Home / โรแมนติก / กรงรักอสูร / บทที่ 4...จะมีใครรู้ว่าเธอมันร้าย

Share

บทที่ 4...จะมีใครรู้ว่าเธอมันร้าย

“โถ่ คุณหนูดา เป็นฉันฆ่าตัวตายไปนานแล้ว เพราะทำยังไงพี่ชายของตัวเองก็ไม่รัก”

เด็กหญิงอรดีตัวมอมแมมที่เดินมาแอบชะเง้อแลเข้าไปในรั้วใหญ่เพื่อมองสระว่ายน้ำหน้าคฤหาสน์พัฒน์ชนะพงศ์เป็นประจำ ทำให้เรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นในเย็นวันหนึ่ง…เมื่อเด็กชายคนนั้นซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายของเด็กหญิงปารดาหันไปจ้องเด็กนอกรั้วแบบจังงัง…เด็กชายสุภาพบุรุษแห่งซอยตะวันส่อง ยื่นมือมาให้เธอจับอย่างไม่นึกรังเกียจ เขายิ้มให้เธอ เขาพูดกับเธอเพราะจับใจ และเขาก็หลงรักเธอตั้งแต่วันนั้นโดยไม่มีข้อแม้

“พี่พีคะ อย่ายุ่งกับเด็กสกปรกนี่นะ”

ดวงตาของปารดาถลึงล้นเบ้ามาตั้งแต่เด็กแล้ว หรือไม่ก็ตั้งแต่เห็นเธอที่ข้างรั้ว มันไม่ยากเลย ผู้หญิงอย่างคุณหนูปารดา มองแวบเดียวก็รู้ว่ามีใจให้กับพี่ชายนอกไส้จนอกจะระเบิดอยู่แล้ว!

ยิ่งโตก็ยิ่งรัก ยิ่งรักก็ยิ่งช้ำ

“หวงพี่ชายจนเกินงามไปรึเปล่าจ๊ะปารดา”

นี่ละ เหตุผลหลักที่เธอกลายเป็นสิ่งโสโครกของบุตรสาวนายตำรวจใหญ่

คอนโดมิเนียมย่านชานเมืองที่อรดีอยู่ในปัจจุบัน จะเรียกว่าหรูหราเลยก็ได้ หากเทียบกับห้องแถวท้ายซอยที่เธอเคยอยู่มาเกือบทั้งชีวิต มาวันนี้ เธอสามารถลืมตาอ้าปากได้บ้างแล้ว เพราะความโชคดีที่ได้ตามชิดชนกไปกองถ่ายเพื่อแบกราวเสื้อผ้าเมื่อสองปีที่แล้วแท้ๆ

โคมไฟจากห้องชุดตรงริมสุดของชั้นสิบถูกเปิดจนสว่างไสว แสงสีส้มเรื่อเรืองระบัดระบายไปจนทั่วทุกซอกทุกมุม เครื่องเสียงกำลังร้องเพลงบรรเลงที่ควรค่าแก่การเต้นรำให้เท้าระบม

เธอมองกระจกที่บรรจุความงามสะพรั่งของสาววัยยี่สิบห้าเอาไว้ หญิงสาวในชุดเดรสลูกไม้สั้นสีดำปักเลื่อมระยิบระยับดูยังไงก็เหมือนนางฟ้า อรดีมองตัวเองแล้วถอนหายใจราวกับคนหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

“ในที่สุด อรดี เธอก็หลุดออกมาจากโคลนตมได้แล้วจริงๆ ”

ความสุขผุดอยู่เต็มดวงตางดงาม เธอขยิบตาให้ตัวเอง ก่อนจะหัวเราะร่วนด้วยความสะใจจนเสียงดังคับไปทั้งห้อง เพราะเธอกำลังจะคลั่งตายอยู่แล้ว

