LOGINหลังเสร็จงานจากบ่อนเจ้าขุนก็ขับรถกลับเพ้นท์เฮ้าส์ ร่างสูงเหยียดกายนอนราบบนโซฟาตัวยาว แขนแกร่งข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาวางพาดบนหน้าผาก ดวงตาเพ่งมองเพดานอย่างเลื่อนลอย
จู่ ๆ ภาพเมื่อคืนก็ฉายขึ้นมาในหัว พอมีเวลาได้คิดทบทวนเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าความจริงแล้วเมื่อคืนมันคือครั้งแรกของดาริณ
ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะผ่านผู้ชายมาอย่างโชกโชนเสียอีก
ขณะกำลังนอนคิดถึงเรื่องเมื่อคืนหัวสมองก็พลันคิดเลยเถิดไปถึงความเร่าร้อนที่เกิดขึ้น เรือนร่างอรชรที่ไม่ว่าจะมองส่วนไหนก็ดูสวยไปหมดมันตราตรึงหัวใจชะมัด จู่ ๆ คนหน้านิ่งก็คลี่ยิ้มอย่างไม่รู้ตัว
ครืด! ครืด!
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะความคิด ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบมากดรับสาย
“ครับน้าอร”
[ฮัลโหลหลานรัก เป็นไงบ้างจ๊ะไม่ได้เจอกันตั้งนานคิดถึงจังเลย]
“ผมก็คิดถึงน้าอรเหมือนกันครับ”
[ไม่ต้องมาทำเป็นปากหวาน คิดถึงน้าแต่ไม่เห็นโทรมาหาน้าบ้างเลย ดูซิมีแต่น้าโทรหาอยู่ฝ่ายเดียว]
“โธ่! ก็ช่วงนี้เรียนหนักนี่นา ไหนจะต้องดูแลงานที่บ่อนแทนแดเนียลอีก”
[อย่าทำเป็นเอาชื่อสามีสุดที่รักของน้ามาอ้าง แล้วไหนตอนแรกที่คะยั้นคะยอให้แดเนียลเปิดบ่อนใครเป็นคนบอกว่าจะช่วยดูแลอย่างเต็มที่จ๊ะ]
“ก็ช่วยดูแลอย่างเต็มที่อยู่นี่ไงครับ ช่วยดูแลจนทุกวันนี้จะเป็นเจ้าของบ่อนเองแล้วเนี่ย แล้วนี่น้าอรจะกลับจากอิตาลีวันไหนครับ”
[น้ารอแดเนียลประชุมเสร็จอีกสามสี่วันก็จะกลับแล้ว ยังไงก็กลับไปทันทำบุญครบรอบวันตายของแม่เราอยู่แล้วล่ะไม่ต้องห่วง]
ชายหนุ่มพยักหน้ากับโทรศัพท์มือถือ พอพูดถึงเรื่องนี้ความคับแค้นในใจก็ผุดขึ้นมาราวกับน้ำพุร้อน เจ้าขุนนิ่งเงียบนัยน์ตาคมกริบมองฝ้าเพดานอย่างไม่ได้จับจุด
[เจ้าขุน] เสียงผู้เป็นน้าเอ่ยเรียกคนที่จู่ ๆ ก็เงียบไป
ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์จากนั้นก็ขานรับสั้น ๆ ว่า
“ครับ”
[อย่าบอกนะว่าที่เงียบไปเมื่อกี้คือกำลังคิดถึงเรื่องแม่ขึ้นมาอีก นี่เรายังไม่เลิกคิดแค้นคนบ้านนั้นอีกเหรอ]
“น้าอรจะให้ผมอภัยให้คนที่มันทำให้แม่ผมต้องตายงั้นเหรอ”
[น้าว่าเจ้าขุนเลิกอาฆาตแค้นแล้วเอาเวลามาใช้ชีวิตให้มีความสุขดีกว่านะ ยังไงเขากับเราก็ต่างคนต่างอยู่ไปแล้ว]
“ตราบใดที่เขายังสุขสบายดี ผมก็ไม่มีวันมีความสุขหรอกครับ”
[เฮ่อ!]
