แชร์

2. ตายไป มันง่ายกว่า (1)

ผู้เขียน: หมอนบนโซฟา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-03 22:07:02

“อะ โอ้ย!” มืออวบยกขึ้นจับบริเวณลำคอขาว ที่บัดนี้ขึ้นสีแดงช้ำจนน่ากลัว ลีน่าจำได้ว่าตนเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่ก็มีคนมาช่วยเธอไว้ได้ทัน

‘อ่า~ ดูเหมือนจะรอดแล้วสินะ’

“หลี่เอ๋อร์ฟื้นแล้วขอรับท่านพ่อ ท่านแม่” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้น ดึงสติให้ลีน่าหันมองไปทางต้นเสียง ภาพที่ปรากฏต่อหน้าเธอตอนนี้ เป็นภาพที่มีชายสองคน และหญิงอีกสองคน กำลังยืนมองเธอ ด้วยสีหน้าและแววตาเศร้าโศก

“หลี่เอ๋อร์ เหตุใดจึงทำเช่นนี้ลูก แม่ปวดใจยิ่งนัก ฮื้อออ” หญิงวัยกลางคนร้องห่มร้องไห้ ปานจะขาดใจ…

‘นี่มันเรื่องอะไรกัน คนพวกนี้เป็นใคร งงไปหมดแล้วนะ’ ลีน่าได้แต่มองคนนั้นที คนนี้ที

“พอเถิดน้องหญิง อย่าได้คาดคั้นลูกนักเลย” ชายหญิงคู่นี้ ดูเหมือนจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ทำไมถึงเรียกเธอว่าลูกกันล่ะ

“นั่นสิขอรับ ท่านแม่อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเลย”

“ขอโทษ แคกๆ นะคะ พวกคุณเป็นใครคะเนี่ย” ลีน่าสะบัดหน้า ไล่ความมึนงง จะคิดว่าเธอกำลังฝันอยู่ มันก็เหมือนจริงเกินไป

ลีน่าแน่ใจว่าตั้งแต่เกิดมาจากท้องแม่ จนอายุย่างเข้าสามสิบปี เธอไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้าผู้คนเหล่านี้มาก่อน ไหนจะเรื่องการแต่งตัว ที่เหมือนพวกนักแสดงซีรีส์จีนย้อนยุคนี่อีก

“ละ หลี่เอ๋อร์ นี่พี่อย่างไรเล่า พี่เหิงของเจ้า”

“เหิงไหนอีกล่ะ แล้วฉันก็ไม่ได้ชื่อหลี่เอ๋อร์ด้วย ฉันชื่อลีน่า ลอ อี ลี นอ อา นา ไม้เอก น่า…ลีน่า” มืออวบชี้ไปที่ปากของตัวเอง ก่อนจะขยับปากสะกดคำให้คนตรงหน้าฟัง

ทั้งคำพูดและท่าทีที่หญิงสาวแสดงออก ทำให้ครอบครัวสกุลเหอหวั่นใจ โดยเฉพาะเหอเข่อซิงผู้เป็นบิดา

จากกิริยาและท่าทางของบุตรสาว นอกจากจะแปลกประหลาดไปจากเดิม นางยังทำราวกับมิรู้จักพวกเขาอีก หากเป็นเช่นนี้ การเร่งเข้าหา อาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี

“เอ่อ อาเหิงอย่าพึ่งไปเร่งรัดน้องเลย นางอาจจะยังสับสนมึนงง หากได้พักผ่อนสักหน่อยคงจะดีขึ้น เอินเอินฝากเจ้าดูแลนางที” ชายที่ดูจะมีอายุมากที่สุดเดินออกไปจากห้อง ตามไปด้วยชายหนุ่มที่ชื่อพี่เหิง และหญิงวัยกลางคน

“ดะ เดี๋ยวสิ อย่าพึ่งไป พาฉันกลับบ้านก่อน” ลีน่าลุกขึ้นจากเตียง หมายจะวิ่งตามทั้งสามออกไป แต่กลับเสียหลักล้มไปกับพื้น

ตุบ!!!

