เขารักนางอย่างบ้าคลั่ง ตรรกะเหตุผลคล้ายไม่มีความหมาย ต้องยั่วยุให้เขาได้ปลดปล่อยอารมณ์ก่อน เมื่อเขาปลดปล่อยจนใจเย็นลง นางจะค่อยๆ พูดค่อยๆ กล่อมเขา แล้วค่อยเล่าความจริงให้เขาฟังจะดีกว่า
เมื่อตัดสินใจเช่นนั้น เสี่ยวเหอจึงพยายามผลักเขา แสดงให้เขารับรู้ว่านางไม่ยินยอม แต่เขาก็ไม่ยินยอม ต่างฝ่ายผลักไปผลักมาจนเล็บของเสี่ยวเหอเผลอไปขูดใส่ต้นคอของชิงถิง มีเลือดซึมออกมา
เสี่ยวเหอได้กลิ่นเลือดจางๆ นางก็ตกใจอย่างมาก รีบดึงมือกลับและมองนิ้วตัวเองซึ่งมีคราบเลือดของเขาติดมาด้วย หญิงสาวหน้าซีด
“ข้า..ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ” นางออดอ้อน
แต่เขาไม่สนใจ ชิงถิงจับมือของนางมาเลียตรงรอยเลือด เสร็จแล้วก็ก้มลงไปจุมพิตนางใหม่อีกครั้ง กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ในปาก เสี่ยวเหอได้แต่พยายามผลักเขาออก
“ต้องรีบดูแผล ข้าไม่ได้ตั้งใจ” นางกลัวว่าเขาจะเจ็บ
แต่เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บที่แผล ในใจของเขาเจ็บปวดมากกว่ารอยข่วนร้อยเท่าพันเท่า ชิงถิงจับมือนางทั้งสองข้างชูขึ้นไปบนหัวและเริ่มกอดจูบนางอีกครั้ง มือหนึ่งรวบมือทั้งสองข้างของนางเอาไว้ราวกับกรงขัง อีกมือคลึงบีบอกอิ่มของนางอย่างต้องการครอบครอง
ชิงถิงจูบปากเสร็จก็เลื่อนลงมาจูบที่คอ ขบเม้มไปที่หู ใช้ลิ้นดูดดุนชิมเลียไปตามคอของเสี่ยวเหอ และกัดจนเกิดรอยแดงซ้ำๆ เขาไม่สนใจว่าจะทำให้นางเจ็บปวดหรือไม่ ไม่ต้องดูก็รู้ ตรงที่เขาดูดกัดจะต้องเกิดรอยแดงจ้ำใหญ่แน่ๆ
เสี่ยวเหอรู้สึกเจ็บทุกที่ที่เขาขบกัดดูดดื่ม ความรู้สึกผิดที่ทำให้เขามีบาดแผลก็หายไปสิ้น นางพยายามดึงมือออกจากการเกาะกุม ก่นด่าเขาออกไปสองสามคำ
“เจ้าคนบ้าคลั่งสารเลว เจ้าทำข้าเจ็บนะ”
“ใช่..ข้าเป็นคนสารเลว และข้าไม่ยินยอมให้เจ้าไปแต่งงานกับผู้อื่น หากเจ้ากล้าไป ข้าจะจับเจ้าขังเอาไว้ หากเจ้ากล้าทิ้งข้า..ข้า..ข้าจะทำให้เจ้าไม่กล้าออกไปพบหน้าผู้คน” เขาเงยหน้าขึ้นมาพูด กลิ่นน้ำส้มยังคงไม่จางหาย
“คนที่บอกว่าจะไปแต่งกับหญิงอื่นคือเจ้าไม่ใช่หรือ คนที่มาสู่ขอข้า ข้าไม่ได้บอกให้เขามา”