เสียงถอนหายใจเล็ดลอดออกมาจากคนปลายสาย ‘อรวรินทร์’ หรือน้าอรที่เจ้าขุนเรียกคือน้องสาวแท้ ๆ ของ ‘อัญญา’ ผู้ซึ่งเป็นแม่บังเกิดเกล้าของเจ้าขุน อัญญาเสียชีวิตไปตั้งแต่เจ้าขุนยังแบเบาะ แม้แพทย์ชันสูตรจะระบุว่าสาเหตุการตายเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันแต่เจ้าขุนก็คิดเสมอว่าที่แม่ของเขาต้องมาเสียชีวิตสาเหตุมาจากคนคนนั้น
คนที่เขาเกลียดเข้าไส้
[น้าขี้เกียจพูดเรื่องนี้แล้ว มาพูดเรื่องเจ้าขุนดีกว่า]
“เรื่องผม? เรื่องอะไรครับน้าอร”
[ก็สายของน้ารายงานว่าเมื่อคืนเราพาสาวมานอนด้วยแถมตอนเช้าก็ยังขับรถไปส่งเธอถึงที่บ้าน มีแฟนแล้วไม่คิดจะเล่าให้น้าฟังบ้างเหรอจ๊ะ]
เจ้าขุนขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ สงสัยไอ้พวกบอดี้การ์ดมันโทรไปรายงานนายหญิงอรเรื่องที่เขาพาดาริณมาค้างที่นี่เรียบร้อยแล้ว
พวกปากโป้ง มันน่าเรียกมาเตะเรียงตัวนัก
[พูดเรื่องนี้แล้วเงียบเลยนะ สรุปว่าไงจ๊ะหลานรัก คนเมื่อคืนแฟนเหรอ]
“เมื่อคืนเพื่อนครับ”
[จะเป็นเพื่อนคนไหนกันนะ หลานน้าถึงได้พามานอนค้างที่เพ้นท์เฮ้าส์ส่วนตัวด้วย ปกติหวงพื้นที่ส่วนตัวจะตาย]
“...”
หลานชายเงียบกริบไม่ปริปากโต้เถียง ช่างผิดวิสัยไม่ยอมคนของเจ้าขุน
[ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า]
คนเป็นน้าหัวเราะร่า ถึงไม่ได้ยอมรับแต่หลานชายก็ไม่ปฏิเสธสงสัยสิ่งที่คิดจะเป็นจริง
[น้าไม่กวนแล้วดีกว่า เอาไว้อีกสี่วันเจอกันที่เมืองไทยนะจ๊ะหลานรัก บาย]
“บายครับ”
เอ่ยลาเรียบร้อยเจ้าขุนก็เป็นฝ่ายกดวางสาย ชายหนุ่มวางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะตามเดิมจากนั้นก็สอดแขนเข้าไปใต้คอ นัยน์ตาสีนิลจดจ้องไปยังเพดานทว่าจิตใจกลับเอาแต่คิดถึงเรื่องเมื่อคืน
ร่างอรชรที่ผุดผ่องไปทุกส่วนยังตราตรึงมิเลือนหายจากความทรงจำ เจ้าขุนนอนยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่คนเดียวประหนึ่งคนกำลังมีความรักอย่างไรอย่างนั้น
อีกด้าน
หลังจากนอนพักอย่างคนอ่อนเพลียมาทั้งวันดาริณก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาในช่วงค่ำเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังอย่างต่อเนื่อง หญิงสาวลุกนั่งงัวเงียก่อนจะเอื้อมไปหยิบเครื่องมือสื่อสารที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมากดรับสาย
“ว่าไงคะพี่ดาวิทย์”
[คืนนี้ว่างไหมพี่อยากจะชวนเรามานั่งดื่มด้วยกันหน่อย]
“วันนี้ดาริณเหนื่อยมากไม่อยากออกไปไหนหรอกค่ะ”
[ออกมาดื่มเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะดาริณน้องรัก วันนี้พี่เครียดมากอยากมีเพื่อนนั่งคุย นะดาริณนะ]