“มีความสุขจริงๆ เลย อะไรมันจะสุขได้ขนาดนี้ เธอทำบุญมาด้วยอะไรนะอรดี ชีวิตเธอมันถึงได้เพอร์เฟ็กต์ขนาดนี้” อรดีชี้หน้าตัวเองในกระจก…เธอน่ะนะ…กำลังจะไปร่วมงานประกาศผลรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการโทรทัศน์เมืองไทย รางวัลดาวรุ่งฝ่ายหญิงต้องตกเป็นของอรดี พิชิตชัยอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาฟันธง

เธอเดินกรีดกรายออกจากห้องพักอันแสนอบอุ่น ลิฟต์นำเธอลงไปส่งยังชั้นล่าง สู่ลานจอดรถกว้างขวางของคอนโดมิเนียม ราชรถคันสีดำจากตระกูลยุโรปมารอรับตรงเวลาเสมอ ตำรวจหนุ่มนั่งรอในรถเก๋งคันงาม ชะเง้อคอยหญิงสาวอันเป็นที่รักทุกลมหายใจ

“อร!” ผู้กองดวงตาวาวโรจน์ เมื่อแลเห็นเธอมาแต่ไกล ปล่อยให้หญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่เบาะหลังได้แต่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ ภาวนาให้แม่นางเอกตัวร้ายหกล้มหัวคะมำ นี่ล่ะ เสี้ยนหนามหัวใจที่ทำให้หัวใจของเธอเต็มไปด้วยหนอง!

“เชิญครับ” สุภาพบุรุษสีกากีลงไปเปิดประตูรถให้

“รอนานไหมคะ” คำถามแรกของอรดีเมื่อเข้ามานั่งในรถเรียบร้อย กลิ่นหอมของเธอทำให้พีระนันทน์ใจเต้นไม่เป็นส่ำเสมอ “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ พอดีอรแต่งตัวนานไปหน่อยน่ะค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ พีรอได้ เพราะรอแล้วก็ไม่เคยผิดหวัง”

คนถูกชมยิ้มละมุน ไม่วายต้องแอบปรายตาไปมองคนหน้ายับที่เบาะหลัง แม่นางร้ายปารดากำลังมองนอกกระจกรถด้วยความคับแค้นใจ เธอเลี่ยงเหตุการณ์นี้ไม่ได้จริงๆ อย่างไรเสียก็สามารถลดความกำแหงของคนไร้ระดับลงได้บ้าง จึงมาเป็นไม้กันหมา มาเพราะคำสั่งคุณแม่ คุณหญิงจงเกลียดผู้หญิงที่ลูกชายรักเหลือแสน

“สวัสดีค่ะคุณดา ปิดกล้องแล้วก็ไม่ได้เจอกันเลยนะคะ หวังว่าคงจะสบายดี”

“ค่ะ สบายดี” น้ำเสียงฟังแล้วน่าปวดหัว ทั้งหยันทั้งเยาะเลยทีเดียว “คุณอรล่ะคะ ช่วงนี้คงเดินแบบหนักสินะคะ ปั่นงานตัวเป็นเกลียวเชียว กลัวไม่รวยหรือคะ”

อรดียิ้มพราย น้ำเสียงสดใสกังวาน

“แน่นอนค่ะ ก็ฉันมันคนยากคนจนนี่คะ ไม่ได้เป็นผู้รากมากดีมาแต่ไหน ช่วงนี้ดวงกำลังขึ้นก็เลยต้องรีบตักซะหน่อย ตามโบราณเขาว่าล่ะค่ะ จะได้รวยเร็วๆ เผื่อคนที่เคยดูถูกจะได้เลิกดูถูกกันไปได้บ้างยังไงล่ะคะ”

คนเคยดูถูกและยังดูถูกอยู่ถึงกับหน้าชาไปเหมือนกัน แต่ก็พยายามจะประคองความเป็นผู้ดีของตนเองเอาไว้อย่างถึงที่สุด ไม่ใช่หน้าหนานะ แต่เป็นการรักษาหน้าต่างหาก

“ยอดเยี่ยมเลยค่ะ คุณอรจะได้มีความสุขเหมือนกับคนอื่นเขาซะที ไม่ต้องคอยชะเง้อ…แล้วก็” เจ้าหล่อนละไว้ในฐานที่อรดีเข้าใจ

