Share

บทที่ 4

Author: มะเขือเทศเขียว
“พวกนายไปกันเถอะ พรุ่งนี้ฉันมีธุระ”

ลู่ฮ่าวเซวียนขมวดคิ้ว “ธุระอะไรยังสำคัญกว่าถ่ายพรีเวดดิงอีก?”

“ไปถ่ายรูปก่อน จะซื้ออะไรฉันไปเป็นเพื่อนเธอเอง”

น้ำเสียงเขาแข็งกร้าว ทำท่าทางไม่ให้ปฏิเสธ

สวี่ฮุ่ยออดอ้อน “นั่นน่ะสิ พี่คงไม่ได้ไม่อยากไปเพราะฉันหรอกนะ?”

ฉันไม่อยากโต้เถียงมากมาย จึงพยักหน้าตอบตกลงว่าจะไป

พอเช้าตรู่ ก็ได้ยินลู่ฮ่าวเซวียนกำลังปลุกให้สวี่ฮุ่ยตื่นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอยู่ในห้องของเธอ

ตัวเลขสีแดงสดบนปฏิทินเตือนฉัน ยังเหลืออีกสี่วัน

อีกสี่วันฉันก็จะสลัดชีวิตแบบนี้ออกไปได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

จนถึงตอนที่ฉันใกล้จะทนไม่ไหว พวกเขาถึงออกมาจากห้องด้วยท่าทีอ้อยอิ่ง

ลู่ฮ่าวเซวียนตักน้ำร้อนอย่างเอาใจใส่ แล้วเอาไปให้สวี่ฮุ่ยล้างหน้าด้วยตัวเอง

ฉันในก่อนหน้านี้ตาบอดจริง ๆ ถึงกะบคิดอย่างใสซื่อบริสุทธิ์ว่า

ขอแค่แต่งงานกับเขา เขาก็จะทำแบบนี้กับฉัน

ฉันกำลังใจลอย ลู่ฮ่าวเซวียนก็เดินมาตรงหน้าฉันอย่างเก้อเขิน ในมือถือแหวนวงหนึ่ง

“พี่สะใภ้โจวบอกว่า ตอนนี้แต่งงานนิยมใส่แหวนแต่งงานกัน ฉันเลยซื้อมาให้เธอวงหนึ่ง”

ฉันไม่รับ ชาติก่อนฉันไม่มีแม้แต่แหวนนี่ด้วยซ้ำ

เมื่อสวี่ฮุ่ยเห็น ก็รีบเบะปากทันที “สวยจัง! ฉันเองก็อยากได้บ้าง!”

ฉันสละให้อย่างใจกว้าง “งั้นก็ให้เธอแล้วกัน”

สีหน้าของลู่ฮ่าวเซวียนพลันคล้ำดำเขียวในทันใด “อย่าซี้ซั้ว นี่มันแหวนแต่งงานของเรานะ!”

สวี่ฮุ่ยแย่งแหวนไป แล้วสวมไปบนนิ้วของตัวเอง ก่อนจะแกว่งให้ลู่ฮ่าวเซวียนดู

“พี่เซวียน ฉันใส่สวยไหม?”

ลู่ฮ่าวเซวียนมองสวี่ฮุ่ย ในแววตาเต็มไปด้วยความพะเน้าพะนอ ก่อนจะพยักหน้าพร้อมยิ้มเซ่อซ่า

จากนั้นก็หันหน้ามาทางฉันอย่างรู้สึกผิด พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า

“ครั้งหน้า...ครั้งหน้าฉันค่อยซื้อให้เธอนะ”

ฉันพยักหน้าด้วยท่าทีว่าไม่เป็นไร

ฉันได้ยินคำสัญญาของเขามาเยอะแล้ว อันไหนบ้างที่เคยเป็นจริง

ไปร้านถ่ายรูป สวี่ฮุ่ยถ่ายรูปก่อน กระทั่งถ่ายภาพหมู่ไปไม่น้อยทีเดียว

ถึงตาฉันกับลู่ฮ่าวเซวียน ช่างภาพเพิ่งจะยกกล้องขึ้นมา กลับรีบวางลงอย่างอิหลักอิเหลื่อ

“ให้ตายเถอะ ขอโทษนะครับ ใช้ม้วนฟิล์มหมดแล้ว”

