แชร์

4 ทางกระต่ายหลง

ผู้เขียน: sammi'P
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-18 16:29:22

“โอว! หรือเป็นเช่นนี้จึงมิคิดส่งคืนที่ที่มันจากมากันแน่”

            “ข้ามิเคยเห็นท่านอ๋องเป็นเช่นนี้มาก่อนเลย เสียดายที่นางมิใช่...” หม่าชิงเทียนว่าพลางมองจ้องเข้าไปในกระโจมที่ยังมีแสงไฟจากตะเกียงให้พอเห็นว่าคนด้านในกำลังร่ำสุราอยู่ตามลำพัง เขารับรู้เป็นนัยว่าสหายสนิทผู้มีศักดิ์ใหญ่กว่าดูจะถูกใจสตรีนางนี้เข้าเสียแล้ว มิเช่นนั้นคงไม่ให้เห็นแม้แต่ชายผ้าคลุมเตียง

            “อยากรู้เหลือเกินว่านางเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ดูจากการแต่งกายซอมซ่อเช่นนั้นแล้วคงมิใช่ลูกสาวผู้ลากมากดีที่ไหน หรือท่านว่าอย่างไร”

            “พ้นคืนนี้ไปคงได้รู้กัน” หวังเฉาเสียนเอ่ยพลันต้องชะงักหันมองหน้าหม่าชิงเทียนเลิ่กลั่กเสียอาการเพราะแสงไฟในกระโจมดับวูบลง

.           ในใจทั้งสองคิดแต่เพียงว่าผู้เป็นเจ้าชีวิตตนคงหมายเสพสุขชั่วคืนกับกระต่ายน้อยแสนงดงามที่เก็บได้จากกลางป่าเช้ามาก็ต่างคนต่างไปเท่านั้น

แต่ความเข้าใจของขุนพลหน้าหยกทั้งสองล้วนคลาดเคลื่อน...

            อ๋องสี่หลี่หลานหมิงถอดเข็มขัดคาดเอวและเสื้อคลุมสีเทาเมฆตัวนอกออกเหลือเพียงชุดนอนสีขาวสะอาดตาขณะจ้องร่างอรชรบนที่นอนไม่วางตา แม้จะเป็นเพียงตั่งเตี้ยสำหรับใช้พักผ่อนหลับนอนชั่วคราวระหว่างออกเดินทางนอกวังหลวงแต่ก็กว้างขวางพอสำหรับที่เขาจะแทรกตัวลงไปนอนเคียงได้

            เป็นเช่นนี้ก็นับว่าเป็นวาสนาของนางแล้ว...

            หากการหาข้ออ้างออกนอกวังคือเพื่อมาดูตัวว่าที่คู่หมั้นแล้วพบว่ามีอุปสรรคคือการที่เขาได้หญิงชาวบ้านมาอยู่ข้างกายในฐานะชายา ดูเถิดว่าฮ่องเต้ต้าหลี่พี่ชายจะทำหน้าอย่างไรหากการเจริญสัมพันธไมตรีกับบุตรสาวผู้ทรงอิทธิพลแห่งเมืองฉู่เพื่อเจรจาเปิดเส้นทางทะเลล้วนไม่เป็นผล...

            หึหึ...

            อ๋องสี่ผู้สง่างามครุ่นคิดขณะล้มตัวลงนอนเคียงข้างเจ้าของดวงหน้าขาวราวหยกที่แรกเห็นก็ติดตาตรึงใจ นางหลับพริ้มข้างกายของเขาราวกับมิใช่คนแปลกหน้าที่เพิ่งเคยเจอ เขาเคยเจอนางแน่ๆ แต่ที่ใดกัน  

            มิน่า...

มันเป็นส่วนหนึ่งในแผนเท่านั้น...

เขามิได้สนใจนาง...