เสี่ยวเหอพูดไปเช่นนั้น ชิงถิงก็ทำหน้าโมโหขึ้นมาอีก แสงไฟจากคบเพลิงทำให้นางเห็นนัยน์ตาของเขาชัดเจน เป็นความโกรธชนิดที่นางยังจำได้ดี เหมือนเมื่อตอนเข้าหอครั้งแรก
“หญิงแพศยา วันนั้น เจ้าไปเดินดูงานเทศกาลซีซีกับเจ้านั่น เจ้ากล้าเอากำไลของข้าไปถอดไว้ที่ใด เจ้าเดินไปกับมัน หัวเราะยิ้มร่า เอามือทัดผมข้างหูเพื่ออะไรกัน พูดคุยเสียงเล็กเสียงใหญ่ ยังจะกล้าพูดว่าไม่ได้บอกให้เขามาสู่ขอ
ขากลับพวกเจ้าก็นั่งด้วยกันในรถม้า ไม่รู้ทำอะไรกันข้างในบ้าง ทีกับข้าเจ้าก็ใช้มารยาใส่ข้าจนข้าหน้ามืดตามัว หลงรักเจ้าจะเป็นจะตาย เจ้าให้ข้า ทำ ไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่กลับไม่ยอมให้ข้า ทำ อีก อ้างว่าไม่สมควร เจ้าจะให้ข้ารู้สึกอย่างไร” เขาด่าทอนางอย่างเผ็ดร้อน ไม่คิดรักษาน้ำใจ
ชิงถิงดูโมโหมาก จนเสี่ยวเหอไม่เข้าใจคำว่า ทำ ของเขาเสียเลย แต่ยิ่งนางทำหน้าตาสับสนสงสัย ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด ก็ยิ่งทำให้เขาโมโห
ชิงถิงจูบบดขยี้ ขบกัดไปทั่วริมฝีปากของนาง
“อิงอิง อ้าไม่เอ้าใอ เบาอ่อน..อื้อ..เดี๋ยว..ข้า..”
เสี่ยวเหอพยายามถามว่าหมายถึงสิ่งใด แต่เขาไม่ตอบ ใช้ความตั้งใจทั้งหมดไปกับการจุมพิต นางพยายามถามทั้งๆ ที่เขายังจูบที่ริมฝีปากของนางไปมา แม้เสียงบางช่วงจะอู้อี้บ้างแต่ก็ยังพอฟังรู้เรื่องอยู่ว่านางถามเกี่ยวกับอะไร
โชคร้าย ยามนี้เขาโกรธนางอยู่ ชายหนุ่มน้อยใจมากอยู่ จึงไม่อยากตอบ จูบเลื่อนลงไปที่คอระหงเรื่อยๆ
“ข้า..อื้อ..ข้าไม่ได้ทำเช่นนั้นกับคุณชายตระกูลหยวน..เจ้า..เจ้าใจเย็นก่อน ได้หรือไม่” เสี่ยวเหอกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดจึงพยายามอธิบาย
แต่การพูดถึงผู้ชายคนอื่นในเวลาเช่นนี้ สำหรับชิงถิงก็ไม่ต่างจากการเทน้ำมันบนกองไฟ เขาโมโหมาก
“แล้วเจ้าไปกับมันทำไม ข้าชวนเจ้า เจ้ากลับบอกว่ามันไม่งาม แต่ไปเที่ยวกับเจ้านั่นได้ เช่นนี้หรือที่บอกว่าตัวเองไม่ได้ทำ”
พูดมาถึงตรงนี้ ชิงถิงคล้ายจะนึกถึงความเป็นไปได้บางสิ่ง ทั้งรู้สึกหวาดกลัวและโมโหท่วมท้น เขาถามเสียงดุอย่างไม่พอใจที่สุด
“คืนนั้น เจ้าได้ ทำ กับมันหรือไม่!!”