ฉันแอบพูดว่าดีอยู่ในใจ ทว่าสีหน้ายังดังเดิม

“อ้อ งั้นก็ช่างมันเถอะ”

เดินออกมาจากร้านถ่ายรูป ลู่ฮ่าวเซวียนก็ล้วงตั๋วรถไฟออกมาจากกระเป๋าเสื้อส่งให้ฉันใบหนึ่ง

เป็นตั๋วไปสถานีเมืองหลวงในอีกสี่วัน

“ฉันไม่ได้มีเจตนาคิดจะทิ้งเธอ”

“ฉันจะไปจัดการที่อยู่ให้เรียบร้อยก่อน แล้วรอเธออยู่ที่เมืองหลวง”

จากนี่ไปเมืองหลวงสามวันสามคืน ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงคิดว่าฉันยืนหยัดอยู่ได้

อีกอย่างโควตาติดตามกองทัพเหลือแค่หนึ่ง

เขาให้ฉันไปอยู่ที่ไหน?

แต่ถ้าถามไปเวลานี้ ตอนนี้ก็คงไม่ได้คำตอบดี ๆ

เห็นฉันรับตั๋วรถไป ลู่ฮ่าวเซวียนก็ถอนหายใจทีหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด

“เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ ต่อให้ไม่ได้อยู่ที่บ้านพักครอบครัวทหาร เธอก็เป็นเมียเพียงคนเดียวของฉัน”

“หลังจากนี้ฉันจะทำดีกับเธอ ฉันเห็นฮุ่ยฮุ่ยเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น”

จิตใจฉันหวั่นไหวส่วนหนึ่ง เขาเคยพูดจาอ่อนโยนแบบนี้เมื่อไหร่กัน

จู่ ๆ รถยนต์คันหนึ่งก็พุ่งออกมาจากมุมเลี้ยว แล้วแล่นเข้ามาชนพวกเราจัง ๆ

ลู่ฮ่าวเซวียนโอบสวี่ฮุ่ยเข้ามาในอ้อมอก ก่อนจะหลบอย่างรวดเร็ว

ท่ามกลางความวุ่นวายไม่รู้ใครผลักฉัน

ในสายตาไม่คิดเลยว่ารถยนต์จะขับมาทางฉัน ทว่าร่างกายฉันกลับตกใจกลัวจนแข็งทื่อไม่กล้าขยับ

หัวรถหักเลี้ยวอย่างรวดเร็ว เข้ามาชนฉันแล้วลากไป

ฉันเจ็บจนตรงหน้ามืดไป เหงื่อเย็นหยดลงมาติ๋ง ๆ

คนขับรถกระโดดลงมาจากรถอย่างลุกลี้ลุกลน แล้วถามฉันทั้งพูดจาสะเปะสะปะ

“น้องสาว เธอเป็นยังไงบ้าง? ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ฝูงคนค่อย ๆ เข้ามาห้อมล้อม ชี้โบ๊ชี้เบ๊

สายตาของฉันลอดผ่านฝูงชนที่มุงดูไป จดจ่อไปตกที่ตัวลู่ฮ่าวเซวียน

เขากำลังกอดปลอบสวี่ฮุ่ย ไม่ได้สนใจสถานการณ์ทางฉันแต่อย่างใด
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลับมาเกิดใหม่ ฉันสะบัดสามีทิ้ง   บทที่ 10

