ชายหนุ่มซุกหน้าลงไปที่หลังคอ พรมจูบไปทั่วบริเวณนั้น เลื่อนไปกัดที่ปลายหู เสี่ยวเหอรู้สึกยากจะควบคุมเขาได้แล้ว จึงเริ่มด่าเขา
“เจ้าคนบ้าคลั่ง” นางด่าเสียงดัง ไม่กลัวใครได้ยิน
“หยุดนะชิงชิง ข้า..ข้ากลัว โอ๊ย..ข้าเจ็บ สารเลว เจ้าหยุดสิ..อื้อออ”
“เจ้าเป็นของข้า ของข้าผู้เดียว ข้าไม่ยอมให้เจ้าไป ทำ กับใครทั้งสิ้น” เขาพร่ำพูดแต่คำซ้ำๆ
เสื้อที่มัดอยู่รอบตัวเสี่ยวเหอ ทำให้นางขยับแขนไม่ได้ อยากจะทุบตีเขาก็ทำไม่ได้ รู้ตัวอีกทีเขาก็จับสะโพกของนางเชิดขึ้นเล็กน้อย และเริ่มสอดใส่เอ็นมังกรเข้าไปในตัวนางทันที
“อึก..โอ๊ย..อื้อ” เสี่ยวเหอร้อง เพราะความคับแน่น แม้ว่าจะเจ็บน้อยกว่าครั้งแรกแล้วก็ตาม
เมื่อชิงถิงผู้บ้าคลั่งได้เริ่มสอดใส่ก็ขยับสะโพกรัว กระแทกกระทั้นรุนแรง จากที่เสี่ยวเหอด่าเขาอยู่ก็เริ่มส่งเสียงไม่เป็นคำ ได้แต่พูดอื้อๆ อาๆ
ชิงถิงหยุดพักหายใจสักครู่ เสี่ยวเหอยังไม่ทันหายใจทั่วท้องก็ถูกอุ้มขึ้นเหมือนเด็กเล็ก เขาตัวทั้งใหญ่ทั้งสูง อุ้มนางในท่าแปลกประหลาด ทั้งสองคนหันหน้าไปทางเดียวกัน
เขาจับสองขาของนางยกและแยกออก เขาไม่ยอมให้มังกรตัวเขื่องหลุดออกจากกลีบดอกไม้ของนาง กระแทกกระทุ้งทั้งที่อุ้มนางอยู่เช่นนั้น หากใครมาเห็นพวกเขายามนี้ เสี่ยวเหอที่กำลังอ้าให้ป่าใหญ่ชื่นชมคงไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร
“ชิงชิง ข้า..ข้า อ้า..อา..อ๊ะ” หญิงสาวได้แต่ร้องครางครวญไปพร้อมกับจังหวะของเขา
เขาพานางไปวางบนระเบียงที่นั่ง ให้เสี่ยวเหอนั่งคุกเข่าก้มหัวไปข้างหน้าเล็กน้อย มือหนึ่งเขาจับสะโพกนาง อีกมือก็รวบเสื้อที่มัดตัวนางไว้มั่น และเขาก็เริ่มกระทุ้งใส่นางอีกครั้ง
ชิงถิงกระทุ้งแรงขึ้น แรงขึ้น ชิงถิงกระทุ้งจนอารมณ์ของเขาไปสุดปลายทาง น้ำรักสีขาวขุ่นแตกกระจายในร่องของนาง จนเสี่ยวเหอลืมไปหมดว่าเรื่องที่ทะเลาะกันอยู่คือเรื่องใด แต่นางพอจะเข้าใจคำว่า ทำ ที่เขาหมายถึงคือสิ่งใด
เขายังไม่สาแก่ใจ อุ้มนางลงมานอนด้านล่าง จัดให้นางนอนคว่ำและเขาก็คว่ำอยู่บนตัวนางอีกที สองมือของเขาตระกองกอดเกาะกุมหน้าอกนางเอาไว้ ช่วงล่างก็ขยับถี่ๆ ยัดเยียดความยิ่งใหญ่ของตัวเองให้นางเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของต่อไป เขาสอดใส่เข้าออกเร็วแรง จนน้ำขาวขุ่นแตกใส่นางอีกครั้ง