“ทำไมหนักแบบนี้เนี่ย”

“ระวังเจ้าค่ะ คุณหนูจะไปที่ใดเจ้าคะ”

“ก็จะไปหาพวกเขานะสิ-” ลีน่าชะงักนิ่ง เมื่อเห็นเงาสะท้อนในกระจกบานใหญ่ ภาพที่สะท้อนอยู่ตอนนี้ เป็นหญิงสาวร่างอวบอั๋น ใบหน้าน่ารัก พวงแก้มขาว กลมใหญ่ราวกับซาลาเปาก้อนโต

สองมือยกขึ้นโบกไปมา เงาในกระจกก็ทำตาม ลีน่าจงใจเปลี่ยนเป็นชูมือสองนิ้ว เงานั้นก็ทำตาม!!!

“ย้ากกกกกกก อะไรวะเนี่ย” ทำไมหน้าเธอเปลี่ยนไป รูปร่างก็ด้วย

“คุณหนูเจ็บที่ใดเจ้าคะ ฮึก คุณหนูของบ่าว”

“ฉันชื่ออะไร”

“ฮึก หมายถึงนามของคุณหนูหรือเจ้าคะ คุณหนูเหอหลี่น่าเจ้าค่ะ” หญิงสาวตัวจ้อยตอบทั้งน้ำตา แม้ว่าคำพูดที่คุณหนูของนางเอ่ย จะแปลกไปบ้าง แต่นางก็พอจะคาดเดาได้ว่าคุณหนูถามถึงเรื่องใด

“เหอหลี่น่า” เมื่อได้คำตอบ ลีน่าก็ถอยมานั่งบนเตียงอย่างหมดแรง ในหัวพยายามนึกถึงเหตุผลและที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมดนี้

ลีน่า สาวใหญ่วัยสามสิบปี เธอเป็นลูกครึ่งไทย-จีน มีครอบครัวแสนอบอุ่นจนกระทั่งอายุได้ห้าขวบ พ่อชาวจีนของเธอ ก็ทิ้งเธอและแม่ไปกับหญิงอื่น ลีน่าเลยต้องอยู่กับยายและแม่นับจากนั้นมา

หลี่น่า เป็นชื่อที่พ่อใช้เรียกเธอ แต่นับจากที่พ่อจากไป ก็ไม่มีใครเคยเรียกเธอแบบนั้นอีก

หลังจากทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยจนจบปริญญา เธอก็ได้งานเป็นผู้จัดการอยู่ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จนมีเงินทองมากพอ จะส่งให้แม่และยายใช้ ทว่าหลังจากที่ลีน่าทำงานได้ไม่กี่ปี ยายกับแม่ของเธอก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จากนั้นเธอก็อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด มีเพียงเพื่อนที่ทำงานเท่านั้นที่พอจะไปมาหาสู่กันได้

ลีน่าจำได้ว่า เธอไปทำงานตามปกติเหมือนทุกวัน อยู่ตรวจสอบความเรียบร้อยจนร้านปิดอย่างที่เคยทำ

“พวกแกมาเก็บขวดเหล้าตรงนี้ไปด้วย”

“ได้ครับ” แน่นอนว่าการทำงานในสถานที่ ที่มีแต่คนมึนเมาย่อมต้องมีเรื่องให้ปวดหัวบ้าง แต่เธอก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง จนกลายเป็นเจ้ใหญ่ที่น้องๆ ต่างเคารพ

อ่า~ ที่จริง เพราะเธอทำงานที่นี่มานานแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   17. กลัว (2)