พี่ชายทำเสียงออดอ้อนคะยั้นคะยอเพราะมีแผนการร้าย ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเงินยี่สิบล้านบาทที่เขาต้องเอาไปใช้หนี้บ่อนพนันแล้ว
“ก็ได้ค่ะ แต่ดาริณขออาบน้ำก่อนนะคะแล้วเดี๋ยวจะรีบไปหา”
[ได้จ้ะ งั้นเดี๋ยวพี่ส่งโลเคชันไปให้นะ]
พูดจบดาวิทย์ก็รีบกดวางสายแล้วส่งโลเคชันสถานที่นัดหมายให้น้องสาว ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
รอยยิ้มอย่างมีเลศนัยผุดขึ้นตรงมุมปากของชวินอย่างกลั้นไม่ได้ ชายหนุ่มยกบรั่นดีสีอำพันขึ้นมาจิบแล้วยิ้มให้เพื่อนสนิทที่อีกไม่นานจะพ่วงสถานะพี่เมียของเขาอีกตำแหน่ง
หลังเสร็จงานจากบ่อนเจ้าขุนก็ขับรถกลับเพ้นท์เฮ้าส์ ร่างสูงเหยียดกายนอนราบบนโซฟาตัวยาว แขนแกร่งข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาวางพาดบนหน้าผาก ดวงตาเพ่งมองเพดานอย่างเลื่อนลอย จู่ ๆ ภาพเมื่อคืนก็ฉายขึ้นมาในหัว พอมีเวลาได้คิดทบทวนเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าความจริงแล้วเมื่อคืนมันคือครั้งแรกของดาริณ ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะผ่านผู้ชายมาอย่างโชกโชนเสียอีก ขณะกำลังนอนคิดถึงเรื่องเมื่อคืนหัวสมองก็พลันคิดเลยเถิดไปถึงความเร่าร้อนที่เกิดขึ้น เรือนร่างอรชรที่ไม่ว่าจะมองส่วนไหนก็ดูสวยไปหมดมันตราตรึงหัวใจชะมัด จู่ ๆ คนหน้านิ่งก็คลี่ยิ้มอย่างไม่รู้ตัว ครืด! ครืด! เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะความคิด ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบมากดรับสาย “ครับน้าอร” [ฮัลโหลหลานรัก เป็นไงบ้างจ๊ะไม่ได้เจอกันตั้งนานคิดถึงจังเลย] “ผมก็คิดถึงน้าอรเหมือนกันครับ” [ไม่ต้องมาทำเป็นปากหวาน คิดถึงน้าแต่ไม่เห็นโทรมาหาน้าบ้างเลย ดูซิมีแต่น้าโทรหาอยู่ฝ่ายเดียว] “โธ่! ก็ช่วงนี้เรียนหนักนี่นา ไหนจะต้องดูแลงานที่บ่อนแทนแดเนียลอีก” [อย่าทำเป็นเอาชื
“เรื่องอะไร” “เรื่องคุณดาวิทย์ ลูกชายคนโตของท่านรัฐมนตรีนพดลครับ” “ติดปัญหาอะไร” “ตอนนี้คุณดาวิทย์อยากกู้เงินเพิ่มครับ” “ก็ให้กู้ไป” “แต่หนี้เก่ายังค้างอยู่เลยนะครับ แม้แต่ดอกเบี้ยก็ยังไม่คืนสักบาท จนตอนนี้ดอกเบี้ยที่ค้างอยู่จะเท่าเงินต้นที่ยืมไปแล้วครับ” “ของเก่ายังเหลืออยู่เท่าไหร่” “รวมดอกเบี้ยตอนนี้ก็สิบห้าล้านแล้วครับ” คิ้วเข้มขมวดมุ่นเป็นกังวล คนที่พวกเขากำลังพูดถึงเป็นลูกชายคนโตของท่านรัฐมนตรีนพดล หรือก็คือพี่ชายแท้ ๆ ของดาริณ ‘ดาวิทย์’ เพิ่งมาเป็นลูกค้าของบ่อนเมื่อประมาณหกเดือนก่อน ตอนแรกเจ้าขุนก็ไม่รู้หรอกว่าเขาคือพี่ชายของดาริณ เพราะปกติไม่ค่อยได้ลงไปสุงสิงกับลูกค้าด้านล่าง มาทีไรก็นั่งอยู่แต่ที่โต๊ะทำงานแล้วดูกิจกรรมทุกอย่างของบ่อนผ่านกล้องวงจรปิด เขาเพิ่งรู้ว่าดาวิทย์เข้ามาใช้บริการที่บ่อนเมื่อเดือนที่แล้วตอนที่เจ้าตัวเอาชื่อผู้เป็นพ่อมาอวดอ้างเพื่อขอกู้ยืมเงินห้าล้านไปต่อทุน ผ่านมายังไม่ถึงเดือน จากหนี้ห้าล้านบาทตอนนี้กลายเป็นสิบห้าล้านบาทไปแล้ว เจ้าขุนพ
