Share

กลที่ 9

last update Last Updated: 2025-12-08 20:19:06

พ่อเลี้ยงหนุ่มหันไปมองชายป่าตรงนั้นหน้าเครียด ดูเหมือนจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นในพื้นที่ของเขาแล้วสิ เขาไม่อยากคิดอะไรอีก จึงตัดสินใจพาชญานินกลับไปด้วยกันก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน

พอเตชทัตอุ้มคนขึ้นมาแล้วหมุนตัวกลับไปเห็นม้าตัวโปรด เขาพลันชะงัก ให้คนเจ็บขี่ม้ากลับไปกับเขาคงไม่ดีนัก แม้จะไม่มีอะไรหักงอให้เห็น แต่ไม่รู้ข้างในจะบอบช้ำแค่ไหน คิดไปคิดมา เขาก็ค่อยๆ นั่งลงประคองร่างบางไว้บนตัก หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาต่อสายเรียกคนสนิทให้เอารถมารับด่วนและสั่งให้เตรียมหมอไว้รอด้วย

ไม่กี่นาทีจากนั้น พันรบบึ่งรถกระบะคันใหญ่มาเลย พอมองเห็นเจ้านายกอดประคองผู้หญิงคนหนึ่งไว้บนตัก เขาก็เบิกตากว้าง กำลังจะลงจากรถไปหา เจ้านายก็ตะโกนบอกไม่ให้ลงก่อน

“รีบกลับไปที่เรือนหมอเลย” เตชทัตบอกเร็วๆ หลังอุ้มชญานินมานั่งในแคปหลังแล้ว ระหว่างพันรบเลี้ยวรถกลับ เขาก็เป่านิ้วส่งสัญญาณบอกให้เจ้าสายลมวิ่งตามมาเอง

สีหน้าจริงจังของเจ้านายทำให้พันรบไม่กล้าถามมาก เขารีบขับรถตรงไปยังเรือนหมอ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยปู่ของเตชทัตยังอยู่ เรือนหมอนี้มีหมอหนึ่งคน ผู้ช่วยสองคน เวลาคนงานในไร่ไม่สบายหรือเกิดอุบัติเหตุตอนทำงานก็มารักษาที่นี่

พอรถแล่นไปจอดหน้าเรือนหมอ เตชทัตแทบจะเปิดประตูอุ้มคนเจ็บพุ่งลงไปเลย เขาก้าวเร็วๆ เข้าห้องฉุกเฉินที่สั่งให้เตรียมไว้ทันที นั่นยิ่งทำให้พันรนสงสัยใคร่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน ทำไมเจ้านายเขาถึงร้อนรนกับการบาดเจ็บของเธอขนาดนี้

ที่สำคัญ เธอโผล่มาจากไหน?

“เธอเป็นไงบ้างหมอ” เตชทัตลุกขึ้นถามทันทีที่เห็นหมอหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้นๆ ประจำเรือนหมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความกังวลโดยไม่รู้ตัว

“โชคดีที่อาการไม่หนักครับ แผลบนศีรษะไม่ลึกจนต้องเย็บ แขนซ้ายกระดูกร้าว ข้อเท้าพลิก อื่นๆ ก็ฟกช้ำตามตัว ไม่กี่วันก็หาย แต่จะให้ดีพ่อเลี้ยงควรพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอีกทีนะครับ”

เตชทัตพยักหน้า ก่อนถามต่อ “นานแค่ไหน เธอถึงจะฟื้น”

“ช่วงเที่ยงก็น่าจะรู้สึกตัวแล้วนะครับ”

ได้ยินอย่างนั้นเขาก็วางใจ โบกมือให้หมอไปพัก แล้วเดินไปหยุดมองคนบนเตียงผู้ป่วยคนเดียวของเรือนหมอเงียบๆ

ชญานินรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนบ่าย ด้วยยังมึนๆ จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เลยเผลอลุกขึ้นนั่ง ผลคือเจ็บแปลบไปหมด ทรมานจนหลุดครางออกมาเสียงแผ่ว ต้องข่มใจนอนนิ่งๆ อยู่สักพัก ความเจ็บปวดถึงทุเลาลง

ดวงตาที่มีน้ำเอ่อคลอกะพริบมองรอบตัวอย่างสับสน ห้องสะอาดกับม่านสีฟ้าที่รวบเก็บไว้ด้านข้างแบบนี้ไม่คุ้นตาเลยสักนิด

เธออยู่ที่ไหน?

