Masukสองอาทิตย์ต่อมา
“โห้ยยย! ข้อสอบโคตรจะยาก!” เสียงบ่นอุบของขมิ้นดังลั่นทันทีที่ก้าวพ้นประตูห้องสอบ สีหน้าบูดเบี้ยวอย่างไม่ปิดบังอารมณ์ ทำเอาใบชาที่นั่งฟังเพลงอยู่ล่างตึกต้องถอดหูฟังออกทันที
“ขมิ้นน เป็นไรรึเปล่า มันยากมาก…ขนาดนั้นเลยเหรอ?” ใบชาถามพร้อมลุกขึ้นยืนมองเพื่อนสนิทที่เดินหน้าหงิกเข้ามาใกล้
“ไม่ใช่แค่ยากอะ มัน ยากมากกกกกกกก! ตัวเลือกก็หลอกตลอด กว่าจะเลือกได้แต่ละข้อหัวแทบแตกอะ!” ขมิ้นโอดครวญพลางฟุบหน้าลงกับไหล่ใบชาอย่างหมดแรงแค่อ่านหนังสือสอบมาตลอดทั้งอาทิตย์ก็ว่าแย่แล้วการมาสอบนี้แย่กว่ามากจริง
“เอาน่าแกเก่งอยู่แล้วน่า อย่างน้อยก็พอทำได้ใช่ไหม?” ใบชาพูดปลอบใจพลางลูบหลังเพื่อนเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ต้องได้สิยะ!…แต่ไม่เต็มคะแนนแน่เลยอะดิ ฮือปวดหัวจะบ้า” ขมิ้นยังไม่วายอวดครวญกับเพื่อนสาว พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
“ไม่เป็นไรน่า ยังมีอนาคตให้เราสองคนได้สู้ต่อนะ!” ใบชาตบไหล่เพื่อนเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ ไม่ได้ให้กำลังใจแค่เพื่อนแต่รวมตัวเธอด้วยนี่แหละ
“เอ้อ แล้วนี่สอบเสร็จแกมีไปไหนต่อปะ?” ขมิ้นที่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ก็รีบเอ่ยถามเพื่อนทันที สีหน้ากึ่งมีเลศนัย
“ก็ว่าจะกลับไปนอนพักเอาแรง ทำไมอะ แกมีอะไรเหรอ?” ใบชาตอบเพื่อนพลางเอามือเท้าคางนึกถึงหลายวันที่ผ่านมา เหมือนสมองจะยังไม่ฟื้นจากความเหนื่อยล้าหลังสอบเสร็จใหม่ ๆ
แต่เสียงของขมิ้นก็ดึงใบชากลับมาจากความมโนว่าจะได้นอนพักสบาย ๆ “โนค่ะ! ยังไม่ถึงเวลาพัก เพราะฉันอยากไปเซอร์เวย์ห้างแถวมหาลัยที่เราจะไปยื่นกันเร็ว ๆ นี้” ขมิ้นพูดพลางกอดอกอย่างภูมิใจ ราวกับว่าตัวเองสอบติดเรียบร้อยแล้วก็ไม่ปาน
“โอ้โห… ยังกะขึ้นทะเบียนนักศึกษาปีหนึ่งแล้วอะ” ใบชาหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่แววตาก็เต็มไปด้วยความเอ็นดูในความมั่นใจของเพื่อน
“แน่นอนค่ะ! คนจะได้เกิด! ก็ต้องวางแผนชีวิตให้เป๊ะไหมล่ะ!” ขมิ้นเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างทนงในตัวเองก่อนจะเอามือโบกไปมาอย่างนางงาม
“ก็ได้ ไปเซอร์เวย์ห้างก็ไป แต่ขอแวะกินของหวานก่อนนะ หิวมาก!” ใบชาลุกขึ้นยืนบิดตัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปยิ้มร้าย ๆ ใส่เพื่อนสนิท