    “ห้องนี้หรือ”“มิใช่เจ้าค่ะ ห้องนี้เป็นห้องตำราของท่านพ่อ” หลี่น่าเดินไปได้ไม่นาน ชายหนุ่มก็ทักขึ้นมาอีก“หรือว่าจะเป็นห้องนี้”“นั่นเป็นห้องเก็บป้ายวิญญาณของบรรพชนเจ้าค่ะ”“อีกไกลหรือไม่”“เดินเลี้ยวไปทางซ้ายก็จะถึงแล้ว อยู่ติดกับห้องนอนของพี่เหิงพอดี ท่านทนมิไหวแล้วหรือเจ้าคะ คิกๆ” หญิงสาวปิดปากขำ จนดวงตาที่กลมโตหยีลงอย่างน่ารัก“อะฮึ่ม!” สตรีตรงหน้ายามยิ้มขบขำเช่นนี้ ช่างน่าเอ็นดูนัก ทั้งที่นางมิได้งามล่มเมือง รูปร่างก็มิได้เอวบางร่างน้อยอย่างสตรีงามผู้อื่น ทว่าส่วนเว้นส่วนโค้งกลับดึงดูดสายตาให้จับจ้อง มิรู้เบื่อ“ถึงแล้วเจ้าค่ะ”“อืม เจ้าออกไปรอด้านนอกก็ได้ ข้าจำทางได้แล้ว”“ท่านปวดหนักหรือ คึๆ” ท่าทีป้องปากกระซิบ พร้อมกับสายตาที่หยอกล้อ ทำเอาหวังหย่งถึงกับหน้าตึง แต่ยังมิทันได้เอ่ยเตือน อีกฝ่ายก็หนีหายไปเสียก่อนหวังหย่งเข้าไปในห้องสุขาเพียงชั่วครู่ ก็เดินย่องออกมา ดวงหน้าคมหันซ้ายหันขวา เพื่อดูให้แน่ใจว่ามิมีผู้ใดอยู่บริเวณนี้ ร่างสูงรีบเดินไปยังห้องตำราของเรือนหากว่าจะหาเอกสารสำคัญ ย่อมต้องหาในห้องตำราเป็นที่แรก“ท่านแม่ทัพทำสิ่งใดหรือเจ้าคะ” ยังไม่ทันที่หวังหย่งจะเปิดเข้าไปใน

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   16. กลัว (1)

    “ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่เหิง ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ” หลี่น่ายื่นหน้าออกมาจากหน้าต่างของรถม้าคันหรู ทั้งยังโบกไม้โบกมือให้ครอบครัว ที่กำลังกวาดลานหน้าเรือนอยู่เกวียนขนของและรถม้าคันหรู เคลื่อนเข้ามาจอดในลานกว้างหน้าเรือนสกุลเหอ เข่อซิงเองก็นึกแปลกใจที่บุตรสาวนั่งรถม้าเข้ามา ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยปากถาม เจ้าของรถม้าก็ปรากฏกายขึ้น“มะ แม่ทัพใหญ่! บุตรสาวข้าไปสร้างเรื่องเดือดร้อนหรือ”“ท่านแม่ทัพโปรดอภัยด้วยเจ้าค่ะ” สองสามีภรรยาต่างก้มคำนับต่อแม่ทัพใหญ่ของแคว้นอย่างหวาดกลัว หลี่น่าได้แต่ยืนงงกับท่าทางของบิดาและมารดานางมิได้ทำสิ่งใดผิดเสียหน่อย“ท่านพ่อท่านแม่ ข้ามิได้สร้างเรื่องนะเจ้าคะ”“เจ้าเงียบเสีย ท่านแม่ทัพโปรดเห็นใจนางเถิดขอรับ น้องสาวข้าผู้นี้ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมามาก รอดตายมาได้ก็จดจำสิ่งใดมิได้ แม้แต่นามของตน ไหนจะพูดจากพิลึกพิลั่นนี่อีก เห็นแก่ว่านางวิปลาสเถิดขอรับ”“โอ้ยยยย พี่เหิงคิดว่าข้าบ้าหรือ แม่ทัพจ้าว! ท่านพูดสิ่งใดบ้างเถิด”“ท่านเหอ ฮูหยิน คุณชาย ข้าเพียงนำไหและจอกสุราที่คุณหนูเหอต้องการมาให้เท่านั้น” เสียงนิ่งทรงพลัง ทำให้คนสกุลเหอทั้งสาม หยุดโวยวายลงได้ แต่มิวายหันมาหาหลี่

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   15. ได้สหายดี มีชัยไปกว่าครึ่ง (3)

