ้นที่แค่เธอไม่กรี๊ดกร๊าดด้วยก็ทำท่าเหมือนโลกจะถล่ม “ก็ตื่นเต้นแหละ…มั้ง” ใบชาพูดพลางยักไหล่เบา ๆ ก่อนจะปรายตามองเพื่อนสนิทที่ทำหน้าบูดอยู่ข้าง ๆ แล้วส่งยิ้มจาง ๆ ไปให้แบบคนเอือมแต่ก็ยังรักอยู่ดี “จะให้กรี๊ดบ้านแตกเหมือนแก ฉันก็ทำไม่ได้นะเว้ย” ใบชาพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ “เชอะ! เอ้ะ!” ขมิ้นกำลังจะงอนเดินหนี แต่กลับหยุดชะงักทันทีเมื่อสายตาไปสะดุดกับร่างสูงของใครบางคนที่เดินผ่