รถคันหรูจอดนิ่งที่หน้ารั้วสูงของคฤหาสน์หลังใหญ่ ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่าเจ้าของคฤหาสน์หรูหราในย่านที่ดินราคาแพงหลังนี้คือท่านรัฐมนตรี ‘นพดล อนันต์เดโช’ บุคคลผู้ซึ่งมีอำนาจและทรงอิทธิพลคนหนึ่งของประเทศ “จอดตรงนี้แหละ แล้วนายก็ลงไปได้แล้ว” พอถึงหน้าบ้านหญิงสาวก็แผดเสียงออกคำสั่งให้ชายหนุ่มลงจากรถ เจ้าขุนนั่งนิ่งไม่มีทีท่าว่าจะยอมทำตามที่เธอสั่ง ดวงตาคมกริบไล่สำรวจคนข้าง ๆ ก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้หญิงสาว เพ่งตามองเธอราวกับมีเรื่องอยากจะพูด “อะไรอีก” ดาริณแว้ดเสียงใส่พลางโยกหน้าถอยหนี แผ่นหลังบอบบางชนกับประตูรถอย่างจนมุม “ที่เธอวางยาไอ้ทิวเขาเมื่อคืน เพราะเธอรักมันมากจนอยากได้มันเป็นผัว หรือเป็นเพราะพ่อของเธอบังคับให้จับมันให้ได้กันแน่” “นายอย่ามาใส่ร้ายคุณพ่อฉันนะ” “ฉันรู้นะว่าตอนนี้ครอบครัวเธอกำลังมีปัญหา แล้วบริษัทที่พี่ชายเธอบริหารอยู่ก็กำลังขาดทุนมหาศาล ที่ท่านรัฐมนตรีอยากได้ไอ้ทิวเขามาเป็นลูกเขยเพราะหวังฮั้วโครงการก่อสร้าง...ใช่ไหม” นัยน์ตาของคนถูกเค้นสั่นระริก เธอรู้สึกโกรธเคืองคนถามเป็นอย่างมาก แม้จ
เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนโยนยามเช้าเล็ดลอดเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอน ร่างเล็กค่อย ๆ ลืมตาตื่นจากภวังค์แห่งฝัน ก่อนจะลุกพรวดขึ้นนั่งเมื่อภาพเมื่อคืนมันแวบเข้ามาในหัวสมอง “โอ๊ย!” เธอรู้สึกเจ็บหน่วงตรงกลางหว่างขาขึ้นมาเพียงเพราะขยับร่างกายอย่างฉับพลัน “ตื่นแล้วเหรอ” ชายหนุ่มยืนอยู่มุมห้องที่เป็นกระจกใสซึ่งตรงนั้นสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล นัยน์ตาคมไล่สำรวจร่างเล็กแล้วลอบยิ้ม ก่อนจะนั่งลงตรงโซฟาทรงโมเดิร์นซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน เรียวขายาวขยับเป็นท่านั่งไขว่ห้าง จากนั้นเขาก็ยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบอย่างสบายใจ ทั้งสบายใจแล้วก็สบายตัวเลยล่ะ เพราะเมื่อคืนเขาได้ปลดปล่อยไปหลายน้ำ ดาริณช้อนตามองคนร้ายกาจที่กระทำรุนแรงกับเธอทั้งคืนราวกับสัตว์ป่าหิวโหย เธอตั้งท่าจะลุกจากเตียงนอนแต่ต้องหยุดชะงักกลางคันเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังเปลือยกายล่อนจ้อน หญิงสาวกระชับผ้าห่มคลุมตัวจากนั้นก็เอ่ยเสียงแข็ง “ฉันจะกลับบ้าน” “ใครห้าม” ไม่มีใครห้ามแต่จะให้เธอเดินแก้ผ้าไปรึไงกัน หญิงสาวทำท่าทางฮึ
