ทันทีที่พยุงตัวได้ เขมจิราก็หันมาเล่นงานคนที่อยู่เหนือน้ำ เธอต้องตกเป็นเป้ากระสุน เธอเกือบตายเพราะเขา แต่คนเลวนี่ยังถีบเธอจนตกน้ำ รู้ว่าสิ่งที่เขาทำทั้งหมด ก็เพื่อช่วยชีวิตเธอ แต่บอกให้เธอโดดลงมาดีๆก็ได้ นอกจากจะเจ็บเพราะแรงกระแทกแล้ว บั้นท้ายเธอคงเขียวช้ำเพราะแรงถีบของเขาอีกด้วย "นี่แนะๆ ไอ้บ้า ไอ้เลว แกถีบฉันทำไม!"เขมจิรา ตวาดแหว ทันทีที่พยุงตัวเองลุกได้ เธอก็พุ่งเข้าหาเข้ม อาการเจ็บที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ไม่ได้ครึ่งกับที่เจ็บในใจเลยสักนิด "โอ๊ย!!!อะไรวะ"เข้มร้องลั่น เมื่อคนตรงหน้ากระโจนเข้าใส่ ร่างสูงหงายหลังลงไปในน้ำ ก่อนจะลำลักน้ำ เมื่อหญิงสาวพยายามจับหัวเขากดลงไปในน้ำอีกหลายครั้ง "ถีบฉันทำไม ห๊ะ! ถีบทำไม!"เขมจิราโมโหหนัก เมื่อรู้สึกเจ็บที่สะโพก ก็ยิ่งอยากทำให้เขาเจ็บเช่นกัน เขาถีบเธอเต็มรักขนาดนั้น กระดูกเธอไม่หักก็บุญแค่ไหนแล้ว "แค่กๆๆ"เข้มสำลักน้ำ เป็นเพราะไม่ทันตั้งตัว จึงถูก หญิงสาวเล่นงาน แค่วิ่งหนีก็เหนื่อยจะตาย ยายบ้านี่ยังมาจับหัวเขากดน้ำอีก มันจะมากเกินไปแล้วนะ ไม่สำนึก เขาช่วยเธอไว้แท้ๆ จะขอบคุณสักคำ
View Moreรถสปอร์ตสีแดงเพลิงคันหรูวิ่งฝุ่นตลบ เมื่อเจ้าของยัง เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด มือยังถือสายโทรศัพท์ค้างไว้ เมื่อเธอกำลังเล่าเรื่องราวที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตให้เพื่อนรักฟัง ใครจะคิดว่าคนอย่าง เขมจิรา เอื้อภากร นางแบบอันดับหนึ่งของประเทศ และเป็นผู้หญิงที่ ถูกโหวตว่าสวยเซ็กซี่ที่สุดในประเทศ จะถูกแฟนที่คบหากันมาจนถึง ขั้นจะแต่งงานนอกใจ
เมื่อคืนหลังจากที่บินกลับมาจากภูเก็ต หญิงสาวก็ขับรถตรงไปที่คอนโดฯ หรูย่านริมน้ำของแฟนหนุ่ม เพื่อเซอร์ไพรส์วันครบรอบที่คบหากันมาเจ็ดปี แต่เธอกลับถูกแฟนหนุ่มเซอร์ไพรส์กลับ เพราะสิ่งที่เจอ ในคอนโดฯ ของเขา นอกจากเสื้อผ้าที่วางทิ้งไว้ระเกะระกะตั้งแต่ห้องรับแขกไปจนถึงห้องนอน เธอยังเห็นแฟนหนุ่มนอนกกกอดอยู่กับสาวบนเตียง ทันทีที่เห็นภาพบาดตา ส้นสูงของเธอก็ฝังลงบนใบหน้าแฟนหนุ่มทั้ง ๆ ที่เขายังหลับ เธอไม่เสียเวลามองด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ไม่รอฟังว่าแฟนหนุ่มจะอธิบายอะไร เพราะภาพที่เห็นมันคือคำตอบสำหรับทุกสิ่ง อาถรรพ์เลขเจ็ดที่ใครหลาย ๆ คนเตือน เล่นงานเธอเข้าแล้ว แต่สำหรับเขมจิรา เธอรู้ว่ามันไม่ใช่ เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะความมักมากบวกกับความมักง่ายของผู้ชายคนนั้น อย่าไปโทษเลขเจ็ดเลย