พอถามตัวเองแบบนี้ ภาพมากมายก็ผุดขึ้นมาในหัว ชญานินต้องตั้งสติอยู่นาน กว่าจะจับภาพเหล่านั้นมาปะติดปะต่อจนจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองก่อนจะหมดสติ

พวกเธอถูกไล่ล่า!

“ตื่นแล้วเหรอ”

ร่างบางสะดุ้งโหยง หันขวับไปมองคนเดินมาถามแบบเงียบๆ พอเห็นเป็นผู้ชายแปลกหน้าก็ถดตัวหนีอย่างไม่ไว้ใจ ไม่ทันระวังแขนซ้ายที่บาดเจ็บอยู่ แค่สะเทือนนิดเดียวแต่ปวดจนหน้าเหยเก เมื่อก้มดูก็พบว่าแขนตนใส่เฝือกอ่อนอยู่ แถมตอนนี้เธอยังใส่เสื้อผ้าของใครไม่รู้

“เจ็บมากหรือเปล่า รู้สึกยังไงบ้าง”

ชญานินไม่ตอบ เอาแต่มองผู้ชายหน้าเข้ม หนวดเคราขึ้นครึ้ม เขาดูคุ้นหน้า แต่เธอนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน พอเชสก้าวมาถามใกล้ๆ เธอจึงรีบยกมือข้างที่ไม่เจ็บขึ้นห้าม “อย่าเข้ามานะ!” ทั้งห้ามทั้งเหลียวซ้ายแลขวา “ที่นี่คือที่ไหนกัน แล้วคุณเป็นใคร ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

“ผมเป็นเจ้าของที่นี่” เตชทัตตอบเสียงเรียบ นึกแปลกใจที่ชญานินแสดงออกเหมือนจำเขาไม่ได้ เพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อน เธอไม่น่าจะลืมไวขนาดนั้น เขาเดินไปพิงกรอบหน้าต่างพูดกับเธอ “ส่วนเรื่องที่คุณมายังไง ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน”

“จับฉันมาเองแล้วจะมาตีมึนทำไม ต้องการอะไรก็พูดมา!”

“จับคุณมา?” คิ้วเข้มขมวดเป็นปมทันที “ทำไมถึงคิดว่าผมจับคุณมาที่นี่ล่ะ เกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่”

“คิดจะหลอกใครกัน!” ชญานินเห็นอีกฝ่ายตีหน้าซื่อยิ่งรู้สึกเดือดปุดๆ “ไล่ยิงจนฉันกลิ้งตกเขาแล้วจับตัวมาขนาดนี้ ยังมีหน้ามาทำไม่รู้ไม่ชี้อีก ไม่มีอะไรจะทำแล้วเหรอ!”

“ผมไม่ได้ไล่ยิงและจับคุณมา อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น”

“พูดไปใครจะเชื่อ ฉันเป็นคนถูกไล่ยิงนะ พอฟื้นมาอีกทีก็โผล่มาอยู่ที่นี่ จะบอกว่าคุณไม่เกี่ยวงั้นเหรอ เชื่อก็โง่แล้ว”

เตชทัตฟังแล้วคิ้วกระตุก ถ้าเขาไม่พาเธอกลับมาที่นี่ ป่านนี้เธอคงนอนอืดอยู่ตีนเขาแน่ แม้จะไม่พอใจกับท่าทีของชญานินเท่าไร แต่เรื่องที่ได้รู้จากเธอก็ทำให้เขาข่มความรู้สึกนั้นไว้ ถามเข้าเรื่องสำคัญ “นี่คุณจำผมไม่ได้เหรอ?”

ชญานินชะงักมองหน้าเขาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ส่ายหน้า

“เราเคยเจอกันข้างถนนวันนั้นไง”

“ข้างถนน...” เธอกุมหัวนึกอยู่ไม่นานก็เบิกตากว้าง ด้วยจำได้แล้วว่าคนตรงหน้าคือใคร “คุณนั่นเอง!”

อีตานี่ก็คือพ่อเลี้ยงที่มาช่วยพวกเธอจากวายุ

เขาคือคนที่ยิงเฉียดหูเธอไปนั่นไง!