มือหนาประคองตัวตนที่ตั้งผงาดด้วยฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กส์แล้วชักรูดสองสามครั้ง ดวงตาคมกริบเพ่งพิศเรือนร่างสวยด้วยความลุ่มหลง ดาริณสวยไปหมดทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นสองเต้าอวบนูนขนาดเต็มไม้เต็มมือ หรือผิวกายขาวผุดผ่องและร่องรูเนียนกริบสีชมพู ชายหนุ่มรู้สึกคอแห้งผากกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ เห็นแล้วอยากดูดเลียร่องรักของดาริณให้สาแก่ใจเอาให้เธอร้องครวญครางเสียงหลงไม่เป็นภาษา แต่ก็ติดตรงที่ตอนนี้อารมณ์มันพลุ่งพล่านเกินกว่าจะมัวมาเสียเวลาทำอย่างอื่น ตอนนี้ขอเอาก่อนละกัน เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยหาโอกาสทำทีหลัง เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงบ้วนน้ำลายลงบนฝ่ามือของตัวเอง จากนั้นก็เอาไปถูชโลมบนเอ็นแท่งใหญ่ จ่อปลายเอ็นไว้ตรงปากทางร่องกลีบที่ยังปิดสนิทแล้วถูไถเพิ่มความกระสันเสียวให้เธอ “นายช่วยอ่อนโยนกับฉันหน่อยนะ” ทำเป็นมาร้องขอความอ่อนโยนทั้งที่เธอมันกร้านโลกซะขนาดนี้ เจ้าขุนแค่นหัวเราะอย่างนึกดูถูกในตัวหญิงสาว อ่อนโยนบ้าบออะไรเขาไม่เคยอ่อนโยนกับใคร นอกจากไม่ตอบเจ้าขุนยังส่งลำเอ็นเข้าไปในร่องรักทันที เรื่องแบบนี้ไม่มีใครเขาประนีประนอมกันหรอก ไม่อย่างนั้
‘ข่าววงในเขาลือกันว่าลูกสาวคนสวยของท่านรัฐมนตรีคนดังตอนนี้กำลังกุ๊กกิ๊กอยู่กับหนุ่มนักศึกษาคณะที่มีเกียร์ห้อยคอ บอกเลยว่าหนุ่มหล่อคนนี้ดีกรีไม่ธรรมดา เป็นถึงลูกชายของเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของประเทศ เห็นโปรไฟล์แล้วรับรองว่าท่านรัฐมนตรียอมไฟเขียวให้แน่นอน แถมแหล่งข่าวยังบอกอีกด้วยว่าหลังเรียนจบทั้งคู่เตรียมบินลัดฟ้าไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้วยกัน เห็นแล้วมันหนึบหนับหัวใจเสียจริง นี่แหละนะที่เขาเรียกว่าคู่สร้างคู่สมของแท้’ จู่ ๆ ก็มีข่าวการคบหาดูใจกันระหว่างคนสองคนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ด้านหนึ่งคือ ‘ดาริกา อนันต์เดโช’ หรือ ‘ดาริณ’ ลูกสาวคนสวยของท่านรัฐมนตรีคนดังผู้ซึ่งกุมอำนาจหลายฝ่ายในรัฐบาล อีกด้านคือ ‘อนาวัฒน์ เตมรไพศาล’ หรือ ‘ทิวเขา’ ทายาทเพียงคนเดียวของอาณาจักรธาดากรุปกลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งคู่เหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยกทั้งที่แท้จริงแล้ว ทั้งคู่เป็นเพียงเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเท่านั้น อีกอย่างทางฝ่ายชายก็มีคนรักอยู่แล้วด้วย แต่ไม่รู้ทำไมข่าวโค