เสี่ยวเหอไม่เข้าใจคำที่เขาเน้นถาม เขาหมายถึงสิ่งใดกัน ฟังดูจากการที่เขาพยายามเน้นคำนั้น คงจะเป็นเรื่องที่หญิงกับชายทำกันสองคน ตอนอยู่สองต่อสอง แต่นางก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องใด
ถ้าหากเป็นจุมพิต คล้ายว่านางจะจูบกับเขาตอนที่ยังไม่แต่งงานเพียงสองครั้งไม่ใช่หรือ แล้วชิงถิงหมายถึงสิ่งใดที่นางให้เขา ทำ มาแล้วหนึ่งครั้ง หญิงสาวได้แต่พยายามทบทวนว่าตัวเองทำสิ่งใดไปบ้าง
ชิงถิงเห็นว่าเสี่ยวเหอเอาแต่นิ่งเงียบ จึงคิดว่านางคงให้คุณชายตระกูลหยวน ทำ ไปแล้วจริงๆ ครานี้ความโมโหจนแทบระเบิดกลายเป็นเยียบเย็น เขาหน้าแดงตัวสั่นเทา
ชิงถิงก้มลงไปกัดไหล่เสี่ยวเหออย่างแรงเพื่อทำโทษ
“โอ๊ย..ชิงชิง เจ็บ” หญิงสาวรู้สึกว่าเนื้อตรงไหล่ที่ถูกเขากัดคล้ายถูกฉีกเป็นชิ้น
เขาซุกหน้าไปดูดที่คอนางแรงๆ อีกสามสี่ครั้งเพื่อระบายความโกรธ เสี่ยวเหอเจ็บจนแทบจะร้องไห้ แต่ตอนนี้ นางคิดว่าไม่ว่าพูดอะไร จะบอกว่าไม่ใช่นาง หรือพูดว่ายังไม่ได้ ทำ เขาก็ไม่สนใจอีกแล้ว
“เจ้าเป็นของข้า ข้าไม่ยอมให้เจ้าไปเป็นของใคร ต่อให้ตายเจ้าก็ยังเป็นของข้า ภพนี้หรือภพหน้าเจ้าก็ต้องเป็นของข้าผู้เดียว” ชิงถิงคำรามออกมา
“...” แม้จะถูกเขาขบกัดทำให้นางเจ็บหลายครั้ง แต่เมื่อได้ฟังคำพูดของเขา ในใจเสี่ยวเหอรู้สึกว่าความหวานกำลังวิ่งไปทั่ว เขารักนางมากเพียงนี้เชียวหรือ
แต่เขากลับโกรธอย่างรุนแรง จูบนางอย่างรุนแรงไปทั่วเนื้อตัวผ่านเสื้อผ้า ต่อให้เสี่ยวเหอพยายามจะบอกให้ใจเย็นๆ ขอร้องให้เขาฟังที่นางพูดก่อน หรือไม่ว่านางขอร้องให้หยุดอย่างไร ก็คล้ายไม่เข้าไปในสำนึกรับรู้ของเขาแล้ว
ชิงถิงจับแท่งหยกที่เพิ่งพ่นน้ำรักออกมาสอดใส่และกระแทกใส่นางรุนแรงอย่างจงใจ เขาต้องการทำให้นางเจ็บและจดจำเขาเพียงผู้เดียว
เสี่ยวเหอตกใจเพราะเจ็บ นางพยายามผลักเขาออก จนชิงถิงเริ่มรำคาญสองมือเล็กของนาง จับนางหันหน้าเข้าหาต้นไม้และดึงเสื้อของเสี่ยวเหอลงมาจนเห็นไหล่ขาวทั้งสองข้าง เขารวบนางมากอดแนบอก ก้มลงไปดูดๆ กัดๆ แถวหัวไหล่ของนาง
“เดี๋ยว..ช้าก่อน หยุดนะ..ชิงชิง” เสียงร้องของนางไร้ความหมาย
เขากลับดึงเสื้อตัวนอกของนางออก และใช้เสื้อตัวนั้นมัดมือของเสี่ยวเหอทั้งสองข้างไว้ด้านหลัง สองมือของเขาขยำหน้าอกอิ่ม ปากก็จูบเลียไปทั่วแผ่นหลังของนาง ก่อนจะดึงนางมาแนบอกแกร่งของเขา