    ห้องรับแขกไม่ใหญ่ แต่สะอาดและเป็นระเบียบมาก เครื่องนอนที่อยู่บนเตียงก็มีกลิ่นแดดคละคลุ้งออกมา“เธอพักก่อนสักเดี๋ยวเถอะ อีกไม่นานเกี๊ยวก็เสร็จแล้ว” กู้อี้เฉินวางกระเป๋าสัมภาระลง แล้วพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนฉันพยักหน้า ก่อนจะนั่งลงข้างเตียงมองเกล็ดหิมะที่โปรยปรายนอกหน้าต่าง ในใจรู้สึกถึงความสงบและปลอดภัยที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างหนึ่งบางที นี่ก็คือความรู้สึกของบ้านละมั้งตอนกลางคืน เราล้อมวงนั่งข้างโต๊ะกินข้าวกินเกี๊ยวร้อน ๆคุณย่ากู้คีบอาหารให้ฉันไม่หยุด“หรานหร่านจ้ะ ต่อไปเธอก็มาเที่ยวเล่นบ่อย ๆ นะ บ้านย่าต้อนรับเธอทุกเมื่อ”ฉันฉีกยิ้มพร้อมพยักหน้า ในใจอบอุ่นกินข้าวเสร็จ กู้อี้เฉินก็เสนอว่าจะพาฉันไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ ๆสวนสาธารณะในฤดูหนาวคนน้อยมาก มีเพียงคู่รักสองสามคู่มาพลอดรักกัน ดื่มด่ำความเงียบสงบที่ยากจะหาได้นี้เราเดินเลียบไปตามข้างทะเลสาบช้า ๆ ไม่มีใครพูดอะไรเกล็ดหิมะโปรยปรายลงมาเบา ๆ ตกมาบนตัวเราคล้ายกับผ้าโปร่งเบาบาง ๆ ชั้นหนึ่ง“ขอบคุณนะ อี้เฉิน” ฉันพูดขึ้นทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ขอบคุณอะไรฉันเหรอ?”“ขอบคุณที่รุ่นพี่รับเลี้ยงฉัน ให้ที่หลบภัยแสนอบอ

  • กลับมาเกิดใหม่ ฉันสะบัดสามีทิ้ง   บทที่ 9

    “ถ้านายอยากชดเชยจริง ๆ งั้นก็ใช้ชีวิตกับสวี่ฮุ่ยให้ดี ๆ”“อย่ามารบกวนฉันอีก แบบนี้จะดีกับเราทั้งสองพี่น้องมากกว่า”แววตาเขาหม่นหมอง ในน้ำเสียงแฝงความไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “แต่ฉันมักจะรู้สึกว่า เมียของฉันควรเป็นเธอ”ในที่สุดความอดทนของฉันก็หมดลง จึงออกคำสั่งไล่แขกเลย“ลู่ฮ่าวเซวียน นายควรไปได้แล้ว นี่ไม่ใช่คำพูดที่นายควรจะพูด และไม่ใช่ที่ที่นายควรมาด้วย”เขาลุกขึ้นอย่างสิ้นหวัง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องของฉันพร้อมฝีเท้าหนักอึ้งฉันมองแผ่นหลังของเขา ในใจไร้ซึ่งความแปรปรวนใด ๆไม่ว่าจะชาติก่อนหรือชาตินี้ ตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็โลเลระหว่างผู้หญิงสองคน ต้องการทุกคนอย่างไม่รู้จักพอฉันเริ่มครุ่นคิด ในเมื่อลู่ฮ่าวเซวียนกับสวี่ฮุ่ยอาศัยอยู่ที่นี่แล้วฉันก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่ออีกบ้านตระกูลลู่ เดิมทีก็ไม่ใช่บ้านของฉันอยู่แล้วเช้าตรู่วันต่อมา ฉันเก็บกระเป๋าสัมภาระเสร็จ ก็ไปเคาะประตูห้องของนายหญิงตระกูลลู่ฉันยัดบัตรธนาคารใบหนึ่งใส่มือของเธอ แล้วพูดขึ้นอย่างราบเรียบว่า“น้าคะ หลายปีมานี้ขอบคุณการดูแลของพวกน้าด้วยนะคะ”“ในบัตรเป็นเงินที่หนูเก็บออมเอาไว้ในหลายปีนี้ ถือว่าตอบแทนบุญคุณเลี