“ไม่ต้องคอยอิจฉาเขาอีกแล้ว แต่เปลี่ยนมาให้คนอื่นอิจฉาแทน…ใช่ไหมคะคุณดา” หญิงสาวแสร้งหัวเราะเสียงใสทั้งที่อีกฝ่ายหน้าหงิกหน้างอไม่เป็นรูปเป็นทรง ส่วนชายหนุ่มหนึ่งเดียวในรถได้แต่คอยแอบถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอก เขาคุ้นชินการหยอกเย้าชนิดรุนแรงของสองสาวดี มันเกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อต้องโคจรมาพบกัน

ครั้นรถคันงามเลี้ยวเข้าสู่อาคารหรูหรากลางกรุงซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานประกาศผลรางวัล พีระนันทน์จึงเอ่ยบอกกับสองสาว

“พี่จะแวะไปคุยงานกับเพื่อนที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามนี่แหละ เสร็จงานแล้วโทรมานะ”

อรดีหันไปมองปารดาที่กำลังจะอ้าปากพูด

“จะให้ใครโทรล่ะคะ อรหรือดา”

คราวนี้เป็นพีระนันทน์ที่ปากค้างไปหลายอึดใจ เขาต้องเลือกด้วยเหรอ?

“เอาเถอะน่า ใครก็ได้ โทรมาบอก พี่จะได้มารอรับ”

นางเอกเลิกคิ้วทำหน้ายั่วโมโหนางร้ายก่อนจะเปิดประตูออกจากรถคันงามสู่อากาศสดชื่นเบื้องนอก พรมแดงปูเป็นเส้นทางยาวเข้าสู่ประตูงาน กองทัพนักข่าวจากทุกสำนักก็กรูกันเข้ามาโอบล้อมหนึ่งในดาวเด่นของงานในค่ำคืนนี้กันจนมืดฟ้ามัวดิน รอยยิ้มของนางเอกตราตรึงใจ ตอบคำถามกับทุกคำถามได้อย่างฉลาดและน่ารักเสมอ

ส่วนปารดาที่เปิดประตูตามออกมาทีหลัง ได้แต่มองความรุ่งโรจน์ของยายตัวร้ายนอกจอด้วยความขัดเคืองใจ

“จะมีใครรู้บ้างว่าแม่นี่มันร้าย”

เธอเดินเลี่ยงเข้าไปด้านในก่อนอย่างช้ำใจ

“คืนนี้คุณอรแต่งตัวสวยจังเลยค่ะ ไม่ทราบว่าจากห้องเสื้อไหนคะเนี่ย”

“จากห้องเสื้อของอรเองค่ะ อรเป็นคนออกแบบเองกับมือเลยนะคะ แต่ได้ช่างตัดเสื้อมืออาชีพอย่างพี่หมู วลาลัย มันก็เลยออกมาเนี๊ยบอย่างนี้ไงคะ”

ความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกสาวกับฝูงเหยี่ยวข่าวเป็นไปด้วยความสนิทสนม อรดีเป็นขวัญใจของทุกคน เพราะไม่ถือตัวและมนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศ

ผู้ชายคนนั้นนั่งคาบบุหรี่ ปล่อยควันสีขาวขุ่นออกนอกรถ ดวงตาเย็นชามีแววขวางๆ ขณะจดจ้องไปยังผู้หญิงที่กำลังถูกนักข่าวรุมทึ้ง เขานั่งไขว่ห้างบนกำมะหยี่นุ่มตรงเบาะหลัง ในรถเก๋งคันใหญ่สีดำราคาหลายสิบล้านที่งดงามสะดุดตา ฝูงชนซึ่งออแน่นอยู่บริเวณทางเข้างานประกาศผลรางวัลมีลูกน้องของเขาปะปนอยู่ด้วยกลุ่มหนึ่ง พวกนั้นจะคอยฟังคำสั่ง หากเจ้านายต้องการใช้งานเร่งด่วนขึ้นมา