เสียงมือถือ เสียงแอปพลิเคชันต่าง ๆ ยังดังไม่หยุด ตาคมหวานเหลือบมองเพียงนิด เมื่อเห็นเบอร์คนที่พยายามติดต่อ ความโมโหก็ ปะทุขึ้น แฟนหนุ่มของเธอยังโทร. หาไม่หยุด แถมยังส่งข้อความมาอีกมากมาย แต่เธอไม่อยากเห็นมัน มือบางหักพวงมาลัยรถเข้าข้างทาง จัดการปิดช่องทางการติดต่อจากแฟนหนุ่มทุกทาง แล้วกดต่อสายถึงเพื่อนรัก พยายามบอกตัวเองว่าโอเค ทั้ง ๆ ที่หัวใจไม่โอเคเลยสักนิด ความเจ็บปวดมันจุกอยู่ที่คอหอย เมื่อนึกถึงภาพเปลือยเปล่าของ แฟนหนุ่ม น้ำตาก็พากันไหลลงมาเป็นสาย หัวใจของเธอไม่ได้เข้มแข็ง อย่างที่เธอพยายามแสดงออก เธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่เจ็บได้และร้องไห้เป็น
ตื๊ด...ตื๊ด...ตื๊ด...
มือบางกำมือถือไว้แน่น เมื่อปลายสายยังไม่กดรับ น้ำตาก็พากันไหลออกมาอีกแล้ว
‘ขิม มีอะไรหรือเปล่า พอดีฉันยุ่งอยู่กับลูก ๆ น่ะแก’
ทันทีที่กดรับสายลลนาก็ถามกลับมารัวเร็ว เพราะเห็นเพื่อนพยายามติดต่อเธอหลายครั้ง ตั้งแต่เธอแต่งงานมาอยู่กับสามีที่เชียงราย ลลนาก็ขาดการติดต่อกับเพื่อน ๆ เพราะต้องดูแลลูก ๆ และสามี เพื่อน ๆ ก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
“นางปอ ฮือ ๆ ๆ ๆ นางปอ”
เขมจิราไม่อ้อมค้อม เมื่อเพื่อนรับสายเธอก็ปล่อยโฮออกมา กับลลนา พีทพล เมลดา พวกเธอไม่เคยมีความลับต่อกัน
‘ขิม! แกเป็นไร เกิดอะไรขึ้น’ ลลนาถามอย่างร้อนรน เมื่ออยู่ ๆ เพื่อนรักก็ปล่อยโฮมาตามสาย
“ไอ้บอยมันนอกใจฉัน มันมีคนอื่นอะแก มันพาผู้หญิงมานอน ในคอนโดฯ มันแก้ผ้า มัน... มัน...” เขมจิราระเบิดความอัดอั้นให้เพื่อนฟังเป็นชุด ลลนาตกใจ ไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่ปลอบให้เพื่อนใจเย็น ๆ ก่อน เพราะรู้นิสัยเพื่อนดี
‘ใจเย็น ๆ นะขิม ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน อีพริตกับเทนนิสรู้เรื่องนี้ หรือยัง’
“ยัง ฉันโทร. หาพวกมันแล้ว ฮึก... แต่คุณเกวรับสาย ฮึก... บอกว่าอยู่ทะเล ฮึก... ฉันเลยไม่อยากกวนมัน เทนนิสตามผัวไปต่างประเทศ ฉันก็เลยโทร. หาแก... ฮือ ๆ ๆ ๆ”
เขมจิราพูดไปร้องไป สูดน้ำมูกไป จนคนฟังจับคำพูดแทบไม่ได้