“ให้โอกาสเจ้าได้นอนสบายคืนนี้นะ... กระต่ายน้อย”

             หลี่หลานหมิงกระตุกยิ้มครู่หนึ่งจึงเบนสายตามองจ้องแสงจันทรานวลที่กำลังหยอกล้อดวงดาวบนฟ้าระยิบระยังให้เห็นบนช่องกลางกระโจมแล้วจึงเผลอยิ้มออกมาก่อนจะหลับตาลง

ทว่า...

ในท่ามกลางความมืด หลี่หลานหมิงรู้สึกเหมือนถูกบางอย่างที่มีน้ำหนักมากทับลงมากลางลำตัวอย่างแรง ครั้นลืมตาเห็นบางสิ่งบางอย่างเคลื่อนไหวยุกยิกอยู่ก็หยิบอาวุธคู่กายคลายออกจากฝักตั้งท่ารอให้มันคืบคลานขึ้นมา

แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่!

สิ่งนั้นกลับยังอยู่และกำลังลูบคลำกล้ามท้องลามไปถึงท้องน้อยของเขาอย่างอุกอาจ แม้ใช้ปลายนิ้วปัดออกแต่มันกลับไม่ยอมให้ถูกผลักไสโดยง่ายจนทนไม่ไหวเพราะที่เห็นคือมือนุ่มนิ่มของคนข้างกายที่กำลังทำมิดีมิร้ายกับร่างกายของเขาอยู่

            “เจ้าคิดทำสิ่งใดกัน!” หลี่หลานหมิงโพล่งและปัดมือนางออกทันที

แต่...

“อย่าดิ้นสิ ตุ้งตุ้ง...”

ตุ้งตุ้งหรือ!

“ตุ้งตุ้ง? เจ้าคิดว่าข้าเป็นกระต่ายหูเทาตัวนั้นหรือ”

“ก็เจ้าน่ะสิ ตุ้งตุ้ง มามะอย่าดื้อมาให้ข้ากอดเสียดีๆ ยังอีก... เจ้านี่มันดื้อจริงๆ อยากถูกข้าดึงหนวดอีกหรือไง”

เหอะ!

มารดาเจ้าเถอะ!

คนอย่างเขามีเพียงคำว่าพยัคฆ์เท่านั้นที่คู่ควรต่างหากเล่า!

หลี่หลานหมิงรู้ตัวแล้วว่ากำลังถูกคุกคามโดยน้ำมือกระต่ายน้อยร่วมเตียงจึงทั้งโกรธทั้งอับอาย หากสองคนด้านนอกรู้เข้ามีหรือว่าเขาจะรอดปากเหยี่ยวปากกายืดยาวของพวกนั้นไปได้ จากที่ไม่คิดกินกระต่ายก็แทบถอนคำพูดไม่ทัน

“เจ้าอยากถูกเสือจับกินจริงๆ ใช่หรือไม่ตอบมา!”

หลี่หลานหมิงผู้แสนเย็นชาพลิกตัวโอบร่างอรชรแล้วขู่ฟ่อข้างหู ริมฝีปากคลอเคล้าไม่ห่างพวงแก้มนวลใสในใจล้วนคิดเรื่องชั่วร้ายอย่างที่ไม่เคยทำ

หึ...

อย่าหาว่าโหดร้ายก็แล้วกัน!

หลี่หลานหมิงก้มหน้าลงจรดปลายจมูกลงบนแก้มนวล สติเริ่มกระเจิดกระเจิงราวกับสัญชาติญาณดิบกำลังถูกปลุกเร้า มือแข็งแกร่งปะป่ายไปยังผ้าคาดเอวสีฟ้าของกระต่ายน้อยพลันกระตุกปมเชือกออก

มิคาด!

“ท่านแม่... กอดข้าหน่อย ข้าหนาวเหลือเกิน เหตุใดที่นี่จึงทั้งมืดและหนาวเช่นนี้!”

