บทที่ 5
โดย : meowmao หนึ่งอาทิตย์ต่อมา เวลาผ่านไปไวราวกับโกหก นี่ก็ครบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ใบชาเริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย หลังจากวันแรกจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่เคยเจอคีย์อีกเลย แม้บางครั้งจะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเขาผ่านหูมาบ้างก็ตาม “ชา” เสียงเรียบนิ่งตามสไตล์ของเสือ หนุ่มพูดน้อยผู้กลายมาเป็นเพื่อนใหม่ของใบชา ดังขึ้นข้างหลังขณะเธอกำลังนั่งรอเพื่อนอยู่ที่โต๊ะใต้อาคารเรียน “มาแล้วเหรอเสือ? คนอื่นยังไม่มาเลยนะ” ใบชาหันไปทัก พลางยิ้มบาง ๆ ให้เขา “อื้อ เห็นแล้ว” เสือตอบสั้น ๆ ตามแบบฉบับของเขา ทั้งคู่ต่างคุ้นชินกับการมาสายของขมิ้นและพราวจนไม่รู้สึกแปลกใจอะไรอีกแล้ว “พักนี้ขมิ้นเริ่มจะหนักข้อขึ้นทุกที” ใบชาว่าพลางถอนหายใจเล็กน้อย เธอเองก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ หลังจากที่ขมิ้นเริ่มติดใจการเที่ยวผับบาร์กับพราวมากขึ้น จนส่งผลให้มาสายแทบทุกวัน “อย่าคิดมากเลย ปล่อยให้เขาได้ใช้ชีวิตในแบบที่เขาชอบบ้าง” เสือพูดเรียบ ๆ พร้อมกับหยิบขนมจากในกระเป๋ายื่นให้เธอครึ่งหนึ่งตามเคย ใบชารับขนมมาทันทีโดยไม่ต้องเอ่ยปากขอบคุณ เสือเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันที่สองที่รู้จักกัน—เขามักแบ่งขนมให้เธอเสมอ และเธอเองก็ไม่เคยปฏิเสธสักครั้ง ยังไม่ทันที่บทสนทนาระหว่างใบชาและเสือจะจบลง เสียงฝีเท้ากับเสียงหัวเราะคิกคักของสองสาวที่เหลือก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “ขอโทษทีนะที่มาช้า!” พราวเอ่ยเสียงใสทันทีที่มาถึงโต๊ะ ก่อนจะวางกระเป๋าลงแล้วทรุดตัวนั่งข้างใบชา “เมื่อคืนเรากลับดึกนิดหน่อยน่ะ แฮ่…” ขมิ้นหัวเราะกลบเกลื่อนพร้อมนั่งลงฝั่งตรงข้าม “ใช่ แถมเมื่อคืนยังเจอพี่คีย์อีกแล้วด้วย!” พราวพูดขึ้นราวกับเล่าเรื่องปกติทั่วไป แต่คนฟังกลับไม่คิดเช่นนั้น ใบชาชะงักทันที มือที่กำลังแกะห่อขนมถึงกับหยุดนิ่ง “หะ…หือ? พราวรู้จักพี่คีย์ได้ยังไง?” คำถามนั้นทำให้ขมิ้นหันมองหน้าเพื่อนทันควัน ก่อนจะเม้มปากเล็กน้อยเหมือนรู้ดีว่าอะไรบางอย่างกำลังจะหลุดออกไป พราวหันไปมองขมิ้นงง ๆ “เอ้า…เมื่อคืนขมิ้นบอกเองไม่ใช่หรอว่า… พี่คีย์น่ะเป็นคนที่ชาเคย—” “คือ!” ขมิ้นรีบร้องแทรกขึ้นมาทันที ก่อนจะหันไปหาใบชา “ขอโทษนะชา… เราเมานิดหน่อยเมื่อคืน เล่าอะไรเพลินไปหมดเลย…” ใบชามองหน้าเพื่อนด้วยแววตาตกใจเล็กน้อย ยังไม่ทันได้พูดอะไร ขมิ้นก็รีบเอ่ยออกมาเองด้วยน้ำเสียงจริงจังมากขึ้น “คือ…เมื่อคืนเราบอกพราวไปว่า… แกชอบพี่คีย์มากแค่ไหน เคยแอบชอบเขามานานแล้ว แล้วก็เล่า…เรื่องที่เคยสนิทกันนิดหน่อย…” ความเงียบปกคลุมโต๊ะไปชั่วครู่ ใบชานิ่งไป รู้สึกทั้งอายและเสียใจเล็กน้อยที่ความรู้สึกที่พยายามเก็บไว้กลับถูกพูดออกมาง่าย ๆ “ขอโทษจริง ๆ นะ เราไม่ได้ตั้งใจให้พราวรู้แบบนั้นเลย” ขมิ้นพูดเสียงแผ่ว พราวรีบพยักหน้า “ใช่ ๆ เราไม่ได้จะยุ่งอะไรเลยนะ แค่แบบ…ตกใจเฉย ๆ ที่พี่เขาดูนิ่งมากเหมือนไม่เคยสนใจใครเลย… ใบชาแค่พยักหน้าเบา ๆ ไม่ได้พูดอะไร หัวใจเธอรู้สึกเหมือนถูกเปิดเปลือยต่อหน้าทุกคน ทั้งที่ไม่เคยคิดจะเล่าให้ใครฟังเลยสักนิด ในขณะเดียวกัน เสือที่นั่งฟังทุกอย่างอยู่เงียบ ๆ ก็เหมือนจะมีบางอย่างเปลี่ยนไปในแววตา แม้สีหน้าจะยังคงนิ่งเหมือนเดิม แต่จังหวะที่เขาหยิบขนมเข้าปากชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะวางซองขนมลงอย่างแนบเนียน ไม่มีใครสังเกตเห็น ยกเว้นใบชา ที่แอบเหลือบมองแล้วรู้สึกแปลก ๆ… แต่เธอก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร “พี่คีย์นี่…ใช่คนที่อยู่แก๊งดาวเด่นของคณะบริหารหรือเปล่า?” เสียงเรียบของเสือดังขึ้นท่ามกลางบทสนทนา ทำเอาทั้งโต๊ะหันขวับไปมองเขาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย “หือ? แกรู้ได้ยังไงอะ? หรือว่า…รู้จักกัน?” ขมิ้นเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย “อือ…พี่เราอยู่แก๊งนั้นน่ะ พี่สิง” เสือตอบอย่างไม่ใส่สีสันนัก แต่สายตาของเขากลับเหลือบมองไปทางใบชาอย่างเงียบ ๆ คล้ายต้องการจับสังเกตปฏิกิริยา “หาา จริงดิ!?” พราวร้องขึ้นด้วยความตกใจ “นี่แกเป็นน้องชายพี่สิงจริงอะ?” “จริงสิ” เสือพยักหน้ารับง่าย ๆ ไม่ได้ทำท่าภูมิใจหรือเก้อเขินแต่อย่างใด “เฮ้ยย จริงด้วยอะ! นามสกุลเดียวกันเลย… ‘คฑากรศีล’ ใช่ปะ?” ขมิ้นว่า ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหน้าจอแชตโชว์ให้ทุกคนดู “นี่ไง ๆ รูปพี่สิงกับพวกพี่ ๆ ในแก๊งน่ะ!” “โอ๊ย งานไวเวอร์~” พราวหัวเราะแซวเบา ๆ มีเพียงใบชาเท่านั้นที่ยังนั่งนิ่ง สีหน้าฉายแววสับสนอย่างเห็นได้ชัด เหมือนสมองกำลังพยายามประมวลผลเรื่องราวทั้งหมดที่เพื่อน ๆ คุยกัน ขมิ้นเห็นท่าทีของเพื่อนสนิทก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมาเบา ๆ “อะ งงแล้วใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าเวลาพวกฉันเล่าอะไร แกอย่าเอาแต่เหม่อ!” พูดจบ ขมิ้นก็ยื่นมือไปหยิกแก้มเพื่อนแรง ๆ อย่างหมั่นเขี้ยวปนเอ็นดู “โอ๊ย เจ็บนะ!” ใบชาร้องออกมา ก่อนจะรีบดันมือเพื่อนออก แล้วใช้มือลูบแก้มตัวเองเบา ๆ อย่างป้อย ๆ ใบหน้ายังคงงุนงงแต่ก็ดูผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย “นี่ ถ้าจะพูดถึงแก๊งดาวเด่นคณะบริหารนะ ฉันนี่รู้จักดีเลย!” พราวว่าอย่างตื่นเต้น ขณะวางแขนเท้าคาง หันมาทางใบชากับเสือ “โอ้ยย