ใช่ว่าเขายังไม่มีแผน ถ้าจะฉุดผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อ่อนแอน่าสงสารออกมาจากฝูงชน ท่ามกลางความวุ่นวายโกลาหล เขาปรารถนาจะเห็นภาพนั้นจะตายไป หากเพียงแต่ว่า…รถของไอ้ตำรวจนั่นยังจอดอยู่น่ะสิ ถือว่าแม่นั่นโชคดี จะปล่อยให้ไปเริงร่าสักพัก

ดวงตาก้าวร้าวคมกริบของมาเฟียผู้เหลือเฟือความมุทะลุจ้องหญิงสาวตั้งแต่ก้าวแรกที่ส้นสูงเหยียบพื้นแล้วด้วยซ้ำ ไม่ปล่อยให้เธอหลุดออกจากสายตาแม้สักวินาทีเดียว ไม่รู้เพราะอะไร…เขาคิดว่าเพราะตัวเองคงเริ่มอยากจะทรมานแม่ดารานั่นเต็มทนแล้ว

ภาคินในชุดสูทสีดำรัดรูปร่างที่สง่างามของความสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรเอาไว้ได้อย่างเหมาะเจาะ ทำให้เขาเหมือนนักกีฬาว่ายน้ำที่ใช้เวลาว่างมาถ่ายแบบให้สาวๆ อกแตกเล่น เขายกแว่นตาสีชาขึ้นสวมเพื่อความเข้มของหน้าตา ดีดซากบุหรี่สั้นกุดออกนอกรถ แกะหมากฝรั่งโยนเข้าปากแล้วกระหน่ำเคี้ยวมันแทน

“ว่ายังไงนายน้อย จะให้ผมกับไอ้เช็คลงไปลากตัวแม่ดาราเนื้อทองนั่นมาตอนนี้เลยดีไหมครับ”

เป็นเจียงเสมอที่ไม่เคยรู้ใจนาย

“ไม่ต้อง! คิดจะทำอะไรหัดใช้สมองมั่งซี่ คนตั้งเยอะตั้งแยะ แกจะลงไปลากแม่นั่นมาได้ยังไงมิทราบ”

“อ้าว…ผมเห็นเจ้านายถนัดทำงานแบบตาต่อตาฟันต่อฟันนี่ครับ เคยเห็นแต่ใช้กำลังทุกงานเลย ไม่เห็นเคยใช้สมองสักงาน”

ภาคินปั้นปากอยากจะด่าลูกน้องคนสนิทให้เสียความเป็นคนในตอนนี้เลย ถ้าไม่ติดกับว่ากลัวเหนื่อย เพราะเจียงค่อนข้างจะทึบ ไม่เหมือนเช็ค ถึงจะเงียบ แต่ก็ฉลาด เขาจึงระงับ แทนที่จะระเบิดอารมณ์เหมือนทุกครั้ง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • กรงรักอสูร   ตอนจบ...ลูกแฝดของเรา

    ภาคินเดินผ่านโถงประตูทางเข้าขนาดใหญ่ มาเหยียบยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้นสู่ชั้นบน เขาเงยหน้ากวาดมองบ้านที่ไม่ได้กลับมานานหลายเดือน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกซอกหลืบยังคงอยู่ในสภาพดั้งเดิม ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้งอย่างเหนื่อยหน่าย มิใช่หน่ายจากการเดินทางอันแสนสั้น แต่เหนื่อยกับความทรงจำเดิม ๆ ที่มักจะไหลผ่านเข้ามาทุกครั้ง เมื่อต้องมาเยือนในที่ที่เขากับเธอเคยเดินทางมาด้วยกันไม่ทันนานนักที่เขาจมหายในภวังค์อันแสนเศร้า มีบางเสียงดังแว่วมาเข้าหู เสียงประหลาดนั่นดังมาจากด้านบนอย่างแน่นอน เขาเอะใจอะไรบางอย่าง ใจเต้นตูมๆขณะเยื้องย่างขึ้นสู่ด้านบนด้วยความเร็วรี่“ไม่ใช่แน่ สมองเราเบลอไปใช่ไหม”เจ้าหนุ่มมาหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง เสียงหายใจถี่ยิบดังกังวานสดใส เขาแนบใบหูข้างขวาเข้าประกบที่บานไม้แข็งแรง เงี่ยหูฟังเสียงที่ถูกส่งมาจากด้านใน ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งตื่นเต้นรนราน ใจมันรู้สึกแปลกๆพิกล แต่ยิ่งเสียงนั่นดังจนจวนจะทะลุหูเขาได้ ใจของเขากลับพองตัวขึ้นจนใหญ่กว่าเกาะสราญรมย์แล้วด้วยซ้ำ เขาไม่คิดจะเคาะประตูเลยแม้แต่น้อยภาคินภาวนาระงมว่าเสียงเด็กร้องที่เขาได้ยินเต็มสองรูหู ไม่ได้อยู่ในความฝั