“ท่านแม่หรือ?” อ๋องสี่ทวนคำ

ไม่ทันขาดคำก็ถูกมือเล็กๆ เย็นเฉียบรวบเอวเขาลงไปกอดแนบแน่น ไม่พอนางยังซุกหน้ากับซอกคอของเขาราวกับมันมีไว้เพื่อคลายหนาวก็ไม่ปาน ครานี้หลี่หลานหมิงตระหนักซึ้งแล้วว่านางผู้นี้เป็นภัยอย่างร้ายกาจต่อตัวเขา นางกำลังทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ ขณะยับยั้งชั่งใจใหญ่หลวงคำพูดต่อมาของดรุณีงามก็ทำให้เขาชะงัก

“แม่ใหญ่ขังข้าไว้อีกแล้ว ฮือ ฮือ ท่านแม่ช่วยข้าด้วย”

“ขังหรือ ผู้ใดขังเจ้านะ”

“แม่ใหญ่เกลียดซิงซิน... ฮือ ฮือ ท่านแม่ช่วยซิงซินด้วย ซิงซินกลัวแล้ว”

“ซิงซิน! เจ้าชื่อซิงซินหรือ” หลี่หลานหมิงตกใจยิ่งเมื่อได้รู้ชื่อ ความรู้สึกประหลาดเริ่มเข้าครอบงำเขาทีละน้อย เพียงเห็นหน้าแดงก่ำร่ำไห้ทั้งที่ยังหลับก็อยากปลอบ “ไม่ต้องกลัวกระต่ายน้อย ข้าหลี่หลานหมิงใหญ่กว่าแม่เจ้าแน่นอน และตอนนี้ข้าก็อยู่นี่แล้วอย่ากลัวไปเลยกระต่ายน้อย”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กระต่ายน้อยดวงใจอ๋องพยัคฆ์   142 ตอนจบ

    ฟางถิงถิงก้มหน้าซ่อนอาย เพราะเหตุการณ์คราวนั้นทำให้นางได้พบกับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีและเกิดเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย เรียกได้ว่านางกับเขาผูกพันกันเหตุจากความเข้าใจผิดทั้งเพ“มิน่า พี่สามถึงชอบเจ้า” “เขาชอบแกล้งมากกว่าเพคะ ขนาดจะพาหม่อมฉันมาที่นี่ยังหลอกล่อหม่อมฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า” ฟางถิงถิงหน้างอง้ำด้วยความน้อยใจ แต่ก็คลายสีหน้าลงเมื่อสบตาชายากระต่ายน้อยผู้แสนงดงาม “แต่หม่อมฉันดีใจนะเพคะที่ในที่สุดก็ได้รู้สถานะที่แท้จริงของตัวเอง ท่านอ๋องเมตตาหม่อมฉันไม่ผลักไสก็พอใจแล้ว” “เขาหรือจะกล้าผลักไสเจ้า” จินซิงซินว่าจบก็หัวเราะขบขัน ครั้นเห็นสีหน้าฉงนของคนฟังจึงเอ่ยต่อ “ลืมบอกไปเลยว่าเมื่อครู่ข้าเจอท่านหมอถัง เห็นว่าหลงหลงไม่ค่อยสบายอาการแย่เอาการ เจ้าควรไปดูใจมันนะ”“หลงหลงป่วยหรือเพคะ! เหตุใดหม่อมฉันไม่รู้” ฟางถิงถิงถึงกับกระวนกระวายก่อนเอ่ยน้ำเสียงตื่น “หม่อมฉันขอตัวก่อนนะเพคะ”“เจ้าไปเถอะ”จินซิงซินเอ่ยยิ้มๆ จ้องร่างอรชรของพี่สะใภ้ที่อ่อนวัยกว่าเล็กน้อยแล้วหันหลังกลับไปทางตำหนักพิรุณเพื่อเยี่ยมเหยียนชิวอี้ ท่านยายสุดที่รักของนางที่บัดนี้มีสถานะเป็นพระมารดาของหลี่ชงเหอเสียแล้ว ฟางถิงถิงร้อ

