วันนี้ภาคินตื่นสาย เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบ ค่อนคืน บวกกับยาแก้ปวดที่กินเข้าไปเลยทำให้หลับยาว ใบหน้า หล่อเหลาสะบัดไปมา มือแกร่งยกขึ้นเสยผมที่ร่วงลงมาปรกหน้าผาก แล้วลูบลงไปบนแผลที่ศีรษะ ก่อนจะพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู สายป่านนี้เด็กกระถินคงไปทำงานแล้ว เมื่อคืนเขาเอารถมอเตอร์ไซค์เธอมา เลยไม่รู้ว่าเช้านี้เธอไปทำงานยังไง คงนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไป คิดเมื่อ กดรีโมตเปิดโทรทัศน์ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
เมื่อคืนเขาเมาหนัก ก่อนจะประสบอุบัติเหตุ เขาไม่รู้ว่าคู่กรณีเป็นใครมาจากไหน ดูจากสภาพแล้วก็น่าจะเป็นคนมีอันจะกิน เพราะรถที่ขับราคาหลักล้าน เขาเอาเธอไปทิ้งไว้ให้กระถิน ไม่รู้ว่ายายบ้านั่นจะแผลงฤทธิ์ใส่กระถินหรือเปล่า แต่ก็ดีแล้วที่เอาไว้ตรงนั้น เพราะถ้าขืนให้เธออยู่กับเขา มีหวังเธอคงได้ลงไปอยู่ในหลุม และเขาก็ต้องย้ายบ้านไปอยู่ในคุกเช่นกัน
“ผู้หญิงบ้า” ก่นด่าเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน คนอะไรร้อง อยากตาย ๆ รู้อย่างนี้เขาไม่เสี่ยงชีวิตไปช่วยหรอก ปล่อยให้ไฟคลอกตายก็ดีแล้ว
ร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำ เป็นจังหวะเดียวกับที่ในโทรทัศน์รายงานข่าวอุบัติเหตุ ตาคมเข้มมองภาพที่อยู่ในจอ ก่อนจะประมวลผล ใช่แน่ ๆ ทั้งรถและสถานที่ เป็นเหตุการณ์เดียวกับที่เกิดขึ้นกับเขา เมื่อคืน ถึงภาพในจอจะเป็นแค่ซากรถก็เถอะ แต่เขาก็จำได้
“มีรายงานว่าผู้จัดการส่วนตัวของนางแบบสาว ออกมาให้สัมภาษณ์ว่านางแบบสาวปลอดภัย บ่ายนี้จะตั้งโต๊ะแถลงข่าว ลองไปฟังเสียงให้สัมภาษณ์ของป้าไก่ ผู้จัดการส่วนตัวของคุณเขมจิรากันค่ะ”
นักข่าวสาวรายงาน ก่อนที่ภาพจะตัดไปเป็นร่างใหญ่ของสาวประเภทสองที่ยืนให้นักข่าวสัมภาษณ์ ที่มุมบนด้านขวามือมีรูปนางแบบที่เป็นเจ้าของรถคันที่ประสบอุบัติเหตุจนเหลือแต่ซาก ภาคินจำได้ว่าเธอคือผู้หญิงคนที่เขาช่วยชีวิตไว้เมื่อคืน ตาคมเข้มจับจ้องไปยังใบหน้าสวยหวาน หูยังฟังเสียงให้สัมภาษณ์ของสาวประเภทสอง คนนั้น เมื่ออยู่ ๆ ก็เกิดสนใจเรื่องราวของเธอขึ้นมา
“ตอนนี้น้องขิมปลอดภัยแล้วค่ะ แต่ยังไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ น้องไม่เป็นอะไรมากค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ส่งให้น้องนะคะ พี่ขอเป็นตัวแทนของขิม ขอบคุณ ทุกคนค่ะ”
ร่างสูงยังยืนอยู่ที่เดิม จับใจความได้ว่าผู้หญิงคนนั้นชื่อเขมจิรา เป็นนางแบบ เธอเดินทางมาหาเพื่อนที่เชียงรายจึงมาประสบอุบัติเหตุ แต่ยังมีนักข่าวบางคนแย้งว่าสาเหตุที่นางแบบสาวเดินทางไปเชียงราย เพราะจับได้ว่าสามีนอกใจ เธอจึงหนีไปเลียแผลใจ