‘ตอนนี้แกอยู่ไหน’ ลลนาถามที่อยู่ของเขมจิราอีกครั้ง เธออยากให้เพื่อนอยู่ห่างจากคนรักให้มากที่สุดเพราะกลัวใจ เขมจิราเป็นคนเลือดร้อน ถ้าเธอมีอาวุธในมือ ไอ้บอยน่าจะได้ลงไปเฝ้ายมบาลในนรก
“ฉันออกมาจากคอนโดฯ ไอ้บอย ก็ขับรถมาเรื่อย ๆ น่ะแก”
‘เออ... แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหน จังหวัดอะไร พอจะบอกได้ไหม’
ลลนาถาม เพราะกลัวเพื่อนจะเตลิดไปมากกว่านี้ อย่างน้อย ๆ รู้พิกัดสักนิดก็ยังดี
“ฉันอยู่ที่...ที่” ตากลมโตกวาดมองไปเรื่อย เพื่อจะบอกที่อยู่ให้เพื่อนรับรู้ เธอเหยียบรถมาด้วยความเร็วสูง เพิ่งจอดก็ตอนที่จะโทรศัพท์นี่เอง
“ป้ายข้างทางบอกว่าอำเภอพบพระนะแก”
‘พบพระ!’
“ใช่”
‘นางขิม นี่แกขับรถยาวมาถึงจังหวัดตากเลยเหรอ!’
“ฉันไม่รู้ ฮือ ๆ ๆ ฉันคิดถึงแก ฮือ ๆ ๆ ๆ”
‘โอเค ๆ แกใจเย็น ๆ ก่อนนะ แกมาหาฉันที่เชียงรายนะขิม เดี๋ยวฉันแชร์โลเกชันให้ แกใจเย็น ๆ นะ ตั้งสติก่อน เดี๋ยวมาคุยกันที่ไร่นะขิม ฉันรักแกนะ’ ลลนาปลุกปลอบ เพราะรู้ว่าตอนนี้เพื่อนกำลังเสียใจ
“ฉันก็รักแก ฮึก... ฮึก” เขมจิราวางสายแล้วกดดูโลเกชันที่ลลนาส่งมาทางไลน์ ร่างบางพิงเบาะรถเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองขับรถยาวมาจนถึงจังหวัดตาก ดีแค่ไหนที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ นาทีนี้เธอไม่เหลือใครแล้วจริง ๆ สังคมในวงการมายามีแต่ความหลอกลวง ถ้าเรื่องของเธอแพร่งพรายออกไป รับรองว่าข่าวของเธอต้องเป็นข่าวฉาวแน่นอน เธอเลยขับรถมาที่นี่ เพื่อจะหาใครสักคนปรับทุกข์
“นางปอนะนางปอ จะมีผัวทั้งที ทำไมมันลำบากแท้” บ่นให้เพื่อน เมื่อขับรถมาตามเส้นทางที่ดูมาจากแผนที่
หญิงสาวขับรถด้วยความเร็วสูงโดยไม่จอดพัก เพราะกลัวจะมืดก่อนถึงบ้านเพื่อน ลลนาเองก็โทร. เช็กทุก ๆ ชั่วโมงเพราะห่วงเพื่อน
มือบางเบาเพลงในรถเมื่อเสียงมือถือดังขึ้นอีกครั้ง ช่วงนี้เป็น ช่วงขึ้นเขา ทางทั้งมืดและเปลี่ยว หญิงสาวกดรับสาย เธอไม่อยากจอดรถ เพราะมันเสียเวลา
“โอเคนางปอ ฉันขึ้นเขาที่แกบอกแล้ว ใช่... ไม่ผิดหรอก ฉันเห็นป้ายข้างทางแล้ว โอเคเดี๋ยวเจอกัน ไม่ ๆ ฉันโอเค จ้ะ เดี๋ยวเจอกัน”
วางสายจากเพื่อน เท้าก็กดคันเร่งเพิ่มความเร็วอีกนิด เพราะทั่วทั้งบริเวณมืดจนมองไม่เห็นทาง