“เรื่องคืนนี้อย่าให้ท่านพ่อเจ้ารู้เลย เดี๋ยวแม่จะค่อยๆ เกลี้ยกล่อมเขาให้ เจ้าอย่าร้อนใจไป อย่างไรแม่ก็ไม่บังคับเจ้าให้แต่งกับคนที่เจ้าไม่พึงใจ” แม่เลี้ยงบอกเสียงอ่อนโยน“ท่านแม่..” เสี่ยวเหอรู้ดีว่าในใจแม่เลี้ยงไม่ได้รักตัวเองขนาดนั้น แต่แม่เลี้ยงก็เป็นแม่ที่มีเมตตาที่สุดเท่าที่นางเคยเห็นแม่เลี้ยงของคนอื่นๆ นางร้องไห้วิ่งไปกอดท่านแม่ที่กำลังจะออกจากห้อง“ขอบคุณท่านมาก..ท่านแม่ ขอบคุณที่เลี้ยงดูข้ามาอย่างดี ..ชิงชิง..คือ..ต้าจื่อจะหาทางออกเรื่องนี้เจ้าค่ะ เขาบอกว่าจะไม่ยอมให้บ้านข้าต้องน้อยหน้าเสื่อมเสียศักดิ์ศรี ท่านไม่ต้องกังวล” เสี่ยวเหอพูดแม่เลี้ยงเองก็รู้ดีว่าต้าจื่อเป็นเด็กหนุ่มมีความสามารถ แม้บ้านจะยากจนไปสักหน่อย แต่จะต้องเป็นคนที่มีอนาคตไกล จึงปลอบใจเสี่ยวเหอ“ไม่ต้องคิดมาก ท่านพ่อของเจ้าเป็นคนมีเหตุผล ไม่ได้รังเกียจคนยากจน เด็กดีเช่นต้าจื่อทั้งยังเข้ากองทัพตั้งแต่อายุน้อย ท่านพ่อจะต้องเห็นอนาคตที่ดีของเขาและยอมให้เจ้าแต่งงานแน่”แล้วแม่เลี้ยงก็กลับไป คืนนั้นกว่าเสี่ยวเหอจะนอนหลับได้ก็เกือบเช้า ทั้งที่เหน็ดเหนื่อยกับการกระทำของชิงถิงมากแท้ๆ แต่นางก็มีเรื่องให้ต้องคิดมากเต็มไป
เขาต้องการหาเสื้อตัวที่ดีที่สุดให้เสี่ยวเหอใส่ จึงค้นดูเสื้อผ้าทั้งหมด และเขาก็พบจดหมายน้อยของนางในที่สุด เขาไล่สายตาผ่านตัวอักษรที่เขียนว่าคิดถึง ก่อนจะมองไปทางตัวคนเขียนที่ยังคงนอนสั่นระริก‘ข้ารักนางมาก รักมากเหลือเกิน เสี่ยวเหอของข้า’เขามองคนรักแล้วรู้สึกอบอุ่นใจ ก่อนจะวางจดหมายไว้ที่เดิม เตรียมเสื้อผ้าให้เสี่ยวเหอใส่ ตัวเขาลงไปจุดกองไฟข้างล่างห้าง เพราะกลัวว่ายิ่งดึกอากาศจะยิ่งหนาว หญิงสาวอาจจะไม่สบายได้เมื่อจุดกองไฟได้แล้ว ชิงถิงก็ไปช่วยเสี่ยวเหอใส่เสื้อผ้า อุ้มนางลงมานั่งผิงไฟด้วยกัน เพียงแต่..เขาไม่ยอมให้นางนั่งพื้น เขาเป็นคนอุ้มนางไว้บนตัก ราวกับนางเป็นเด็กน้อยเสี่ยวเหอไม่ทักท้วงเบียดซุกตัวเองกับอกกว้างของเขาอย่างสบายใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับเป็นห่วงเกินไปของเขา“เจ้าหลับได้เลย ข้าจะดูแลเจ้าเอง หากใกล้เช้า ข้าจะปลุก..หรือเจ้าจะให้ข้าอุ้มไปส่งที่บ้านก็ได้” ชิงชิงของเสี่ยวเหอพูดเบาๆ คล้ายอยากจะเอาใจนาง หลังจากที่กระทำรุนแรงกับนางจนพอใจ น้ำเสียงผ่อนคลายและรักใคร่เสี่ยวเหอเงยหน้าขึ้น มองหน้าเขา เห็นว่าชิงถิงอารมณ์ดีมาก จึงตัดสินใจว่าตอนนี้เขาคงจะยอมรับฟังสิ่งที่นางพูดแล้ว“ข้ามี