“อ้อ... ผัวมีชู้นี่เอง ถึงได้อยากตาย”
ภาคินพูดกับตัวเองเมื่อกดปิดโทรทัศน์แล้วเดินมาเรือนใหญ่ ซึ่งเป็นบ้านของเจ้านายกับนายหญิง สายป่านนี้คนบ้านใหญ่คงกินข้าวเช้ากันแล้ว เพราะคุณหนู ๆ ต้องไปโรงเรียน ชายหนุ่มจึงเลือกเดิน เข้าครัว หากาแฟดื่มสักถ้วย ตาจะได้สว่าง
“พี่เข้ม หัวไปโดนอะไรมาคะนั่น” ทันทีที่เดินออกมานั่งหน้าบ้าน เสียงหวานใสของเจ้าของบ้านก็เอ่ยถาม ภาคินหลบตาเมื่อภัทรทิรามองมาด้วยสายตาห่วงใย
“หัวแตกครับ คุณหมอกไปไหนเหรอครับ” ภาคินหันมาตอบ นายหญิงก่อนจะถามหานายใหญ่ เพราะตอนที่เขาเดินมาไม่เห็นรถของสินธรจอดในโรงรถ
“หมอกไปซื้อปุ๋ยค่ะ พาลำธารไปด้วย ว่าแต่หัวไปโดนอะไรมาคะ เย็บหรือเปล่า” ภัทรทิราตอบคำถามแล้วถามกลับ ก่อนจะหย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ตัวตรงข้าม ภาคินเสยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม อยากจะกลอกตา สักร้อยตลบ ผัวเมียคู่นี้นิสัยเหมือนกันจริง ๆ ถ้าอยากรู้อะไรต้องรู้ให้ได้ ถ้าเขาไม่ตอบภัทรทิราก็จะถามซ้ำ ๆ จนกว่าจะได้คำตอบ ดีเหมือนกันเล่าให้เมียฟัง จะได้ไม่ต้องเล่าให้ผัวฟังอีกรอบ เพราะภาคินเชื่อเหลือเกินว่านายหญิงจะต้องเล่าเรื่องของเขาให้นายใหญ่ฟัง ตาคมเข้มมองไปรอบ ๆ แม่เขาอยู่ไหนนะ เรียกให้มาฟังด้วยอีกคนดีไหม เขาจะได้ไม่ต้องเล่าหลายรอบ
ภาคินเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ให้ภัทรทิราฟัง แต่เลือกที่จะ ไม่เล่าเรื่องกระถิน เพราะอะไรที่ทำให้นายหญิงไม่สบายใจ เขาก็จะ ไม่ทำ
“แล้วเช้านี้ทำแผลยังคะ มาค่ะ ขอวิวดูหน่อย”
ภัทรทิราพูดพร้อมขยับเข้าหา ทำท่าทางจะดูแผลบนหัวของเขา ภาคินรีบปฏิเสธนายหญิง เว้นระยะห่างเอาไว้ดีที่สุด ใครจะรู้ว่า ขนาดมีลูกด้วยกันสามคน เจ้านายของเขายังหวงเมียยิ่งกว่าไข่ในหิน เหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนยังฝังอยู่ในหัว แค่นายหญิงใส่เสื้อคลุม ของเขา คุณหมอกก็แทบจะเป่าหัวเขาทิ้ง
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมให้แม่ทำให้ดีกว่า ขอตัวนะครับ” ร่างสูงลุกขึ้นเมื่อดื่มกาแฟหมดแก้ว เดินเอาแก้วไปเก็บในครัว แล้วหาอะไร รองท้อง เพราะต้องกินยาตามที่หมอสั่ง
จังหวะที่ภาคินเข็นรถมอเตอร์ไซค์ออกจากโรงรถ กระบะโฟวิล คุ้นตาก็ขับเข้ามาจอดขวางด้านหน้าพอดี ตาสองคู่สบกันก่อนที่ตาของคนสูงวัยกว่าจะเป็นฝ่ายหลบ เมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกมองด้วยสายตารู้ทัน ภาคินเข้มกลืนน้ำลายลงคอ เขาบอกกับสินธรว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเด็กกระถินแล้ว แต่มอเตอร์ไซค์ที่เขากำลังคร่อมอยู่ ก็เป็นหลักฐาน มัดตัวจนดิ้นไม่หลุด
