"สวัสดีค่ะคุณออสติน" หญิงสาวตอบกลับพร้อมทั้งนั่งลงตรงข้ามกับเจ้าของใบหน้าหล่อตามฉบับลูกครึ่ง
"ผมเป็นผู้ดูแล Project นี้เองครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ"
"ค่ะ..." พิมดาวทำได้เพียงส่งยิ้มให้เขาน้อย ๆ ถ้าเขาเป็นผู้ดูแลโครงการนี้ก็แปลว่าต้องเจอกันบ่อย ๆ เลยน่ะสิ...แบบนี้ใครบางคนจะมาวีนใส่เธออีกไหมว่าทำตัวไม่เหมาะสม
คงไม่หรอกมั้ง...ก็มันเป็นงานนี่นา จะให้เธอนั่งบึ้งตึงใส่เขาก็คงไม่ควรเท่าไหร่
"ถ้ารู้จักกันก็ดีแล้ว งั้นเรามาเริ่มกันเลย" หลี่หมิงกล่าวเริ่มต้นการพูดคุยเรื่องโครงการทันที
"ครับ...นี่คือแบบตัวอย่างของ ZXY - Casino and Hotel โดยวิศวกรและนักออกแบบของเราครับ..." ออสตินพรีเซนท์รายละเอียดของโครงการอย่างมืออาชีพ พิมดาวนั่งฟังและจดตามอย่างตั้งใจ เพราะนี่ถือเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ของสองครอบครัว
ZXY จะถูกสร้างด้วยตึกขนาดใหญ่ที่มีส่วนสูงถึงสามสิบชั้น มันไม่เพียงแต่เป็นกาสิโนและสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไปเท่านั้น แต่จะมาในตีม 'สวนสนุกแห่งเงินตราและที่พักผ่อนระดับเวิล์ดคลาส'
จำนวนสามสิบชั้นจะถูกสร้างแบ่งเป็นโซน ๆ โดยกาสิโนและเครื่องเล่นต่าง ๆ นั้นอยู่ชั้นที่ชั้นสองถึงสิบหก และชั้นถัดไปจนถึงบนสุดจะเป็นโรงแรมกึ่งรีสอร์ตมีสระว่ายน้ำลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่เน้นรองรับแขกมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลก
โดย ZXY จะถูกสร้างขึ้นที่แผ่นดินมาเก๊าเพื่อขยายอนาจักรความเป็นเจ้าพ่อกาสิโน x กับราชาการโรงแรม อย่างยิ่งใหญ่
พิมดาวนั่งฟังด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความหรรษาที่ครบครันจนรู้สึกว่าแขกที่มาเล่นกาสิโน ZXY น่าจะตกอยู่ในวังวนที่หาทางออกได้ยาก เพราะในตัวอาคารมีทั้งร้านอาหาร ร้านขายสินค้าต่าง ๆ เครื่องเล่นนานาชนิด โรงหนัง สปา และจุดแลนด์มาร์กคือการจำลองแม่น้ำขนาดย่อมพร้อมทั้งมีเรือให้ล่องชมช่องแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาบริเวณตรงกลางของตึกอย่างงดงาม
การประชุมหารือนั้นเป็นไปด้วยความเพลิดเพลินจนล่วงเลยเวลามาจนถึงช่วงเย็น เมื่อถึงจังหวะที่จะแยกย้ายกันออกจากห้องออสตินก็เดินมาชวนคุย
"วันนี้ผมกับน้องสาวมีนัดทานข้าวกันที่ร้านอาหารไทย คุณพิมดาวไปทานด้วยกันไหมครับ" ออสตินเอ่ยชวนอย่างสุภาพ พิมดาวไม่รู้ว่าควปฏิเสธอย่างไรให้ไม่เสียน้ำใจ จึงส่งสายตาไปทางเกศมณีเพื่อขอความช่วยเหลือ
"ไปสิ หนูจะได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ ด้วย" เกศมณีเห็นด้วยกับการให้พิมดาวไปเปิดหูเปิดตาบ้าง แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย แต่บอดีการ์ดของสองตระกูลนั้นแน่นหนามากพอที่แค่การไปนั่งทานข้าวคงไม่เสียหายอะไร
"เอ่อ...แล้วเฮียอินล่ะคะ" พิมดาวเอ่ยถึงสามีสามวันดีสี่วันไข้ รอบก่อนแค่ยืนคุยกันยังโดนดุว่าทำตัวไม่เหมาะสม แล้ววันนี้ไปทานข้าวด้วยกันเขาจะไม่วีนแตกจนบ้านระเบิดเลยเหรอ
"ไม่ต้องไปกลัวมันหรอกน่า แค่ไปกินข้าวเอง แถมมีเอวาลินไปด้วย ไม่น่าเกลียดอะไรเลย" หลี่หมิงที่ยืนฟังอยู่เงียบ ๆ ถึงกับพูดออกมา เขาก็พอรู้อยู่ว่าลูกชายคนเล็กนั้นเอาแต่ใจ แต่คงไม่ไร้สาระถึงขั้นห้ามภรรยามีเพื่อนหรอก แถมออสติน และเอวาลิน หยางก็เปรียบเสมือนหลานของเขาเพราะเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก
"งั้นพิมขอส่งข้อความบอกเฮียอินก่อนนะคะ" แม้ผู้พ่อแม่สามีจะอนุญาตให้เธอไป แต่เธอก็ยังเกรงใจคุณสามีอยู่ เธอเลยต้องส่งข้อความไปบอกเขาสักหน่อย
"ได้ครับ เดี๋ยวผมไปรอที่รถนะ"
"ค่ะ" พิมดาวตอบรับอย่างเสียไม่ได้ หลี่หมิงกับเกศมณีพูดถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ไปก็คงเสียมารยาทสุด ๆ
[เฮียคะ วันนี้พิมไปทานข้าวข้างนอกกับคุณออสติน และคุณเอวาลินนะคะ]
Read.