  • กรงรักอสูร   บทที่ 104...เลิกรอเธอได้แล้ว

    “ยังไม่มีวี่แววเลยครับ เธอใจแข็งจัง”ภาคินยื่นบุหรี่ให้พ่อของอรดี เขารับไปคาบ แล้วรอปลายไฟแช็กจากเจ้าหนุ่ม“พาหลานของพ่อไปอยู่เสียที่ไหน”“เธอน่าจะติดต่อมาหาคุณบ้าง”“ผมรอคอย หวังว่าสักวัน”เขาสังเกตเห็นว่านายนภดลมีหงอกเพิ่มขึ้น นั่นคงเป็นเพราะความเครียดเรื่องลูกสาวจอมดื้อ ภาคิน ปล่อยควันบุหรี่เป็นสาย แสงตะวันสุดท้ายกำลังจะบอกลาเส้นขอบฟ้าอีกครั้ง“ผมไม่อยากให้คุณไปจากที่นี่”“ถึงที่นี่จะไม่ใช่กาสิโนอีกแล้ว แม้จะเป็นสวนสนุกที่มีแต่พวกเด็กๆ ถ้าคุณยังคิดจะจ้างคนแก่คนนี้ ผมก็ยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนคุณเพื่อรอคอยลูกสาวกลับมา อย่างน้อยก็จนกว่าคุณจะเลิกตามหาลูกสาวของผม หรือมีภรรยาใหม่”เจ้าหนุ่มสูดควันเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะดีดเถ้าทิ้งลงในถ้วยใบเล็กใกล้มือ เขายิ้มบางๆ“ภรรยาของคุณเป็นคนยังไงครับ”“ถ้าคุณรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงและคุณเชื่อคำโบราณที่ว่าดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ คุณคงไม่กล้าแตะอรดีแน่ ผมรับประกัน”หนึ่งปีผ่านไปช้า ๆ ภาคินรู้สึกถึงความยาวนานที่เขาต้องประสพกับความทรมาน อ้างว้าง เดียวดายราวกับสิบปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาหวาดกลัวเล่นงานเขาจนใจพังพินาศไปหมด ที่เขาฝืนยืนอยู่ได้จนทุกวัน