  • กระต่ายน้อยดวงใจอ๋องพยัคฆ์   141 ซิงซินมาแล้ว

    เหยียนชิวอี้หัวเราะเบาๆ พยักหน้าก่อนตอบ “คุณหนูของแม่รับมือได้ยากแต่หากนางรักใครแล้ว คนนั้นจะมีความสุขมากทีเดียว ยังไงแม่ก็ฝากเจ้าดูแลคุณหนูผู้มีพระคุณของแม่ด้วยนะ หากมิได้คุณหนูป่านนี้แม่คงตายไปนานแล้ว” “เพคะ เสด็จแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ท่านอ๋องไม่อยู่เช่นนี้ หม่อมฉันย่อมมีหน้าดีดูแลแขกเหรื่อแทนท่านอ๋องมิให้ขาดตกบกพร่องเลยเพคะ”ฟางถิงถิงตกปากรับคำด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะขอตัวจากไป “โธ่ เด็กคนนี้ไม่ฟังข้าพูดให้จบก็ไปเสียแล้ว ใครบอกเจ้ากันว่าชงเหอยังไม่กลับมา เขากลับมาแล้วแค่ยังไม่เจอเจ้าเท่านั้นเอง เฮ้อ! ใจร้อนจริงเด็กคนนี้” เหยียนชิวอี้ได้แต่มองตามพลางส่ายหน้าระอาแต่ก็มีรอยยิ้มผุดบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัว ฟางถิงถิงรีบรุดไปยังสถานที่ที่บัดนี้ดัดแปลงพื้นที่บริเวณรอบสระบัวเป็นสถานบำบัดและดูแลสัตว์ทะเลทรายรวมถึงคอกม้านานาพันธุ์ล้อมรอบด้วยแปลงดอกไม้และบางส่วนเป็นแปลงหญ้าที่ใช้สำหรับเป็นอาหารม้าและสัตว์อื่นๆ นางหยุดยืนมองป้ายสวนสัตว์ของถิงถิงที่เขียนด้วยตัวหนังสือสีแดงด้วยความภาคภูมิใจ ในที่สุดนางก็ทำสำเร็จและสวนสัตว์แรกแห่งแคว้นชิงก็จะได้

  • กระต่ายน้อยดวงใจอ๋องพยัคฆ์   140 อยู่ที่นี่ ตายที่นี่

    “ข้าไม่ยินยอม” นางเอ่ยทันทีไม่มีบิดพลิ้วก่อนจะไล้นิ้วที่ท้องน้อยเบาๆ “ลูกเราก็คงไม่ยินยอมเช่นกัน”“เช่นนั้นขอเพียงเจ้ายินยอมอยู่ที่นี่เป็นชายาข้า ข้าสาบานว่าจะรักและให้เกียรติเจ้าตราบจนกว่าชีวิตจะหาไม่”“อย่าสาบานแต่จงใช้การกระทำ”นางว่าเพียงนั้นก็ดึงคอเสื้อร่างสูงบึกบึนโน้มลงมาแล้วประทับริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของเขาแนบแน่นหลี่ชงเหอถึงกับงันไปแต่หัวใจก็พองโตจนเกินบรรยาย ไม่ปล่อยให้ลูกกวางน้อยในอ้อมกอดนำพารสจูบหวานซ่านใจเหยียนชิวอี้ได้แต่จ้องมองกิริยาของบุตรชายกับสะใภ้ที่ยามนี้กอดกันแนบแน่นก่อนจะค่อยๆ ก้าวตามนางกำนัลที่คอยประคองเดินออกไปจากห้องอย่างเชื่องช้าด้วยความปิติยินดี..ล่วงเข้าฤดูร้อนอีกแล้ว...ฟางถิงถิงได้แต่ครุ่นคิดในใจหลังจากเฝ้ามองดอกจวี๋ฮวาหน้าตำหนักบานสะพรั่งละลานตา ช่วงเวลานี้เมื่อสองปีก่อนเป็นช่วงเวลาที่นางต้องขบคิดหนักหน่วง เหตุเพราะถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีผลักไสให้ไปไกลตายามนั้นนางเจ็บช้ำน้ำใจยิ่งนัก...ดีที่มีเจ้าก้อนแป้งนุ่มอยู่ในครรภ์ทันท่วงที ทำให้นางสามารถรั้งตำแหน่งชายาจากเขาได้ ดีกว่าต้องกลับไปยังสถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินเกิดที่ที่ๆ นางไม่เคยคุ้นแล

