Mag-log in“ดูจากชุดที่พี่คีย์ใส่… ฉันว่าเขาคงสอบติดที่มหาลัยที่เราเล็งกันไว้แน่ ๆ เลยนะชา” ขมิ้นพูดด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย เธอรู้สึกได้ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คงหนีไม่พ้นต้องเจอกันในเร็ววันแน่ ๆ
ใบชาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้าอย่างช้า ๆ “ก็… ถ้าเจอกันจริง ๆ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน”
เสียงของใบชาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากกว่าปกติ ขมิ้นถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ นี่เพื่อนสนิทของเธอเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันแบบนี้ได้ทั้ง ๆ ที่ปกติไม่เป็น หรือว่าเป็นเพราะความโกรธที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของพี่คีย์เมื่อครู่นี้กันแน่…
ขมิ้นมองหน้าใบชาอย่างตั้งใจ ก่อนจะพูดเสียงเบาลง
“ชา… ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ๆ แกต้องเข้มแข็งนะ อย่าปล่อยให้อดีตมาครอบงำแกจนลืมดูแลตัวเอง” ใบชายิ้มบาง ๆ แต่สายตายังคงหม่นเศร้า
“ฉันจะพยายามนะขมิ้น… แต่บางครั้งมันก็ยากเกินไปจริง ๆ น่ะแหละ” ขมิ้นยื่นมือไปจับมือเพื่อนแน่นขึ้น
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะอยู่ข้างแกเอง ไม่ปล่อยให้แกต้องเผชิญเรื่องพวกนี้คนเดียวแน่นอน” เมื่อใบชาได้ยินคำพูดนั้นของเพื่อน น้ำตาก็เอ่อคลอเบ้าอย่างไม่รู้ตัว
“ขอบคุณนะ… ขมิ้น”
ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงนั้น ราวกับเป็นกำลังใจให้กันและกัน ท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตที่ยังคงรออยู่เบื้องหน้า
“งั้นเราเองก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวก็จะค่ำแล้ว” ใบชาพูดพร้อมยิ้มบาง ๆ ให้เพื่อนรัก
ขมิ้นพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ ๆ เดี๋ยวก็ห่วงเรื่องกลับบ้านไม่ทันอีกอะ” ทั้งสองสาวเดินเที่ยวภายในห้างไปพร้อมกัน ท่ามกลางแสงเย็นของวันเวลาที่กำลังลาลับไปอยู่ภายนอก
ใบชาหันไปมองขมิ้น แล้วพูดเบา ๆ “ขอบใจนะที่แกอยู่ข้าง ๆ กันแบบนี้ตลอดเลยอะ”
ขมิ้นยิ้มให้ “อย่าลืมนะชา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะผ่านมันไปด้วยกันเค๊?”
ใบชาพยักหน้าให้เพื่อนรักเบา ๆ ก่อนจะยิ้มบาง ๆ ส่งไปให้กับขมิ้น
สองเพื่อนรักเดินเคียงข้างกันกลับบ้าน พร้อมกับหัวใจที่เคยหนักอึ้งเริ่มเบาลงด้วยมิตรภาพและความหวังที่ยังคงอยู่ไม่ห่างหายไป
@บ้านใบชา
“อ้าว กลับมาแล้วเหรอชา ไปไหนมาน่ะ? ไม่เห็นโทรมาบอกกันเลย” ใบไม้เอ่ยทักด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ เมื่อเห็นน้องสาวเปิดประตูเดินเข้าบ้านมา ก่อนจะวางหนังสือในมือลงบนโต๊ะ หันมามองด้วยความสงสัยปนห่วงใย
“ทีพี่ไม้ยังไม่เคยจะบอกชาเลยว่าพาพลอยไปเที่ยวไหน แล้วทำไมชาต้องบอกพี่ด้วยล่ะ? มันไม่ยุติธรรมเลยนะคะที่มาถามกันแบบนี้อะ!”