“เออ! เห็นด้วย! พรุ่งนี้ค่อยกลับมานอยด์เรื่องสอบ วันนี้กินให้สุดก่อน!” ขมิ้นตอบพลางคว้าแขนใบชาไว้แล้วลุกตาม ทั้งสองคนก็เดินออกจากตึกเรียนไปพร้อมเสียงหัวเราะเบา ๆ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นย่ำของเย็นวันสอบที่เพิ่งจบลงไป
“ว่าแต่แกมั่นใจจังเนอะว่าเราสองคนจะติดที่มหาลัยนี่น่ะ” ใบชาถามพลางเดินออกมาที่หน้าโรงเรียนอย่างครุ่นคิด
ก็เพราะว่ามหาวิทยาลัยที่ใบชากับขมิ้นเล็งไว้น่ะ ขึ้นชื่อเรื่องสอบเข้ายากสุด ๆ แทบจะทุกคณะ เพราะเป็นหนึ่งในสถาบันอันดับต้น ๆ ของประเทศ ยิ่งคณะที่เธอกับเพื่อนสนิทอยากเข้าด้วยแล้วล่ะก็ ว่ากันว่าเป็นคณะที่มีอัตราการแข่งขันสูงเป็นอันดับสองของมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว
“โถ่ชา~ แกเชื่อเซ้นส์ฉันหน่อยสิ เซ้นส์ฉันไม่เคยพลาดนะ!” ขมิ้นพูดอย่างมั่นใจ พร้อมกับยื่นมือมาหยิกแก้มเพื่อนสนิทเบา ๆ เพื่อคลายความกังวลของอีกฝ่าย จริง ๆ คนเครียดควรเป็นเธอต่างหากที่ต้องเครียดเพราะคะแนนของใบชาน่ะน่าจะได้เต็มแน่ ๆ แต่ก็ตัวเธอเองนี่อาจจะยากหน่อย
“ยังไงเราสองคนก็ต้องสอบติดนิติศาสตร์มอนี้ได้แน่นอน! ขนาดพี่ไม้ของแกยังสอบติดหมอที่นี่ได้เลย แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้ล่ะ?”
แม้คำพูดของเพื่อนจะฟังดูปลุกใจและให้ความหวัง แต่ในใจของใบชากลับอดคิดไม่ได้ว่า เธอไม่ได้เก่งเหมือนพี่ชายสักหน่อย…
“โอ๊ย! เจ็บนะ ยัยบ้า!” ใบชาร้องออกมาพลางปัดมือเพื่อนออกเบา ๆ ก่อนจะลูบแก้มตัวเองป้อย ๆ ด้วยสีหน้าบูดบึ้งแบบแกล้ง ๆ ทำ
“สรุปว่ายังไงแน่ ไปจริงใช่ไหมเนี่ย?” ขมิ้นหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันมาถามย้ำกับเพื่อนอีกครั้งด้วยแววตาเป็นประกาย
“ก็ไปสิ! ขี้เกียจกลับบ้านด้วย กลับไปก็ไม่มีใครอยู่ด้วยนี่นา” ใบชาพูดพร้อมกับพยักหน้ารัว ๆ อย่างแน่ใจให้กับเพื่อนสนิท
“พี่ไม้พาพลอยไปเที่ยวอีกแล้วแน่ ๆ” ขมิ้นพูดพร้อมกับทำหน้าเบื่อ ๆ เมื่อเจอเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ของพี่ชายเพื่อนและแฟนสาวของเขา
“แล้วจะรออะไรล่ะ ก็ช่วงนี้พลอยว่างพอดีด้วย แบบนี้คงยาวแน่ ๆ เลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่านักศึกษาแพทย์ปี 2 เขาไม่เรียนกันจริง ๆ หรือไง ถึงได้เที่ยวกันบ่อยขนาดนี้”
ใบชาบ่นพลางทำหน้าเซ็งปนหงอยเล็กน้อย ความน้อยใจที่เก็บไว้ในใจค่อย ๆ เผยออกมาผ่านสีหน้าและน้ำเสียง ก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นคนที่พี่ไม้พาไปเที่ยวบ่อย ๆ ไม่ว่าจะร้านอาหาร ดูหนัง คาเฟ่ หรือแม้แต่ทริปเล็ก ๆ ก็มักมีเธอร่วมอยู่เสมอ