เท่านั้นไม่อาจทำให้เขายอมหยุด แม้เสี่ยวเหอจะตัวสั่นระริกเพราะความสุขสม แต่ชิงถิงไม่ใส่ใจ จับสะโพกของนางให้โก้งโค้ง,โก้งโค้งรับกับท่อนเอ็นร้อนลวกของเขา และเริ่มกระทุ้งนางแรงๆ ตั้งแต่เริ่มต้นอีกครั้ง
เขาทำอย่างรุนแรงจนเสี่ยวเหอหัวสั่นหัวคลอน ผมที่เกล้าไว้เริ่มหลุดลุ่ยไม่เป็นทรง เดี๋ยวก็จับสะโพกนางบีบเคล้น เดี๋ยวก็รวบตึงมือของนางที่ถูกมัดอยู่ด้านหลัง
เมื่อได้ปลดปล่อยไปแล้วสามสี่ครั้ง เขาก็เริ่มพูดมาก คำบอกรักมากมายตามมาดังเช่นทุกครั้ง แต่ครานี้ถึงจะบอกว่ารักเสี่ยวเหอ นางก็ได้ยินว่าในน้ำเสียงมีความรักสามส่วน ความโมโหและโกรธเคืองสามส่วน อีกสี่ส่วนเต็มไปด้วยอารมณ์เสียวซ่าน
บุรุษบ้าคลั่งยังคงกระทุ้งด้วยความรุนแรงไม่ต่างจากช่วงแรก เสี่ยวเหอได้ยินเสียงผิวกายกระทบกันอย่างรุนแรง แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว รู้สึกถึงแต่ความหฤหรรษ์ที่เขาป้อนยัดให้
“อะ...อ้า..อึก..อือ อ๊า” นางส่งเสียงตามจังหวะกระทุ้งของเขา ลืมหมดความอับอาย ปล่อยอารมณ์ให้เขาพานางไป ท่วงท่าจะน่าเกลียดเพียงใดนางก็ให้เขาจัดการ
น้ำรักพวยพุ่งแตกเป็นครั้งที่ห้า ชิงถิงก็เริ่มกอดนางเอาไว้กับอกและนุ่มนวลมากขึ้น จับนางพลิกกลับมามองหน้าสบตา เขานั่งลงและยกนางขึ้นมานั่งบนตักของเขา ก่อนจะสอดใส่แท่งหยกร้อนเข้าไปในตัวนางอีกครั้งโดยไม่สนใจจะเช็ดคราบที่เปรอะเปื้อนเต็มไปหมดตามสองขาของนาง
เสี่ยวเหอที่เหน็ดเหนื่อยสุขสมได้เห็นหน้าของชิงถิงก็ชะงักงัน เพราะ สองแก้มของเขาคล้ายจะเปื้อนคราบน้ำตา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ความหึงหวงและโกรธเคือง
ในใจของเขาคิดว่านางกับคุณชายตระกูลหยวนได้ ทำ กันไปแล้ว จึงเสียใจมาก ทั้งหึงหวงมาก และโกรธเกลียดมาก แต่ก็รักนางมากจนทำใจปล่อยนางไปไม่ได้
ใจหวังเพียงครั้งนี้หากนางยอมให้เขาทำโทษ ต่อไปไม่ว่านางพูดสิ่งใดเขาก็ยินดีจะโง่งมให้นางหลอกลวง
เขายังไม่ยอมแก้เสื้อที่มัดนางไว้ เสี่ยวเหออยากจะยื่นมือกอดเขาก็ทำไม่ได้ จึงได้แต่ยื่นหน้าไปจูบซับน้ำตาให้เขา
“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าเสียใจ ข้าสาบาน ข้ารักเจ้าผู้เดียว”
“แต่เจ้า ทำ กับมันไปแล้ว!” เขาตัดพ้อเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ชิงถิงทั้งหึงหวง โกรธแค้นขุ่นเคือง เสียใจที่คนรักไป ทำ กับชายอื่น ถึงกระนั้นก็ยังจับสะโพกของเสี่ยวเหอให้เริ่มขยับบดเบียดท่อนเนื้อใหญ่ของเขา