เสียงของใบชาดังขึ้นอย่างเหลืออด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน้อยใจและขุ่นเคืองเต็มประดา จนใบไม้เองก็ถึงกับอึ้งไป
ใบไม้นิ่งอึ้งกับท่าทีที่ไม่คุ้นเคยของน้องสาวที่จู่ ๆ ก็ขึ้นเสียงและแสดงอารมณ์ออกมาแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนใส่เขาแบบนี้
“แล้วแกจะมาหงุดหงิดฉันทำไมล่ะเนี่ย? ไปโดนผึ้งต่อยมาหรือไง ยัยหมีขาว! ทำตัวให้น่ารักหน่อยสิ เป็นผู้หญิงทั้งที พูดจาหวาน ๆ บ้าง”
ประโยคนั้นของใบไม้เป็นเหมือนน้ำมันที่สาดใส่กองไฟ เพราะแทนที่จะช่วยให้อารมณ์น้องสาวเย็นขึ้น กลับยิ่งทำให้ใบชาเดือดดาลกว่าเดิม สีหน้าที่เริ่มนิ่งไปเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที
“ใช่สิ! ใครมันจะไปหวานทั้งหน้าตา ทั้งนิสัยเหมือนพลอยแฟนพี่ล่ะ! ฮึ่ย! ชาก็เป็นของชาแบบนี้! ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องมาชอบ!!”
เสียงใบชาดังลั่น ก่อนจะหันหลังเดินตึงตังขึ้นบันไดไปชั้นสองโดยไม่รอฟังคำพูดใดจากพี่ชาย ทิ้งให้ใบไม้ยืนอึ้งอยู่กับที่ด้วยสีหน้าทั้งงุนงง ทั้งรู้สึกผิดไปพร้อมกันเพราะคิดว่าอาจจะพูดกับน้องสาวแรงไป…
“เฮ้อ… เป็นอะไรของมันอีกวะเนี่ย” ใบไม้พึมพำเบา ๆ พลางยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองด้วยความเหนื่อยใจ เขาไม่ได้ตั้งใจให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ดูเหมือนคำพูดเล่น ๆ ของเขาจะไปกระตุกความรู้สึกบางอย่างของน้องสาวเข้าอย่างจัง…
ก่อนจะถอนหายใจยาว แล้วส่ายหัวอย่างปลง ๆ พลางเดินไปล็อกประตูบ้าน ตรวจเช็กหน้าต่าง และปิดไฟบริเวณชั้นล่างให้เรียบร้อยตามกิจวัตรที่ทำเป็นประจำทุกคืน
บ้านหลังนี้แม้จะไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่ก็เต็มไปด้วยความทรงจำ และความเงียบเหงาที่แทรกซึมอยู่เงียบ ๆ นับตั้งแต่พ่อแม่ย้ายไปทำงานต่างประเทศ เหลือเพียงเขาและน้องสาวที่ต้องดูแลกันเอง
เมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ใบไม้ก็เดินขึ้นบันไดชั้นบนอย่างเงียบ ๆ แวะหยุดที่หน้าห้องน้องสาวเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง แล้วเดินเข้าห้องตัวเองไป ปิดประตูอย่างแผ่วเบา
…ค่ำคืนนี้ทั้งเงียบงันและหนักอึ้งกว่าที่ควรจะเป็นสำหรับใครบางคนที่กำลังรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งหัวใจและความรู้สึกของตัวเอง
ภายในห้องของใบชา
เมื่อขึ้นมาบนห้องใบชาก็โยนกระเป๋าสะพายของตัวเองไปวางไว้ข้างเตียงก่อนจะล้มตัวนอนหงายบนเตียงอย่างอารมณ์ไม่ดีสุด ๆ