  • กรงรักอสูร   บทที่ 103...เธออยู่ไหน

    “ตอนปลายเดือนฉันได้รับใบเสร็จจ่ายเงินค่าเบอร์โทรศัพท์บ้านทุกเดือน แล้วในกระดาษแผ่นนั้นก็ระบุเบอร์โทรศัพท์ของใครบางคนหลายครั้งซึ่งไม่ใช่ฝีมือการกดของฉันอย่างแน่นอน ฉันจึงได้รู้ว่าคนที่ซื้อคอนโดของอรไปคือพี่โตค่ะ”“พี่โต” เขาพอจะเค้าหน้าหนุ่มใหญ่เจ้าของกล้องที่เขาช่วยทำพังเมื่อครั้งไปทำงานที่เกาะมุกคราวก่อนออก “ผมจะไปหาหมอนั่นเดี๋ยวนี้”ชิดชนกยกสองมือขึ้นห้าม “ใจเย็นสิคะคุณภาคิน เราสองคน คือฉันหมายถึงฉันกับนายเช็คน่ะค่ะ เราไปสอบถามพี่โตมาแล้วเมื่อเช้านี้เอง เป็นเพราะมีเช็คไปด้วยทุกอย่างก็เลยง่ายขึ้น” สาวเจ้าหันไปยิ้มหวาน กระพริบตาปริบๆให้บุรุษยอดดวงใจ ภาคินกระแอมเสียงดังขร่มด้วยความหมั่นไส้“ตกลงว่าไงเช็ค อยากได้เงินขอเมียสักล้านสองล้านไหม”ดวงตาสมุนคู่ใจเกิดประกาย รีบรายงานนายน้อยทันท่วงที“หมอนั่น บอกว่าคุณอรดีไปสิงคโปร์กับช่างภาพที่ชื่อปีเตอร์ครับ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนนี่เอง นี่ครับนายน้อย เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานที่นายปีเตอร์ทำงานอยู่”“สิงคโปร์”แผนที่ประเทศสิงคโปร์ลอยผ่านหน้าเขาไปช้า ๆ รูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำใส่หน้าของเขาจนเปียกปอนไปหมด ภาคินกำลังจินตนาการว่าอรดีกำลังเดินชอปปิ้งอยู่ใ

  • กรงรักอสูร   บทที่ 102...ผมคิดถึงคุณใจจะขาด

    “แต่ว่าตอนนี้ คุณอรดีไม่รู้ว่าเธอหายไปอยู่ที่ไหนสิครับ”ภาคินหยุดทุกอย่างแม้แต่ลมหายใจ แล้วมองหน้าเช็คนิ่ง ๆ เช็คยกไหล่ แบฝ่ามือที่ว่างเปล่าทั้งสองด้าน เช็คไม่เคยมีท่าทางแบบนี้ ดูเป็นคนละคนกับที่เขาเคยรู้จัก ใครเสี้ยมสอนให้สมุนคู่ใจของเขาทำซุ่มเสียงไม่ยี่หระต่อความทุกข์ของนายแบบนี้ ราวกับสมน้ำหน้าเขาอย่างนั้น“แหล่งข่าวของผม บอกว่าเธอหายตัวไปเกือบสัปดาห์แล้วครับ ไม่มีใครติดต่อเธอได้ และเธอก็ไม่ยอมติดต่อกลับมาหาใครอีกเลย เหมือนกับว่าเธอจงใจจะไปนะครับ อาจเพราะเธอตั้งท้องก็ได้ ท้องไม่มีพ่อสำหรับผู้หญิง เป็นเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้าที่สุด และท้องสำหรับคนมีชื่อเสียง คงเป็นอะไรที่คล้ายกับโลกแตก”คนฟังเงียบกริบ เพราะหัวใจเขาต่างหากที่กำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ในคอตีบตันไปหมด“ถ้าไม่มีพ่อ แล้วไอ้หนูนั่นจะไปอยู่ในท้องของเธอได้ยังไง คุณคิดว่าจะหนีผมไปอยู่ที่ไหนได้อรดี คอยเดี๋ยว ผมจะไปล่าหัวคุณกลับมาด้วยมือของผมเอง”ท้องฟ้าสว่างสวยทีเดียวถ้าคนที่มองขึ้นไปไม่ได้มีความเครียดห่อหุ้มสมอง ตาพร่า ล้า ช้ำ บวม แดง และไม่ได้รู้สึกว่ามีสิ่งปฏิกูลอัดแน่นอยู่ในช่องท้องตลอด

  • กรงรักอสูร   บทที่ 101...ผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ผมเถอะนะ