แกพูดเหมือนตัวเองเป็นพีอาร์ให้พวกเขาอะ!” ขมิ้นรีบแทรกก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เฮอะ! ถ้าจะให้พูดจริง ๆ ก็เหมือนอยู่นะ!” พราวยิ้มอย่างภูมิใจ ก่อนจะเริ่มเล่ารายชื่อทีละคน “คนแรกแน่นอนเลย… ‘พี่คีย์’ หรือ ‘คีย์ — อัครเดช นันทวัฒน์’ หล่อ แบดบอย เย็นชา ขวัญใจสาวทั้งคณะ! แต่ขึ้นชื่อเรื่องความสัมพันธ์ไม่จริงจังสุด ๆ บอกเลย ใครได้ไปก็เหมือนยื่นใบลาออกจากความรัก!” ใบชานิ่งเงียบ แววตาสั่นเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อและคำบรรยายของคีย์ “คนที่สอง ‘พี่สิง–ศิวกร คฑากรศีล’ พี่ชายเสือคนนี้หล่อแนวพระเอกซีรีส์เกาหลี พูดน้อย สุขุม แต่ใจดีมากนะ! เรียกว่าหล่อแบบมีคลาส สาว ๆ เทใจให้เพราะความเงียบขรึม แต่ก็หายากพอ ๆ กับทองคำขาว” “เอออันนี้จริง!” ขมิ้นพยักหน้าหงึก ๆ เสริม “แล้วก็คนที่สาม ‘พี่คราม–ครามเมธร์ ณรงค์พาณิชย์’ ลูกชายเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หมื่นล้าน! เจ้าชู้แบบหรู ๆ สายเปย์ตัวพ่อ เปย์ทั้งแฟน เปย์ทั้งเพื่อน…แต่ไม่เคยจริงจังกับใคร” “หล่อก็ยังไม่พอ! รวยเวอร์ แล้วแฟนแต่ละคนก็ไม่ธรรมดานะ นางแบบบ้าง ดาราบ้าง!” “คนที่สี่ ‘พี่ฟลินท์–อชิรญา วิสุทธิ์ภักดี’ หล่อแบดบอยสไตล์อาร์ติสต์ ขรึม ๆ หน่อย ชอบแต่งตัวแนวสตรีท ดูนิ่ง ๆ แต่จริง ๆ ข้างในแอบติสต์เกินต้าน เคยมีข่าวว่าเล่นดนตรีอยู่ผับลับ ๆ ด้วยนะ” “แล้วคนสุดท้าย ‘พี่ไทน์–รชต ไตรภพ’ หล่อซน ๆ สไตล์ไอดอลเกาหลี เป็นคนเฮฮา ตลก เป็นมิตรกับทุกคน เป็นเหมือนน้ำใจกลางวงที่คอยเชื่อมเพื่อนทั้งกลุ่มไว้ด้วยกัน” “อืมม ใช่เลย ทุกคนมีคาแรคเตอร์ชัดมาก เหมือนเดินออกมาจากซีรีส์อะ!” ขมิ้นพูดพร้อมตีมือพราวเบา ๆ ใบชาเงียบ ฟังไปเงียบ ๆ พร้อมกับหลุบตามองโต๊ะอย่างครุ่นคิด ในหัวเธอเต็มไปด้วยชื่อของใครบางคนที่เพิ่งเอ่ยถึง… เสือที่นั่งข้าง ๆ ยังเงียบเช่นเคย แต่สายตาที่มองใบชาเต็มไปด้วยแววสงสัยปนเป็นห่วงเล็ก ๆ ราวกับรับรู้ได้ถึงความอ่อนไหวของเพื่อนร่วมโต๊ะที่กำลังคิดอะไรอยู่คนเดียว หลังจากที่ใบชานั่งฟังเพื่อน ๆ พูดคุยกันเรื่อง “แก๊งดาวเด่นแห่งคณะบริหาร” ได้ไม่นาน เธอก็รู้สึกเหมือนหัวใจเริ่มหนักขึ้น ความรู้สึกบางอย่างที่เคยพยายามกลบฝังกลับผุดขึ้นมาอีกครั้งในจิตใจ “ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เธอเอ่ยเสียงเบา พร้อมรอยยิ้มจาง ๆ ที่ดูฝืนมากกว่าเป็นธรรมชาติ พราว, ขมิ้น และ เสือ หันไปมองเธอพร้อมกัน แม้จะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทักอะไร ทุกคนพยักหน้าเบา ๆ ให้เธอไปตามทาง ทางเดินหน้าห้องน้ำค่อนข้างเงียบ มีเพียงเสียงฝีเท้าและลมแอร์เย็น ๆ ที่พัดผ่าน ใบชาเดินเร็วขึ้นอย่างไร้จุดหมาย ราวกับแค่อยากออกห่างจากบทสนทนาเมื่อครู่ให้เร็วที่สุด แต่ในจังหวะหนึ่ง—เธอหันเลี้ยวหัวมุมโดยไม่ทันดูทาง และทันใดนั้นเอง… ปึ้ก! ร่างบางของใบชาชนเข้ากับใครบางคนอย่างแรงจนตัวเซถอยหลังและ ล้มลงนั่งกับพื้นทันที เธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ… แล้วภาพตรงหน้าก็ทำให้ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ คีย์—ชายหนุ่มที่เธอไม่คิดว่าจะได้เจอในเร็ววันนี้ กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เขามาพร้อมกับเพื่อนอีกสี่คนในแก๊งของเขา สิง, ฟลินท์, ไทน์, คราม แต่ไม่มีใครพูดอะไร คีย์มองเธอด้วยสายตาเย็นชา เย็นจนเหมือนไม่มีความรู้สึกใดเหลืออยู่เลย ไม่ตกใจ ไม่ช่วยเหลือ ไม่แม้แต่จะยื่นมือให้ มีเพียงแววตานิ่งเฉย… เยียบเย็นราวกับสายลมในฤดูหนาว เสียงฝีเท้าของเสือหยุดลงตรงหน้าใบชา เขาชะงักไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะรีบก้าวเข้ามาหาเพื่อนสาวที่นั่งอยู่กับพื้น “ชา เป็นอะไรรึเปล่า?” น้ำเสียงของเขาเรียบแต่มีแววห่วงใยอย่างชัดเจน มือหนาเอื้อมเข้ามาประคองร่างบางให้ลุกขึ้นยืนช้า ๆ ใบชาพยักหน้าเบา ๆ พลางปัดฝุ่นตามชุดนักศึกษาที่เปื้อนเล็กน้อยจากการล้มลง “ไม่เป็นไร… ขอบคุณนะ” เธอเอ่ยเบา ๆ แทบจะกระซิบ ริมฝีปากยิ้มจาง ๆ แต่แววตากลับวูบไหวอย่างปิดไม่มิด ตรงหน้าของเธอ คีย์ยังคงยืนอยู่ในท่าทีไม่ยี่หระ สายตานิ่งเฉยราวกับไม่รู้จักเธอเลยด้วยซ้ำ และข้างหลังเขา… เพื่อนอีกสี่คนในแก๊งดาวเด่นก็พากันชะเง้อมองอย่างแปลกใจ แม้จะไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด แต่ก็รับรู้ได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติในสายตาของหญิงสาวตรงหน้า “เธอคือ…” สิงเอ่ยขึ้นเบา ๆ แต่ถูกคีย์หันขวับมาหาด้วยแววตาดุ ก่อนเขาจะเอ่ยเสียงเรียบ “ไปเถอะ” พูดเพียงเท่านั้น คีย์ก็เดินนำเพื่อน ๆ ของเขาจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมา เสียงฝีเท้าของพวกเขาหายลับไปในไม่กี่วินาที แต่ความรู้สึกอึดอัดในอกของใบชากลับยังไม่จางหาย เธอยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ราวกับจิตใจหลุดลอยไปไกลแสนไกล… “ชา…” เสือเอ่ยเรียกอีกครั้ง พร้อมวางมือเบา ๆ บนไหล่เธอ ใบชาหันมาสบตาเขา ก่อนจะพยายามฝืนยิ้มอีกครั้ง “ไปกันเถอะ เดี๋ยวอาจารย์จะเข้าแล้ว” เสียงเธอสั่นน้อย ๆ แต่เสือไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก เขาเพียงแค่เดินเคียงข้างเธอกลับไปยังห้องเรียนโดยเงียบ ๆ เช่นเคย ในใจใบชา… ‘หนึ่งปีที่ผ่านมา ฉันพยายามลืมเขา พยายามเก็บทุกอย่างไว้ข้างใน แต่พอได้เจออีกครั้ง มันกลับชัดเจนเหลือเกินว่าหัวใจฉัน…ยังไม่ลืม ด้านเสือ… เขาเหลือบตามองคนข้างกายเป็นระยะ แววตาฉายแววครุ่นคิด บางอย่างในใจเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย ‘พี่คีย์… เขาคือคนที่ชาเคยรู้สึกด้วยขนาดนั้น’ เสือเม้มปากแน่นอย่างที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว ‘แล้วฉันล่ะ…จะเป็นอะไรในสายตาเธอบ้างหรือเปล่า’ End partบทที่ 7โดย : meowmaoไม่รู้ว่าใบชาทำเวรทำกรรมอะไรถึงต้องมาลงเอ่ยอยู่ที่อยู่ที่แคมป์ต้อนรับนิสิตเข้าใหม่ที่ถูกจัดขึ้นโดยรุ่นพี่หลากหลายคณะเป็นคนจัดขึ้น“โถ่ ชา… แกจะงอแงงทำไมมม เนี่ยยไอ้เสือยังไม่บ่นซักกกคำเลยนะ” ขมิ้นพูดก่อนจะโอบกอดเพื่อนรักอย่างง้องอน“ใครว่า มันบ่นฉันนี่ นู่นหน้าบูดเป็นตูดไก่อยู่นั่น” พราวว่าก่อนจะนั่งลงตรงข้าม และเสือเองที่ทำหน้าหงิกก็นั่งลงข้าง ๆ พราวอย่างเซ็ง ๆ“เอาน่าพวกแกก ถือซะว่ามาเที่ยวพักผ่อนไง เนอะๆ ” ขมิ้นว่าก่อนจะทำท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู แต่สำหรับใบชา และเสือนั้นคงน่าเอือมระอามากกว่า“แกรู้ใช่มั้ย ใครจัดงานนี้” ใบชาพูดก่อนจะที่ขมิ้นจะหันมายิ้มแหย่ ๆ ให้ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ“โน่นเลยคนอยากมา” ขมิ้นพูดก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางพราว ทั้งใบชาและเสือต่างก็หันมามองพราวเป็นตาเดียวพราวเองก็ได้แต่ยิ้มเยาะ ๆ“เก๊าเองง แงง คือแบบเราอยากมาอะ พวกแกจะทิ้งฉันมาคนเดียวจริงหรอออ?” ราวว่าก่อนจะทตาปริบ ๆ อย่างต้องการให้คนมองเห็นอกเห็นใจ“ฉันรู้แต่แบบ ฉันไม่อยากเจอพี่คีย์…” เมื่อพูดถึงบุคคลที่เป็นประเด็นเมื่อหลายวันก่อนทั้งโต๊ะก็เริ่มกลับมาเงียบอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งเสือ
บทที่ 6โดย : meowmaoด้าน คีย์เสียงฝีเท้าดังสม่ำเสมอบนพื้นทางเดินหินอ่อนของอาคารเรียน กลุ่มชายหนุ่มห้าคนในชุดนักศึกษาสีขาวสะอาดตากำลังเดินเข้ามา พวกเขาคือ “กลุ่มดาวเด่น” ประจำคณะบริหาร ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม ทั้งหน้าตา ฐานะ และเสน่ห์ที่สะกดทุกสายตารอบข้างให้หันมามองแต่ในกลุ่มนั้น คนที่เดินนำหน้าอย่างเยือกเย็นที่สุด…คือเขา คีย์ หรือ อัครเดช นันทวัฒน์ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ดวงตาคมกริบเย็นชาที่เคยอ่อนโยนเมื่อในอดีต ตอนนี้กลับกลายเป็นเหมือน “กระจกที่ไร้แววสะท้อน” ไม่หลงเหลือแม้เศษเสี้ยวของผู้ชายอบอุ่นที่เคยเป็นและในไม่กี่วินาทีต่อมาปึก!เขาสะดุดเล็กน้อยเมื่อใครบางคนชนเข้าที่ตัวเขาโดยไม่ได้ตั้งใจหญิงสาวร่างเล็กเซไป ล้มลงกับพื้นทันทีพร้อมเสียงหอบเบา ๆ ที่หลุดออกมาคีย์หยุดเดิน…แววตาเย็นเฉียบก้มลงมองเธออย่างนิ่งงัน ไม่ได้รีบช่วย ไม่ได้ถามไถ่…เพียงแค่มองเธอเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนในพริบตา’ใบชา‘ชื่อของเธอผุดขึ้นในหัวแบบอัตโนมัติ แม้เขาจะพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาหญิงสาวที่เขาเคยไว้ใจที่สุด คนที่เขาเคยฝากความรู้สึกทุกอย่างไว้ โดยไม่คิดจะปิดบังเธอดูตกใจ ตกใจ