“ข้า ข้า..ไม่เคย..ทำ กับใคร ข้า..ทำ กับเจ้าเพียง..ผู้เดียว” เสี่ยวเหอพูดติดๆ ขัดๆ เพราะมือใหญ่ที่จับสะโพกของนางกำลังขยับ บังคับให้ดอกไม้ชมพูกลืนกินแท่งหยก และเสียดสีไปมา
แม้เขาจะพอฟังเข้าใจที่นางพูด ในใจไม่อาจเชื่อใจนางอีก แต่ก็ยังทำใจทิ้งนางไปไม่ได้ เขารักนางจนโง่งม
“ข้าเป็นของเจ้าผู้เดียว..ไม่ว่าจะภพชาติใด ก็..อื้อ จะรักเพียงเจ้า..เป็นของเจ้า ข้าสาบาน” เสี่ยวเหอออดอ้อน
นางเอนตัวไปชิดเขา เริ่มจุมพิตเขาอย่างอ่อนโยน ยื่นปลายลิ้นไปให้เขากลืนกินอย่างไร้ยางอาย ระหว่างที่เขาดูดดื่มปลายลิ้น นางสังเกตเห็นว่าเสื้อของเขาหลุดลุ่ยจนไหล่กว้างและอกแข็งแรงของเขาเปิดกว้าง
เสี่ยวเหอจึงจงใจขยับเข้าไปใกล้ แอ่นอกอิ่มของนางถูไถไปมาตามหน้าอกของเขา ด้านล่างก็ขยับให้ความสุขแก่เขา
“เจ้าอยากจะมัดข้าไว้เพื่อทำโทษก็ไม่เป็นไร เจ้าอยากจะทำสิ่งใดก็ย่อมได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าอย่างไรข้าก็รักเจ้า หากเจ้าอยากจะมัดข้าเอาไว้กับตัวตลอดไป ข้าก็ยินยอม แต่ห้ามทิ้งข้า ห้ามหยุดรักข้า ห้ามมีใครอื่นเพราะข้าไม่ยินยอม” แม้ชิงชิงของนางจะไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผา แต่นางก็รักเขามาก
นางจูบเขาไปมาและเริ่มเลื่อนลงไปขบกัดที่กระดูกไหปลาร้าของเขา ก่อนจะดูดที่คออีกหลายครั้งจนเป็นรอยแดงหลายจุด
ชิงถิงถอดเสื้อของตัวเองทิ้ง รู้สึกยินดีในสิ่งที่นางทำให้ จึงปล่อยให้นางปรนเปรอเขาบ้าง เสี่ยวเหอเริ่มขยับช่วงล่างของตัวเองแรงขึ้น แรงขึ้น เพราะเขาชอบเช่นนั้น นางก็ชอบ
หญิงสาวร่อนเอวตัวเองอย่างเชี่ยวชาญสนองความต้องการของพวกเขา แม้มือจะถูกมัดไพล่หลัง เรี่ยวแรงเหลือน้อยเต็มทีก็ไม่เป็นอุปสรรค นางอยากขยันเอาใจเขาให้มาก เพื่อปลอบประโลมความเสียใจของคนรัก
เพียงแต่ เมื่อครู่เขากระแทกเจ้าสิ่งนั้นใส่นางแรงไป จนขาของเสี่ยวเหอสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม ต่อให้นางมีใจเพียงใด เมื่อขยับเอวไปได้สักครู่ เรี่ยวแรงก็เริ่มลดลง