แรงขยับของเสี่ยวเหอนั้นไม่อาจทำให้ถึงใจของเขา ชิงชิงจึงใช้มือดึงขา สองข้างของนางมากอดไว้ที่เอวตัวเอง กอดเอวบางอุ้มนางขึ้นไปนั่งบนหีบไม้ที่ใส่เสื้อผ้า“โอ๊ย..” นางรู้ว่าเขาเริ่มอ่อนโยนขึ้น อารมณ์ก็ดีขึ้นแล้ว จึงได้แกล้งร้องแผ่วเบาชายบ้าคลั่งรีบกอดนางขึ้นมา นึกว่ามีเสี้ยนตามหีบไม้ที่ยังเอาออกไม่หมด เขาอุ้มนางค้างคาไว้เช่นนั้นไม่ยอมให้แท่งหยกลำใหญ่หลุดออกจากถ้ำดอกไม้ เดินไปหยิบกางเกงที่อยู่ใกล้ที่สุดมาปูบนหีบไม้ เพื่อให้นางนั่งสบายขึ้น และตัวเขาเองจะได้ขยับแรงๆ ได้เท่าที่ใจต้องการเสี่ยวเหอได้แต่อมยิ้มมองความน่ารักของเขา หรือที่แท้แล้ว ชิงถิงรู้จักการรักหยกถนอมบุปผาเป็นอย่างดี เพียงแต่เขาไม่ชอบเช่นนั้น เมื่อชิงถิงเริ่มขยับสะโพก นางจึงฉวยโอกาสรีบกัดริมฝีปากของเขาเอาไว้“อื้ออ” เขาส่งเสียงครางเสี่ยวเหอพึงพอใจ หากเขาไม่ชอบการรักหยกถนอมบุปผา เสี่ยวเหอก็จะทำตามที่เขาต้องการ นางจึงกัดไปอีกหลายครั้ง“โอ๊ย..ซี๊ด” เขาร้องเสียงสุขสม“ข้ารักเจ้า เจ้าช่วยพูดว่ารักข้าบ้างได้หรือไม่ พูดให้ดังๆ ข้าอยากจะฟัง” หญิงสาวออดอ้อนชิงถิงมองตานาง นัยน์ตาสั่นระริกดีใจ ต่อให้นางจะโกหกหรือไม่ เขาก็ยินดีตกนรกขุมน
ชายหนุ่มซุกหน้าลงไปที่หลังคอ พรมจูบไปทั่วบริเวณนั้น เลื่อนไปกัดที่ปลายหู เสี่ยวเหอรู้สึกยากจะควบคุมเขาได้แล้ว จึงเริ่มด่าเขา“เจ้าคนบ้าคลั่ง” นางด่าเสียงดัง ไม่กลัวใครได้ยิน“หยุดนะชิงชิง ข้า..ข้ากลัว โอ๊ย..ข้าเจ็บ สารเลว เจ้าหยุดสิ..อื้อออ”“เจ้าเป็นของข้า ของข้าผู้เดียว ข้าไม่ยอมให้เจ้าไป ทำ กับใครทั้งสิ้น” เขาพร่ำพูดแต่คำซ้ำๆเสื้อที่มัดอยู่รอบตัวเสี่ยวเหอ ทำให้นางขยับแขนไม่ได้ อยากจะทุบตีเขาก็ทำไม่ได้ รู้ตัวอีกทีเขาก็จับสะโพกของนางเชิดขึ้นเล็กน้อย และเริ่มสอดใส่เอ็นมังกรเข้าไปในตัวนางทันที“อึก..โอ๊ย..อื้อ” เสี่ยวเหอร้อง เพราะความคับแน่น แม้ว่าจะเจ็บน้อยกว่าครั้งแรกแล้วก็ตามเมื่อชิงถิงผู้บ้าคลั่งได้เริ่มสอดใส่ก็ขยับสะโพกรัว กระแทกกระทั้นรุนแรง จากที่เสี่ยวเหอด่าเขาอยู่ก็เริ่มส่งเสียงไม่เป็นคำ ได้แต่พูดอื้อๆ อาๆชิงถิงหยุดพักหายใจสักครู่ เสี่ยวเหอยังไม่ทันหายใจทั่วท้องก็ถูกอุ้มขึ้นเหมือนเด็กเล็ก เขาตัวทั้งใหญ่ทั้งสูง อุ้มนางในท่าแปลกประหลาด ทั้งสองคนหันหน้าไปทางเดียวกันเขาจับสองขาของนางยกและแยกออก เขาไม่ยอมให้มังกรตัวเขื่องหลุดออกจากกลีบดอกไม้ของนาง กระแทกกระทุ้งทั้งที่อุ้มนางอยู