แต่ตั้งแต่พี่ชายสอบติดหมอ ชีวิตก็เปลี่ยนไป เธอเริ่มถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวบ่อยขึ้น และทุกครั้งที่พอมีเวลา พี่ไม้ก็มักเลือกใช้มันกับพลอยแก้วแทน
“ช่างเขาเถอะ คนกำลังมีความรักอะเนอะ” ขมิ้นพูดพร้อมยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับแขนเพื่อนเบา ๆ
“แกไปกับฉันก็ได้ เค๊? อย่างน้อยก็ยังมีฉันอยู่ตรงนี้นะยะ” ขมิ้นพูดพร้อมบีบแขนเพื่อนรักเบา ๆ อย่างปลอบใจ เพราะก็พอจะเข้าใจอาการน้อยใจนี้ของเพื่อนได้
“จ้า ๆ แล้วตกลงจะไปกันกี่โมงล่ะเนี่ย?” ใบชาตอบกลับพร้อมแกล้งทำเสียงประชดเล็กน้อย ก่อนจะเป็นฝ่ายเปลี่ยนเรื่องไปเอง เพราะเธอรู้ดีว่าไม่ควรเก็บเรื่องเก่า ๆ มาคิดให้เปลืองใจอีกต่อไป
“ถ้ากินขนมกันเสร็จแล้วไปกันเลยดีมั้ย?” ขมิ้นเอ่ยเสนอพลางหันมามองเพื่อนด้วยแววตาตื่นเต้นเล็ก ๆ
“ก็ดีนะ” ใบชาพยักหน้าทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนดูพร้อมเต็มที่อยู่แล้ว
“งั้นปะ ไปกันนน~” ขมิ้นพูดพลางเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น ราวกับกลัวว่าร้านขนมเจ้าประจำหน้าโรงเรียนจะปิดหนีหายไปเสียก่อน
“รีบขนาดนี้ เดี๋ยวก็ลื่นล้มหรอก แม่คนติดขนม!” ใบชาตะโกนแซวเพื่อนที่เร่งฝีเท้าไปข้างหน้า ก่อนจะหัวเราะคิกคักกับท่าทางกระตือรือร้นราวกับเด็กของขมิ้น
“ขนมร้านนี้คือกำลังใจของชีวิตเลยนะเว้ยชา!” ขมิ้นหันมาตอบทั้งรอยยิ้มตื่นเต้นในแววตา พลางชูกำปั้นทั้งสองข้างขึ้นประกอบท่าทางอย่างภาคภูมิใจ
ใบชาถึงกับส่ายหัวพลางยิ้มมุมปากเล็ก ๆ รู้ดีว่าไม่มีอะไรจะหยุดขมิ้นกับของหวานได้เลยจริง ๆ นั่นแหละ
สองอาทิตย์ต่อมา“กรี๊ดดด!!! เราสอบติดจริง ๆ ด้วย!!” เสียงร้องดังลั่นจนแทบทำแก้วหูแตก ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน นอกจากขมิ้นที่ตอนนี้แทบจะกระโดดออกนอกหน้าต่างห้องของใบชาเพราะความดีใจจนล้นปรี่ที่สอบติดกันทั้งคู่แบบที่ตั้งใจเอาไว้“เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้น!?” ใบไม้รีบวิ่งพรวดเข้ามาในห้องน้องสาวด้วยความตกใจ หลังได้ยินเสียงกรีดร้องเมื่อครู่ เพราะคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของตัวเอง จึงทำให้พุ่งตัวมาอย่างไม่ทันจะคิด“พี่ไม้! ขมิ้นกับชาสอบติดนิติมอพี่แล้วนะ!” ขมิ้นที่ตื่นเต้นจนแทบจะระงับความรู้สึกไว้ไม่อยู่ รีบบอกข่าวดีกับพี่ชายของเพื่อนทันที หากมีพ่อแม่ของใบชาอยู่ด้วยก็คงวิ่งไล่ประกาศไปรอบ ๆ เสียแล้ว“จริงปะเนี่ย?!” ใบไม้ถึงกับอุทานออกมาอย่างตื่นเต้นไม่แพ้กัน