บทที่ 5โดย : meowmaoหนึ่งอาทิตย์ต่อมาเวลาผ่านไปไวราวกับโกหก นี่ก็ครบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่ใบชาเริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย หลังจากวันแรกจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่เคยเจอคีย์อีกเลย แม้บางครั้งจะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเขาผ่านหูมาบ้างก็ตาม“ชา” เสียงเรียบนิ่งตามสไตล์ของเสือ หนุ่มพูดน้อยผู้กลายมาเป็นเพื่อนใหม่ของใบชา ดังขึ้นข้างหลังขณะเธอกำลังนั่งรอเพื่อนอยู่ที่โต๊ะใต้อาคารเรียน“มาแล้วเหรอเสือ? คนอื่นยังไม่มาเลยนะ” ใบชาหันไปทัก พลางยิ้มบาง ๆ ให้เขา“อื้อ เห็นแล้ว” เสือตอบสั้น ๆ ตามแบบฉบับของเขา ทั้งคู่ต่างคุ้นชินกับการมาสายของขมิ้นและพราวจนไม่รู้สึกแปลกใจอะไรอีกแล้ว“พักนี้ขมิ้นเริ่มจะหนักข้อขึ้นทุกที” ใบชาว่าพลางถอนหายใจเล็กน้อย เธอเองก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ หลังจากที่ขมิ้นเริ่มติดใจการเที่ยวผับบาร์กับพราวมากขึ้น จนส่งผลให้มาสายแทบทุกวัน“อย่าคิดมากเลย ปล่อยให้เขาได้ใช้ชีวิตในแบบที่เขาชอบบ้าง” เสือพูดเรียบ ๆ พร้อมกับหยิบขนมจากในกระเป๋ายื่นให้เธอครึ่งหนึ่งตามเคยใบชารับขนมมาทันทีโดยไม่ต้องเอ่ยปากขอบคุณ เสือเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันที่สองที่รู้จักกัน—เขามักแบ่งขนมให้เธอเสมอ และเธอ
บทที่ 4 โดย : meowmao “ไม่อยากให้เปิดเทอมเลยอ่ะ ชา…” ขมิ้นพูดเสียงออดอ้อน ขณะเดินเข้ารั้วมหา’ลัยด้วยท่าทางห่อเหี่ยวผิดกับเมื่อวานลิบลับ เมื่อวานยังยิ้มร่า วิ่งวุ่นอยู่แทบทั้งวันอย่างกับมีพลังเหลือล้น แต่พอต้องเริ่มเรียนจริงจังกลับกลายเป็นบ่นไม่หยุดตลอดทางเสียอย่างนั้น… น่าหมั่นไส้ชะมัด “ไม่ต้องมาเลย ขมิ้นน…” ใบชาว่าพลางหัวเราะเบา ๆ “เมื่อวานรีบแทบตาย สุดท้ายก็หาเพื่อนไม่ได้สักคน” เธอส่ายหน้ายิ้ม ๆ เมื่อนึกย้อนถึงความวุ่นวายของเมื่อวาน ทั้งที่เดินวนไปทั่วซุ้ม เจอเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันนับไม่ถ้วน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครได้คุยกันนานพอจะเรียกว่า “รู้จัก” ได้เลย ทั้งเธอทั้งขมิ้นก็เลยยังคงวนเวียนอยู่ในโลกของกันและกันเหมือนเดิม คนละชมรมก็จริง แต่ก็ยังไม่มีใครใหม่มาแย่งตำแหน่ง “เพื่อนสนิท” ไปได้อยู่ดี “โธ่… ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าการเข้าหาคนอื่นมันจะยากขนาดนี้” ขมิ้นบ่นพลางทำหน้าบูด เซ็งจนเห็นได้ชัด แม้ภายนอกจะดูร่าเริง เข้าถึงง่าย พูดเก่ง และดูไม่มีอะไรต้องกลัว แต่ในความเป็นจริง… ขมิ้นกลับกลัวการเริ่มต้นบทสนทนาใหม่ ๆ อยู่เสมอ เธออาจจะเดินเข้าไปหาใครก่อน เป็นคนเริ่มทักทาย หรื