เตชทัตมองอาการนั้นของชญานินแล้วถอนหายใจดัง บอกกับเธอว่า “ที่นี่เป็นเรือนหมอในไร่ของผมเอง เมื่อเช้าผมไปตรวจที่ท้ายไร่ แล้วเจอคุณนอนสลบอยู่ เลยพากลับมารักษาที่นี่ ให้แม่บ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ผมเป็นคนช่วยคุณไว้ ไม่ใช่คนที่จับตัวคุณมา”

“...” ชญานินนิ่งอึ้งไปเลย สักพักก็เม้มปากถาม “คุณมีหลักฐานมายืนยันไหมล่ะ ว่าไม่ใช่พวกเดียวกันกับพวกที่ตามไล่ล่าฉันน่ะ” เธอยังไม่เชื่อเขาง่ายๆ หรอกนะ ถึงพิชานันท์จะรู้จักเขาดี แต่เธอไม่รู้จักด้วยนี่!

พอนึกถึงพิชานันท์ขึ้นมา ชญานินก็ทำตาโต

“ขิงล่ะ! คุณเอาขิงไปไว้ที่ไหน!”

“ผมจะไปรู้ได้ไง ว่าขิงหอมอยู่ที่ไหน ตอนผมไปเจอคุณ ก็เห็นสลบอยู่คนเดียว”

“คนเดียว...” หญิงสาวใจหายวาบ ใบหน้าที่ขาวซีดอยู่แล้วพลันซีดเผือดลงไปอีก เมื่อคิดว่าตอนนี้พิชานันท์อาจถูกพวกมันจับตัวไปแล้ว

พ่อเลี้ยงหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็นิ่วหน้าเดินเข้าไปถามใกล้ๆ “ไหวไหมคุณ หมอบอกว่าคุณหัวแตกนิดหน่อย กระดูกแขนซ้ายร้าว ต้องเข้าเฝือกไว้ ข้อเท้าก็พลิก ยังมีฟกช้ำไปทั้งตัว นอกนั้นไม่มีอะไรน่าห่วง ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง เจ็บตรงอื่นอีกไหม”

“ปวดค่ะ มันปวดไปทั้งตัวเลย” ตอบเสียงค่อยแล้วเธอก็ช้อนตามองคนเดินมายืนอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาครุ่นคิด ถ้าเขาเป็นคนร้ายจริง คงไม่ดูแลเธอดีขนาดนี้ พิชานันท์ก็ดูจะนับถือเขาไม่น้อย ชญานินทำใจกล้ามองเข้าไปในดวงตาคมดุนิ่งๆ ก่อนถาม “ฉันไว้ใจคุณได้ใช่ไหมคะ”

เตชทัตพยักหน้าและถามกลับ “เกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่ บอกผมได้ไหม”

ชญานินเม้มปากเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเล่าเสียงสั่นเครือ “เมื่อวานฉันกับขิงออกไปขี่ม้าเล่นในทุ่งท้ายไร่ ไม่คิดว่าจะไปเห็นคนกลุ่มหนึ่งขนอะไรบางอย่างมาทางป่าตรงตีนเขา เราพยายามซ่อนตัวแล้ว แต่พวกมันก็เห็นเข้าจนได้ จากนั้นก็ไล่ยิงพวกเราจนม้าพาเตลิดหนีขึ้นเขา...”

น้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าของคนเล่าน่าสงสารจนคนฟังกัดฟันกรอดโดยไม่รู้ตัว

กับผู้หญิงตัวเล็กๆ สองคน พวกมันก็ยังไม่เว้น!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 23