ปากร้อนบดจูบปากเล็กอย่างเรียกร้องและเอาแต่ใจ ชายหนุ่มไม่สนใจกำปั้นน้อย ๆ ที่ฟาดลงมาบนอกเขา ยิ่งเธอทำร้ายเขามากเท่าไร เขาก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักบดขยี้ปากเธอแรง ๆ ดูซิจะเก่งได้สักกี่น้ำ ภาคินคิดอย่างสะใจและต้องการเอาชนะเธอเขมจิราดิ้นหนักเมื่อกำลังจะขาดอากาศหายใจ เขาจะฆ่าเธอ ให้ตายใช่ไหม ภาคินถอนปากออกเพื่อให้เธอได้หายใจ ก่อนจะซ้ำลงมาอีกครั้ง และอีกครั้ง จูบจนพอใจจึงถอนปากออก ใบหน้าหล่อเหลายัง ไม่ถอยไปไหน หน้าผากกว้างยังแตะอยู่กับหน้าผากมน ตาคู่คมมองลงในตาคู่สวย ที่ก้มลงมองกระดุมเสื้อของเขา “ปล่อย!” หญิงสาวดิ้นหนี มือบางผลักลงที่อก ภาคินยังเฉย มือที่ประคองใบหน้าสวยลูบลงบนแก้มใสเบา ๆ แล้วใช้หัวแม่มือเกลี่ยลงบนกลีบปากที่บวมช้ำอย่างนึกเอ็นดู“อย่าค่ะ!” เขมจิราใช้มือปิดปากเขาเอาไว้ เมื่อภาคินทำท่าจะซ้ำลงมาอีก“นึกว่าลืมปากไว้ที่ตลาดนัด” ภาคินเอ่ยล้อเลียน เมื่อดึงมือเธอออกจากปากแล้วจูบลงบนนิ้วเรียว เขมจิราเผลอค้อนให้เขาวงโต หน้าร้อนผ่าว ไม่เข้าใจว่าเขาทำแบบนี้ทำไม ใบหน้าสวยงอง้ำด้วยความโกรธ เขาไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับเธอ“ปล่อย!” หญิงสาวดึงมือออกจากมือของเขา แล้วนั่งตัวตรง ภาคินยอม
หลังจากเลิกงานกระถินก็แวะซื้อกับข้าวที่ตลาดนัด เช่นเคย หญิงสาวซื้อไข่ ของสด และผลไม้ไปตุนไว้ในตู้เย็น จะได้ไม่ต้องแวะบ่อย ๆ จังหวะที่เธอรับถุงผลไม้จากแม่ค้า ตากลมโตก็เหลือบไปเห็นชายหญิงคู่หนึ่งเดินจูงมือผ่านหน้าเธอไป ผู้ชายคนนั้นเธอคุ้นหน้าเขาเป็นอย่างดี เพราะเธอยังโทร. หาเขาทุกวัน“ลุง!” หญิงสาวรับถุงจากแม่ค้า ก่อนจะเดินตามคนคู่นั้นไปเร็ว ๆ“นี่ปล่อยนะ ฉันกลับเองได้” เขมจิรายังคงขัดขืน มือข้างที่ว่างแกะมือเขาออก เมื่อเขาลากเธอมาถึงรถกระบะของเขา “เงียบเถอะน่า ขึ้นรถ” ภาคินดุพร้อมกับออกคำสั่ง เมื่อพาเธอมายืนข้างรถ จังหวะที่ทั้งสองคนยังยื้อกันอยู่นั้นกระถินก็ตามมาถึงพอดี“ลุง! ลุงจ๊ะ”เสียงเรียกของหญิงสาว ทำให้คนทั้งสองหันมามอง ร่างสูงชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตู ในขณะที่เขมจิรายิ้มหวาน เธอจำกระถินได้“น้องกระถิน” เขมจิราพูดกับเธอแล้วก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสายตา ของคนมาใหม่ไม่ได้มองมาที่เธอเลยสักนิด เพราะตาของเธอจับจ้อง อยู่ที่ใบหน้าของผู้ชายที่ยืนข้าง ๆ เธอภาคินถอนหายใจ ร่างสูงหันกลับมามองกระถิน หัวใจแกร่งกระตุกเมื่อเห็นสายตาของหญิงสาวที่มองมาที่เขา มันมีทั้งความตัดพ้อ น้อยใจ และเ