    “ข้าทำเรื่องดีเจ้าค่ะ เอ่อ…ข้าจะเปิดร้านสุราหวานเจ้าค่ะ” มือขาวยกขึ้นมาป้องปาก กระซิบกระซาบเสียงเบา มิให้ผู้อื่นได้ยิน“เช่นนั้นหรือ เอาไว้ข้าจะส่งไปให้ที่เรือนเจ้า”“ประเดี๋ยวเจ้าค่ะ ข้าขอไปเลือกเองได้หรือไม่ นะ นะ ข้าจะได้เลือกเอาแค่ที่จำเป็นอย่างไรเจ้าคะ” เพราะเคยชินกับการอยู่ใกล้ชิดกับบิดาและพี่ชาย หลี่น่าจึงเผลอเกาะแขนแกร่งเสียแน่น ทั้งยังส่งสายตาออดอ้อน จนคนมองเสียอาการ“อะแฮ่ม! เช่นนั้นก็กลับเรือน ฮุ่ยหวง…” เพียงแค่สายตาที่ส่งมา ก็ทำให้รองแม่ทัพเข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงได้แยกตัวออกไปอีกทางหวังหย่งพาหลี่น่าและเอินเอินมาที่เรือนของตน ก่อนจะพาไปเลือกไหสุราและจอกสุราตามที่หญิงสาวต้องการ ยังดีที่วันนี้ท่านย่าของเขาไม่อยู่เรือน หากไม่แล้ว คงต้องเอ่ยอธิบายเสียยาวเหยียดเป็นแน่“เจ้าเลือกเอา อยากได้อันใดก็บอกบ่าวไพร่” หวังหย่งให้บ่าวไพร่เปิดหีบไม้ที่ใช้เก็บจอกสุรา ให้หญิงสาวดู“นี่…เหมือนของใหม่เลยนะเจ้าคะ” ทั้งลวดลายและรูปลักษณ์ของจอกสุรา ไม่แตกหักหรือมีรอยร้าวสักนิด“เอาไปเถิด เรือนข้ามีมาก มิได้ใช้งาน จนต้องนำมาเก็บที่ห้องเก็บของนี่อย่างไรเล่า”“อ่า~ มิใช่ว่าพึ่งให้คนไปซื้อมาใหม่ เพื่อ

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   14. ได้สหายดี มีชัยไปกว่าครึ่ง (2)

    เช้าวันรุ่งขึ้นหลี่น่าลุกขึ้นมาออกกำลังกายตามปกติ ก่อนจะมาท่านมื้อเช้าและไปจัดการเรื่องการขนน้ำผลไม้ไปไว้ในห้องใต้ดิน ด้วยมิอยากจ้างคนงานมาจัดการ หลี่น่ากับเอินเอิน จึงจัดการขนไหน้ำผลไม้ยังไม่เน่าเสียมาไว้ในห้องใต้ดินด้วยตนเอง“เห้อ! กว่าจะเสร็จ เล่นเอาเหนื่อยแทบแย่”“จริงเจ้าค่ะ แหะๆ”“ทนเอาหน่อยนะเอินเอิน หากว่าเราขายสุราหวานได้ดีตามที่คาดไว้ ครอบครัวเราก็จะมีกินมีใช้ มีเงินไว้จ่ายหนี้สินที่ติดค้างอยู่” หลี่น่าลูบศีรษะเล็กของคนสนิท“บ่าวทนไหวเจ้าค่ะ สงสารก็แต่พวกท่าน ที่ต้องมาลำบากเช่นนี้”“อย่าคิดอันใดให้มากความเลย ข้าว่าเราไปทำมื้อเที่ยงไว้รอทุกคนเถิด ช่วงบ่ายเราจะต้องออกไปหาภาชนะใส่สุราหวานของเราเสียที” ว่าแล้วสองนายบ่าวก็พากันเข้าครัว แม้ว่าหลี่น่าจะทำสิ่งใดไม่เป็น แต่ก็พอช่วยหยิบจับนู่นนี่ได้..“เราจะเริ่มจากที่ใดก่อนดีเจ้าคะ” หลังจากทานมื้อเที่ยง หลี่น่าก็ขออนุญาตบิดามารดาออกมาหาไหและจอกสุราเก่า“ข้าจะลองไปถามโรงน้ำชาดูก่อน” หากว่าไปถามร้านขายสุรา แล้วเรานำไหเหล่านั้นมาขายสุราแข่งกับเขา มันดูน่าเกลียดเกินไปหน่อย“เถ้าแก่เจ้าคะ ที่ร้านพอจะมีไหหรือจอกชาเก่าที่ไม่ใช้แล้วหรือไม่

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   13. ได้สหายดี มีชัยไปกว่าครึ่ง (1)