“เรื่องคืนนี้อย่าให้ท่านพ่อเจ้ารู้เลย เดี๋ยวแม่จะค่อยๆ เกลี้ยกล่อมเขาให้ เจ้าอย่าร้อนใจไป อย่างไรแม่ก็ไม่บังคับเจ้าให้แต่งกับคนที่เจ้าไม่พึงใจ” แม่เลี้ยงบอกเสียงอ่อนโยน“ท่านแม่..” เสี่ยวเหอรู้ดีว่าในใจแม่เลี้ยงไม่ได้รักตัวเองขนาดนั้น แต่แม่เลี้ยงก็เป็นแม่ที่มีเมตตาที่สุดเท่าที่นางเคยเห็นแม่เลี้ยงของคนอื่นๆ นางร้องไห้วิ่งไปกอดท่านแม่ที่กำลังจะออกจากห้อง“ขอบคุณท่านมาก..ท่านแม่ ขอบคุณที่เลี้ยงดูข้ามาอย่างดี ..ชิงชิง..คือ..ต้าจื่อจะหาทางออกเรื่องนี้เจ้าค่ะ เขาบอกว่าจะไม่ยอมให้บ้านข้าต้องน้อยหน้าเสื่อมเสียศักดิ์ศรี ท่านไม่ต้องกังวล” เสี่ยวเหอพูดแม่เลี้ยงเองก็รู้ดีว่าต้าจื่อเป็นเด็กหนุ่มมีความสามารถ แม้บ้านจะยากจนไปสักหน่อย แต่จะต้องเป็นคนที่มีอนาคตไกล จึงปลอบใจเสี่ยวเหอ“ไม่ต้องคิดมาก ท่านพ่อของเจ้าเป็นคนมีเหตุผล ไม่ได้รังเกียจคนยากจน เด็กดีเช่นต้าจื่อทั้งยังเข้ากองทัพตั้งแต่อายุน้อย ท่านพ่อจะต้องเห็นอนาคตที่ดีของเขาและยอมให้เจ้าแต่งงานแน่”แล้วแม่เลี้ยงก็กลับไป คืนนั้นกว่าเสี่ยวเหอจะนอนหลับได้ก็เกือบเช้า ทั้งที่เหน็ดเหนื่อยกับการกระทำของชิงถิงมากแท้ๆ แต่นางก็มีเรื่องให้ต้องคิดมากเต็มไป
เขาต้องการหาเสื้อตัวที่ดีที่สุดให้เสี่ยวเหอใส่ จึงค้นดูเสื้อผ้าทั้งหมด และเขาก็พบจดหมายน้อยของนางในที่สุด เขาไล่สายตาผ่านตัวอักษรที่เขียนว่าคิดถึง ก่อนจะมองไปทางตัวคนเขียนที่ยังคงนอนสั่นระริก‘ข้ารักนางมาก รักมากเหลือเกิน เสี่ยวเหอของข้า’เขามองคนรักแล้วรู้สึกอบอุ่นใจ ก่อนจะวางจดหมายไว้ที่เดิม เตรียมเสื้อผ้าให้เสี่ยวเหอใส่ ตัวเขาลงไปจุดกองไฟข้างล่างห้าง เพราะกลัวว่ายิ่งดึกอากาศจะยิ่งหนาว หญิงสาวอาจจะไม่สบายได้เมื่อจุดกองไฟได้แล้ว ชิงถิงก็ไปช่วยเสี่ยวเหอใส่เสื้อผ้า อุ้มนางลงมานั่งผิงไฟด้วยกัน เพียงแต่..เขาไม่ยอมให้นางนั่งพื้น เขาเป็นคนอุ้มนางไว้บนตัก ราวกับนางเป็นเด็กน้อยเสี่ยวเหอไม่ทักท้วงเบียดซุกตัวเองกับอกกว้างของเขาอย่างสบายใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับเป็นห่วงเกินไปของเขา“เจ้าหลับได้เลย ข้าจะดูแลเจ้าเอง หากใกล้เช้า ข้าจะปลุก..หรือเจ้าจะให้ข้าอุ้มไปส่งที่บ้านก็ได้” ชิงชิงของเสี่ยวเหอพูดเบาๆ คล้ายอยากจะเอาใจนาง หลังจากที่กระทำรุนแรงกับนางจนพอใจ น้ำเสียงผ่อนคลายและรักใคร่เสี่ยวเหอเงยหน้าขึ้น มองหน้าเขา เห็นว่าชิงถิงอารมณ์ดีมาก จึงตัดสินใจว่าตอนนี้เขาคงจะยอมรับฟังสิ่งที่นางพูดแล้ว“ข้ามี