    "เธอ...ปลอดภัยดีใช่ไหม"“คุณนินปลอยภัยดีครับ” พันรบตอบขณะสายตามองเจ้านายที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเป็นห่วง “ก่อนหน้านี้คุณนินกับคุณขิงหอมมาเฝ้าพ่อเลี้ยงอยู่ที่นี่จนค่ำ เพิ่งยอมให้คุณต้นไปส่งบ้านโน้นเมื่อตอนสามทุ่มนี่เองครับ”“ดีแล้ว ตอนนี้ไอ้ต้นอยู่ไหน”“เห็นว่าส่งคุณๆ เสร็จจะเลยไปตรวจไร่รอบดึกกับพวกอิศ พ่อเลี้ยงเลิกถามถึงคนอื่นได้แล้วครับ ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง ปวดแผลมากหรือเปล่าครับ หมอว่าอาจจะปวดๆ ถ้าคืนนี้ไม่ดีขึ้นต้องไปโรงพยาบาล”“อืม ก็ปวดอยู่ แต่พอทนไหว” เตชทัตบอกเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้วถามต่อ “ที่ให้ไปตามสืบมาน่ะ ได้เรื่องหรือเปล่า”“คนที่ส่งพวกนั้นมา เป็นเสี่ยวงศกรไม่ผิดแน่ครับ คนของเราตามไปจนถึงรีสอร์ตมันเลย พ่อเลี้ยงอยากให้จัดการยังไง สั่งมาเลยครับ คนของเราพร้อมลงมือทันที”“จับตาดูไว้ก็พอ” เสียงเย็นชาสั่งออกมา “แล้วเพิ่มระดับคุมเข้มทั่วไร่ด้วย อย่าให้มีเรื่องแบบวันนี้เกิดขึ้นอีก”“ผมจัดการแล้วครับ” พันรบบอกด้วยสีหน้ารู้สึกผิดที่ไม่จัดการให้ดีแต่แรก พวกมันเลยสบช่องเข้ามาทำให้เจ้านายบาดเจ็บแบบนี้ โชคดีที่กระสุนนั่นไม่โดนจุดสำคัญ“เอาเถอะ” เตชทัตตัดบทหลังเห็นท่าทีคนสนิท เขารู้ว่า

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 22

    แม่งเอ๊ย!เตชทัตสบถในใจเมื่อเห็นชญานินก้มหลบกระสุนเกือบไม่ทัน เขาชักปืนที่หยิบออกมาจากรถเมื่อกี้ขึ้นยิงสวนไปทางที่เห็นประกายไฟยามลั่นกระสุนของมันทันทีเมื่อพันรบเห็นเจ้านายเปิดฉากโต้กลับ เขาที่คว้าปืนออกจากรถมาไว้แล้วก็เข้าร่วมทันทีจากนั้นต่างฝ่ายต่างกระหน่ำยิงใส่อีกฝ่ายจนเสียงปืนดังสนั่น รถของชญานินยังตกเป็นเป้าของคนร้าย เธอจะขับออกไปก็ไม่ได้ จะลงรถก็ไม่ได้ ได้แต่ปิดหูไว้แน่นแล้วก้มตัวให้ต่ำที่สุดเพื่อหลบลูกปืน เตชทัตเห็นท่าไม่ดี ตะโกนบอกพันรบยิงขวางพวกมันไว้ให้ตนเข้าไปช่วยเธอออกมาจากรถก่อนเพราะการช่วยเหลือของพันรบ เตชทัตจึงสามารถพาชญานินลงมาจากรถได้ตามแผน พวกเขาย่อตัวต่ำวิ่งมาหลบหลังต้นไม้อีกครั้ง พอเขาหาร่องรอยบาดเจ็บบนตัวเธอไม่เจอถึงถอนใจบอก “อดทนอีกนิดนะ เดี๋ยวคนของผมก็มาแล้ว”ชญานินพยักหน้ารับเงียบๆ เนื้อตัวยังสั่นเทาไม่หาย นัยน์ตาคู่งามแดงก่ำ แต่ไม่มีน้ำตาสักหยด เธอแค้นใจเหลือเกิน เวลาเพียงไม่กี่วัน เธอถูกไล่ยิงแบบเอาถึงตายไปสองครั้งแล้วนี่มันบ้านป่าเมืองเถื่อนหรือยังไง!หลังจากนั้นไม่นานคนของเตชทัตก็มาสมทบจริงๆ เสียงปืนที่เพิ่งซาลงดังสนั่นขึ้นอีกครั้งเหตุการณ์ตรงหน้าแทบจะเ