ภาคินตะเบ็งเสียงแข่งกับเสียงเพลงในรถเมื่อหมุน คลื่นวิทยุมาเจอเพลงที่ถูกใจ เขาเป็นคนเหนือแท้ ๆ โดยกำเนิด แต่กลับชอบเพลงลูกทุ่งอีสาน ใบหน้าหล่อเหลาส่ายสะบัดเมื่อกำลังสวมวิญญาณเป็นนักร้องดัง วันนี้เขาขึ้นไปหาเพื่อนเก่าบนเขาเลยนั่งดื่มกันยาวไปหน่อย เพราะภรรยาของเพื่อนทำกับแกล้มถูกปาก เมื่อดื่มกับเหล้าที่เพื่อนเขาหมักจนได้ที่ ทุกอย่างจึงลงตัว ช่วงนี้งานที่ไร่ไม่มากเท่าไร เขาจึงแวบออกมาได้
“ไอ้เลว! ไอ้ชั่ว! ฮือ ๆ ๆ ฉันไม่ดีตรงไหน”
เมื่อความมืดเข้าปกคลุม ความเหงาก็ตามมา บวกกับเพลงซึ้ง ๆ ที่กำลังฟังอยู่ทำให้คนอกหักระเบิดน้ำตาออกมาอีกครั้ง ตลอดเวลาที่คบกันมา เธอไม่เคยนอกใจเขาเลยสักครั้ง ทั้ง ๆ ที่มีคนที่ดีกว่าเข้ามาในชีวิต เธอก็ยังรักเขาคนเดียว
จังหวะที่อารมณ์ดิ่งลงเหว เท้าก็เหยียบเร่งความเร็วอย่างลืมตัว รถสปอร์ตคันหรูราคาหลายสิบล้านจึงพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความ เร็วสูง แค่นั้นยังไม่พอ เมื่อคนขับสายตาพร่าเลือนรถหรูก็ส่ายเป็นงู
ภาคินยังตะเบ็งเสียงร้องเพลงไปเรื่อย จนไม่ทันสังเกตว่าตอนนี้มีรถคันหนึ่งกำลังสวนมา และไม่ได้วิ่งอยู่ในเลนตัวเอง
“เฮ้ย!!”
“กรี๊ดดดด!”
เอี๊ยดดด! โครม! เพล้ง! ตูม!!
ร่างสูงพลิกตัวลงมานอนแผ่บนที่นอน โดยมีร่างบางตามมา กอดเกยอยู่บนออกกว้าง ภาคินหอบจนซี่โครงบานเมื่อบทรักเร่าร้อน จบลง ตาคู่คมเบิกค้างเมื่อความเหนื่อยเข้าเล่นงาน ปีนี้เขาอายุสี่สิบหกปีแล้ว ภรรยาเขาก็อายุสามสิบแล้ว ถ้าอายุเขาเพิ่มขึ้นแล้วให้ความสุขกับภรรยาได้ไม่เต็มที่ เธอจะยังรักเขาไหม“คิดอะไรอยู่คะ” หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อเห็นคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน“เปล่าครับ” ภาคินบอกก่อนจะลูบมือลงไปบนแผ่นหลังบอบบาง “โกหกไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่นะคะ เป็นอะไรคะคิ้วยุ่งเชียว”ปากบางเอ่ยถาม พร้อมกับส่งมือเรียวไปกดคลึงบริเวณหว่างคิ้วของสามี“พี่กำลังคิดว่าถ้าวันหนึ่งพี่ให้ความสุขขิมไม่ได้ ขิมจะยังรักพี่ไหม” คำถามของภาคินทำให้คนที่นอนซบอยู่บนอกหน้ามองเขา ภาคินกำลังคิดอะไรอยู่ “ทำไมถามแบบนี้คะ”“ไม่รู้สิครับ พี่แก่กว่าขิมมาก พี่กลัวว่าถ้าพี่แก่มากกว่านี้ ขิมจะ ไม่รักพี่” ชายหนุ่มสารภาพความรู้สึกในใจให้เธอรับรู้“อะไรทำให้พี่คิดแบบนี้คะ”“ไม่รู้ครับ พี่พยายามจะไม่คิด แต่ก็อดไม่ได้”“พี่เข้มฟังขิมนะคะ ขิมรักเพราะพี่เข้มคือพี่เข้ม ไม่ว่าอนาคต จะเป็นยังไง ต่อให้พี่แก่กว่านี้ ขิมก็รัก ขิมจะไม่มีวันทิ้งพี่...