“พี่คีย์…คนนิสัยไม่ดี” พูดได้เท่านั้นก็หลับตาพริ้มนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาเธอพยายามส่องโซเชี่ยลของคีย์อยู่เสมอ แม้เขาจะไม่ค่อยโพสต์อะไร แต่ทุกโพสต์ ทุกสตอรี่ ทุกการเคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อย เธอก็ไม่เคยพลาด
แต่ถึงอย่างนั้น เขากลับไม่เคยทัก ไม่เคยตอบ ไม่แม้แต่จะกดไลก์รูปที่เธอลง
ทุกครั้งที่เห็นชื่อของเขาในรายชื่อคนดูสตอรี่ ใบชาก็เผลอยิ้มเหมือนคนบ้า รู้ทั้งรู้ว่าเขาอาจแค่กดผ่าน ไม่ได้สนใจจริงจังอะไร แต่เธอก็ยังเฝ้าหวังเสมอว่า บางที…เขาอาจจะคิดถึงเธอบ้าง
น้ำตาหยดหนึ่งค่อย ๆ ไหลลงข้างแก้มอย่างไม่ทันรู้ตัว “พี่คีย์ใจร้าย…ชาเกลียดพี่แล้วก็ได้”
เสียงเบาจนแทบไม่เป็นคำพูด เธอพลิกตัวตะแคงหันหน้าเข้าหาผนัง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงหัวราวกับอยากซ่อนตัวเองจากโลกทั้งใบ
ใจหนึ่งก็ยังโกรธ อีกใจก็ยังเจ็บ และลึกลงไปกว่านั้น มันคือความคิดถึงที่ไม่มีที่ไป
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดอ่อนส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้อง ใบชาค่อย ๆ ลืมตาตื่นอย่างเนือย ๆ ดวงตาบวมแดงนิด ๆ จากการร้องไห้เมื่อคืน
เธอยกแขนขึ้นบังแสง ก่อนจะถอนหายใจยาว รู้สึกหนักหน่วงในอก แต่ก็ต้องลุกขึ้นอยู่ดี
หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ร่างบางก็เดินไปที่โต๊ะหนังสือ สายตาเหลือบไปเห็นสมุดแพลนเนอร์ที่เปิดค้างไว้ เธอหยิบปากกาขึ้นมาเขียนบางอย่างลงไปหน้าใหม่
“สอบติดนิติ มหาลัยที่ตั้งใจไว้ให้ได้”
“จะไม่วิ่งตามใครอีกแล้ว”
“ชาต้องเป็นชาให้ได้โดยไม่ต้องเป็นแบบใคร”
“เลิกชอบพี่คีย์…”
เธออ่านประโยคที่เขียนไว้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะพยักหน้ากับตัวเองเล็กน้อย
“พี่คีย์ไม่เห็นชา…ไม่เป็นไร ชาจะทำให้ตัวเองเห็นคุณค่าของตัวเองให้ได้” แม้เสียงยังเบาและน้ำเสียงยังแผ่ว แต่ในแววตานั้นกลับเริ่มมีแสงบางอย่างส่องประกายออกมาเล็กน้อย
มันอาจจะยังเจ็บ แต่มันคือจุดเริ่มต้นของการลุกขึ้นอีกครั้ง…ของตัวเธอเอง
สองอาทิตย์ต่อมา“กรี๊ดดด!!! เราสอบติดจริง ๆ ด้วย!!” เสียงร้องดังลั่นจนแทบทำแก้วหูแตก ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน นอกจากขมิ้นที่ตอนนี้แทบจะกระโดดออกนอกหน้าต่างห้องของใบชาเพราะความดีใจจนล้นปรี่ที่สอบติดกันทั้งคู่แบบที่ตั้งใจเอาไว้“เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้น!?” ใบไม้รีบวิ่งพรวดเข้ามาในห้องน้องสาวด้วยความตกใจ หลังได้ยินเสียงกรีดร้องเมื่อครู่ เพราะคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของตัวเอง จึงทำให้พุ่งตัวมาอย่างไม่ทันจะคิด“พี่ไม้! ขมิ้นกับชาสอบติดนิติมอพี่แล้วนะ!” ขมิ้นที่ตื่นเต้นจนแทบจะระงับความรู้สึกไว้ไม่อยู่ รีบบอกข่าวดีกับพี่ชายของเพื่อนทันที หากมีพ่อแม่ของใบชาอยู่ด้วยก็คงวิ่งไล่ประกาศไปรอบ ๆ เสียแล้ว“จริงปะเนี่ย?!” ใบไม้ถึงกับอุทานออกมาอย่างตื่นเต้นไม่แพ้กัน เมื่อได้ยินข่าวน่ายินดีแบบนั้น ตอนตัวเขาเองสอบติดที่นี่ก็น่ายินดีมากแล้ว ยิ่งน้องสาวสอบติดอีกคนพ่อกับแม่ของเขาคงได้ภูมิใจมากแน่ ๆ“จริงสิพี่ไม้! ขมิ้นเพิ่งเช็กจากเว็บมหา’ลัยมาเมื่อกี้เลย!” ขมิ้นยังคงกระโดดโลดเต้นอยู่กลางห้องด้วยท่าทีที่ไม่ต่างจากเดิม ไม่รู้ไปเอาแรงมากจากไหนนักหนาใบชานั่งยิ้มกว้างอยู่ที่ปลายเตียง แม้จะไม่ได้แสดงออกมากเท่าเพื่อน แต
“ดูจากชุดที่พี่คีย์ใส่… ฉันว่าเขาคงสอบติดที่มหาลัยที่เราเล็งกันไว้แน่ ๆ เลยนะชา” ขมิ้นพูดด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย เธอรู้สึกได้ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คงหนีไม่พ้นต้องเจอกันในเร็ววันแน่ ๆ ใบชาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้าอย่างช้า ๆ “ก็… ถ้าเจอกันจริง ๆ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน” เสียงของใบชาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากกว่าปกติ ขมิ้นถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ นี่เพื่อนสนิทของเธอเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันแบบนี้ได้ทั้ง ๆ ที่ปกติไม่เป็น หรือว่าเป็นเพราะความโกรธที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของพี่คีย์เมื่อครู่นี้กันแน่… ขมิ้นมองหน้าใบชาอย่างตั้งใจ ก่อนจะพูดเสียงเบาลง “ชา… ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ๆ แกต้องเข้มแข็งนะ อย่าปล่อยให้อดีตมาครอบงำแกจนลืมดูแลตัวเอง” ใบชายิ้มบาง ๆ แต่สายตายังคงหม่นเศร้า “ฉันจะพยายามนะขมิ้น… แต่บางครั้งมันก็ยากเกินไปจริง ๆ น่ะแหละ” ขมิ้นยื่นมือไปจับมือเพื่อนแน่นขึ้น “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะอยู่ข้างแกเอง ไม่ปล่อยให้แกต้องเผชิญเรื่องพวกนี้คนเดียวแน่นอน” เมื่อใบชาได้ยินคำพูดนั้นของเพื่อน น้ำตาก็เอ่อคลอเบ้าอย่างไม่รู้ตัว“ขอบคุณนะ… ขมิ้น” ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงนั้น
@ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง “โห… ที่นี่ใหญ่มาก! มีร้านดังแทบจะครบทุกแบรนด์เลยอะ ใหญ่กว่าห้างแถวโรงเรียนอีกแน่ะ!” ขมิ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ดวงตาเปล่งประกายขณะหันซ้ายหันขวาสำรวจทุกมุมของห้างใหม่ที่เพิ่งเคยจะมา ราวกับว่าได้ค้นพบสถานที่ใหม่“คอยดูนะ ฉันจะมาทุกวันเลย!” ใบชาเพียงเดินเคียงข้างเงียบ ๆ พลางฟังเพื่อนสาวพูดเจื้อยแจ้วโดยไม่ได้พูดตอบกลับอะไร… แววตาเธอทอดมองไปไกล ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ “นี่ชา แกไม่คิดจะตื่นเต้นกับฉันเลยเหรอ?” ขมิ้นหันมาทำหน้ามุ่ยใส่เพื่อนสนิททันทีเมื่อเห็นอีกคนเงียบกริบไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ใบชาเหลือบตามองเพื่อนอย่างนึกเหนื่อยใจ ‘อะไรอีกล่ะเนี่ย…’ ร่างบางได้แต่คิดในใจอย่างเอือมระอา กับนิสัยขี้น้อยใจของขมิ้นที่แค่เธอไม่กรี๊ดกร๊าดด้วยก็ทำท่าเหมือนโลกจะถล่ม “ก็ตื่นเต้นแหละ…มั้ง” ใบชาพูดพลางยักไหล่เบา ๆ ก่อนจะปรายตามองเพื่อนสนิทที่ทำหน้าบูดอยู่ข้าง ๆ แล้วส่งยิ้มจาง ๆ ไปให้แบบคนเอือมแต่ก็ยังรักอยู่ดี “จะให้กรี๊ดบ้านแตกเหมือนแก ฉันก็ทำไม่ได้นะเว้ยไอ้บ้า” ใบชาพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะต้องการจะจิกกัดใส่เพื่อนรักเบา ๆ“เชอะ! เอ้ะ!” ขมิ้นกำลังจะงอนเดินหนี
สองอาทิตย์ต่อมา“โห้ยยย! ข้อสอบโคตรจะยาก!” เสียงบ่นอุบของขมิ้นดังลั่นทันทีที่ก้าวพ้นประตูห้องสอบ สีหน้าบูดเบี้ยวอย่างไม่ปิดบังอารมณ์ ทำเอาใบชาที่นั่งฟังเพลงอยู่ล่างตึกต้องถอดหูฟังออกทันที“ขมิ้นน เป็นไรรึเปล่า มันยากมาก…ขนาดนั้นเลยเหรอ?” ใบชาถามพร้อมลุกขึ้นยืนมองเพื่อนสนิทที่เดินหน้าหงิกเข้ามาใกล้ “ไม่ใช่แค่ยากอะ มัน ยากมากกกกกกกก! ตัวเลือกก็หลอกตลอด กว่าจะเลือกได้แต่ละข้อหัวแทบแตกอะ!” ขมิ้นโอดครวญพลางฟุบหน้าลงกับไหล่ใบชาอย่างหมดแรงแค่อ่านหนังสือสอบมาตลอดทั้งอาทิตย์ก็ว่าแย่แล้วการมาสอบนี้แย่กว่ามากจริง“เอาน่าแกเก่งอยู่แล้วน่า อย่างน้อยก็พอทำได้ใช่ไหม?” ใบชาพูดปลอบใจพลางลูบหลังเพื่อนเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ต้องได้สิยะ!…แต่ไม่เต็มคะแนนแน่เลยอะดิ ฮือปวดหัวจะบ้า” ขมิ้นยังไม่วายอวดครวญกับเพื่อนสาว พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา“ไม่เป็นไรน่า ยังมีอนาคตให้เราสองคนได้สู้ต่อนะ!” ใบชาตบไหล่เพื่อนเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ ไม่ได้ให้กำลังใจแค่เพื่อนแต่รวมตัวเธอด้วยนี่แหละ“เอ้อ แล้วนี่สอบเสร็จแกมีไปไหนต่อปะ?” ขมิ้นที่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ก็รีบเอ่ยถามเพื่อนทันที สีหน้ากึ่งมีเลศนัย “ก็ว่าจะก