บทที่ 3 โดย : meowmao สองอาทิตย์ต่อมา “กรี๊ดดด!!! เราสอบติดจริง ๆ ด้วย!!” เสียงร้องดังลั่นจนแทบทำแก้วหูแตก ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน นอกจากขมิ้นที่ตอนนี้แทบจะกระโดดออกนอกหน้าต่างห้องของใบชาเพราะความดีใจจนล้นปรี่ “เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้น!?” ใบไม้รีบวิ่งพรวดเข้ามาในห้องน้องสาวด้วยความตกใจ หลังได้ยินเสียงกรีดร้องเมื่อครู่ “พี่ไม้!!! ขมิ้นกับชาสอบติดนิติมอพี่แล้วนะ!!” ขมิ้นที่ตื่นเต้นจนแทบระงับความรู้สึกไว้ไม่อยู่ รีบบอกข่าวดีกับพี่ชายของเพื่อนทันที “จริงเหรอ?!” ใบไม้ถึงกับอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น เมื่อได้ยินข่าวน่ายินดีนั้น “จริงสิพี่! ขมิ้นเพิ่งเช็กจากเว็บมหา’ลัยมาเมื่อกี้เลย!” ขมิ้นยังคงกระโดดโลดเต้นอยู่กลางห้อง ใบชานั่งยิ้มกว้างอยู่ที่ปลายเตียง แม้จะไม่ได้แสดงออกมากเท่าเพื่อน แต่แววตาของเธอก็เปล่งประกายไม่แพ้กัน “สุดยอดเลยว่ะ! เก่งมากทั้งคู่!” ใบไม้เดินเข้าไปตบไหล่ขมิ้นเบา ๆ แล้วหันมายิ้มให้ใบชา “ยินดีด้วยนะชา ภูมิใจในตัวพวกเธอจริง ๆ” “ขอบคุณค่ะพี่ไม้” ใบชาเอ่ยตอบเบา ๆ แต่เต็มไปด้วยความตื้นตัน “แล้วนี่จะฉลองกันยังไงดีล่ะ?” เขาหันไปถามด้วยสีหน้าระริกระรี้ “ข้าว
บทที่ 2 โดย : meowmao @ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง “โห… ที่นี่ใหญ่มาก! มีร้านดังแทบจะครบทุกแบรนด์เลยอะ ใหญ่กว่าห้างแถวโรงเรียนอีกแน่ะ!” ขมิ้นพูดตื่นเต้น ดวงตาเปล่งประกายขณะหันซ้ายหันขวาสำรวจทุกมุมของห้างใหม่ “คอยดูนะ ฉันจะมาทุกวันเลย!” ใบชาเพียงเดินเคียงข้างเงียบ ๆ พลางฟังเพื่อนสาวบ่นเจื้อยแจ้วโดยไม่ได้พูดตอบกลับอะไร… แววตาเธอทอดมองไปไกล ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ “นี่ชา แกไม่คิดจะตื่นเต้นกับฉันเลยเหรอ?” ขมิ้นหันมาทำหน้ามุ่ยใส่เพื่อนสนิททันทีเมื่อเห็นอีกคนเงียบกริบไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ใบชาเหลือบตามองเพื่อนอย่างเหนื่อยใจ ‘‘อะไรอีกล่ะเนี่ย…’ เธอได้แต่คิดในใจอย่างเอือมระอา กับนิสัยขี้น้อยใจของขมิ้นที่แค่เธอไม่กรี๊ดกร๊าดด้วยก็ทำท่าเหมือนโลกจะถล่ม “ก็ตื่นเต้นแหละ…มั้ง” ใบชาพูดพลางยักไหล่เบา ๆ ก่อนจะปรายตามองเพื่อนสนิทที่ทำหน้าบูดอยู่ข้าง ๆ แล้วส่งยิ้มจาง ๆ ไปให้แบบคนเอือมแต่ก็ยังรักอยู่ดี “จะให้กรี๊ดบ้านแตกเหมือนแก ฉันก็ทำไม่ได้นะเว้ย” ใบชาพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ “เชอะ! เอ้ะ!” ขมิ้นกำลังจะงอนเดินหนี แต่กลับหยุดชะงักทันทีเมื่อสายตาไปสะดุดกับร่างสูงของใครบางคนที่เดินผ่