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 21

    หลังเที่ยงชญานินเริ่มออกอาการอยากไปเดินดูในไร่ แต่จำได้ว่าเจ้าของเขาห้าม จึงแกล้งเดินผ่านโต๊ะทำงานเจ้าของไร่ไปยืนมองข้างนอกตาละห้อยบ่อยๆ เผื่อจะมีคนใจดียอมพาไปชมไร่ความพยายามของเธอเป็นผลในครั้งที่สาม เตชทัตคงทนมองเธอเดินไปเดินมาไม่ไหว เขาโทรสั่งให้พันรบมาเอางานที่เขาทำเสร็จแล้วไปดำเนินการต่อ เรียบร้อยแล้วถึงลุกขึ้นบอกชญานิน“ไปกัน”“ไปไหนคะ?” ถามเหมือนไม่รู้ แต่แววตากลับคาดหวังชัดๆเตชทัตอยากจะยิ้มเอ็นดู แต่กลัวอีกคนจะได้ใจ เลยตีหน้าตายบอก “ก็อยากออกไปเดินชมไร่ไม่ใช่เหรอ”“ได้เหรอคะ”“ตามมาสิ”เมื่อก้าวออกมาจากบ้านดินหอมถึงพบว่าแดดยังแรงอยู่ เตชทัตอดมองชญานินอย่างเป็นห่วงไม่ได้ แต่เธอกลับไม่กลัวแดดเลย ดูตื่นตาตื่นใจไปหมดตอนนี้ชญานินกำลังตื่นตาตื่นใจจริงๆ เธอมองต้นชาสีเขียวที่ปลูกเรียงเป็นแถวสุดลูกหูลูกตาอย่างนึกทึ่ง นี่เป็นผลงานของผู้ชายที่เดินอยู่ข้างๆ ทั้งหมดเลยหรือ เด็กคนนั้นบอกว่าเมื่อก่อนไร่นี้ก็เป็นไร่ชาคุณภาพดีทั่วไป พอเตชทัตมาสานงานต่อจากบิดาของเขาก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจ บุกเบิกขยายพื้นที่เพิ่ม เอาชาสายพันธุ์ดีๆ มาปลูก จากที่ขายในประเทศก็ขยายตลาดส่งไปขายทั่วโลก สามปีกว่าเท่านั้

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 20

    เวลาต่อมา หลังจัดการมื้อเช้าของตัวเองเสร็จ เตชทัตมองไปทางคนที่นัดแนะกันไว้ แล้วก็ต้องกลั้นยิ้มแทบไม่ทัน เมื่อเห็นชญานินรวบช้อนตามเขาทันที“เรียบร้อยแล้ว?”ชญานินดื่มน้ำให้เสร็จก่อน ค่อยตอบ “เรียบร้อยค่ะ เราไปกันเลยไหมคะ”“อืม ไปกัน”ตนุภัทรที่นั่งมองอยู่ตั้งแต่เตชทัตถามชญานินพลันเอ่ยถามขึ้น “นี่นัดแนะจะไปไหนกันอะ”“เข้าไร่ ขิงหอมไปด้วยกันไหม” ประโยคหลังเตชทัตถามพิชานันท์โดยตรง หญิงสาวก็ส่ายหน้าตอบทันที“ขิงขอบายค่ะ” เธอโตมาในไร่ชา เคยเข้าชมไร่เศรษฐกรมาก่อนแล้ว ให้ชญานินไปเปิดหูเปิดตาคนเดียวเถอะ และดูเหมือนคนชวนเองก็ไม่คิดว่าเธอจะไปด้วยอยู่แล้ว จึงบอกมาว่า“ถ้าเปลี่ยนใจก็ให้ไอ้ต้นพาไปนะ”พิชานันท์ได้ยินแบบนั้นยิ่งส่ายหน้าแรง “ไม่เปลี่ยนค่ะ ขิงไม่อยากไปกับนายนี่”“พูดจาให้มันดีๆ ซิ!” ตนุภัทรว่าหน้าหงิก“ฉันก็พูดจาดีๆ อยู่นี่ไง”“รวนเหรอ”“นายสิรวน!”เตชทัตถอนใจกับคู่กัดประจำไร่ ลุกขึ้นเรียกชญานิน “ไปเถอะ”“ไปค่ะ”เมื่อเห็นเตชทัตพาชญานินเดินเคียงกันออกไปแบบนั้น ตนุภัทรพลันหยุดเถียงกับพิชานันท์ เหลียวมองตามหลังสองคนนั้นไปด้วยสีหน้าแปลกใจพูดตรงๆ แล้วเขาแปลกใจตั้งแต่ได้ยินคำตอบของพี่ชายแล้