ทุกคนต่างก็มีความสุขที่เรื่องราวลงเอยได้ดี กระถินได้ปลดความรู้สึกผิดทั้งหมดออกจากใจ ภัทรทิราก็ได้เปิดใจ และอภัยให้เธอ สินธรเองก็ดีใจที่สุด ที่ภรรยาไม่ถือโทษโกรธกระถินแล้ว ถึงแม้เธอจะให้อภัยช้าไป จนเรื่องราวทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้ก็เถอะ“ถ้าวิวให้อภัยกระถินก่อนหน้านี้ เมียมึงจะชื่อกระถินไหมวะ”สินธรตัดสินใจถามเมื่ออยู่กันตามลำพัง คำถามของเขาทำให้ภาคินอมยิ้ม เมื่อสินธรยังไม่ยอมจบเรื่องนี้“ถามแบบนี้ต้องการอะไรครับ” ภาคินถามกลับ ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม“แค่อยากรู้ว่ามึงรักกระถินหรือเปล่า”“ไม่ว่าคุณวิวจะให้อภัยกระถินตอนไหน เมียผมก็ชื่อขิมครับ”ตอบก่อนจะยกแก้วในมือขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว ใบหน้า หล่อเหลาอมยิ้มเมื่อคิดถึงหน้าแม่ของลูก สินธรมองหน้าภาคินเพื่อ รอให้ภาคินอธิบายต่อ เขาอยู่กับภาคินมาตั้งแต่เด็ก และเชื่อความคิดตัวเองมาตลอดว่าภาคินรักกระถิน“ผมรักขิม รักมากที่สุด พอใจยังครับ”“กูรู้ว่ามึงโกหก มึงรักกระถิน” สินธรยังไม่ยอมแพ้ ยังต้อนภาคินต่อไป“หัวใจผมมีแค่ดวงเดียว และรักผู้หญิงแค่คนเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นกับกระถินมันคือความสงสาร ผมสงสารเด็กก็แค่นั้น”“แล้วมึงไปรักขิมตอนไ
ภาคินบอกกับลูกน้อยที่เป็นทั้งพยานรักและโซ่ทองคล้องใจ ปิยะพาเมียกับลูกมา ก็ใช่ว่าผู้หญิงคนนั้นคือกระถิน เพราะยังไม่เห็นกับตาและไม่ได้ถามพูลศักดิ์ ที่เขายิ้มก็เพราะว่าถ้าเป็นกระถินจริง ๆ เขาจะได้หมดห่วงที่ส่งเธอไปจนสุดทาง ถ้าเป็นกระถินจริง เธอก็ไม่ได้มาตัวเปล่ามีสามีกับลูกมาด้วย พูลศักดิ์เห็นท่าไม่ดีจึงชิ่งหนี อยากให้ผัวเมียคุยกันตามลำพัง“ขิมก็ยังรู้สึกแย่อยู่ดี เหมือนขิมแย่งพี่มาจากเธอยังไงก็ไม่รู้”“อย่าคิดมากสิครับ พี่รักขิม นี่ต่างหากคือคำตอบ ไม่มีใครแย่งพี่ได้ ถ้าพี่ไม่ได้รัก พี่รักขิมครับ ได้ยินชัดไหมว่าพี่รักขิม ไปบ้านใหญ่กับพี่นะครับ ไปแสดงความยินดีกับปิยะ”“ไหนว่ากระถินไม่กล้าเข้ามาที่นี่ เพราะพี่วิวไม่ชอบเธอไงคะ”“เวลาเปลี่ยนอะไร ๆ ก็เปลี่ยน กระถินคงมีเหตุผล คุณวิวก็เช่นกัน ไปกันเถอะ”“เอาเจ้าแฝดฝากแม่ไว้ก่อนไหม”“เอาไปด้วย พี่อยากอวด”“เห่อลูก มาค่ะ ส่งมาให้ขิมคนหนึ่ง” ร่างบางขยับมาใกล้ ๆ สามี เอื้อมมือมาช่วยอุ้มลูก แล้วเดินเคียงคู่ไปกับเขา เธอก็อยากรู้ว่าภรรยาของปิยะจะใช่กระถินหรือไม่ภาพในห้องรับแขกทำให้ภาคินรู้คำตอบ เมื่อเห็นปิยะกับกระถินนั่งอยู่บนพื้น ในอ้อมแขนของปิยะมีเ
เขมจิราออดอ้อน ร่างบางขยับเข้าไปจนชิดสามีก่อนจะถูไถใบหน้าไปกับแขนล่ำ ๆ ของภาคิน ส่งลูกใส่แขนอีกข้างของภาคินก่อนจะสอดแขนเข้าไปโอบเอวหนาแล้วซุกหน้าลงกับอกกว้าง สูดดมกลิ่นตัวสามีเข้าเต็มปอด พรมจูบไปทั่วแผงอกที่โผล่พ้นเสื้อออกมา“ขิมทำอะไรเนี่ย อายลูกเห็นไหม” ภาคินเอ่ยดุเมื่อเมียเขาเริ่มซุกซนไปเรื่อย เดี๋ยวใครมาเห็นจะเอาหน้าไปไว้ไหน เขาไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะอายุจะห้าสิบแล้ว“ขิมรักพี่เข้ม... ขิมรักพี่เข้มนะคะ” ปากบางพร่ำบอก จมูกเล็ก ได้รูปยังทำงานไปเรื่อย ใบหน้าภาคินเห่อร้อนจนลามไปถึงใบหูเมื่อ ลูกแมวยักยังอ้อนเขาไม่หยุด เลือดลมเริ่มเดินติดขัด อะไร ๆ ที่หลับอยู่เริ่มคึกคัก ว่าแต่เจ้าแฝดมันได้กี่เดือนแล้วนะ เขาส่งการเมียได้ยังหว่า ความคิดของภาคินต้องสะดุดเมื่อคนที่กอดเขาอุทานขึ้นมาสุดเสียง“โอ๊ย!” เขมจิราร้องอย่างตกใจเมื่อรู้สึกเจ็บที่หนังศีรษะ “ผมขิมค่ะ ผมขิม เจ้าแฝดดึงผมขิม” ร่างบางกรีดร้องเมื่อลูกแฝดที่อยู่บนตักพ่อช่วยกันดึงผมเธออย่างสนุกสนาน ภาคินหัวเราะลั่น อารมณ์ที่เตลิดเพราะถูกยายตัวเล็กก่อกวน เปลี่ยนมาเป็นเอ็นดูเมื่อเห็นมือน้อย ๆ กลมป้อมช่วยกันดึงผมแม่ เจ้าคินแค่ดึงเล่น ส่วนเจ้
ภาคินกับสินธรยังพูดจาหยอกล้อเจ้าแฝดอย่างสนุกสนาน เด็กน้อยหัวเท่ากำปั้นทำไมเก่งขนาดนี้ รู้จักส่งเสียงตอบโต้และหัวเราะตามเมื่อสินธรล้อ ไม่นานเขมจิราก็ขับรถเข้ามาจอดในโรงรถหน้าบ้าน ที่ภาคินต่อเพิ่มเติม เนื่องจากที่จอดในบ้านใหญ่ไม่พอ เพราะเมียเขาขนรถมาจากกรุงเทพฯ อีกหลายคัน