เขารักนางอย่างบ้าคลั่ง ตรรกะเหตุผลคล้ายไม่มีความหมาย ต้องยั่วยุให้เขาได้ปลดปล่อยอารมณ์ก่อน เมื่อเขาปลดปล่อยจนใจเย็นลง นางจะค่อยๆ พูดค่อยๆ กล่อมเขา แล้วค่อยเล่าความจริงให้เขาฟังจะดีกว่าเมื่อตัดสินใจเช่นนั้น เสี่ยวเหอจึงพยายามผลักเขา แสดงให้เขารับรู้ว่านางไม่ยินยอม แต่เขาก็ไม่ยินยอม ต่างฝ่ายผลักไปผลักมาจนเล็บของเสี่ยวเหอเผลอไปขูดใส่ต้นคอของชิงถิง มีเลือดซึมออกมาเสี่ยวเหอได้กลิ่นเลือดจางๆ นางก็ตกใจอย่างมาก รีบดึงมือกลับและมองนิ้วตัวเองซึ่งมีคราบเลือดของเขาติดมาด้วย หญิงสาวหน้าซีด“ข้า..ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ” นางออดอ้อนแต่เขาไม่สนใจ ชิงถิงจับมือของนางมาเลียตรงรอยเลือด เสร็จแล้วก็ก้มลงไปจุมพิตนางใหม่อีกครั้ง กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ในปาก เสี่ยวเหอได้แต่พยายามผลักเขาออก“ต้องรีบดูแผล ข้าไม่ได้ตั้งใจ” นางกลัวว่าเขาจะเจ็บแต่เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บที่แผล ในใจของเขาเจ็บปวดมากกว่ารอยข่วนร้อยเท่าพันเท่า ชิงถิงจับมือนางทั้งสองข้างชูขึ้นไปบนหัวและเริ่มกอดจูบนางอีกครั้ง มือหนึ่งรวบมือทั้งสองข้างของนางเอาไว้ราวกับกรงขัง อีกมือคลึงบีบอกอิ่มของนางอย่างต้องการครอบครองชิงถิงจูบปากเสร็จก็เลื่อนลงมาจู
เสี่ยวเหอเองก็โมโหมาก ทันทีที่เขาปล่อยนางลง นางจึงวิ่งหนี แต่เขาก็รีบจับนางกลับมา ผลักนางติดกับต้นไม้กลางห้างและใช้สองแขนขังนางเอาไว้ เขากักนางเอาไว้เพียงหลวมๆ กลัวว่าเสี่ยวเหอจะเจ็บ แต่เสี่ยวเหอกลับตะโกนโวยวาย“ปล่อยข้า ข้าจะไปแต่งงานกับต้าหลี่ หรือไม่ก็จะเดินทางไปคืนนี้เลย ไปบอกตระกูลหยวนว่าจะแต่งงานด้วย” เสี่ยวเหอไม่ชอบใจเลย เวลาที่ชิงถิงไม่ฟังคำพูดของนางคำว่านางจะแต่งงานให้กับผู้อื่นคล้ายกับน้ำมันที่ราดบนกองไฟแห่งความหึงหวงของเขา ไหน้ำส้มแตกเต็มหัวใจล้นออกมาจนควบคุมไม่ได้ ไฟรักไฟแค้นก็ยิ่งโชติช่วง เขาจูบปิดปากเสี่ยวเหอเพื่อให้นางหยุดพูดเรื่องพวกนี้เสียทีเสี่ยวเหอรู้สึกโมโห ไม่ยินยอม เหตุใดเวลาเขาด่าทอว่านาง นางทำได้เพียงรับฟังและเสียใจ แต่เวลานางด่าทอว่าเขาบ้าง เขากลับทั้งจูบปิดปาก ทั้งยังมาโมโหใส่นางอยากจะพูดความจริงออกไปทั้งหมดแต่เขากลับไม่ยอมฟัง นางผลักเขาเต็มแรง พยายามหนีออกจากอ้อมกอดแกร่ง ชิงถิงที่เลือดขึ้นหน้าจะยอมได้อย่างไรเขากอดนางไว้ ซุกเข้าที่คอของนาง ขบเม้มอย่างจงใจ เบียดนางจนหลังของนางที่ติดกับต้นไม้เริ่มเจ็บ เขาใช้มือหนึ่งดึงเชือกผูกกางเกงของนาง ดึงถอดกางเกงของนาง