  • กระต่ายน้อยดวงใจอ๋องพยัคฆ์   139 รักไม่ได้

    “แล้วทำไม ข้าเป็นสตรีชาวหรวนแล้วไม่มีหัวใจรักท่านรึอย่างไร” นางย้อนถามน้ำหูน้ำตาไหลพรากหลี่ชงเหองันไป เขาเข้าใจดีว่าหัวใจรักบังคับมิได้ แต่ถึงอย่างไรน้ำไฟก็ไม่หลอมรวม เจ้ากับข้าก็เช่นกัน”“แต่น้ำไฟก็ส่งเสริมกันได้หรือมิใช่!”“ท่านอ๋อง ไฟยังส่งเสริมน้ำให้อบอุ่นได้ น้ำก็ย่อมดับไฟได้เช่นกัน หม่อมฉันว่า.... เรา”“แต่ต้องมิใช่ข้า” หลี่ชงเหอตัดบท “เจ้าไปเตรียมตัวออกเดินทางได้แล้ว”แม้ใจจะเจ็บช้ำแสนสาหัสแต่มิอาจรั้งนางไว้กับตัวได้ เขามิอาจให้อารมณ์เป็นใหญ่เหนือชาติบ้านเมือง มิอาจให้ต้าฮั่นต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีเขาเป็นผู้ร่วมสร้างไม่มีวัน!ฟางถิงถิงลูบท้องน้อยที่ยามนี้มีทารกน้อยพยานรักของนางและเขาด้วยใจอาวรณ์ สิ้นแล้วความรักที่วาดหวัง นางไม่ควรเลย ไม่ควรรักคนที่มิอาจรักเลย“ท่านอ๋องแค่บอกมาว่าเกลียดข้าแล้วใช่หรือไม่!” นางตะโกนถามย้ำอีกครั้งแต่อีกฝ่ายยังยืนหันหลังนิ่งงันท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ฟางถิงถิงระเบิดเสียงหัวเราะร้องไห้สลับกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาเป็นระยะ “ก็ได้... หากท่านอ๋องไม่ต้องการข้าแล้ว ข้าก็จะไป...”ฟางถิงถิงกลั้นใจเอ่ยเสียงแผ่วโหยออกมาอีกครั้งก่อนจะกระโจนลงไ