แปลก...วันนี้เขาอ่านข้อความเร็วมาก ปกติจะดองแชตเธอตลอด แล้วก็ไม่ค่อยตอบอะไรด้วย พิมดาวยืนรอเขาตอบอยู่พักหนึ่งก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าถือ อ่าน = รับรู้ แล้วกันนะ
"คุณพ่อลองอุ้มเลยค่ะ" เมื่อผ่านขั้นตอนการคลอดลูกจนมาพักอยู่ในห้อง VVIP แล้ว พยาบาลก็นำลูกน้อยของเขาและเธอมาให้คุณพ่อมาเฟียลองอุ้มแม้จะมือสั่นน้ำตาซึมไปบ้าง แต่ท่าทางของเขานั้นแสนจะแข็งแรงและดูมืออาชีพสมกับไปเข้าคอร์สติวการเลี้ยงลูกมาอย่างเข้มข้นตลอดหลายเดือนจริง ๆ ตอนนี้ทุกคนต่างอมยิ้มให้กับภาพที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็น...บุคคลที่เคยเอาแต่ใจและฝีปากเจ็บ ๆ จนทุกคนร้องไห้เพราะเขามามากกำลังอยู่ในโหมดคุณพ่อที่เห่อลูกเห่อเมียที่หนึ่งเขาอุ้มลูกน้อยอ้วนกลมโยกไปมาเบา ๆ อย่างเอ็นดู และจึงวางเหมยอิงไว้ที่เตียงเด็กแรกเกิดข้าง ๆ ภรรยา"น่ารักจังเลยหลานอาม่า โตมาสวยเหมือนหม่าม้าหนูแน่ ๆ " เกศมณีเดินเข้าไปมองใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของหลานสาวด้วยความรักตอนนี้ครอบครัวจางอยู่กันพร้อมหน้าเพื่อตอนรับหลานสาวคนแรกของตระกูล...พวกเขาทั้งเอ็นดูและหมั่นแวะเวียนมาพูดคุยกับเจ้าตัวน้อยที่นอนหลับพริ้มอย่างรักใคร่ นั่นทำให้พิมดาวตื้นตันใจเป็นอย่างมากที่ทุกคนรักและเอ็นดูลูกสาวของเธอแม้เธอจะเติบโตมาด้วยการเป็นลูกสาวที่พ่อไม่ค่อยจะรักสักเท่าไหร่ แต่เธอก็มั่นใจได้ว่าเหมยอิงจะไม่ได้รับประสบการณ์แบบเธอแน่นอน เพราะดวงใจ
"เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน!""..." หญิงสาวหยิบที่ตรวจครรภ์มาจากสามี ขีดทั้งสองนั้นชัดเจนจนมือไม้ของเธอสั่น แม้ว่าใจลึก ๆ จะพอรู้ว่าตัวเองน่าจะท้อง แต่เมื่อผลตรวจออกมาตอกย้ำความเป็นจริงแบบนี้ก็ทำให้พิมดาวดีใจจนน้ำตารื้นได้ ถึงจะดีใจแค่ไหนแต่หญิงสาวก็รู้สึกกลัวและไม่มั่นใจ"พิมไม่ดีใจเหรอ" อินหลงรีบเดินมาโอบภรรยาด้วยความเป็นห่วง"ดีใจค่ะ แต่ก็กลัว...""กลัวอะไรครับ""พิมไม่มั่นใจ พิมไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้ดีไหม" หญิงสาวพูดตรง ๆ ถึงความกังวลในอนาคต"โถที่รัก พิมต้องเป็นหม่าม้าที่ดีที่สุดในโลกอยู่แล้ว น่ารัก ใจดี ทำกับข้าวก็เก่ง มีอะไรที่ต้องกังวลครับ" ชายหนุ่มยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูภรรยาตัวน้อย เขาเข้าใจที่เธออาจมีความกลัวและกังวล เพราะว่ากันตามตรงเธอก็อายุเพียงยี่สิบต้น ๆ เอง แถมยังผ่านเรื่องราวมามากมาย และสามีก็ยังใจร้ายกับเธอมาตั้งนาน"ฮือ...พิมดีใจ" คนตัวเล็กโผเข้ากอดสามีที่เพิ่งจะดีกันได้ไม่กี่ชั่วโมงด้วยความรักใคร่ ไม่อาจปฏิเสธเลยว่าทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขา เธอมักจะรู้สึกปลอดภัยราวกับถูกโอบกอดด้วยภูเขาแสนอบอุ่นอยู่เสมอ"ฮ่า ๆ โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรนะครับ" อินหลงหัวเราะกับท่าทีเหมือนเด็กน้อยข