แรงขยับของเสี่ยวเหอนั้นไม่อาจทำให้ถึงใจของเขา ชิงชิงจึงใช้มือดึงขา สองข้างของนางมากอดไว้ที่เอวตัวเอง กอดเอวบางอุ้มนางขึ้นไปนั่งบนหีบไม้ที่ใส่เสื้อผ้า“โอ๊ย..” นางรู้ว่าเขาเริ่มอ่อนโยนขึ้น อารมณ์ก็ดีขึ้นแล้ว จึงได้แกล้งร้องแผ่วเบาชายบ้าคลั่งรีบกอดนางขึ้นมา นึกว่ามีเสี้ยนตามหีบไม้ที่ยังเอาออกไม่หมด เขาอุ้มนางค้างคาไว้เช่นนั้นไม่ยอมให้แท่งหยกลำใหญ่หลุดออกจากถ้ำดอกไม้ เดินไปหยิบกางเกงที่อยู่ใกล้ที่สุดมาปูบนหีบไม้ เพื่อให้นางนั่งสบายขึ้น และตัวเขาเองจะได้ขยับแรงๆ ได้เท่าที่ใจต้องการเสี่ยวเหอได้แต่อมยิ้มมองความน่ารักของเขา หรือที่แท้แล้ว ชิงถิงรู้จักการรักหยกถนอมบุปผาเป็นอย่างดี เพียงแต่เขาไม่ชอบเช่นนั้น เมื่อชิงถิงเริ่มขยับสะโพก นางจึงฉวยโอกาสรีบกัดริมฝีปากของเขาเอาไว้“อื้ออ” เขาส่งเสียงครางเสี่ยวเหอพึงพอใจ หากเขาไม่ชอบการรักหยกถนอมบุปผา เสี่ยวเหอก็จะทำตามที่เขาต้องการ นางจึงกัดไปอีกหลายครั้ง“โอ๊ย..ซี๊ด” เขาร้องเสียงสุขสม“ข้ารักเจ้า เจ้าช่วยพูดว่ารักข้าบ้างได้หรือไม่ พูดให้ดังๆ ข้าอยากจะฟัง” หญิงสาวออดอ้อนชิงถิงมองตานาง นัยน์ตาสั่นระริกดีใจ ต่อให้นางจะโกหกหรือไม่ เขาก็ยินดีตกนรกขุมน
ชายหนุ่มซุกหน้าลงไปที่หลังคอ พรมจูบไปทั่วบริเวณนั้น เลื่อนไปกัดที่ปลายหู เสี่ยวเหอรู้สึกยากจะควบคุมเขาได้แล้ว จึงเริ่มด่าเขา“เจ้าคนบ้าคลั่ง” นางด่าเสียงดัง ไม่กลัวใครได้ยิน“หยุดนะชิงชิง ข้า..ข้ากลัว โอ๊ย..ข้าเจ็บ สารเลว เจ้าหยุดสิ..อื้อออ”“เจ้าเป็นของข้า ของข้าผู้เดียว ข้าไม่ยอมให้เจ้าไป ทำ กับใครทั้งสิ้น” เขาพร่ำพูดแต่คำซ้ำๆเสื้อที่มัดอยู่รอบตัวเสี่ยวเหอ ทำให้นางขยับแขนไม่ได้ อยากจะทุบตีเขาก็ทำไม่ได้ รู้ตัวอีกทีเขาก็จับสะโพกของนางเชิดขึ้นเล็กน้อย และเริ่มสอดใส่เอ็นมังกรเข้าไปในตัวนางทันที“อึก..โอ๊ย..อื้อ” เสี่ยวเหอร้อง เพราะความคับแน่น แม้ว่าจะเจ็บน้อยกว่าครั้งแรกแล้วก็ตามเมื่อชิงถิงผู้บ้าคลั่งได้เริ่มสอดใส่ก็ขยับสะโพกรัว กระแทกกระทั้นรุนแรง จากที่เสี่ยวเหอด่าเขาอยู่ก็เริ่มส่งเสียงไม่เป็นคำ ได้แต่พูดอื้อๆ อาๆชิงถิงหยุดพักหายใจสักครู่ เสี่ยวเหอยังไม่ทันหายใจทั่วท้องก็ถูกอุ้มขึ้นเหมือนเด็กเล็ก เขาตัวทั้งใหญ่ทั้งสูง อุ้มนางในท่าแปลกประหลาด ทั้งสองคนหันหน้าไปทางเดียวกันเขาจับสองขาของนางยกและแยกออก เขาไม่ยอมให้มังกรตัวเขื่องหลุดออกจากกลีบดอกไม้ของนาง กระแทกกระทุ้งทั้งที่อุ้มนางอยู