@ห้องเรียน“ไปไหนมาเนี่ย ครูใกล้จะเช็กชื่อแล้วนะ!” เสียงขมิ้นเอ่ยถามขึ้นทันที เมื่อเห็นเพื่อนสาววิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาในห้องเรียนด้วยท่าทางเร่งรีบ “เอาของไปให้พลอยมาน่ะ” ใบชาตอบพลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเอง ก่อนจะหยิบหนังสือเรียนออกมาวางบนโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว นิ้วเรียวกรีดเปิดหน้าหนังสือไปยังบทเรียนของวันนี้ด้วยความเคยชิน “อีกแล้วเหรอ?” ขมิ้นเอ่ยถามพร้อมกับทำสีหน้าเซ็งจัด เหมือนจะชินกับบทบาทคนกลางของเพื่อนสนิทเข้าไปทุกที “แล้วพี่คีย์ล่ะ? เขาได้ติดต่อแกมาบ้างไหม?” คำถามของขมิ้นที่เอ่ยชื่อหนึ่งขึ้นมา ทำให้ใบชาชะงักไปทันที… ชื่อที่เธอพยายามหลีกเลี่ยง ชื่อที่เธอแทบจะลืมไปแล้วว่าเคยมีอยู่ในความทรงจำของเธอด้วยซ้ำ หรือจริง ๆ แล้วก็แค่พยายามไม่นึกถึงชื่อนี้เฉย ๆ เท่านั้น…“ก็ตั้งแต่ปีก่อน…ก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลยนะ” ใบชาตอบเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงมองหนังสือตรงหน้า ราวกับต้องการซ่อนบางอย่างไว้ใต้เงาตัวอักษรที่กำลังจดจ้องมันอยู่ทันทีที่พูดจบ ภาพในอดีตก็ย้อนกลับเข้ามาในหัว หลังจากวันนั้นวันที่ใบไม้กลับมาจากไปหาคีย์ เขาไม่ได้พูดถึงพี่คีย์อีกเลย และที่หนักไปกว่านั้นคือคำพูดเด็ดขาด
@หน้าโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง “ชา! ทางนี้!” “พี่ไม้! เรียกอะไรดังขนาดนี้เล่า!” คนถูกเรียกเอ็ดกลับด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ขณะกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาอย่างรีบร้อน มือยังยกขึ้นกดกระโปรงนักเรียนไม่ให้ปลิวเพราะลมแรง“อะไรเล่า ก็เห็นเดินช้าจะไปเรียนสายอยู่แล้วเนี่ย” ใบไม้ยักไหล่ตอบหน้าตายตามประสาคนชอบแกล้งน้องสาว“แล้วพลอยล่ะ? ไม่ออกมารับเองเหรอ?” ใบไม้มองซ้ายขวาหาคนที่เป็นเจ้าของของที่เขาเอามาให้ หวังว่าจะได้เจอหน้าเธอสักประเดี๋ยว“ยุ่งอยู่ ซ้อมดรัมหนักมากกก” ใบชาตอบลากเสียงยาวใส่พี่ชาย พลางพยักเพยิดหน้าไปทางอาคารเรียนด้านใน “ไหนของล่ะ?” ร่างบางแบมือเร่งเร้าคนเป็นพี่ “อะนี่…ของสำคัญเลยนะเว้ยไอ้ชา ห้ามหล่นเด็ดขาด” เขายื่นกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ให้ด้วยท่าทางจริงจัง ปากบอกน้องสาวย้ำให้ชัดว่าสำคัยมากแค่ไหนเพราะน้องสาวของเขาเป็นพวกไม่ชอบระวังเลยกลัวว่าจะทำของของเขาหล่นกลางทางเสียก่อน“ในนี้มีเครื่องสำอางของโปรดพลอยที่พี่สั่งให้มาใหม่ ถ้าตกแตกนะ แกจบเลย” “โอ้โหของพลอยล้วนเลยสินะ แต่ให้ชาหอบไปให้แทนเนี่ยนะ? ไหนล่ะค่าฝากอะ!” ใบชาทำหน้าทะเล้นทันที มือยังไม่รับกล่องเสียที แต่แบมืออีกข้างเพิ่มเพื่อหว