ภาคินยืนมองหญิงสาวมาสักพักหนึ่งแล้ว เขาเห็นตั้งแต่เธอซื้อ น้ำปั่น ตอนแรกก็ไม่รู้สึกอะไร จนกระทั่งได้ยินคนพูดถึงการแต่งตัว ของเธอ ก็แม่คุณเล่นใส่เสื้อเอวลอยกับกางเกงยีนขาสั้นเสมอหู ไม่รู้ว่าคนที่ไร่แสงตะวันปล่อยออกมาได้อย่างไร รู้หรอกว่าเป็นนางแบบ แต่ช่วยทำตัวให้มันถูกกาลเทศะหน่อยจะได้ไหม มาเดินตลาดนัด ไม่ใช่มาเดินแฟชั่น จะได้จัดเต็มมาขนาดนี้ ภาคินขัดใจกับการแต่งตัวของเธอ พอมาได้ยินคนนินทาจึงพาให้โมโหไปกันใหญ่“ไก่ย่างขายยังไงคะ” หญิงสาวเดินมาจนถึงร้านไก่ย่างที่เป็นสาเหตุให้เธอปั่นจักรยานมาถึงที่นี่“ไม้ละห้าบาทค่ะ ข้าวเหนียวก็ห้าบาท” แม่ค้าตอบเป็นภาษากลาง เพราะเห็นเธอแต่งตัวแตกต่างจากคนแถวนี้“เอาไก่สามไม้ ข้าวเหนียวหนึ่งห่อค่ะ” เขมจิราสั่งแล้วล้วงกระเป๋าหยิบเงินยี่สิบบาทจังหวะที่จะรับถุงไก่ย่างจากแม่ค้า มือของใครบางคนก็ยื่นมารับถุงไปก่อนเธอ“ของฉันค่ะ” หญิงสาวร้องบอก เพราะกลัวเขาหรือเธอคนนั้น จะรับผิดถุง ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นหน้าคนที่ถือถุงไก่ย่างของเธอเต็มตา“คุณ!” ร่างบางยืนค้างอยู่กับที่ จนคนมาใหม่ต้องลากเธอออกมาจากหน้าร้าน เพราะเธอยืนบังลูกค้าคนอื่น“ไง สบายด
เขมจิรายังอยู่ที่ไร่แสงตะวันต่อ เพราะเธอไม่มีอารมณ์กลับไปทำงาน อดีตคนรักของเธอเล่นใหญ่บอกกับนักข่าวทุกสำนักว่าสาเหตุที่เลิกกันเพราะจับได้ว่าเธอคบซ้อน “คบซ้อนบ้านมึงดิ ไม่จบใช่ไหม ได้!” หญิงสาวเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันให้กับข่าวตามสื่อต่าง ๆ เธอเลือกที่จะอยู่เฉย ๆ เพราะคิดว่าไม่นาน ข่าวก็จะเงียบไปเอง แต่เหมือนกับว่าพอเธอไม่ตอบโต้ ทางฝ่ายนั้นก็ ยิ่งได้ใจ เขมจิราตัดสินใจส่งข้อความหาทนายความส่วนตัว ต้องจัดการให้เด็ดขาดจะได้จบสิ้นกันเสียที ชีวิตเธอจะได้อยู่อย่างสงบสุขหญิงสาวหยิบเงินใส่กระเป๋ากางเกง ยัดมือถือตามลงไป ก่อนจะเดินออกมาจากห้องพัก เธอยิ้มหวานให้เผ่าเพชรที่นั่งอยู่หน้าบ้าน แล้วแจกยิ้มให้ลูกน้องของเขาที่หันมามองหน้าเธอ เพื่อเป็นการ กลบเกลื่อน คนพวกนี้น่าจะเห็นเธอโป๊ในถ้ำ อายก็อาย แต่ต้องทำเป็นไม่สนใจ เพราะตอนนี้เรื่องของเธอกับผู้ชายคนนั้นก็เงียบไปแล้ว หลังจากวันนั้นเธอก็ไม่เคยเจอเขาอีกเลย“พี่เผ่า ขิมไปขี่จักรยานเล่นนะ” หญิงสาวเอ่ยบอกเจ้าของบ้าน “จะไปไหนเหรอ ปอสั่งไว้ว่า...”“พี่เผ่า อย่าไปฟังปอมันมาก มันเป็นห่วงขิมเลยสั่งนี่สั่งนั่น ขิมโอเคค่ะ”“อ้อ... ก็เอาสิ”