  • กลับมาเกิดใหม่ ฉันสะบัดสามีทิ้ง   บทที่ 8

    ไม่ว่ายังไง พวกเขาก็เลี้ยงดูฉันมา ฉันจะใจจืดใจดำเกินไปไม่ได้คิดแล้วคิดอีก ฉันก็ยังซื้อตั๋วรถ หิ้วของขวัญถุงเล็กถุงน้อยกลับเมืองซานอยู่ดีเพิ่งเข้าประตูใหญ่บ้านตระกูลลู่มา ก็ได้ยินเสียงก่นด่าเล็กแหลมเสียงหนึ่ง“ลู่ฮ่าวเซวียน นี่พี่หมายความว่ายังไง?”“ฉันขอบอกพี่เลยนะ ฉันอุ้มท้องลูกของพี่อยู่ ไม่ได้มาเพื่อถูกรังแกนะ!”ฉันอึ้งไป เห็นเพียงสวี่ฮุ่ยท้องใหญ่มาก กำลังด่าลู่ฮ่าวเซวียนสาดเสียเทเสียสีหน้าของลู่ฮ่าวเซวียนคล้ำดำเขียว ทว่าไม่กล้าโต้กลับ ได้แต่ปลอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ฮุ่ยฮุ่ย เธอใจเย็นหน่อยนะ หมอบอกแล้วว่าตอนนี้เธอจะโมโหมากเกินไปไม่ได้ มันไม่ดีต่อเด็ก”“ฉันก็แค่ต้องการเสื้อโค้ตตัวนั้น พี่รีบไปซื้อมาสิ!”“ฮุ่ยฮุ่ย ครั้งหน้าฉันจะซื้อให้เธอโอเคไหม เบี้ยเลี้ยงเดือนนี้ใช้หมดแล้ว”ลู่ฮ่าวเซวียนประคองสวี่ฮุ่ยนั่งลงอย่างระมัดระวัง“โทษที่พี่ไร้ประโยชน์ จนถึงตอนนี้ยังเป็นแค่ผู้บังคับกองร้อย พี่คงไม่ได้ส่งเงินให้พี่สวี่หร่านใช้หรอกนะ”สีหน้าของลู่ฮ่าวเซวียนเปลี่ยน “ฮุ่ยฮุ่ย เธออย่าพูดจาซี้ซั้วนะ ฉันกับเขาตัดขาดกันไปนานแล้ว”“ตัดขาดกันงั้นเหรอ? พี่เห็นฉันโง่เหรอ? พี่เขียนจดหมายใ

  • กลับมาเกิดใหม่ ฉันสะบัดสามีทิ้ง   บทที่ 7

    อธิการบดีมองฉัน แล้วสลับไปมองลู่ฮ่าวเซวียน ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งถึงพูดขึ้นมาว่า“คุณลู่ ในเมื่อคุณไม่ได้เป็นอะไรกับนักศึกษาสวี่หร่าน งั้นคุณก็ทำเรื่องลาออกให้เธอไม่ได้”ในตอนนี้เองฉันถึงถอนหายใจทีหนึ่งลู่ฮ่าวเซวียนยังอยากพูดอะไรอีก ทว่าถูกอธิการบดีพูดตัดบท“คุณลู่ ถ้าไม่มีเรื่องอื่นแล้ว”“เชิญคุณออกไปเถอะครับ ผมยังมีงานต้องจัดการ”วันต่อมา ลู่ฮ่าวเซวียนยังคงตามหลอกตามหลอนเหมือนผีฉันถูกเขาตามตื๊อจนทนกับการรบกวนไม่ไหว ประสิทธิภาพการเรียนก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วยสิ่งที่ทำให้ฉันยิ่งปวดหัวก็คือ สวี่ฮุ่ยก็มาด้วย“พี่เซวียน ขอร้องพี่ละ เรากลับไปหย่ากันเถอะ!”“ฉันไม่อยากทำแบบนี้ ฉันไม่อยากแย่งสามีของพี่สาว”“ฉัน...ฉันมันเป็นคนชั่ว...”เธอดึงชายเสื้อของลู่ฮ่าวเซวียน ร้องไห้ตัวสั่นลู่ฮ่าวเซวียนโอบเธอไว้ในอ้อมอกอย่างปวดใจ พร้อมตบหลังเธอเบา ๆ“ฮุ่ยฮุ่ยเชื่อฟังนะ ไม่ต้องร้องไห้นะ นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอ”“เราจะกลับไปเดี๋ยวนี้ ฉันไม่ดีเอง ทำให้เธอต้องลำบากแล้ว...”สวี่ฮุ่ยร้องไห้จนน่าสงสาร แสร้งจะคุกเข่าให้ฉัน“พี่ขอโทษนะ พี่อย่าโกรธพี่เซวียนเลยนะ ฉันรู้ว่าเป็นเพราะเข้าใจพี่เซวีย