    “รับผิดชอบยังไง แม้แต่จูบ ผมก็ไม่เคยคิดจะทำกับคุณเลย แล้วคุณจะเป็นภรรยาของผมได้ยังไง คุณคงไม่เคยเห็นว่าจริงๆแล้วผมเป็นคนยังไงปารดา ก่อนที่ผมจะยิงคุณไส้แตก กรุณารีบยกก้นของคุณออกไปจากห้องทำงานของผมเดี๋ยวนี้ หรือมากกว่านั้น ออกไปจากเกาะเฮงซวยนี่ซะ”ปารดากลืนน้ำลายเฮือก ถอยล่นไปจนชิดบานประตู“คอยดูเถอะ ฉันจะฟ้องหย่าเรียกค่าเสียหายให้คุณหมดตัวเลย”เขาหัวเราะหึ ๆ ส่ายหน้าราวกับเห็นลาโง่เต้นระบำอยู่ตรงหน้า“เชิญเลย ถ้าคุณคิดว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้น คุณคงรวยเละ ถ้าหากว่าใบทะเบียนสมรสที่คุณจดกับผมไม่ได้เป็นของปลอม และเจ้าหน้าที่พวกนั้นไม่ใช่ลูกน้องที่ผมกุขึ้นมาให้ผู้หญิงหน้าเงินอย่างคุณตื่นเต้นตาโต”“อะไรนะ”“กลับไปหาพ่อซะไป แล้วก็กลับไปหาผู้ชายรวยๆหน้าโง่คนอื่นแต่งงานด้วย คนสวยอย่างคุณคงมีใครสักคนหลงเข้ามาบ้างละ”ปารดากรีดร้องจนสุดเสียง แล้วก็เต้นเร่าดีดดิ้นราวกับเด็กน้อยที่ถูกบังคับให้ไปโรงเรียนวันแรก แววตาคลอน้ำคลั่งแค้นเขม้นมองบ่อเงินบ่อทองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะดึงประตูเปิดออกแล้วก้าวล่วงไป แรงกระแทกดังสนั่น จนข้าวของตามตู้โชว์บางชิ้นยังสั่นไม่หาย แม้จะผ่านมาหลายวินาทีแล้วก็ตามภาคินวางห

  • กรงรักอสูร   บทที่ 100...เธอกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น

    “ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคนสวยอย่างคุณ”เขายื่นมือมาให้จับ ดวงตาเปล่งรอยแจ่มใส เธอรับรู้ได้ถึงความจริงใจของหนุ่มลูกครึ่ง เธอกับลูกจึงยื่นมือไปจับตอบน้ำใจของเขา“ฉันก็สุดแสนจะยินดีค่ะคุณปีเตอร์”ลูกต้องร่วมมือกับแม่นะ อย่าเพิ่งเกเรจนทำให้ผิวหน้าท้องของแม่ยืดออก อดทนไว้แค่สัปดาห์หน้าเท่านั้น หลังจากแม่เปลือยกายเพื่อถ่ายงานศิลปะจากฝีมือช่างภาพชื่อดังที่ติดอันดับเอเชียแล้ว เราสองคนก็จะไปหาที่อยู่ใหม่ ที่ไหนก็ได้ ที่สงบ ๆ อากาศดี และไม่มีคนรู้จักอรดีไม่ได้กลัวว่าจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านหรอกนะ แต่เธอหวาดกลัวต่อเจ้าพ่อไห่ปิง เพราะตาเฒ่าเคยบอกเอาไว้ว่าจะยึดลูกคนแรกของเธอกับหมอนั่นไปเป็นสมบัติส่วนตัว“มันเรื่องอะไรที่แม่จะต้องทำอย่างนั้น อดทนเอาไว้ลูก เดี๋ยวเราก็เจอทางออกจนได้นั่นแหละ”นอกจากเธอจะตกลงทำงานกับปีเตอร์ในปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้แล้ว ช่วงกลางสัปดาห์ พี่โตก็เซ็นต์เช็กซื้อคอนโดมิเนียมของเธอด้วยราคางดงาม นับว่าโชคที่ที่พี่โตกำลังมองหาที่อยู่ให้เมียน้อยที่เพิ่งตกลงจะแอบอยู่ด้วยกันอรดีสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้แก่ใคร แลกกับที่พี่โตเองก็จะไม่บอกเรื่องที่เธอบินไปเปลื้องผ้าที่สิงคโปร์ให้ใครฟังด้ว

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status