เขารักนางอย่างบ้าคลั่ง ตรรกะเหตุผลคล้ายไม่มีความหมาย ต้องยั่วยุให้เขาได้ปลดปล่อยอารมณ์ก่อน เมื่อเขาปลดปล่อยจนใจเย็นลง นางจะค่อยๆ พูดค่อยๆ กล่อมเขา แล้วค่อยเล่าความจริงให้เขาฟังจะดีกว่าเมื่อตัดสินใจเช่นนั้น เสี่ยวเหอจึงพยายามผลักเขา แสดงให้เขารับรู้ว่านางไม่ยินยอม แต่เขาก็ไม่ยินยอม ต่างฝ่ายผลักไปผลักมาจนเล็บของเสี่ยวเหอเผลอไปขูดใส่ต้นคอของชิงถิง มีเลือดซึมออกมาเสี่ยวเหอได้กลิ่นเลือดจางๆ นางก็ตกใจอย่างมาก รีบดึงมือกลับและมองนิ้วตัวเองซึ่งมีคราบเลือดของเขาติดมาด้วย หญิงสาวหน้าซีด“ข้า..ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ” นางออดอ้อนแต่เขาไม่สนใจ ชิงถิงจับมือของนางมาเลียตรงรอยเลือด เสร็จแล้วก็ก้มลงไปจุมพิตนางใหม่อีกครั้ง กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ในปาก เสี่ยวเหอได้แต่พยายามผลักเขาออก“ต้องรีบดูแผล ข้าไม่ได้ตั้งใจ” นางกลัวว่าเขาจะเจ็บแต่เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บที่แผล ในใจของเขาเจ็บปวดมากกว่ารอยข่วนร้อยเท่าพันเท่า ชิงถิงจับมือนางทั้งสองข้างชูขึ้นไปบนหัวและเริ่มกอดจูบนางอีกครั้ง มือหนึ่งรวบมือทั้งสองข้างของนางเอาไว้ราวกับกรงขัง อีกมือคลึงบีบอกอิ่มของนางอย่างต้องการครอบครองชิงถิงจูบปากเสร็จก็เลื่อนลงมาจู
เสี่ยวเหอเองก็โมโหมาก ทันทีที่เขาปล่อยนางลง นางจึงวิ่งหนี แต่เขาก็รีบจับนางกลับมา ผลักนางติดกับต้นไม้กลางห้างและใช้สองแขนขังนางเอาไว้ เขากักนางเอาไว้เพียงหลวมๆ กลัวว่าเสี่ยวเหอจะเจ็บ แต่เสี่ยวเหอกลับตะโกนโวยวาย“ปล่อยข้า ข้าจะไปแต่งงานกับต้าหลี่ หรือไม่ก็จะเดินทางไปคืนนี้เลย ไปบอกตระกูลหยวนว่าจะแต่งงานด้วย” เสี่ยวเหอไม่ชอบใจเลย เวลาที่ชิงถิงไม่ฟังคำพูดของนางคำว่านางจะแต่งงานให้กับผู้อื่นคล้ายกับน้ำมันที่ราดบนกองไฟแห่งความหึงหวงของเขา ไหน้ำส้มแตกเต็มหัวใจล้นออกมาจนควบคุมไม่ได้ ไฟรักไฟแค้นก็ยิ่งโชติช่วง เขาจูบปิดปากเสี่ยวเหอเพื่อให้นางหยุดพูดเรื่องพวกนี้เสียทีเสี่ยวเหอรู้สึกโมโห ไม่ยินยอม เหตุใดเวลาเขาด่าทอว่านาง นางทำได้เพียงรับฟังและเสียใจ แต่เวลานางด่าทอว่าเขาบ้าง เขากลับทั้งจูบปิดปาก ทั้งยังมาโมโหใส่นางอยากจะพูดความจริงออกไปทั้งหมดแต่เขากลับไม่ยอมฟัง นางผลักเขาเต็มแรง พยายามหนีออกจากอ้อมกอดแกร่ง ชิงถิงที่เลือดขึ้นหน้าจะยอมได้อย่างไรเขากอดนางไว้ ซุกเข้าที่คอของนาง ขบเม้มอย่างจงใจ เบียดนางจนหลังของนางที่ติดกับต้นไม้เริ่มเจ็บ เขาใช้มือหนึ่งดึงเชือกผูกกางเกงของนาง ดึงถอดกางเกงของนาง