  • กระต่ายน้อยดวงใจอ๋องพยัคฆ์   138 ส่งคืนสถานะ

    หลี่ชงเหอรุดเข้าหาร่างชราที่เริ่มอ่อนแรง เขาหยิบสร้อยหยกห้อยคอของไฉ่ชิงเซียนขึ้นมาพิจารณาด้วยสีหน้าตื่นตกใจยิ่ง“เจ้าได้สร้อยหยกนี้มาจากไหน!” หลี่ชงเหอคำรามถามเสียงกร้าวไฉ่ชิงเซียนก็งุนงงไม่แพ้กัน แต่อาการของเขายามนี้เห็นทีแม้แต่เปล่งเสียงพูดยังลำบาก เขาได้แต่จ้องคนด้านบนด้วยแววตาเคลือบแคลงสงสัยก่อนเอ่ย “จะ... เจ้าจะรู้ไปทำไม”“ข้าต้องรู้! บอกมา”“สะ สร้อยนี่... ปะ เป็น เป็น...” ไฉ่ชิงเซียนนึกย้อนไปถึงครานั้น ยามที่ได้รับข่าว“เป็นอะไร!”“เป็นของ... ลูกข้า” ไฉ่ชิงเซียนเอ่ยเสียงเริ่มขาดห้วง“ลูกกเจ้า! รัชทายาทไฉ่ชิงซีที่หายสาปสูญไปน่ะรึ”“ใช่... ชิงซีลูกข้ากับถิงถิงหลานสาวของข้า พวกเขา... พวกเขา...”“พวกเขาทำไม!... บอกมา!” หลี่ชงเหอตะคอกซ้ำ“พวกเขาถูกปล้นขบวนรถม้า ตะ... ตะ... ตายไปนานแล้ว” ไฉ่ชิงเซียนพูดได้เพียงนั้นสติก็ดับวูบไป“ช้าก่อน!! ตาเฒ่า!!” หลี่ชงเหอตะโกนลั่น “หากสร้อยเส้นนี้เป็นของลูกเจ้าจริง แล้วยังมีอีกเส้นหรือไม่!”“มะ... มี อีกเส้นปะ เป็นของหลานข้าที่หายสาบสูญไป นางคงตายแล้ว... ถิงถิงหลานปู่”ไฉ่ชิงเซียนเอ่ยได้เพียงนั้นก็กระอักลิ่มโลหิตออกมาอีกครั้งก่อนสติดับวูบ“เดี๋ยว!

  • กระต่ายน้อยดวงใจอ๋องพยัคฆ์   137 สร้อยหยก

    “ข้าก็รักเจ้าตั้งแต่แรกเห็นที่งานเทศกาลโคมไฟ เจ้าคือโคมดวงใหญ่ที่สว่างไสวในใจข้าตั้งแต่บัดนั้น” เขาเอ่ยเพียงนั้นก็เห็นลูกกวางน้อยที่รักมีน้ำตา จึงโน้มหน้าเข้าหาบดริมฝีปากนางอย่างหิวกระหายดรุณีงามถึงคราวอ่อนระทวยมิอาจหักห้ามใจ นางจ้องลึกเข้าไปในแววตาอีกฝ่ายคล้ายจะค้นหาความในใจ แต่กลับพบเพียงความดำดิ่งแห่งความปรารถนาในตัวนางตอบแทนหลี่ชงเหอจึงเริ่มลำนำบทใหม่ ส่วนฟางถิงถิงก็ให้ความร่วมมือ นางกอดกระชับรอบเอวแกร่งที่ยามนี้ต่างไร้ปราการกั้นขวาง สองร่างก็มิอาจต้านทานความต้องการของตัวเองไปได้นางยินยอมพร้อมใจขับเคลื่อนลำนำรักร่วมกับเขา ยามสอดประสานกายเป็นหนึ่งเดียวก็มิหวั่น แม้หยาดเหงื่อแห่งความหฤหรรษ์จะทะลักทลายราวกับกำลังลอยละลิ่วเหินหาวกลางอากาศก็มิอาจนำพากระแสเสี้ยวความเจ็บปวดที่สุขสมไปได้ท่ามกลางความมืดของรัตติกาล มีเพียงแสงดาวทอประกายระยิบระยับท่ามกลางท้องฟ้าที่ดวงจันทร์กลมโตส่องแสงเรืองเรื่ออร่าม ชิงหลงสัตว์เลี้ยงคู่ใจหลี่ชงเหอที่เปรียบเสมือนพยัคฆ์วิหคเหนือท้องฟ้าก็บินฉวัดเฉวียนไปมาราวกับรับรู้ความดื่มด่ำแห่งความรักของทั้งสองไม่รู้คลาย... หลายวันต่อมาที่สนามรบระหว่างแคว้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status