แสงพระจันทร์ยามค่ำคืนสาดส่องเข้ามาในห้องนอนที่เพิ่งเป็นสถานที่เปิดศึกรักไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนทำให้หญิงสาวตื่นขึ้นมา ภาพแรกที่เธอมองเห็นคือใบหน้าหล่อราวกับรูปปั้นสลักที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขหลังจากจบบทรักแสนเร่าร้อนบนเตียง เขาก็อุ้มเธอเข้าไปอาบน้ำและสูบพลังเธอไปอีกหลายครั้งจนหญิงสาวต้องบอกให้เขาพอก่อน เพราะเธอเขาสั่นจนแทบยืนไม่ไหวแล้ว แม้คนตัวสูงจะแอบบ่นอุบอิบเพราะยังกินไม่หนำใจ แต่ก็ยอมใส่อาบน้ำใส่ชุดและมานอนให้เรียบร้อยตามคำสั่งภรรยาหญิงสาวกวาดสายตาไปมองนาฬิกาและพบว่าตอนนี้เวลาที่เธอสะดุ้งตื่นมานั้นประมาณตีสองเอง อีกนานกว่าจะเช้า หญิงสาวเลยพยายามหลับตาเพื่อจะนอนอยู่ในอ้อมกอดของสามีต่อแต่อาการปั่นป่วนก็เข้าเล่นงานเธอเวียนหัวมาก รู้สึกคลื่นไส้หนักจนต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำและนั่นทำให้สามีของเธอตื่นขึ้นมาทันที"พิม เป็นอะไรครับ!""อ้วก..." พิมดาวอาเจียนออกมาเต็มอ่างล้างหน้าโดยมีอินหลงเดินเข้ามาลูบหลังภรรยาที่กำลังอาเจียนอย่างหนัก น้ำตาใส ๆ เอ่อคลอเพราะความทรมานในการออกแรงอาเจียนใช้เวลาอยู่พักหนึ่งเธอก็ปลดปล่อยของเสียออกมาจนหมด พิมดาวรีบล้างปากและกำลังจะทำความสะอาดซากอ้วกของต
"อ่า...เสียว" อินหลงสูดปากร้องครางเมื่อถูกการสุขสมของภรรยาบีบรัดตัวตนของเขาจนแทบจะเสียการควบคุม ชายหนุ่มดันเรียวขาขาวให้ขึ้นไปชิดกับทรวงอกนุ่ม จนตอนนี้สะโพกของเธอลอยเด่นขึ้นเหนือเตียงนอน พาให้ร่างกายนุ่มนิ่มรองรับการตะบี้ตะบันกระแทกของเขาอย่างลึกขึ้นไปอีกมือหนากดขาภรรยาจนแนบแน่นติดไปกับเต้าตูมและตะบี้ตะบันตอกกระแทกท่อนเอ็นใส่โพรงเนื้ออุ่นอย่างหนักหน่วงเสียงเนื้อกระทบเนื้อผสานกับเสียงครางของเขาและเธอดังก้องไปทั่วทั้งห้อง เขาไม่แคร์ว่าใครจะได้ยิน เพราะการได้เอากับเมียแบบดุเดือดแบบนี้แหละที่เขาโหยหามานานแสนนาน และเขาไม่จำเป็นต้องปกปิดความเสน่หาที่มีต่อร่างกายเธออีกต่อไปแล้วต่อจากนี้และตลอดไป เขาจะแสดงออกในทุก ๆ วันว่ารักและหลงใหลในตัวเธอมากแค่ไหน อินหลงอยากให้ภรรยาภูมิใจว่ามีสามีที่รักและเทิดทูนอย่างสุดหัวใจ"อ่า...เมียจ๋า รักนะครับ""รัก รักที่สุด" ระหว่างที่กำลังโจนจ้วงเข้าใส่ร่างบางอยู่นั้น เขาก็บอกความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมากับภรรยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะตอนนี้เขารักเธอจนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว..."อ๊า...พิมก็รักเฮียค่ะ" แม้จะถูกสามีบดเบียดมาไม่ได้พัก แต่คำว่ารักของเขานั้นชัดเจนในหัวใจ เ