กระถินขับรถลัดเลาะมาตามคันคลองที่เป็นบ้านพัก คนงานของไร่ลุงสิงห์ ตั้งแต่ที่พ่อแม่โดนไล่ออกมาจากไร่สายธาร ภาคินก็พาท่านมาฝากเข้าทำงานที่นี่ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ใบหน้าสวยก็ยิ้มกว้าง ชีวิตของเธอมีเรื่องไหนบ้างที่ภาคินจะไม่เข้ามามีส่วนร่วม คำว่าพ่อทูนหัวที่พูลศักดิ์ใช้เรียกภาคินช่างเหมาะกับเขาจริง ๆคิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อเห็นรถกระบะจอดอยู่ที่หน้าบ้านถึงสองคัน ที่ข้างรถมีโลโก้ไร่พ่อเลี้ยงธงชัยติดอยู่ ความสงสัยยังไม่จางหาย ความตกใจก็เข้ามาแทนที่ เมื่อเห็นพ่อนอนอยู่กับพื้น แม่นั่งยกมือไหว้คนกลุ่มนั้นอยู่ข้าง ๆ ปากก็ร้องขออะไรบางอย่าง ในขณะที่คนกลุ่มนั้นยังรุมทำร้ายพ่อเธอไม่หยุด จนหน้าตาแตกยับไม่มีชิ้นดี“หยุดนะ!!!” ทันทีที่จอดรถได้ร่างบางก็วิ่งฝ่าวงล้อมเข้าไปหาพ่อกับแม่ แล้วกอดลงบนร่างที่เกือบหมดสติของพ่อ ใช้ตัวบังท่านเอาไว้“ถิน...” พ่อเอ่ยเรียกชื่อเธอแสนเบา เลือดสีข้นทะลักออกมาจากปากยามเมื่อเอ่ยชื่อเธอ ในขณะที่แม่เรียกเธอเสียงดัง ในตาของแม่มีแววบางอย่าง ยามเมื่อเห็นหน้าเธอ“กระถิน มาแล้วหรือลูก” น้ำเสียงที่ใช้เรียกดีใจจนออกนอกหน้า“พ่อ แม่ เกิดอะไรขึ้น พวกแกเป็นใคร มาทำร้ายพ่อฉั
เขมจิราตื่นขึ้นมาในตอนบ่ายของวัน อาการปวดหัวเข้าเล่นงาน เพราะนอนตากน้ำค้างมาทั้งคืนจึงทำให้เป็นไข้ หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นนั่ง มองสำรวจตัวเอง เนื้อตัวเธอมีแต่รอยขีดข่วน บางจุด ก็เขียวคล้ำ โดยเฉพาะหัวเข่าที่เขียวจนแทบจะกลายเป็นสีม่วง เมื่อคืนเขาพาเธอวิ่งเข้าไปในป่า เธอล้มลุกคลุกคลาน วิ่งชนนั่นชนนี่ บางครั้งก็โดนกิ่งไม้บาดจนได้เลือด โชคดีที่รอดมาได้ ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นมีของดีอะไร เธอได้ยินเสียงปืนดังเป็นห่าฝน แต่กระสุนกลับ ไม่ถูกเขาสักนัด“เฮ้อ!”หญิงสาวถอนหายใจ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อเช้า คนนับสิบยืนมองเธอกับเขานอนกอดกัน และที่สำคัญเธออยู่ในสภาพที่เกือบเปลือย“แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ความอายก็ เข้ามาเล่นงาน เธอคงอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว ความคิดในหัวต้องสะดุด เมื่อมีคนเปิดประตูเข้ามา“เป็นไงบ้าง”ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาลลนาก็ถามด้วยความห่วงใย มือบางวางถาดอาหารลงบนโต๊ะ แต่ตายังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าที่ซีดเซียวของเพื่อน“ยังปวดหัวนิดหน่อย แต่ปวดเมื่อยตามตัวนี่แหละหนักเลย”เขมจิราตอบแล้วรับแก้วน้ำจากเพื่อนมาดื่ม“ขิม ตกลงแกกับพี่เข้มไปด้วยกันได