เมื่อได้ยินข่าวน่ายินดีแบบนั้น ตอนตัวเขาเองสอบติดที่นี่ก็น่ายินดีมากแล้ว ยิ่งน้องสาวสอบติดอีกคนพ่อกับแม่ของเขาคงได้ภูมิใจมากแน่ ๆ“จริงสิพี่ไม้! ขมิ้นเพิ่งเช็กจากเว็บมหา’ลัยมาเมื่อกี้เลย!” ขมิ้นยังคงกระโดดโลดเต้นอยู่กลางห้องด้วยท่าทีที่ไม่ต่างจากเดิม ไม่รู้ไปเอาแรงมากจากไหนนักหนาใบชานั่งยิ้มกว้างอยู่ที่ปลายเตียง แม้จะไม่ได้แสดงออกมากเท่าเพื่อน แต
“ดูจากชุดที่พี่คีย์ใส่… ฉันว่าเขาคงสอบติดที่มหาลัยที่เราเล็งกันไว้แน่ ๆ เลยนะชา” ขมิ้นพูดด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย เธอรู้สึกได้ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คงหนีไม่พ้นต้องเจอกันในเร็ววันแน่ ๆ ใบชาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้าอย่างช้า ๆ “ก็… ถ้าเจอกันจริง ๆ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน” เสียงของใบชาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากกว่าปกติ ขมิ้นถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ นี่เพื่อนสนิทของเธอเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันแบบนี้ได้ทั้ง ๆ ที่ปกติไม่เป็น หรือว่าเป็นเพราะความโกรธที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของพี่คีย์เมื่อครู่นี้กันแน่… ขมิ้นมองหน้าใบชาอย่างตั้งใจ ก่อนจะพูดเสียงเบาลง “ชา… ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ๆ แกต้องเข้มแข็งนะ อย่าปล่อยให้อดีตมาครอบงำแกจนลืมดูแลตัวเอง” ใบชายิ้มบาง ๆ แต่สายตายังคงหม่นเศร้า “ฉันจะพยายามนะขมิ้น… แต่บางครั้งมันก็ยากเกินไปจริง ๆ น่ะแหละ” ขมิ้นยื่นมือไปจับมือเพื่อนแน่นขึ้น “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะอยู่ข้างแกเอง ไม่ปล่อยให้แกต้องเผชิญเรื่องพวกนี้คนเดียวแน่นอน” เมื่อใบชาได้ยินคำพูดนั้นของเพื่อน น้ำตาก็เอ่อคลอเบ้าอย่างไม่รู้ตัว“ขอบคุณนะ… ขมิ้น” ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงนั้น
@ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง “โห… ที่นี่ใหญ่มาก! มีร้านดังแทบจะครบทุกแบรนด์เลยอะ ใหญ่กว่าห้างแถวโรงเรียนอีกแน่ะ!” ขมิ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ดวงตาเปล่งประกายขณะหันซ้ายหันขวาสำรวจทุกมุมของห้างใหม่ที่เพิ่งเคยจะมา ราวกับว่าได้ค้นพบสถานที่ใหม่“คอยดูนะ ฉันจะมาทุกวันเลย!” ใบชาเพียงเดินเคียงข้างเงียบ ๆ พลางฟังเพื่อนสาวพูดเจื้อยแจ้วโดยไม่ได้พูดตอบกลับอะไร… แววตาเธอทอดมองไปไกล ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ “นี่ชา แกไม่คิดจะตื่นเต้นกับฉันเลยเหรอ?” ขมิ้นหันมาทำหน้ามุ่ยใส่เพื่อนสนิททันทีเมื่อเห็นอีกคนเงียบกริบไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ใบชาเหลือบตามองเพื่อนอย่างนึกเหนื่อยใจ ‘อะไรอีกล่ะเนี่ย…’ ร่างบางได้แต่คิดในใจอย่างเอือมระอา กับนิสัยขี้น้อยใจของขมิ้นที่แค่เธอไม่กรี๊ดกร๊าดด้วยก็ทำท่าเหมือนโลกจะถล่ม “ก็ตื่นเต้นแหละ…มั้ง” ใบชาพูดพลางยักไหล่เบา ๆ ก่อนจะปรายตามองเพื่อนสนิทที่ทำหน้าบูดอยู่ข้าง ๆ แล้วส่งยิ้มจาง ๆ ไปให้แบบคนเอือมแต่ก็ยังรักอยู่ดี “จะให้กรี๊ดบ้านแตกเหมือนแก ฉันก็ทำไม่ได้นะเว้ยไอ้บ้า” ใบชาพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์เพราะต้องการจะจิกกัดใส่เพื่อนรักเบา ๆ“เชอะ! เอ้ะ!” ขมิ้นกำลังจะงอนเดินหนี
สองอาทิตย์ต่อมา“โห้ยยย! ข้อสอบโคตรจะยาก!” เสียงบ่นอุบของขมิ้นดังลั่นทันทีที่ก้าวพ้นประตูห้องสอบ สีหน้าบูดเบี้ยวอย่างไม่ปิดบังอารมณ์ ทำเอาใบชาที่นั่งฟังเพลงอยู่ล่างตึกต้องถอดหูฟังออกทันที“ขมิ้นน เป็นไรรึเปล่า มันยากมาก…ขนาดนั้นเลยเหรอ?” ใบชาถามพร้อมลุกขึ้นยืนมองเพื่อนสนิทที่เดินหน้าหงิกเข้ามาใกล้ “ไม่ใช่แค่ยากอะ มัน ยากมากกกกกกกก! ตัวเลือกก็หลอกตลอด กว่าจะเลือกได้แต่ละข้อหัวแทบแตกอะ!” ขมิ้นโอดครวญพลางฟุบหน้าลงกับไหล่ใบชาอย่างหมดแรงแค่อ่านหนังสือสอบมาตลอดทั้งอาทิตย์ก็ว่าแย่แล้วการมาสอบนี้แย่กว่ามากจริง“เอาน่าแกเก่งอยู่แล้วน่า อย่างน้อยก็พอทำได้ใช่ไหม?” ใบชาพูดปลอบใจพลางลูบหลังเพื่อนเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ต้องได้สิยะ!…แต่ไม่เต็มคะแนนแน่เลยอะดิ ฮือปวดหัวจะบ้า” ขมิ้นยังไม่วายอวดครวญกับเพื่อนสาว พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา“ไม่เป็นไรน่า ยังมีอนาคตให้เราสองคนได้สู้ต่อนะ!” ใบชาตบไหล่เพื่อนเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ ไม่ได้ให้กำลังใจแค่เพื่อนแต่รวมตัวเธอด้วยนี่แหละ“เอ้อ แล้วนี่สอบเสร็จแกมีไปไหนต่อปะ?” ขมิ้นที่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ก็รีบเอ่ยถามเพื่อนทันที สีหน้ากึ่งมีเลศนัย “ก็ว่าจะก