    หลังจากที่ขอให้ท่านลุงเหวินจงหมักสุราไว้ให้ หลี่น่าก็กลับมาพักที่เรือนอย่างสบายใจกับผีน่ะสิ!นับจากที่ตัดสินใจว่าจะนำสุราหวานไปวางขาย หลี่น่าก็ไม่ได้หยุดพักหายใจเลยแม้แต่น้อย ทั้งเรื่องเครื่องมือเครื่องใช้ ทั้งเรื่องวิธีการทำ ก็มีปัญหาเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน“จะทำอย่างไรดีเจ้าคะคุณหนู” หลี่น่ากำลังตักชิมน้ำผลไม้ที่นางคั้นเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อน ก็พบว่าน้ำเหล่านั้นทำท่าคล้ายจะเน่าเสีย รสชาติและกลิ่นต่างแปลกไป“เพราะไม่มีตู้เย็น เลยเป็นเช่นนี้”“เอ่อ อันใดคือตะ ตู้เย็นเจ้าคะ”“เป็นที่ที่เย็นมากๆ ใช้เก็บของมิให้เน่าเสียน่ะ” หลี่น่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ เสียดายน้ำผลไม้ที่คั้นไว้ เห็นทีจะต้องทิ้งแล้วทำใหม่“…”“นำไหที่เสียไปทิ้งเถิด แล้วคั้นใหม่ ข้าจะลองไปถามท่านพ่อดูว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร” ครอบครัวของนางเป็นสกุลพ่อค้า คงจะมีวิธีการเก็บสินค้าให้สดใหม่อยู่เสมอ“ได้เจ้าค่ะ” แม้เอินเอินจะเสียดายมากเท่าใด แต่ก็จำใจต้องเทน้ำผลไม้พวกนั้นทิ้ง..หลังจากครอบครัวสกุลเหอทานมื้อเย็นเสร็จ ก็พากันมานั่งเล่นพูดคุยกันที่ศาลาหลังเรือน เป็นโอกาสให้หลี่น่าได้ถามไถ่วิธีแก้ปัญหากับบิดา“ท่านพ่อเจ้าคะ ข้าติดปัญหาเจ

  • กลยุทธ์ลับเปลี่ยนคุณหนูตกอับเป็นเศรษฐีนี   12. ลงมือด้วยตนเอง (3)

    ทั้งกลิ่นและรสชาติ แตกต่างจากสุราที่ขายในโรงสุรายิ่งนัก กลิ่นของสาโทที่ท่านลุงเหวินจงหมักเอง จะมีกลิ่นหอมของข้าว แต่ก็ได้กลิ่นเปรี้ยวที่เกิดจากการหมักดองเช่นกัน“รสชาติดีกว่าสุราที่ข้าดื่มนัก”“แท้จริงแล้วสุราที่คุณชายดื่มก็ทำเช่นนี้เหมือนกันขอรับ แต่เขาจะเอาไปเข้าเครื่องกลั่น เพื่อจะได้เก็บไว้นาน ซึ่งรสชาติก็จะเปลี่ยนไปด้วย”“จริงสิ ท่านลุงพาข้าไปดูผลไม้ที่ส่งขายไม่ได้ทีเถิด” หลี่น่าอยากลองผสมน้ำผลไม้กับสาโทเต็มที อยากรู้ว่ารสชาติจะออกมาเป็นดังที่นางคาดไว้หรือไม่“ทางนี้เลยขอรับ” เดินแยกออกไปไม่นาน ก็พบกับกองผลไม้ที่ไม่สามารถส่งขายได้ บ้างก็เน่าเสีย บ้างก็ลูกเล็กเกินไปหลี่น่าเดินเข้าไปคัดเลือกผลที่ยังพอจะนำมาคั้นน้ำได้ นางเลือกผลส้มมาเกือบยี่สิบลูก ใช้มีดหั่นครึ่งส้มแต่ละผล แล้วจึงบีบคั้นน้ำออกมา“ข้าขอสาโทสักจอกเถิด” มือขาวรับเอาสาโทมาผสมกับน้ำส้มที่ตนเองคั้นสดเอาไว้ ก่อนจะใช้ตะเกียบแตะเพื่อชิมทุกการกระทำของหญิงสาวตกอยู่ในสายตาของเหิงเยว่ เอินเอิน และเหวินจงทั้งหมด“เจ้าเชี่ยวชาญนัก” หลี่น่าเพียงยกยิ้มให้พี่ชาย แล้วเลือกผลส้มมาคั้นเพื่อผสมกับสาโทให้ครบทุกคน กว่าจะทำได้ในปริมาณที่ม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status