แต่ละคันราคาหลักล้านทั้งนั้น ภาคินยังสงสัยไม่หายว่าทำไมเมียเขาต้องมีรถหลายคัน ขับก็ขับคนเดียว ขนซื้อเข้าไป ไม่รู้ว่าจะขับครบทุกคันหรือเปล่า เพราะเวลาไปไหนเธอก็ขับแต่กระบะของเขา“มากันแล้ว ได้อะไรมาบ้างแม่” ภาคินร้องถาม เมื่อป้านิ่มหอบของลงมาจากรถ“ของเจ้าแฝดทั้งนั้น สมัยนี้เสื้อผ้าของใช้เด็กมันเยอะ เลยเลือกนานไปหน่อย” ป้านิ่มบอก ก่อนจะเดินมาหอมหน้าผากหลานแฝด คนละฟอด“มีของหมอกไหมครับ” สินธรอ้อนเมื่อยกหลานขึ้น ป้านิ่มจะได้หอมได้ถนัด“มีแต่ของคุณหนู ๆ ค่ะ คุณหมอกโตแล้วไปซื้อเอาเอง”“หมาหัวเน่าหน้าเป็นแบบนี้นี่เอง” ภาคินแซวเมื่อเห็นสินธรทำท่าคอตก“มึงก็ไม่ต่างจากกูหรอก” สินธรย้อน“ไงคะสองหนุ่ม กวนคุณพ่อกับอาหมอกหรือเปล่า”เสียงหวานใสร้องทักมาก่อนตัวเมื่อเขมจิราลงจากรถ ยกของไปไว้ในบ้านจนหมด แล้วเดินกลับมาหาล
สองปีต่อมา“อุแว้ ๆ ๆ”“แง้ ๆ ๆ”“อุแว้ ๆ”“แง้ ๆ”เสียงเด็กน้อยร้องประสานเสียงที่ดังมาจากหน้าบ้าน ทำให้คนที่กำลังอุ่นนมอยู่ในครัวสะดุ้งโหยง มือแกร่งยกขึ้นกุมหัว เมื่อลูกแฝด ของเขาร้องแข่งกันอีกแล้ว งานที่ทำในมือถูกเร่งให้เร็วขึ้น คว่ำขวดนมที่ล้างเสร็จใส่กระจาด ก่อนจะเปิดเครื่องอุ่นนม หยิบถุงซิปเก็บน้ำนมแม่ ที่อุ่นได้ที่มาเทใส่ขวดนมขนาดสี่ออนซ์สองใบ แล้วรีบเดินไปหาหนูน้อยที่แผดเสียงแข่งกันจนดังไปทั้งบ้าน เขมจิราพาแม่นิ่มเข้าเมือง จึงฝากลูกแฝดไว้กับแม่เลี้ยงที่ บ้านใหญ่ ภาคินกลับมาจากไร่จึงไปรับลูกมาเลี้ยงเอง “มาแล้ว ๆ ใครงอแงเอ่ย พี่คินหรือเปล่า พี่คินไม่น่ารักหรือเปล่า”เสียงหยอกล้อลูกที่ดังมาก่อนตัว ไม่ได้มีผลกับเด็กน้อยในเปลเลยสักนิด เมื่อเด็กน้อยทั้งสองยังคงแข่งกันส่งเสียงร้องเหมือนเดิม เขาว่าเด็กแฝดมักจะทำอะไรเหมือน ๆ กัน เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะถ้าคนใดคนหนึ่งร้องอีกคนก็จะร้องตาม“อุ้มใครดีล่ะ” คนเป็นพ่อยืนคิดอยู่ข้างเปล เมื่อไม่รู้ว่าจะอุ้มลูกคนไหนก่อนดี “พ่ออุ้มน้องเขมนะครับ พี่คินเป็นพี่ต้องเสียสละให้น้อง” พูดกับลูกก่อนจะจับขวดนมใส่ปากแฝดพี่ แล้วอุ้มแฝ
Comments