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 19

    โชคดีที่เจ้าของโรงพยาบาลเป็นเพื่อนกับบิดาของสองหนุ่ม ทำให้ลดความยุ่งยากในการตรวจสองสาวไปพอสมควร ผลตรวจร่างกายของพวกเธอไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ชญานินต้องรอให้ครบสองอาทิตย์ ถึงจะถอดเฝือกที่แขนได้ ข้อเท้ายังคงงดใช้งานในระยะนี้ก่อน ส่วนพิชานันท์แค่ต้องระวังแผลใต้หน้าอก โดยสรุปแล้วทั้งสองคนไม่ต้องแอดมิทเมื่อเป็นเช่นนี้ สองหนุ่มจึงพาสองสาวขึ้นรถกลับไร่เศรษฐกรอย่างหมดห่วงกลับมาถึงไร่ ก็มานั่งคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกันอย่างจริงจัง ชญานินกับพิชานันท์เล่าเหตุการณ์โดยละเอียด พูดตรงกันว่าเห็นพวกมันกำลังขนของบางอย่างมา ไม่รู้ว่าเป็นใคร มาจากไหน และไม่รู้ว่ากำลังจะไปที่ไหน พอพวกมันรับรู้การอยู่ตรงนั้นของพวกเธอก็ลั่นกระสุนเข้าใส่ทันที“มานึกดีๆ แล้ว ดูเหมือนพวกมันกำลังจะเดินไปทางฝั่งรีสอร์ตของเสี่ยวงศกรเลยค่ะ”“ป่าแถบนี้ก็มีแต่มันที่กล้าเข้าไปบุกรุก” ตนุภัทรว่า“จะบอกว่าพวกมันเป็นพวกเดียวกับที่ไปเล่นงานเรากลางถนนในวันนั้น เป็นคนของคนที่ต้องการที่ดินท้ายไร่รุ่งรวินท์เหรอคะ” ชญานินถามขึ้นอย่างพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้บ้างแล้ว “ในเมื่อรู้ว่าพวกมันเป็นใครแล้ว ทำไมเราไม่ไปจัดการพวกมันล่ะคะ”“เราทำอะไรพวกมัน

  • กลรักเตชทัต   กลที่ 18

    “ลุกไหวหรือเปล่า เป็นอะไรมากไหม” เตชทัตตีหน้าตายเดินไปหยิบผ้าขนหนูบนชั้นวางมายื่นให้เธอใช้คลุมตัว จากนั้นจึงถอยออกมามองด้วยสายตาอ่อนใจ ผู้หญิงอะไร ชอบหาเรื่องเจ็บตัวอยู่ได้“เจ็บไปหมดเลยค่ะ ลุกไม่ไหวด้วย” หญิงสาวสารภาพเสียงเบาขณะพยายามรวบสาบเสื้อใต้ผ้าคลุมเข้ามาให้ชิดกันมากที่สุด“ผมบอกว่าอย่าฝืนทำอะไรเกินตัว ทำไมไม่ฟังเลย”“อยากเช็ดตัวล้างหน้าน่ะค่ะ”“แล้วทำไงถึงลงไปนอนอยู่แบบนั้น” เขาถามไปแล้วในหัวพลันมีภาพผิวขาวเนียนโผล่มาให้ใจสั่น ขืนอยู่ในนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ คิดแล้วทำทันที วงแขนกำยำช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาโดยระวังไม่ให้ผ้าที่คลุมไว้หลุดออก“อ้ะ” คนถูกอุ้มดื้อๆ ตั้งท่าจะดิ้นให้เขาปล่อยลง แต่โดนมองด้วยสายตาดุๆ ก่อน“อยู่นิ่งๆ ระวังตัวเองหน่อยได้ไหม เดี๋ยวก็ตกลงไปเจ็บอีกหรอก”ชญานินเม้มปากเถียง “ก็ฉันเห็นว่าพอจะช่วยตัวเองได้”“แล้วทำไมลงไปกองอยู่แบบนั้น” หลักฐานก็เห็นอยู่ทนโท่ ว่าเธอทำตัวเองเจ็บอีกแล้ว ดีแค่ไหนที่ไม่ได้หัวฟาดพื้นสลบไป“ก็...”“ไม่ต้องแก้ตัวแล้ว” เตชทัตเอ่ยขัดคนทำท่าจะเถียงต่อขณะวางร่างบางให้นั่งลงบนเตียง จากนั้นค่อยถอยออกมาถาม “ที่ล้มเมื่อกี้นี้เจ็บตรงไหนบ้าง ต้องเรียกห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status