  • กลับมาเกิดใหม่ ฉันสะบัดสามีทิ้ง   บทที่ 6

    เห็นได้ชัดว่าอากาศของเมืองเซินชื้นทว่าอบอุ่น ฉันยืนสับสนอยู่หน้ามหาวิทยาลัยเซินเล็กน้อยเดินอยู่ในวิทยาเขต ไม่คิดเลยว่าจะมีความรู้สึกได้รับชีวิตใหม่อย่างหนึ่งตอนกลางวัน ฉันนั่งอยู่ในห้องเรียน ฟังการบรรยายอย่างตั้งใจ ซึมซับส่วนที่เป็นความรู้ตอนกลางคืน ฉันทำงานพาร์ตไทม์ในร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เสิร์ฟอาหาร ล้างจาน เหนื่อยจนปวดเอวปวดหลังไปหมดทว่าความเหนื่อยล้าพรรค์นี้ กลับทำให้ฉันรู้สึกถึงความแน่วแน่ผ่านไปหนึ่งเดือน ฉันค่อย ๆ ชินกับชีวิตที่ยุ่งแต่เปี่ยมไปด้วยความหมายทว่าเห็นลู่ฮ่าวเซวียนอยู่ใต้ตึกหอพัก“สวี่หร่าน! ทำไมเธอถึงทำแบบนี้?”“ทำไมถึงเขียนชื่อของฮุ่ยฮุ่ยในใบคำร้องขอจดทะเบียนสมรส? ทำไมไม่ไปเมืองหลวง?!”ในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความไม่เข้าใจฉันมองเขาอย่างเย็นชา “ฉันไม่ต้องการสามีที่ในใจมีแต่คนอื่น”“น่ารังเกียจที่สุด รับไม่ได้จริง ๆ!”เขามองฉันอย่างไม่กล้าเชื่อ “ทำไมเธอถึงพูดจาแบบนี้ ก่อนหน้านี้เธอไม่ใช่แบบนี้เลย”ฉันเบือนหน้าไป มวลท้องไปหมด ความรู้สึกคลื่นไส้เอ่อขึ้นมาสายหนึ่งฉันไม่อยากมองเขาอีก ไม่อยากแม้แต่วินาทีเดียว“ลู่ฮ่าวเซวียน ตอนนี้ฉันแ

  • กลับมาเกิดใหม่ ฉันสะบัดสามีทิ้ง   บทที่ 5

    บางทีอาจจะสังเกตเห็นแล้ว และบางทีอาจไม่ได้สนใจเลยฉันหัวเราะอย่างน่าเวทนา ความลังเลสุดท้ายในหัวใจสลายหายไปโดยสมบูรณ์ที่แท้ นี่ก็คือสิ่งที่เขาบอกว่า ‘หลังจากนี้ฉันจะทำดีกับเธอ’คนขับรถพาฉันไปส่งที่โรงพยาบาล ผ่านการตรวจออกมา โชคดีที่อาการบาดเจ็บภายนอกและอวัยวะภายในเคลื่อนเล็กน้อยฉันนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ทั่วทั้งตัวมีแต่ความเจ็บปวด ทว่าในใจกลับราบเรียบดึกมากแล้ว ฮ่าวเซวียนเดินเข้ามาพร้อมใบหน้าเหนื่อยล้าเมื่อเขาเห็นว่าฉันฟื้นแล้ว บนใบหน้าก็วาบความลนลานขึ้นมาเล็กน้อย“หรานหร่าน เธอรู้สึกยังไงบ้าง? ดีขึ้นบ้างหรือยัง?”ฉันมองเขาอย่างเย็นชา ไม่ได้ตอบกลับอะไรเขาถูมือ พลางอธิบายอย่างกระวนกระวาย“ฮุ่ยฮุ่ยเขากลัวมากเกินไปหน่อย ฉันอยู่ข้างเขาตลอด เพราะงั้น...”ภายใต้สายตาของฉัน เขาเงียบไปด้วยความกระดากอาย“หรานหร่าน เธอฟังที่ฉันพูดนะ ตอนนั้นสถานการณ์มันกะทันหันเกินไป ฮุ่ยฮุ่ยอยู่ใกล้ฉัน ตามสัญชาตญาณฉันเลย...”เขาชะงักไป คล้ายกับกำลังจัดระเบียบคำพูด “ฉันไม่รู้ว่าเธอจะถูกชน”ฉันพูดขึ้นตัดบทเขา “นายจะไปเมืองหลวงเมื่อไหร่?”เขาตอบกลับอย่างระมัดระวัง “ไปพรุ่งนี้แล้ว”“รู้แล้ว ฉันอยา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status