"บ้า! ไปปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยค่ะ" พิมดาวฟาดไปที่ไหล่แกร่งแรง ๆ อย่างเขินอาย จะให้แม่บ้านมาได้ยินตอนเธอกำลังทำอะไรต่อมิอะไรกับสามีได้ยังไง เธอก็เขินเป็นนะ"ก็ได้ครับ" เขาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย แต่ยังคงไม่ยอมปล่อยเรือนร่างพิมดาวให้เท้าติดพื้น เขายังคงอุ้มเธอเกี่ยวเอวไว้อย่างนั้น และเวลาที่ก้าวเดินส่วนตรงนั้นก็จะเสียดสีกันอย่างน่าหวาดเสียวฟุ่บ...เมื่อปิดประตูเสร็จเรียบร้อย คนตัวสูงก็พาร่างเล็กลงมานอนบนเตียงและรีบทาบทับกายแกร่งลงมาคร่อมตัวเธอไว้ เขาประกบริมฝีปากลงมาและเริ่มจุมพิตอันดุดันอีกครั้งริมฝีปากของทั้งคู่ต่างบดขยี้กันและกัน ลิ้นร้อนแลกเปลี่ยนเป็นพัวพันเกี่ยวกระหวัดจนเสียงดังชัดเจน...เขาจูบเธอหนักแน่นราวกับต้องการกลืนกินลมหายใจที่โหยหามานานแสนนาน"อื้อ..." พิมดาวร้องครางอู้อี้ในลำคอเมื่อฝ่ามือร้อนของสามีปัดป่ายไปตามเนื้อตัวนุ่มนิ่มและจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ของเธอให้หมดไป อินหลงผละริมฝีปากออกและหันไปจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองจนตอนนี้ทั้งสองเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงประจักษ์แก่สายตาของกันและกันริมฝีปากร้อนของเขาไล่จูบที่แก้มใสทั้งสองข้างและเลื่อนไล้ลงมาซุกไซ้กับซอกคอขาวเนียนที่มีกลิ่น
"เฮีย...อย่าร้องไห้ค่ะ" พิมดาวทั้งตกใจและสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่จริงใจของเขาจนน้ำตาไหลตามกัน ยิ่งเขาสะอื้นดังขึ้นเท่าไหร่ หัวใจของพิมดาวก็เหมือนจะขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ "เฮียรักพิม..." คำบอกรักเจือเสียงหอบหายใจทำเอาหยาดธาราไหลรินออกมาเป็นสาย"เฮียจะไม่ยอมหย่ากับพิมเด็ดขาด ไม่…เฮียทำไม่ได้จริง ๆ เฮียขอร้องนะ ขอโอกาสให้ผู้ชายแย่ ๆ ที่รู้ตัวช้าได้ไหมครับ""เฮียรักพิม…เฮียขาดพิมไม่ได้ ฮึก" เขายังคงสะอื้นไห้อย่างต่อเนื่อง หยดน้ำตาของเขาหลั่งไหลออกมาจนเปรอเปื้อนบริเวณเอวเธอไปหมดเขากำลังเสียใจอยู่จริง ๆ … ไม่ใช่อาการผีออกผีเข้า แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยอมทุกอย่าง หมดสิ้นอีโก้ทุกทางตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว…และเธอยอมรับทั้งหัวใจอย่างซื่อสัตย์เลยว่า...โคตรรักเขาเลย รักจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจนะที่เลือกจะมอบใบหย่าให้สามีพิมดาวเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเขาเลย แต่เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราสองคน...ในวันแรกที่เธอคุยกับพ่อแม่ของเขาว่าจะหย่า พวกท่านก็ช็อกพอสมควรที่เธอตัดสินใจแบบนั้นแต่ที่เธอเลือกจะหย่า นั่นก็เพราะยึดมั่นในสัญญาที่เคยเซ็นไว้กับเขา คือเรื่องจบเมื่อไหร่