@ห้องเรียน“ไปไหนมาเนี่ย ครูใกล้จะเช็กชื่อแล้วนะ!” เสียงขมิ้นเอ่ยถามขึ้นทันที เมื่อเห็นเพื่อนสาววิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาในห้องเรียนด้วยท่าทางเร่งรีบ “เอาของไปให้พลอยมาน่ะ” ใบชาตอบพลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเอง ก่อนจะหยิบหนังสือเรียนออกมาวางบนโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว นิ้วเรียวกรีดเปิดหน้าหนังสือไปยังบทเรียนของวันนี้ด้วยความเคยชิน “อีกแล้วเหรอ?” ขมิ้นเอ่ยถามพร้อมกับทำสีหน้าเซ็งจัด เหมือนจะชินกับบทบาทคนกลางของเพื่อนสนิทเข้าไปทุกที “แล้วพี่คีย์ล่ะ? เขาได้ติดต่อแกมาบ้างไหม?” คำถามของขมิ้นที่เอ่ยชื่อหนึ่งขึ้นมา ทำให้ใบชาชะงักไปทันที… ชื่อที่เธอพยายามหลีกเลี่ยง ชื่อที่เธอแทบจะลืมไปแล้วว่าเคยมีอยู่ในความทรงจำของเธอด้วยซ้ำ หรือจริง ๆ แล้วก็แค่พยายามไม่นึกถึงชื่อนี้เฉย ๆ เท่านั้น…“ก็ตั้งแต่ปีก่อน…ก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลยนะ” ใบชาตอบเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงมองหนังสือตรงหน้า ราวกับต้องการซ่อนบางอย่างไว้ใต้เงาตัวอักษรที่กำลังจดจ้องมันอยู่ทันทีที่พูดจบ ภาพในอดีตก็ย้อนกลับเข้ามาในหัว หลังจากวันนั้นวันที่ใบไม้กลับมาจากไปหาคีย์ เขาไม่ได้พูดถึงพี่คีย์อีกเลย และที่หนักไปกว่านั้นคือคำพูดเด็ดขาด
@หน้าโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง “ชา! ทางนี้!” “พี่ไม้! เรียกอะไรดังขนาดนี้เล่า!” คนถูกเรียกเอ็ดกลับด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ขณะกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาอย่างรีบร้อน มือยังยกขึ้นกดกระโปรงนักเรียนไม่ให้ปลิวเพราะลมแรง“อะไรเล่า ก็เห็นเดินช้าจะไปเรียนสายอยู่แล้วเนี่ย” ใบไม้ยักไหล่ตอบหน้าตายตามประสาคนชอบแกล้งน้องสาว“แล้วพลอยล่ะ? ไม่ออกมารับเองเหรอ?” ใบไม้มองซ้ายขวาหาคนที่เป็นเจ้าของของที่เขาเอามาให้ หวังว่าจะได้เจอหน้าเธอสักประเดี๋ยว“ยุ่งอยู่ ซ้อมดรัมหนักมากกก” ใบชาตอบลากเสียงยาวใส่พี่ชาย พลางพยักเพยิดหน้าไปทางอาคารเรียนด้านใน “ไหนของล่ะ?” ร่างบางแบมือเร่งเร้าคนเป็นพี่ “อะนี่…ของสำคัญเลยนะเว้ยไอ้ชา ห้ามหล่นเด็ดขาด” เขายื่นกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ให้ด้วยท่าทางจริงจัง ปากบอกน้องสาวย้ำให้ชัดว่าสำคัยมากแค่ไหนเพราะน้องสาวของเขาเป็นพวกไม่ชอบระวังเลยกลัวว่าจะทำของของเขาหล่นกลางทางเสียก่อน“ในนี้มีเครื่องสำอางของโปรดพลอยที่พี่สั่งให้มาใหม่ ถ้าตกแตกนะ แกจบเลย” “โอ้โหของพลอยล้วนเลยสินะ แต่ให้ชาหอบไปให้แทนเนี่ยนะ? ไหนล่ะค่าฝากอะ!” ใบชาทำหน้าทะเล้นทันที มือยังไม่รับกล่องเสียที แต่แบมืออีกข้างเพิ่มเพื่อหว







